วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1253 ใครกล้ารังแกน้องข้า

 

ตอนที่  1253  ใครกล้ารังแกน้องข้า

เย่ว์หยางอยู่ในระหว่างการเล่นและกำลังไตร่ตรอง

เขาไม่สามารถเดินหมากได้

 

บัณฑิตวัยกลางคนรอคอยอย่างสงบและอดทน สำหรับหมากที่กำหนดแล้วว่าจะต้องชนะในท้ายที่สุด  เขาไม่มีเหตุผลต้องรำคาญเสียใจ ตราบใดที่เขาแพ้อย่างรวดเร็ว อย่างนั้นเขาจะรู้สึกหงุดหงิดและกระสับกระส่ายเหมือนอย่างเย่ว์หยาง  ในตอนนี้เขารู้สึกอึดอัดจนต้องทุบโต๊ะโวยวายออกมาบ้าง  “หมากไร้สาระอะไรอย่างนี้ ความรู้สึกมีน้อยมากไม่รู้สึกถึงหมากหยกที่ดีกว่านี้แล้วหรือ  ตัวหมากเน่าอย่างนี้จับไปแล้วจะมีแรงบันดาลใจอะไรได้!

ทุกคนรู้ว่าการเล่นหมากรุกไม่เกี่ยวอะไรกับตัววัสดุหมาก สีผิวของชิ้นหมากส่วนเหล่านี้ไม่ส่งผลอะไร

เขารู้สึกว่าคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องทุกประเภท

จะพ่ายแพ้อย่างรวดเร็ว!

เย่ว์หยางดูเหมือนเป็นคนแบบนี้... บัณฑิตวัยกลางคนเปลี่ยนมุมมองลองคิดว่าตัวของเขาเป็นคุณชายสามตระกูลเย่ว์  และเมื่อเผชิญกับสุดยอดนักสู้ต่างๆ หลายคนเช่นเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ จักรพรรดิอสูร จักรพรรดิทอง ราชันย์ไร้ใจ  เขารู้สึกว่าศีรษะพองโตแทบระเบิด  อย่าว่าแต่สองสามคนที่กล่าวข้างต้นเลย ห้าจอมภพจากแดนสวรรค์ส่วนต่างๆ ทั้งตะวันออก ตะวันตก และใต้  คนเหล่านี้ไม่ใช่จะตอแยกันได้ง่ายๆ

ในอดีตจักรพรรดิออวี้ต้องยอมเสียสละตนเองยอมผนึกสามจอมภพแดนสวรรค์ตะวันตก

ในเวลานี้ ไม่เพียงแต่เย่ว์หยางต้องเผชิญกับห้าจอมภพแดนสวรรค์พร้อมกัน แต่ยังต้องเผชิญห้าสุดยอดฝีมืออย่างเทียนอี้ จักรพรรดิไร้เทียมทาน จักรพรรดิอสูร จักรพรรดิทองและราชันย์ไร้ใจ  ทั้งสิบคนเหมือนกับขุนเขาใหญ่ทั้งสิบ แค่คนใดคนหนึ่ง ก็เพียงพอจะพิชิตเขาได้ทั้งหมดแล้ว  แต่ตอนนี้มาถึงสิบคนพร้อมกันเหตุการณ์เศร้าครั้งนี้ยากจะหลีกเลี่ยง

บัณฑิตวัยกลางคนคิดว่าถ้าเขาเป็นเย่ว์ไตตัน ต้องมาถือไพ่เช่นนี้ไว้ในมือ ภายใต้แรงกดดันของศัตรูทั้งสิบมีผลสุดท้ายคือตายอย่างเดียว

ไม่มีทางชนะ

ต้องการจะชนะหมากนี้ ปืนป่ายขึ้นสวรรค์ยังจะง่ายเสียกว่า!

คิดว่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์คงจะคิดหาทางเอาชนะไม่ได้  และเขาคิดว่าตนเองไม่มีเหตุผลใดที่จะแพ้

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้บัณฑิตวัยกลางคนคิดว่าเขาสามารถวางใจลงได้บ้างเล็กน้อยสำหรับหมื่นปีที่หดหู่วางแผนอย่างรอบคอบ รอคอยผลแห่งชนะอย่างใจเย็นหลังจากที่ได้ฝึกฝนฝีมือมานานเป็นหมื่นปี  บัดนี้เป็นเวลาที่ควรชื่นชมยินดีต่อความเจ็บปวดและความเกรี้ยวกราดของศัตรู เป็นการโต้ตอบระบายความผิดหวังเมื่อหมื่นปีที่แล้ว  บัณฑิตวัยกลางคนเงยหน้ามองท้องฟ้าและยิ้มอย่างสดชื่น  ในอดีตคนที่เข้าใจผิดเหล่านี้ คนโง่เหล่านี้ปฏิเสธจะสนับสนุนตัวเขาให้ขึ้นเป็นบุคคลอันดับหนึ่งของหอทงเทียนไม่ใช่หรือ?  หากจิตวิญญาณวีรบุรุษของพวกเจ้าอยู่ไม่ไกล จงใช้สายตาของพวกเจ้ามองดู เป็นเพราะความดื้อรั้นและความผิดพลาดของพวกเจ้า  พวกเจ้าพลาดผู้สืบทอดที่ดีที่สุดไป  เพราะหอทงเทียนจะต้องถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง  ความสง่างามจึงต้องหยุดยั้งเพียงเท่านี้

นี่คือทางเลือกของพวกเจ้า

เป็นเพราะพวกเจ้า เป็นเพราะพวกเจ้าไม่เลือกข้า  หอทงเทียนจึงมีสภาพดังทุกวันนี้ ทุกอย่างเป็นความผิดของพวกเจ้า!

หอทงเทียนเอย ในเมื่อข้าไม่ได้มันมา  คนอื่นก็จะไม่ได้เช่นกัน!  ในเมื่อข้าไม่ได้รับ อย่างนั้นข้าจะทำลายมันเอง  ข้าจะทำบ้านเกิดที่สวยงามแห่งนี้กลายเป็นนรกที่แท้จริง  เปลี่ยนให้เป็นนรกที่โหดร้ายเลือดนองเป็นท้องธาร ทำให้คนนับล้านล้านถูกฝังร้องไห้คร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดเป็นครั้งสุดท้าย

บัณฑิตวัยกลางคนค่อยๆ กำหมัดช้าๆ เหมือนกับว่ากุมชะตาของหอทงเทียนไว้ได้แล้ว

ปัง

เย่ว์หยางหยิบตัวหมากชิ้นหนึ่งวางบนกระดานหินทันที

มีเสียงดังผิดปกติ  แม้ว่าสีหน้าของเขาจะไม่ได้โกรธ  แต่ก็เหมือนกับไม่ตั้งใจ

เมื่อบัณฑิตวัยกลางคนเห็นเช่นนี้ ใบหน้าของเขามีรอยยิ้ม เขาผายมือแนะนำ  “เด็กน้อย, เล่นหมากรุกอย่าหุนหันพลันแล่น  เจ้าก็รู้ว่าบางครั้งมือข้างเดียวสามารถกำหนดทิศทางของรูปเกมทั้งหมด ความอดทนและความสังเกตเป็นเรื่องสำคัญมาก เจ้าแน่ใจนะว่าต้องการทำตามตาเดินนี้?  แน่ใจหรือเปล่า?  นี่เห็นว่าเจ้าเป็นสหายรุ่นหลังหรอกนะ  ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจกับการเดินผิด  เจ้าควรคิดดูให้ดีแล้วค่อยเดินหมากก็ยังไม่สายเกินไป!

 “เป็นคนรุ่นหลังของเจ้า นั่นเป็นเรื่องน่าอับอาย  ดีที่สุดอย่าไปพูดถึงมัน”  เย่ว์หยางจ้องมองบัณฑิตวัยกลางคนตาคมกร้าวเหมือนดาบ “เราคุณชายกำลังเล่นหมากรุก  เจ้าก็ชอบไม่ใช่หรือ  ถ้ารู้สึกอึดอัด เจ้าฆ่าตัวตายได้!

 “คนกำลังจะชนะย่อมไม่ฆ่าตัวตายแน่นอน  การฆ่าตัวตายเป็นเรื่องของคนแพ้”  บัณฑิตวัยกลางคนหัวเราะลั่น

 “ข้ายังไม่แพ้!  เย่ว์หยางตะโกนลั่น

 “ตอนนี้เจ้ายังไม่แพ้ แต่คาดว่าคงเร็วๆ นี้” บัณฑิตวัยกลางคนไม่คิดว่าเป็นไปได้ที่เจ้าเด็กนี่จะมีโอกาสกู้สถานการณ์กลับมา  เขามองดูหมากบนกระดานและชี้ไปที่ตัวหมากสีขาวบนโต๊ะหินยิ้มให้เย่ว์หยาง  “หมากนี้ของข้าคือจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อใหญ่พอจะกินหมากบนกระดานได้ทุกตัว เจ้ามีหมากใช้ขัดขวางหมากใหญ่นี้ได้หรือ?”

 “ข้ายังมีหมากใหญ่อยู่ตัวหนึ่ง!  เย่ว์หยางขยับบอกไม่ให้บัณฑิตวัยกลางคนก่อกวนการเดินหมากของเขา

 “หมากของเจ้าจะยิ่งใหญ่แค่ไหนเชียว?”  บํณฑิตวัยกลางคนไม่คิดว่าหมากนี้จะมีพลังพอหยุดหมากที่เข้มแข็งทรงพลังอย่างจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อของเขาได้

สามารถป้องกันจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อได้ มีแต่นางพญาผู้พิชิตเฟ่ยเหวินหลี

น่าเสียดายนี่ไม่ใช่นาง

แม้ว่าการเดินหมากนี้จะถูกนางขัดขวาง อย่างนั้นก็ยังมีเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ จักรพรรดิอสูร จักรพรรดิทองและราชันย์ไร้ใจ? ใครยังจะขัดขวางได้อีก?

เย่ว์หยางเตรียมวางหมากสีดำเพื่อต้อนหมากอีกฝ่ายให้กลับเข้าที่เดิมพร้อมกับเตือนอย่างจริงจัง  “อย่าแตะต้องหมากนี้ของข้า!  ตามธรรมชาติข้าก็เป็นอย่างนี้  หมากของเจ้าคือจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ คิดว่าใหญ่พอแล้วใช่ไหม?  แต่หมากของข้าในอดีตเคยกวาดมาทั่วอาณาจักรสวรรค์มาแล้ว  มังกรปีศาจจะคอยขัดขวางจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อเอง  นี่คือของขวัญเล็กๆ น้อยๆ จากข้า!

 “มังกรปีศาจ?”  บัณฑิตวัยกลางคนไม่เข้าใจ เย่ว์ไตตันรู้จักกับเจ้าโง่อย่างมังกรปีศาจได้อย่างไร เขาขมวดคิ้วพูดกับเย่ว์หยาง “พื้นเพอย่างเจ้า ไม่ รู้ จัก มังกร ปีศาจ!

 “ข้าไม่รู้จักมังกรปีศาจหรือ?  ข้าปล่อยเขาออกมาเอง แล้วจะไม่รู้จักเขาได้อย่างไร?”  เย่ว์หยางพูดเยาะเย้ยคืน  “ในโลกนี้นอกจากข้ายังจะมีใครอื่นที่ปลดผนึกเขาได้  นอกจากเราคุณชายผู้นี้ใครเล่าที่มากอดขาข้าขอให้ข้ายอมรับเป็นพี่น้อง นั่นเป็นเพราะเขาร้องขอต้องการเป็นพี่ใหญ่ข้า เขาบอกว่านั่นคือความฝันของเขา!

 “ต่อให้มังกรปีศาจเป็นพี่ใหญ่เจ้า เขาก็มาหอทงเทียนไม่ได้ และเป็นไปได้น้อยมากที่เขาจะเป็นศัตรูกับจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ!  บัณฑิตวัยกลางคนหัวเราะลั่น

 “ทำไมล่ะ?”  ครั้งนี้เป็นเย่ว์หยางที่ไม่เข้าใจบ้าง

 “เพราะเขาเพิ่งออกจากผนึก ยังไม่ฟื้นฟูพลังสุดยอดของตนเอง”  บัณฑิตวัยกลางคนหัวเราะลั่นและส่ายศีรษะ  “ตอนนี้เขาต้องซ่อนตัวเพื่อฟื้นฟูพลังตนเอง  ต่อให้เจ้าต้องการพบเขา ก็ไม่มีทางหาเจอได้”

 “ข้าแจ้งเขาไม่ได้หรือไง? แจ้งผ่านคัมภีร์อัญเชิญ!  เย่ว์หยางว่าเขาส่งข้อความแจ้งไปแล้วง่ายๆ

 “เป็นไปไม่ได้!  บัณฑิตวัยกลางคนส่ายหน้า “มีแต่เฉพาะคนสำคัญของหอทงเทียนเทียนเท่านั้น ถึงจะแจ้งส่งผ่านข้อมูลจากคัมภีร์อัญเชิญได้ในช่วงเวลาสั้นๆ เช่นการเรียกระดมกำลัง หรือการส่งข้อมูลเหมือนเจ้า   นอกจากนี้ไม่มีวิธีอื่น!  หรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่ง มังกรปีศาจไม่ใช่คนหอทงเทียน เขาไม่มีทางรับข้อมูลจากเจ้าได้  และข้อมูลนี้จะส่งไปไม่ถึงเขา เพราะหอทงเทียนทั้งหมดรู้จักแต่เจ้าคุณชายสามตระกูลเย่ว์ ส่วนมังกรปีศาจไม่มีใครรู้จัก!  ในที่สุดสิ่งที่ข้าต้องการจะบอกก็คือ  กุญแจของหอทงเทียนก็คือความทุ่มเทของข้า เพราะหลังจากที่ใช้ไปแล้ว จะทำให้ตลอดหนึ่งปีในหอทงเทียนไม่สามารถส่งแจ้งข้อมูลได้อีกครั้ง  คัมภีร์อัญเชิญของหอทงเทียนทั้งหมดจะหยุดทำงานส่วนนี้หนึ่งปีเพื่อฟื้นฟูพลังงานเชื่อมต่อ  อย่ามองข้าแบบนั้น คุณชายสามตระกูลเย่ว์  บางทีเจ้าอาจคิดว่าข้าไม่ใช่คนฉลาด  แต่ความเป็นจริงข้าไม่ได้โง่กว่าเจ้า ไม่ช้ากว่าเจ้า ข้าแค่ไม่ได้มีชะตาเป็นที่รักของสวรรค์เหมือนกับเจ้าเท่านั้น!

บัณฑิตวัยกลางคนกินเบี้ยสีดำที่เย่ว์หยางเพิ่งวางบนกระดานและโยนออก

เขาคิดว่า

การเดินตานี้เป็นหมากที่สูญเปล่า

อย่างไรก็ตามในทันใดนั้นมีมือยื่นออกมาจากช่องว่างของโลกและสวรรค์ทันทีและจับตัวหมากรุกไว้ได้อย่างง่ายดายพร้อมกับโยนกลับมายังตำแหน่งที่เย่ว์หยางเคยวางไว้อย่างนุ่มนวล

ขณะนั้นเองบุรุษวัยกลางคนหน้าเปลี่ยนสี มีเสียงเกียจคร้านเสียงหนึ่งดังขึ้น  “ความจริงข้าไม่ใช่คนจมูกยาวยุ่งเรื่องของคนอื่น  แต่ถ้ามีคนมารังแกถึงหน้าประตูบ้าน ขู่เด็กที่หน้าบ้านข้า ในฐานะพี่ใหญ่ไม่มีเหตุผลใดที่ข้าจะไม่ลุกขึ้นเพื่อพูดอะไรเสียบ้าง  แม้ว่าข้าจะถูกผนึกมาแสนปี แต่มิใช่ว่าข้าจะไม่มีอยู่จริงไหม?  ปกติแล้วข้ามักจะเป็นฝ่ายแกล้งรังแกคนอื่น  คาดไม่ถึงว่าผ่านไปแสนปีกลับมีคนมารังแกข้าถึงหน้าบ้าน  ถ้าผู้เฒ่าเทพมังกรทองรู้เข้า เกรงว่าเขาคงมาตีข้าจนขาหัก!

 “มังกรปีศาจ!  บัณฑิตวัยกลางคนร้องตกใจ  “เป็นเจ้าจริงๆ!

 “ข้ารู้สึกอายจริงๆ ที่ทำให้การคำนวณของเจ้าล้มเหลว  เจ้าฉลาด แต่น่าเสียดายที่เจ้าไม่เคยคาดคิดว่าข้าจะซ่อนตัวฟื้นฟูพลังอยู่ในหอทงเทียนใช่ไหม?  เด็กน้อย ถ้าเจ้าต้องการเล่นเกมระหว่างครอบครัว  ข้าเป็นผู้อาวุโส ตามความเป็นจริงแล้ว  ข้าไม่สามารถทำอะไรได้มาก แต่เจ้าไม่อาจกล่าวหาว่าข้าไม่มีอยู่จริง หากเจ้าต้องการกลั่นแกล้งว่าข้าไม่มีตัวตน ก็ต้องรอให้ข้าตายก่อนแล้วค่อยมายืนโม้คุยโตบนหลุมศพของข้า”  เสียงที่ฟังดูเกียจคร้านที่ยืนอยู่ต่อหน้าบัณฑิตวัยกลางคนเหมือนกับกำลังสอนเด็กๆ  บัณฑิตวัยกลางคนมีอายุมานานหมื่นปีเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาที่มีอายุนานแสนปีก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กน้อย

สีหน้าของบัณฑิตวัยกลางคนเปลี่ยนไป  แต่เขายังคงสงบได้

มีเพียงมังกรปีศาจผู้เดียวที่พลังยังห่างจากระดับสุดยอด ก็เท่ากับไม่มีอะไร เขายังจะสามารถขัดขวางจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อได้หรือ?  ยากจะกล่าวได้ ต่อให้สามารถขัดขวางได้ เจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้, จักรพรรดิอสูร จักรพรรดิทองและราชันย์ไร้ใจ พวกเขาคงไม่งอมืองอเท้าดูอยู่เฉยๆ แน่!

และได้กวาดล้างมังกรปีศาจที่อยู่ในสภาพอ่อนแออย่างนี้นับเป็นโอกาสที่ดีในรอบหลายพันปี ใครกันแน่ที่ควรจะตื่นเต้น

บางทีการต่อสู้ครั้งนี้ไม่เพียงแต่นับเอาคุณชายสามตระกูลเย่ว์เท่านั้น แต่ยังถือโอกาสกำจัดมังกรปีศาจในรวดเดียวได้ด้วย

 “เด็กน้อย ข้าคือพี่ใหญ่ของเจ้า  ข้าเคยกอดต้นขาเจ้านิดหน่อย แต่ข้าเคยร้องไห้ด้วยหรือ?  นั่นมันเรื่องตื่นเต้นกระมัง?”  เสียงเกียจคร้านดังขึ้น  “ข้าดีต่อเจ้ามาก และจำได้ว่าพูดคำสองสามคำต่อหน้าเทพมังกรทอง  จะดีที่สุดควรให้เจ้าได้แต่งงานกับธิดาผู้งดงามที่สุด  ถ้าข้ามีลูกสาวข้าจะพิจารณาว่าจะให้แต่งงานกับลูกชายเจ้าดีไหม?”

 “ไปเลย” เย่ว์หยางสบถด้วยความตื่นเต้น “ท่านก็เหมือนกัน ท่านต้องการจะแต่งงานกับเจ้าหญิงมังกรสักคน ก็ไม่ควรไปติดคุกนานๆ รีบๆ ไปจากที่นี่เลย”

 “เจ้าเด็กบ้า ข้าอุตส่าห์เป็นห่วงเด็กน้อยเจ้า!  มังกรปีศาจรู้สึกพูดไม่ออก

 “ใครจะสนใจเล่า  ท่านมีความสามารถก็ไปฆ่าเทียนอี้เลย!  เย่ว์หยางไม่จำเป็นต้องสนใจว่าใครจะรับสาวงาม

 “ข้าก็อยากไปฆ่าเทียนอี้ตอนนี้  แต่ก็ยังมาพล่ามเสียเวลาอยู่ที่นี่แทนที่จะตรงไปที่ตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์โดยตรง แต่เจ้าเด็กที่ไหนไม่รู้พล่ามหวังจะให้เราผู้เฒ่าเข้ามาในนี้เพื่อไม่ต้องถูกรังแก”  มังกรปีศาจกลัวว่าเย่ว์หยางจะส่งมอบภารกิจอีก เขาหยุดพูดและหายไปทันทีโดยไม่พูดต่อ

 “เดินตาหมากแรกเจ้าก็พบเห็นอยู่แล้ว ตอนนี้เราคุณชายเดินหมากตาที่สอง ใครบอกว่าข้าแพ้กันเล่า?”  เย่ว์หยางตบหมากดำกลับไปบนโต๊ะหินอีกครั้ง

 

6 ความคิดเห็น:

oBABYVOXo กล่าวว่า...

ช่วยมาจากไหน

Unknown กล่าวว่า...

จากตอนต้นๆที่ไปแดนสวรรค์ล่ะไปจ่มเรือครับ น่าจะไปช่วยมาหลังจากนั้น เพราะพี่แกแว๊ปได้ตลอดเวลา

Pcha กล่าวว่า...

ตบเกรียน55

Unknown กล่าวว่า...

ช่วยมาจากผนึกใต้ทะเลสาบ

BlackFire กล่าวว่า...

ตอนที่สาวมังกรเจียงอิงได้พลังมังกรที่ไปช่วยลี่เยี่ยจากไอ้ตัวตลกเสี่ยวโฉว

อ่าห้า กล่าวว่า...

เฮียเเกไม่ได้ช่วยหรอก เป็นโชคดีที่มังกรไร้เขาได้พลังตกทอดจากเทพมังกรที่ใช้ผนึกมังกรปีศาจ มังกรปีศาจเลยได้ผลพลอยได้หลุดออกจากผนึกได้

แสดงความคิดเห็น