วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1065 สวรรค์โปรดลืมตาเถิด!



ตอนที่  1065  สวรรค์โปรดลืมตาเถิด!

เย่ว์หยางตื่นขึ้นเกือบเที่ยง  มีทหารรับจ้างมากกว่าสิบคนเห็นประกาศจากภายนอก พวกเขาเข้าไปในพื้นที่ทำเหมืองด้วยกัน


ทหารรับจ้างหลายสิบคนนั้นไม่มีคนที่เป็นผู้เกิดใหม่เลย

ทุกคนเป็นรุ่นลูกหลานของผู้เกิดใหม่รุ่นก่อน

ในหุบเขามนุษย์  ผู้เกิดใหม่แม้ว่าจะถูกห้ามใช่วิทยายุทธ์ แต่พวกเขายังมีความแข็งแรงเป็นของตนเอง  แม้ว่าพวกเขาจะยากจนหรือหิวจนตายได้ แต่พวกเขาไม่เลือกที่จะก่ออาชญากรรม และในฐานะเป็นผู้เกิดใหม่ก็มีความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเช่นกัน ไม่อย่างนั้นใครเล่าจะท้าทายหุบเขามนุษย์เพียงคนเดียวเล่า  ย้อนกลับไปเมื่อประสบความสำเร็จในการผ่านด่านที่หก หุบเขาปีศาจ แม่เฒ่าซาลามันด์เผชิญหน้ากับหุบเขามนุษย์ ยังต้องหลีกหนีอย่างยากลำบาก

ดังนั้นเขาไม่ต้องการทราบถึงความยากลำบากในการผ่านด่านหุบเขามนุษย์

ยิ่งการผ่านด่านมากขึ้นเท่าใด การอยู่ในหุบเขามนุษย์ก็นานมากขึ้นเท่านั้น

ผู้ท้าทายที่เกิดใหม่หลายคนอาจไม่สามารถไปจากหุบเขามนุษย์ได้ตลอดชีวิต  นอกจากนี้ผู้เกิดใหม่บางส่วนแม้ว่าจะสามารถจากไปได้  แต่เพราะอยู่ในหุบเขามนุษย์มาเป็นเวลานาน ไม่สามารถทนอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายได้จึงแต่งงานมีลูกมีหลาน....  เพราะเงื่อนไขในการนำผู้คนออกไปสูงเกินแม้ว่าจะเป็นสมาชิกครอบครัวที่สำคัญที่สุดก็ตาม  ผู้เกิดใหม่ต้องไปจากหุบเขามนุษย์ แต่ก็ต้องพิจารณาอย่างระมัดระวัง  ไม่ต้องพูดถึงกาลเวลาที่ต่อเนื่องทายาทของผู้กลับมาเกิด อาจมีซ้ำกันหรือต่อเนื่องกันหลายรุ่นกลายเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ขนาดใหญ่หลายพันคน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะพาพวกเขาไปได้ทั้งหมด

คนเหล่านี้ต้องอยู่ร่วมกับผู้เกิดใหม่ของหุบเขามนุษย์ซึ่งผสมผสานรวมกันจากรุ่นสู่รุ่น

ลูกหลานส่งต่อกันถึงรุ่นต่อไป

หากสถานะเกิดใหม่ของบรรพบุรุษรุ่นต้นๆ มีสถานะระดับสูง บางทีแม้แต่คนที่รักยังพลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย  อย่างไรก็ตามถ้าในบรรพบุรุษผู้เกิดใหม่นั้นมีสถานะสามัญชน  อย่างนั้นลูกหลานรุ่นหลังก็ต้องทำงานอย่างหนักเพื่ออยู่รอดให้ได้

โดยรวมกันนี้อาจเป็นพ่อค้าหรือทหารรับจ้างก็ได้

สามัญชนก็คือคนธรรมดาทั่วไป และแน่นอนว่าก็คือคนจนผู้ขายแรงงานให้คนอื่นเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง  ท้ายที่สุดก็คือทาสที่สูญเสียอิสรภาพ พวกเขาขายตนให้คนอื่นแลกเปลี่ยนเงินให้ครอบครัวได้มีชีวิตต่อไปได้... ทหารรับจ้างนับสิบที่เข้ามาในหุบเขาด้วยกันพร้อมกับเย่ว์หยาง อาจเป็นทายาทที่ตกค้างมาหลายรุ่น

ในคนพวกนี้สายเลือดผู้เกิดใหม่เจือจางมากแล้ว

พลังก็อ่อนแอมาก

คนที่แข็งแกร่งที่สุดแค่ปราณดินระดับห้า

ถ้ามีความแข็งแกร่งระดับนี้ไปที่หอทงเทียนก็ยังนับว่าไม่เลว  แต่ที่นี่คือหุบเขามนุษย์  ผู้เกิดใหม่ก็คือสุดยอดนักสู้  ต่อให้มีฝีมือระดับอ่อนแอที่สุดสวะที่สุดก็ยังมากกว่าปราณฟ้าระดับห้า  พลังปราณดินระดับห้าไม่ควรแก่การเหลียวแล

โชคดีที่หุบเขามนุษย์ห้ามมิให้ใช้วิทยายุทธ์  มิฉะนั้นคนอื่นอาจฆ่ากันได้โดยใช้เพียงนิ้วเดียว

 “เจ้ามีหุ่นรบด้วยหรือ?”  ผู้นำในหมู่พวกเขามีที่ดูคล้ายเย่ว์หยางบ้าง  เพราะในสายตาของพวกเขา  ความแข็งแรงระหว่างบุคคลไม่สำคัญเลย สิ่งสำคัญที่ต้องมีก็คือ แต่ละคนจะมีหุ่นรบซึ่งมีพลังแตกต่างแล้วประเมินว่ามีความแข็งแกร่งไม่เบาเลย  ตามธรรมดาพวกเขาเห็นเย่ว์หยางห้อยดาบซึ่งเหมือนเป็นเครื่องประดับไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับพวกเขา  โชคดีที่สถานะทหารรับจ้างของพวกเขาอยู่ในระดับต่ำมาก ไม่ต้องพูดเรื่องกล้าอวดอ้างกำลังต่อหน้าเย่ว์หยางที่เป็นเหมือนกุ้งน้อย

 “ใช่”  เย่ว์หยางอยากจะพูดปฏิเสธ  แต่เขารู้สึกว่าถ้าเขาพูดไป ฝ่ายตรงข้ามจะฉวยโอกาสเป็นลูกพี่  และเพื่อไม่ให้เกิดคำพูดรกหูเย่ว์หยางตัดสินใจพูดจริง

 “ระดับไหนกันนี่?”  คนหัวโจกตกใจ   เจ้าเด็กนี่เป็นทหารรับจ้างกุ้งแห้งที่ยากจน หายใจก็ยังยากลำบากไม่ใช่หรือ?

 “เจ้าถามถึงชั้นบรอนซ์ เงิน หรือทอง?”  เย่ว์หยางถาม

 “เจ้ามีด้วยหรือ?”  ทหารรับจ้างอีกคนที่ได้ยินโดยบังเอิญถึงกับตกใจ  ทหารรับจ้างธรรมดาแต่มีหุ่นรบด้วย ทั้งสองเงื่อนไขมีข้อจำกัดอยู่แล้ว นี่เป็นของการต่อสู้มาตลอดชีวิต คนหนุ่มสาวธรรมดามีไม่ได้ ในหุบเขามนุษย์นอกจากผู้ควบคุมกองทัพแล้ว ใครจะนำกลุ่มหุ่นรบมาด้วยเล่า?

 “ข้ามีบรรพบุรุษเป็นผู้เชี่ยวชาญในการค้นคว้าหุ่นรบ”  เย่ว์หยางบอกว่าบรรพบุรุษของเขาใจกว้างฟุ่มเฟือย แต่ก็ทำให้เขาพอใจ

 “มิน่าเล่า!  หัวหน้าทหารรับจ้างตระหนักได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

ในเวลานั้นเมื่อเขาได้ยินว่าบรรพบุรุษของเย่ว์หยางเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านหุ่นรบ ทัศนคติของทหารรับจ้างที่มีต่อเย่ว์หยางเปลี่ยนไปทันที ไม่ว่าลูกหลานจะผสมเปลี่ยนแปลงไปเพียงใด บรรพบุรุษก็ยังยอดเยี่ยมพวกเขามีมรดกทางวัฒนธรรม  นี่คือสิ่งที่เงินจำนวนมากมิอาจหาซื้อได้

เมื่อพวกเขาเข้าไปในพื้นที่เหมืองเพื่อลงทะเบียนบอกสถานะตน ทุกคนพากันเข้าแถวต่อท้ายเย่ว์หยางอย่างเห็นได้ชัด

แม้แต่หัวโจกทหารรับจ้างก็ยังถ่อมตัวปฏิเสธจะขึ้นมายืนนำ

แต่เย่ว์หยางกลับโบกมือพัลวัล และขอให้หัวหน้าทหารรับจ้างมาอยู่หัวแถวแสดงถึงทัศนคติที่ถ่อมตนและเป็นผู้เยาว์ที่ได้รับการศึกษามาดีไม่ใช่ธรรมดา ทำให้พวกทหารรับจ้างรู้สึกประทับใจ

ถามตนเองดู ถ้ามีหุ่นสัตว์รบเก็บไว้แล้ว ไม่เอามาอวด แต่กลับห้อยดาบแทน หมายความว่ายังไง?

โลกนี้มีกี่คนที่เก็บตัวซ่อนความสามารถได้อย่างแท้จริง?  โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนุ่มสาวผู้มีความภูมิใจเย่อหยิ่ง!

 “เข้าสู่พื้นที่ทำเหมืองไม่ได้หมายความว่าเรายอมรับงานที่พวกเจ้าจัดไว้!  นอกจากนี้ของฝากผลึกฟ้าคืออะไร?  ข้าไม่เคยได้ยินว่าเข้าเหมืองต้องจ่ายเงินผลึกสวรรค์   นี่ก็เป็นแนวคิดแบบเดียวกัน พวกเจ้ารับสมัครคนงานที่นี่ไม่ใช่หรือ?”  ทันทีที่หัวหน้าทหารรับจ้างเห็นสภาพเมื่อพวกเขาเข้ามาในหุบเขา  เขาโมโหทันทีทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มทำงาน  เขาต้องจ่ายเงินหนึ่งผลึกสวรรค์ก่อน นี่มันเหตุผลอะไร?

 “ไม่ทำก็ไสหัวไป!  ทหารยามเป็นเหมือนสุนัขอารมณ์ไม่ดีที่ส่งเสียงเห่า

 “อะไรนะ?”  แม้ว่าทหารรับจ้างมักจะโดนดูถูก แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะพลาดพลั้งผิดพลาดบางอย่าง    ถ้าพวกเขาทำงานผิดพลาด พวกเขายอมรับการตำหนิได้  แต่ตอนนี้ถ้าพวกเขายังไม่ทันเข้าประตู กลับถูกมนุษย์ตาสุนัขบางคนดูถูก เขาจะไม่โกรธได้อย่างไร?

 “หลายวันมานี้ บิดาอารมณ์ไม่ดี เจ้าจงไสหัวไปเดี๋ยวนี้  มิฉะนั้นพวกเจ้าทั้งหมดจะถูกจับเป็นทาส!  ทหารยามที่ทำหน้าที่ดุร้ายนัก

 “เสียงดังอย่างนี้ เจ้าเห็นไหม?”  ผู้นำทหารรับจ้างรู้ว่าเขานำกลุ่มมาที่นี่เพื่อหางานทำเลี้ยงชีพ ไม่ใช่มาเพื่อทะเลาะ  ในฐานะหัวหน้าเขาต้องอดทนมากกว่า  เขาสูดหายใจลึก และข่มความหงุดหงิดหันหน้าไปหาเย่ว์หยาง คล้ายจะถามความเห็นว่าจะอยู่ต่อไหม?

 “ไสหัวไปได้แล้ว มิฉะนั้นบิดาจะปล่อยสุนัขไล่กัด อย่านึกว่ามีทหารรับจ้างที่มีหุ่นรบคร่ำคร่ามาด้วยแล้วเจ้าจะอวดเบ่งได้   ข้าจะบอกให้ ตราบใดที่พวกเจ้ากล้าต่อต้านวุ่นวาย พวกเจ้าจะถูกจับขังคุกมืด ข้อหาบุกรุกพื้นที่ชนชั้นสูง!  มีทหารทำหน้าที่สี่คน แต่ท่าทีของพวกเขาหยิ่งยโส

มีสองคนปรากฏตัวข้างหน้ากลุ่มทหารรับจ้าง

แน่นอนว่าถ้าถูกกล่าวหาว่าบุกรุกแย่งชิงพื้นที่ของชนชั้นสูง  นั่นเป็นความผิดร้ายแรงที่ไม่มีใครรับได้

แม้ว่าจะไม่ใช่การก่อกบฏ แต่ก็นับว่าเป็นความผิดที่ใกล้เคียง... หากถูกจับได้ก็ต้องขังคุกมืด และเป็นไปได้ว่าอาจถูกลงโทษประหารชีวิต

หัวหน้าทหารรับจ้างขมวดคิ้ว และรีบโบมือให้สหายพวกเขาถอยทันที  เขาไม่ต้องการขัดแย้งกับสี่ทหารวายร้าย  เพื่อไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามใช้แผนร้ายยัดข้อหาบุกรุกที่ของชนชั้นสูง

ขณะที่หัวหน้าทหารรับจ้างเตรียมจะนำกลุ่มของตนจากไป  ทันใดนั้นมีเสียงวุ่นวายดังมาจากเหมือง

เสียงผู้คนโห่ร้อง

เสียงฝีเท้าสับสนไม่เป็นระเบียบจากที่ไกลเริ่มดังใกล้เข้ามาทุกที....

ในเวลาไม่กี่สิบวินาที ก็มองเห็นเงาร่างสองสายหนีออกมาจากด้านข้าง ด้านหลังมีหุ่นสัตว์รบหลายตัวตาสีแดงกำลังไล่ตาม

เย่ว์หยางมองดูจากระยะไกลตอนแรกพบว่าเป็นเงาดำที่กำลังเคลื่อนไหว ทุกคนไม่ได้แต่งตัวดี ร่างกายสกปรกมอมแมมคาดว่าน่าจะเป็นทาสคนงานประจำเหมือง   เช่นเดียวกันกับเงาสองสายที่วิ่งขึ้นข้างหน้า  เงาดำซ้ายมือแม้มองผ่านๆ ก็ดูออกว่าเป็นสตรี เงาดำด้านขวาเป็นบุรุษร่างผอมสูง และในอ้อมกอดเป็นเงาดำสกปรกสีดำ  เย่ว์หยางคาดว่าเงาดำเล็กนั้นน่าจะเป็นบุตรของคนทั้งสอง   หลังจากผ่านไปนานพลังความแข็งแรงของทั้งสองคนลดน้อยลง และยากจะรักษาฝีเท้าพวกเขาได้  ฝีเท้าของพวกเขาเริ่มยุ่งเหยิง

ความเร็วช้าลงทุกที

สัตว์หุ่นรบไม่รู้จักเหนื่อย ความเร็วของพวกมันไม่เพิ่มขึ้น  แต่ก็ไม่ตกลงเช่นกัน

ในพริบตามันไล่ตามเข้ามาใกล้หญิงสาวที่ค่อนข้างล้าหลังและอ้าปากเกือบงับถูกน่องของนาง... บุรุษคนนั้นรีบพยายามดึงมือสตรีผู้นั้นซึ่งกำลังจะตกเป็นเหยื่อของหุ่นสัตว์รบ แต่ไม่ได้ตระหนักเลยว่าทหารยามได้ถูกส่งไปเพื่อสกัดขัดขวางเขาไว้แล้ว  เขามัวแต่สนใจด้านหลังไม่ได้สนใจการจู่โจมจากด้านหน้า และถูกจู่โจมโดยหุ่นสัตว์รบรูปหมาป่า

เขาล้มลงกับพื้นทุกคนทันที

บุรุษคนนั้นตอบสนองอย่างรวดเร็วและคว้าเงาดำเล็กไว้ทันเวลา

แต่หุ่นสัตว์รบรูปหมาหมาป่าอ้าปากกัดแขนของบุรุษนั้นจนเนื้อฉีก เลือดฉีดพุ่งกระจาย

 “เป็นไปไม่ได้?”  ทหารรับจ้างร้อง  “ถ้าไม่มีเหตุผลโจมตี หุ่นสัตว์รบไม่มีทางทำร้ายมนุษย์ได้!

 “นี่เป็นเพราะสามีภรรยาถูกตัดสินว่ามีโทษ”  หัวหน้าทหารพูดเย็นชา

 “เป็นไปได้อย่างไร  พวกเขาไม่ได้ติดอาวุธและไม่ได้รุกราน”  พวกอดีตทหารรับจ้างไม่อยากจะเชื่อ  “กฎสวรรค์ปกป้องมนุษย์อย่างเรา   พวกมันเมินข้ามกฎสวรรค์มาทำร้ายเราได้อย่างไร  นี่เป็นไปไม่ได้!

 “ความจริง หุบเขามนุษย์มีตำนานที่น่ากลัวมาอย่างยาวนานแล้ว”  หัวหน้าทหารรับจ้างหวาดกลัวพยายามลดเสียง  “เมื่อได้รับการอนุมัติจากเทพแห่งความขัดแย้งพวกเขาจะระบุว่าสามัญชนอย่างเราทุกคนเป็นศัตรู  กฎสวรรค์คุ้มครองความอยู่รอดของมนุษยชาติ  แต่พวกเขาบิดเบือนกฎสวรรค์และปฏิบัติต่อคนส่วนใหญ่ในฐานะ คนบาป ผู้สามารถโจมตีเพื่อเอาตัวรอดได้”

 “.....”  ทหารรับจ้างได้ยินข้อมูลลับนี้แล้ว พวกเขารู้สึกหนาวสะท้านไปหมด

ไม่ไกลจากหน้าเย่ว์หยาง มีหุ่นสัตว์รบสองสามตัวกระโจนเข้าหาบุรุษเตรียมฉีกเขาและเงาดำเล็กในอ้อมกอดเขาให้เป็นชิ้น

บุรุษผู้นั้นพยายามต่อสู้อย่างหนัก  แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาไม่สามารถเอาชนะหุ่นสัตว์รบรูปหมาป่าได้

เขาคำรามเบาๆ

รวบรวมพลังสุดท้ายในร่างกายและผลักก้อนเงาดำในอ้อมแขนให้พ้นจากการโจมตี  หุ่นสัตว์รบเมื่อพบว่าเป้าหมายเล็ดรอดหลบไปได้ มันตามมาทันทีและอ้าปากใหญ่พร้อมจะบดขยี้ศีรษะของเงาดำเล็กๆ นั้น

สตรีผู้ที่ถูกหุ่นสัตว์รบหลายตัวรายล้อมไว้ ไม่รู้ว่ารวบรวมแรงมาจากไหนนางรีบเข้ามากอดร่างเงาดำเล็กไว้

นางชูร่างเงาดำเล็กไว้

นอกจากการปกป้องที่อ่อนแอที่สุดนี้แล้ว  ในฐานะมารดา นางไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้...  “ดี.. แทะขาของนางก่อน ฮ่าฮ่าฮ่า  เริ่มแทะจากหลังเท้าก่อน  ค่อยๆ แทะขานางเรื่อยๆ  แล้วค่อยกินเด็กนั้น อย่ากัดนาง อย่ากัดนาง  ต้องแน่ใจว่านางจะต้องเห็นลูกถูกกิน...ฮ่าฮ่าฮ่า  ฉากที่ซาบซึ้งตรึงใจนี้ ยอดเยี่ยมเป็นบ้า!  ทหารทั้งสี่ที่ปฏิบัติหน้าที่หัวเราะลั่น

 “ไม่!  บุรุษคนนั้นส่งเสียงคำรามตะเกียกตะกายเลือดท่วมวิ่งมาหาสตรีและเด็กนั่น

ในฐานะบุรุษ เขาไร้พลังอำนาจจะปกป้องลูกและเมีย

สิ่งที่ทำได้ก็คือให้เขาตายก่อนพวกเขา

แม้ว่าชีวิตจะหมดหวังไปนานแล้ว  แต่ก็ยังมีความหวังในใจของเขาว่ากฎสวรรค์ที่เทพสร้างไว้จะมีปาฏิหาริย์เพื่อไม่ให้คนเลวพบช่องโหว่อีกต่อไปคนจนจะต้องมีชีวิตอยู่ได้  อย่างน้อยเขาจะไม่ยอมตายกับการกระทำสมรู้ร่วมคิดกับหุ่นสัตว์รบ  เขาต้องการให้มีความตั้งใจเดิมของนางพญาผู้พิชิตในการสร้างหุ่นนักรบเพื่อปกป้องสามัญชน!

 “สวรรค์, ได้โปรดลืมตาเถิด!  บุรุษผู้ถูกหุ่นสัตว์รบจำนวนมากรายล้อมคำรามอย่างเศร้าสร้อย

4 ความคิดเห็น:

oBABYVOXo กล่าวว่า...

ค้างงง

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

Emptiest กล่าวว่า...

เก่งแต่กับเด็กเนอะ

chay กล่าวว่า...

เอาแล้ว พี่เย่จะแก้ปัญหาไง

แสดงความคิดเห็น