วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1244 ย้อนเวลา?

 

ตอนที่  1244  ย้อนเวลา?

เย่ว์หยางสกัดทุกย่างก้าวจนบัณฑิตวัยกลางคนพูดไม่ออก

เป็นเวลานาน

เขาแค่ถอนหายใจ  “ข้าแค่ต้องการเอาสิ่งที่เป็นของข้าคืน เรื่องนี้ข้าผิดอะไรด้วย?”

 

เย่ว์หยางเถียงโต้อย่างจริงจัง  “ใครจะสนใจเล่าว่าท่านถูกหรือผิด? ข้าแค่อยากบอกว่า ตราบใดที่ข้ายังอยู่ในหอทงเทียนแม้เพียงวันเดียว ข้าจะไม่ยอมให้ท่านเอาอะไรไปทั้งนั้นแม้จะเป็นทรายเม็ดเดียวก็ตาม!  เพราะที่นี่ไม่มีอะไรที่เป็นของท่าน!

บัณฑิตวัยกลางคนส่ายหัวเบาๆ และขึ้นเสียงบ้าง  “พ่อหนุ่ม บางทีเจ้าอาจเคยหลั่งเลือดและหยาดเหงื่อให้หอทงเทียนมาบ้างเล็กน้อย แต่เทียบกับข้าแล้วยังไม่ถึงหนึ่งในพัน?  ข้าทุ่มเทเลือดเนื้อหยาดเหงื่อกับหอทงเทียน ในที่สุดก็ไม่มีความเป็นธรรมให้กับข้า  นับว่าไม่ยุติธรรมกับข้า  ข้าทุ่มเทไปมาก ข้าก็ควรจะได้รับ  อย่างน้อยข้าก็ควรได้คืนมาบ้างซึ่งมันก็ไม่น้อย   ตอนนี้เมื่อข้ากลับมาข้าต้องการได้รับส่วนแบ่งของข้า  ก่อนหน้านั้นข้าคิดว่า ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร และใครก็ตามไม่มีสิทธิ์ตำหนิข้า ตระกูลที่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อในหอทงเทียน”

 “เมื่อจ่ายเงินไปแล้วย่อมต้องได้ผลกำไรกลับมา”

เย่ว์หยางพยักหน้ายืนยัน

แต่แล้วก็ส่ายหน้าอีกครั้ง  “ถ้าเจ้าไม่จ่ายออกไป เจ้าก็ควรหาเหตุผลของตัวเอง  หากเจ้ารู้สึกว่า  จ่ายไปโดยไม่ได้รับอะไรคืนมา  นั่นก็แสดงว่าเจ้าไม่ได้จ่ายจริงๆ  ดังนั้นจึงไม่มีผลกำไรที่แท้จริง!

การปฏิเสธนี้ทำให้บัณฑิตวัยกลางคนไม่สามารถสงบอารมณ์ได้อีกต่อไป

ข้อสรุปของเขาเกี่ยวกับเย่ว์หยางนั้นแทบให้เขาบ้าคลั่ง ราวกับสิ่งที่น่ากลัวขัดขืนไม่ได้ของเขาถูกเย่ว์หยางเยาะเย้ย

ถ้าเย่ว์หยางพูดคุยคำอื่น แม้ว่าจะรุนแรงมากเกินไปและแหลมคม มันเป็นไปไม่ได้ที่จะกระทบจิตใจของเขา  แต่ตอนนี้ การปฏิเสธนี้ทำให้บัณฑิตวัยกลางคน แม้ว่าจะมีจิตใจระดับราชันย์  ก็ไม่สามารถอดกลั้นต่อความโกรธในใจได้  เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อข่มไฟโกรธในอกเขา และต่อต้านความคิดจะลงมือกับผู้เยาว์

บัณฑิตวัยกลางคนโบกแขนเสื้อของเขา ฉากภาพมิติเปลี่ยนไปทันที

ดูเหมือนว่าเวลาจะย้อนกลับทันที

ฉากภาพกำลังย้อนกลับ

พื้นทะเลสีฟ้ากลายเป็นทุ่งกว้าง

ฉากภาพกระพริบต่อสายตาของเขา

มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งปรากฏอยู่ในมุมมองสายตาของเย่ว์หยาง ดูเหมือนจะวัยเดียวกับเด็กหนุ่มผู้ข้ามมาจากโลกอื่น  เขากับสหายกำลังสู้รบต่อต้านการบุกรุกของปีศาจแดนนรก  ในสนามรบเขาเป็นคนกระตือรือมากที่สุดอาบเลือดต่อสู้อย่างหนักเหมือนดาวเด่น ที่ไม่มีใครอาจเพิกเฉยต่อการดำรงคงอยู่ของเขา

เด็กหนุ่มนี้ไม่เพียงแต่กล้าหาญไม่เกรงกลัวสิ่งใดแล้ว แต่ยังฉลาดมาก

เพราะการแสดงสติปัญญาและความกล้าหาญของเขา ทวีปมังกรทะยานซึ่งแต่เดิมเป็นผู้เสียเปรียบได้ฟื้นกลับขึ้นมาภายใต้คำสั่งของเขาอีกครั้ง และในที่สุดก็สามารถพลิกสถานการณ์การต่อสู้ทั้งหมดลดความเสียเปรียบสิ้นเชิงกลายเป็นชัยชนะทั่วทั้งแผ่นดินอย่างยิ่งใหญ่!  ในท่ามกลางความร่าเริงของเหล่าสหายศึกและทหารที่กำลังแบกสหายที่บาดเจ็บหนักไม่รู้สึกตัวเดินกลับไปทีละก้าว.... ทุกคนสามารถฉลองกับชัยชนะ  มีเพียงแต่เขาที่บาดเจ็บอย่างหนักไม่อาจเข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองชัยชนะที่ทรงเกียรตินี้ได้

เด็กหนุ่มไม่สนใจชื่อเสียงและโชคลาภไม่ได้อิจฉาสหายของเขาแม้ว่าเขาจะเก่งกว่า ดีกว่าสหายของเขาก็ตาม

อย่างไรก็ตาม เด็กหนุ่มนี้ยังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยสหายของเขา

เมื่อสหายของเขาขึ้นรับตำแหน่งจอมพล

เด็กหนุ่มวางแผนการรบที่สมบูรณ์ช่วยเหลือเขา

แต่สหายผู้เป็นจอมพลนั้นไม่ฟังคำแนะนำ ความโลภอยากได้ความดีความชอบทำให้เขาบุกตะลุยอย่างย่ามใจและประกอบกับศัตรูนั้นน่ากลัว  ทำให้เขาพบกับสถานการณ์ยากลำบาก  เมื่อสถานการณ์ต่อสู้หมิ่นเหม่ต่อความตาย เด็กหนุ่มผู้นี้มุ่งมั่นสามารถพลิกสถานการณ์ควบคุมทิศทางการต่อสู้ เขาจัดการกับศัตรูที่แข็งแกร่งคว้าชัยชนะได้อีกครั้ง

เพื่อให้ได้ชัยชนะ เด็กหนุ่มล่อลวงศัตรูด้วยตนเอง

เขาทำให้ตนเองตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายครั้งแล้วครั้งเล่า ต้องสละหยาดเหงื่อเลือดเนื้อไปมาก ต้องพยายามอย่างหนักโดยไม่มีใครรู้

หลังจากได้รับชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ บุรุษหนุ่มไม่ได้ภูมิใจตนเอง  แต่เขาเจียมเนื้อเจียมตัวช่วยสนับสนุนบุตรชายคนเล็กของสหายให้ได้รับตำแหน่งที่สูงกว่าแทน  สำหรับสหายคนก่อนที่เป็นผู้บัญชาการถูกปลด สำหรับตัวเขาเองยอมสละตำแหน่งจอมพลยินดีกลับมาอยู่หลังฉากอีกครั้งคอยจัดการผู้บังคับกองทัพทั้งสาม ทำให้ลูกชายของสหายมีอำนาจมากขึ้นเป็นร้อยเท่า ด้วยความพากเพียรทำงานอย่างหนักเพื่อสถานการณ์และชัยชนะโดยรวม สำหรับความมุ่งมั่นไม่ว่าจะเป็นคำพูดของคนที่รู้จัก ผู้สนับสนุนและคนแปลกหน้าจะพูดให้พวกเขาศรัทธาได้อย่างไร

ความเพียรพยายามทั้งหมดก็เพื่อชัยชนะ เพื่อทวีปมังกรทะยาน

ในการทำสงครามของเขา ทวีปมังกรทะยานไม่เคยล้มเหลวพ่ายแพ้

อย่างไรก็ตามมีพวกโจรชั่วหลายคนที่อิจฉาบุรุษหนุ่มผู้นี้  และมักทำร้ายเขาด้วยคำพูดที่ไม่ดี ใส่ร้ายทำลายชื่อเสียงของเขาด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อสร้างโศกนาฏกรรมต่างๆ และโทษว่าบุรุษหนุ่มผู้นี้

บุรุษหนุ่มต้องออกจากกองทัพที่สร้างทำงานมาอย่างยากลำบาก ต้องทนต่อการดูหมิ่นกลับไปยังบ้านเกิดภูมิลำเนาของเขา ต้องทนทุกข์ทรมานจากสายตาชาวโลก

ในสนามรบพอไม่มีบุรุษหนุ่มอยู่ด้วยกองทัพพ่ายแพ้มากกว่าชนะ  ภายใต้การหลอกล่อของศัตรูที่แข็งแกร่ง ผู้บัญชาการหน้าใหม่ผู้ทรงเกียรติพ่ายแพ้กองทัพปีศาจจากแดนนรกอย่างง่ายดาย จ้าวปีศาจฉีกร่างแม่ทัพผู้ขลาดเขลาตายในที่นั้นทันที  ขุนทัพนายกองกำลังใจพังทลายพบกับความพ่ายแพ้  ในท่ามกลางความสิ้นหวัง  บุรุษหนุ่มผู้ทุกข์ทรมานจากสายตาดูถูกเหยียดหยามของชาวโลก เข้าสู่สนามรบอย่างห้าวหาญราวกับทหารเทพยดา นำทหารล่าถอยอย่างไม่สับสนวุ่นวายและต่อสู้อย่างหนักเป็นเวลาแปดวันแปดคืน ในที่สุดก็พลิกสถานการณ์ยันทัพปีศาจได้ก่อนจะเอาชนะในสนามรบ

และเหตุการณ์ดำเนินไปเช่นนี้หลายศตวรรษนับไม่ถ้วน

บุรุษหนุ่มกลายเป็นบุรุษวัยกลางคน

แต่หัวใจของเขา

ไม่เคยเปลี่ยน สติปัญญาและความกล้าหาญของเขาไม่เคยเปลี่ยน!

การสู้รบเนื่องเพราะการเผชิญหน้าระหว่างทวีปมังกรทะยานและแดนปีศาจนรกได้มีการพัฒนาขึ้น เมื่อสนามรบขนาดเล็กระหว่างทวีปมังกรทะยานและแดนนรกไม่สามารถรองรับพลังของบุรุษหนุ่มผู้นั้นได้อีกต่อไป  เขาเริ่มต่อสู้จนเหนือหอทงเทียนระดับชั้นที่หกขึ้นไป และภายในไม่กี่ร้อยปีเขาบุกไปถึงแดนสวรรค์  นอกจากนี้ยังนำทัพหอทงเทียนต่อสู้อีกหลายครั้ง หากรวบรวมเลือดของเขาที่ต้องหลั่งออกในช่วงที่ผ่านมาบางทีอาจสะสมเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่สามารถท่วมคนตายได้หลายร้อยคน

ต่อสู้เพื่อทวีปมังกรทะยาน เขาจะเข้าต่อสู้อาบเลือดมาโดยตลอดจนเป็นดาวสังหารในสนามรบเสมอมา สร้างความหวาดกลัวให้กับนักรบปราณฟ้าแห่งแดนสวรรค์

เขาน่าเกรงขามและมีปัญญาเฉลียวฉลาด

ไม่แยแสชื่อเสียงโชคลาภ

มีความดีโดดเด่น

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาได้รับตอบแทนนั้นน่าผิดหวังเล็กน้อย และน่าขายหน้าราวกับว่าเขาเกิดมาเป็นขอทาน นั่นเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจเขาอย่างมาก

ไม่ต้องพูดถึงสหายและญาติมิตรที่กลัวเขา  พวกนักสู้ปราณฟ้าที่ถูกเขาสังหาร ก็ยังรู้สึกว่าเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม

ทำไมกัน?  คนที่เก่งและทำงานหนักมากถึงไม่ได้รางวัลที่เขาสมควรได้รับ แต่กลายเป็นว่าคนที่น่ารังเกียจและไร้ยางอายขโมยผลงานการต่อสู้ของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า?  ปล้นสิ่งที่เป็นของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า... ในที่สุดหอทงเทียนก็ไม่สามารถทนรับการกระทำของบุรุษหนุ่มผู้รักบ้านเกิดของเขาและยอมสละเลือดเพื่อบ้านเกิดของเขา  เขาต้องหลั่งเลือดและน้ำตา ต้องถูกไล่ล่าโดยญาติและสหาย  ต้องบุกเข้าไปในค่ายศัตรูเพื่อหาที่หลบภัย เพราะกลัวตายในเงื้อมมือของสหายที่ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาในอดีต และภาพก็กลับมาถึงปัจจุบัน

เย่ว์หยางยังคงเงียบ

เด็กหนุ่มจากโลกอื่นไม่เคยคิดว่าศัตรูที่อยู่ข้างหน้าจะมีอดีตเช่นนั้น

 “ข้าตงฟาง เป็นคนผู้นั้น” บัณฑิตวัยกลางคนยิ้มให้กับตนเองเล็กน้อย  “ไม่ว่าข้าจะได้ทำสิ่งใดไปมากน้อยแค่ไหน ไม่ว่าข้าจะทำอะไร ข้าจะไม่ได้รับการยอมรับจากคนอื่นราวกับว่าพวกอื่นเหมือนที่ข้าควรทำ  เลือดและเหงื่อของข้าสูญเสียไปราวกับน้ำพุ แต่กลับไม่มีค่าเท่ากับน้ำพุ!  ทุกสิ่งที่ข้าทำกลายเป็นเรื่องไร้ประโยชน์ ไร้สาระ!  หลังจากนั้นหลายปีที่ผ่านมา ข้ารู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะกลับไปเป็นเหมือนในอดีตได้ตลอดไป  แต่ข้ารู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม  ใช่..มันไม่ยุติธรรม!  ข้าไม่ต้องการสิ่งอื่นใด  ข้าแค่ต้องการความเป็นธรรม ข้าต้องการสิ่งเหล่านี้ที่เป็นของข้าเท่านั้น แม้ว่าสิ่งที่เป็นของข้าจะไม่อยู่ที่นั่นอีกต่อไป”

 “.....” เย่ว์หยางยังคงเงียบ

 “เจ้านึกว่าข้าโกหกเจ้าหรือ?  คิดว่าฉากภาพทั้งหมดนี้เป็นของปลอมหรือ?”  บัณฑิตวัยกลางคนรู้สึกประหลาดใจกับความเงียบของเย่ว์หยางในตอนนี้

 “มันเป็นเรื่องจริง”  เย่ว์หยางส่ายหน้าช้าๆ  “แม้ว่าข้าจะไม่มีทักษะหกรับรู้ แต่ข้ามีสัญชาตญาณในสนามรบที่ไม่เลว  เมื่อครู่นี้ภาพที่เจ้าสร้างขึ้นนั้นเป็นจริง  เพียงแต่เจ้าไม่ได้พูดถึงฉากที่เป็นเท็จ”

 “อย่างนั้นเจ้าก็ตัดสินแล้ว  มันสมเหตุสมผลแล้วหรือที่การทุ่มเทหลายปีของข้ากลับได้ผลลัพธ์ดังกล่าว?”  บัณฑิตวัยกลางคนมองดูเย่ว์หยางอย่างเฉยเมย  ไม่ว่าคำพูดเย่ว์หยางจะบอกว่ายุติธรรมหรือไม่ก็ตาม เขาเชื่อว่าจิตใจเขาจะไม่หวั่นไหว  เพราะหัวใจของเขาแตกสลายมานานเกินไป

ถ้าคิดได้เช่นนั้น

เย่ว์หยางรู้สึกว่าถ้าเขาลงแรงพยายามอย่างหนักต้องเสียเลือดและเหงื่อมากมายและในที่สุดปล่อยให้คนอื่นดูถูกเหยียดหยาม คาดกันว่าเขาคงไม่เต้นผางคว้ามีดไล่ฟันผู้มีพรสวรรค์อื่นทันที!  จ้าวปีศาจเข่นฆ่าหรือถูกฆ่าก็ตาม ผู้บัญชาการกองทัพทั้งสามกลับไม่ผสานร่วมมือกันได้  ไม่ได้มีสาวน้อยปะปนอยู่ด้วย นั่นทำให้คนอื่นสงสัย เรื่องนี้มีเหตุผลธรรมดาหรือไม่?

แน่นอนว่าเย่ว์หยางไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น

คิดว่าเขาต้องทำเหมือนอย่างนี้ด้วยหรือ?

เป็นไปไม่ได้!

งานอดิเรกของเย่ว์หยางก็คือเก็บตัวอยู่ในโลกคัมภีร์เพลิดเพลินกับชีวิตรักทุกวัน ต่อให้มีเหตุการณ์เข่นฆ่ากันระดับชาติก็ตาม

ครั้งนี้ถ้าไม่ใช่เพราะแดนสวรรค์บุกรุกเตรียมทำลายถิ่นที่อยู่เขา และทำให้ฮาเร็มของเขาลุกเป็นไฟ  ดังนั้นเย่ว์หยางจึงไม่สามารถพักผ่อนสุขสำราญกับสาวๆ ของเขาได้ เด็กหนุ่มต้องรีบกลับมาอย่างเร่งรีบ...  สำหรับประสบการณ์ชีวิตที่น่าสลดใจของบัณฑิตวัยกลางคน เขาไม่มีอะไรจะพูด  ในฐานะที่เขาข้ามโลกมาจากที่อื่นเขาเป็นเหมือนผู้สังเกตการณ์ผุ้ใจแข็งมากกว่า

 “เป็นโศกนาฏกรรมชีวิตที่น่าเห็นใจ  เจ้าตั้งใจจะให้ข้าเป็นเจ้าภาพตั้งโต๊ะเลี้ยงกาแฟเจ้าใช่ไหม?  จะเติมกาแฟอีกสักแก้วไหมเล่า?”  หากเปิดโอกาสให้เย่ว์หยางได้พูด คำพูดเขาก็แทบทำให้บัณฑิตวัยกลางคนแทบกระอักโลหิตออกมาสามชาม

 “เจ้า!  บัณฑิตวัยกลางคนไม่เคยคิดเลยว่าทั้งชีวิตของเขาจะต้องมาทำหน้าเขียวหน้าคล้ำต่อหน้าผู้เยาว์อย่างเย่ว์หยาง

เจ้าผู้นี้ทำโศกนาฏกรรมชีวิตของผู้อื่นราวกับว่าเป็นการละเล่นน่าสนุก!

ทำไมฟ้าถึงไม่ลงโทษคนแบบนี้!

ใจจืดใจดำ ไร้ความเห็นอกเห็นใจ?  นี่คือเหตุผลที่ยอดเยี่ยมของเจ้าผู้นี้หรือ?

เมื่อเผชิญหน้ากับความโกรธของบัณฑิตวัยกลางคน เย่ว์หยางจึงตั้งสมาธิมากขึ้น เขาเอนตัวอยู่ขอบหินไขว่ห้าง  เขาหยิบเหล้าหวานออกมาจากที่เก็บและชิมดู  ในขณะที่ต่างคนต่างมองดูด้วยความสนใจ  ดูเหมือนว่าเขาต้องการรอให้อีกฝ่ายแสดงละครฉากเศร้าในชีวิตอีกครั้ง ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่ให้ความบันเทิงเขามากพอ

นอกจากนี้เขายังพูดบางประโยคอย่างไม่ใส่ใจ จนบัณฑิตวัยกลางคนได้ยินแล้วแทบจะกระอักโลหิต  “ถ้าเจ้าต้องการจะแสร้งแสดงละครต่อไปเพื่อต้องการความเห็นอกเห็นใจ  ข้าเห็นว่าไม่มีความจำเป็น  ไม่ว่าเจ้าจะพูดและทำอะไร ข้าก็ไม่มีทางเห็นอกเห็นใจ  ในทางกลับกันยิ่งเจ้ามีทุกข์ความเจ็บปวดมากขึ้นเท่าใด  ข้ายิ่งมีความสุขมากขึ้น!  เพราะเจ้าคือศัตรูของข้า! ผู้รุกราน, ไม่สิ, ตงฟางกบฏแห่งหอทงเทียน  ตอนนี้เจ้าจะพูดอะไรตามที่ต้องการก็ได้  เจ้าจะพูดสักสามวันสามคืนก็ได้  แต่ข้าไม่เชื่อเจ้าเด็ดขาด!

 

7 ความคิดเห็น:

ผ่านมา กล่าวว่า...

ไม่ต้องพูดมาก ตบเกรียนมันซะ

oBABYVOXo กล่าวว่า...

พี่เย่คงคิดว่า"พูดมากน่ารำคาญ"

Apirak Panyakam กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Pcha กล่าวว่า...

ขอบคุณคับ

CHANTANA กล่าวว่า...

กลมก่อมเลยนะไอ้3 (ชาคับหฺฯ)

Lazykuma กล่าวว่า...

แล้วตั้งนานทำไมถึงไม่เรียกร้องในสิ่งที่ตัวเองทำมางอแงและก็เป็นกบฏเนี้ยนะ ตลก

chay กล่าวว่า...

เก่งขนาดนี้ ใครกล้าแกงตงฟาง(ปุ้ป้าย)

แสดงความคิดเห็น