วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 971 นี่คือหมาที่ฆ่าไม่ตาย


ตอนที่  971  นี่คือหมาที่ฆ่าไม่ตาย
 “ข้าเห็นว่าเจ้ามีข้อบกพร่องในทักษะเวลาของเจ้า จึงไม่อาจเคลื่อนไหวได้”  เย่ว์หยางให้คำตอบจริง

 “เจ้าจะทำยังไงถึงจะทำลายทักษะนั้นได้?”  จ้าวสุริยาถามอีกครั้ง
 “ไม่” เย่ว์หยางตอบตามตรง
ทั้งสองคนสนทนากันราวกับเป็นสหายสนิท  แต่หมิงลี่ฮ่าวและจักรพรรดิฟู่โฉวที่อยู่ใกล้พวกเขาพาสะท้านใจ  นี่คือการต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายที่แท้จริงไม่ว่าสมรภูมิจะเปลี่ยนไปเช่นไรก็ตาม  ทั้งคู่จ้องมองกันและกันต่างมองหาจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามตลอดเวลา และหาโอกาสโจมตีพิชิตศัตรูอย่างเด็ดขาด  ถึงไม่ได้ลงมือปะทะโดยตรงก็ไม่ได้หมายความว่าทั้งสองไม่ได้ต่อสู้  ตรงกันข้ามนี่คือการต่อสู้ทางภูมิปัญญาที่น่ากลัวที่สุด เมื่อฝ่ายใดแพ้ ก็จะสูญเสียชีวิต!
เย่ว์หยางจ้องมองจ้าวสุริยา
ทันใดนั้นเขาโบกมือให้หมิงลี่ฮ่าวและจักรพรรดิฟู่โฉวที่ตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืน  “พวกท่านไปได้แล้ว  การต่อสู้ที่นี่ไม่มีอะไรเกี่ยวกับท่าน  วันนี้โลกศิลาจะมีผู้มีชีวิตรอดออกไปได้เพียงคนเดียว  อาจเป็นข้าหรือเป็นจ้าวสุริยาก็ได้”
หมิงลี่ฮ่าวมองเย่ว์หยางและมองจ้าวสุริยาที่สีหน้าของเขาไร้ความรู้สึก
สำรวจทางออกไปจากโลกศิลา
จ้าวสุริยาเพียงแต่จ้องมองเย่ว์หยางโดยไม่สนใจการแยกจากไปของหมิงลี่ฮ่าว
หมิงลี่ฮ่าวนักสู้ปราณราชันย์ระดับแปดเป็นเหมือนปลาเล็กปลาน้อยสำหรับในใจของจ้าวสุริยา ปลาใหญ่ที่แท้จริงนั้นคือเย่ว์หยางที่ยังไม่เติบโตเต็มที่ ขณะที่นักสู้ปราณฟ้าอื่นเป็นแค่กุ้งหอยปูปลาน้อย เขาไม่สนใจ  ตราบใดที่เขาสามารถฆ่าเย่ว์หยางได้  จ้าวสุริยาไม่สนใจ แม้ต้องปล่อยคนอย่างหมิงลี่ฮ่าวหรือจักรพรรดิฟู่โฉวสักร้อยคนก็ตาม .... เพราะคนเหล่านี้ไม่ใช่ตัวคุกคามที่ร้ายแรง  เขาสามารถฆ่าหมิงลี่ฮ่าวหรือจักรพรรดิฟู่โฉวได้ทุกเมื่อตราบเท่าที่ทางตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ต้องการ
เมื่อเขาพบว่าเย่ว์หยางมีดวงตาวิเศษคู่หนึ่งสามารถมองเห็นได้ทุกอย่าง ก็แสดงว่าสามารถเติบโตในการสู้รบได้ไม่มีที่สิ้นสุด
จ้าวสุริยาตัดสินใจฆ่าเย่ว์หยาง เด็กหนุ่มผู้น่ากลัวนี้
โดยไม่ลังเลกับการทุ่มเทพลังความสามารถทั้งหมด!
 “จะให้ข้าไปจริงๆ หรือ?”  หมิงลี่ฮ่าวตะโกนมาทางเย่ว์หยางก่อนจากไป
 “ฝ่าบาท”  ราชาสองหน้าและแปดขุนพลบริวารมองดูจ้าวสุริยาอย่างกระวนกระวาย พวกเขาควรจะไปหรือควรจะอยู่ต่อ?
 “ปล่อยพวกเขาไป  พวกเจ้าออกไปรอข้านอกพายุทะเลคลั่ง”  ในสายตาของจ้าวสุริยา เย่ว์หยางคนเดียวเท่านั้นที่เป็นศัตรู ตราบเท่าที่เขาไม่จากไปหมิงลี่ฮ่าวหนีไปก็ไม่เป็นไร  นอกจากนี้แม้ว่าจะมีอุปสรรคขัดขวาง  เด็กหนุ่มคนนี้สามารถมองเห็นความสามารถของเขา จะต้องมีวิธีส่งหมิงหลีฮ่าวออกไปจากโลกศิลา
 “ขอรับ”
ราชาสองหน้าคำนับด้วยความเคารพและพาแปดขุนพลบริวารออกไปเป็นกลุ่มแรก
ปกติเขาจะไม่ยอมให้หมิงลี่ฮ่าวและนักสู้อื่นออกไปจากโลกศิลา  จ้าวสุริยาไม่มีเวลาจะทำเช่นนั้น พวกเขาพากันออกไปทั้งหมด
ในทะเลคลั่งยังมีพระยาราชสีห์และราชาจินกวนอยู่  แม้ว่าพวกเขาต้องการล้อมสังหารหมิงลี่ฮ่าวและจักรพรรดิฟู่โฉวและนักสู้ปราณฟ้าอื่น ก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้  หมิงลี่ฮ่าวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จักรพรรดิฟู่โฉวได้รับบาดเจ็บต่อเนื่องโดยเฉพาะการโดนพลังทำร้ายครั้งล่าสุด  เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและเหลือพลังไม่มาก  จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วสู้กับพระยาราชสีห์  แต่จักรพรรดิเสิ่นกวงบางทีอาจต้องทรยศ  ต่อให้ไม่ทำ เขาก็ยังไม่กล้าเป็นศัตรูต่อตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์  สำหรับคนที่เหลือ เช่นเทวีเสรีภาพไม่มีพลังต่อสู้  คุณชายฉางฟงกำลังบาดเจ็บสาหัสและไม่มีพลังต่อสู้  ราชาชิงหลางและนักสู้ปราณฟ้าอื่นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแปดขุนพล
แม้ว่าภายนอก ยกเว้นแต่จักรพรรดิเสินกวงแล้ว
มีเพียงคนเดียวที่อาจหลบหนีได้ก็คือหมิงลี่ฮ่าว...ราชาสองหน้าตัดสินใจรอคอยอยู่ข้างนอกและจากนั้นค่อยกางตาข่ายฟ้าเพื่อกำจัดเป้าหมายที่ยังเหลืออยู่ในรวดเดียว
เมื่อเห็นว่าเย่ว์หยางยังคงต้านทานได้ และเห็นจ้าวสุริยาไม่ได้ห้าม  หัวใจของนักสู้ปราณฟ้าพองโต  ถึงแม้จะรู้ดีว่าต้องมีการต่อสู้ดุเดือดภายนอก แต่ยังดีกว่ามาเผชิญกับจ้าวสุริยา  เมื่อเผชิญหน้ากับจ้าวสุริยา แม้แต่จักรพรรดิฟู่โฉวก็ยังไม่สามารถต้านทานพลังโจมตีของเขาได้
สู้กับจ้าวสุริยาต่อให้มีสิบชีวิตก็ไม่พอ
ตายสถานเดียว!
สถานการณ์การต่อสู้ที่ทะเลคลั่งข้างนอกอาจจะรุนแรงมาก  แต่อาจมีการถูกรบกวนได้ และอาจมีคนบางส่วนที่หลบหนีได้
ทุกคนมีโอกาสจะโชคดี  และด้วยแนวคิดนี้ ทุกคนแห่กันไปที่ทางเข้าออกโลกศิลา ส่วนบุรุษผมงูผู้บาดเจ็บสาหัสมีหัวหน้าจินฟันทองคอยประคองออกไป  ขณะที่พ่อบ้านเย่พยายามชักชวนเทวีเสรีภาพ นางโบกมือปฏิเสธบอกว่านางต้องการอยู่  จงกวนและคนอื่นคืนสภาพปกติ พวกเขาคำนับเย่ว์หยางก่อนวิ่งนำหน้าศัตรูออกไป
แม้แต่คนที่เพิ่งเข้าร่วมกลุ่มใหม่อย่างฟงจีและจินหวินทำตาแดงกล่าว “คุณชาย, เราจะรอท่านข้างนอก  เราต้องไปแล้ว!
หมิงลี่ฮ่าวตบหน้าแต่ละคนทันที “เจ้าพวกโง่!  แทนที่จะห่วงเจ้าเด็กนี่ ห่วงกระดูกบางๆ ของพวกเจ้าจะดีกว่า... ไป แยกย้ายเอาตัวรอดได้แล้ว!
เย่ว์หยางไม่พูดอะไร
เขาเพียงแต่โบกมือ
เขาเพียงแต่ปล่อยให้จ้าวสุริยาจ้องมองเขา โดยไม่กระพริบตา
ถ้าเขาหละหลวมแม้แต่เล็กน้อย  เย่ว์หยางรู้สึกว่าจ้าวสุริยาจะสบโอกาสฆ่าเขาทันที
หลังจากนั้นหมิงลี่ฮ่าวเดินนำหน้ากลุ่ม ตามด้วยจักรพรรดิฟู่โฉว กลุ่มคนทั้งหมดออกจากโลกศิลาเดินผ่านไปตามทางเดินมิติที่พังเสียหายไปแทบทุกแห่ง  ก่อนจะเข้าไปในทะเลคลั่งหมิงลี่ฮ่าวชะงักเท้ากะทันหันเงยหน้ามองนักสู้ปราณฟ้าทีละคน  “พวกเจ้าไปกันต่อเถอะ!  ข้าล่าฮ่าวเป็นพี่ประสาอะไรกัน?  ในฐานะพี่ เจ้าก็ต้องทำตัวเหมือนพี่ด้วยจริงไหม?” 
จักรพรรดิฟู่โฉวลังเลเล็กน้อยและพูดโน้มน้าว  “ท่านก็รู้  ต่อให้ท่านอยู่ก็ช่วยเขาไม่ได้”
หมิงลี่ฮ่าวหัวเราะ  “ถูกแล้ว, ข้าไม่สามารถช่วยเขาได้  แต่ข้าไม่ได้บอกว่าจะช่วยเขา ข้าคิดว่าเขาน่าสงสารมาก ข้าอยู่เป็นเพื่อนเขาไม่ได้หรือไง?  ถ้าข้าไม่อยู่ เจ้าเด็กนั่นตายแน่  ถ้าข้าอยู่บางทีอาจมีโอกาสสักหนึ่งในพัน...”
จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วที่เลือดเต็มตัวต่อว่าเขา  “หลังจากผ่านมานานหลายพันปี  นิสัยเจ้าไม่เปลี่ยนเลย  ยังดูน่ารำคาญอยู่เสมอ!
หมิงลี่ฮ่าวกลับหลังหันและเดินไปที่โลกศิลา  “ข้าไม่ต้องการเปลี่ยน  ข้าไม่ชอบ!
ราชาจื่อฟงที่อยู่บนหลังของพ่อบ้านเย่อยู่สภาพบาดเจ็บเจียนตาย ขณะที่หญิงงามจูกวงดูเหมือนมองดูหมิงลี่ฮ่าว  เขามองสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวหลังจากฟื้นขึ้นมา
เมื่อหมิงลี่ฮ่าวหันกลับไป ร่างราวกับภูเขาของเขาหายวับไปไม่เหลือร่องรอย
จักรพรรดิเสิ่นกวงกลายร่างเป็นสีทองและหายเข้าไปในทางผ่านมิติ เข้าสู่ทะเลคลั่ง
เมื่อเห็นคนผู้นี้เร่งรีบออกไป  จักรพรรดิฟู่โฉวสีหน้าเปลี่ยน “ไม่ดีแน่, เจ้าผู้นี้ต้องการไปเข้ากับฝ่ายศัตรู... ช่างเถอะ, เขาเป็นคนแบบนั้นรอให้ข้ารับมือพระยาราชสีห์ที่แข็งแกร่งที่สุดและราชาจินกวน  พวกเจ้าหนีไปให้ไกลเท่าที่เป็นไปได้!  ถ้าอสูรเทพและอาวุธเทพร่างอสูรของเย่ว์ไตตันยังคงต่อสู้อยู่  พวกเจ้ายังมีโอกาส  ถ้าการต่อสู้จบแล้ว ให้พยายามหาเส้นทางที่เป็นไปได้ที่ดีที่สุดสำหรับพวกเจ้า!
 “ฟู่โฉว!  เจ้าหนีไปคนเดียวเถอะ ยังมีโอกาสแก้แค้น  ตอนนี้เหลือแต่เพียงเจ้าเท่านั้น”  บุรุษผมงูฝืนยิ้ม  “เรามีแต่คนบาดเจ็บและฝีมืออ่อนด้อยกว่า  เราจะหนีไปไหนได้?”
 “ฉางฟง!  ทั้งหมดเป็นเพราะข้า ถ้าไม่ใช่เพราะข้า ทั้งเจ้าและเย่ว์ไตตันก็คงไม่มายังภูมิภาคสวนสวรรค์เป็นแน่”  จักรพรรดิฟู่โฉวประคองไหล่บุรุษผมงูและกล่าวขออภัย
 “ความจริงข้ามาที่นี่เพราะอยากรู้อยากเห็นเรื่องร่างเทพ  ไม่ใช่เพราะเจ้า!  นี่เป็นชะตากรรม!  ฟู่โฉว!  เจ้าหนีไปเถอะ  ข้ามีทักษะพิเศษถ่วงเวลาราชาสองหน้าได้สักหนึ่งนาที  พระยาราชสีห์และราชาจินกวงยังคงสู้กับฮุยไท่หลางอยู่  หนีไปเดี๋ยวนี้ เจ้ายังมีโอกาสล้างแค้นให้เราอีก..”
บุรุษผมงูไม่นับจักรพรรดิเฟิ่นนิ่วเข้าเป็นกำลังรบหลัก
เขารู้
จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วจะต้องจากไปก่อนแน่นอน
จักรพรรดิเฟิ่นนิ่วแค่นเสียงไม่มีความหมายและสาวเท้ายาวออกจากทางออกมิติ
จักรพรรดิฟู่โฉวยังคงไปร่วมกับกลุ่มคนและจะต้องลุยผ่านไปให้ได้ในขณะที่เขายังมีพละกำลังมากที่สุด  มิฉะนั้นจะไม่มีใครรอด
เมื่อกลับมายังทะเลคลั่ง
ภาพผิวทะเลปรากฏต่อสายตาพวกเขา แม้แต่จักรพรรดิฟู่โฉวก็ยังสะท้านใจ
เพราะราชาเฉินม่อยังไม่จากไปทันที เขาจับจักรพรรดิเสิ่นกวงไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง  ที่ข้างราชาเฉินม่อมีราชาสองหน้า พระยาราชสีห์ ราชาจินกวนและแปดขุนพลบริวาร... และความหวังของมารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกร จักรพรรดิใต้พิภพและฮุยไท่หลางพังทลาย ทั้งร่างคนทั้งร่างอสูรเต็มด้วยเลือด ทะเลคลั่งย้อมไปด้วยเลือดแดงฉาน
 “เย่ว์หยางเล่า?”  มารสัมฤทธิ์พยายามดิ้นรน ร่างของเขาเปื้อนเลือด และมีบางส่วนแห้งกรัง
 “....ไม่ห่างจากความตายนักหรอก”  ราชาสองหน้าหัวเราะเยือกเย็น
 “ไป, เข้าไปข้างในกัน!  มารสัมฤทธิ์ฟ้าคำรามพยายามดิ้นรนฉุดดึงจักรพรรดิมังกรซึ่งมีบาดแผลถูกทำร้ายขึ้นจากผิวทะเล ตามด้วยจักรพรรดิใต้พิภพที่น่าทึ่ง พวกเขาตรงไปยังทางเข้ามิติ ในสายตาทุกคน มารสัมฤทธิ์ฟ้าที่ใกล้จะตายนี้ต้องการเข้าไปช่วยความหวังของตน  ราชาสองหน้าไม่จำเป็นต้องใช้เคียวปีศาจ แค่ใช้เพียงนิ้วเดียวยิงพลังดรรชนีทะลุผ่านจักรพรรดิใต้พิภพตรงไปที่มารสัมฤทธิ์ฟ้า
ร่างของมารสัมฤทธิ์ฟ้าสั่นสะท้าน
ไม่สามารถประคองตัวได้อีกต่อไป
เขาค่อยๆ ล้มลง
จักรพรรดิมังกรกู่ร้องโหยหวนทั้งน้ำตา แขนของเขาเปิดจนเห็นกระดูก ฝ่ามือเต็มไปด้วยเลือด เขาประคองร่างมารสัมฤทธิ์ฟ้าที่ใกล้จะหมดสติ  “เราคือนักรบหอทงเทียน  เจ้าฆ่าเราได้ แต่อย่าหวังว่าเราจะยอมแพ้  ถ้าเราไม่ตาย เจ้าไม่มีทางหยุดไม่ให้เราก้าวไปข้างหน้าแน่นอน  ความมุ่งมั่นใจการต่อสู้จะอยู่กับเราตลอดไป!
ราชาเฉินม่อยังคงเยือกเย็น นักรบที่อ่อนแออย่างนั้นก็มีปณิธานราชันย์ด้วยหรือ?  หอทงเทียนถ้าไม่ถูกทำลาย นับว่าเป็นภัยคุกคามจริงๆ
แสงสองสายยิงออกไปแล้ว
และแสงสายที่สามกำลังพุ่งตรงมาหา
จักรพรรดิมังกรกัดฟันรับน้ำหนักของทุกคนไว้
ทั้งสามหลั่งโลหิตเหมือนน้ำตกไหลหยดลงไปในทะเลคลั่ง
เนื่องจากจักรพรรดิมังกรและมารสัมฤทธิ์ฟ้าแข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็ก พื้นผิวทะเลคลั่งรอบตัวพวกเขาจึงสงบไม่ปั่นป่วน  จักรพรรดิมังกรช่วยประคองมารสัมฤทธิ์ฟ้าและจักรพรรดิใต้พิภพ พวกเขากัดฟันแน่นพยายามประคองตัวด้วยพละกำลังตนเอง
เลือดไหลไปตลอดทาง
ทั้งสามคนเดินอยู่บนเกลียวคลื่น เลือดของพวกเขาย้อมทะเลตลอดทางเดินผ่าน
 “ดื้อรั้นน่าเบื่อหน่าย!  ราชาสองหน้าควงเคียวปีศาจครอบคลุมจักรพรรดิมังกรและมารสัมฤทธิ์ฟ้า และฟันลงทันที
 “โฮ่ง!  เสียงหมาป่าเห่า
บนพื้นผิวทะเลสาบปรากฏร่างหมาป่าตัวมหึมา  มันอ้าปากกว้างใหญ่ที่สามารถกลืนคนได้เป็นล้านๆ คน
พื้นผิวหนังไม่อาจกลบปิดกระดูกที่โผล่ออกมาจากตัวขณะมันพุ่งออกมาจากทะเลคลั่ง  เจ้าสุนัขสกปรกนี้เหมือนสามารถตายได้ทุกเมื่อ มันโผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำ มันสะบัดศีรษะและรับจักรพรรดิมังกรและมารสัมฤทธิ์ฟ้าที่กำลังจะหมดสติ  ที่หางของมันลากดาบอสูรเทาเถี้ยตามออกมาจากทะเลด้วยเช่นกัน
ราชาสองหน้าตะลึง  “พวกมันยังไม่ตายอีกหรือ?”
พระยาราชสีห์เหลือบมองราชาจินกวนและส่ายศีรษะถอนหายใจเบาๆ  “เจ้าหมาตัวนั้น ข้าไม่รู้จะโจมตีฆ่ามันได้อย่างไร!
พวกเขาไม่รู้ว่าใช้ความพยายามไปมากมายเพียงไหน พวกเขาพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อฆ่าอสูรเทพที่ยังไม่หยุดการพัฒนาเติบโต  อย่างไรก็ตามทุกอย่างที่ทำไปล้มเหลว!
มารสัมฤทธิ์ฟ้าถ่มเลือดและส่งจักรพรรดิใต้พิภพขึ้นหลังจักรพรรดิมังกร  เขายืดเอวเชิดหน้า ใช้พลังไฟฟ้าทุบที่หน้าอกตนเองเพื่อกระตุ้นหัวใจให้เต้นแรงขึ้น  และหัวใจของเขาเต้นแรงอีกครั้ง
หัวใจของเขากลับมาเต้นตามปกติต่อ
ในดวงตาของมารสัมฤทธิ์ฟ้ามีประกายความปรารถนาจะต่อสู้อีก สายฟ้ามาปรากฏรอบตัวเขาอีกครั้ง
แม้ว่าตลอดทั้งร่างจะได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนคน เขากลัวว่าเมื่อเขาล้มอีกครั้งเขาจะตายหรือหมดความรู้สึกได้
เขากำหมัดแน่นไม่สนใจผู้ชม ไม่สนใจศัตรู แค่เดินนำเข้าประตูทางผ่านมิติ  ที่สำคัญคือพวกเขาสาบานว่าจะช่วยสนับสนุนเย่ว์หยางที่ต่อสู้อยู่ตามลำพัง  เมื่อเขาและจักรพรรดิมังกรผู้แบกจักรพรรดิใต้พิภพเดินผ่านจักรพรรดิฟู่โฉว  จักรพรรดิฟู่โฉวและบุรุษผมงูรู้สึกหัวใจสั่นไหว  ว่ากันในเรื่องของพลัง มารสัมฤทธิ์ฟ้าและสหายของเขาไม่ได้แข็งแกร่งที่สุดแน่  แต่จิตวิญญาณนักสู้ของพวกเขาดีที่สุดในกลุ่มผู้ชมดู ไม่มีใครเทียบได้
นักรบจากหอทงเทียนน่ากลัวเสมอ
ทำไมพวกเขาถึงได้แข็งแกร่งนัก?
เท่าที่ดูจากมารสัมฤทธิ์ฟ้าผู้นี้ พอจะบอกได้ว่านักรบเหล่านี้ไม่สามารถจะเอาชนะได้
ต่อให้ฆ่าเขาก็ตาม  เขาจะไม่ยอมทิ้งปณิธาน  เขาอาจตายได้  แต่เขาจะไม่มีทางแพ้  นี่คือนักรบหอทงเทียน  ไม่..เฉพาะมารสัมฤทธิ์ฟ้า แต่แม้แต่สหายของเขา และเจ้าสุนัขสกปรกที่ดูเหมือนจะเป็นอสูรเทพที่ซ่อนความสามารถไว้ลึกสุด  แม้แต่จ้าวสุริยาก็ยังต้องทุ่มสุดกำลังเพื่อฆ่าเย่ว์ไตตันให้ได้...

9 ความคิดเห็น:

ulomzx กล่าวว่า...

เฮ้อ ...เทพเขาจ้องตากันจนหมดเลยหรือนี่

oBABYVOXo กล่าวว่า...

พระเอกจะย้อนเวลาช่วยได้ไหมเนี่ย

oBABYVOXo กล่าวว่า...

หมายถึงช่วยฮีลแผล

Nasee กล่าวว่า...

ขอบคุณคับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

เดือนดับ กล่าวว่า...

ชื่อตอนน่าจะหมายถึงฮุยไท่หลาง แต่ก็เหมือนจะเหมารวมอีก3คนเข้าไปด้วย

Unknown กล่าวว่า...

สนุกมากครับ

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น