ตอนที่ 1201 พลังเทพกับพลังสร้างโลก
ดอกหนามยักษ์และกลีบดอกไม้ยักษ์ร่วมกันทุบตีบุรุษลึกลับ
ตามความปรารถนาของเย่ว์หยาง
คงเป็นการดีที่สุดที่คนลึกลับถูกหมัดตั่วตั่วเล่นงานทรุดลงกับพื้นแล้วแกล้งตาย พอเผลอก็เผ่นหนีจากไปก็คงจะสมบูรณ์แบบ การฆ่าตัวหัวหน้าอย่างบุรุษลึกลับนั้น เย่ว์หยางไม่มีความละโมบในเรื่องนี้ เพราะคนลึกลับนี้มีสมบัติน้อย มีอสูรศึกน้อย อย่างไรก็ตามความจริงอันโหดร้ายก็คือ ปีศาจเฒ่านี้ฝึกฝนมาหลายหมื่นปีแล้ว? จะฆ่าคนผู้นี้ในสามหมัดได้อย่างไร? คนเก่าแก่ขนาดนี้จะไม่มีสมบัติเทพสักชิ้นหรือสองชิ้นในมือหรือ? ไม่มีอสูรเทพสักตัวหรือสองตัวหรือ?
ต้องรู้ว่าตอนนี้บุรุษลึกลับไม่เคยเรียกอสูรเทพออกมา ไม่ได้ใช้สมบัติเทพออกมาสู้
เขาไม่ได้ใช้ ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่มี
เหตุผลที่เขาไม่ได้ใช้ บางทีคนผู้นี้อาจไม่รู้สึกว่าจำเป็นต้องใช้
หลังจากปล่อยให้ตั่วตั่วทุบอย่างเมามัน เย่ว์หยางไม่ต้องเดาก็รู้ว่าชายชราผู้นี้กำลังกังวล
“ตั่วตั่วกลับมา” เย่ว์หยางรีบบอกให้ตั่วตั่วและเสี่ยวเหวินหลีกลับมา หากไม่สามารถเอาชนะได้ ก็สามารถหลบหนีได้ พวกเขาสามารถหนีเข้าไปในโลกคัมภีร์ แม้ว่าต้องซ่อนตัวเป็นเวลาสิบปี สิบแปดปีก็ไม่มีอะไรน่าอาย
ยิ่งกว่านั้นแม้ว่าจะเสียหน้าบ้าง
ก็ยังดีกว่าเสียชีวิตอย่างไร้สาระ
“ฮึ่ม, พวกเจ้าเล่นกันพอหรือยัง?” เสียงของบุรุษลึกลับพูดขึ้นอย่างหงุดหงุดภายใต้การระดมกำปั้นของต้นดอกหนามยักษ์
พลังแสงเทพระเบิดออกมาจากร่างของบุรุษลึกลับ ซวงหานที่มองดูอยู่แต่ไกลร้องตกใจ “เจ้าผู้นี้ยังมีร่างที่สามอีกหรือ?”
เขาพูดยังคงก้องอยู่ในหู คนลึกลับที่โดนทุบตีอย่างโหดเหี้ยมได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือแต่เพียงแสงเทพสีทองสว่างเจิดจ้าสูงเป็นหมื่นๆ เมตรฉายกระทบขอบฟ้าโดยตรง ที่ด้านบนขอบฟ้าสูงมีพลังกดดันไร้ต่อต้านพุ่งลงมายังเบื้องล่าง ซวงหาน จ้าวซีทั้งคู่รู้สึกได้ถึงความยอมจำนนนอบน้อม ร่างของพวกเขาถูกพลังเทพกดข่มไว้ เท้าทั้งสองจมลึกลงไปในพื้น พวกเขาถูกบังคับให้ต้องใช้มือค้ำพื้น เอวพวกเขาเหมือนคันธนูไม่อาจต่อต้านแรงกดได้
แม้แต่นักสู้อย่างซื่อเสินได้แต่ใช้กระบี่วิถีกำศรวลช่วยค้ำพยุงตัวเองเท่านั้น
จึงจะยืนอยู่ได้
เย่ว์หยางกลับไปที่ดาบเทาเถี้ย ในฐานะอาวุธเทพร่างอสูรพวกเขาไม่จำเป็นต้องใช้บทบาทเดิมสู้ในครั้งต่อไป
เสี่ยวเหวินหลีกลับมาคุ้มกันด้านข้างเย่ว์หยาง ดาบน้ำแข็งคู่ของเธอมีศักยภาพพอต่อต้านพลังกดดันดุจภูเขากดทับนี้ได้เต็มที่ ตั่วตั่วยังดูสง่างาม นางเปลี่ยนทะเลดอกไม้ที่ก่อนหน้านี้เปลี่ยนแปลงได้ง่าย แต่ตอนนี้กลับทำได้ยาก นางแทบจะสูญเสียพลังควบคุมทั้งหมด
ต้นดอกหนามยักษ์และกลีบดอกไม้ยักษ์เหยียดกลีบและก้านดอกเพื่อปกป้องนาง เสี่ยวเหวินหลีและเย่ว์หยาง
ในท้องฟ้ามีบุรุษร่างทองดูเหมือนเทพเจ้ามีรัศมีเจิดจ้า
ค่อยๆ ลอยลงมา
ถ้าคนที่ไม่เคยเห็นเทพเจ้าแล้วมาเห็นบุรุษร่างทองผู้นี้ที่ค่อยๆ ลอยลงมายังพื้นโลก ก็จะเข้าใจว่าเทพมีลักษณะหน้าตาเป็นเช่นไร เขามองดูเหมือนเทพเจ้าในตำนาน ดูศักดิ์สิทธิ์ งดงาม สง่างามและยิ่งใหญ่... ไม่เพียงแต่จากสายตาเย่ว์หยางเท่านั้น แม้แต่พวกซื่อเสินก็ยังคิดว่าคนลึกลับผู้นี้จะเป็นใครไปอีกไม่ได้แล้วนอกจากเทพผู้ยิ่งใหญ่ แม้ว่ารู้ว่านี่คือศัตรู แต่ขณะนี้ซวงหานไม่สามารถยืนหยัดคิดต่อต้าน และในใจของพวกเขาตะลึงกับการปรากฏตัวของคนลึกลับ!
ตอนนี้บุรุษลึกลับฟื้นฟูร่างเดิมในสภาพสูงสุดแล้ว แต่ตอนนี้ร่างของเขาเป็นร่างเทพ
แสงเทพหมุนวนอยู่รอบๆ ร่างบุรุษลึกลับ
ก่อตัวเป็นม่านรัศมีศักดิ์สิทธิ์
ด้านหลังรัศมีทองมีภาพฉายร่างเทพทองขยายมากขึ้นอย่างไม่มีขีดจำกัด ในช่วงสิบวินาทีก็ขยายตัวออกไปมีขนาดสองกิโลเมตรเป็นร่างฉายขนาดยักษ์ใหญ่ทำให้เทือกเขาที่อยู่ไกลๆ มองดูคล้ายก้อนกรวดเล็กก้อนหนึ่ง
เย่ว์หยางและคนอื่นๆ ยืนอยู่ที่แทบเท้าร่างฉายสีทอง มองจากข้างล่างมิอาจเห็นร่างด้านบนของภาพฉายยักษ์นี้ได้ ตอนนี้ดอกหนามยักษ์และดอกไม้ยักษ์เมื่อเทียบกับยักษ์ทองที่สูงเกินสองกิโลเมตรกลายเป็นเหมือนคนแคระเมื่ออยู่ต่อหน้ารูปเทพยักษ์ทอง ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือประกายเทพของบุรุษลึกลับผู้เป็นอยู่มานานถึงหมื่นปี เสี่ยวเหวินหลีและตั่วตั่วไม่อาจเทียบได้ แม้ว่าทุกคนจะมีพรสวรรค์ แต่ก็เพียงฝึกมาในระยะไม่นาน ส่วนยอดฝีมือหมื่นปีผู้นี้ผ่านการเคี่ยวกรำฝึกฝนมาอย่างหนักในอดีต!
แม้ว่าบุรุษลึกลับจะไม่พูดออกมา แต่พวกซวงหานก็รู้กันทุกคนว่านี่ควรจะเป็นร่างที่สาม ร่างสุดท้ายแน่นอน
ซวงหานตอบสนองรำพึงกับตนเอง
ช่างเป็นปากนกปากกาจริงๆ
เขารำพึงกับตนเอง
บุรุษลึกลับอัญเชิญคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ แต่น่าประหลาดใจที่เขาไม่ได้อัญเชิญอสูรพิทักษ์ออกมาด้วย แค่เพียงใช้ทักษะแฝงเร้นพิเศษของตนเอง ไม่ทราบว่าเขาไม่จำเป็นต้องอัญเชิญหรือว่ามีเจตนาแฝงเร้นอย่างอื่น
เขาเปิดทำงานทักษะแฝงเร้นพิเศษและเรียกอสูรชนิดพิเศษเหมือนกับมีปีกช่วยพยุงตัวเองในอากาศได้ พลังของบุรุษลึกลับเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าในทันใด
เขาหลับตา จากนั้นลืมตาทันที
และยืนอยู่ที่ด้านหน้าเย่ว์หยาง
ราวกับถูกค้อนสายฟ้าหวดฟาดใส่ทั้งที่อยู่ในความคุ้มครองของตั่วตั่วและเสี่ยวเหวินหลี ทุกคนต่างปลิวกระเด็นออกไป
คนทั้งหมดกระเด็นราวกับกระสุนปืนใหญ่ชนเนินเขาลูกแล้วลูกเล่าติดต่อกันเป็นแนวเส้นตรง กิ่งก้านดอกหนามที่กระจายคลุมพื้นที่ไม่อาจปกป้องคุ้มครองร่างของเขาได้ทัน เหลือให้เห็นแต่เพียงอุโมงค์ขนาดใหญ่กว้างสิบเมตรลึกยาวถึงสิบกิโลเมตร ซวงหาน จ้าวซี และซื่อเสินที่อยู่ห่างจากเย่ว์หยางออกไปมากกว่าสิบกิโลเมตร แม้ว่าคนลึกลับจะไม่จ้องมองพวกเขา แต่พวกเขารู้สึกว่าหัวใจของพวกเขากำลังเต้นแรงราวกับกระทิงบ้าจนมิอาจควบคุมได้
นี่เป็นแค่เพียงพลังจ้องมอง
บุรุษลึกลับพอปลดผนึกฟื้นฟูร่างสุดท้ายกลับมีพลังถึงระดับที่ซวงหานกับพวกมิอาจจินตนาการถึงได้
ตั่วตั่วและเสี่ยวเหวินหลีตอบโต้ทันทีหลังจากเย่ว์หยางถูกโจมตี ร่างฉายปีศาจอสรพิษที่ด้านหลังตั้งท่าป้องกันเจ้านายก่อน ขณะที่ตั่วตั่วบุกเข้าโจมตีบุรุษลึกลับข้างหน้าทันที
ติง!
ร่างยักษ์ทองข้างหลังบุรุษลึกลับระเบิดพลังออกจากฝ่ามือทันที มือขนาดยักษ์คลุมเต็มท้องฟ้า
และจับยึดไหล่ของดอกหนามยักษ์ไว้ทันที
เถาดอกหนามยักษ์ถูกถอนออกมาฉีกกระชาก ดอกหนามยักษ์ไม่สามารถยืนต้นได้อยู่กลางทะเลดอกไม้ถูกกระชากขึ้นจากพื้นอย่างรุนแรงและเหวี่ยงออกไปในอากาศไกลออกไป
เถาและรากจากดอกหนามยักษ์ยืดขยายในอากาศกลับมาเชื่อมกับทะเลดอกหนามมากมายและกำจัดสลายพลังของร่างยักษ์ทองและตั้งลำตันได้อีกในที่สุด ภาพฉายยักษ์ทองที่สูงยิ่งกว่าภูเขาย่ำเท้าใส่หัวต้นดอกหนามยักษ์และกดลงกับพื้น
“ปัง!”
อีกด้านหนึ่งร่างยักษ์ทองใช้หมัดที่หนักหน่วงกระหน่ำใส่โล่สีรุ้งที่ดอกไม้ยักษ์ควบสร้างขึ้น
กลีบดอกไม้กระจายปลิวร่วงลงหล่นราวฝนตก สีสันแดงราวกับโลหิต
ลำต้นของดอกไม้ยักษ์เปลี่ยนรูปทันที
ราวกับว่าถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำอีก.... ตั่วตั่วที่ควบคุมดอกไม้ยักษ์มีสีหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ มุมปากของนางหลั่งโลหิต
การเผชิญหน้ากันระหว่างพลังเทพด้วยกันผลการปะทะกันระหว่างเจตจำนงเทพ แม้จะไม่ได้ลงไปสู้ด้วยตนเอง แต่มีอันตรายยิ่งลงไปต่อสู้ด้วยตนเองเป็นร้อยเท่า ผู้ที่ด้อยกว่าเพียงเล็กน้อย จะได้รับความเสียหายร้ายแรงได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่ทักษะและกลยุทธ์ใดจะสามารถจัดการได้!
ภายใต้พละกำลังที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง พลังที่แข็งแกร่งกว่าเท่านั้นจะเป็นกุญแจสู่ชัยชนะ
เหนืออื่นใด
ไม่ว่าจะเป็นทักษะหรือยุทธวิธี ดูเหมือนจะด้อยกว่าเห็นได้ชัด
“ชีวิตไม่มีที่สิ้นสุด สวรรค์คือธรรมชาติที่แน่นอน” ดวงตาของตั่วตั่วแสดงให้เห็นความมุ่งมั่นพยายามอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเสี่ยวเหวินหลีช่วยเย่ว์หยางออกมาจากภูเขาหินที่ฝังร่างของเขา เขากำหมัดแน่นเจตจำนงราชันย์ไม่มีความเคลื่อนไหว
ด้วยคำพูดของนางทะเลดอกไม้ที่เหี่ยวแห้งทั้งหมดภายใต้แรงกดดันของบุรุษลึกลับฟื้นฟูพลังขึ้นในทันที
ดอกหนามยักษ์ที่ถูกร่างฉายยักษ์ทองย่ำศีรษะกับพื้นกอดรัดขาของยักษ์ทองทันที
ร่างขนาดสองกิโลเมตรของยักษ์ทองเริ่มสั่นสะเทือน
ตั่วตั่วเริ่มตอบโต้กลับ นางเป็นเทพธิดาบุปผาเลื่อนระดับขึ้นมาเป็นเทพของมวลหมู่บุปผา นางมีพลังกฎสวรรค์แห่งชีวิตที่ใครก็แก้ไม่ได้ซึ่งเป็นกฎแห่งโบราณกาล ไม่ว่าบุรุษลึกลับจะแข็งแกร่งเพียงไหน ก็ไม่อาจโน้มน้าวสุดยอดพลังเทพชนิดนี้ได้
“ดอกไม้และพืชพันธุ์ในฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว กฎสวรรค์แบบนี้อ่อนแอนัก!” เห็นได้ชัดว่าบุรุษลึกลับดูหมิ่นพลังแห่งอสูรสายพฤกษาและพฤกษาแห่งชีวิต สำหรับเขาแล้วพลังธรรมชาติของน้ำแข็ง ลม สายฟ้าและอัคคีนั้นยิ่งใหญ่กว่าพลังแห่งต้นไม้ใบหญ้า ทันทีที่เขาเริ่มพูดร่างยักษ์ทองย่ำเท้าทันที พลังเทพแทรกซึมลึกลงไปในโลกปล่อยลาวาเหลวร้อนออกมาจากใต้พื้นดิน... พลังธาตุดั้งเดิมถูกฝังอยู่ในใจกลางโลก ทันทีที่พลังกระตุ้นก็ระเบิดออกมาทันที พลังถูกปลดปล่อยออกมาอย่างบ้าคลั่ง
กรวดหินนับล้าน แร่ เถ้าถ่านนับไม่ถ้วนพ่นออกมาจากรูใต้เท้ายักษ์ทอง
แมกม่าลาวาเพลิงแดงพ่นออกมานับไม่ถ้วน
แม้ว่าหัวของดอกหนามยักษ์จะป้องกันลาวาได้ แต่ไม่สามารถหยุดการพ่นระเบิดของลาวาที่บ้าคลั่ง หินหนืดแดงพ่นออกมาราวกับน้ำตก แมกมาสีแดงเลือดพุ่งออกมาเหมือนงูยักษ์ดันและฉีกทำลายหัวดอกหนามพุ่งขึ้นไปบนฟ้า
พอสุดแรงส่งก็ร่วงตกลงมา
บุรุษลึกลับมองด้วยแววตาเสียดสี นางจะป้องกันพลังลาวาระเบิดได้อย่างไร?
ต้องการจะเอาชนะศัตรู ทำไมต้องลงมือกำจัดด้วยเอง? แค่นี้ก็เพียงพอเปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นเถ้าถ่านได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งมีชีวิตประเภทพฤกษาทั้งหมด แค่ถูกพลังน้ำแข็ง สายฟ้าที่เป็นจุดอ่อนร้ายแรงก็สามารถทำลายล้างได้อย่างรวดเร็ว
“พลังสร้างโลก!” เย่ว์หยางที่ถูกลอบยิงจากระยะไกลหายตัวมาอยู่ข้างตั่วตั่ว เด็กหนุ่มจากโลกอื่นถูกศัตรูคุกคามในตอนนี้ตัดสินใจต่อสู้ตอบโต้แก้แค้นบุรุษลึกลับด้วยวิธีตาต่อตาและฟันต่อฟันของเขา เขาจ้องมองคนลึกลับและตัดสินใจช่วยตั่วตั่วโค่นล้มเจ้าผู้นี้ จากนั้นแยกสังขารเป็นสามสิบหกส่วนระบายอารมณ์ให้สมกับความเกลียด นี่ไม่ใช่รูปแบบของเย่ว์หยางแน่นอน!
มีสนามพลังสร้างโลกของเจ้านาย และพลังสร้างโลก ตั่วตั่วดีใจทันที
นางจับมือเย่ว์หยาง
ประสานนิ้วทั้งสิบ
ในฝ่ามือของเขามีมุกสร้างโลกระดับเทพ ภายใต้สำนึกคิดทั้งสองพลังปั่นป่วนและพลังพื้นฐานสมบัติเทพ พลังของทั้งสองคนแผ่ออกทันที
เสี่ยวเหวินลอยขึ้นไปอยู่ด้านบนหลังเธอมีปีศาจอสรพิษทองยาวหนึ่งกิโลเมตร มือทั้งหกข้างมีอาวุธป้องกันสำนึกเทพป้องกันและโล่พลังป้องกันจากคัมภีร์อัญเชิญระดับเพชรคลุมป้องกันยักษ์ทองสูงสองพันเมตรด้านหลังบุรุษลึกลับที่พยายามใช้หมัดต่อยเพื่อป้องกันการร่วมมือกันของเย่ว์หยางและตั่วตั่ว
ลาวาอุณหภูมิสูงที่พุ่งขึ้นท้องฟ้าและตกมายังพื้นทำให้เกิดกลิ่นหอมของดอกไม้
มีสีสันแปลกประหลาด
ลาวามีลักษณะคล้ายดาวตกขนาดใหญ่ถูกย่อยกลายเป็นเพชรที่ใสสะอาดโปรยปรายลงพื้นโลก... ควันหนาทึบกลายเป็นรุ้ง เปลวไฟกลายเป็นผีเสื้อและเถ้าภูเขาไฟกลายเป็นหยดน้ำโปรยปรายให้ความชุ่มชื้นกับดอกไม้ในทะเลดอกไม้ ทำให้พืชพันธุ์ที่งดงามเหล่านี้มีชีวิตชีวามากขึ้นท่ามกลางสายลมที่พัดพลิ้ว
ปล่องภูเขาไฟที่ระเบิดลาวาออกมาอย่างเกรี้ยวกราดไม่รู้ว่ามีดอกหนามสีแดงเลือดปกคลุมตั้งแต่เมื่อใด
ดอกหนามยักษ์ที่ถูกทำลายไปยืนต้นขึ้นอีกครั้ง
ไม่เพียงแต่หัวดอกหนามงอกใหม่เท่านั้น แต่ยังมียอดมงกุฎดอกหนามปีศาจเกิดขึ้น ดอกหนามที่ยืนต้นใหม่ครั้งนี้มีความสูง 1500 เมตร ยังนับว่าต่ำกว่ายักษ์ทองอยู่ช่วงหนึ่ง
“อุ้บ!” เย่ว์หยางไม่เคยพยายามใช้สนามพลังสร้างโลกใหญ่ขนาดนี้มาก่อน ต่อให้เป็นแค่ความคิด นอกจากถอนรากถอนโคน แต่นี่ไม่ใช่เจตจำนงราชันย์ของเขา หลังจากผ่านประสบการณ์มาเป็นเวลานาน เปลี่ยนเป็นคนอื่นอย่างเช่นซื่อเสินคงตายไปแต่แรกแล้ว เย่ว์หยางยัมีอาการปวดหัว พยายามประคองตนเองไม่ให้ล้ม เขาใช้มือปิดปากและจมูกป้องกันไม่ให้เลือดหยดออกมา
เขาได้รับบาดเจ็บ
แต่เขาจะไม่ยอมให้คนเห็นความอ่อนแอของเขา ไม่ว่าเมื่อไหร่ ต่อให้ตายก็ต้องตายอย่างนักสู้
มีเพื่อนพ้องญาติมิตรมากมายที่สนับสนุนเขาและรอให้เขากลับมา เย่ว์หยางรู้ตัวว่าเขาไม่สามารถตายได้อย่างง่ายดายไม่ว่าเวลาใดก็ตาม ศัตรูแบบไหน ไม่ว่าจะทรงพลังเพียงไหน เขาจะต้องชนะต่อสู้... เขาจะต้องนำชัยชนะและความสำเร็จมาสู่ตระกูลและเพื่อนพ้องของเขา เขาต้องอดทนและต้องไร้เทียมทาน!
ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้แม่สี่ต้องผิดหวังตัวเขา ต้องไห้เพราะเขา
นอกจากนี้ ตัวเขาข้ามมาจากโลกอื่นเป็นคนที่ไม่เหมือนใคร
ใครก็ไม่มีทางผ่านมาถึงระดับนี้ได้
เริ่มตั้งแต่สือจินโหว นั่นเป็นต่อสู้ที่เขาต้องกัดฟันสู้จนถึงที่สุดไม่ใช่หรือ?
น่าเสียดายที่สาวหิมะยังคงหลับลึกอยู่ไม่สามารถติดตามต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขาได้ ไม่อย่างนั้นนางที่มีคัมภีร์แห่งสัจจะช่วยเพิ่มพลังการต่อสู้ให้เขาอีกร้อยเท่า
เลือดไหลผ่านระหว่างนิ้วของเย่ว์หยางและหยดลงพื้น
เสี่ยวเหวินอยู่ในอ้อมแขนของเขา
เธอเชื่อมกับร่างเทพปีศาจอสรพิษทองเมื่อพลังเทพสะท้อนกับเต็มที่ร่างน้อยๆ ของเธอได้รับความเจ็บปวดอย่างเลือดไหลจากปากเธอย้อมร่างเย่ว์หยาง
ในกลุ่มคนที่สู้มีเพียงตั่วตั่วเท่านั้นที่ยังคงมีพละกำลังพอจะยืนหยัดอยู่ได้ แม้แต่ซื่อเสินที่ใช้กระบี่ค้ำยันร่างตนเองก็แทบจับกระบี่ด้วยแขนเดียวแทบไม่ไหว ซวงหานแทบจะหมดสติ และจ้าวซีผู้มีกระจกวิเศษไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงยังคงประคองสติได้ แต่ข้อมูลที่ได้จากกระจกวิเศษทำให้เขาตกใจและอดตะโกนเตือนเย่ว์หยาง ตั่วตั่วและเสี่ยวเหวินหลีไม่ได้ “มี เขามีอีก....”
เทพอุดรจ้าวซีตะโกน
อย่างไรก็ตาม บุรุษลึกลับเพิ่มแรงกดดันพลังแทบ ตัดเสียงด้านหลังไม่ให้ลอดไปถึงเย่ว์หยางได้
แม้ว่าคนลึกลับไม่คิดว่าจ้าวซีจะมีประโยชน์ช่วยเตือนเย่ว์หยางได้ แต่เขาไม่พอใจ จ้าวซีมองเห็นความจริงและตะโกนออกมา พลังเทพเป็นเหมือนเข็มนับพันที่มองไม่เห็นแทงทะลุร่างของจ้าวซี ในเวลาเดียวกันพลังเทพกดดันก็ตัดเสียงของจ้าวซีได้โดยตรง
ในใจของเขา เขาคิดว่าเทพต้องควบคุมทุกอย่างได้
ไม่ว่าศัตรูต้องการจะพูดอะไร
จะทำอะไร
ทั้งหมดต้องเป็นไปตามความประสงค์ของเขา
13 ความคิดเห็น:
ตายยากซะจริงๆ
ยักษ์เทพชตาต้องมาละ
เอาไงละที่นี้
ยักษ์ทองโชคชะตาต้องออกมาแล้วจังหวะนี้ เอาออกมาวัดกันเลยให้มันรู้ว่าใครใหญ่กว่ากัน!!! หมายถึงยักษ์ทองนะหรอ..?? ป่าววววว หมายถึง.....5555
สู้ๆ
ขอบคุณค้าบ ของเฮียเย่ แค่เท้า สุดขอบฟ้าก็เห็นแค่เท้า นะเออ
ส่งเมียไปสู้สิ
ขอบคุณครับ
พลิกได้ตลอด
ชักเยอะและ จะแข่งแปลงร่างอีกนานไหม เอาซุปเปอร์ไซย่าก๊อดออกมาเลย
จี่อูรี่วิ่งถึงทางออกแล้วป่านนี้
พอได้แล้วววว ยังจะมีร่างอื่นอีก
ใจจ้า
ร่างอัตตนิยมเลยไหมสาส
แสดงความคิดเห็น