ตอนที่ 969
เวลาผ่านไปและย้อนกลับ
ทุกคนมองดูเย่ว์หยาง
รอให้เขาเฉลยคำตอบที่น่าตกตะลึงที่ไม่มีใครรู้
ได้ยินแต่เพียงคำว่า “จุดอ่อนของทักษะแฝงเร้นคืนสภาพก็คือ การคืนสภาพ
ไม่ใช่คืนชีพ แค่คืนสภาพเท่านั้น!”
หมิงลี่ฮ่าวทรุดลงกับพื้นอีกครั้ง..
นี่น่ะหรือคำตอบ..นี่น่ะหรือจุดอ่อน? นี่คือจุดอ่อน!
ทักษะแฝงเร้นคืนสภาพนี้น่ากลัว คืนสภาพทุกอย่าง แล้วคืนชีพเล่า? ทำให้คนมีชีวิตต่อไม่ใช่หรือ?
หมิงลี่ฮ่าวพูดไม่ออก และรู้สึกว่าความคาดหวังของเจ้าเด็กนี่ไม่ค่อยสูงนัก
ที่สำคัญ เย่ว์หยางไม่ใช่อยู่ๆ ไม่กี่วันก็อ่อนโยน
หน้าของจ้าวสุริยาบึ้งทันที
นั่นเป็นภาพที่ยากจะเห็น
ราชาเฉินม่อไม่ส่งเสียงแต่อย่างใด แต่แสดงสีหน้าตกใจออกมาเป็นครั้งแรก
เพราะเขาไม่เคยเห็นอาการผิดปกติของจ้าวสุริยา เจ้าเด็กเย่ว์หยางนั่นพูดจริงหรือ?
นี่เป็นจุดอ่อนจริงๆ
หรือ?
จักรพรรดิฟู่โฉวและคนอื่นๆ
สับสนว่าเย่ว์หยางพูดคำตอบไปแล้ว
แต่ทุกคนก็ยังไม่เข้าใจ!
ราชาชิงหลางอยากกระโดดออกมาถอดเสื้อผ้าชูนิ้วกลางด้วยมือที่ยังเหลืออีกข้างหนึ่งตะโกนกู่ก้องฟ้า อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานะและพลังของเขา
ทำให้ไม่มีที่ให้เขายืนพูด เขาได้แต่เจียมตัวยอมรับ
คิดว่าไม่เข้าใจก็ดีเหมือนกัน
สติปัญญาต่ำนั้นดูปลอดภัยกว่า
ดูอย่างคุณชายไตตัน เขาฉลาดกว่ามิใช่หรือ? แม้แต่จ้าวสุริยาก็จ้องมองเขา
เห็นแล้วรู้สึกหมดหวังจริงๆ
ถ้าราชาชิงหลางรู้ว่ามีสวรรค์มีจริง
เขาอาจจะมีความสุขก็ได้
“พูดได้ดี!” จ้าวสุริยาเงียบอยู่นาน แล้วพยักหน้าจริงจัง
จากนั้นส่ายหน้าถอนหายใจ
“คุณชายไตตันมีจักษุทิพย์อยู่คู่หนึ่ง น่าเลื่อมใสจริงๆ ถ้าปล่อยให้เจ้าได้เติบโตต่อไปอีก
ในอนาคตข้างหน้า เราจะยืนอยู่ตรงไหน?”
“ทักษะคืนสภาพเป็นจุดอ่อนจริงๆ หรือ?” ราชาสองหน้าที่ดูฉลาดมาก ไม่สามารถเข้าใจได้
“....” พูดตามตรง
แม้จะรวมราชาเฉินม่อผู้ติดตามจ้าวสุริยามายาวนาน ก็ยังไม่เข้าใจ
เขาแค่ฟังจ้าวสุริยาพูดด้วยความเสียใจเกี่ยวกับทักษะแฝงเร้นคืนสภาพ
“บอกเรามาเร็วๆ”
หมิงลี่ฮ่าวแม้รู้ว่าการต่อสู้ตัดสินเด็ดขาดใกล้เข้ามา
ต่อให้ความอยากรู้อยากเห็นฆ่าแมวได้
เขาก็ยังอยากรู้
“ทักษะแฝงเร้นคืนสภาพของจ้าวสุริยา สามารถคืนสภาพทุกสิ่งอย่างที่อยู่ในสนามพลังได้
แต่ไม่สามารถคืนชีวิตได้ หรือจะกล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ
ทักษะแฝงเร้นย้อนเวลาของเจ้าสุริยา ไม่ใช่การย้อนเวลาที่แท้จริง
กล่าวอีกอย่างหนึ่งไม่ใช่การย้อนเวลาที่สมบูรณ์ แต่เป็นการาย้อนเวลาเพื่อเป้าหมายบางอย่าง
นั่นก็คือการคืนสภาพ
“ในกรณีนี้ อาจจะน่าสนใจก็ได้” หมิงลี่ฮ่าวหัวเราะร่า
ตอนนี้เขาเลิกคิดจะระเบิดตัวเองแล้ว
เป็นที่คาดกันว่ากู้คืนกลับมาในสภาพเล็กน้อย
ราชาเฉินม่อและราชาสองหน้า อาจจะฆ่าไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ต้องบาดเจ็บสาหัส
แปดขุนพลบริวารก็คงไม่อาจทำอะไรได้
“ต่อให้เจ้ามองเห็นทักษะแฝงเร้นของข้า
ข้าจะไม่ยอมปล่อยให้เจ้ามีโอกาสแสดงฝีมือ”
จ้าวสุริยายิ้มอีกครั้งกับสถานการณ์รวม
“เว้นแต่มีพลังเทพหรือพลังกฎสวรรค์ที่แข็งแกร่ง” จักรพรรดิฟู่โฉวมองดูหมิงลี่ฮ่าว
“ไม่ต้องมองข้า” หมิงลี่ฮ่าวบอกว่าเขาไม่มีทักษะเช่นนี้ ต่อให้เขาสามารถใช้กฎสวรรค์ได้เล็กน้อยก็ตาม แต่ก็ยังห่างไกลจากกฎแห่งกาลเวลาของจ้าวสุริยา จะไปเทียบกันได้อย่างไร?
“ข้าอาจทำอะไรบางอย่างได้ แต่เจ้าต้องสัญญากับข้าว่าจะยึดภูมิภาคสวนสวรรค์และช่วยให้คนที่นี่ได้มีคืนวันที่ดี ข้าเชื่อว่าเจ้าจะเป็นผู้ปกครองที่ดีที่สุดได้
แม้ว่าเจ้าจะดูเหมือนเกียจคร้านเล็กน้อย แต่หัวใจเจ้ามีความเมตตามาก...”
เทวีเสรีภาพยืนขึ้นทันทีและกระซิบคุยกับเย่ว์หยาง
“ตราบเท่าที่เจ้าสัญญากับข้า
ข้าจะส่งเจ้าออกไปจากที่นี่”
“อ่า...นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินคนชมว่าข้าใจดีมีเมตตา ขอบคุณ แต่ท่านเห็นข้าเหมือนทหารที่วิ่งหนีออกสนามรบหรือไม่?”
เย่ว์หยางหัวเราะและโบกมือส่งนางออกไปอยู่ห่างหลายร้อยเมตร
“แม้ว่านางจะสละชีวิตใช้พลังเทพช่วยให้เจ้าจากไป
เจ้าก็ยังจากไปไม่ได้อยู่ดี” จ้าวสุริยายืนยันอย่างมั่นใจ
“งั้นก็สู้กัน”
หมิงลี่ฮ่าวรู้สึกมีความหวังอยู่บ้างเล็กน้อยในครั้งนี้
สู้กับความปรารถนาที่เดือดอยู่ในใจ แต่เขาไม่ได้ยินคำพูดของเย่ว์หยาง เขาไม่รู้จะทำอย่างไรดี
จะรีบเร่งหรือหรือวางอุบายอย่างใดต่อ?
เขาหันไปสังเกตเย่ว์หยาง
หวังว่าเจ้าเด็กนี่จะจัดหน้าที่ให้กับทุกคน
จักรพรรดิฟู่โฉวยังคงมองตรวจตรา
จากนั้นก็เป็นจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วไม่อยากมองรอคอยให้เย่ว์หยางจัดการ....หรือว่าความเป็นความตายของทุกคนขึ้นอยู่กับคำพูดของเจ้าเด็กนี่
มีแต่เพียงจักรพรรดิเสิ่นกวงยังคงมองตาเป็นประกายไม่สามารถตัดสินใจได้ ที่สำคัญจ้าวสุริยาทรงพลังเกินไป
ต่อให้มีหมิงลี่ฮ่าว จักรพรรดิฟู่โฉว
จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วมาช่วยนั่นเป็นความพยายามที่ไร้ประโยชน์ นอกจากนี้บริวารรอบตัวจ้าวสุริยาล้วนแข็งแกร่ง
ราชาเฉินม่อไม่ต้องพูดถึง แค่ราชาสองหน้าก็น่าจะรับมือราชาฟู่โฉวที่บาดเจ็บสาหัสและสู้กับจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วได้
ถ้าราชาเฉินม่อรับมือกับหมิงลี่ฮ่าวชั่วคราว
จ้าวสุริยาจะสามารถฆ่าเย่ว์หยางได้ทันที แม้เขาจะมีพลังจักษุทิพย์
แต่ว่าพลังยังไม่พอ
เย่ว์หยางโบกมือทำนองเดียวกัน “เล่าฮ่าว, ถอยไปก่อน
ตอนนี้เป็นการปะทะกันของราชา ยังไม่ถึงตาท่าน!”
หมิงลี่ฮ่าวโมโห “ราชาผายลมหรือ? ถ้าข้าเป็นทหาร
เจ้าก็เป็นพลเรือนคนหนึ่ง”
คำตอบของเย่ว์หยางคือชูนิ้วกลางให้สองนิ้ว
จ้าวสุริยาโบกมือให้ราชาเฉินม่อและราชาสองหน้ากลับมาพร้อมกับแปดขุนพล
การฆ่าหมิงลี่ฮ่าวและจักรพรรดิฟู่โฉวและคนอื่นไม่ใช่เป้าหมายใหญ่ที่สุดในการปฏิบัติการนี้
การฆ่าจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่แห่งหอทงเทียน
ฆ่าเย่ว์หยางหรือเย่ว์ไตตันบุคคลที่หาได้ยากในรอบหมื่นปี
นั่นคือเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดของเขา
เพื่อทำเป้าหมายนี้ให้สำเร็จ
จ้าวสุริยาไม่ว่าต้องทุ่มค่าใช้จ่ายเพียงไหนก็ต้องทำให้ได้
ผู้เยาว์รุ่นหลังที่สามารถเห็นจุดอ่อนของเขาได้ในระยะเวลาสั้นๆ
เขาต้องตาย
ต้องไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสก้าวหน้าเติบโต
คนผู้นี้ต้องตายในเงื้อมมือของเขา เพื่อความโล่งใจอย่างแท้จริง
ทันใดนั้นเย่ว์หยางใช้รัศมีสีดำคลุมไปทั้งร่างปิดกั้นรัศมีของนาฬิกาสุริยะ
พอเห็นภาพวิธีนี้จ้าวสุริยาหรี่ตาแคบทันที
เขาหรี่ตาแคบเหมือนเข็ม
นาฬิกาสุริยากลับมาอยู่ระหว่างนิ้วเขาทันที
หมิงลี่ฮ่าว
จักรพรรดิฟู่โฉวและคนอื่นๆ ที่อยู่ด้านข้างไม่รู้สึกอะไรแม้แต่น้อย
แต่พวกเขาสามารถเห็นได้ว่ามีกระแสไฟฟ้านับไม่ถ้วนอยู่รอบตัวเย่ว์หยางและมีเสียงแตก
ดูเหมือนกับว่ามีบางอย่างที่มองไม่เห็นกำลังปะทะเผชิญหน้ากัน ในที่สุดพลังย้อนเวลาก็ชนะ
เมื่อเข็มนาฬิกาสุริยะกลับไปอยู่ที่ตำแหน่งดั้งเดิม
แสงสีดำบนร่างของเย่ว์หยางก็หายกลับเข้าไปในตัว
“ความจริงเจ้าเข้าใจกฎสวรรค์น้อย...”
จ้าวสุริยาจ้องหน้าเย่ว์หยางจริงจังและมีร่องรอยตื่นเต้น “เทียบกับเจ้าแล้ว เมื่อข้ายังอายุเท่ากับเจ้า
ข้ายังท้อแท้กับความสามารถของตัวเอง
สามารถฆ่าอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้อย่างเจ้า น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าทำลายสมบัติวิเศษได้
และมีความรู้สึกว่าได้รับความสำเร็จอย่างแท้จริง
ไตตัน!
ถ้าเจ้าไม่มีวิธีสู้ที่ดีกว่านี้ อย่างนั้นการทดสอบก็จบ
ข้าจะส่งเจ้าสู่เส้นทางปรภพทันทีที่เป็นไปได้ ข้ามักมีความรู้สึกว่ายิ่งเจ้าอยู่นานไป
ที่นี่จะมีการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ขึ้น
ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าได้เห็นอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว ฉะนั้นมีอะไรก็สั่งเสียได้เลย!”
“มาเลย” คำตอบของเย่ว์หยางง่ายๆ เขากวักมือเรียกจ้าวสุริยา
ตาของจ้าวสุริยาเป็นประกายเหมือนดวงดาว
เขาเหยียดมืออย่างเคร่งขรึม
หนึ่งนิ้ว
แสงรังสียิงออกมาจากนาฬิกาสุริยะตรงเข้าหาเย่ว์หยาง
จงกวนผู้มีฝีมือพิเศษสลับร่างเงาหายตัวอยู่ที่เหนือศีรษะของเย่ว์หยางและรับพลังคลื่นแสงแทน
เขาฝืนยิ้มอยู่ในอากาศ “ไม่มีทางเลย ด้วยพลังอย่างข้า ข้าทำได้เพียงแค่นี้!”
จ้าวสุริยาชี้นิ้วสั่ง
“เวลาผ่านไปร้อยปี”
จงกวนครางและร่วงลงพื้น
ตลอดทั้งร่างเริ่มผ่ายผอมลงด้วยความเร็วที่มองเห็นด้วยตาเปล่าชัดเจน
ความแก่ชราของเขาไม่ใช่เพราะเวลาผ่านไปร้อยปี แต่เป็นเพราะช่วงร้อยปีร่างกายของเขาใช้พลังงานมากเกินไปโดยไม่ได้เสริมบำรุงแต่อย่างใด
จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะคงร่างกายเดิมไว้ตามที่ต้องการ เขาผอมเหมือนกับปีศาจอดอยากหิวโหย
ความหิวของเขาไม่ใช่แค่เพียงหิวอาหารธรรมดา แต่เป็นหิวอย่างบ้าคลั่ง
ความอ่อนล้าท่วมทับร่างกาย.. “ข้าไม่คิดเลยว่าจะหิวโหยได้ขนาดนี้” จงกวนหายใจรวยรินและหลับตาอย่างอ่อนล้า
“ไม่!” เฮยถูและไป๋หม่าร้องอย่างเศร้าใจ
ลำแสงสองสายยิงไปที่เย่ว์หยาง
แม้ว่าพวกเขาจะเห็นสภาพที่น่าสลดใจของจงกวน
พวกเขาก็ยังวิ่งเข้าหาด้วยหวังว่าจะยอมตายแทนเย่ว์หยาง
เพื่อให้เย่ว์หยางได้มีเวลาเตรียมตัวมากขึ้น
และจะเห็นจุดอ่อนของทักษะจ้าวสุริยาได้ดีกว่า
แล้วพลิกกลับมาชนะได้
จ้าวสุริยายังคงนิ่งเฉย
มองดูเย่ว์หยางช้าๆ “ตราบใดที่ข้าดีดนิ้วได้ ไม่ว่าจะเป็นเวลาร้อยปี พันปี
หรือเวลาผ่านไปในอดีตก็ย่อมไม่เป็นปัญหา
ไม่ว่าจะมีสักกี่คนที่ปกป้องเจ้าก็ช่วยอะไรไม่ได้
บางทีเจ้าอาจให้พวกเขาเสียสละเพื่อค้นหาจุดอ่อนของข้า แต่สายเกินไปแล้ว และพลังของเจ้าอ่อนแอเกินไป
พลังของเราสองคนยังห่างชั้นกัน ภูมิปัญญายิ่งใหญ่
การเสียสละที่ยิ่งใหญ่ไม่อาจปิดช่องว่างได้ ดังนั้นคลื่นลูกที่สาม
และทุกอย่างจะปิดฉากลง”
เขาชี้นิ้ว
นาฬิกาสุริยะปล่อยลำแสงเป็นพันสาย
ไม่ว่าจะเป็นผู้คุ้มกันคนใดวิ่งออกมาวิ่งกันแสงไว้
ราชาชิงหลางและกลุ่มนักสู้ปราณฟ้าอื่นยังซ่อนตัวอยู่ออกมาช่วยป้องกัน
หมิงลี่ฮ่าวและจักรพรรดิฟู่โฉวและคนอื่นๆ ถูกลำแสงพุ่งใส่
ตอนนี้ตราบเท่าที่จ้าวสุริยาดีดนิ้ว
เวลาบนร่างของพวกเขาทั้งหมดจะผ่านไปร้อยปี พันปี หรือกระทั่งหมื่นปี
ไม่มีใครสามารถผ่านกาลเวลานานขึ้น
ครั้งสุดท้ายทุกคนมองไปที่เย่ว์หยาง
นั่นคือความเป็นความตาย
นั่นคือสงคราม
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเขา...ถ้าเขาไม่มีหนทาง
อย่างนั้นทุกคนจะยอมรับชะตากรรม
ถ้าเขาต่อสู้ต้านทาน
อย่างนั้นทุกคนจะสู้อย่างสิ้นหวัง แม้ว่าจะไร้ประโยชน์
ก็ต้องต่อสู้จนถึงที่สุด!
“บอกมา เจ้าจะให้ทำอะไร?” หมิงลี่ฮ่าวแค่นเสียงเป็นครั้งสุดท้าย
“เจ้าไม่ต้องทำอะไร
ข้าเพิ่งบอกไปแล้วว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ราชาสู้กับราชา เจ้าไปอยู่ตรงนั้น
ไม่มีอะไรให้เจ้าทำ!”
เย่ว์หยางเตะเฮยถูและไป๋หม่าออกไป จากนั้นกวักมือเรียกยั่วยุตะโกนใส่จ้าวสุริยาอีกครั้ง “เข้ามาเลย!”
คนฝ่ายจ้าวสุริยาถึงกับโมโห
ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา
เจ้าหาเรื่องตายชัดๆ!
แม้แต่คนที่อดทนที่สุดอย่างราชาเฉินม่อก็ยังแสดงอาการโกรธเป็นครั้งแรก
จ้าวสุริยายังคงดีดนิ้วอย่างใจเย็น
“เวลาผ่านไปร้อยปี!”
เฮยถู
ไป๋หม่าและนักสู้ปราณฟ้าอื่นร้องเรียกอย่างเศร้าใจ
คนอย่างหัวหน้าจินฟันทองและพ่อบ้านเย่
สวะที่ยังไม่ถึงระดับปราณฟ้าเป็นลมหมดสติโดยตรงเหลือแต่ลมหายใจรวยริน แต่เทวีเสรีภาพกลับสงบอารมณ์ตนเองได้
นางดูเหมือนไม่มีความรู้สึกใดยังคงอยู่ในที่เดิมอย่างสงบ สีหน้าของนางยังคงเหมือนเดิม
หมิงลี่ฮ่าวลูบท้องและมองดูจักรพรรดิฟู่โฉวที่อ่อนแออย่างเห็นได้ชัด พวกเขามองหน้ากันเองและส่ายหน้าช้าๆ
ด้วยพลังความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ยังมิอาจหนีผลกระทบจากเวลาได้
แม้เวลาจะผ่านไปร้อยปีไม่ถึงกับทำให้พวกเขาล้มกับพื้นทันที แต่ผลกระทบก็ยังค่อนข้างมาก
เป็นเหมือนกับคนที่หลับมาร้อยปีแล้วเพิ่งตื่นขึ้น
ราชาสองหน้าและคนอื่นต้องการเยาะเย้ย
แต่จู่ๆ
จ้าวสุริยาลืมตาโพลง
ตะลึงงัน
เพราะมีเพียงคนเดียวที่ไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย เย่ว์หยางยังคงยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มคน
เจ้าเด็กนี่ไม่ได้รับผลกระทบของกาลเวลาที่ผ่านไปได้ยังไง? มนุษย์คือผู้ที่เสี่ยงต่อผลกระทบเวลามากที่สุด
“ข้าไม่ได้รับผลกระทบจากเวลา เพราะนาฬิกาสุริยะ
สนามพลัง กฎแห่งกาลเวลาใช้กับข้าไม่ได้
มีสิ่งเดียวที่ข้าอิจฉาเจ้าเล็กน้อยก็คือทักษะแฝงเร้นคืนสภาพ
นั่นเป็นสิ่งที่ทรงพลังที่สุดของเจ้า
ขณะที่กฎแห่งเวลาของเจ้า นั่นเป็นของละเล่นสนุกสำหรับข้า! ข้าเข้าๆ ออกๆจากประตูเป็นตายก็มีความตระหนักรู้
ข้ามีสำนึกสุดยอดปราณราชันย์
และยังควบคุมกฎสวรรค์ที่เป็นบุคลิกเฉพาะตัวของข้าเอง แม้ว่าร่างของข้าจะไม่ใช่ร่างเทพ แต่ขอบเขตพลัง
ความรู้ของข้าก็ระดับเดียวกับร่างเทพ
ร่างนี้ยังจะได้รับผลกระทบจากกฎแห่งเวลาที่สร้างขึ้นโดยปณิธานของเจ้าอีกหรือ? ในโลกของข้า
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวข้า ไม่ว่าจะเป็นมิติ เวลาหรือชีวิต..
แค่นั้นยังไม่พอจะล้มข้าได้ จ้าวสุริยา!
ใช้ฝีมือที่แท้จริงของเจ้าออกมา
ข้าต้องการท้าทายยอดฝีมือระดับกึ่งเทพ
ดูว่าจะทำให้ข้าก้าวหน้าได้มากแค่ไหน?
ข้าแทบจะคอยไม่ไหวแล้ว!”
“อย่างนั้นก็ตามที่เจ้าต้องการได้เลย” หน้าของจ้าวสุริยันบูดบึ้งเล็กน้อย
เขาโกรธอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
แม้ว่าเขาจะระมัดระวัง
แต่เขาก็ยังต้องประเมินตัวเด็กหนุ่มผู้นี้อย่างจริงจัง
เขาน่ากลัวมากกว่าที่คิด!
พลังกฎสวรรค์แห่งกาลเวลาไม่สามารถฆ่าเขาได้หรือ?
มิน่าเล่าจักรพรรดินีฟ้าแห่งเผ่าเก้าแสงถึงพลาดท่าเสียทีเจ้าเด็กนี่ในวันเดียว...
จ้าวสุริยาสูดหายใจลึกจ้องมองดูมือของเขา
“ก่อนจะสู้กับเจ้า ข้าจะขจัดอุปสรรคเกะกะในสมรภูมิออกไปเสียก่อน เจ้าจะได้สู้กับข้าสุดกำลัง”
จ้าวสุริยาชูแขนทั้งสอง
ชี้ขึ้นไปในอากาศ
รัศมีแผ่กระจายออกราวกับเทพเจ้า
และคลุมทั้งโลก “เวลาจงผ่านไปหมื่นปี!”
หมิงลี่ฮ่าวรู้สึกว่าพลังในร่างของเขาอ่อนแอลงมาก ช่วงเวลาสุดท้ายเขาตะโกนขึ้น “เจ้าเด็กน่ารังเกียจ! จำเอาไว้ ฝากดูแลน้องสาวข้าด้วย...”
“เวลาย้อนคืนหมื่นปี”
หมิงลี่ฮ่าวได้ยินเสียงที่เหลือเชื่อ
หือ?
เขางอตัว
9 ความคิดเห็น:
คนนึงเร่ง คนนึงย้อน สรุปตัวประกอบฉากตายก่อน
ตัวประกอบพี่เย่บอกห้ามตาย พี่จะเอาไปทำปุ๋ย
ค้างอะ อยากได้อีกตอน
ขอบคุณครับ ค้างจริง
เทพเค้าจะสู้กัน..เลยต้องเตรียมตัวนานหน่อย...ผ่านไปกี่บทแล้วนี่..
ในที่สุดก็ตีกันแล้ว เลื่อนอ่านแบบข้ามๆเป็นสิบตอนละ 5555
ใจจ้า
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
แสดงความคิดเห็น