ตอนที่ 1066 อ่อนโยนกับเด็กบ้างได้ไหม?
“จะให้หมาฆ่าเด็กหรือ”
ทหารรับจ้างที่เคยส่งเสียงถามก่อนหน้านั้นเป็นเด็กหนุ่มอายุ 18-19 ปี เป็นผู้เยาว์วัยและเลือดร้อนที่สุดในกลุ่ม
ทันทีที่เขาเห็นฉากภาพโศกนาฏกรรม เขาแสดงความไม่พอใจต่อเทพเจ้า เขารีบวิ่งเข้ามาทันที
เขาดึงเท้าของคู่สามีภรรยาที่ถูกอสูรหุ่นรุมล้อม
ตั้งใจจะช่วยชีวิตผู้คน
ในเวลานี้เขาไม่สามารถรักษาเหตุผลของตนเองได้ และนึกไม่ออกว่าเหตุใดจึงทำเช่นนั้น
มีเงาร่างหนึ่งที่เร็วกว่าเขา เงานั้นกระแทกเขาจนล้มกับพื้น
ทหารรับจ้างหนุ่มน้อยล้มกับพื้น เขาตกตะลึงไม่เคยคิดเลยว่าการขัดขวางเขาจะมาจากด้านหลัง เมื่อเขาหันกลับไปมอง เขารู้สึกประหลาดใจที่พบว่าคนที่ออกมาห้ามตัวเขาไว้ กลับเป็นหัวหน้าที่เขานับถือเสมอมา
“ทำไม?” ทหารรับจ้างหนุ่มน้อยตื่นเต้นจนเขาไม่สามารถตั้งคำถามได้ ทำไมหัวหน้าของเขาจึงต้องห้ามเขาด้วย?
เขาควรจะสนับสนุนเขาไม่ใช่หรือ!
ไม่ใช่ เขาควรจะเร็วกว่าตัวเขาเอง และออกมาช่วยชีวิตคู่สามีภรรยาที่ถูกหุ่นสัตว์รบรายล้อมไว้
แต่หัวหน้าไม่เพียงไม่ทำอย่างนั้นเท่านั้น เขายังห้ามตัวเขาไม่ให้ช่วยเหลือผู้อื่น เขามีเหตุผลอะไรกัน? นี่คือหัวหน้าที่เขาเคารพเสมอมามิใช่หรือ? นี่คือหัวหน้าทหารรับจ้างที่แม่ของเขาไว้ใจให้ช่วยดูแลเขาหรือ? หากในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต ความอยากมีชีวิตและความกลัวตายลังเลที่จะก้าวไปข้างหน้า อย่างนั้นจะเป็นทหารรับจ้างที่มีคุณสมบัติได้อย่างไร? ที่สำคัญยิ่งกว่าเมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่น่าสลดใจที่สร้างความไม่พอใจให้กับมนุษย์และเทพเจ้าได้ ใครจะไม่เคลื่อนไหวเล่า ใครจะทนมองดูผู้อื่นตายโดยไม่ช่วยเหลือ?
ทหารรับจ้างหนุ่มลุกขึ้นขณะหลั่งน้ำตามองดูหัวหน้า เขาตะคอกเสียงแหลม “ทำไม ทำไมกัน”
หัวหน้าทหารรับจ้างไม่ตอบ เขาแค่ผลักเขากลับเข้ากลุ่ม
“ไม่ต้องมาแตะต้องข้า!”
ทหารรับจ้างหนุ่มตะโกนอย่างตื่นเต้นทันที “ท่านเป็นหัวหน้า ท่านอาจมีความกังวลของท่าน แต่ข้าเป็นทหารรับจ้างธรรมดา ไม่ต้องให้ท่านกังวลห่วงใยอีกแล้ว ตอนนี้ข้าตัดสินใจจะช่วยชีวิตผู้คน อย่ามาห้ามข้า! ไม่มีใครห้ามข้าได้! ข้าต้องช่วยชีวิตคนให้ได้ แม้ว่าข้าจะตายก็ตาม ข้าไม่อาจทนดูทั้งสามคนประสบเคราะห์กรรม... เมื่อเห็นว่าชีวิตมนุษย์กำลังตกอยู่ในอันตราย การเห็นความตายโดยไม่ช่วยเหลือเป็นการกระทำชั่วข้อแรก เป็นการละเมิดกฎของทหารรับจ้าง ท่านลืมสิ่งนี้หมดแล้วหรือ?”
เผียะ!
หัวหน้าทหารรับจ้างตบหน้าทหารรับจ้างหนุ่ม
ทหารรับจ้างหนุ่มเอามือลูบหน้า ตกตะลึงมองดูหัวหน้าทหารรับจ้าง “นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ท่านได้ตีข้า ต่อไปปล่อยข้าไว้คนเดียว เราต่างคนต่างมีแนวคิดที่แตกต่างกัน! ท่านเป็นหัวหน้า ท่านห่วงตัวท่านเองเถอะ ไม่ต้องมายุ่งกับข้าอีกต่อไป!”
“คิดถึงแม่ตาบอดของเจ้า คิดถึงน้องน้อยของเจ้า คิดถึงลูกของพี่ชายเจ้าให้ดี หากเจ้าต้องประสบภัยกับเรื่องนี้ ต่อไปพวกเขาจะอยู่อย่างไรกัน? ในอนาคตพวกเขาจะพึ่งพาใครได้? หากเจ้าไม่รอดชีวิต น้องสาวของเจ้าอาจต้องขายตัวเป็นทาส แม่ของเจ้าตาบอดไม่สามารถเลี้ยงดูหลานได้ตามลำพัง หรือจะพูดให้ถูก ครอบครัวเจ้าจะอดตายกันหมด! พ่อและพี่ชายที่เป็นวีรบุรุษของเจ้า ครอบครัวที่เจ้าประคับประคองอยู่มาได้หลายปีจะพังพินาศเพราะความวู่วามของเจ้า!” หัวหน้าทหารรับจ้างจับคอเสื้อของเขาเขย่าและตบหน้าจนแก้มเขาบวมแดง
“แต่ถ้าข้าเห็นคนตกอยู่ในอันตรายในชีวิตโดยไม่ทำอะไรเลย ข้ามีชีวิตต่อไปก็อับอายขายหน้าต่อชื่อเสียงท่านพ่อ” ทหารรับจ้างหนุ่มมองดูครอบครัวของคนสามคนที่ถูกอสูรหุ่นรุมล้อม ทหารรับจ้างหนุ่มเห็นคู่สามีภรรยาที่บาดเจ็บเสียเลือดเนื้อพยายามใช้เรี่ยวแรงอึดสุดท้ายอุ้มลูกไว้ ในวินาทีต่อไปคู่สามีภรรยานี้อาจไม่เหลือเรี่ยวแรงอีกต่อไป ทั้งครอบครัวจะถูกอสูรหุ่นฆ่าตาย
ไม่มีความช่วยเหลือก็ไม่มีโอกาสรอด
ความเจ็บปวดและสิ้นหวังทำให้ทหารรับจ้างหนุ่มที่เลือดร้อนขาดประสบการณ์ชีวิตหมดกำลังใจ
ทหารรับจ้างหนุ่มสูญเสียความรู้สึก ร่างของเขาสั่น สหายหลายคนถือโอกาสกอดเขาปลอบใจ บางทีพวกเขารู้สึกว่าพวกเขาไม่สามารถช่วยชีวิตผู้คนอีกต่อไป ทหารรับจ้างหนุ่มน้ำตาไหลและร้องไห้เหมือนเด็กที่ถูกรังแก “สวรรค์! ทำไม ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?”
เย่ว์หยางยังคงยืนนิ่ง
ไม่ส่งเสียง
มองดูทุกอย่างเงียบๆ
เมื่อทหารรับจ้างโต้เถียงกัน ทหารยามผู้เฝ้าสถานที่ก็ควบคุมอสูรหุ่นและหยุดการโจมตี
พวกเขาเดินมาทางทหารรับจ้างและเย้ยหยันล้อเลียน “โอว..นึกไม่ถึงว่าจะมีวีรบุรุษจริงๆ ในโลกนี้! ข้ากลัวแทบตายจริงๆ โชคดีที่เจ้าไม่ได้เป็นชนชั้นสูงของแดนดิน มิฉะนั้นเรามีร้อยหัว ก็คงไม่พอให้ตัด! มาเลย พวกเจ้าไม่อยากช่วยชีวิตคนหรือ? วันนี้ข้าจะให้โอกาสพวกเจ้า”
ทหารยามอีกคนหนึ่งหันหน้าไปตะโกนทางทาสชาย “ผู้ช่วยชีวิตของพวกเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว รีบร้องขอความช่วยเหลือเร็วเข้า!” คู่สามีภรรยาเห็นทหารรับจ้างหนุ่มแล้วหลับตาลงอย่างเจ็บปวด
แน่นอนว่าพวกเขาต้องการอยู่รอด
ไม่มีใครต้องการตาย
แต่อย่าว่าแต่กลุ่มทหารรับจ้างที่อยู่ตรงข้ามจะช่วยพวกเขาได้หรือไม่ ต่อให้ช่วยแล้วจะพากันหนีรอดได้ไกลแค่ไหน?
สำหรับเจ้าของเหมือง ทหารรับจ้างไม่ต่างอะไรกับมดแมลง ตราบใดที่พวกเขากล้าเริ่มต้น อย่างนั้นผู้บริสุทธิ์จะต้องเข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น... นี่ไม่มีหัวใจกันเลยหรือ?
“เจ้าอยากตายใช่ไหม? อย่างไรก็ตามเจ้าคงไม่ลืมลูกสาวเจ้าสินะ? คิดว่าลูกสาวเจ้าถูกกินอย่างไร?” ทหารยามเตือนด้วยใบหน้ายิ้มพูดให้ทั้งคู่ได้ยิน ใบหน้าของสตรีเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด นางต้องการจะพูด แต่บุรุษต้องการห้าม แต่นางดิ้นรนและส่งเสียงมาทางทหารรับจ้าง “พี่ชายทั้งหลาย ข้าขอร้องให้ช่วยเราด้วย โปรดสงสารลูกของข้าด้วย ได้โปรดช่วยเด็กที่ไร้เดียงสาด้วย ใครก็ได้ช่วยข้าออกไปที ได้โปรด...”
“นั่นแหละ ต้องอย่างนั้น!” ทหารทั้งสี่หัวเราะลั่น
“เสียงร้องไห้น่าอนาถวังเวงเหลือเกิน เจ้าขอให้ใครก็ได้อุ้มลูกสาวเจ้า เจ้าทำอย่างไม่มีความจริงใจได้อย่างไร?”
“เจ้ามั่นใจได้ เราจะให้โอกาสนี้กับเจ้า แต่เจ้าต้องพยายามอย่างหนัก อย่าทิ้งลูกสาวของเจ้าไว้บนพื้น ไม่เช่นนั้นหัวของแม่หนูน้อยถูกสุนัขข้ากัดเปิด แล้วอย่าหาว่าข้าไม่เตือนเจ้า ฮ่าฮ่าฮ่า!”
“เฮ้ ... พวกเจ้าที่ประกาศตัวเองว่าเป็นทหารรับจ้าง จะไม่ตอบรับอะไรเลยหรือ หรือว่าพวกเจ้าขี้ขลาดกันหมด?”
“ถ้าไม่มีใครร่วมมือ ก็ไม่มีอะไรสนุก ถ้าอย่างนั้นเราเลิกเล่นเกมได้แล้ว เจ้าตูบทั้งหลาย...จัดการได้!”
ทหารรับจ้างหนุ่มร้องไห้ในสภาพที่ย่ำแย่ เขาเกลียดสถานะตนเองนัก ทำไมเขาไม่ได้เป็นลูกขุนนางผู้สูงศักดิ์ ทำไมเขาถึงไม่มีกองทหารสักแสนนาย ทำไมเขาถึงเป็นลูกของทหารรับจ้างแก่ผู้น่าสมเพช เกิดมาไม่มีอะไรดี ไร้อำนาจวาสนาเหมือนกับมดแมลงน้อยที่น่าสมเพช ทำไมชีวิตของเขาถึงต้อยต่ำกว่าคนอี่น? ทำไมถึงไม่สามารถเปลี่ยนชะตากรรมผ่านการฝึกฝนหนักได้?
ทหารรับจ้างทุกคนพากันก้มหน้า
ทุกคนมีบ้านที่ตนเองต้องรับภาระเป็นเสาหลัก
พวกเขาไม่กล้านึกภาพว่าครอบครัวของพวกเขาจะเป็นเช่นไรหากเสาหลักของครอบครัวพังทลาย
บางทีภรรยาอาจถูกฆ่า ลูกที่น่ารักอาจถูกขายไปเป็นทาส บางทีภรรยาอาจคอยปกป้องค้ำจุนครอบครัว แต่เมื่อครอบครัวขาดรายได้ คนในบ้านหลายๆ คนอาจอดตายพร้อมกัน โครงกระดูกของพวกเขาอาจถูกสุนัขจรจัดแทะกิน...
ช่วยชีวิตคน ทุกคนก็อยากจะช่วย
แต่ทุกคนรู้ผลกระทบตามมาที่รุนแรงของการช่วยคนครั้งนี้
แม้ว่าพวกเขาต้องการช่วย แต่ 99% ไม่สามารถช่วยได้สำเร็จ เพราะเมื่อเทียบกับหุ่นสัตว์รบที่ทรงพลังของฝ่ายตรงข้ามแล้ว อสูรหุ่นของทหารรับจ้างไม่มีระดับ พวกเขาจะหลบหนีการไล่ล่าของผู้ล่านับไม่ถ้วนได้อย่างไร?
การเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่น่าสลดใจนี้ แม้แต่เทพเจ้าก็ยังไม่พอใจ
จะช่วยหรือไม่ช่วยดี?
คำตอบนี้มีแต่สวรรค์เท่านั้นที่ตอบได้ แต่เทพเจ้ามิได้ลืมตา ทั้งมิได้ชี้นำ หากไม่มีปาฏิหาริย์ ทุกคนไม่รู้จะทำอย่างไรเช่นกัน
“น่าผิดหวังเหลือเกิน เจ้ากลุ่มคนขี้ขลาด! เทียบดูแล้วดวงตาของทาสเหล่านี้ยังมีแววต่อต้านมากกว่า” ทหารยามแค่นเสียงเยาะเย้ย
“ทาสหญิงที่ถูกไล่ตามทันยังพร้อมจะเอาตัวกันหมาเหล่านี้ไว้ทั้งที่เจ้าหมาเหล่านี้ถูกส่งออกมาไล่ฆ่าแท้ๆ...”
เงาดำกลุ่มใหญ่กำลังใกล้เข้ามา และนั่นคือทาสที่ถูกล่ามมือและเท้า
ทาสประจำเหมือง
ทาสเหมืองหลายคนมีรอยถูกกัด เลือดหยดไหลออกจากบาดแผลที่น่ากลัว
เมื่อเห็นคนกลุ่มนี้ สตรีอดร้องไห้มิได้
แต่สายตาของผู้เป็นสามียิ่งสิ้นหวังมากขึ้น เพราะเขาเห็นนายกองคุมเหมืองเดินอยู่ด้านหลังของกลุ่มผู้คน มีองครักษ์คอยหนุนเสริม และแม่ทัพเหลยผาวผู้มีอำนาจสูงสุด เห็นชีวิตคนเหมือนกับผักปลา
คนเหล่านี้ล้วนแต่มีหุ่นอสูรที่แข็งแกร่งทั้งนั้น
“มีใครกล้ายืดอกเป็นวีรบุรุษอีกไหม? วีรบุรุษสักนาทีเดียวก็ยังดี!” องครักษ์ผู้มีชื่อถ่มน้ำลายลงพื้นกล่าวดูถูก “กลุ่มสวะทั้งนั้น”
“ข้าไม่ใช่วีรบุรุษ และไม่ใช่สวะ” เสียงหนึ่งดังขึ้น
หัวหน้าทหารรับจ้างยืนอยู่ข้างหน้ากลุ่มทหารรับจ้างเดินออกมาทันที ในท่ามกลางสายตาที่อยากเชื่อของทหารรับจ้างหนุ่ม เขาเดินไปช้าๆ ที่ร่างคู่สามีภรรยาที่โชกเลือดโดยไม่สนใจหุ่นอสูรที่ล้อมรอบ และค่อยๆ ยื่นมือ “ถ้าเจ้าเชื่อใจข้า ข้าจะพาหนูน้อยไปเอง ครอบครัวข้ามีลูกห้าคน ข้าไม่ถือสาที่จะเลี้ยงดูเพิ่มอีกสักคน อย่างไรก็ตาม ข้าเองไม่กล้ารับประกัน ข้าแค่บอกได้ว่าข้าแค่หาอาหาร เสื้อผ้าให้เธอได้เท่านั้น”
บุรุษร่างโชกเลือดไม่สามารถพูดได้อีก
เขายืดตัวตรง
และทิ้งเข่าลงกับพื้น
ใต้เข่าบุรุษมีค่าเท่ากับทอง บุรุษผู้นั้นถูกอสูรหุ่นกัดเลือกโชก และเขาไม่เคยคุกเข่าขอความเมตตา เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก
อย่างไรก็ตามด้วยคุณธรรมของหัวหน้าทหารรับจ้างทำให้เขาไม่สามารถแข็งขืนยืนอยู่ได้ เพราะพระคุณครั้งนี้หนักแน่นยิ่งกว่าภูเขา ลึกล้ำยิ่งกว่าท้องทะเล นอกจากประกาศขอบคุณเขา เขานึกหาวิธีแสดงความขอบคุณเขาไม่ออก
สตรีผู้เป็นมารดาสะอึกสะอื้น หัวใจนางทั้งตื่นเต้นและเศร้าสร้อย
ในที่สุดลูกสาวของนางก็ปลอดภัย
อย่างไรก็ตามลูกสาวของนางจะต้องจากนางไปในไม่ช้า และนี่จะเป็นการอำลา... นางกอดเงาสีดำเล็กๆ ในอ้อมแขน และจูบหน้าดำของเธอ และจูบมือน้อยๆ ที่ยังแข็งแรงไม่พอ
“อย่าทำอย่างนั้น” บุรุษนั้นกังวลใจรีบส่งเด็กออกไป เมื่อแม่ทัพเหลยผาวมาถึง ลูกสาวของเขายังจะรอดชีวิตหรือเปล่า? เขาฝืนใจอุ้มลูกสาวจากอ้อมแขนภรรยาและสูดหายใจลึกก่อนโยนลูกไปทางกลุ่มทหารรับจ้างในขณะที่อสูรหุ่นกำลังวิ่งเข้ามา “พี่ชาย ขอให้ท่านโชคดี ชาติหน้าข้าค่อยชดใช้หนี้บุญคุณให้ท่าน!”
“ฮึ่ม!” หัวหน้าทหารรับจ้างถูกอสูรหุ่นรายล้อมพยายามสู้ไม่ยอมให้อสูรหุ่นกัด เขาเหยียดแขนต้องการรับทารกหญิงที่บิดาของเธอโยนออกมา
ที่ด้านข้างของแม่ทัพเหลยผาว
มีอสูรหุ่นร่างมนุษย์สูงสามเมตรควงหอกในมือราวกับสายฟ้าแล่บ
วืดดดดดด
หอกนั้นพุ่งเร็วกว่าลูกธนูถึงสิบเท่า พุ่งเข้าที่หน้าอกของหัวหน้าทหารรับจ้างทันที หอกนั้นมีความคมมากประกอบกับซัดด้วยกำลังแรงจึงทะลุออกหลังตรึงกับร่างหัวหน้าทหารรับจ้างกับพื้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ขณะมองดูทารกหญิงกำลังร่วงศีรษะอยู่ล่างเท้าอยู่บน แม่ทัพเหลยผาวลูบเคราด้วยความพอใจกับท่าตกนั้นอย่างยิ่ง
เขาหัวเราะปากพลางกล่าว “วีรบุรุษ ไม่มีใครเป็นได้หรือ! อา?”
ทารกหญิงร่วงลงจากท้องฟ้าอย่างแปลกประหลาด
แต่ไม่หล่นในฝูงอสูรหุ่น
กลับร่วงลงห่างออกไปสิบเมตรในอ้อมอกเด็กหนุ่มคนหนึ่ง
เด็กหนุ่มคนนี้ลูบใบหน้าสกปรกของทารกหญิงและพูดด้วยสำนวนประหลาด “อยู่ต่อหน้าคนรักเด็ก พวกเจ้าอ่อนโยนกับเด็กทารกบ้างได้ไหม?”
7 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
ค้างๆๆๆรอดูว่าอาหยางจะจัดการอย่างใร
ใจจ้า
เห็นไหม...พระเอกมาาาา
มึงนี่ก็ลีลาเหลือเกินไอ้เวร ช้วยๆไปก็ตบละ
ถ้าเยว์หยางวู่วามคงมาไม่ถึงพันตอนแน่นวล
แสดงความคิดเห็น