ตอนที่ 1259 จักรพรรดิทอง
แท่นบูชายัญ หุบเขาแม่น้ำขาว บันไดสวรรค์ชั้นห้า
เมื่อเย่ว์หยางเสนอต่อสู้เดิมพัน ไม่ว่าจะเป็นเผ่าปีศาจทมิฬ เผ่ามังกรฟ้าหรือเผ่าเก้าหัว ไม่มีใครตอบสนองทันที คนขึ้นเวทีก่อนไม่ได้หมายความว่าจะเป็นผู้สามารถกินปูได้คนแรก ตรงกันข้าม คนแรกมักถูกกำจัดก่อนกลายเป็นหินรองเท้าให้คนอื่นก้าวข้าม จะยิงนกก็ต้องยิงตัวที่โผล่หัวออกมาไม่ว่าหอทงเทียนและแดนสวรรค์ก็เข้าใจความจริงข้อนี้
ขณะที่หลายคนทำเป็นเงยหน้ามองฟ้าทำเป็นไม่ได้ยินเย่ว์หยาง มีคนผู้หนึ่งก้าวขึ้นเวที
เขาขึ้นไปนั่งบนแท่นบูชายัญ
เงียบไม่พูดอะไร
ไม่สำคัญว่าใครจะรู้จักเขาหรือไม่ ทุกคนไม่คิดว่าคนผู้นี้ควรต่อสู้เพื่อลิ้มรสผลแห่งชัยชนะเป็นคนแรก
ทำไม?
คำถามนี้อย่าว่าแต่พวกเขาเลย แม้แต่คนที่เตรียมตัวไว้ดีอย่างเย่ว์หยางและบัณฑิตวัยกลางคนก็งงเช่นกัน
คนที่เป็นไปได้น้อยที่สุดที่สมควรลงมือต่อสู้ กลับอาสาออกมาเป็นคนแรก
และเป็นฝ่ายเริ่มสู้กับเย่ว์หยาง
ทำไมกัน?
ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นทั้งหมดมองดูเขา
คนผู้นี้ดูแข็งแกร่งมาก และดูไม่เหมือนว่าสมองตาย
ลักษณะของเขาแข็งแกร่งรูปหน้าเหมือนรูปแกะสลักผมสั้นลู่เอนต้านลมเหมือนเข็ม รูปหน้าของเขาเป็นแนวเส้นชัดเจนราวกับสลักขึ้นด้วยมีดหรือสิ่ว ราศีของบุรุษผู้ถ้าย้อนเวลากลับไปช่วงที่เป็นหนุ่มอาจทำให้สาวๆ ที่เห็นใจเต้นรัว ใบหน้าของเขามีความเป็นผู้ใหญ่ ดวงตาเด็ดเดี่ยว และร่างของเขายืนเด่นราวกับป้อมปราการที่แข็งแกร่งทรงพลังน่าเกรงขาม
เมื่อเห็นบุรุษผู้สง่างามมีพลังสามารถกลืนโลกและสวรรค์ได้ ก้าวเดินทีละก้าวๆ มังกรสองหัวรู้สึกอึดอัดทรมานอย่างช่วยไม่ได้
ราชินีเหม่ยเยี่ยนผู้มีเปลวไฟคลุมทั้งร่างมองดูด้วยความสั่นกลัว นางเค้นเสียงออกมาจากลำคออย่างช่วยไม่ได้
“ท่านคือจักรพรรดิทอง ท่านคือเจ้านายใหญ่แห่งเผ่ากาทองสามขา หุบเขาสุริยันต์”
จักรพรรดิทอง!
ทันทีที่ชื่อนี้ถูกระบุ บรรยากาศผู้อยู่ในเหตุการณ์เปลี่ยนเป็นหนักอึ้งหลายเท่าทันที
แม้ว่าพวกมังกรสองหัวจะคาดเดาได้ถูกต้อง แต่เขาไม่ต้องการระบุชื่อออกมาได้ง่ายๆ เพราะนั่นเป็นชื่อที่ทรงพลังน่าเกรงขามอย่างยิ่ง ตอนนี้ราชินีเหม่ยเยี่ยนพูดออกมาโดยไม่ตั้งใจ ทุกคนที่ได้ยินอดใจสั่นสะท้านไม่ได้
มังกรสองหัวตอนนี้ยังไม่ค่อยเข้าใจชัดนักว่าทำไมผู้แข็งแกร่งอย่างจักรพรรดิทองถึงไม่รอให้จบการต่อสู้และเหตุการณ์นิ่งเสียก่อน? เขาไม่จำเป็นต้องลงมือเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าข้อพิพาททั้งหมดได้รับการตัดสินทุกคนล้วนยินยอมแบ่งส่วนแบ่งให้กับเผ่ากาทองสามขาอยู่แล้ว
ไม่ว่าจะเป็นแดนสวรรค์หรือหอทงเทียน ไม่มีใครกล้าทำเช่นนั้น
เชื่อได้ว่าแม้กระทั่งเจ้าตำหนักสูงสุดยอดนักสู้อันดับหนึ่งผู้แข็งแกร่งที่สุดในแดนสวรรค์ก็คงลังเลที่จะมีสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับจักรพรรดิทองแห่งเผ่ากาทองสามขา
จักรพรรดิทองสามารถกำชัยชนะสุดท้ายได้โดยไม่ต้องลงมือ ทำไมเขาต้องอาสาสู้กับเย่ว์ไตตันผู้นั้นก่อน? เขาไม่จำเป็นต้องทำสิ่งนี้เลยแม้แต่น้อย! ด้วยตัวตนและสถานะของเขา ด้วยพละกำลังของเขา เขาสามารถมอบหมายยอดฝีมือในตระกูลมาแทน เขาเพียงแต่รอชัยชนะสุดท้ายที่สมควรได้ แต่นี่เขากลับอาสาด้วยตนเองเพื่อต่อสู้ตั้งแต่รอบแรกเลยทีเดียว หมายความว่าจักรพรรดิทองมีความเป็นศัตรูหรือหนี้เลือดกับหอทงเทียนที่ไม่มีใครรู้?
เย่ว์หยางเองก็ยังคงงงอยู่มาก
เจ้านายใหญ่ควรอยู่ในอาณาเขตตนเองรอให้ทุกคนลงมือไปก่อนไม่ใช่หรือ
ทำไมเขาถึงวิ่งเข้าหามือใหม่? นอกจากนี้ดูเหมือนเป็นผู้เล่นที่มีความคิดเป็นของตนเอง? มีเหตุผลพิเศษอะไรหรือเปล่า?
“นี่เรารู้จักกันหรือเปล่า?” เย่ว์หยางตัดสินใจถามตรงๆ
“ไม่รู้” จักรพรรดิทองปฏิเสธ
“อย่างนั้นข้าเคยวางเพลิงเผาบ้านเจ้า พังประตูบ้านเจ้าจนต้องเปลี่ยนใหม่หรือเปล่า?” เย่ว์หยางลูบหลังหัวเหมือนกับว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิดมาก่อน
“ไม่” จักรพรรดิทองส่ายหน้า
“อย่างนั้นหน้าของข้ากวนโมโหหรือเปล่า?” เย่ว์หยางหดหู่ใจ ใบหน้าของเขาดึงดูดความเกลียดชังของผู้คนหรือเปล่า?
“ข้าดูไม่ออกเหมือนกัน” จักรพรรดิทองบอกว่าไม่ใช่เหตุผลนี้
“อย่างนั้นท่านรีบออกมาสู้กับข้าด้วยเหตุผลอะไร? ใบหน้าของข้าก็ไม่ได้ยั่วยวนกวนโมโหท่านสักหน่อย ท่านดูดีมีราศี ท่านไม่ควรรังแกผู้น้อยกว่า นั่นไม่ใช่การกระทำของผู้เจริญเลย!” เย่ว์หยางกังวล เขาแสดงสีหน้าทำนองว่า ‘ถ้าเจ้ากล้ารังแกข้า ข้าจะร้องไห้จริง’
“ข้าขอโทษ” จักรพรรดิทองขอโทษเย่ว์หยางด้วยความรู้สึกจริงใจ “ที่จริงแล้วข้าไม่มีเรื่องอะไรเกี่ยวข้องกับเจ้า แต่เป็นเพราะข้าเป็นหนี้บุญคุณใหญ่ของคนบางคน ข้าจึงต้องลงมืออย่างช่วยไม่ได้”
“ท่านเป็นหนี้บุญคุณ ก็ไม่ควรมาทุบตีข้าเพื่อทดแทนบุญคุณ!” เย่ว์หยางรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมเกินไป
“แม้ว่าต้องลงมือกับเจ้าบ้าง แต่ข้าคาดว่าการทดแทนคุณครั้งนี้ก็แทบทำอะไรเจ้าไม่ได้” จักรพรรดิทองตอบตามตรง
“ยังมีบุญคุณอื่นๆ อีก ข้าช่วยลูกท่าน สะใภ้ท่านและหลานของท่านไว้! แล้วนี่จะนับได้อย่างไร?” เย่ว์หยางจำองค์ชายแปดอูไห่ได้ทันทีว่าดูเหมือนจะเป็นบุตรของผู้อาวุโสท่านนี้ เริ่มแรกเขาช่วยไข่ที่เป็นลูกขององค์ชายอูไห่และสนมกระเรียนมงกุฏ ส่วนเป่าเอ๋อช่วยไข่แฝดอีกใบไว้ได้ แม้ว่าการทำดีนี้จะเป็นเรื่องที่ได้เปรียบ แต่เย่ว์หยางยังไม่ถึงกับเป็นเยาวชนตัวอย่างที่ทำดีโดยไม่ต้องการผลตอบแทน ตอนนี้เป็นวิกฤตของหอทงเทียนว่าจะอยู่รอดได้หรือไม่ ถ้าเขาสามารถอ้างเอาบุญคุณได้ อย่างนั้นก็ต้องพูด ต่อให้ต้องทำหน้าด้านเข้าไว้ก็ไม่เป็นไร!
“ข้าเคยได้ยินเรื่องนี้ และข้าก็รู้สึกซาบซึ้งขอบคุณในการช่วยเหลือของเจ้า ลูกดื้อที่ไม่เชื่อฟังสมควรตาย แต่หลานน้อยผู้น่ารัก ถ้าไม่ได้เจ้าช่วยไว้ บางทีอาจกลายเป็นอาหาร หรือกลายเป็นอสูรศึกที่ถูกทหารรับจ้างชั้นต่ำกดขี่ข่มเหง” จักรพรรดิทองพยักหน้ายืนยันว่าสิ่งที่เย่ว์หยางทำนั้นเป็นความดี
มังกรสองหัวเมื่อได้ยินรู้สึกไม่ชอบใจ เขาหันไปมองบัณฑิตวัยกลางคนทันที
ตอนนี้ดูเหมือนลมเปลี่ยนทิศหรือเปล่า?
จักรพรรดิทองผู้นี้เป็นคนเมตตารู้คุณคนยิ่งนัก เขาถูกเชิญมาให้พิชิตหอทงเทียน แต่ลูกหลานของเขากลับประทับใจเย่ว์ไตตันลึกซึ้ง และเขาไม่เคยรายงานเลยว่าเขาเป็นคนแรกที่อาสาก่อนใคร หรือว่าเขาต้องการจะคืนดีกับเย่ว์ไตตันผู้นี้ หากเป็นเช่นนี้จริง นับว่าน่าเสียดาย จักรพรรดิทองเป็นผู้ช่วยสำคัญของแดนสวรรค์ เมื่อมีเขาอยู่ด้วยยิ่งมีโอกาสชนะถึงเจ็ดส่วน
ในทางกลับกันถ้าจักรพรรดิทองชอบเย่ว์ไตตัน จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก
เขาควรจะทำประการใด?
ทุกคนให้ความสนใจบัณฑิตวัยกลางคนอีกครั้ง
พวกเขาหวังว่าด้วยชื่อเสียงนักยุทธศาสตร์อันดับหนึ่งของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ เขาจะพูดเหมือนกับที่ส่งข้อความให้ทุกคน และให้ความมั่นใจกับทุกคนได้
บุรุษวัยกลางคนไม่พูด หน้าของเขายังคงยิ้มราวกับว่าไม่ได้ยินการสนทนาระหว่างเย่ว์หยางกับจักรพรรดิทอง ความมั่นใจในตนเองที่คาดคิดไม่ถึงของเขาทำให้มังกรสองหัวตะลึงมากยิ่งขึ้น คนอย่างเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางยังสงบอยู่ได้ หรือว่าเขามีไม้ตายลับอย่างอื่นอีก?
“ข้าทำดีกับท่านและไม่ได้รุกรานยั่วยุท่าน ก็เหมือนคนกันเองอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่เปลี่ยนจากศัตรูเป็นมิตรเล่า?” เย่ว์หยางสรุป
“เป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนจากศัตรูกลายเป็นสหาย” จักรพรรดิทองส่ายหน้าช้าๆ “ถ้าเราผู้เฒ่าฆ่าเจ้า อย่างนั้นเจ้าก็ให้ลูกหลานมาล้างแค้นข้าเมื่อพวกเขาเติบโต เพื่อทวงบุญคุณความแค้นที่ได้รับการช่วยเหลือตอนนั้น”
“โธ่เว้ย!” เย่ว์หยางโมโหจนอยากอาเจียนเป็นเลือด
คุณชายผู้นี้จะฆ่าผู้อาวุโสอย่างท่าน ก็ต้องให้หลานตัวเองหาทางล้างแค้นเหมือน ข้าไม่ต้องให้เจ้าคิดแทนก็ได้
มังกรสองหัวและพวกฟังคำพูดของจักรพรรดิทองก็อดหัวเราะไม่ได้ ในเวลาเดียวกันพวกเขามีความมั่นใจมากขึ้นเป็นร้อยเท่าในแผนกลยุทธ์ของบัณฑิตวัยกลางคนสมกับเป็นคนที่ฉลาดที่สุดจากตำหนักกลาง ถ้าเป็นเขาทำ อย่างนั้นต้องแน่ใจว่าไม่มีช่องว่าง! ไม่ว่าเย่ว์ไตตันจะมีพลังยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ตาม แต่สำหรับเผ่ากาทองสามขา ดูเหมือนว่าหัวใจของจักรพรรดิทองจะไม่เปลี่ยนใจ มีจักรพรรดิทองเป็นศัตรูที่ทรงพลัง เย่ว์ไตตันนี้แม้มีความสามารถต้านสวรรค์ก็ไม่มีทางต่อต้านจักรพรรดิทองได้ เขาต้องตายแน่นอน
เย่ว์หยางไม่เคยเป็นฝ่ายถูกรังแกมาก่อนในชีวิต เขามักเป็นฝ่ายรังแกคนอื่นอยู่เสมอ ทุกวันนี้คนที่ถูกเขารังแกก็ยังมิอาจทวงคืนความยุติธรรมได้
เขางงพูดไม่ออก
ต่อไปเขาได้แต่ยอมรับเงียบๆ หรือว่าจะฉีกศัตรูกลืนกินลงท้องดี?
อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางไม่เคยยอมรับว่าเป็นผู้นั้น
เขาไม่ใช่คนที่ถูกกลั่นแกล้งแล้วเงียบเฉยแน่นอน
ยืนหยัดสู้จนตายดีกว่าคุกเข่าเพื่อให้มีชีวิตอยู่
สู้
ต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยว
นี่คือคุณชายสามตระกูลเย่ว์ผู้มีชื่อเสียงแห่งหอทงเทียน
เย่ว์หยางค่อยๆ ดึงดาบจันทร์เสี้ยวมาถือไว้ในมือ สูดหายใจลึก และผ่อนลมหายใจระบายความรู้สึกแง่ลบในใจออก
ปลายดาบชี้ตรงมาที่จักรพรรดิทองผู้ยืนอยู่ตรงหน้ามั่นคงไม่หวั่นไหวและท้าทาย “เข้ามา! จักรพรรดิทองแห่งเผ่ากาทองสามขา หุบเขาสุริยันต์ หากเจ้ารู้สึกว่าการรังแกคนรุ่นหลังสามารถสนองตอบอารมณ์และทดแทนบุญคุณของตัวเจ้าได้ ก็เข้ามา ข้าผู้เป็นจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่แห่งหอทงเทียนขอบอกเจ้าไว้ก่อน ข้าคือศิษย์ของนางพญาผู้พิชิต และขอบอกเจ้าข้าคือเจ้าของในอนาคตของดินแดนล่มสลายแห่งทวยเทพจะบอกเจ้าเองว่าอะไรถูกอะไรผิด! สิ่งที่เจ้ายืนยัน เป็นเพียงข้ออ้างไร้สาระที่เจ้าสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความคิดที่บิดเบือนของเจ้า อย่ามัวดื่มด่ำหลงระเริงกับคำพูดและการกระทำของเจ้าเพียงเพราะเจ้าคิดว่าตนเองเป็นผู้อาวุโส ในโลกนี้ข้อแก้ตัวที่ไร้สาระ เป็นเรื่องน่าตลกเสมอไม่สามารถให้คนอื่นรับรู้และโน้มน้าวใจได้”
“ข้ารู้แต่เพียงว่าเทพเท่านั้นที่พูดจริง” จักรพรรดิทองเงยหน้าและระเบิดพลังเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์กาทอง ทำให้ให้มังกรสองหัวและคนอื่นต้องถอยออกไปทันที รัศมีจากร่างของเขาทรงพลังยิ่งกว่าดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าเป็นพันเท่า
จักรพรรดิทองใช้พลังเทพจ้องมองมาทางเย่ว์หยาง
เขายื่นมือออกและฉายรังสีสุริยันต์
เขาชี้มาทางเย่ว์หยาง “หนุ่มน้อย ข้าจะบอกความจริงกับเจ้า ข้าเป็นนักสู้ระดับเทพแท้ ดังนั้นสิ่งที่ข้าพูด ไม่ว่าเจ้าจะคิดว่าถูกหรือผิดนั้นไม่สำคัญ เพราะมันคือสัจธรรมความจริงชนิดหนึ่งที่เป็นของข้า อยู่กับข้าซึ่งมีพื้นฐานเป็นเทพและพลังเทพของข้าไม่ตาย และไม่ถูกทำลาย หนุ่มน้อย เจ้าได้ยินชัดเจนแล้วใช่ไหม?”
ภายใต้แสงเจิดจ้าของพลังเทพจักรพรรดิทอง เย่ว์หยางไม่สามารถเผชิญหน้าเขาโดยตรงได้
เขายกมือป้องดวงตาของเขา
แม้ว่าเขาจะมีจักษุญาณทิพย์
แต่เขาไม่สามารถลืมตาในท่ามกลางแสงเจิดจ้านี้
นี่คือพลังเทพของจักรพรรดิทองที่เกิดจากประกายเทพของจักรพรรดิทองรวมทั้งพลังเจตจำนง
“ถ้าเจ้าได้ยินชัดเจน ก็จงตายอย่างวางใจได้! เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะรอดชีวิตจากเจตจำนงของข้าในโลกนี้ได้ เพราะเจ้าไม่ใช่เทพ และเจ้าไม่ใช่เทพแท้ที่มีประกายเทพและพลังกฎสวรรค์!” เสียงของจักรพรรดิทองเหมือนกับสายฟ้าไกลๆ เมื่อเขาพูดจบ เขาชูมือฉายลำแสงที่สว่างรุนแรงกว่าดวงอาทิตย์พันเท่าและหมื่นเท่าทันที
ทุกสิ่งอย่างที่อยู่ข้างหน้าเขา ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ทำลายไม่ได้ของแท่นบูชายัญ มิติบันไดสวรรค์ที่มีผนึกป้องกันถูกทำลายทันที
สูญสลายหายไป
จักรพรรดิทองที่อยู่ข้างหน้าคือเทพแท้
สิ่งมีชีวิตใดๆ ที่ละเมิดเจตจำนงของเขาจะหายไปและตายไปตลอดกาลทันที
*** *** ***
9 ความคิดเห็น:
ไม่ตายหรอก พระเอกนี่นา แต่จะสู้ยังไงนี่สิ งานหยาบเลย
ค้างมากกกดก
อย่าลืมนะเด็กๆของเฮียเย่ก็ระดับเทพแล้วเหมือนกัน
จบละพระเอกตาย
อวสานแล้วแยกยาย
😄😄😄😄😄😄😨😨😨
ต้องปูบทให้โหดๆจะได้เปิดตัวเจือจุนได้ยังไงละ
ข้าคือเทพเพราะงั้นข้าไม่ผิด หน้าตบให้หน้าหันมาก
นกแฝดโผล่มาก็วงแตกแล้วมั้ง
รอดูว่าเทพทองจะโดนฆ่าหรือกลับมาเป็นพวกถ้าเป็นไปได้อยากให้โดนฆ่ามาก
แสดงความคิดเห็น