วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1236 คุณชายหลี่หมิง

 

ตอนที่  1236  คุณชายหลี่หมิง

อะไรคือจุดอ่อนของเจ้าอ้วนไห่?

 

ในสายตาของคุณชายหลี่หมิงที่ได้รับข้อมูลอย่างละเอียด ถ้าเขาต้องการพูดเพื่อเอาเปรียบเจ้าอ้วนไห่  เชื่อได้ว่านอกจากใบหน้าที่หนาและทน ก็คงแทบไม่ได้เปรียบ ไห่ต้าฟู่ผู้นี้โลภเงินและมักได้ ก็คงหาความได้เปรียบอย่างอื่นไม่ได้!  ตรงกันข้ามถ้าพูดถึงความบกพร่องของเจ้าอ้วนไห่ คงหาได้มากพอๆ กับขนวัว

โลภ เจ้าเล่ห์ ขี้เกียจ... แทบทุกข้อบกพร่องที่มนุษย์พึงมี  เจ้าอ้วนไห่มีหมด!

เขามีข้อบกพร่องที่หาไม่พบเจอในคนธรรมดา!

ในสายตาของคุณชายหลี่หมิง เจ้าอ้วนไห่นับว่าเป็นคนที่ยอดเยี่ยมและหาได้ยาก

ขยะอย่างเจ้าอ้วนไห่มีชีวิตอยู่ในโลก นอกจากเปลืองข้าวสุกแล้ว คุณชายหลี่หมิงมองไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์อะไรอย่างอื่น

เขาแทบไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเย่ว์ไตตันผู้มีบุคลิกสมบูรณ์แบบจะเก็บขยะอย่างเจ้าอ้วนไห่ไว้ทำไม  ขณะที่คนอย่างเจ้าอ้วนไห่ไม่ได้สร้างความแข็งแกร่งให้กลุ่มเลย  บทบาทขยะอย่างเจ้าอ้วนไห่ไม่ได้มีดีอะไรนอกจากเป็นตัวถ่วงของกลุ่มและทำลายชื่อเสียงของกลุ่ม?   เย่ว์ไตตันปล่อยให้เจ้าอ้วนไห่ได้อยู่สร้างประสบการณ์ในกลุ่มต่อไปได้อย่างไร ในการเผชิญหน้านี้ดูเหมือนเจ้าอ้วนมีความสำคัญไม่ได้น้อยไปกว่าเสวี่ยทันหลางผู้แข็งแกร่งในกลุ่ม.. นี่ช่างเหลือเชื่อ!  คุณชาหลี่หมิงพยายามไตร่ตรองหลายครั้งแต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเย่ว์ไตตันถึงทำเช่นนี้

ปล่อยคนร่วมงานอย่างเจ้าอ้วนไห่ไว้ให้เป็นจุดอ่อนให้ศัตรูมองเห็น

ใช่แล้ว เย่ว์ไตตันทำเช่นนี้

และนั่นไม่ได้เปลี่ยนความคิดของเขาและไม่ได้ลดสถานะเจ้าอ้วนไห่ในกลุ่ม... เป็นเพราะสถานการณ์นี้ที่คุณชายหลี่หมิงรู้สึกว่าเขาไม่สามารถมองทะลุคู่ต่อสู้อย่างเย่ว์ไตตันได้

เห็นได้ชัดว่าเป็นขั้นตอนของหมากลับ  ทำไมเย่ว์ไตตันถึงต่อต้านการกระทำเช่นนี้?

แค่เพราะเจ้าอ้วนไห่เป็นมิตรสหายคนแรกที่เขารู้จักหรือ?

สิ่งที่ทำให้คุณชายหลี่หมิงงุนงงก็คือคนอย่างเย่คง เสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัวทำไมถึงไม่ปฏิเสธ ทำไมไม่แยกเจ้าอ้วนไห่ออกไปจากกลุ่ม?  แม้ว่าในกลุ่มพวกผู้ชายเย่คงจะทุบตีเจ้าอ้วนไห่นี้บ่อยๆ แต่ไม่เคยไล่เจ้าอ้วนไห่ผู้นี้ออกจากกลุ่ม  หลังจากที่เย่ว์ไตตันปล่อยพวกเขาไว้ในแดนสวรรค์ เขามอบหมายกลุ่มให้เย่คงจัดการ เย่คงมีพลังที่แข็งแกร่ง  แต่สิ่งที่แปลกก็คือแม้ว่าบางครั้งคนผอมจะอารมณ์ไม่ดี แต่ไม่เคยขับไล่เจ้าอ้วนไห่และมักตามแก้ปัญหาให้หลังจากลากเขาไปร่วมดื่มร่วมกินด้วยเสมอ

มิตรภาพระหว่างสหายในหอทงเทียนแข็งแกร่งขนาดนี้จริงๆ หรือ?

ตามข้อมูลที่รวบรวมมานั้น คนในหอทงเทียนชอบก่อสงครามกลางเมืองเพื่อสร้างชื่อเสียง  มองดูทั่วแดนสวรรค์ไม่ได้มีสงครามกลางเมืองมากไปกว่าหอทงเทียน

สงครามที่ไม่มีที่สิ้นสุดมักแยกชาติพันธุ์ออกจากกันเป็นเรื่องธรรมดาปกติ  หอทงเทียนกลับตรงกันข้าม เรื่องโปรดของพวกเขาก็คือก่อสงครามกลางเมือง  พวกเขาต่อสู้ในระหว่างคนของพวกเขาเองเพื่อความอยู่รอด แม้ว่าพ่อกับลูกต้องฆ่ากันเอง พี่ชายน้องสาวก็ต้องมาต่อสู้ฆ่าฟันกันเอง ไม่ต้องพูดถึงว่ามีคนมากมายในเผ่าชาติพันธุ์ยังเข่นฆ่ากันเองภายใต้ท้องฟ้ามืดมิด  การแข่งขันชิงดีชิงเด่นเริ่มต้นจากการใช้เหตุผลปกติขยายลามกลายเป็นความแตกแยก

อย่างไรก็ตาม

จุดที่น่าแปลกใจก็คือ

เมื่อเผชิญกับการรุกรานของคนต่างถิ่นต่างเผ่าพันธุ์  ในช่วงวิกฤตการณ์คนในหอทงเทียนจะร่วมมือร่วมใจกันเคลื่อนไหวและต่อสู้อย่างแข็งขันดุดัน  นักสู้เก่าแก่จากแดนสวรรค์หลายคนยอมรับในเรื่องนี้ หรือแม้แต่นักรบบางคนที่ปกป้องหอเทียนก็ยอมตายมากกว่าจะยอมแพ้

หากไม่ใช่เพราะหอทงเทียนก็มีกลุ่มคนทรยศด้วยเช่นกัน คุณชายหลี่หมิงคงรู้สึกว่านี่เป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่มีใครเอาชนะได้

หอทงเทียนเป็นสถานที่น่าเหลือเชื่อ และชีวิตในหอทงเทียนดำรงอยู่ได้โดยไม่มีเหตุผลรองรับ

คุณชายหลี่หมิงยอมรับในข้อนี้

เขารู้สึกว่าบิดาของเขาแทบจะมีความรู้สึกเหมือนกัน

ในอีกด้านหนึ่ง พระราชาผู้อำมหิตไร้หัวใจตัดสินเป็นตายชีวิตของคนผู้อื่นซึ่งมีสติปัญญาเหนือกว่าได้  แต่ในทางกลับกันเขากลับเกลียดชังกระตือรือร้นต่อดินแดนที่เขารัก แต่เขากลับไม่ต้องการพิชิตหรือทำลายความฝันนั้น  ดินแดนมาตุภูมินับพันที่งดงาม...  คุณชายหลี่หมิงรู้สึกว่าเขาไม่อาจเข้าใจอารมณ์เช่นนี้ได้!

นี่คือรักหรือชังกันแน่?

ถ้าเป็นความรัก อย่างนั้นแผ่นดินนี้ก็ควรจะปกป้องให้ดี

ถ้าไม่ใช่ความรักแต่เป็นความชัง   สถานที่แห่งนี้ควรถูกทำลายล้างด้วยวิธีการที่อำมหิตที่สุด และทิ้งไว้เช่นนั้นตลอดกาล

ความรักความชัง อารมณ์ตรงกันข้ามทั้งสองอย่างมีอยู่ในตัวบิดาของเขา  คุณชายหลี่หมิงมองเห็นการดำรงคงอยู่ของความขัดแย้งที่น่าเหลือเชื่อ  และเห็นว่าเย่ว์ไตตันผู้ไล่ตามไขว่คว้าความสมบูรณ์กลับยอมทนให้มีขยะอยู่ในกลุ่มเห็นแล้วดูน่าหงุดหงิด  นี่คืออารมณ์ที่คล้ายกัน

“หอทงเทียนเป็นดินแดนที่มีคนขัดแย้งปนเปกันไป!  คุณชายหลี่หมิงถอนหายใจเบาๆ และกำจัดความคิดนี้ออกไป  เขาไม่ใช่คนของหอทงเทียน เขาไม่จำเป็นต้องทำลายสถานที่นี้ นอกจากพิชิตเอาชนะแล้ว  ไม่มีความจะเป็นต้องทำอะไรให้ซับซ้อนเหมือนกับบิดาของเขา  ในฐานะบุตร เขาถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่าจากนั้นข่มใจให้สงบด้วยความรู้สึกที่เหนือกว่า และตัดสินประเมินศัตรูต่อไปในฐานบุตรของเจ้าตำหนักใหญ่ ก่อนสังหารศัตรูให้หมดสิ้นเขาต้องเข้าใจถึงข้อจำกัดของศัตรู ก่อนดำเนินการอย่างย่ามใจ

การเผชิญหน้าทรมานฝ่ายตรงข้ามทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจเลย

ถ้าเป็นไปได้คุณชายหลี่หมิงต้องการพบเจอเย่ว์ไตตันผู้ที่ได้รับการเทิดทูนยกย่องของหอทงเทียน... น่าเสียดาย ก่อนอื่นนั้นคุณชายหลี่หมิงต้องรออย่างอดทน

คุณชายหลี่หมิงยังมีความอดทนพอเดินออกมาข้างหน้าและค่อยๆ ยื่นมือ  “แม้ว่าข้าจะไม่ค่อยสนใจเจ้ามากเท่าใดนัก โปรดอภัยให้ข้าด้วย ความจริงข้าไม่สามารถให้ความสนใจคู่ต่อสู้อย่างเจ้าได้จริงๆ  อย่างไรก็ตาม ไห่ต้าฟู่ ข้าขอแก้ไขข้อความที่ส่งให้เจ้าอีกเล็กน้อย ข้าตัดสินใจแนะนำเจ้าให้สหายคนหนึ่ง”

“ใช่แล้วข้ามีสหายที่น่าพอใจคนหนึ่งที่ข้าพบเจอเขาในหอทงเทียน ซุ่นเทียนไง!  คุณชายหลี่หมิงโบกมือ และซุ่นเทียนคู่ต่อสู้เก่าผู้ครั้งหนึ่งถูกเจ้าอ้วนไห่ทำให้เป็นบ้า ปรากฏอยู่ต่อหน้าเจ้าอ้วนไห่อีกครั้ง

แต่คราวนี้ซุ่นเทียน

ใบหน้าของเขาไม่มีอาการเสียสติอีกต่อไป ดวงตาของเขาไม่มีอาการสับสน

ตรงกันข้ามความคิดคำนึงถึงเหตุผลของเขากลับคืนมา แม้ว่าจะไม่มีความภาคภูมิใจอีกต่อไป แต่รังสีอำมหิตที่อยู่ระหว่างคิ้วของเขาเหมือนกับมีด

เจ้าอ้วนไห่เห็นเช่นนั้นรู้สึกเหมือนฟ้าผ่า เขาตะโกนร้องทันที  “ซุ่นเทียน เจ้า เจ้าทรยศหักหลังหรือ?  เจ้าหักหลังหอทงเทียนได้ยังไง?”

ซุ่นเทียนก้าวเดินออกมาข้างหน้าก้มหน้าถลึงตามองดูเจ้าอ้วนไห่เหมือนกับมองดูแมลงเล็กน้อย เขาคว้าปกคอเสื้อเจ้าอ้วนไห่ดึงยกขึ้นมาเหมือนกับยกลูกไก่จนกระทั่งแทบชิดจมูกแผ่รังสีฆ่าฟันแทบไม่มีสิ้นสุด “เพื่อเอาชนะเจ้าและเพื่อฟื้นฟูความรุ่งเรืองครั้งเก่าก่อน ข้าไม่สนใจเงื่อนไขอะไรทั้งนั้น  ตราบเท่าที่ได้ฆ่าเจ้ามดแมลงตัวน้อยอย่างเจ้าอีกครั้ง  ข้าจะไม่สนใจอะไรทั้งนั้น!  เพื่อเอาชนะเจ้าอ้วนชั่วช้าอย่างเจ้า  ไม่ว่าจะให้ข้าทำงานให้ใคร ไม่ว่ามีเงื่อนไขอะไรแลกเปลี่ยน  ข้ายอมรับได้ทั้งหมด!

เจ้าอ้วนไห่หวาดกลัวแทบปัสสาวะราด

ถ้าไม่ใช่เพราะเย่คงและเสวี่ยทันหลางปลดปล่อยพลังยิ่งใหญ่และดึงเขากลับมาจากเงื้อมมือซุ่นเทียน บางทีเจ้าอ้วนอาจหวาดกลัวตกใจตายก็เป็นได้

เจ้าอ้วนไห่ถูกซุ่นเทียนโยนขึ้นไปบนเวทีและวาดรูปวงกลมพลางกระซิบบ่นอย่างหดหู  “ข้าคิดว่าโจรผู้ร้ายบางคนอาจเป็นคนทรยศได้ แต่คาดไม่ถึงเลยว่าคนแข็งแกร่ง สง่างามอย่างซุ่นเทียนจะกลายเป็นคนทรยศไปได้!

“ความจริงข้าไม่มีความอาฆาตแค้นพยาบาทและไม่ได้เลือกปฏิบัติต่อคุณชายไห่ด้วยเช่นกัน  แต่ข้าสัญญากับตัวเองไว้แล้วว่า ตราบใดที่คุณชายไห่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการต่อสู้  ระหว่างพวกเราจะวางตัวเป็นกลาง  จากนั้นไม่ว่าฝ่ายไหนจะสู้แพ้หรือชนะเราไม่มีอะไรต้องเดือดร้อนใจ  ในเมื่อเป็นการกระทำเช่นนี้ ย่อมถือว่าไม่เป็นการทรยศ แต่เป็นการหลีกเลี่ยงหลบหลีกอันตรายเป็นตายถึงแก่ชีวิต   หลีกเลี่ยงปัญหาที่ยากลำบาก เรื่องนี้ยังมีประโยชน์ต่อเรามากยิ่งกว่า ข้อเสนอเล็กๆ น้อยๆ อย่างนี้ มิทราบว่าคุณชายไห่จะรับพิจารณาไว้บ้างไหม?”  คุณชายหลี่หมิงรู้สึกว่าเวลาสุกงอมได้ที่แล้ว น้ำหนักที่ทำให้ชัยชนะมาอยู่ฝ่ายเขาอยู่ที่เจ้าอ้วนไห่

เขารู้ว่าเขามีพลังมากพอและมีเวลามากพอจะเอาชนะเย่คง เสวี่ยทันหลางและพวกๆ ได้

แต่คุณชายหลี่หมิงไม่ชอบใช้กำลังรุนแรง

เขาชอบใช้สติปัญญาที่เหนือกว่าจัดการกับศัตรูเหมือนอย่างบิดาของเขา

เหมือนบิดาของเขาทำให้ศัตรูอยู่ในเงื้อมมือและจัดการได้ตามความพอใจได้ทุกเมื่อและทุกที่

ในเวลานั้นเย่ว์ไตตันจะไม่ได้มีโอกาสต่อสู้แม้ว่าเขาจะถูกยกย่องเหมือนเป็นเทพเจ้าในตำนาน ไม่ว่าเขาจะมีน้ำหนักมากเพียงไหน มีชื่อเสียงมากมายเพียงไหนก็ยากจะรับรองได้ เพราะเย่ว์ไตตันยังไม่กลับมาจากแดนสวรรค์  อย่างไรก็ตามการโยนหินถามทางของเย่ว์ไตตันนั้นอยู่ที่ข้างหน้าพวกเขา กลุ่มนักสู้ที่เย่ว์ไตตันสร้างขึ้นมาเป็นเด็กหนุ่มฝีมือดีของหอทงเทียนที่มีความภูมิใจในตนเอง

จะใช้วิธีเล่นงานพวกเขาให้พังทลาย ทำให้พวกเขาสิ้นหวังหมดหวังกับเย่ว์ไตตันอย่างสิ้นเชิงและฆ่าตัวตายในที่สุด... เรื่องเหล่านี้คือสิ่งที่คุณชายหลี่หมิงหวังจะทำให้สำเร็จ

เย่ว์ไตตันได้ก่อตั้งกลุ่มนักสู้ของเขาด้วยพลังและศรัทธา

บัดนี้ต้องสลายพลังของคนเหล่านี้ และทำลายศรัทธาของพวกเขาให้หมดสิ้นไป

ตราบเท่าที่ใช้วิธีนี้ได้สำเร็จ คุณชายหลี่หมิงจึงจะรู้สึกว่าเขาได้ชัยชนะต่อเย่ว์ไตตันนักสู้ในตำนานอย่างแท้จริง

“ความเป็นกลางที่ไม่มีเงื่อนไข  นั่นเป็นไปไม่ได้”  เจ้าอ้วนไห่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งและมองดูซุ่นเทียนซึ่งเร่งเร้าพลังเพิ่มขึ้น เขาสะดุ้งรีบยิ้มเลียริมฝีปากพูดขึ้นด้วยความโลภทันที  “เว้นแต่เจ้าให้ของวิเศษกับข้าสักชิ้นหรือสองชิ้น ไม่อย่างนั้นเปลืองน้ำลายเปล่าๆ!

“ฮ่าฮ่าฮ่า!” คุณชายหลี่หมิงหัวเราะอย่างสบายใจ

เขายังคงเป็นกังวลเล็กน้อย

หลังจากเย่ว์ไตตันเปลี่ยนแปลงเจ้าอ้วนไห่ได้  เจ้าอ้วนไห่ยังจะมีบุคลิกเหมือนกับเย่คงและพวกซึ่งมีพลังเจตจำนงราชันย์ได้หรือ?  ปรากฏว่าสายน้ำและขุนเขาอาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่สันดานยากจะเปลี่ยนได้ เจ้าอ้วนไห่ก็ยังเป็นเจ้าอ้วนไห่  อดีตเคยโลภยังไง ปัจจุบันก็ยังโลภไม่เปลี่ยน เย่ว์ไตตันไม่สามารถเปลี่ยนขยะอย่างเขาได้

หลังจากเย่ว์ไตตันก่อตั้งกลุ่มนักสู้รุ่นเยาว์ฝีมือดี  เย่คงและเสวี่ยทันหลางประสบความสำเร็จกับการเปลี่ยนแปลงไปมากอย่างมิต้องสงสัย

จากที่มีพลังอ่อนแอ เย่คงผู้เกือบจะอดตายในชั้นหนึ่งหอทงเทียนได้เติบโตเป็นนักสู้ผู้พิทักษ์หอทงเทียนมีทั้งพลังเจตจำนงราชันย์ น่าเสียดายที่เสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัวเขามองไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน

อย่างน้อยเจ้าอ้วนไห่นี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน

ผ่านการทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่า

ภายใต้แรงกดดันของเวทีทอง อสูรจักรพรรดิทองของซุ่นเทียนและเจ้าอ้วนไห่ผู้โลภมาก สวะผู้ไม่มีเจตจำนงราชันย์

คุณชายหลี่หมิงมีความรู้สึกว่าเขาอารมณ์ดี เขารู้สึกเหมือนกับว่าในการต่อสู้เล็กๆ น้อยๆ นี้เขาชนะเย่ว์ไตตัน  เขาพบจุดอ่อนของเจ้าอ้วนผู้นี้จึงฝ่าฟันเล่นงาน ในที่สุดก็ทำได้สำเร็จ และปล่อยวางปัจจัยส่วนที่ไม่มั่นคงที่สุด  ในกลุ่มเย่คงและเสวี่ยทันหลาง คุณชายหลี่หมิงไม่เคยคาดว่าจะพบเจออะไรอย่างอื่นนอกจากฆ่าพวกเขา  เพราะไม่มีใครต้องการคนตายที่ซื่อสัตย์! อย่างไรก็ตาม ความสามารถตัดเจ้าอ้วนไห่ออกมาจากกลุ่มนักสู้ระดับสูงที่เย่ว์ไตตันสร้างขึ้น นั่นก็เท่ากับว่าตบหน้าเย่ว์หยาง!

“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าสัญญากับเจ้าได้  ตราบใดที่เจ้าวางตัวเป็นกลางนับแต่นี้  ข้าจะให้สมบัติวิเศษเจ้าสามชิ้น หนึ่งในนั้นจะเป็นสมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์”  เมื่อคุณชายหลี่หมิงภูมิใจในสัญญาเงื่อนไขที่สมบูรณ์ คุณชายหลี่หมิงยังเพิ่มสัญญาให้อย่างใจกว้าง  “ถ้าเจ้าออกไปยืนดูอยู่ข้างๆ ในตอนนี้ ข้าจะมอบเวทีทองนี้ซึ่งเป็นสมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์ที่หาได้ยาก!

“จริงหรือ?”  ตาของเจ้าอ้วนไห่เป็นประกายราวกับมองเห็นสาวเปลือยกาย

“เรื่องสมบัติข้ามีมากพอ  เจ้าต้องรู้นะว่าข้าคือบุตรของเจ้าตำหนักตงฟาง คุณชายหลี่หมิงมีสมบัติวิเศษอยู่มากมายในตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์!  คุณชายหลี่หมิงยื่นมือออกและส่งสมบัติชั้นแพลตตินัมสองชิ้นให้เขา

เจ้าอ้วนไห่เห็นก็ลอบกลืนน้ำลายเอื๊อก

เขามองไปทางเย่คงด้วยความละอายเล็กน้อย และขยับหลบไปด้านข้างเงียบๆ จากนั้นมองเสวี่ยทันหลางและขยับหลบไปอีกเล็กน้อย

เย่คงเตะก้นเจ้าอ้วนไห่และชี้หน้าคุณชายหลี่หมิงด้วยอารมณ์โมโห  “ต้องการใช้สมบัติวิเศษทำให้เราแตกแยกใช่ไหม?  เจ้าคิดว่าสมบัติเพียงชิ้นหรือสองชิ้นจะทำให้เจ้าอ้วนไห่ละทิ้งสหายไปเข้าข้างศัตรูหรือ? น่าขัน  ถ้าคิดว่าใช้งานได้ ก็ขายให้ศัตรูไปเลย!  วิธีการที่ไร้สาระนี้ใช้กับเราไม่ได้ผลแม้แต่น้อย!

เจ้าอ้วนไห่ลุกขึ้นและพบว่าเย่คงจ้องมองตัวเขาด้วยสายตาอำมหิต

เขาใจฝ่อทันที

แล้วกล่าวเสียงอ่อยๆ “ได้ ได้ ข้าคุณชายไห่ไม่ทรยศหักหลังเพื่อโชคลาภของวิเศษก็ได้  สมบัติระดับแพลตตินัมสองชิ้นก็เหมือนไม่มีอะไร... สมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์สองชิ้นก็แทบจะเหมือนกันอยู่แล้ว!  ไม่ ข้าไม่ได้พูดอะไร  ข้าไม่ได้ยอมแพ้สักหน่อย เจ้าลิงผอม เจ้าวางใจได้ว่าภรรยาข้ายังคงอยู่ที่นั่น  เจ้าไม่ต้องแสดงออกมาก็ได้!

คุณชายหลี่หมิงยิ้มและกล่าว  “สมบัติชั้นศักดิ์สิทธิ์สองชิ้น ข้ามีจริงๆ คุณชายไห่ ขอเพียงวางตนเป็นกลางไม่ต้องพูดยอมแพ้ก็ได้  เจ้าเห็นเป็นเช่นไร?”

เจ้าอ้วนไห่กระแอมทันที  “ข้าคงรักษาความเป็นกลางไม่ได้ อะแฮ่ม.. ทำไมเราไม่เจรจากันทั้งสองฝ่ายเล่า  อย่างไรก็ตาม ทุกคนไม่ต้องเข่นฆ่ากันเพราะความเกลียดชังของบิดา  ทุกคนควรจะพูดในเรื่องเดียวกัน!

เย่คงโมโห  “เจ้าหุบปากไปเลย ไม่มีที่ให้เจ้าพูด!

คุณชายหลี่หมิงหัวเราะและโยนสมบัติระดับแพลตตินัมสองชิ้นให้เจ้าอ้วนไห่ และปล่อยให้พวกเขายืนตะลึงจากนั้นจึงยิ้มกล่าว  “เราที่เป็นบุตรเจ้าตำหนักมีความตั้งใจจะเจรจาต่อรองกับเจ้า ไม่รู้ว่าจะทนคุยกับเจ้าได้นานแค่ไหน?  ถ้าเจ้าไม่ต้องการสู้  เจ้าก็นั่งลงและค่อยๆ พูดจากัน นั่นก็คงเป็นเรื่องที่ดี  เจ้าพูดถูก  เราไม่ได้เกลียดกันอย่างลึกซึ้ง ทำไมต้องคิดมากด้วยเล่า?  ข้าแค่อยากรู้อยากเห็นและให้ความสนใจหอทงเทียน ไม่ได้คิดคดโกง หรืออาฆาตพยาบาทเหมือนท่านพ่อข้า คุณชายไห่ ตราบใดที่เจ้ายกเรื่องสันติภาพขึ้นเจรจา ไม่ว่าผลจะออกมายังไงก็ตาม เราคุณชายจะให้สมบัติชั้นศักดิ์สิทธิ์กับเจ้าสองชิ้น  เจ้าเห็นว่ายังไงบ้าง”

เมื่อได้ยินเช่นนี้เจ้าอ้วนไห่รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที ยิ่งมองคุณชายหลี่หมิงเขาก็ยิ่งโมโห  “งั้นก็คุย  เราต้องการเจรจาสันติภาพ  เราต้องการอยู่ร่วมกันอย่างสงบ และเข้าใจกัน....”

คุณชายหลี่หมิงยิ้มมองดูเย่คง  “แล้วเจ้าเล่า ไม่ต้องการอะไรหรือ?”

เย่คงยังคงเงียบ

เสวี่ยทันหลางยังคงเงียบเหมือนภูเขาน้ำแข็ง

อย่างไรก็ตามองค์ชายเทียนหลัวยิ้มอย่างเป็นกันเองเหมือนกับดวงอาทิตย์ฤดูหนาว  “คุณชายหลี่หมิงฉลาดมาก  เจ้าพูดจาเสียมากมายและใช้สมบัติวิเศษเพื่อแบ่งแยกมิตรภาพของกลุ่มนักสู้เรา  นั่นไม่มีอะไรมากไปกว่าการพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของเราเพื่อให้เราไม่สามารถตรวจจับ ธงเทพเพลิงทอง ที่เจ้าลอบใส่เข้ามา!  อยากรู้จริงๆ ว่าต่อไปเจ้าต้องการจะพูดอะไรอีก?  คุณชายหลี่หมิง  เจ้าฉลาดและเจ้าเล่ห์ แต่ใช้หลอกคนอื่นไม่ได้  นอกจากใช้หลอกเจ้าอ้วนใครจะโง่รับสมบัติของเจ้า  ใครจะรับของกำนัลจากศัตรู?”

เจ้าอ้วนไห่ขึ้นเสียงทันที  “เฮ้, ข้าคุณชายไม่ใช่คนโง่  สมบัตินี่ดีไม่ใช่หรือ!  คุณชายหลี่หมิง เจ้าพูดจริงหรือเปล่า?  สมบัติสองชิ้นได้รับการยอมรับจากข้าแล้ว และจะไม่ส่งคืนให้เจ้า!  ฮะฮะ เยี่ยมจริงๆ ได้รับสมบัติสองชิ้น”

คำพูดของเขายังไม่ทันขาดคำ

สมบัติสองชิ้นในมือส่องประกายสีขาวทันทีกลายเป็นกรงแสงพิเศษขังตัวเจ้าอ้วนไห่ ไม่ว่าเจ้าอ้วนไห่จะดิ้นรนอย่างไร ก็ดิ้นรนออกมาไม่ได้  “การเจรจาสันติภาพ? นั่นเป็นเรื่องไม่จำเป็น”  คุณชายหลี่หมิงยิ้มประหลาด  “แต่รอจนกระทั่งพวกเจ้าทุกคนถูกคว่ำเสียก่อน เจ้าก็รู้ เราคุณชายไม่ชอบคนที่ยืนต่อรองกับข้าและเจ้าอาจไม่รู้ว่ามีเพียงคนตายเท่านั้นที่เป็นผู้เจรจาต่อรองที่ดีที่สุด เพราะไม่ว่าใครตายพวกมันจะไม่คัดค้านความคิดเห็นของข้า!

ทันทีที่คุณชายหลี่หมิงพูดจบ ด้านหลังของเขามีธงทองแขวนอยู่ทันที

มีพลังที่ใกล้เคียงกับกฎสวรรค์กดดันทั่วเวทีทองทันที

ครอบคลุมทุกคนผู้อยู่ในเวที

 

5 ความคิดเห็น:

oBABYVOXo กล่าวว่า...

ไหวมั้ยน้อ เจ้าอ้วนคงออกจากกรงได้ง่ายๆถ้าแปลงร่างล่ะมั้ง

CHANTANA กล่าวว่า...

อ้วนชอบ

Pcha กล่าวว่า...

ขอบคุณคับ

ïиƒïиï†ч гє†гч กล่าวว่า...

ของฟรีชัดๆ

chay กล่าวว่า...

อ้วนได้กรงขังฟรี

แสดงความคิดเห็น