วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1129 หนึ่งชีวิต หนึ่งจิต หนึ่งวิญญาณ



ตอนที่  1129  หนึ่งชีวิต หนึ่งจิต หนึ่งวิญญาณ

กลับเข้ามาในโลกคัมภีร์


เมื่อฟังเย่ว์หยางพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการเข้าสู่โลกไร้ที่สิ้นสุดในคัมภีร์เงิน เย่ว์หวี่ผู้มักสนับสนุนน้องชายนางเต็มร้อยกลับคัดค้านแข็งขัน

แต่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่มักจะขัดแย้งกับเย่ว์หยางบ่อยๆ กลับสนับสนุนเป็นคนแรก  ขณะที่นางเซียนหงส์ฟ้ายังคงเงียบ แน่นอนว่านอกจากทั้งสามฝ่ายนี้แล้วยังอี้หนานและเย่ว์ปิงที่ยังสับสนอยู่  พวกนางไม่รู้ว่าควรสนับสนุนหรือคัดค้าน ได้แต่กระพริบตาปริบๆ รอฟังความเห็นของทุกคน  พวกนางพร้อมจะทำตามเสียงส่วนใหญ่โดยไม่มีอะไรกังวล

ไม่ว่าจะสนับสนุนหรือต่อต้าน ทุกคนก็ต้องพูดเหตุผล

ทุกคนเริ่มเงียบ  เกิดอะไรขึ้น?

“สถานะของเทวทูตหญิงทั้งสามไม่เป็นที่รู้จัก และหากเข้าสู่การทดสอบในโลกน้อยที่อยู่ในมือพวกนาง จะเป็นอย่างไรถ้าเกิดอุบัติเหตุ  นอกจากนี้มันยากพอที่จะตรวจสอบด้วยตัวเองได้ และยังต้องเข้าใจการทำลายล้างและการสร้างใหม่... ถ้าใช้เวลานานจริงๆ  เจ้าจะอยู่คนเดียวนานๆ ได้ยังไงเสี่ยวซาน?  ข้าไม่ต้องการให้เจ้าได้รับผลกระทบจากความคิดในการเข้าทดสอบนี้!  เจ้าไม่ใช่คนที่สามารถทนความเดียวดายได้  ถ้าเจ้าต้องการอยู่คนเดียวให้ได้ล้านปี  เจ้าจะกลายเป็นบ้า  ข้าไม่อาจทนดูเจ้ากลายเป็นแบบนั้นได้!  อีกจุดหนึ่งแม้ว่าเจ้าจะมีความเข้าใจอย่างถี่ถ้วน  เจ้าอาจได้รับการเปลี่ยนระดับไปเป็นเทพทันที  จากนั้น จากนั้นเจ้าจะต้องออกจากหุบเขามนุษย์เช่นเดียวกับหมิงเยี่ยกวงและสร้างประกายเทพและร่างเทพ บางทีต้องใช้เวลาอีกนานมากกว่าจะกลับมา...  เสี่ยวซาน เรากำลังรอเจ้าอยู่ทุกวัน  เพราะเรารู้ว่าเจ้าจะกลับมาอีกแน่นอน  ตอนนี้เจ้ากำลังผจญภัยผ่านด่านเจ้าคิดถึงความรู้สึกของเราบ้างหรือไม่?  ทำไมไม่ทำทีละขั้นตอน?  เราไม่จำเป็นต้องไปถึงระดับเทพในรวดเดียวได้  ตราบใดที่ทุกคนก้าวไปด้วยกัน เราจะเป็นหนึ่งเดียวกัน จับมือก้าวไปพร้อมกันนี่แหละดีที่สุดแล้ว  เจ้าไม่จำเป็นต้องดูแลทุกอย่างเพียงคนเดียว และเราไม่อยากเห็นเจ้าเหนื่อยมาก!  ทัศนคติของเย่ว์หวี่นั้นมั่นคงมากนางไม่ต้องการให้เย่ว์หยางเข้าสู่โลกน้อยเพื่อฝึกฝนผ่านด่าน

“มันก็สมเหตุสมผล เจ้าควรคิดเผื่อเราด้วย”  อู๋เหินอ่อนโยนและนุ่มนวลเหมือนน้ำ นางพยายามพูดดีๆ

“ข้าเองก็รู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นต้องเสี่ยงในตอนนี้”  องค์หญิงโล่วฮัวสนับสนุน

“....”  อี้หนานและเย่ว์ปิงมองหน้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน

ถ้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไม่พูดอีกต่อไป  พวกนางจะสนับสนุนมติของพี่เย่ว์หวี่

ที่สำคัญเย่ว์หวี่ถูกต้อง  ทุกคนทนดูเขาเข้าไปฝึกตามลำพังไม่ได้  ถ้าเป็นการนั่งๆ นอนๆ รอเป็นหมื่นปี นั่นเป็นเรื่องขมขื่นเกินไป!  หุบเขามนุษย์ในปัจจุบันนี้ยังไม่ถูกทำลาย ยังพอมีเวลาเคลื่อนไหวโดยยังไม่ต้องลงมือทันที

ตอนนี้ไม่ใช่วินาทีสุดท้ายที่เทพปีศาจจะบุกจู่โจม  ไม่จำเป็นต้องเข้าสู่โลกไร้ที่สิ้นสุดที่น่ากลัวนั่น

ทันทีที่เข้าไปภายใน จะไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้

นี่คือเรื่องที่ทุกคนไม่เต็มใจเห็น

เย่ว์หยางดูไม่ค่อยดีนัก บอกได้ว่าเขายังไม่รู้ปัญหาได้มากพอ

ลองไปปรึกษากับเสี่ยวเหวินหลีและตั่วตั่วก่อน แล้วค่อยตัดสินใจต่อไป  ทัศนคติของเด็กหนุ่มข้ามโลกค่อนข้างเป็นประชาธิปไตย

ยิ่งมองเขาอย่างนี้

หลายคนยิ่งรู้สึกปวดใจมากขึ้น

ผู้ที่ต้องการช่วยเขาอย่างชัดเจน กลายเป็นอุปสรรคของเขาไปได้อย่างไร?

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยืนขึ้นทันทีและให้ความเคารพเย่ว์หยาง จากนั้นนางเงยหน้าขึ้น  “ความจริงข้าก็อารมณ์เดียวกับทุกคน ข้าไม่ต้องการให้เขาลองเสี่ยงทดสอบตามลำพัง ข้าไม่ต้องการเห็นเขาแบกรับภาระทั้งหมดไว้บนบ่าคนเดียว  ข้าเป็นกังวลมากที่สุดว่าเมื่อมีคนลุกขึ้นยืนเพื่อช่วยเขา แต่ข้าไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญพอจะรับผิดชอบ  ตอนนี้เทพปีศาจกำลังจะมาผู้เดียวที่สามารถช่วยเขาได้ก็คืออู๋เสีย น่าเสียดายที่นางยังคงหลับอยู่ไม่มีใครน่าเชื่อถือได้!

เมื่อทุกคนฟังอยู่ องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนชูกำปั้นขึ้น “ด้วยเหตุนี้ ในเวลานี้เราจึงต้องหาวิธีที่จะทำอะไรบางอย่างให้เขา แม้ว่ามันจะเป็นการแบ่งเบาภาระได้เล็กน้อย แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย!  นี่ไม่ใช่การฝึกฝนของเขาในหุบเขามนุษย์เท่านั้น  แต่ยังเป็นการฝึกฝนของเราด้วย!

ราชันย์ปีศาจใต้ดูเหมือนจะมีข้อสงสัย  “เชี่ยนเชี่ยน!  เจ้ามีวิธีการอะไรดีๆ บ้างไหม?”

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนส่ายหน้า  “ไม่!

ขณะที่ทุกคนผิดหวัง นางเสริมคำพูดต่อ  “แต่ข้ามีวิธีที่โง่ที่สุด!

คราวนี้ก่อนที่นางจะทันได้ตอบ นางเซียนหงส์ฟ้าก็ตอบสนองก่อน นางหัวเราะ  “ประตูเป็นตาย เราใช้วิธีการของประตูเป็นตายเพื่อจำลองโลกไร้ที่สิ้นสุดของ หุบเขาโลกธาตุน้อยและหุบเขาสวรรค์น้อย  เจ้าเด็กนี่มีสนามพลังสร้างโลก.. ถ้าเจ้าสามารถผ่านประตูเป็นตายได้  เจ้าก็อาจรู้แจ้งความหมายที่แท้จริงของการทำลายและการสร้างได้ จากนั้นทุกอย่างก็ง่าย!

“ข้าไม่ถนัดในการสร้าง ข้าคิดว่าข้าขอรับผิดชอบในการรู้แจ้งการทำลาย!  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมองไปทางเย่ว์หวี่ เห็นได้ชัดว่าต้องการให้เย่ว์หวี่กับอู๋เหินทำความเข้าใจในความหมายการสร้าง

“เราจะรับผิดชอบการเข้าใจด้านสร้างสรรค์เอง!  องค์หญิงโล่วฮัวดึงอี้หนานผู้มีความแข็งแกร่งทางจิตวิญญาณและความคิดสร้างสรรค์อย่างยอดเยี่ยม และแน่นอนเย่ว์ปิงผู้ได้รับพลังที่ไม่มีสิ้นสุดจากอักขระรูนป่าโบราณ  สาวน้อยผู้นี้ไม่ถนัดในเรื่องสร้างคนหรือสิ่งของ  แต่ถ้าเป็นเรื่องพืชพันธุ์  นางนับเป็นอัจฉริยะด้านนี้

“ทำลาย สร้างนั่นเป็นสิ่งหนึ่งไม่ใช่หรือ?”  ราชันย์ปีศาจใต้รู้สึกว่านี่คือพลังของนาง นางถือผีผาหยกอย่างสง่างาม

“ข้าเห็นด้วย!  แน่นอนว่าจักรพรรดินีเทียนฟาหรือนางเซียนหงส์ฟ้าก็มีความรู้สึกอย่างเดียวกัน

สำหรับพวกนางทั้งคู่ บางครั้งการทำลายก็เท่ากับการสร้าง  และบางครั้งการสร้างก็เท่ากับการทำลาย

ตัวอย่างเช่นองค์หญิงมังกร.ราชันย์ปีศาจใต้เมื่อสร้างสรรค์บทเพลงที่ไพเราะจับใจ นั่นอาจหมายถึงการทำลายล้างศัตรูหรืออาจจำเป็นต้องทำลายชีวิตบางอย่าง ดังนั้นนางจึงต้องสร้างเสียงเพลงที่ไพเราะตามธรรมชาติ.....  ไม่ต้องพูดถึงจักรพรรดินีเทียนฟาหรือมารกฎฟ้า การสร้างและทำลายล้างอยู่ในมือของนาง  แม้ว่านางมักจะใช้พลังทำลายล้างสูงกว่าและทำให้โลกหวาดกลัว แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางก็มีพลังความคิดที่สร้างสรรค์ที่ทรงพลังเช่นกัน

เซี่ยอีและหลิวเย่ พวกนางจะอึดอัดใจเล็กน้อย

พวกนางทั้งคู่ต้องการจะช่วยบ้างสักเล็กน้อย  แต่พวกนางกลัวว่าไม่มีความสามารถมากพอ  ดังนั้นจักรพรรดินีเทียนฟาจึงไม่ได้มองพวกนาง

แนวคิดก็คล้ายกับอีกสามคนคือ จักรพรรดินีสมุทรไห่หลาน, เจ้าแคว้นมรกตไป๋ลู่และหัวหน้าลี่เยี่ยน

สำหรับการรู้ว่าตนเองไม่สามารถช่วยได้อย่างเป่าเอ๋อและมารเคราะห์ฟ้า พวกนางเกรงว่าจะทำให้ปั่นป่วนวุ่นวายมากกว่า  จึงได้แต่ทำตัวเป็นเด็กดีและนั่งตั้งใจดูเหมือนเด็กนักเรียนชั้นประถมมองดูชั้นเรียนอย่างตั้งใจ

“พวกเจ้าจะนั่งเฉยทำไมกัน  มาช่วยกันเถอะ!  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตะโกนลั่น

“แต่เราทำอะไรไม่เป็น!  เป่าเอ๋อคิดว่าถ้าให้ช่วยกินซาลาเปา นางคงช่วยกินได้สักสองลูก

“พวกเจ้าไม่ต้องทำอะไร  เจ้าจะต้องยืนอยู่ตรงนั้นและรับผิดชอบในส่วนที่เป็นนิรันดร”

“ข้าไม่เข้าใจ!  เป่าเอ๋อส่ายหน้ารัว

“ไม่เข้าใจ ทำโง่ไปได้ เจ้าเข้าใจมาร้อยปีแล้ว...”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนให้รางวัลนางด้วยเกาลัดเผา และลูบศีรษะเป่าเอ๋อด้วยความสงสาร ดวงตาโตของนางมีน้ำตาคลอเบ้าชวนให้ผู้คนสงสาร  ในช่วงเวลาตึงเครียดนี้ โดยไม่รู้ตัวทุกคนไม่มีเวลาว่างให้ความสนใจนางจนนางแทบจะร้องไห้ออกมา

“เกิดอะไรขึ้นเป่าเอ๋อ?  ไม่เอา ไม่ร้องไห้!  ตอนนี้เย่ว์หยางกลับมาจากการพูดคุยปรึกษากับเสี่ยวเหวินหลี อาหง อาหมัน ตั่วตั่ว เจี้ยงอิงและสองพี่น้องเหยา-หยู เขาลูบศีรษะเป่าเอ๋อ และนางโผเข้ากอดเขาถือโอกาสระบายความคับข้องใจ

“มันเจ็บ”  เป่าเอ๋อจะทำตัวเอาแต่ใจเมื่ออยู่หน้าเย่ว์หยาง แต่เมื่อองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกลับมา นางกระโดดยืนตัวตรงยิ่งกว่าคันทวนทันที

นางไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน และยิ่งไม่กลัวเย่ว์หยาง นางไม่กลัวนางเซียนหงส์ฟ้า

นางกลัวอยู่เพียงสองคน

คนหนึ่งคือแม่สี่ และอีกคนหนึ่งคือองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน

รอยยิ้มของแม่สี่ทำให้นางซุกซนเล็กน้อยทำอะไรไม่ถูก  และองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน นัยน์ตาแม่เสือสาวทำให้เป่าเอ๋อไม่กล้าซนต่อหน้านาง? นางกลัวถูกถลกหนัง

ไม่เพียงแต่นางเท่านั้น สาวมารเคราะห์ฟ้า จอมป่วนทำลายที่ทำให้สมาชิกวังมารต้องปวดเศียรเวียนเกล้ากันทุกคน พอเห็นองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน นางยังต้องเดินอ้อม

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอารมณ์ไม่ดี รับประกันได้ว่านางจะต้องอยู่ให้เป็นในโลกคัมภีร์

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพูดถึงวิธีช่วยเย่ว์หยาง  “เราต้องการลองใช้วิธีของประตูเป็นตาย.. เราต้องให้เกิดความแน่ใจอย่างแท้จริง ค่อยไปต่ออีก  เจ้าจะว่ายังไง?”

นางไม่แน่ใจว่านางจะทำได้สำเร็จ  ที่สำคัญคือเย่ว์หยางเป็นเจ้าของสนามพลังสร้างโลก ไม่ใช่นาง

แม้ว่าทุกคนที่นี่จะผ่านประตูเป็นตายมาแล้ว

แต่การก้าวข้ามและผ่านประตูเป็นตาย จะช่วยให้เข้าใจถึงความหมายการทำลายล้างและการสร้างสรรค์ซึ่งมีความยากระดับแตกต่างกัน   เช่นเดียวกับที่พวกเขาได้รับการฝึกฝนในประตูเป็นตาย  เย่ว์หยางได้รับการฝึกฝนในประตูเป็นตาย  และความสำเร็จและผลประโยชน์ที่พวกเขาได้รับก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

เย่ว์หยางพยักหน้าตกลง  “ข้าเพิ่งคุยเรื่องนี้กับเสี่ยวเหวินหลีและพวกนางจะช่วยข้า เจี้ยงอิงและตั่วตั่วจะกลับมาจากฝึกพิเศษยกเลิกการฝึกเดิมไปก่อน!  เจี้ยงอิงยิ้มเล็กน้อยและโบกมือเพื่อแสดงให้เห็นว่าเย่ว์หยางไม่เกี่ยวข้อง  ตั่วตั่วพยักหน้าให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและโปรยกลีบดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมชื่นใจเต็มท้องฟ้าสร้างโลกกลีบดอกไม้ที่สวยงาม ขณะที่นางพูดอย่างอารมณ์ดี “องค์หญิง!  เพราะความเห็นแก่ตัวของข้าทำให้ท่านต้องกังวล ความจริงข้า เจี้ยงอิงและเสี่ยวเหวินหลีทั้งสามคนกำลังอยู่ในระหว่างฝึกฝน แต่กลัวจะกระทบอารมณ์ของท่าน ข้าจึงไม่พูดออกมา...”

เสี่ยวเหวินหลีไม่พูดอะไรเลยนอกจากจับแขนของเย่ว์หยางไว้แน่นเหมือนเคย

เจี้ยงอิงโบกมืออีกครั้ง  “แม้ว่าข้าจะก้าวหน้า  แต่ข้าก็ยังห่างชั้นและไม่อาจเทียบกับเสี่ยวเหวินหลีได้ ไม่อาจเทียบตั่วตั่วที่ยกระดับเป็นเทพไปแล้ว ข้ายังเทียบไม่ได้เลย”

“ตั่วตั่วอยู่ในระดับเทพแล้วหรือ?”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตกใจ

“ถ้าเสี่ยวเหวินหลีไม่ตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน  เธอยืนยันตลอดว่าจะอยู่กับนายท่านตลอดเวลา บางทีเธอคงถึงระดับเทพเร็วกว่าข้าไปแล้ว  ในความเป็นจริง ข้าไม่มีความสุขกับการเข้าถึงระดับเทพ ต้องใช้เวลานานในการกลั่นสร้างประกายเทพ ไม่มีทางออกไปจากโลกคัมภีร์ได้อย่างปกติ  และข้ากังวลใจมาก”  ตั่วตั่วค่อนข้างถ่อมตัว แต่นางเซียนหงส์ฟ้าได้ทราบข่าวตรงๆ แล้วถึงกับพูดไม่ออก

“เจ้าเลื่อนเป็นระดับเทพตั้งแต่เมื่อใด?”  เย่ว์หยางผู้เป็นเจ้านายยังสับสนไม่รู้ตัว

“เมื่อตอนที่เราสู้กับจ้าวสุริยา ข้าเกือบจะยกระดับใหม่ได้ในตอนนั้น และจากนั้นก็ยกระดับเมื่อตอนนายท่านยกระดับเช่นกัน... ความจริงข้าไม่ต้องการเลื่อนระดับเป็นชั้นเทพเร็วนัก อย่างไรก็ตามการฝึกฝนจะช้าลง เหมือนอย่างเสี่ยวเหวินหลีที่ไม่มีแรงกดดันที่จะฝ่าฟันฝึกฝนต่อไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อเสริมสร้างตนเอง และสะสมความก้าวหน้าในอนาคตที่ยิ่งใหญ่กว่า!” ตั่วตั่วยิ้มให้เย่ว์หยาง  “ไม่ต้องกังวล ให้ข้าใช้ดอกหนามน้อยนี้เพื่อช่วยท่าน  ท่านเป็นคนที่เลี้ยงดูข้าด้วยมือตัวเองและเปลี่ยนข้าจากต้นดอกหนามที่อ่อนแอที่สุดในโลก กลายเป็นเทพธิดาบุปผาในวันนี้ ในฐานะเจ้านายของต้นดอกหนามน้อยๆ ท่านจะไม่รับการสนับสนุนจากข้าบ้างหรือ?”

พอนางโบกมือโลกคัมภีร์ทั้งหมดกลายเป็นทะเลดอกไม้ทันที

สร้าง!

นี่คือการสร้าง!

ชั่วขณะความคิดหนึ่งไม้ดอกหลากหลายพันธุ์ก็เติบโตขึ้น ตั่วตั่วผายมือช้าๆ ดอกไม้ที่บานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมและจากนั้นก็เหี่ยวเฉาและเกิดเป็นผลอ่อน นี่คือการทำลายหรือไม่?  อย่างไรก็ตามการทำลายครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นตัวแทนของชีวิตใหม่!  ดอกไม้หายไปไม่เหลือ แต่ผลไม้ชีวิตเริ่มออก.. คล้ายกับที่นางเซียนหงส์ฟ้าและราชันย์ปีศาจใต้กล่าวไว้ การทำลายและการสร้างเป็นอย่างเดียวกันหรือไม่?

นางเซียนหงส์ฟ้าและราชันย์ปีศาจใต้มองหน้ากันเองอย่างหวาดๆ  พวกนางยังรู้ไม่ลึกซึ้งทั้งที่เพิ่งจะพูดถึงไม่นาน

พวกนางทำแค่โบกมืออย่างตั่วตั่วและเกิดคลื่นดอกไม้งดงาม โบกมืออีกครั้งดอกไม้ก็กลับมาเสื่อมโทรมอีกครั้ง

นี่คือพลังของเทพ?

แข็งแกร่งมากเหลือเกิน!

ตั่วตั่วเหมือนกับเห็นความสงสัยในใจทุกคน นางยิ้มและส่ายศีรษะแสดงให้เห็นว่าเย่ว์หยางหรือองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนร่วมมือกับนาง  เมื่อเย่ว์หยางสร้างหุ่นรบจักรกล นางชี้ไปที่หุ่นจักรกลเปลี่ยนหุ่นโลหะให้เป็นกลีบดอกไม้นับไม่ถ้วนและกลีบดอกไม้ก็เหี่ยวแห้งเฉาไปในท่ามกลางสายลมและกลายเป็นดินแดง ในที่สุดก็กลายเป็นหุ่นรบที่ถูกเจาะชอนไช... มองผิวเผินเหมือนกับหุ่นศึกที่เย่ว์หยางสร้าง แม้แต่โครงสร้างภายในก็เหมือนกันทุกอย่าง

แต่ทุกคนเห็นว่านี่ไม่ใช่หุ่นศึกที่เย่ว์หยางสร้างอีกต่อไป

เพราะไม่มีพลังงานความคิดที่สร้างโดยเย่ว์หยางอีกต่อไป

เจ้าของมันตอนนี้คือตั่วตั่ว

ตั่วตั่วส่งสัญญาณให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนใช้ดาบโจมตีนาง  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนชักดาบจากฝัก และถ่ายเทพลังปราณเข้าไปในดาบ เป็นพลังที่ทำลายฟ้าทลายดิน..  ตั่วตั่วปาดมือเบาๆ พลังปราณฟ้าก็หายไปทันที กลายเป็นสายฝน  ในสายฝนหุ่นรบธาตุโลหะกระโดดออกมาและกลายเป็นสายรุ้งภายใต้นิ้วของตั่วตั่วสะท้อนกลับไปหาองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน

พลังที่สะท้อนกลับไปนี้เท่ากับพลังทั้งหมดที่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนโจมตีตามคำชี้แนะของตั่วตั่วก่อนหน้านี้

ถ้าไม่ใช่เพราะองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนขวางดาบป้องกันไว้ทันเวลา เกรงว่านางอาจได้รับบาดเจ็บจากดรรชนีดาบรุ้งนี้

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกระเด็นออกไปร้อยเมตร

ทุกคนที่เห็นภาพนี้ถึงกับหน้าเปลี่ยนสีมองดูหน้ากันเอง

นี่คือพลังที่แท้จริงของเทพหรือ?  ถ้าเป็นอย่างนั้นนักรบระดับเทพ ก็สามารถอยู่อย่างไร้เทียมทานในโลกไม่มีใครเทียบได้?

“หลังจากเข้าใจแจ่มแจ้งพลังทำลายล้างและพลังสร้างสรรค์  นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของพลังเทพราชันย์  แต่พลังยิ่งใหญ่ที่แท้จริง  แต่พลังที่แท้จริงก็ก็สามารถเป็นเอกลักษณ์ของหุบเขามนุษย์ได้ นั่นจะต้องเป็นนักรบที่น่าเกรงขามที่สุดถึงจะมีเจตจำนงที่น่ากลัวที่สุด  เจตจำนงนั้นเรียกได้ว่าเป็นนิรันดร หรือเรียกได้ว่าเจตจำนงราชันย์  ภายใต้เจตจำนงราชันย์ไม่มีสิ่งใดสามารถทำลายได้ และไม่มีสิ่งใดสามารถสร้างขึ้นได้ ทุกอย่างเป็นนิรันดร...ในความนิรันดรนั้น  พลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือพลังนิรันดร์ และเจตจำนงสูงสุดในการควบคุมสรรพสิ่ง!  ตอนนี้ข้าสามารถควบคุมพลังปราณดาบและวิธีการต่อสู้ต่างๆ ของท่านได้  แต่ก็มีหลายอย่างที่ยังทำไม่ได้ ตัวอย่างเช่นปราณกระบี่ของนายท่าน วงจักรล้างโลก วงจักรนิรันดร สนามพลังสร้างโลกอย่างนายท่านเป็นต้น ถ้าเปลี่ยนจากองค์หญิงเป็นเจ้าตำหนัก ข้าไม่สามารถควบคุมทักษะแฝงเร้นหกรับรู้และสนามพลังศักดิ์สิทธิ์ของท่านได้ ไม่สามารถเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างคัมภีร์อัญเชิญของท่านและอสูรพิทักษ์  ไม่สามารถเปลี่ยนให้ท่านรับเอาประตูเป็นตายเพื่อฝึกฝน บางทีข้าอาจสับสนได้ แต่นั่นไม่ใช่ความนิรันดร”

“ถ้าเราต้องการแข็งแกร่งมากกว่าคนอื่น  แค่พลังเทพเท่านั้นยังไม่เพียงพอ”

“เราต้องกลั่นสร้างพลังให้เป็นประกายเทพ สร้างความนิรันดร์ เจตจำนงราชันย์ของเราจะไม่มีวันสั่นคลอน

“สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเราต้องเข้าใจว่าอะไรคือพลังเทพราชันย์ นั่นคือความนิรันดร์คือความแท้จริงอย่างแรก บางทีอาจมีสิ่งที่เหนือมากกว่าแข็งแกร่งและมีความนิรันดร์มากกว่า ขึ้นอยู่กับทุกคนที่แสวงหา ต้องทำความเข้าใจทักษะแฝงเร้นและตัดสินใจเลือกความสำเร็จในอนาคตของทุกคน  ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้านาย ข้าไม่ต้องการให้ท่านเลื่อนระดับไปเป็นเทพในทันที  ในทางตรงกันข้าม เขาต้องเสริมสร้างพื้นฐานและลับความสามารถตนเองเหมือนสร้างเนินทราย จากเนินทรายเป็นกองหินและเป็นภูเขาสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า”

“ถ้าเขาใช้เวลาสั้น ก็จะไม่มีโอกาสลับฝีมือเลย เป็นไปได้ที่จะผ่านด่านด้วยความอุ่นใจ  แต่ข้าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ นั่นเป็นการทำลายการเติบโตของเขา”

“ตอนนี้สิ่งเดียวที่ข้าทำได้คือให้แรงบันดาลใจในการรู้แจ้งที่ข้ารู้สึกแก่พวกท่าน”

“ข้าหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อนายท่านและเป็นประโยชน์ต่อทุกคน!

ตั่วตั่วประกบมือเข้าด้วยกัน

ทั่วทั้งโลกคัมภีร์เต็มไปด้วยฝนดอกไม้อีกครั้ง ดอกไม้แต่ละดอกมีจิตวิญญาณและสติปัญญาราชันย์แฝง เมื่อสัมผัสร่างของคนเบาๆ เหมือนกับจะบอกความลับบางอย่าง ทำให้ผู้คนที่ยังไม่ได้รู้แจ้งมีความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม เย่ว์หยางได้รับแรงบันดาลใจลึกที่สุด อสูรพิทักษ์ของเขาล้วนทรงพลัง ไม่มีเหตุผลใดที่เจ้านายจะเป็นเพียงสวะ

ในแนวทางนี้

ตั่วตั่ว เจี้ยงอิงและเสี่ยวเหวินหลี พวกนางสามารถบรรลุด้วยตัวเองได้!

และเขาต้องทำให้ดียิ่งกว่า เพราะเขามีเทพธิดากระบี่ฟ้าคอยแนะนำ  มีพี่น้องหงส์เพลิงที่มีพลังโดดเด่นคอยปกป้อง ในความรู้สึกที่ขยายออกมานี้ เย่ว์หยางคำราม จิตวิญญาณขยายออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนมุมมองจอกว้างรอบตัว และการทำลาย การสร้าง และความรู้ต่างๆ ที่มองอย่างตื้นเขินก็ขยายอยู่ในใจอย่างนับประมาณไม่ได้

เย่ว์หยางรู้สึกตื่นตาเป็นระยะ ไม่ใช่ว่าเขาไม่สามารถรู้สึกได้  ตรงกันข้ามความรู้ขยายมากขึ้นๆ เป็นการยากที่จะเลือกทางเลือกเดียว

“ปัง!

เขารู้สึกเหมือนติดอยู่ในโลกความรู้ทางจิตวิญญาณ ราวกับติดยาเสพติด...

17 ความคิดเห็น:

BlackFire กล่าวว่า...

"ปัง" ติดอยู่อย่างนี้ อยากอ่านต่อไปเหมือนเสพ

oBABYVOXo กล่าวว่า...

แม่ 3 วัน พี่เย่เรา 1 วันแน่ๆ

Popcorn กล่าวว่า...

ปังติดไปอีก1ล้านๆปี

DexterAndDdy กล่าวว่า...

ปังตายจบเลยร่างกายระเบิด

CHANTANA กล่าวว่า...

ใครปิดปะตู(ปัง)

Unknown กล่าวว่า...

5555บังไค

Deils(of)darK กล่าวว่า...

ตั่วตั่วเปิดก่อนไปแล้ว เซมบงซากุระ คาเมโยชิ

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

Pcha กล่าวว่า...

คิดได้ไง55

Unknown กล่าวว่า...

รอรอเฮีย3กำลังเติมทรู

Akirabas กล่าวว่า...

เฮียบอก แปปนะ เติมทรูแปป

Lazykuma กล่าวว่า...

แม่พี่เย่จริงๆ 3ชมครับ

Unknown กล่าวว่า...

เย่จัดเลย 3 วิ

โอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่า กล่าวว่า...

ตั๋วๆ ไม่เจอนานเลย

l3ell_Zaa กล่าวว่า...

อสูรพิทักษ์ของเขาล้วนทรงพลัง ไม่มีเหตุผลใดที่เจ้านายจะเป็นเพียงสวะ

guide กล่าวว่า...

เจ๋งแจ๋ว

chay กล่าวว่า...

5555

แสดงความคิดเห็น