วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 964 บุรุษผู้น่ากลัว


ตอนที่  964  บุรุษผู้น่ากลัว
จ้าวสุริยายังไม่มา  แต่พระยาราชสีห์และราชาจินกวน(มงกุฎทอง) ในสี่ราชาและแปดขุนพลมาถึงแล้ว
 
เว้นแต่ราชาเฉินม่อ(ใบ้)และเสี่ยวโฉ่ว บริวารของจ้าวสุริยามาแทบจะครบแล้ว นี่เห็นได้ว่าตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ให้ความสำคัญกับการครอบครองเป็นเจ้าของคัมภีร์เทพ
หมิงลี่ฮ่าวให้ข้อมูลเย่ว์หยาง
บรรดาราชาบริวารทั้งสี่นั้น ราชาเฉินม่อเป็นตัวแทนความเคร่งครัด
กล่าวกันว่าราชาเฉินม่อในระหว่างสี่ราชาบริวารมีศรัทธาแก่กล้าเป็นทักษะแฝงเร้น และมีสนามพลังอธิษฐาน พลังของเขาไม่ด้อยกว่าเจ้าตำหนักศักดิ์สิทธิ์ชั้นนอก  หมิงลี่ฮ่าวบอกเป็นนัยว่าถ้าเย่ว์หยางต้องสู้กับราชาเฉินม่อที่แข็งแกร่งที่สุด เขาไม่สามารถเอาชนะได้ง่ายๆ  ราชาเฉินม่อที่ยังไม่ปรากฏตัว แตกต่างจากพระยาราชสีห์ ราชาจินกวนและราชาสองหน้า   ขณะที่จ้าวสุริยาเติบโต ราชาเฉินม่อก็เติบโตมาพร้อมกับเขาในฐานะผู้รับใช้  เขาเป็นเสาหลักที่ทรงพลังที่สุดของจ้าวสุริยา
ตามช่วงเวลาของการเข้าร่วมเป็นบริวารของจ้าวสุริยานั้น  พระยาราชสีห์ ราชาจินกวนว่ากันในเรื่องศักดิ์ศรีเกียรติยศ มีคุณสมบัติดีกว่าราชาสองหน้าซึ่งเข้าร่วมอย่างเป็นทางการเมื่อแปดพันปีที่แล้ว
ในเรื่องพลังเกรงว่าทั้งสองราชายังเหนือกว่าราชาสองหน้าเล็กน้อย
 “สิงโตน้อย, มงกุฎทอง (จินกวน) และคนถือเคียว พวกเจ้าจะขู่ขวัญเราหรือ?”  จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
 “วิทยายุทธของจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วแข็งแกร่งไร้เทียมทาน  แม้ว่าเราจะมีจำนวนคนมากกว่า แต่เราไม่กล้าเอาชนะท่าน”  ราชาสองหน้าฝืนยิ้ม  “ข้ามีข้อเสนอที่ดี ไม่ทราบว่าจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วจะรับพิจารณาไหม? จักรพรรดิเสิ่นกวงไม่เพียงแต่ขัดแย้งกับท่านเท่านั้น  ทั้งสองฝ่ายต่างมีความคิดกำจัดฝ่ายตรงข้ามเมื่อมีโอกาสดี วันนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุด  ถ้าจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วยินดียอมรับ  ข้าจะช่วยท่านฆ่าจักรพรรดิเสิ่นกวน  ตราบเท่าที่จ้าวสุริยาได้คัมภีร์เทพ ร่างเทพต่อให้ยกให้ท่านจักรพรรดิเฟิ่นนิ่ว  ท่านก็ไม่มีอะไรจะทำได้  เงื่อนไขอย่างนี้ท่านเห็นว่าเป็นยังไงบ้าง?”
 “บังอาจ!” จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วตวาดลั่น  “ข้ากับจักรพรรดิเสิ่นกวงและจักรพรรดิอีกคนหนึ่งเป็นศัตรูที่ร่วมโลกกันไม่ได้  แต่ไม่จำเป็นต้องยืมมือคนอื่น  เรามีความหยิ่งในตัวเอง สามารถจัดการเรื่องของเราเองได้ แผนอย่างนี้ไร้สาระเกินไป”
 “จักรพรรดิเฟิ่นนิ่ว, อย่างนั้นท่านจะปฏิเสธใช่ไหม?”  ราชาสองหน้าย้อนถามโดยไม่ลังเล
 “คงมีแต่คนโง่ที่ยอมรับเงื่อนไขที่น่าขันของพวกเจ้า  ต่อให้ข้าร่วมมือกับพวกเจ้าฆ่าจักรพรรดิเสิ่นกวง พวกเจ้าก็เหมือนกับนั่งบนภูดูเสือกัดกัน  พวกเจ้าไม่ต่างอะไรกับชาวประมงที่เอาเปรียบ ข้าเห็นลูกไม้ที่น่าขันของพวกเจ้าตั้งแต่ต้นแล้ว  พวกเจ้าคิดจะหลอกข้าใช่ไหม?  ฝันไปเถอะ”  จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วขณะตวาด เขาระเบิดพลังจากร่าง ร่างของเขาเปล่งรัศมีสีแดงมองดูเหมือนคลื่นสีแดงที่น่ากลัว
 “อย่างนั้น, จักรพรรดิเสิ่นกวง ท่านเล่าคิดยังไง?  ถ้าท่านยอมรับเงื่อนไข  เราจะผนึกกำลังกันฆ่าจักรพรรดิเฟิ่นนิ่ว ในเงื่อนไขเดียวกัน เทพโบราณผู้ยิ่งใหญ่เหนือข้าจะไม่ว่าอะไร มิฉะนั้นคงจะต้องคำสาปเทพไปแล้ว!  ราชาสองหน้าหันไปถามจักรพรรดิเสิ่นกวงอย่างไร้ยางอาย
 “เจ้าคิดว่าข้าเหมือนคนโง่หรือ?” จักรพรรดิเสิ่นกวงเปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์และย้อนถาม
 “ไม่เหมือนจริงๆ!  ราชาสองหน้าถอนหายใจเบาๆ
 “ไม่คล้ายแน่นอน  แต่ข้าก็เป็นอย่างนั้น!  จักรพรรดิเสิ่นกวงยังพูดไม่จบประโยค บอลแสงที่มีพลังเทียบเท่าดวงอาทิตย์ เขาผลักออกและโจมตีไปที่แขนของจักรพรรดิเฟิ่นนิ่ว
 “ถ้าเจ้าเสาะหาสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เจ้าจะตายโดยไร้ที่กลบฝัง”  จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วระเบิดอารมณ์โกรธและเขาไม่ยอมถอยเช่นกัน เขารับบอลแสงพลังงานไว้และผลักกลับไปที่จักรพรรดิเสิ่นกวง
 “คนตายจะมีแต่เจ้า  ข้าได้ทำความตกลงลับๆ กับจ้าวสุริยาแล้ว”  จักรพรรดิเสิ่นกวงได้ยินเสียงเยาะเย้ยซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ราชาสองหน้าเข้าร่วมต่อสู้ด้วยทันที
เขาร่วมมือกับจักรพรรดิเสิ่นกวง
ร่วมกันโจมตีจักรพรรดิเฟิ่นนิ่ว
ส่วนคนอื่นเช่น บัณฑิตซือเหริน คนเถื่อน คนอ้วน ผู้เฒ่าเครายาว จอมหักหลังและโนม ฯลฯ แปดขุนพลยืนล้อมเย่ว์หยาง ราชาชิงหลางและคนอื่นๆ เป็นรูปครึ่งวงกลม ในใจของพวกเขา คนพวกนี้มีบทบาทเล็กน้อย ถ้าจำเป็น ก็เพียงแต่มีผลสำหรับใช้เลือดบูชายัญเพื่อเปิดทางเข้าถึงคัมภีร์เทพ มิฉะนั้นก็ต้องสังหารทิ้ง
แน่นอนว่ามีไม่กี่คนที่มีทัศนคติต่อเย่ว์หยางคุณชายไตตันแตกต่างออกไปเล็กน้อย
ที่สำคัญคุณชายผู้นี้มาจากตระกูลมีชื่อเสียง
ดีที่สุดคือฆ่ากวาดล้างให้หมด มิฉะนั้นจะเป็นตัวยุ่งยากให้เกิดปัญหาจริงๆ ก่อนที่จ้าวสุริยายังไม่สามารถเข้าไปเอาคัมภีร์เทพได้  ไม่อาจฆ่าคุณชายผู้นี้ และเขามีพลังอ่อนแอขนาดนั้น ไม่จำเป็นต้องฆ่า เขาก็ทำอะไรไม่ได้
นักสู้ปราณฟ้าทุกคนที่ยังโชคดีรอดชีวิตอยู่ได้ ต่างซ่อนตัวอยู่พื้นที่ศิลาแดนดาว
ข้างนอกโลกศิลา
จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วและจักรพรรดิเสิ่นกวงและราชาสองหน้าต่อสู้จนพื้นที่พังทลาย
โชคดีที่โลกศิลาภายนอกจะถูกทำลายอย่างไรก็ตามก็ไม่มีร่องรอยพลังหลุดเข้ามาในมิติแดนดาว
ที่ทางเข้าออกของผนังศิลาแดนดาวภายใต้พลังแรงทำลายสะท้านฟ้าสะเทือนดิน  ที่นี่คือรากฐานของโลกศิลาจะไม่พังทลายจนกว่าโลกศิลาจะถูกทำลาย  ต่างจากการต่อสู้ของจักรพรรดิแดนดินที่น่ากังวลภายนอก  เทวีเสรีภาพไม่ได้กังวลถึงคนอื่น นางหลั่งน้ำมองดูร่างเทพข้างหน้า
 “นางคือมารดาท่าน?”  เย่ว์หยางไม่พลาดถาม
 “เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?”  หมิงลี่ฮ่าวไม่อยากให้เทพีเสรีภาพตอบ คาดว่านั่นอาจทำให้เขาหมดสติ
 “ถ้าอย่างนั้นท่านร้องไห้โศกเศร้าเช่นนี้ทำไม?”  เย่ว์หยางไม่เข้าใจ  เทพธิดาเสียสละเพื่อคนอื่นอย่างยิ่งใหญ่มากมาย นางควรจะมีความสุขที่ได้เห็น  นางร้องไห้ได้ยังไง?  ทั้งเป็นการร้องไห้เศร้าโศกอีกด้วย?
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เทวีเสรีภาพมีความรู้สึกอยากบีบคอเย่ว์หยาง
เจ้าจะต้องยุ่งเรื่องของคนอื่นด้วยหรือ
แม้แต่ร้องไห้ก็ทำไม่ได้หรือ?
นอกจากนี้ยังเดาสาเหตุส่งเดชอย่างนี้ นับว่ามากเกินไป!
โชคดีที่เทวีเสรีภาพควบคุมตนเองได้ดีมาโดยตลอด นางเป็นคนใจดีมีเมตตา จึงไม่ถือสาเจ้าเด็กนี่ เปลี่ยนคนอื่นบางอาจจะผิดหวังกับการกระทำของเย่ว์หยางก็ได้
พระยาราชสีห์และราชาจินกวนสองราชาบริวารพูดคุยกันโดยไม่เห็น  อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางพบทันทีว่าคนที่สะดุดตาที่สุดมีสองคน พวกเขาแต่งตัวธรรมดาเดินเข้ามาข้างใน
สองคนนี้ดูธรรมดาขนาดไหน?
เหมือนก้อนหินที่อยู่ริมทาง
แม้ว่าต่อให้เคยเห็นมาแล้ว ถ้าเป็นความทรงจำของหัวหน้าพ่อบ้านเย่ และหัวหน้าจินฟันทอง หากสองคนนี้เคยผ่านท้องถนนเมืองลู่หลิว หัวหน้าพ่อบ้านเย่หรือหัวหน้าจินฟันทองก็จำเขาไม่ได้ เป็นความรู้สึกเหมือนคนเดินสวนทางกันธรรมดาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันกับพวกเขา พวกเขาจะไม่เป็นจุดสนใจแม้แต่น้อย ต่อให้เคยเห็นก็จะลืมไปอย่างรวดเร็ว
ที่สำคัญที่สุด บุรุษทั้งสองแต่งตัวคล้ายกัน แต่ไม่เหมือนกันทีเดียว แต่ในสายตาของเย่ว์หยางยากจะมองเห็นความแตกต่าง
ไม่ใช่ไม่ธรรมดา
แต่ธรรมดามากเกินไป
อย่างที่ทราบกัน เย่ว์หยางมีจักษุญาณทิพย์มองเห็นความจริงในโลกได้
ตอนนี้จักษุทิพย์ของเขามองไม่เห็นความแตกต่างของสองคนนี้  เย่ว์หยางมองไม่เห็นความผิดปกติใดๆ  ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น... รูปร่างของทั้งสองคนไม่สูงและมองดูธรรมดามาก
สวมชุดสมถะเรียบง่าย
ตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่มีที่ใดต้องมองซ้ำ
คนแบบนี้ไม่สะดุดตายิ่งกว่าก้อนหินที่อยู่ริมทาง เหมือนเป็นส่วนประกอบเล็กน้อยที่อยู่ริมถนนในสายตาคนทั่วไป
อย่างไรก็ตามนั่นเป็นเรื่องธรรมดาเช่นกัน คนทั่วไปนี้เหมือนชาวนาชราที่เห็นตามทุ่งนา  เขาเดินอยู่ในโลกศิลาที่มีการต่อสู้สะท้านฟ้าสะเทือนดินอย่างสงบ เหมือนกับว่าการต่อสู้ของจักรพรรดิแดนดินทั้งสองและราชาสองหน้าไม่ได้มีอยู่เลย  พลังงานอัดกระแทกจากการต่อสู้ไม่มีอยู่เลย รอจนนักสู้ปราณฟ้าอื่นมองเห็นสองคนนี้  ทุกคนตะลึงเล็กน้อย แม้กระทั่งบางคนก็หมดสติไปด้วย  ทั้งสองไม่ธรรมดาจริงๆ
เพราะมีคนผู้หนึ่งอยู่ในเงื้อมมือของคนธรรมดาด้านซ้ายมือ
จักรพรรดิฟู่โฉว
สภาพของจักรพรรดิฟู่โฉวในปัจจุบันไม่มีทางจัดการกับรุมล้อมของมารสัมฤทธิ์ฟ้ากับพวกได้แน่
เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ดวงตาปิด อกเป็นรอยยุบแขนขาห้อยตกไม่มีแรง และมีเลือดซึมผ่านตามปากและหยดลงพื้น
จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วและจักรพรรดิเสิ่นกวงและราชาสองหน้าหยุดสู้กันเพราะการปรากฏตัวของคนธรรมดาสองคนนี้
 “พวกเขา คนไหนคือจ้าวสุริยา?”  เย่ว์หยางสีหน้าเปลี่ยน เขารีบถามหมิงลี่ฮ่าว นี่เป็นครั้งแรกที่ตาทิพย์ของเขาไม่สามารถเห็นร่างที่แท้จริงของศัตรูได้
 “ข้าไม่รู้!” หมิงลี่ฮ่าวส่ายศีรษะจนใจ
แม้ว่าเขาพยายามจะผ่อนคลายร่างกายให้มากเท่าที่เป็นไปได้  แต่เขาก็ยังเครียดโดยไม่รู้ตัว
เขาแทบไม่สามารถเก็บงำพลังปราณไว้ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะสนามพลังสร้างโลกของเย่ว์หยางช่วยบดบังไว้ เกรงว่าพลังของเขาคงรั่วไหลออกไป ทำให้ศัตรูรู้ว่าหมิงลี่ฮ่าวแฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้คน  นอกจากนี้หมิงลี่ฮ่าวยังงอเอวหลับตาและไม่กล้าใช้สายตามองคนธรรมดาทั้งสองนั้น เขาเกรงว่าจ้าวสุริยาจะรู้สึกตัวและพบตัวเขาได้
จ้าวสุริยาคงจะมาถึงแล้ว  เย่ว์หยางและหมิงลี่ฮ่าวคาดเดาไว้เช่นนั้น
สิ่งที่เขาไม่เคยคิดไว้ก็คือ
จ้าวสุริยาผู้นี้มาถึงเร็วยิ่งนัก!
ไม่มีใครรู้ตัวเรื่องนี้ และไม่มีใครรู้แม้แต่หมิงลี่ฮ่าว ทำไมจ้าวสุริยาปรากฏตัวเร็วนัก?
เขาไม่ควรจะเปิดเส้นทางมิติเข้าถึงคัมภีร์เทพได้ง่ายๆ แต่พอหลังจากจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วและจักรพรรดิเสิ่นกวงเสี่ยงชีวิตสู้เอาเป็นเอาตาย เขาจึงค่อยโผล่ออกมาอย่างนั้นหรือ?
ผิดปกติเกินไป
 “เรามาถึงในช่วงเวลาพบปะของครอบครัว นับว่าเป็นเวลาดีจริงๆ เราไม่ต้องการจะรบกวนกิจกรรมของทุกท่านเร็วเกินไป  แต่อย่างไรก็ตามเพื่อสนองตอบความต้องการของสหายที่ดีของเรา เราจึงต้องมาให้เร็วเท่าที่จะทำได้ รบกวนไปบ้าง อย่าถือสาข้าเลย”  คนธรรมดาที่มีหิ้วคอจักรพรรดิฟู่โฉวที่หมดสติและอีกคนที่กำลังจะตายอธิบายและขออภัยกลุ่มคนในที่นั้นอย่างสุภาพ
อีกคนหนึ่งไม่น่าตกใจมากนัก เพราะพวกเขาไม่รู้จัก  แต่เย่ว์หยางถึงกับม่านตาหดลีบ
คนผู้นี้กำลังจะตาย
เป็นเพราะนั่นคือคุณชายฉางฟงบุรุษผมงูจากหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่แห่งแดนสวรรค์ที่เชิญเย่ว์หยางมายังเมืองไป๋เหอ
แววตาของเย่ว์หยางเย็นยะเยือกลงทันที
เย็นยะเยือกจนแทบเป็นน้ำแข็ง
ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าไม่ใช่แต่เพียงเขาเท่านั้นที่กำลังจับเหยื่อ  แต่ยังมีเจ้าตำหนักเทพสุริยะ อย่างจ้าวสุริยาอีกด้วยที่ทำเหมือนกัน
บุรุษที่ธรรมดาดูน่ากลัวนี้คือศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาอย่างแน่นอน  อาจจะน่ากลัวยิ่งกว่าจีอู๋ลี่   ที่สำคัญจีอู๋ลี่ไม่ตระหนักถึงการมีอยู่ของเขา  แต่จ้าวสุริยาปรากฏอยู่ข้างหน้าเขาเอง
จุดอ่อนของคนผู้นี้อยู่ตรงไหน?
ตอนนี้เย่ว์หยางยังไม่เข้าใจ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แน่นอนก็คือจ้าวสุริยาไม่เพียงแต่มุ่งหวังคัมภีร์เทพเท่านั้น  แต่ยังจับจ้องมองมาที่เขา!

8 ความคิดเห็น:

oBABYVOXo กล่าวว่า...

เอาแล้วไง จะสู้ไหวไหมเนี่ย

ulomzx กล่าวว่า...

สู้ไม่ไหวก็หนีสิ..เย่ว์หยางถนัดนักเรื่องนี้

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

พี่เย่วต้องตบมันให้ได้

Krisda กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ïиƒïиï†ч гє†гч กล่าวว่า...

ขโมยของมันให้เรียบ แล้วเผ่นให้ไว 5555

Boybravo กล่าวว่า...

รอบนี้จะไหวมั้ย ตัวละครเยอะ
ขอบคุณผู้แปล

Unknown กล่าวว่า...

If you're trying hard to lose fat then you certainly have to try this totally brand new personalized keto meal plan.

To produce this keto diet, certified nutritionists, fitness trainers, and cooks have united to produce keto meal plans that are powerful, convenient, money-efficient, and enjoyable.

Since their launch in early 2019, 1000's of individuals have already remodeled their body and health with the benefits a smart keto meal plan can provide.

Speaking of benefits; clicking this link, you'll discover eight scientifically-certified ones offered by the keto meal plan.

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น