ตอนที่ 1261 จักรพรรดินีราตรี
“อย่างไรก็ตามแท่นบูชายัญแห่งนี้ปกป้องโดยกฎสวรรค์โบราณ ทั้งที่แผ่นดินผืนฟ้าถูกทำลายไปแล้วก็ตาม” ปีศาจหมีดำและปีศาจหมูป่ายังคงมีข้อสงสัย แต่ความจริงที่อยู่ข้างหน้าพวกเขาโลกและมิติที่แตกสลายยังไม่ถูกปิด
“ไม่, ข้าคิดว่าเจ้าเด็กนั่นยังมีชีวิตอยู่จริงๆ” บุรุษหนุ่มผู้ดื้อรั้นยกหัวข้อนี้ขึ้นพูด
“เจ้าลองบ่งบอกเหตุผลของเจ้าก่อน” ปีศาจเก้าหัวมองดูเขาอย่างแปลกประหลาด
“ข้าเห็นไม่ชัดเจน แต่ข้ามีสัญชาตญาณรู้สึกว่าเย่ว์ไตตันยังไม่ตายแน่ แต่ซ่อนตัวอยู่ที่นั่น เจ้าเด็กนั่นไม่ใช่คนที่จะตายตั้งแต่อายุยังน้อย ถ้าไม่ฆ่าเขาให้ตาย ข้าจะไม่สบายใจ ถ้าข้าฆ่าได้ ข้าทำเองไปแล้ว ข้าไม่ชอบคนที่ดูดีกว่าข้า เจ้าเด็กนี่ไม่เพียงแต่หล่อกว่าข้าเท่านั้น แต่ยังฉลาดมากอีกด้วย สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเขาเป็นคนโชคดี ข้ารู้สึกอิจฉาแทบคลั่ง ในเมื่อเขาไม่ยอมออกมา ข้าก็ต้องหาทางเข้าไปสู้กับเขาให้ได้ ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถกำจัดความโกรธเกลียดในใจของข้าไปได้” คำพูดของบุรุษหนุ่มผู้ดื้อด้านไม่ได้รับการยอมรับจากมังกรสองหัว
สัญชาตญาณ?
มนุษย์อย่างนี้มีสัญชาตญาณด้วยหรือ?
ถ้าความรู้สึกสัญชาตญาณของผู้นี้มีประโยชน์ โลกนี้จะมีสตรีไว้เพื่ออะไร?
เรื่องที่เจ้าเด็กนี่พูดเป็นเรื่องตลก เกี่ยวอะไรกับความเป็นความตาย? คนมีอายุยืนถึงจะดูหล่อหรือ? ยิ่งมีอายุสั้นก็ยิ่งน่าเกลียด? ไร้เหตุผลสิ้นดี! ถ้าพูดกันอย่างนี้เด็กเผ่าปีศาจอย่างเจ้าก็ควรตายไปนานแล้ว ไม่ควรมีชีวิตมายืนอยู่ต่อหน้าได้!
ปีศาจเก้าหัวฟังและยิ้มโดยไม่ได้แสดงอาการยอมรับหรือปฏิเสธ
“เด็กน้อยนี่พูดเรื่องไร้สาระ สัญชาตญาณไม่ได้บอกเจ้าใช่ไหมว่าตอนนี้เจ้ากำลังตกอยู่ในความยุ่งยาก?” นักสู้ราชาเผ่ามังกรฟ้าเตรียมพร้อมลงมืออยู่นานแล้ว เขาเยาะเย้ยศัตรูตรงหน้าอย่างไม่เกรงใจและเตรียมลงมืออย่างโหดเหี้ยมอำมหิต
“ข้าไม่มีหายนะใดๆ เลย แต่ตัวเจ้า ข้ากล้าพูดว่าเจ้าไม่มีทางรอดพ้นวันนี้ไปได้แน่นอน” บุรุษหนุ่มดื้อรั้นเชิดหน้าขึ้นโดยไม่รู้สึกกลัว
“หาที่ตาย!” นักสู้ระดับราชาเผ่ามังกรฟ้ายกมือขวาเตรียมใช้ไม้ตายฆ่าเด็กหนุ่มเผ่าปีศาจทันที
“รอเดี๋ยว”
เสียงดังขึ้นมาจากท้องฟ้า
เสียงไพเราะราวกับน้ำใสไหลเย็นในป่าให้ความชุ่มชื่นหัวใจ
เสียงไพเราะจับจิตใจแม้แต่คนอารมณ์ร้ายที่สุดในโลกเมื่อได้ยินเสียงหวานนุ่ม อารมณ์โกรธก็คลายหายไปทันที
พวกเขาไม่สามารถเห็นเงาร่างได้ เห็นแต่ดวงดาวประกายแสง
ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งชั้นแนวหน้าอย่างมังกรสองหัว แค่มองเห็นได้แต่เงาลางๆ ในท่ามกลางดวงดาวนับไม่ถ้วน แต่เขาไม่สามารถมองเห็นลักษณะที่แท้จริงได้เลย ไม่ต้องพูดถึงตำแหน่งที่อยู่ของบุคคลที่เพิ่งมาถึง จากทางตอนกลางของแท่นบูชายัญที่แยกออกช้าๆ แสดงจากดวงดาวเปล่งประกายระยิบระยับ ในไม่ช้าก็เปลี่ยนภาพที่เห็นให้กลายเป็นท้องฟ้าที่งดงามเหมือนฝัน
“ในฐานะเจ้าบ้านคนหนึ่ง ข้ามักคร้านจะเข้าไปยุ่งกับกิจกรรมของคนต่างถิ่น ที่สำคัญหลังจากบุรุษรับหน้าที่ดูแลอย่างเป็นทางการ สตรีตัวเล็กๆ อย่างข้าไม่เหมาะจะเข้ามาดูแลเรื่องที่ไม่เหมาะสมเหล่านี้ นอกจากนี้บุคลิกของข้าก็สบายๆ ไม่ค่อยกระตือรือร้นเรื่องการต่อสู้ ข้ามักจะเป็นฝ่ายยอมถอยก้าวหนึ่งเสมอแม้จะถูกรังแกกลั่นแกล้งจนแทบทนไม่ได้ แต่วันนี้คุณชายเย่ว์ไม่ได้อยู่ที่นี่ ข้าต้องออกมาทักทายอาคันตุกะแทน” เสียงสตรีไพเราะเหมือนเสียงกระซิบใกล้หู ชั่วขณะแรกที่ได้ยินราวกับอยู่นอกท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวลึกลับ
“เฮอะ! ไม่ต้องแกล้งทำเป็นภูตผีที่นี่เลย ไสหัวออกมาให้เราเห็นเดี๋ยวนี้!” คนเดียวในกลุ่มที่รู้สึกไม่สบายใจคือราชินีเหม่ยเยี่ยน ว่านกูซูผู้ทรงเสน่ห์ที่ซ่อนร่างอยู่ในเปลวไฟ
เหตุผลของความเกลียดของนางเพราะคล้ายๆ กับผู้ชายหล่อๆ ก็คือสตรีงามทุกคนคือศัตรูของนาง
ไม่ว่าจะเป็นสาวใหญ่หรือสาวน้อย ตราบเท่าที่เป็นสาวสวย อย่างนั้นก็เป็นศัตรูของนาง
นอกจากนั้นจะต้องพบจุดจบกับความตาย
ราชินีว่านกูซูโกรธนางโบกมือไปไปที่ทะเลดวงดาวและพ่นไฟมังกรกระจายไปทุกที่
แม้ว่านางจะไม่สามารถฆ่าฝ่ายตรงข้ามได้ทันที แต่ก็ต้องแผดเผาฝ่ายตรงข้ามให้มอดไหม้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ถ้านางสามารถเผาฝ่ายตรงข้ามได้ นั่นจะยิ่งดี
แต่น่าเสียดายที่ไฟมังกรไฟที่เผาทุกอย่างในโลกได้ กลับจมหายไปในทะเลดวงดาวอย่างไร้ร่องรอย
ราชินีว่านกูซูผู้อำมหิตทำให้มังกรสองหัวถึงกับขมวดคิ้ว
แต่เขาไม่ห้าม
ปล่อยให้สหายผู้หุนหันพลันแล่นพิสูจน์พลังฝีมือคู่ต่อสู้โดยตรง
อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ของการหยั่งตรวจสอบทำให้เขาขมวดคิ้วมากขึ้น พลังไฟมังกรที่สามารถเผาผลาญทุกอย่างได้กลับไม่ส่งผลแต่อย่างใด แต่ถูกกลืนหายไปราวกับว่าไม่มีอยู่ มันระเหยหายไป หรืออาจจะถูกดูดซับหายไปโดยอธิบายไม่ได้ มังกรสองหัวพบว่าตนเองมีนัยน์ตาที่คมกล้าแต่กลับมองไม่เห็นลักษณะของอีกฝ่ายได้ชัดเจน
น่างุนงงสับสน!
หอทงเทียนไปได้นักสู้แข็งแกร่งมาจากไหน?
หอทงเทียนยังมียอดฝีมือที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเย่ว์ไตตันอีกหรือ?
สตรีผู้นี้เป็นใครกันแน่? นางคือจื้อจุนที่ตงฟางเคยพูดถึงหรือไม่? แต่ไม่ถูกต้อง ความสามารถของจื้อจุนชาวมนุษย์ตามที่ได้รับรายงานจากข่าวกรองนั้นเป็นนักรบระยะประชิดเด่นในด้านการใช้ดาบกระบี่ แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากสตรีที่ปรากฏบนท้องฟ้า...
แต่จื้อจุนชาวมนุษย์ไม่มีเหตุผลใดว่าน่าจะทรงพลังเลย
นางเป็นใคร?
“เราเผ่าเก้าหัวได้รับคำเชิญของตงฟางมาจากแดนสวรรค์ ก่อนหน้านี้ ข้าได้เดิมพันกับเย่ว์ไตตันไว้ เพียงแต่ระหว่างนั้นจักรพรรดิทองเข้ามาแทรกแซงในระหว่างนั้น และไม่ทราบว่าเย่ว์ไตตันไปที่ใด ไม่อย่างนั้นสิ่งที่เข้าในผิดจะต้องอธิบายให้ชัดเจน” อสูรเก้าหัวค่อนข้างมารยาทดี เขาคำนับไปทางกลุ่มดวงดาวเล็กน้อย
“ในเมื่อเจ้าพนันกับคุณชายเย่ว์ โปรดหลบไปรอจนกว่าเขาจะกลับมา” เสียงไพเราะกังวานดังขึ้นอีกครั้ง “ตอนนี้ข้าขอทักทายอาคันตุกะที่ไม่ได้รับเชิญก่อน”
“กลับมา? คนที่ถูกพลังเทพฆ่าตายไปแล้วยังจะกลับมาได้อีกหรือ?” นักสู้ระดับราชาจากเผ่ามังกรฟ้าที่ยืนอยู่ข้างบุรุษหนุ่มดื้อด้านหัวเราะ
“ถ้าเขาสามารถกลับมาได้ ข้าจะกินจมูกตัวเองและใช้มือเดินต่างเท้า!” คนเผ่ามังกรฟ้าที่ยืนอยู่ข้างหลังหัวเราะ
“เจ้าก็แค่คิดด้วยก้น พล่ามด้วยปากกลับกลายเป็นขยะชิ้นหนึ่ง” บุรุษหนุ่มเผ่าปีศาจเยาะเย้ยอย่างไม่เกรงใจแม้ว่าเขาจะไม่ใช่สหายของเย่ว์หยางก็ตาม เขาไม่สนใจนักสู้ชั้นราชาผู้นี้ แต่มองไปทางศูนย์กลางกลุ่มดวงดาวและถามตรงๆ “เจ้าเป็นคนดีหรือคนเถื่อน?”
“ข้าน่ะหรือ? ไม่ใช่คนดี แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่คนเถื่อน!” เสียงกังวานไพเราะหัวเราะดังขึ้น
“ไม่เป็นไร!” บุรุษดื้อด้านทำหน้าเสียดาย
“ถ้าข้าเป็นคนดีเล่า?” เสียงไพเราะนั้นตั้งสมมติฐานแปลกประหลาด
“ข้าเกลียดคนดีที่สุด ถ้าเจ้าเป็นคนดี อย่างนั้นข้าจะทุบตีเจ้า ถ้าเจ้าเป็นบุรุษข้าจะกัดจมูกเจ้าและทำให้เจ้าเงยหน้าไม่ได้ตลอดชีวิต!” นับว่าเป็นบุรุษหนุ่มผู้ดื้อด้านจริงๆ
“โชคดีที่ข้าไม่ใช่คนดี... แล้วคนป่าเถื่อนเล่า?” เสียงไพเราะจากกลุ่มดวงดาวดังถามเหตุผลอีก
“ข้าชอบคนป่าเถื่อนที่สุด แม้ว่าเจ้าจะเป็นสตรี แต่ถ้าเจ้าเป็นคนป่าเถื่อนข้าจะต่อสู้กับทุกคนเพื่อเจ้า ข้าจะถลกหนังเลาะกระดูกกระชากเส้นเอ็นเจ้าพวกนั้นให้หมด แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยืนยันว่าเจ้าเป็นคนป่าเถื่อนในโลกนั้น อย่างนั้นข้าจะให้กำลังใจและเชียร์เจ้า!” บุรุษหัวดื้อเผ่าปีศาจส่ายหน้าด้วยความเสียใจและถอนหายใจ “น่าเสียดายเจ้าไม่ใช่คนป่าเถื่อน ไม่เช่นนั้นข้าสามารถช่วยเจ้าได้! หรือว่าเจ้าจะเริ่มทำตัวป่าเถื่อนก็ได้ ข้าจะได้มีแรงบันดาลใจและเหตุผลเพียงพอช่วยเจ้าสู้”
“ขอบคุณมาก และข้าเสียใจมาก ข้าคิดว่ากำลังเริ่มตัดสินใจเป็นเหมือนคนป่าเถื่อนตอนนี้ แต่ข้าขอคิดดูก่อน ถ้ามีวันหนึ่งข้าคิดเรื่องนี้และตัดสินใจเป็นคนป่าเถื่อน ข้าจะแจ้งให้เจ้าทราบอีกครั้ง!”
“เอาอย่างนั้นก็ได้!” บุรุษดื้อด้านยักไหล่อย่างผิดหวัง ฝ่ายตรงข้ามไม่ใช่คนป่าเถื่อน เขาไม่อาจช่วยได้ ดังนั้นเขาได้แต่ดูกลุ่มนักสู้จากเผ่ามังกรฟ้า
เขาสามารถโจมตีได้ก่อน
แต่น่าเสียดายที่คนอื่นเป็นเจ้าบ้าน เขาไม่ชอบจักรพรรดิทอง เข้าไม่ต้องการแทรกแซงโจมตีต่อหน้ายอดฝีมือ
ถ้าเป็นเช่นนั้น
จะเสียมารยาทเกินไป
เผ่าภูตบูรพานั้นโหดร้ายน่าสะพรึงกลัวมาก แต่ไม่สามารถเสียมารยาทได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นคนอื่นจะคิดว่าเผ่าภูตบูรพาไม่มีการศึกษาซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ของเผ่าพันธุ์
ราชินีว่านกูซูส่งสัญญาณ และแค่นเสียงเย็นชาอยู่หลายครั้ง “ตอนนี้ไม่ใช่เวลาสนทนา หากไม่รีบนำของขวัญชิ้นโตมาให้ก็เท่ากับเจ้าภาพลืมไปว่าเรายังมีอยู่! ซ่างหลง, ข่งหลง เจ้าทั้งสองคนเป็นราชาแห่งแดนสวรรค์ปกครองแดนสวรรค์บน ถ้าเทียบกับแดนสวรรค์ล่างเจ้าก็ระดับเดียวกับจักรพรรดิ เจ้ามาถึงบ้านนอกเล็กๆ อย่างหอทงเทียนผู้คนกลับไม่สนใจเจ้า เจ้ารู้สึกอายบ้างไหม? หากเจ้ายังรักเกียรติศักดิ์ศรีจงแสดงพลังที่แท้จริงของเจ้า แสดงให้สาวใหญ่เจ้าบ้านหอทงเทียนนี้ได้ประหลาดใจ!”
“เจ้าเล่า ดีแต่ใช้ปากพล่ามอย่างเดียวหรือไง? มันน่าแปลกหรือเปล่า?” บุรุษผู้ดื้อด้านต้องการสู้กับราชาแห่งเผ่ามังกรฟ้า ตราบเท่าที่เขามีเหตุผลลงมือต่อยตี ดังนั้นการแสดงออกของเขาจึงเต็มไปด้วยการยั่วยุหยิ่งยโส เขาแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะเป็นฝ่ายเริ่ม มังกรสองหัวกู่อั๋งส่ายหน้าให้สหายของเขาแสดงให้เห็นว่าสหายของเขาไม่ควรตอแยเจ้าเด็กปีศาจนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่มีสุดยอดฝีมือของหอทงเทียนอยู่ข้างหน้า อย่าเพิ่งลงมือก่อน
“พวกเขาจะไม่มีโอกาสได้แสดงออก เพราะพวกเขาจะตายในไม่ช้า!”
ในท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวสดใส เสียงที่ไพเราะกังวานไม่มีใดเทียบดังขึ้น “คุณชายเย่ว์ไม่อยู่ที่นั่น เรื่องทั้งหมดก็สุมลงที่ตัวข้า น่าโมโหจริงๆ ข้าเกลียดปัญหา! ไม่ต้องกังวล ข้าโกรธเร็วหายเร็ว ตราบเท่าที่ฆ่าคนสักหลายคน ความโกรธของข้าจะหายไปได้ในที่สุด”
คนที่ได้ยินได้ฟังตะลึง
พวกเขาได้ยินผิดหรือเปล่า?
นี่คือสิ่งที่สาวใหญ่พูดหรือ?
ต่อสู้และเข่นฆ่า นี่ดูเหมือนจะเป็นมารยาทสตรีหรือ?
บุรุษดื้อด้านที่ยืนอยู่ข้างหน้าตัวเหมือนเนินเขา นักสู้ระดับราชาเผ่ามังกรฟ้าที่ราชินีเหม่ยเยี่ยนเรียกว่าซ่างหลง จากนั้นหัวเราะลั่นจนน้ำตาไหลโดยมิอาจกลั้นไว้ได้ “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ข้าขำจะตายอยู่แล้ว มีคนโง่อยู่บนท้องฟ้าหรือ? ความสามารถพิเศษของพวกบ้านนอกนี่คือคุยโม้โอ้อวดใช่ไหม? คนมีพรสวรรค์อย่างเย่ว์ไตตันเคลื่อนไหวไปแล้ว ยังมีเด็กหญิงตัวเล็กๆ ออกมาโอ้อวดไม่รู้จักเจียมตน คนหอทงเทียนไม่รู้ตัวเองเลยหรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า ข้ายืนอยู่ตรงนี้แล้ว เจ้ามีความสามารถก็มาฆ่าข้าได้เลย ข้าต้องการดูว่าเจ้าจะฆ่าข้าได้อย่างไร สัญญาได้ว่าข้าจะไม่โต้ตอบ จะดูว่าเจ้าจะฆ่าข้าได้อย่างไร!”
“อย่างนั้นจงดูให้ดี!”
ข้างตัวซ่างหลงแห่งเผ่ามังกรฟ้าไม่ทราบว่ามีดวงดาวหลายสิบดวงตั้งแต่เมื่อใด
ดวงดาวมีขนาดเล็กแต่ฉายประกายสว่างไสว แต่ละดวงเหมือนถูกคนโยนลงมาดูยุ่งเหยิง แต่เมื่อมองอย่างระมัดระวัง เหมือนกับจะมีมือวิเศษที่มองไม่เห็นคอยปรับตำแหน่งอย่างเงียบงันจัดเรียงด้วยรูปแบบที่สวยงามและคาดเดาไม่ได้.... ซ่างหลงแห่งเผ่ามังกรฟ้าอยากจะหัวเราะเยาะเย้ย กลุ่มดาวเพียงแค่นี้น่ะหรือจะใช้ฆ่าเขา อย่างไรก็ตามเขาไม่มีเวลาเปล่งเสียงออกมาจากลำคอก็พบว่าร่างของเขาถูกแบ่งแยกเป็นส่วนๆ ด้วยพลังที่น่าทึ่ง ร่างของเขากระจายเป็นส่วนๆ นับพันๆ ชิ้นและถูกเหวี่ยงขึ้นในอากาศในสภาพไร้น้ำหนัก
ไม่เจ็บปวด
หรืออาจจะช้าเกินกว่าจะรู้สึกเจ็บปวด
ซ่างหลงพบว่าร่างของเขาถูกแยกส่วนและที่น่าประหลาดใจคือเขาไม่ได้หมดสติ เขามองเห็นกระบวนการกระจายตัวของชิ้นส่วนร่างกายของเขาอย่างชัดเจน เขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ และสิ่งใดทำให้เกิดพลังเช่นนี้ แต่เขารู้ว่านี่ไม่ใช่เป็นภาพลวงตา นี่เป็นความจริง.... ขณะที่ซ่างหลงแห่งเผ่ามังกรฟ้าตะโกนได้คำเดียว ‘ไม่’ เขาพบว่าชิ้นส่วนร่างกายของเขาถูกกลืนหายเข้าไปในในหลุมดำที่น่ากลัวซึ่งซ่อนอยู่ในท้องฟ้าที่ดารดาษไปด้วยดวงดาว
ไม่มีอะไรเหลือ
ยกเว้นศีรษะ ทุกส่วนร่างกายหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ทำไมต้องเหลือศีรษะของเขาไว้ด้วย? ซ่างหลงกำลังคิดถึงปัญหานี้... อย่างไรก็ตามวินาทีต่อมาเขาเริ่มเข้าใจ
เพราะยอดฝีมือของหอทงเทียนที่ยังคงอยู่ในทะเลดวงดาวต้องการเปลี่ยนศีรษะของเขาให้เป็นดาวตก! และพุ่งชนเป้าหมายที่กำลังใกล้เข้ามาด้วยความเร็วสูง เมื่อเข้าใกล้ เขาจึงพบว่าดวงดาวที่มีขนาดเล็กมากขยายขนาดใหญ่โตมหึมายิ่งขึ้น เป็นดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ไม่มีใดเทียบ
ศีรษะของเขาพุ่งเข้าไปหาดวงดาวนั้น เขารู้ผลได้โดยไม่ต้องคิด
“บึ้ม!”
ในพริบตาที่ชนปะทะ ซ่างหลงรู้สึกว่าวิญญาณของเขาแตกสลาย
จากนั้นเกิดการระเบิดใหญ่ และทุกสิ่งอย่างสูญสลายหายไปไม่เหลือ....
ในมุมมองของซ่างหลงนี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง แต่ในสายตาของคนเผ่ามังกรฟ้าอย่างมังกรสองหัวและราชินีว่านกูซู ซ่างหลงต้านทานได้ไม่ถึงเสี้ยววินาทีก็ถูกหลุมดำกลืนหายและศีรษะระเบิดกระจายเป็นผุยผง อย่าว่าแต่ช่วยเหลือ แค่มองยังไม่ทันได้กระพริบตา ซ่างหลงนักสู้ระดับราชาแห่งแดนสวรรค์บนก็ระเบิดกลายเป็นฝุ่นธุลีไปอย่างคาดไม่ถึง
แม้ว่าจะยังไม่รุนแรงเท่ากับพลังเทพที่น่ากลัวของจักรพรรดิทอง แต่นี่เป็นการสังหารทันที ไม่มีอะไรผิดพลาด!
อยู่ต่อหน้าหญิงงามผู้ซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มดารา และมีพลังสามารถฆ่านักสู้จากแดนสวรรค์ได้ทันทีด้วยหรือ? เป็นไปได้อย่างไรกัน?
“เป็นไปได้ยังไง?” ข่งหลงผู้เตรียมโจมตีพร้อมกับซ่างหลงหวาดกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ เขาร้องลั่นและหลบไปซ่อนตัวหลังมังกรสองหัว กลัวว่าจะก้าวตามรอยเท้าของสหาย และถูกสังหารทันที
“เจ้าชื่ออะไร?” มังกรสองหัวมีสีหน้าเปลี่ยนไป เขาพยายามสงบจิตใจที่กำลังเต้นอย่างบ้าคลั่งและกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก
“ข้าคือจักรพรรดินีราตรี แค่คนชื่อเสียงเล็กน้อยในหอทงเทียน คุณชายเย่ว์ไม่อยู่ที่นี่ จื้อจุนยังไม่กลับลงมา ดังนั้นข้าจึงเรียกพวกเจ้าทุกคนว่าอาคันตุกะ นี่เป็นแค่เสริฟอาหารจานเล็ก พลังหมื่นดวงดาว ถ้าพวกเจ้าไม่ถือสาข้ายังมีพลังดวงดาวเพิ่มอีกแสนเท่า สองแสนเท่า และสามแสนเท่ามาต้อนรับก็ได้ ข้าคิดว่าวิธีนี้จะทำให้พวกเจ้าพอใจอย่างแน่นอน!” ทันทีที่เสียงไพเราะกังวานดังขึ้น คนเผ่ามังกรฟ้า มังกรสองหัว ราชินีว่านกูซูรวมทั้งคนที่เหลือเหาะขึ้นฟ้าและหนีไปจากดารารายที่น่ากลัว
8 ความคิดเห็น:
หน้ากลัวกว่าเจอจื้อจุ่น ก็เจอจักรพรรดินีราตรีนี่แหละ สนามพลังดารา พัฒนาไปถึงไหนแล้วนั่น
5555หนีไปก็ไม่รอด
โชว์ของกันยับๆ
น่าจะไม่รอดซักคน
วงเเตก!!
แสดงว่าสำเร็จแค่ระดับกาแลคซียังไม่ถึงระดับสุญตา
กูว่าไอ้บุรุษหัวดื้อเผ่าปีศาจคือพี่เย่เราแน่ๆ
โหดมาก
แสดงความคิดเห็น