วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1259 จักรพรรดิทอง

 

ตอนที่  1259  จักรพรรดิทอง

แท่นบูชายัญ หุบเขาแม่น้ำขาว บันไดสวรรค์ชั้นห้า

 

เมื่อเย่ว์หยางเสนอต่อสู้เดิมพัน ไม่ว่าจะเป็นเผ่าปีศาจทมิฬ เผ่ามังกรฟ้าหรือเผ่าเก้าหัว ไม่มีใครตอบสนองทันที  คนขึ้นเวทีก่อนไม่ได้หมายความว่าจะเป็นผู้สามารถกินปูได้คนแรก  ตรงกันข้าม คนแรกมักถูกกำจัดก่อนกลายเป็นหินรองเท้าให้คนอื่นก้าวข้าม  จะยิงนกก็ต้องยิงตัวที่โผล่หัวออกมาไม่ว่าหอทงเทียนและแดนสวรรค์ก็เข้าใจความจริงข้อนี้

ขณะที่หลายคนทำเป็นเงยหน้ามองฟ้าทำเป็นไม่ได้ยินเย่ว์หยาง มีคนผู้หนึ่งก้าวขึ้นเวที

เขาขึ้นไปนั่งบนแท่นบูชายัญ

เงียบไม่พูดอะไร

ไม่สำคัญว่าใครจะรู้จักเขาหรือไม่  ทุกคนไม่คิดว่าคนผู้นี้ควรต่อสู้เพื่อลิ้มรสผลแห่งชัยชนะเป็นคนแรก

ทำไม?

คำถามนี้อย่าว่าแต่พวกเขาเลย  แม้แต่คนที่เตรียมตัวไว้ดีอย่างเย่ว์หยางและบัณฑิตวัยกลางคนก็งงเช่นกัน

คนที่เป็นไปได้น้อยที่สุดที่สมควรลงมือต่อสู้ กลับอาสาออกมาเป็นคนแรก

และเป็นฝ่ายเริ่มสู้กับเย่ว์หยาง

ทำไมกัน?

ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นทั้งหมดมองดูเขา

คนผู้นี้ดูแข็งแกร่งมาก และดูไม่เหมือนว่าสมองตาย

ลักษณะของเขาแข็งแกร่งรูปหน้าเหมือนรูปแกะสลักผมสั้นลู่เอนต้านลมเหมือนเข็ม รูปหน้าของเขาเป็นแนวเส้นชัดเจนราวกับสลักขึ้นด้วยมีดหรือสิ่ว ราศีของบุรุษผู้ถ้าย้อนเวลากลับไปช่วงที่เป็นหนุ่มอาจทำให้สาวๆ ที่เห็นใจเต้นรัว ใบหน้าของเขามีความเป็นผู้ใหญ่ ดวงตาเด็ดเดี่ยว และร่างของเขายืนเด่นราวกับป้อมปราการที่แข็งแกร่งทรงพลังน่าเกรงขาม

เมื่อเห็นบุรุษผู้สง่างามมีพลังสามารถกลืนโลกและสวรรค์ได้ ก้าวเดินทีละก้าวๆ มังกรสองหัวรู้สึกอึดอัดทรมานอย่างช่วยไม่ได้

ราชินีเหม่ยเยี่ยนผู้มีเปลวไฟคลุมทั้งร่างมองดูด้วยความสั่นกลัว นางเค้นเสียงออกมาจากลำคออย่างช่วยไม่ได้

 “ท่านคือจักรพรรดิทอง ท่านคือเจ้านายใหญ่แห่งเผ่ากาทองสามขา หุบเขาสุริยันต์”

จักรพรรดิทอง!

ทันทีที่ชื่อนี้ถูกระบุ บรรยากาศผู้อยู่ในเหตุการณ์เปลี่ยนเป็นหนักอึ้งหลายเท่าทันที

แม้ว่าพวกมังกรสองหัวจะคาดเดาได้ถูกต้อง  แต่เขาไม่ต้องการระบุชื่อออกมาได้ง่ายๆ  เพราะนั่นเป็นชื่อที่ทรงพลังน่าเกรงขามอย่างยิ่ง  ตอนนี้ราชินีเหม่ยเยี่ยนพูดออกมาโดยไม่ตั้งใจ  ทุกคนที่ได้ยินอดใจสั่นสะท้านไม่ได้

มังกรสองหัวตอนนี้ยังไม่ค่อยเข้าใจชัดนักว่าทำไมผู้แข็งแกร่งอย่างจักรพรรดิทองถึงไม่รอให้จบการต่อสู้และเหตุการณ์นิ่งเสียก่อน?  เขาไม่จำเป็นต้องลงมือเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าข้อพิพาททั้งหมดได้รับการตัดสินทุกคนล้วนยินยอมแบ่งส่วนแบ่งให้กับเผ่ากาทองสามขาอยู่แล้ว

ไม่ว่าจะเป็นแดนสวรรค์หรือหอทงเทียน ไม่มีใครกล้าทำเช่นนั้น

เชื่อได้ว่าแม้กระทั่งเจ้าตำหนักสูงสุดยอดนักสู้อันดับหนึ่งผู้แข็งแกร่งที่สุดในแดนสวรรค์ก็คงลังเลที่จะมีสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับจักรพรรดิทองแห่งเผ่ากาทองสามขา

จักรพรรดิทองสามารถกำชัยชนะสุดท้ายได้โดยไม่ต้องลงมือ  ทำไมเขาต้องอาสาสู้กับเย่ว์ไตตันผู้นั้นก่อน?  เขาไม่จำเป็นต้องทำสิ่งนี้เลยแม้แต่น้อย!  ด้วยตัวตนและสถานะของเขา ด้วยพละกำลังของเขา เขาสามารถมอบหมายยอดฝีมือในตระกูลมาแทน เขาเพียงแต่รอชัยชนะสุดท้ายที่สมควรได้  แต่นี่เขากลับอาสาด้วยตนเองเพื่อต่อสู้ตั้งแต่รอบแรกเลยทีเดียว  หมายความว่าจักรพรรดิทองมีความเป็นศัตรูหรือหนี้เลือดกับหอทงเทียนที่ไม่มีใครรู้?

เย่ว์หยางเองก็ยังคงงงอยู่มาก

เจ้านายใหญ่ควรอยู่ในอาณาเขตตนเองรอให้ทุกคนลงมือไปก่อนไม่ใช่หรือ

ทำไมเขาถึงวิ่งเข้าหามือใหม่?  นอกจากนี้ดูเหมือนเป็นผู้เล่นที่มีความคิดเป็นของตนเอง?  มีเหตุผลพิเศษอะไรหรือเปล่า? 

 “นี่เรารู้จักกันหรือเปล่า?”  เย่ว์หยางตัดสินใจถามตรงๆ

 “ไม่รู้” จักรพรรดิทองปฏิเสธ

 “อย่างนั้นข้าเคยวางเพลิงเผาบ้านเจ้า พังประตูบ้านเจ้าจนต้องเปลี่ยนใหม่หรือเปล่า?”  เย่ว์หยางลูบหลังหัวเหมือนกับว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิดมาก่อน

 “ไม่” จักรพรรดิทองส่ายหน้า

 “อย่างนั้นหน้าของข้ากวนโมโหหรือเปล่า?”  เย่ว์หยางหดหู่ใจ ใบหน้าของเขาดึงดูดความเกลียดชังของผู้คนหรือเปล่า?

 “ข้าดูไม่ออกเหมือนกัน”  จักรพรรดิทองบอกว่าไม่ใช่เหตุผลนี้

 “อย่างนั้นท่านรีบออกมาสู้กับข้าด้วยเหตุผลอะไร?  ใบหน้าของข้าก็ไม่ได้ยั่วยวนกวนโมโหท่านสักหน่อย  ท่านดูดีมีราศี ท่านไม่ควรรังแกผู้น้อยกว่า นั่นไม่ใช่การกระทำของผู้เจริญเลย!  เย่ว์หยางกังวล  เขาแสดงสีหน้าทำนองว่า ถ้าเจ้ากล้ารังแกข้า  ข้าจะร้องไห้จริง

 “ข้าขอโทษ”  จักรพรรดิทองขอโทษเย่ว์หยางด้วยความรู้สึกจริงใจ  “ที่จริงแล้วข้าไม่มีเรื่องอะไรเกี่ยวข้องกับเจ้า  แต่เป็นเพราะข้าเป็นหนี้บุญคุณใหญ่ของคนบางคน  ข้าจึงต้องลงมืออย่างช่วยไม่ได้”

 “ท่านเป็นหนี้บุญคุณ ก็ไม่ควรมาทุบตีข้าเพื่อทดแทนบุญคุณ!  เย่ว์หยางรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมเกินไป

 “แม้ว่าต้องลงมือกับเจ้าบ้าง  แต่ข้าคาดว่าการทดแทนคุณครั้งนี้ก็แทบทำอะไรเจ้าไม่ได้”  จักรพรรดิทองตอบตามตรง

 “ยังมีบุญคุณอื่นๆ อีก  ข้าช่วยลูกท่าน สะใภ้ท่านและหลานของท่านไว้!  แล้วนี่จะนับได้อย่างไร?”  เย่ว์หยางจำองค์ชายแปดอูไห่ได้ทันทีว่าดูเหมือนจะเป็นบุตรของผู้อาวุโสท่านนี้ เริ่มแรกเขาช่วยไข่ที่เป็นลูกขององค์ชายอูไห่และสนมกระเรียนมงกุฏ ส่วนเป่าเอ๋อช่วยไข่แฝดอีกใบไว้ได้  แม้ว่าการทำดีนี้จะเป็นเรื่องที่ได้เปรียบ  แต่เย่ว์หยางยังไม่ถึงกับเป็นเยาวชนตัวอย่างที่ทำดีโดยไม่ต้องการผลตอบแทน  ตอนนี้เป็นวิกฤตของหอทงเทียนว่าจะอยู่รอดได้หรือไม่  ถ้าเขาสามารถอ้างเอาบุญคุณได้  อย่างนั้นก็ต้องพูด  ต่อให้ต้องทำหน้าด้านเข้าไว้ก็ไม่เป็นไร!

 “ข้าเคยได้ยินเรื่องนี้ และข้าก็รู้สึกซาบซึ้งขอบคุณในการช่วยเหลือของเจ้า  ลูกดื้อที่ไม่เชื่อฟังสมควรตาย แต่หลานน้อยผู้น่ารัก ถ้าไม่ได้เจ้าช่วยไว้ บางทีอาจกลายเป็นอาหาร หรือกลายเป็นอสูรศึกที่ถูกทหารรับจ้างชั้นต่ำกดขี่ข่มเหง”  จักรพรรดิทองพยักหน้ายืนยันว่าสิ่งที่เย่ว์หยางทำนั้นเป็นความดี

มังกรสองหัวเมื่อได้ยินรู้สึกไม่ชอบใจ  เขาหันไปมองบัณฑิตวัยกลางคนทันที

ตอนนี้ดูเหมือนลมเปลี่ยนทิศหรือเปล่า?

จักรพรรดิทองผู้นี้เป็นคนเมตตารู้คุณคนยิ่งนัก เขาถูกเชิญมาให้พิชิตหอทงเทียน  แต่ลูกหลานของเขากลับประทับใจเย่ว์ไตตันลึกซึ้ง  และเขาไม่เคยรายงานเลยว่าเขาเป็นคนแรกที่อาสาก่อนใคร  หรือว่าเขาต้องการจะคืนดีกับเย่ว์ไตตันผู้นี้  หากเป็นเช่นนี้จริง นับว่าน่าเสียดาย จักรพรรดิทองเป็นผู้ช่วยสำคัญของแดนสวรรค์  เมื่อมีเขาอยู่ด้วยยิ่งมีโอกาสชนะถึงเจ็ดส่วน

ในทางกลับกันถ้าจักรพรรดิทองชอบเย่ว์ไตตัน จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก

เขาควรจะทำประการใด?

ทุกคนให้ความสนใจบัณฑิตวัยกลางคนอีกครั้ง

พวกเขาหวังว่าด้วยชื่อเสียงนักยุทธศาสตร์อันดับหนึ่งของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ เขาจะพูดเหมือนกับที่ส่งข้อความให้ทุกคน และให้ความมั่นใจกับทุกคนได้

บุรุษวัยกลางคนไม่พูด หน้าของเขายังคงยิ้มราวกับว่าไม่ได้ยินการสนทนาระหว่างเย่ว์หยางกับจักรพรรดิทอง ความมั่นใจในตนเองที่คาดคิดไม่ถึงของเขาทำให้มังกรสองหัวตะลึงมากยิ่งขึ้น  คนอย่างเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางยังสงบอยู่ได้ หรือว่าเขามีไม้ตายลับอย่างอื่นอีก?

 “ข้าทำดีกับท่านและไม่ได้รุกรานยั่วยุท่าน ก็เหมือนคนกันเองอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่เปลี่ยนจากศัตรูเป็นมิตรเล่า?”  เย่ว์หยางสรุป

 “เป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนจากศัตรูกลายเป็นสหาย”  จักรพรรดิทองส่ายหน้าช้าๆ  “ถ้าเราผู้เฒ่าฆ่าเจ้า  อย่างนั้นเจ้าก็ให้ลูกหลานมาล้างแค้นข้าเมื่อพวกเขาเติบโต เพื่อทวงบุญคุณความแค้นที่ได้รับการช่วยเหลือตอนนั้น”

 “โธ่เว้ย!  เย่ว์หยางโมโหจนอยากอาเจียนเป็นเลือด

คุณชายผู้นี้จะฆ่าผู้อาวุโสอย่างท่าน ก็ต้องให้หลานตัวเองหาทางล้างแค้นเหมือน ข้าไม่ต้องให้เจ้าคิดแทนก็ได้

มังกรสองหัวและพวกฟังคำพูดของจักรพรรดิทองก็อดหัวเราะไม่ได้  ในเวลาเดียวกันพวกเขามีความมั่นใจมากขึ้นเป็นร้อยเท่าในแผนกลยุทธ์ของบัณฑิตวัยกลางคนสมกับเป็นคนที่ฉลาดที่สุดจากตำหนักกลาง ถ้าเป็นเขาทำ อย่างนั้นต้องแน่ใจว่าไม่มีช่องว่าง!  ไม่ว่าเย่ว์ไตตันจะมีพลังยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ตาม  แต่สำหรับเผ่ากาทองสามขา  ดูเหมือนว่าหัวใจของจักรพรรดิทองจะไม่เปลี่ยนใจ  มีจักรพรรดิทองเป็นศัตรูที่ทรงพลัง เย่ว์ไตตันนี้แม้มีความสามารถต้านสวรรค์ก็ไม่มีทางต่อต้านจักรพรรดิทองได้  เขาต้องตายแน่นอน

เย่ว์หยางไม่เคยเป็นฝ่ายถูกรังแกมาก่อนในชีวิต  เขามักเป็นฝ่ายรังแกคนอื่นอยู่เสมอ  ทุกวันนี้คนที่ถูกเขารังแกก็ยังมิอาจทวงคืนความยุติธรรมได้

เขางงพูดไม่ออก

ต่อไปเขาได้แต่ยอมรับเงียบๆ หรือว่าจะฉีกศัตรูกลืนกินลงท้องดี?

อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางไม่เคยยอมรับว่าเป็นผู้นั้น

เขาไม่ใช่คนที่ถูกกลั่นแกล้งแล้วเงียบเฉยแน่นอน

ยืนหยัดสู้จนตายดีกว่าคุกเข่าเพื่อให้มีชีวิตอยู่

สู้

ต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยว

นี่คือคุณชายสามตระกูลเย่ว์ผู้มีชื่อเสียงแห่งหอทงเทียน

เย่ว์หยางค่อยๆ ดึงดาบจันทร์เสี้ยวมาถือไว้ในมือ สูดหายใจลึก และผ่อนลมหายใจระบายความรู้สึกแง่ลบในใจออก

ปลายดาบชี้ตรงมาที่จักรพรรดิทองผู้ยืนอยู่ตรงหน้ามั่นคงไม่หวั่นไหวและท้าทาย  “เข้ามา!  จักรพรรดิทองแห่งเผ่ากาทองสามขา หุบเขาสุริยันต์  หากเจ้ารู้สึกว่าการรังแกคนรุ่นหลังสามารถสนองตอบอารมณ์และทดแทนบุญคุณของตัวเจ้าได้ ก็เข้ามา  ข้าผู้เป็นจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่แห่งหอทงเทียนขอบอกเจ้าไว้ก่อน  ข้าคือศิษย์ของนางพญาผู้พิชิต และขอบอกเจ้าข้าคือเจ้าของในอนาคตของดินแดนล่มสลายแห่งทวยเทพจะบอกเจ้าเองว่าอะไรถูกอะไรผิด!  สิ่งที่เจ้ายืนยัน เป็นเพียงข้ออ้างไร้สาระที่เจ้าสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความคิดที่บิดเบือนของเจ้า  อย่ามัวดื่มด่ำหลงระเริงกับคำพูดและการกระทำของเจ้าเพียงเพราะเจ้าคิดว่าตนเองเป็นผู้อาวุโส  ในโลกนี้ข้อแก้ตัวที่ไร้สาระ เป็นเรื่องน่าตลกเสมอไม่สามารถให้คนอื่นรับรู้และโน้มน้าวใจได้”

 “ข้ารู้แต่เพียงว่าเทพเท่านั้นที่พูดจริง”  จักรพรรดิทองเงยหน้าและระเบิดพลังเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์กาทอง ทำให้ให้มังกรสองหัวและคนอื่นต้องถอยออกไปทันที  รัศมีจากร่างของเขาทรงพลังยิ่งกว่าดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าเป็นพันเท่า

จักรพรรดิทองใช้พลังเทพจ้องมองมาทางเย่ว์หยาง

เขายื่นมือออกและฉายรังสีสุริยันต์

เขาชี้มาทางเย่ว์หยาง  “หนุ่มน้อย ข้าจะบอกความจริงกับเจ้า  ข้าเป็นนักสู้ระดับเทพแท้  ดังนั้นสิ่งที่ข้าพูด ไม่ว่าเจ้าจะคิดว่าถูกหรือผิดนั้นไม่สำคัญ  เพราะมันคือสัจธรรมความจริงชนิดหนึ่งที่เป็นของข้า อยู่กับข้าซึ่งมีพื้นฐานเป็นเทพและพลังเทพของข้าไม่ตาย และไม่ถูกทำลาย หนุ่มน้อย เจ้าได้ยินชัดเจนแล้วใช่ไหม?”

ภายใต้แสงเจิดจ้าของพลังเทพจักรพรรดิทอง เย่ว์หยางไม่สามารถเผชิญหน้าเขาโดยตรงได้

เขายกมือป้องดวงตาของเขา

แม้ว่าเขาจะมีจักษุญาณทิพย์

แต่เขาไม่สามารถลืมตาในท่ามกลางแสงเจิดจ้านี้

นี่คือพลังเทพของจักรพรรดิทองที่เกิดจากประกายเทพของจักรพรรดิทองรวมทั้งพลังเจตจำนง

 “ถ้าเจ้าได้ยินชัดเจน ก็จงตายอย่างวางใจได้!  เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะรอดชีวิตจากเจตจำนงของข้าในโลกนี้ได้  เพราะเจ้าไม่ใช่เทพ และเจ้าไม่ใช่เทพแท้ที่มีประกายเทพและพลังกฎสวรรค์!  เสียงของจักรพรรดิทองเหมือนกับสายฟ้าไกลๆ เมื่อเขาพูดจบ เขาชูมือฉายลำแสงที่สว่างรุนแรงกว่าดวงอาทิตย์พันเท่าและหมื่นเท่าทันที

ทุกสิ่งอย่างที่อยู่ข้างหน้าเขา ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ทำลายไม่ได้ของแท่นบูชายัญ มิติบันไดสวรรค์ที่มีผนึกป้องกันถูกทำลายทันที

สูญสลายหายไป

จักรพรรดิทองที่อยู่ข้างหน้าคือเทพแท้

สิ่งมีชีวิตใดๆ ที่ละเมิดเจตจำนงของเขาจะหายไปและตายไปตลอดกาลทันที

*** *** ***

9 ความคิดเห็น:

oBABYVOXo กล่าวว่า...

ไม่ตายหรอก พระเอกนี่นา แต่จะสู้ยังไงนี่สิ งานหยาบเลย

Neko กล่าวว่า...

ค้างมากกกดก

Lazykuma กล่าวว่า...

อย่าลืมนะเด็กๆของเฮียเย่ก็ระดับเทพแล้วเหมือนกัน

Pcha กล่าวว่า...

จบละพระเอกตาย

CHANTANA กล่าวว่า...

อวสานแล้วแยกยาย
😄😄😄😄😄😄😨😨😨

Deils(of)darK กล่าวว่า...

ต้องปูบทให้โหดๆจะได้เปิดตัวเจือจุนได้ยังไงละ

โอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่าโอ้ววววร่า กล่าวว่า...

ข้าคือเทพเพราะงั้นข้าไม่ผิด หน้าตบให้หน้าหันมาก

นัดบ้า กล่าวว่า...

นกแฝดโผล่มาก็วงแตกแล้วมั้ง

12ed กล่าวว่า...

รอดูว่าเทพทองจะโดนฆ่าหรือกลับมาเป็นพวกถ้าเป็นไปได้อยากให้โดนฆ่ามาก

แสดงความคิดเห็น