วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1124 แนะนำขัดเกลาเขาให้เปล่งประกาย



ตอนที่  1124  แนะนำขัดเกลาเขาให้เปล่งประกาย

หลังจากพักผ่อนมาทั้งคืนให้จักรพรรดินีเทียนฟาปรนนิบัติเย่ว์หยาง เขากลับไปหอพักนักศึกษาอย่างมีความสุข


พอออกมา

ปรากฏว่าพบเห็นคุณชายหมิงจูกำลังนั่งอยู่หน้าเตียงของเขา

หน้าของเขาแย่ ราวกับว่ามีคนติดหนี้สักสามล้าน

เย่ว์หยางเพิกเฉยต่อสายตาอำมหิตและยิ้มให้ เขาเข้ามานั่งข้างคุณชายหมิงจูเหยียดแขนโอบไหล่สหายผู้ซึ่งกล่าวกันว่าสามารถไปเที่ยวผู้หญิงด้วยกันได้เพื่อทำให้อุดมคติของชีวิตสมบูรณ์  คุณชายหมิงจูหันมาจับมือของเขาและปัดออกไปทันที  เย่ว์หยางหัวเราะและกล่าวขอโทษ  “ข้าผิดเอง ข้าไม่ควรปล่อยให้เจ้าอยู่คนเดียวและแอบไปหาความสุข แต่เจ้าก็รู้ใช่ไหมว่าข้าไม่ใช่คนเคร่งครัดธรรมเนียม เพียงแต่เจ้าไม่มีประสบการณ์ชีวิตของมนุษย์ หน้าของเจ้าก็บาง ข้าก็อยากพาเจ้าไปเที่ยวด้วยนะ แต่เจ้าไม่เต็มใจ..  ก็ได้ ไม่ต้องโกรธแล้ว ข้ายอมรับว่าข้าผิด ไม่เป็นไรตราบเท่าที่เจ้าไม่โกรธ จะให้ข้าทำอะไรก็ได้”

 “จริงหรือ?”  คุณชายหมิงจูหันกลับมาทันที  ดวงตาสุกใสจ้องมองเย่ว์หยาง

 “อะแฮ่ม.. แน่นอน ถ้าเจ้าต้องการดวงจันทร์บนฟากฟ้านภากาศ ข้าไขว่คว้ามาให้เจ้า”  เพื่อให้คุณชายหมิงจูพอใจ เย่ว์หยางตัดสินใจทุ่มเททุกอย่าง

 “ถ้าอย่างนั้นเจ้าไปเก็บดวงจันทร์มาให้ข้า!  คุณชายหมิงจูแค่นเสียง เขาพูดอย่างนั้นได้ยังไง?

 “เจ้าไปเอาบันไดสวรรค์มาให้ข้าก่อน ข้าจะได้ไต่ขึ้นไปหยิบมาให้เจ้า”  เย่ว์หยางกางมือและพูดว่าแม้เขาจะมีความสามารถในการเก็บดวงจันทร์  แต่เขาไม่มีบันไดไต่ขึ้นฟ้า ไม่อาจช่วยทำตามคำขอคุณชายหมิงจูได้ หมิงจูเห็นเขาเจ้าเล่ห์ก็หายโกรธไปส่วนใหญ่แต่ก็ยังโกรธอยู่

 “บันไดไต่สวรรค์ข้าไม่มี ต่อให้เจ้าโม้  เจ้าก็ไม่สามารถทำอะไรได้ แม้เจ้าจะพูดเป็นหมื่นเรื่องก็ตาม”  คุณชายหมิงจูยังอารมณ์เสีย

 “ดูถูกกันเกินไปแล้ว!  เย่ว์หยางทำท่าเหมือนต้องการดวลกับคุณชายหมิงจู  จากนั้นจ้องมองกลับแสร้งทำเป็นโกรธ  “ถ้าพูดแบบนี้อีก ข้าต้องโกรธ ข้าอุตส่าห์ยินดีทำเพื่อเจ้าที่เป็นสหาย แม้ว่าเจ้าจะขอข้าเรื่องภาพลับที่ข้าสะสมไว้  ข้าก็ไม่ลังเลยินดีเอาออกมาอวดกัน..  เจ้าอย่ามาโทษข้าก็แล้วกัน นี่คือสิ่งที่ข้าชอบมากที่สุด เจ้าจะขอยืมไปศึกษาข้าก็ไม่ว่า นี่จะช่วยให้เจ้ามีอารมณ์ร่วมในอนาคต  ข้าดีต่อเจ้าแค่ไหน เจ้าเข้าใจผิดข้าไปเอง!

คุณชายหมิงจูดูภาพสาวฮาเร็มและมองหน้าเย่ว์หยาง

เขาพูดไม่ออกอยู่นาน

เย่ว์หยางเอาภาพลับวังที่มีน้ำพุให้คุณชายหมิงจูดู “ระวังด้วยเวลาศึกษาอย่าทำยับ  อย่าทำหายแม้แต่หน้าเดียว  เราต้องใช้...”

ปฏิกิริยาแรกของคุณชายหมิงจูโกรธต้องการฉีกหนังสือแล้วใส่จมูกเย่ว์หยาง

แต่กลับเปลี่ยนใจและยิ้ม

ตอนแรกเขาเก็บรวมฉบับที่ไม่ได้แก้ไขทั้งหมด

จากนั้นจับไหล่ของเด็กหนุ่มจากโลกอื่นและยิ้มให้เขา  “ไม่เลว เจ้าทำได้ดีแล้ว แต่แค่นี้ยังไม่พอ  เจ้าต้องเอามาอวดมากกว่านี้”

คุณชายสามรู้สึกว่าเหมือนเขากำลังหลั่งเลือด เมื่อเขาได้ยินเขาตกใจและถามด้วยความวิตก “เจ้าต้องการอะไร?   ข้าผ่านหนาวผ่านร้อนมาก็ย่อมทำเช่นนั้น”

คุณชายหมิงจูรีบปลอบโยนเขา  “ไม่มีใครต้องการให้เจ้าไปผ่านร้อน  ข้ารู้สึกอึดอัดเล็กน้อยกับใบหน้าที่ยิ้มไม่จริงใจตลอดทั้งวัน  มันยังจะดีกว่าถ้าสีหน้าของเจ้าจริงจังมากที่สุด ทำอย่างนั้นจะดูดี และข้าจะยอมอภัยให้เจ้า”

 “ไม่!  คุณชายสามปฏิเสธเด็ดขาด “ซื่อสัตย์เป็นการแสดงออกที่ดีที่สุด ต้องแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา กล่าวอีกอย่างหนึ่ง เมื่อข้าเอาจริงจัง ข้าจะมีสง่าราศีจับใจ หล่อเกินไปก็ไม่ดีมักจะมีคนอิจฉาเสมอ ที่สำคัญก็คือต้องทำตัวให้สำคัญน้อยและรู้จักวิธีอำพรางตัวตน  ข้าขอบอกเจ้าเลยว่าเมื่อข้าอยู่ในวัยเด็กไปโรงเรียน พวกคุณครูวิพากษ์วิจารณ์ข้าต่อหน้านักเรียนทำให้ข้าอดหัวเราะไม่ได้ เพราะความหล่อของข้าส่งผลต่อการสอนของนางและยิ่งส่งผลต่อการเรียนรู้ของเด็กๆ สำหรับการเติบโตก้าวหน้าของเด็กที่เป็นอนาคตของประเทศ  ข้าต้องทำตัวให้มีความสำคัญน้อยลง และยิ่งมีชื่อเสียงมากขึ้นข้าจะยิ้มได้ทุกวันหรือ  แต่สำหรับอนาคตบ้านเกิดเมืองนอนและความสุขของเด็กๆ ข้าเสียสละได้ คนที่ยอดเยี่ยมอย่างข้าเจ้าคงไม่เคยเห็น?”

 “ข้าไม่เคยเห็นคนหน้าด้านอย่างเจ้า!

เมื่อได้ยินเรื่องไร้สาระของเย่ว์หยาง ความหงุดหงิดในใจของคุณชายหมิงจูหายไปเกินกว่าครึ่งโดยไม่รู้ตัว

ในที่สุดคุณชายหมิงจูอดหัวเราะไม่ได้  เขาอยากจะโกรธ แต่ก็โกรธไม่ลง เจ้าผู้นี้เป็นคนแบบนี้ หากไม่ทำให้คนอื่นหัวเราะได้ นับว่าไม่ใช่ตัวดี

หลังจากคุณชายหมิงจูโกรธแล้ว เขาอารมณ์ดีและออกไปที่ประตู เห็นคุณชายฉีมู่หัวเราะเต็มที่

จึงถีบเขากระเด็น

บุรุษผู้เป็นเหมือนแมลงสาบนี้ยากจะฆ่าได้ มีรอยรองเท้าประทับอยู่บนหน้าของเขา   แต่เขายังคงยิ้มไม่เปลี่ยน เขาวิ่งกลับมากอดเย่ว์หยางไว้แน่น  “ข้ารู้ว่าเจ้าสามารถเอาชนะได้  และข้าไม่กลัวที่จะบอกเจ้าว่าข้าเป็นผู้ชมเพียงคนเดียว ที่สนับสนุนเจ้าอย่างยากลำบากเต็มร้อย เจ้าผู้ที่ถูกเรียกว่าเจ้าชายอินทรีน้อย ล้อเล่นน่า  ข้าคิดว่าคนอื่นมองเจ้าผิด ข้าบอกว่าเจ้าสามารถคว้าตำแหน่งชะเลิศได้  เจ้าจะเป็นผู้ชนะเลิศ อีกอย่างหนึ่ง เนื่องจากว่าเจ้ามีวิธีใช้เงิน  ข้ารู้จักที่ที่มีสตรีต้องการเงินทำไมเราไม่ไปกันเล่า”

ทันทีที่เขาเห็นคุณชายหมิงจูเดินออกมาจากห้อง เขาตะลึงปิดปากกล้ำกลืนคำพูดที่เหลือทันที

คุณชายหมิงจูชำเลืองมองดูเขา แมลงสาบที่ตายยากผู้นี้ถึงกับสั่นสะท้าน

โชคดีที่อาจารย์ใหญ่ออกมาฉีมู่ถอนหายใจโล่งอก

ผู้คนจำนวนมากได้ทราบข่าว

พวกเขาส่งเสียงเชียร์และปรบมือให้เสียงดังราวกับสายฝน

พิธีมอบรางวัลดำเนินไปตามกำหนดเวลา  แต่หลานฟงผู้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศรู้สึกไม่สบายใจ เกรงว่าทุกคนจะพบความลับของเขา หลังจากได้รับรางวัล เขาไม่พูดมากและรีบออกไปอย่างรวดเร็ว  ในทางตรงข้ามเป็นชิงหมอรองชนะเลิศอันดับสอง ถูกมิกหมาป่าแห่งหอสูงและคุณชายหยางฉวนรายล้อมถามปัญหาเรื่องพลังโจมตีต่อเนื่องร้อยแปดท่า เขาหวังว่าจะเรียนรู้และได้รับประโยชน์มาบ้าง

สำหรับเย่ว์หยางผู้ชนะเลิศ นักเรียนทั่วไปไม่มีโอกาสเข้าใกล้พวกเขา

ประธานกลุ่มโรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้า และอาจารย์ใหญ่และผู้อาวุโสอื่นหลังจากมอบรางวัลแล้วได้ถามเรื่องพลังของเทพปีศาจ  แม้ว่าพวกเขาจะไม่พูดเช่นนั้น แต่พวกเขาต้องรู้เรื่องความลับของเทพปีศาจแน่นอน

เย่ว์หยางไม่ได้ปิดบัง ยกเว้นแต่ความลับของฝ่ายเขา การตื่นขึ้นมาของเทพปีศาจและพลังของเทพปีศาจ ต้องให้ผู้อาวุโสเหล่านี้จัดการ

แบกทุกอย่างไว้บนบ่าตัวเอง มันเหนื่อยเกินไป

ประธานกลุ่มโรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้ากับอาจารย์ใหญ่และกลุ่มผู้อาวุโสพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันเบาๆ  ประธานกลุ่มโรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้ากล่าว  “เทพปีศาจฟื้นฟูพลังจะไม่ถูกประกาศออกไปในเวลานี้เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนวุ่นวายในหุบเขามนุษย์ทั้งหมด และจะทำให้สาวกเทพปีศาจใช้ประโยชน์จากการนี้  เวลาหนึ่งปีไม่สั้นไม่ยาว เราจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อหยุดยั้ง  ในกรณีนี้เราจะคงสถานะเดิมในขณะนี้  และนี่แผนที่หุบเขามนุษย์ เจ้าได้รับรางวัลการประเมินผล นอกจากชื่อเสียงแล้ว เจ้าควรได้รับอาณาเขตปกครองเล็กๆ  ในแผนที่นี้ เจ้าดูแล้วพึงพอใจที่ใด?”

เขาไม่ได้พูดอย่างชัดเจน แต่อาจารย์ใหญ่ที่อยู่ข้างเขาพูดเป็นนัยน์ “เด็กน้อย, เจ้าต้องคิดให้ถี่ถ้วน”

เย่ว์หยางฉลาดมาก

เมื่อมองดูอาจารย์ใหญ่บอกใบ้ เขารู้ว่าจะต้องเลือกที่ไหน

คุณชายหมิงจูกลัวว่าเย่ว์หยางจะมองไม่เห็น เขารีบก้าวออกมาข้างหน้าและตอบแทนเขา “ท่านประธานสมาคม  ผู้เยาว์ตัดสินใจเลือกเกาะมรกต!

 “เลือกเกาะมรกต?  แต่ไม่มีคนอยู่ที่นั่น นั่นเป็นเกาะที่อยู่โพ้นทะเล เจ้าอธิบายได้ไหมว่าทำไมเจ้าถึงเลือกที่นั่น?”  ประธานกลุ่มโรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้าลอบพยักหน้ากับอาจารย์ใหญ่ พวกเขาแอบยิ้มให้กัน แต่ปากก็ถามเพื่อให้เย่ว์หยางกับคุณชายหมิงจูให้เหตุผลโน้มน้าวใจชาวโลก

 “ข้าได้ยินมาว่าที่นั่นอุดมไปด้วยแร่ธาตุมากมาย”  เย่ว์หยางโกหกได้โดยไม่กระพริบตาหน้าไม่แดง

 “ตกลง ในกรณีนี้พื้นที่ส่วนกลางของเกาะมรกตเป็นของเจ้า  แต่นักเรียนไตตันดินแดนของเจ้ามีเพียงหนึ่งเมืองไม่ถึง 1% ของเกาะมรกตไม่อาจรุกล้ำข้ามเขตแดนได้!  ประธานกลุ่มโรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้าทำวงกลมเล็กๆ บนแผนที่เกาะมรกต  จากนั้นมอบให้เย่ว์หยางที่กำลังยืนยิ้ม

 “โปรดมั่นใจได้ ท่านประธานสมาคมฯ ข้าจะปฏิบัติตามกฎไม่ทำการผนวกดินแดนรอบเกาะแน่นอน”  ถ้าเย่ว์หยางเป็นพิน็อคคิโอ  จมูกของเขาคงยืดยาวอย่างน้อยสองฟุต

 “ดีมาก”  ประธานสมาคมกลุ่มโรงเรียนฯ ตบไหล่เย่ว์หยาง  “เจ้าเด็กน้อย, เราทำอะไรได้ไม่มาก เจ้าต้องเข้าใจพวกเราคนแก่ด้วย”

 “พวกเจ้าไปเตรียมตัวเถอะ!  อาจารย์ใหญ่ลูบไหล่เย่ว์หยางและจับมือคุณชายหมิงจูวางไว้บนมือของเย่ว์หยาง  “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ข้าหวังว่าพวกเจ้าทุกคนจำคำของข้าไว้  พวกเจ้าต้องรักษาตัวเองให้ดี  หุบเขามนุษย์มีความสำคัญมาก  แต่แม้จะสำคัญ แต่ก็ยังไม่เท่าพวกเจ้า...ถ้าหลายอย่างไม่เป็นไปราบรื่นด้วยดี  ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะออกจากหุบเขาให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้  ปล่อยให้ต้นกล้าเผชิญกับลมแรง เป็นความน่าละอายของเราเหล่าผู้อาวุโส  น่าเสียดาย เราอ่อนแอเกินไปไม่สามารถปกป้องพวกเจ้าได้มาก”

 “พายุรุนแรงจะผ่านไป  ข้าสัญญาว่าไม่ว่ามันจะรุนแรงเพียงไหน ก็ไม่อาจหยุดยั้งพลังชีวิตได้”  เย่ว์หยางพาคุณชายหมิงจูคำนับผู้อาวุโสผู้อยู่ในหุบเขามนุษย์มานานอย่างเงียบๆ

ประธานสมาคมกลุ่มโรงเรียนผู้พเนจรแดนฟ้ามองเย่ว์หยางและคุณชายหมิงจูจากไป

เป็นเวลานาน พวกเขามองหน้ากันและหัวเราะ

พวกท่านเข้าใจกันโดยปริยาย

พวกเขากล่าวคำอำลาและจากไปตามลำดับ พยายามอย่างดีเพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดและพบกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของหุบเขามนุษย์

 “หุ่นบินรบ แม้ว่าไม่อาจสู้กับเทพปีศาจได้ แต่มันสามารถหยุดสาวกของเทพปีศาจไม่ให้ออกมาอาละวาดได้” ประธานกลุ่มโรงเรียนถอนหายใจมองดูฟ้า  “บรรพบุรุษที่มองเราจากฟากฟ้า, ท่านคงจะรู้ว่าหุบเขามนุษย์เราใกล้จะพบจุดจบถึงได้ส่งไตตันน้อยมาให้เรา?  หรืออันที่จริงอาจเป็นเมื่อสิบห้าปีที่แล้วที่คุณหนูมาถึงก็ได้  ข้ามีลางสังหรณ์เช่นนี้ คาดไม่ถึงเลยว่าเด็กน้อยผู้นี้มาได้เร็วนัก!  ข้าแต่บรรพบุรุษ โปรดชี้นำทางเราต่อไป  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นทางเติบโตของเจ้าเด็กน้อย โปรดช่วยขัดเกลาเขาให้เปล่งประกายด้วยเถิด!

14 ความคิดเห็น:

oBABYVOXo กล่าวว่า...

เม้นก่อน ค่อยอ่าน
ขอบคุณครับ

Lazykuma กล่าวว่า...

ตะล่อมเก่งจนหมิงจูแทบจะเอาชีวิตมาผูกติดเฮียเย่แล้วนิ,555

BJ กล่าวว่า...

อ่านแล้วยิ้มตามทุกตอน​ ขอบคุณแอดมินมาก

Akirabas กล่าวว่า...

ในความตลบแตลงนั้น ใครจะเกินพี่เยว์

--- กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ
ขัดให้มันวับเลยนะ

peter กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

CHANTANA กล่าวว่า...

มันฯ😚😳😍😍😍😍

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

zen zen กล่าวว่า...

ปัจจุบันก็ยังไม่มั่นใจว่าหมิงจูเป็นหญิงหรือชาย

Popcorn กล่าวว่า...

ขอบคุณมากๆๆๆๆครับ

l3ell_Zaa กล่าวว่า...

แต้งครับ

Kingtest5 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

chay กล่าวว่า...

ก็กลางๆ ไปก่อนครับ...กะเทย

แสดงความคิดเห็น