ตอนที่ 1198 มีผลอย่างเดียว คือตาย
ผลของการต่อสู้ เย่ว์หยางถูกทำร้ายลงไปนอนกับพื้น
เขาถูกโจมตีทุบตี ไม่ถึงกับเป็นหมื่นครั้ง แต่แค่เก้าพันครั้ง นับแต่สื่อจินโหวเป็นต้นมา เส้นทางการเติบโตของเย่ว์หยางต้องพบเจอกับศัตรูที่แข็งแกร่ง บ่อยครั้งที่ต้องต่อสู้อย่างยากลำบาก กว่าจะชนะบางทีก็ต้องอาศัยโชคดี บ่อยครั้งที่ต้องต่อสู้อย่างยากลำบาก เด็กหนุ่มจากโลกอื่นไม่อาจฆ่าศัตรูได้ง่าย ร่างกายของเขาหากไม่มีเพลิงอมฤตคอยช่วยชำระรักษาบาดแผลได้อย่างสมบูรณ์ คาดว่าบาดแผลของเขาคงพอๆ กับดวงดาวในท้องฟ้า
แน่นอนว่า ยิ่งเขาพ่ายแพ้ถูกศัตรูทุบตีลงไปนอนกับพื้นมากเพียงไหน แต่เย่ว์หยางก็จะลุกขึ้นมาได้หลายครั้ง
อย่างไรก็ตาม
มันไม่เคยเป็นแบบนี้
หลังจากเย่ว์หยางถูกตีลงไปนอนกับพื้น เขาไม่สามารถต่อสู้ได้อีกต่อไป! เขาไม่ได้เป็นลมหมดสติ แม้กระทั่งลมหายใจยังนิ่งเงียบ แต่เขาไม่สามารถควบคุมร่างกายตนเองให้ลุกขึ้นยืนสู้ได้อีกต่อไปเท่านั้น! เย่ว์หยางมั่นใจว่าความสามารถหลักที่น่าเกรงขามของบุรุษลึกลับนี้ หรือบางทีเขาอาจถูกขัดขวางโดยประกายเทพของบุคคลลึกลับนี้ ในฐานะผู้เข้าถึงระดับเทพ แม้เขาจะใช้สมบัติเทพอื่นมาใช้ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขาเริ่มเห็นระยะห่างระหว่างตัวเขาและบุรุษลึกลับ
นั่นคือช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างนักรบระดับกึ่งเทพและเทพปราณราชันย์... พลังแบบนี้ไม่สามารถเอาชนะด้วยความตั้งใจอย่างเดียวได้
ขณะเดียวกัน นี่คือความแตกต่างกันระหว่างมนุษย์และเทพแท้
บุรุษลึกลับนี้คือนักรบระดับเทพแท้
นอกจากสุดยอดนักสู้ปราณราชันย์แล้ว ไม่มีมนุษย์คนใดเอาชนะเขาได้ ต่อให้เป็นมนุษย์ใกล้เคียงเทพอย่างเย่ว์หยางก็ไม่ยกเว้น
เมื่อเผชิญหน้ากับกฎสวรรค์, ประกายเทพ ความคิดเหล่านี้สามารถสร้างโลกและทำลายโลกด้วยพลังทำลายล้างที่น่ากลัว เย่ว์หยางยังสามารถปกป้องตนเองได้ภายใต้พลังกดดันของฝ่ายตรงข้ามได้ปานปาฏิหาริย์
แม้ก่อนที่เย่ว์หยางจะล้มลงกับพื้น เขาจะสร้างปาฏิหาริย์ที่บ้าคลั่งเหลือเชื่อขึ้นมาอีกหนึ่ง
นั่นคือ
ในฐานะมนุษย์
เขาทำร้ายบุรุษผู้มีพลังเทพราชันย์ ผู้มีประกายเทพ และกฎสวรรค์ข่มเขาไม่ได้จนเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส
บุรุษลึกลับยืนอยู่กลางอากาศ ใบหน้าซีกซ้ายไหม้เกรียมเจ็บปวดลึกถึงเบ้าตาเขาใช้นิ้วขุดพลังดับสุริยาที่ฝังอยู่ในแขนออก ผิวของเขาถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง บางแห่งก็มองเห็นกระดูก ภายใต้ประกายเทพของคนลึกลับ อาการบาดเจ็บของเขาหายเร็วขึ้นมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่เขาไม่สามารถกำจัดอาการทรมานเจ็บปวดที่เกิดขึ้นได้ บุรุษลึกลับถูกเผาร่างไปถึงครึ่งหนึ่ง ที่น่าสนใจคือซี่โครงขวาถูกปราณกระบี่ส้มที่เย่ว์หยางสร้างขึ้นเล่นงาน
กระบี่นี้
แม้แต่ปณิธานเทพของเขาก็ยังทำลายไม่ได้ง่ายๆ
หลังจากควักพลังดับสุริยาที่เบ้าตาซ้ายออก บุรุษลึกลับเกลียดจนอยากกระแทกทำลายจุดดับสุริยาให้ระเบิด แต่เกรงว่าจุดดับสุริยาจะทำให้เกิดการระเบิดและทำให้เขาบาดเจ็บรุนแรงในที่สุดเขาโยนมันขึ้นไปบนอากาศอย่างไม่เต็มใจ
จากนั้นบุรุษลึกลับใช้มือยึดปราณกระบี่ส้มเฉิงหงกวง
ในบรรดาพลังโจมตี กระบี่ส้มส่งผลมากที่สุด
เขาบังคับใช้พลัง
ค่อยๆ ดึงปราณกระบี่ที่แทงลึกในชายโครงขวาออกมาทีละนิดๆ
เขาใช้พลังเทพคลุมรอบปราณกระบี่จากนั้นใช้พลังแสงเทพผลักดันปราณกระบี่กลับไปหาเย่ว์หยางที่ร่วงหล่นไปบนพื้นยังไม่สามารถขยับตัวได้เพื่อระบายความเกลียดชังในใจของเขา
ซื่อเสินกระเด็นห่างออกไปยี่สิบกิโลเมตร
แม้ว่าจะได้รับการปกป้องจากกระบี่วิถีกำศรวล แต่ก็ทำให้สายตาของเขาพร่าไปชั่วขณะยังไม่ฟื้นฟูการมองเห็นชั่วคราว
จ้าวซีห่างออกไปมากกว่าเขา เขาใช้กระจกเทพปกป้องซวงหานที่อยู่ในสภาพอ่อนแอทำให้แสงทำลายล้างแทงเข้าที่แขนของเขา และแขนของเขาชุ่มไปด้วยเลือด ซวงหานจ้องมองและถามเขา “ผลเป็นยังไงบ้าง? ตอนนี้ผลเป็นยังไง? ทำไมไม่มีเสียง? แย่แล้ว พลังเทพผันผวน ปีศาจเฒ่ายังไม่ตาย เขายังไม่ตาย!”
จ้าวซีสามารถเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์การต่อสู้โดยไม่ต้องใช้สายตา แต่ซวงหานทนไม่ได้ที่จะบอกว่าบุรุษลึกลับไม่เป็นไร ภายใต้รังสีดับสุริยาและปราณกระบี่แสงสี่สายที่โจมตีใส่ร่างกายเขาอย่างหนัก
ตรงกันข้ามเด็กหนุ่มผู้ท้าทายกลับทรุดนอนลงกับพื้น
ไม่มีพลังลุกกลับมาสู้อีกต่อไป
เขาใกล้จะประสบความพ่ายแพ้
“เจ้าเด็กน้อย! ในรอบสามหมื่นปีไม่เคยมีใครทำให้ข้าต้องเจ็บปวดขนาดนี้มาก่อน! เจ้ามันช่างน่ารำคาญมาก แต่ข้าอยากจะบอกว่ามนุษย์อย่างไรก็ยังเป็นมนุษย์ เทพก็คือเทพ มนุษย์ไม่สามารถท้าทายเทพได้ และไม่มีทางเอาชนะเทพได้!” ชุดคลุมของคนลึกลับเริ่มกระพือภายใต้พลังเทพ และจากพลังนี้ทำให้ไม่มีใครสามารถเห็นหน้าของเขาได้ชัดเจน พลังเทพประเภทหนึ่งที่คนไม่สามารถเห็นได้แผ่ออกมาจากร่างของเขาแข็งแกร่งเหนือกว่าซื่อเสิน จ้าวซีและพวก ในทันทีนั้นพวกเขารู้สึกได้ถึงการยอมจำนนต่อคนลึกลับที่เหนือกว่านี้ แค่พลังเทพที่เปล่งออกมาจากร่าง คนที่ชมดูอยู่ก็ไม่สามารถต่อต้านทนได้ คนลึกลับแผ่พลังเทพกดดันเย่ว์หยางบนพื้นและพูดช้าๆ เหมือนกับทำการพิพากษาตัดสิน “บัดนี้ เจ้าบังอาจต่อต้านสวรรค์ ทำร้ายต่อร่างเทพผู้มีเกียรติคุณสูงสุดด้วยปราณกระบี่ของเจ้า ดังนั้นข้าจะให้เจ้าตายด้วยปราณกระบี่ของเจ้าเอง”
หลังจากคนลึกลับพูดจบ เขาเพิ่มพลังคลุมรอบปราณกระบี่เฉิงหงกวนเป็นสองเท่า
และเตรียมใช้พลังตอบโตปราณกระบี่ส้ม
จากนั้นเล็งไปที่ศีรษะของเย่ว์หยางอีกครั้ง ตราบใดที่เขาถอนพลังเทพออก เขาเชื่อว่าแรงกดของปราณกระบี่ส้มจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และจะทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าอย่างมิอาจต้านทานได้
นัยน์ตาของซื่อเสินคล้ายเสือที่ได้รับบาดเจ็บมีโลหิตสองสายหลั่งออกมองคล้ายน้ำตา เขายังถือกระบี่วิถีกำศรวลอยู่ในมือ
จ้าวซีวิ่งเข้ามาสมทบกับซวงหานที่ร่างอ่อนแออย่างรวดเร็ว
พวกเขาวิ่งเขามาหาอย่างกระวนกระวายใจ “ซื่อเสิน! อย่าเพิ่งบุ่มบ่าม เราจะช่วยทุ่มพลังให้เจ้า!”
ซื่อเสินไม่รู้ตัวว่ากัดริมฝีปากจนเลือดซึมออกมาตั้งแต่เมื่อใด เขาสูดหายใจลึกและระเบิดพลังเทพทั้งหมดทันที “ข้ารู้ดี พลังของเราทั้งหมดสู้ ก็ไม่ต่างกับมดที่เขย่าตอไม้ อย่างไรก็ตามข้าจะไม่นั่งดูเด็กหนุ่มผู้รุ่งเรืองที่อาจเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับข้าต้องตายไปต่อหน้าต่อตา ไม่ว่าวิธีการของข้าจะมีประโยชน์หรือไม่ ข้าต้องสู้! นอกจากสู้อย่างสิ้นคิด ข้าจะทำอะไรได้อีก... บางทีข้าอาจเป็นตัวทำให้ยุ่งยากมากขึ้น แต่ข้าไม่อาจเพิกเฉยมองดูคนเผ่าพันธุ์เดียวกับข้าถูกฆ่าตาย!”
“เปล่าประโยชน์ เฮ้อ!” จ้าวซีถอนหายใจหมดหวัง
เขาเข้าใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าซื่อเสินถูกฆ่าตาย
ตอนนี้พวกเขาไม่ใช่เป้าหมายของคนลึกลับ เพียงแต่พลังเทพกดดันก็แทบทำให้ผู้ที่เห็นต้องงอมืองอเทามองดู ถ้าคนลึกลับลงมือเขาควรจะสู้ด้วยไหม?
เจตจำนงราชันย์ของสุดยอดนักรบปราณราชันย์ก็สามารถฆ่าซื่อเสินได้! ไม่มีเหตุผลที่ควรท้าทายคนลึกลับในตอนนี้
รู้ว่าฝีมือห่างไกล แต่เขาก็ยังคงกล้าหาญ
ดึงดันเกินไปหรือเปล่า?
โง่ใช่ไหม?
จ้าวซีไม่ห้ามซื่อเสินอีก เขาหลับตาเจ็บปวด ไม่สามารถทนดูเทพบูรพาที่เขารู้จักมาเป็นหมื่นปีถูกศัตรูฆ่าตายทันที!
“เฮอะ!” คนลึกลับไม่สนใจป้องกันซื่อเสินแต่อย่างใด เขาโบกมือสะบัดแขน แต่พลังเทพโจมตีซื่อเสินกระเด็นไปหมื่นเมตร และจากนั้นใช้พลังกักซื่อเสินให้ดิ้นรนทรมานด้วยความเจ็บปวด
ถ้าไม่ใช่เพราะเขายังหวังจะได้รับความลับบางอย่างเกี่ยวเทพมหาอัคคีและเทพสุดยะเยือกทั้งสองแล้ว เขาคงสังหารซื่อเสิน จ้าวซีและคนอื่นๆ จนเหลือเถ้าธุลีไปนานแล้ว ขณะที่ซื่อเสิน จ้าวซีและซวงหานถูกพลังเทพของเขาข่มไว้ ในอีกด้านหนึ่ง ปราณกระบี่ส้มเฉิงหงกวงถูกบีบอัดแน่นด้วยพลังเทพถึงสิบเท่า และพลังกระบี่ขยายเพิ่มอีกร้อยเท่า
บุรุษลึกลับระมัดระวังไม่คลายพลังที่ใช้หุ้มห่อปราณกระบี่ส้ม
เขาสงสัยว่าปราณกระบี่ชนิดนี้จะไม่ทำลายผู้เป็นนาย
แต่ว่าตอนนี้เขาไม่ต้องการกลับคำพูดของเขา
ดังนั้นแนวคิดเรื่องปราณกระบี่ส้มเปลี่ยนไปอย่างลับๆ แต่พลังเทพที่ใช้ห่อหุ้มปราณกระบี่ยังคงอยู่ และการสะท้อนพลังปราณกระบี่อาจจะตอบสนองต่อพลังชีวิตของเขาเย่ว์หยาง เขาจะใช้พลังปราณกระบี่สนอ
คืนเย่ว์หยาง
เย่ว์หยางนอนอยู่บนพื้นและร่างกายทั้งสิ้นทำให้คนลึกลับไม่รู้เรื่องกฎ ข้อห้าม และเขาไม่สามารถดิ้นรนได้
เขาต้องเห็นปราณกระบี่ส้ม พุ่งออกไปเหมือนจรวดด้วยตาตนเอง
ตรงไปต่อหน้าต่อตาเขา
“ตาย” เมื่อบุรุษลึกลับเห็นว่าเย่ว์หยางไม่สามารถต่อต้านได้ ในที่สุดเขารู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง และความโกรธที่โดนเจ้าเด็กนี่ทำร้ายบาดเจ็บหายไปเกือบครึ่งหนึ่ง ตราบใดที่บดขยี้เจ้าเด็กนี่จนเหลือแต่เถ้าถ่าน เขาจะไม่มีอะไรต้องกลัวแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามเขาฆ่าอัจฉริยะมานับไม่ถ้วนแล้ว
“อา...”
เสียงร้องกราดเกรี้ยวดังขึ้นที่ด้านหลังบุรุษลึกลับ
ก่อนที่คนลึกลับจะหันกลับมา เขารู้สึกว่ามีพลังเทพทำลายล้างสรรพสิ่ง สามารถทำลายกฎสวรรค์ของตัวเขา ในขณะเดียวกันก็บีบบังคับให้เขาต้องปกป้องร่างกายตนเอง พลังนั้นทำลายเจตจำนงราชันย์ที่ปกป้องร่างกายของเขาระดมโจมตีใส่ตัวของเขาราวกับฟ้าผ่า
เป็นเวลากว่าหมื่นปีที่คนลึกลับไม่ได้ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดหลั่งโลหิต
ดูเหมือนว่าหัวใจของเขาแทบแตก และเลือดเนื้อ สมองแทบจะระเบิด ความเจ็บปวดพุ่งขึ้นมาจากลำคอ
เขารู้สึกว่ากระดูกสันหลังและซี่โครงราวกับจะระเบิด ร่างของเขาปลิวไปร้อยเมตรอย่างมิอาจควบคุมได้ พลังเทพของคนลึกลับกลับมารวมตัวอีกครั้ง และกำจัดพลังเทพโจมตีที่ค้างอยู่ในร่างของ และพยายามรักษาอาการบาดแจ็บให้เสถียร คนลึกลับผู้นั้นพยายามกลืนเลือดลงท้อง ใครโจมตีเขา? ใครสามารถโจมตีตัวเขาได้ที่ขุนเขาเหนือขุนเขาแห่งนี้
ใครบังคับให้เขาถอยหลังได้?
เทียนอี้มาถึงหรือ?
เป็นไปได้อย่างไร
คนลึกลับหันไปมองด้วยความประหลาดใจ
เขาพบว่าเป็นปีศาจอสรพิษน้อยที่เขาไม่ได้ให้ความสนใจ
ตอนนี้สภาพของเธอแตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ในเวลานี้เธอมีพลังมากพอจะตรึงโลกทั้งโลก ร่างปีศาจอสรพิษทองสูงหนึ่งกิโลเมตรยืนมองอยู่เหนือโลก การโจมตีหนักหน่วงเมื่อครู่นี้ คือพลังควบแน่นจากประกายเทพ
โชคดีที่ปีศาจอสรพิษน้อยนี้ ยังไม่เติบโตเต็มที่ มิฉะนั้นคงอันตรายอย่างไม่คาดคิดแน่นอน
อายุน้อยขนาดนั้นมีประกายเทพฉายร่างสูงถึงหนึ่งกิโลเมตร นั่นนับว่าไม่เลวแล้ว
บุรุษลึกลับมีความคิดอำมหิตฆ่าฟันทันที
ขณะที่เธอยังเติบโตไม่เต็มที่ถ้าไม่ฆ่าในตอนนี้ ปล่อยไปจะเป็นหายนะ ถ้าจะฆ่าต้องรีบฆ่าปีศาจน้อยนี่ทันที
“ได้คู่ต่อสู้แบบนี้ให้ข้ารับมือเอง! ตลอดเวลาข้ามักจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดที่นายท่านมอบให้เสมอ แต่เข้าร่วมต่อสู้ แม้แต่ฮุยไท่หลางที่กินของเหลือจากข้าก็ยังได้ต่อสู้เพื่อนายท่านอยู่บ่อยๆ... ข้ามักจะนอนหลับอยู่ในโลกคัมภีร์ บ่อยครั้งที่เกียจคร้านเพียงเพราะข้ออ้างเพื่อความก้าวหน้า ในที่สุดวันนี้ข้าก็ได้โอกาสเสียที เสี่ยวเหวินหลี ครั้งนี้ให้ข้าลงมือเอง! นอกจากนี้ถ้าปล่อยให้เจ้าสู้อาจจะทำให้ขุนเขาเหนือขุนเขาพังทลายก็ได้ ครั้งนี้ให้ข้ารับมือเอง!”
เสียงนี้ไพเราะอ่อนโยน
เสียงไพเราะหวานหูแบบนี้แม้แต่คนที่โกรธโมโหเมื่อได้ยินได้ยินก็เป็นเหมือนกับคนที่ได้ดื่มน้ำเย็นในฤดูร้อน ไม่สามารถโกรธต่อ และรู้สึกสบาย
แน่นอนว่าเสียงนี้ทรงพลังเหนือธรรมชาติที่มิอาจปฏิเสธได้
แม้จะไม่ได้ตั้งใจ
แต่พลังปณิธานราชันย์ไม่มีใครเพิกเฉยได้!
บุรุษลึกลับหันกลับไปและพบว่าปราณกระบี่ส้มเฉิงหงกวงที่เขาใช้พลังเทพหุ้มคลุมไว้ ถูกสาวน้อยผู้งดงามดุจเทพธิดาใช้นิ้วที่งดงามเหมือนกลีบกุหลาบคีบจับไว้ ปราณกระบี่ส้มที่พยศร้ายกาจสามารถสะท้อนพลังกลับเชื่องเชื่อราวกับลูกแมวน้อย นอกจากไม่สะท้อนยืดยาวเท่านั้น แต่กลับหดลงทีละนิดๆ พลังเทพที่ล้อมคลุมโดยรอบหายไปกลายเป็นชิ้นส่วนของกลีบดอกไม้กระจายไปตามลม
“เจ้าก็เป็นเทพราชันย์ด้วยหรือ?” ในหัวใจของบุรุษลึกลับ หญิงสาวประหลาดนี้แกร่งกร้าวมากกว่าปีศาจอสรพิษน้อยที่อยู่ข้างหลังเสียอีก! นางมาจากไหน? หรือว่านี่คืออสูรพิทักษ์ของเจ้าเด็กนี่? เจ้าเด็กนี่มีอสูรพิทักษ์ถึงสองเชียวหรือ?
อสูรพิทักษ์คู่แฝด?
แต่ไม่เหมือนกัน!
ข้างหน้านี้ดูเหมือนจะเป็นอสูรสายพฤกษา และข้างหลังเป็นปีศาจอสรพิษน้อย!
สิ่งที่แปลกที่ทำให้คนลึกลับสับสนก็คืออสูรพิทักษ์ทั้งสองล้วนเป็นอสูรพิทักษ์ระดับเทพทั้งนั้น แม้แต่นางหนึ่งก็ถึงระดับเทพราชันย์.... ถ้าเจ้าเด็กนี่เป็นเจ้านายจริงๆ ทำไมเขายังไม่เป็นระดับเทพ? ทำไมยังไม่เข้าสู่ระดับเทพราชันย์? ต้องมีบางอย่างผิดปกติแน่นอน มิฉะนั้นคงไม่มีเรื่องเหลวไหลแบบนี้เกิดขึ้น!
“ข้าจะเป็นอะไรก็ไม่สำคัญ! ที่สำคัญคือเจ้าทำร้ายเจ้านายข้าด้วยเล่ห์เหลี่ยม! เจ้าแสร้งเป็นดูถูกการต่อสู้ของผู้เยาว์ แต่ในความเป็นจริงเจ้าใช้อสูรโจมตีเขาในขณะต่อสู้เสี่ยงชีวิต นี่เป็นความผิดเป็นการกระทำที่ไร้ยางอาย เพราะเจ้าเป็นระดับผู้อาวุโสกระทำการเช่นนี้ไม่สมกับสถานะเจ้าเลย อย่างไรก็ตามไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร ไม่ว่าเจ้าจะใช้วิธีการไร้ยางอายขนาดไหน ตราบที่เจ้าทำร้ายเจ้านายข้า เจ้ามีจุดลงเอยเพียงอย่างเดียว” ร่างกายของนางแผ่กระจายดอกไม้นับไม่ถ้วน ด้วยพลังแห่งเทพนางเปลี่ยนโลกทั้งใบให้กลายเป็นทะเลดอกไม้ในทันที นิ้วเรียวยาวชี้ไปทางบุรุษลึกลับ “นั่นคือ ตาย!”
23 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
มาแล้วๆ
ตั่วตั่วออกโรงแล้ว
ตายยยย จบ ขอบคุณคับ มาแล้วน้องๆออกโลง
จะเท่ก็ไม่ใช่จะสวยก็ไม่เชิงจะเรียกเทอยังงัยดีนางพยา
ไปคุยกับรากมะม่วงงง!!!!
โหดฯแท้สฺดยอด
ยังเหลืออสูรเทพมังกรอีกคน โผล่มาแล้วจะร้อง
มาแล้ว ตั่วๆ
มาแล้วไม่แพ้นะ
ขอบคุณครับ
ตั่วตั๋ว ออกมาสมค่าตัวจริงๆ
คนสวยออกโรงเเล้ว
ในที่สุดก็จะได้เห็นตั๋วตั๋วโชว์เทพ หวังว่าเอี้ยงจิ้งจะออกมาด้วยไม่ได้เห็นนางนานแล้ว
ค้างสุดๆอยากskipเวลาได้เลย
ตั้งแต่ต้นเรื่องตั๋วๆนี้บทนานๆจะโผลแหะ
ตัวตัวจะเก่งกว่าเจ้านายไม่ได้นะ เบาได้เบา
พระเอกกลังๆกากลงเรื่อยๆ 5555
เอาตรง ๆ เลยนะ.... น้องเป็นอสูรที่เฮียหยางเเกดูเเลเอาใจใส่เป็นอันดับต้น ๆ ของเรื่องจนปัจจุบันเลย ถ้าไม่เก่ง ไม่เทพก็ไม่รู้จะกล่าวอันใดเเล้วล่ะ เเต่ละอย่างที่เฮียเเกใช้บำรุงเลี้ยงดูน้อง ต้องบอกว่าน้อยคนที่ทำเเบบนั้นได้!!!
หยางมันข้ามไประดับเทพได้แล้ว แต่ตัวตั่วห้ามไว้ เพื่อจะได้พัฒนาได้ต่อ ส่วนตัวตั่วน่าจะพัฒนาไม่ได้แล้ว แต่ยังสามารถพัฒนาลูกน้องให้เป็นระดับเทพได้ หาปุ๋ยให้ลูกน้องได้อีก
เดี๋ยวระดับเทพจะออกมาอีกคนไหมอ่ะ โชว์ตัวเลย
พระเอกเรามีลูกน้องระดับเทพกี่ตัวนะ ตั่วๆ เจี้ยงอิง ตอนนี้เพิ่มเสี่ยวเหวินหลี แล้วมีใครอีกมั้ย
หือ พี่เย่เกือบเเล้วน่ะ ดีน่ะตั๋วตั๋วมาทัน
ตั๋วตั๋ว มาคือจบ
ค่าตัวแพงมาก กว่าตั๋วๆจะลงมือสักครั้ง
แสดงความคิดเห็น