วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1140 ไม่ใช่เรื่องใหญ่



ตอนที่  1140  ไม่ใช่เรื่องใหญ่

จัตุรัสนักรบ


ในช่วงตอนกลางของยานแม่นกกระทุงมีพื้นที่ขนาดใหญ่กว่าสนามฟุตบอลซึ่งมักจะใช้ในเกมการแข่งขันที่หลากหลาย หรือใช้จัดงานรื่นเริงเลี้ยงฉลองที่ให้ลูกเรือโดยสารเพื่อคลายความเบื่อหน่ายจากการเดินทาง  จัตุรัสนักรบ

เมื่อเย่ว์หยางเดินเรียงแถวมาถึงที่นี่ก็พบว่าจัตุรัสนักรบเต็มไปด้วยผู้คน

ฝูงชนหนาแน่นเต็มพื้นที่

มีคนเป็นจำนวนหมื่น

มากกว่าสามหมื่นเป็นทหารประจำชายแดน และมากกว่าห้าพันเป็นลูกเรือยานกระทุงที่ถูกกลุ่มโจรล่มสวรรค์จับไว้ได้

ยกเว้นทหารฝีมือดีไม่กี่คนที่ดิ้นรนต่อต้าน  พวกเขาถูกทุบทำร้ายโดยโจรล่มสวรรค์ สมาชิกลูกเรือที่มากกว่าเหมือนกับลูกแกะยอมจำนนต่อศัตรูได้ง่าย  พวกเขาไม่ได้ต่อสู้อย่างดุเดือดแม้แต่น้อย สมาชิกลูกเรือที่ไม่ได้รับบาดเจ็บไม่จำเป็นต้องดู พวกเขาจับศีรษะหมอบลงกับพื้นอย่างเงียบๆ รอรับการจัดการของพวกโจร  พวกเขามีความอ่อนน้อมมากกว่าพวกพ่อค้านักธุรกิจที่เอาแต่บ่นว่าถูกบังคับให้ร่วมมือเผชิญหน้ากับพลังอำนาจที่แข็งแกร่ง

 “พวกโจรสุนัข ถ้าเจ้าต้องการ ก็มาสู้กับข้าได้ ข้าจะสู้หนึ่งต่อสิบก็ยังได้!  ในสนามบุรุษร่างสูงคนหนึ่งถูกล่ามด้วยโซ่เป็นสิบเส้นกำลังคำรามด้วยความโกรธ ถ้าไม่ใช่เพราะโจรล่มสวรรค์หลายสิบคนรุมสู้เขา คาดว่าเขาจะทำลายพันธนาการได้

 “เฮ้, แพ้ไปแล้ว ยังจะโวยวายอะไรอีก!

เย่ว์ยหยางสังเกตว่ามีบุรุษร่างผอมสูงสวมเสื้อคลุมดำและเป็นเสื้อคลุมปีกกว้างกำลังร่อนลงมาจากห้องโดยสารบน

คนผู้นี้มีลักษณะสะดุดตา  ขาของเขาผอมยาวเป็นพิเศษ

ไม่มีความรู้สึกว่าเป็นขา

แต่เป็นมีดโกนมากกว่า

ให้ความรู้สึกที่น่ากลัวสามารถตัดคอหอยคนอื่นได้อย่างง่ายดาย รองเท้าหนังปลายแหลม มีมุมมองลักษณะแปลกประหลาดสามารถโจมตีหัวใจมนุษย์ได้โดยตรง   นอกจากขายาวคู่หนึ่งแล้ว  บุรุษเสื้อคลุมดำยังมีแขนเรียวผอมยืดหยุ่นอย่างเหลือเชื่อ

บนศีรษะเขาสวมหมวกที่มีความเปลี่ยนแปลงได้

เขายกมือทาบหน้าอกตนเองเบาๆ ด้วยมือซ้ายแสร้งทำทีเป็นสุภาพบุรุษและคำนับบุรุษร่างสูงที่ถูกล่ามโซ่ “อสูรสายฟ้า ด้วยพลังระดับเตรียมขุนพลเทพของเจ้า บนยานแม่นกกระทุงลำนี้ เจ้าเป็นนักสู้ที่ไม่ติดอันหนึ่งในสิบ มิฉะนั้นเจ้ามาเป็นโจรดวงดาวที่อิสระอย่างเราไม่ดีกว่าหรือ?  ถ้าเจ้ายินดีมา ข้ากาดำจะไม่ชิงดีชิงเด่นกับเจ้า ตำแหน่งผู้อาวุโสอันดับสองจะยกให้กับเจ้าโดยตรง ข้ายินดีเป็นอันดับสาม เพราะหัวหน้าพยัคฆ์บิน อสูรสายฟ้าอย่างเจ้าจะเป็นพี่ใหญ่ได้อย่างไร?”

 “เลิกคิดไปเลย  ถ้าเจ้ามีความสามารถในการกินศพขยะก็มาสู้กับข้า! โจรดวงดาวอย่างพวกเจ้าจะมาเรียกร้องเอากับข้าได้อย่างไร  ข้าได้รับการคาดหวังจากเทพ  ข้าจะเป็นขุนพลเทพในอนาคตเป็นไปได้อย่างไรที่จะร่วมกับพวกเจ้า ในอนาคตข้าอาจได้เป็นแม่ทัพ  ในอนาคตที่ไร้ขีดจำกัด จะเข้าร่วมกับพวกเจ้าเพื่อเป็นโจรได้อย่างไร!

คนร่างใหญ่ที่ถูกล่ามโซ่ตวาดร้องและพยายามดิ้นรน

แต่ร่างของเขากระดูกหักหลายที่

รวมทั้งกระดูกไหปลาร้า ซี่โครง สันหลังแม้แต่กระดูกต้นขาก็ยังถูกโซ่ร้อยทะลุผิวหนัง กล้ามเนื้อตรึงถึงกระดูก โจรดวงดาวสิบสองคนตรึงโซ่ทั้งหมดไว้ และทั้งสิบกว่าคนทำงานร่วมกันไม่ปล่อยให้เขาเป็นอิสระ

บุรุษชุดคลุมดำได้ยินแล้วสีหน้าเขาไม่เปลี่ยน ริมฝีปากของเขาแสดงรอยยิ้มเหมือนจะคาดหวัง

จมูกของเขาโด่งประหลาดแสดงให้เห็นถึงความเหงาที่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้

ดวงตาถูกปิดบังไว้

ไม่สามารถมองเห็นสีหน้าความรู้สึกใดๆ ได้ แต่ใครก็ตามที่เห็นเขาจะรู้สึกถึงความแหลมคม

 “ลากเขาลงมาและทรมานช้าๆ  เมื่อใดที่เจ้าตกลงจะเข้าร่วมกับเรา เราจะให้เวลา”  บุรุษในชุดคลุมดำโบกมือและกล่าว  “อสูรสายฟ้าจะไม่ยอมแพ้  ดังนั้นเอาคนต่อไปออกมา!  และเจ้า ไม่ต้องกังวล ไม่จำเป็นต้องกลัว เราแค่ต้องการหาคนร่วมงาน และทำธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ ที่เป็นธรรม และเมื่องานยุ่งของข้าเสร็จแล้ว ข้าจะมาทักทายทุกคน!

 “....”  พวกพ่อค้ารอบบุรุษชุดคลุมดำได้ยินแล้วทุกคนรู้สึกหนาวสะท้าน เห็นได้ชัดว่าพวกเขากลัวบุรุษหนุ่มผู้นี้

 “กาดำ! อสูรสายฟ้าไม่สามารถพูดเคลื่อนไหวได้ เจ้าคิดว่าเสือดาวโลหิตจะยอมแพ้พวกเจ้าหรือ?”  นายกองทหารฝีมือดีที่ต่อสู้อาบเลือด ถูกอีกหลายคนล่ามโซ่ตรึงไว้

แม้ว่าร่างกายของเขาจะเต็มไปด้วยบาดแผลและรอยเปื้อนเลือดและถูกล่ามโซ่ แต่ดูไม่เหมือนว่าเขาเป็นเชลย

เหมือนกับแม่ทัพที่เดินตรวจแถวทหาร

ยืนเด่นสง่าตัวตรงเหมือนภูเขา

กาดำเมื่อได้ยินเขาพูดก็หัวเราะลั่นเป็นเวลานาน เสียงหัวเราะของเขาแหลมเหมือนมีด “เสือดาวโลหิต!  เจ้าเป็นคนซื่อสัตย์ ทุกคนรู้เรื่องนี้กันดี เป็นเรื่องยากจริงๆ ที่จะบังคับให้เจ้ายอมจำนน แต่ข้าได้ยินมาว่าเจ้าเป็นลูกกตัญญู...  ในเวลานั้นบิดาเจ้าตายในการต่อสู้เร็วไปหน่อย  แม่เจ้าเพียรเลี้ยงดูเจ้าจนเติบใหญ่  ข่าวลือนี้เป็นจริงหรือเปล่า? ครั้งนี้เจ้ากลับมาที่บ้านเกิดเพื่อรายตัว เจ้ามีโอกาสได้เลื่อนตำแหน่งเป็นราชองครักษ์  บุตรกตัญญูอย่างเจ้าปกติแล้วจะไม่ยอมให้มารดาต้องไปอยู่ในดินแดนแร้นแค้นยากจนและจะพานางไปอยู่ในเมืองหลวงเพื่อทดแทนคุณ แน่นอนเพื่อให้หญิงชราได้ใช้ชีวิตได้ตลอดไป  หญิงชราที่สามารถสอนลูกชายนางได้จนกลายเป็นคนโดดเด่นเช่นเจ้า ข้าต้องไปพบเพื่อแสดงความชื่นชมสักครั้ง”

เสือดาวโลหิตสีหน้าเปลี่ยนทันที เกิดความโกรธอยู่เต็มหัวใจ  “กาดำ!  เจ้าวายร้ายที่น่ารังเกียจ  เจ้าแตะต้องแม้แต่เส้นผมแม่ข้า  ข้าจะฆ่าพวกเจ้าโจรดวงดาวให้หมด เจ้าพวกโจรดวงดาวที่ไร้ยางอาย  พวกเจ้ากล้าหรือ?”

กาดำบินออกมาโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะโกรธเพียงไหน เขาหัวเราะเยาะเบาๆ  “อะไรกัน ถ้าข้าพบแม่เฒ่าในกลุ่มคน ข้าแค่ให้เกียรติเคารพนางมีมารยาทต่อนาง  ข้าจะทำร้ายนางได้อย่างไร? ไม่ต้องกังวล  มานี่ เอาเสือดาวโลหิตไปพักก่อน รอให้ข้าพบตัวแม่เฒ่าเสียก่อน จากนั้นค่อยมาร่วมคุยกันอีกครั้ง!

นายกองเสือดาวโลหิตขบฟันกรอดๆ ด้วยความโกรธ  แม้ว่าเขาจะสบถด่าตลอดทาง แต่ก็ขัดขืนไม่ได้ ถูกโจรดวงดาวลากตัวไปตลอดเส้นทาง

เย่ว์หยางเมื่อเห็นที่นี่มีพวกโจรดวงดาวที่น่าสนใจเพียงเล็กน้อย

อย่างน้อยก็มีกาดำผู้นี้และพยัคฆ์บินก่อนนั้น

ค่อนข้างน่าสนใจ!

เขาไม่รู้ว่าผู้แข็งแกร่งขนาดนั้น ทำไมถึงเป็นโจรดวงดาว?

เย่ว์หยางสังเกตเห็นว่าที่จัตุรัสนักรบดูเหมือนจะแฝงไปด้วยพลังกฎสวรรค์สองชนิด หนึ่งนั้นก็คือ อ่อนแรง เขารู้แล้วว่าพลังต่อสู้ลดลง พลังชีวิตก็ลดลง อีกกฎหนึ่งก็คือ เพิ่มประสิทธิภาพ แปลกอย่างสิ้นเชิง

การปรับปรุงนี้ไม่ส่งผลต่อชีวิต

ดูเหมือนจะมีการเพิ่มประสิทธิภาพให้หุ่นรบหรือหุ่นอสูรที่ไม่มีชีวิตได้หลายเท่า หรือมากกว่าสิบเท่า ถ้าคนระดับพลังเดียวกันขับขี่หุ่นรบ และอีกคนหนึ่งมือเปล่า เป็นไปได้ว่าคนมือเปล่าจะต้องพ่ายแพ้คู่ต่อสู้ที่มีหุ่นรบแน่  จัตุรัสนักรบนี้เหมือนเป็นการขยายพลังกฎสวรรค์ของหุบเขามนุษย์ แต่ที่นี่ไม่ได้จำกัดพลังชีวิตและวิทยายุทธ์ของมนุษย์เท่านั้น แค่ทำให้พลังอ่อนลงร้อยเท่า  แม้หุบเขามนุษย์จะห้ามการใช้วิทยายุทธ์ความแข็งแกร่งส่วนตัว  แต่ที่นี่ไม่ เพราะยังมีการเพิ่มประสิทธิภาพ

ถ้าใส่จัตุรัสนักรบนี้ หรือสภาพแวดล้อมอย่างจัตุรัสนักรบนี้ไว้ในหุบเขามนุษย์  อย่างนั้นเขาไม่ต้องรู้สึกจนใจเวลาสู้กับเทพปีศาจ

เย่ว์หยางไม่ทันนึกถึงว่าตอนนี้มีคนสองคนถูกลากไปที่นั่น

คนหนึ่งสูง คนหนึ่งเตี้ย

คนหนึ่งอ้วน อีกคนหนึ่งผอม

บุรุษร่างอ้วนใหญ่ตื่นกลัวตัวสั่นเหมือนภูเขาเนื้อเน่าเขาแทบจะเคลื่อนไหวไม่ได้เลย ถ้าไม่ใช่เพราะโจรดวงดาวหลายสิบคนนี้ลากดึงเขาอย่างดุเดือด ในทางตรงกันข้ามบุรุษผอมเตี้ยเหมือนคนแคระเดินใจเย็นมั่นคงเหมือนภูเขาออกมาทีละก้าวๆ ดูไม่เหมือนกับว่าเขาถูกโจรดวงดาวลากออกมา แต่ดูเหมือนเขากำลังฉุดลากโจรดวงดาวเหล่านั้น

 “ยินดีต้อนรับ กัปตันเรือที่สองและที่สาม  สหายของกัปตันเรือที่หนึ่ง คนขายเนื้อ ในตำนานแม่ทัพฉีกู่แห่งจักรวรรดิอาคเนย์ที่แม้แต่เด็กเห็นก็ยังหยุดร้องไห้  ถ้าหัวหน้าสองคนก่อนหน้านั้นไม่ค่อยสนใจข้ากาดำ ข้าอยากจะเชิญชวนซ้ำๆ ขอให้ยอมจำนนเสียโดยดี”  บุรุษชุดคลุมดำปรบมือต้อนรับ

 “ถุย” นี่คือคำตอบจากบุรุษผอมเตี้ยนามแม่ทัพฉีกู่

 “ข้ายินดียอมแพ้ ท่านกาดำ ข้ายินดีประกาศละความมืดหันเข้าหาแสงสว่างสนับสนุนการปฏิวัติ”  นี่คือคำตอบของคนอ้วนใหญ่ คนขายเนื้อ

 “ความสามารถของพวกเจ้าทั้งสองเมื่อยามร่วมมือกันเป็นสิ่งที่ทรงพลังเสมอ น่าเสียดายที่ประกาศว่าละความหันเข้าหาแสงสว่างยอมแพ้แค่คนเดียว คนขายเนื้อผู้น่ารัก กัปตันเรือกระทุงคนที่สาม เจ้าโน้มน้าวสหายเจ้าที่เป็นแม่ทัพได้ไหม?  ถ้าเขายอมตกลงยอมแพ้ อย่างนั้นข้าจะให้เจ้าได้คุมเรือนกกระทุงทั้งหมดตกลงไหม?   ยานแม่นกกระทุง เจ้าอยากปกครองบัญชาการเสมอมา  เจ้าต้องการควบคุมยานแม่ทั้งหมด ตอนนี้โอกาสอยู่ต่อหน้าเจ้าแล้ว  ตราบใดที่เจ้าโน้มน้าวกัปตันฉีกู่ได้ ยานจะเป็นของเจ้า!  กาดำพยายามล่อลวงเขาอย่างไม่หยุดหย่อน  หลังจากได้ยินแล้วเย่ว์หยางคิดว่าสหายผู้นี้ไม่เลว เปลี่ยนจากนักปฏิวัติเป็นนักการทูตถือว่าเป็นคนมีพรสวรรค์คนหนึ่ง

 “ท่านกาดำ ฉีกู่หยาบกร้านเกินไป ข้าไม่สามารถโน้มน้าวเขาได้ ให้ข้ายอมแพ้ก่อน!  คนอ้วนพยายามขอร้องวิงวอน

 “ไม่, เจ้าอาจไม่รู้  ข้าเป็นคนชอบความสมบูรณ์แบบ  ถ้าไม่ได้สิ่งที่ดีที่สุด ข้าก็อยากทำลายมันทิ้งซะ  เจ้าเข้าใจไหม?  ถ้ายอมจำนนแค่เจ้าคนเดียว  อย่างนั้นข้าเสียใจด้วย  ข้าจะทอดไขมันของเจ้าลงในกระทะและเสริฟเป็นอาหารมื้อเย็นให้พี่น้องข้า”  กาดำถอนหายใจเบาๆ ขณะกระซิบข้างหูคนขายเนื้อ

 “ข้าบอกฉีกู่แล้ว  เจ้ายืนยันปล่อยให้ยานแม่กระทุงถูกพวกเขาโจมตี  ตอนนี้เราทุกคนตกอยู่ในเงื้อมมือพวกเขาแล้ว และสถานการณ์ก็เป็นอย่างที่เจ้าเห็น ถ้าไม่ตกลงก็คือตาย เจ้าตกลงเถอะ!  คนขายเนื้อตัวสั่น เขาไม่สามารถนึกภาพออกได้เลยเมื่อเขาถูกทำเป็นอาหารเสริฟมื้อค่ำ

 “ถุย” คนตัวเตี้ยฉีกู่ให้คำตอบเหมือนเดิม

 “ในเมื่อเป็นอย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน  เอาล่ะ ลากเจ้าอ้วนไปทอดเอาน้ำมัน  ส่วนเจ้าผอมหักกระดูกต้มซุป”  กาดำสั่งการเหมือนหัวหน้า

 “ช่วยด้วย! พ่อจ๋า แม่จ๋า”  ขณะที่คนอ้วนกลัวร้องไห้เรียกหาพ่อแม่ ทันใดนั้นเงาดำที่กำยำพุ่งขึ้นไปในอากาศด้วยความรวดเร็ว แล้วโฉบลงมาเหมือนอินทรีหลีกเลี่ยงการสกัดขัดขวางของพวกโจรดวงดาวและพุ่งเข้าหาฝูงชนทันทีและจับคนไว้คนหนึ่ง  เป็นกัวกัวถูกจับมาเป็นโล่มนุษย์บังข้างหน้าไว้และมืออีกข้างหนึ่งมีดาบในแขนเสื้อจ่อที่คอของกัวกัว เย่ว์หยางตะโกนลั่น “หยุดนะ ปล่อยคนเดี๋ยวนี้  มิฉะนั้นข้าจะฆ่าคนให้หมด”

กัวกัวหวาดกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ เขาร้องเสียงหลง “ไม่ ไม่ ข้าไม่ใช่โจรดวงดาว ข้าไม่ใช่โจรดวงดาว ข้าเป็นผู้โดยสารผู้บริสุทธิ์

ยังคงเป็นเย่ว์หยางที่ใจเย็น  เขาก้าวออกมาเล็กน้อยใช้คมมีดจ่อคอของกัวกัวจากนั้นวิเคราะห์  “นี่ก็เหมือนกับชิงตัวประกันออกไป ไม่มีอะไรสำคัญที่สุด!

10 ความคิดเห็น:

oBABYVOXo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ
ขอเม้นก่อนอ่านนะครับ

Apirak Panyakam กล่าวว่า...

กัวกัวโดนดีแน่

Pcha กล่าวว่า...

ขอบคุนคับ

--- กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ
ใครมาอีกละเนี่ย

Lazykuma กล่าวว่า...

แปปเห้ยเอ็งจะมาแย่งจี้ตัวประกันไม่ได้นะ555

CHANTANA กล่าวว่า...

ขอบคฺณคับ

BJ กล่าวว่า...

ฉากฮามาอีกแล้ว

Unknown กล่าวว่า...

บัก3ของขึ้น5555

l3ell_Zaa กล่าวว่า...

แผนการใช้ได้

แมงมุม unknow สีส้ม กล่าวว่า...

จัดกัวกัวก่อนเลยได้มะ

แสดงความคิดเห็น