วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1299 แม่รักลูกตลอดไป!

 

ตอนที่  1299  แม่รักลูกตลอดไป!

 “ฮ่าฮ่าฮ่า!

 

ตงฟางหัวเราะอย่างมีความสุข เขาสงบใจเย็นมาก ตอนนี้เขาเลิกคิดและปล่อยวางความคิดที่ลึกซึ้งและเอาแต่หัวเราะลั่นอย่างเดียว

ในขณะที่กำลังหัวเราะอยู่นั้น ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น แต่ยังมีอีกคนหนึ่ง  คนผู้นั้นเร้นตัวอยู่ในความมืดเงียบๆ อยู่ก่อนแล้วและดูดซับพลังความเชื่อคลั่งไคล้และพลังของอสูรศึกที่แอบอ้างชื่อเย่ว์หยางขโมยมา มันค่อยๆ ย่อยสลายช้าๆ และซึมซับพลังงานมหาศาลเปลี่ยนไปเป็นพลังเทพของตน

แตกต่างจากเสียงหัวเราะของตงฟางที่หัวเราะเสียงดัง  คนผู้นี้หัวเราะอยู่ในความมืดเบามาก

เหมือนกับระลอกคลื่นที่เกิดจากสายลมบนผิวทะเลสาบยามค่ำคืน

เขาไม่เพียงแต่หัวเราะเท่านั้น ทั้งยังปรบมือชื่นชม  “เจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางสมกับเป็นกุนซือนักยุทธศาสตร์อันดับหนึ่งแห่งตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์จริงๆ สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด นับว่าน่าทึ่งจริงๆ”

 “มือสังหารเทพถูซื่อ, เจ้ายังกังวลว่าแผนล่มสลายหอทงเทียนยังจะมีเหตุเปลี่ยนแปลงอีกหรือ?”  ตงฟางกลับคืนบุคลิกสงบตามปกติ ดวงตาของเขาแฝงไปด้วยภูมิปัญญาลึกซึ้ง

 “ข้าตัดสินใจโจมตีและทำให้พวกมันพ่ายแพ้ยับเยิน!  มือสังหารเทพถูซื่อที่อยู่ในท่ามกลางความมืดย้อนถามด้วยความสงสัย  “ก่อนที่ข้าจะลงมือโจมตีกวาดล้างหอทงเทียน เจ้าตอบข้าให้หายสงสัยได้หรือไม่?  ข้าอยากรู้จริงๆ เย่ว์ไตตันรวมทั้งญาติสนิทมิตรสหายของเขา ทำไมถึงต้องแบกรับพลังโชคชะตา  ทำไมเจ้าถึงคิดว่าเขาจะต้องทำอย่างนี้แน่นอน?  นี่ไม่ใช่ภาพลวงตา  ตั้งแต่แรกเริ่มต้นจนถึงสถานการณ์ล่าสุด ทุกอย่างเพื่อชัยชนะนี้  ตงฟาง!  ทำไมเจ้าถึงมั่นใจตัวเองขนาดนี้  ด้วยพลังเทพของเจ้าบวกกับทักษะแฝงเร้นหมากรุก เป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้จัดการสถานการณ์ของหอทงเทียนได้ทั้งหมด  ข้าอยู่ตรงนี้มองดูเจ้าใช้กองทัพแดนสวรรค์บุกกดดัน จากนั้นก็มาที่เกมกระดานหมากรุกส่วนตัวและหลอกล่อให้ฝ่ายตรงข้ามแบกรับพลังชะตา  และเจ้าแอบอ้างชื่อขโมยพลังแสวงหาผลประโยชน์อย่างชาญฉลาด และในที่สุดปล่อยให้ญาติสนิทมิตรสหายของเย่ว์ไตตันแบกรับภาระชะตา  เจ้าไม่จำเป็นต้องระเบิดเป็นจุลเพื่อฆ่าความหวังของหอทงเทียนที่ตกอยู่ในเงื้อมมือของเจ้าก็ได้  อนาคตของหอทงเทียนจะตกต่ำอยู่ในห้วงเหวลึกโดยมิอาจฟื้นคืนได้ ข้าขอถามสหายของข้า  เจ้ารู้สึกอย่างไรกับความสำเร็จนี้?”

 “สถานการณ์ทั่วไปน่ะหรือ?”  ตงฟางฟังแล้วไตร่ตรองอยู่นาน จากนั้นตอบทันที

 “เจ้ากำลังพูดถึงแนวโน้มทั่วไปไม่ใช่หรือ?”  มือสังหารเทพถูซื่อยังคงงง

 “ถูกแล้ว  ความล่มจมสูญสลายของหอทงเทียนถูกกำหนดไว้แล้วตั้งแต่หมื่นปีก่อน และแม้กระทั่งยอดฝีมือก่อนนี้ไม่มีใครช่วยได้ แน่นอนว่าหมายถึงนางพญาผู้พิชิตเฟ่ยเหวินหลีและจักรพรรดิอวี้จ้านฟงเป็นแค่ส่วนน้อย”

หลังจากตงฟางพูดจบ เขาหยุดและนิ่งไปชั่วขณะ

ดูเหมือนว่าเขากำลังระลึกถึงความทรงจำที่ยอดเยี่ยมในชีวิตที่ผ่านมาในอดีต

เป็นเวลานานมากสำหรับตงฟางที่จะดึงความรู้สึกกลับคืนมา เขาบอกเล่าต่อมือสังหารเทพถูซื่อต่อ  “ข้าก็แค่ผลักดันเรือไปตามน้ำ เหยียบย่ำหอทงเทียนที่กำลังจะล่มจม ไม่ได้ทำอะไรมาก  สิ่งนี้ไม่จำเป็นต้องทำมากเกินไป ตราบใดที่แนวโน้มทั่วไปยังคงเป็นเช่นนี้  ความช่วยเหลือที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยนั้น ก็เหมือนกับบดขยี้ฟางบนหลังอูฐ เพียงพอจะทำให้หอทงเทียนตกต่ำดำดิ่งสู่ห้วงเหวลึก”

 “สำหรับเย่ว์ไตตันและผองเพื่อนญาติสนิทและมิตรสหายของเขาทำไมเลือกที่จะทนแบกรับชะตาพวกเขาน่ะหรือ มนุษย์ก็เป็นเช่นนี้เอง มนุษย์มีความกล้าที่จะลองในสิ่งที่พวกเขาไม่รู้จัก และเชื่อถือในสิ่งต่างๆ ปาฏิหาริย์ที่ไม่มีตัวตน  ยิ่งอายุน้อยก็ยิ่งเชื่อมาก  ในฐานะที่ข้าเคยเป็นหนึ่งในนั้น ข้ารู้ดีอยู่แล้ว  ถ้าข้าดูจากมุมมองพวกเขา  ข้าอาจเลือกวิธีนั้นเช่นกัน  ข้าไม่ต้องการปราบปรามนักรบแห่งหอทงเทียนให้เด็ดขาด  หลายคนมีความยืดหยุ่นและฟื้นตัวได้เร็วอย่างง่ายดายภายใต้แรงกดดันที่รุนแรง  นอกจากนี้ยังมีจิตวิญญาณแห่งการเสียสละที่หายาก ซึ่งนักรบแดนสวรรค์ยากจะเข้าใจ!

 “ถ้าข้าแข็งขืนฆ่าเย่ว์ไตตัน  อย่างนั้นเขาต้องสู้ตอบโต้กลับด้วยพลังทั้งหมดของเขา  เขาจะยอมเสียสละตนเองเหมือนอย่างจักรพรรดิอวี้จ้านฟง  เขาต่อสู้และร่วมกับสหาย ใช้พลังผนึกเป้าหมายที่เขาสามารถทำได้  ถ้าไม่อย่างนั้นเขาอาจทุ่มเทพลังทั้งหมดเพื่อให้สถานการณ์เปลี่ยน

 “นี่ไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการเห็น  ดังนั้นข้าจะไม่ใช้มาตรการที่รุนแรง  ข้าจะใช้การแข่งขันทางปัญญามากขึ้นภายใต้แรงกดดันสูง  ข้าสร้างภาพลวงตาแห่งความหวังเพื่อที่ว่า  ไม่ปล่อยให้พวกเขาหมดหวังในทันทีและโจมตีศัตรูด้วยความตื่นตาตื่นใจ ในอดีตจักรพรรดิอวี้จ้านฟง หอทงเทียนได้พยายามมาหลายพันปี ข้าไม่ต้องการเห็นคนอย่างเขาคนที่สองปรากฏตัวอีกครั้ง  และข้าไม่ต้องการเห็นเย่ว์ไตตันเกิดเป็นครั้งที่สอง...  นักรบมนุษย์เติบโตก้าวหน้าได้เร็วมาก หลายพันปีผ่านไปเพียงพอต่อการให้กำเนิดนักรบที่ทรงพลังและเทพ!  หากเราไม่ได้รู้แต่เนิ่นๆ และปล่อยให้เย่ว์ไตตันเติบโตอย่างราบรื่นไม่สิ้นสุด ก็จะไม่เป็นอย่างที่เห็นในวันนี้”

 “ในอดีตนั้น ข้าได้สาบานแล้วที่จะทำลายหอทงเทียนด้วยมือข้าเอง และข้าได้ลงมือทำด้วยตนเอง”  ตงฟางแหงนหน้าหัวเราะ “สิ่งใดที่ข้าไม่สามารถเอามาได้ ข้าจะไม่ปล่อยให้มันมีอยู่ไป นอกจากนี้ข้ายังจะมองดูมันค่อยๆ ล่มสลายตกลงในห้วงเหวลึกที่ไม่สามารถแก้ไขได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน นั่นเป็นเหตุการณ์ที่มีความสุขในชีวิต!

มือสังหารเทพบุรุษผู้ซ่อนตัวในความมืดฟังเงียบๆ ด้วยความชื่นชม

เมื่อเขาฟังแล้ว

เกิดความเงียบอยู่นาน

เขาสังเกตว่าการหัวเราะของตงฟางนั้นไม่ได้มีความสุขเหมือนอย่างที่เห็นอย่างผิวเผิน ในทางตรงกันข้ามเขารู้สึกว่าเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางที่อยู่ต่อหน้าเขา นักสู้ระดับเทพผู้มีสติปัญญาราวกับมหาสมุทร เหมือนกับมีความเสียใจที่ไม่สามารถบรรยายได้ และเขาอดถามไม่ได้  “ตงฟาง!  เจ้าทำลายหอทงเทียนเพื่อรับเอาแดนล่มสลายแห่งทวยเทพจริงๆ หรือ?  เจ้ามีความสุขความพอใจจริงๆ หรือ?”

ตงฟางฟังสักครู่แล้วส่ายหน้า  “ไม่, พูดตามตรง ข้าไม่อยากได้อะไรทั้งนั้น แดนล่มสลายแห่งทวยเทพมีสมบัติมากมาย แต่ของเหล่านั้นไม่ได้ใช้แลกเปลี่ยน ข้าไม่ได้คิดถึงของเหล่านี้  ข้าเชื่อว่าเจ้าเข้าใจว่าบางอย่างคนอย่างเราไม่มีทางรับได้ ดังนั้นสำหรับเจ้า ข้าจะเสนอให้ข้าขอพลังศรัทธาได้ไหม?  สำหรับการทำลายหอทงเทียน ในใจของข้ามีความพึงพอใจและความสุขอยู่แล้ว... ข้าไม่อาจพูดได้ว่าไม่มีอะไร ข้าไม่อาจพูดได้ว่าข้าพอใจและมีความสุขมากเช่นกัน!  ข้ามีความรู้สึกที่ซับซ้อนมาก ข้ามีความสุขจากความสำเร็จ  แต่ก็มีความเศร้าและสับสนเล็กน้อย ที่สำคัญสถานที่แห่งนี้เคยเป็นมาตุภูมิของข้า  เป็นสถานที่ซึ่งข้าเคยทิ้งเสียงหัวเราะและน้ำตามากมายไว้ที่นี่  อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้จะไม่กลับคืนมา!  สิ่งที่สูญหายไปนั้นจะหายไปตลอดกาล ข้าไม่ได้นึกฝันต้องการเป็นเจ้านายปกครองอีกต่อไป  ในทางกลับกันสิ่งที่ข้าได้รับ จะอยู่ในเงื้อมมือข้าเป็นอย่างดี  และจะไม่ยอมให้มันหลุดมือไปได้ง่าย  อย่างเช่นตำแหน่งและอำนาจของเจ้าตำหนักใหญ่ของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ในทุกวันนี้!  อีกอย่างหนึ่งก็คือภูมิปัญญาและความสามารถของข้า สามารถผลักดันหอทงเทียนจนมีสภาพอย่างทุกวันนี้!

มือสังหารเทพซึ่งอยู่ในความมืดเห็นด้วย  “ข้าเข้าใจดีเช่นกัน เพราะข้าทำสิ่งเดียวกันนี้เมื่อตอนนั้นเพื่อฝังอดีตด้วยมือของข้าเอง สำหรับสิ่งที่ข้ามีอยู่แล้ว  ข้าได้ทำอย่างเดียวกับที่เจ้าได้ทำลายหอทงเทียน เพียงแต่ข้าทำได้เด็ดขาดมากกว่าเจ้า”

 “ดังนั้น นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เจ้ามีชื่อว่ามือสังหารเทพในตอนนี้” รอยยิ้มปรากฏที่มุมปากของตงฟาง

 “จะเรียกว่าอะไรก็คงไม่สำคัญ  สิ่งที่สำคัญก็คือแดนสวรรค์ไม่มีใครกล้าดูหมิ่นคนที่อยู่เบื้องหลังชื่อนี้!   มือสังหารเทพถูซื่อหัวเราะขึ้นบ้าง เสียงหัวเราะของเขาสั่นสะเทือนในระดับลึกราวกับว่าโลกบรรจุพลังภูเขาไฟสั่นสะเทือนรอคอยเวลาปะทุระเบิดครั้งใหญ่

 “ถ้าเป็นไปได้ เจ้าอย่าได้ฆ่าเย่ว์ไตตัน”  ตงฟางมีคำขอ

 “หือ?” มือสังหารเทพถูซื่อสงสัย

 “การแบกรับชะตาล้มเหลว ญาติสนิทมิตรสหายทุกคนตายไป อสูรศึกสมบัติเทพพังทลาย คนรักและภรรยาไม่เหลือรอด ต้องมีความเสียใจอย่างไม่รู้จบสิ้น ความทรมานเช่นนั้น แย่ยิ่งกว่าตาย ข้าต้องการให้เขาต้องร้องไห้เพราะความเจ็บปวดทรมานนี้ตลอดไป...  จะมีอะไรที่น่าทุกข์ทรมานยิ่งไปกว่าการเสียใจไม่รู้จบประทับอยู่ในใจไปชั่วนิรันดร์เล่า?”   เมื่อตงฟางพูดเช่นนี้ หลังจากมือสังเทพได้ยินเขาอดสั่นสะท้านไม่ได้

บางครั้งความตายก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในท่ามกลางความสิ้นหวังทั้งเป็นสิ่งที่แย่ยิ่งกว่าตาย อยู่คู่กับอนาคตที่ไม่มีที่สิ้นสุด

เย่ว์หยางที่กำลังนอนอยู่ในจุดเริ่มต้นอยู่ในจุดที่แทบจะเป็นบ้า

เขาถูกพลังเทพชะตาสูงพันเมตรบดขยี้  เขาไม่สามารถขยับนิ้วได้เลยและเป็นไปไม่ได้ที่จะดิ้นรน

ถ้าเขาทำได้ เขาไม่ต้องการให้เจ้าอ้วนไห่และเย่คงและคนอื่นๆ เลือกวิธีแบกรับพลังเช่นนี้ เขาไม่ต้องการให้ทุกคนสังเวยชีวิต!  การแบกรับพลังชะตา ต้องมีวิธีที่ดีกว่านั้นอยู่ก่อนแน่นอน เพียงแต่วันนี้เป็นไปไม่ได้

ปรากฏว่ามีเวลาอีกสามวัน

และนั่นยังไม่จบ

ทำไมกัน?

เจ้าอ้วนไห่และคนอื่นถึงต้องเลือกแบกพลังชะตาเกินกำลังจนกระทั่งตาย?

นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ!  สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือทุกคนใช้วิธีนี้รวมทั้งญาติพี่น้อง เพื่อนพ้องครูบาอาจารย์ พันธมิตรและผู้ใต้บังคับบัญชา และแม้แต่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเสวี่ยอู๋เสียที่อยู่ต่อหน้าเขา ในท้ายที่สุด เขากลัวว่าพวกนางเริ่มเดินบนเส้นทางนี้... จำเป็นด้วยหรือที่ต้องทุ่มเทมากมายมหาศาลเพื่อแบกรับชะตา?

ถ้าเป็นเช่นนี้กู้สถานการณ์กลับมาได้ จะมีอะไรแตกต่างกันเล่า?

ไม่!

นี่ไม่ใช่ความหวังที่แท้จริงแม้แต่น้อย!

ใครก็ได้บอกทุกคนที ใครจะย้อนข้อผิดพลาดนี้ ใครจะมานำทุกคนกลับสู่เส้นทางอมตะที่งดงามแท้จริง?

จากส่วนลึกของหัวใจเย่ว์หยาง เขาไม่เคยพยายามแสดงความปรารถนาที่แรงกล้าในช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวัง ความเศร้าและเสียใจที่สุด หัวใจของเขาโหยหาการรู้แจ้งที่ไกลเกินสติปัญญาของเขาเอง

ใครจะช่วยข้าได้?

ข้าเป็นแค่เด็กอ่อนแอจากโลกอื่น  สำหรับแม่สี่เขาไม่มีเวลามากพอจะแสดงความกตัญญู น้องสาวที่รักเขาก็ไม่สามารถป้องกันได้ ไม่สามารถปกป้องคนรักในอ้อมอกได้   เขาจะแบกรับชะตาและพลิกฟื้นหอทงเทียนและผู้ที่สนับสนุนเขาได้อย่างไร ข้าเป็นอัจฉริยะที่ล้านปีจะพบได้ครั้งเดียวในหอทงเทียนและข้าคือคุณชายสามตระกูลเย่ว์ แต่ข้ายังอายุน้อยเกินไป เทียบกับปีศาจเฒ่าตงฟางข้ายังเป็นเด็กน้อย  ใครก็ได้บอกทีว่าข้าควรจะทำอย่างไร?

เสวี่ยอู๋เสียยังคงอธิษฐาน

อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางมีความต้องการจะละทิ้งทุกอย่างในโลกแค่ต้องการกอดพวกนางแน่นๆ... แม้ว่าในวินาทีต่อมาฟ้าจะถล่มแผ่นดินทลายก็ยังดีกว่าการเฝ้าดูพวกนางเสียสละโดยช่วยอะไรไม่ได้

 “ลูกแม่! เจ้าจำได้ไหม ไม่ว่าเวลาใด แม่จะสนับสนุนเจ้าอยู่เสมอ!” มีเสียงที่ไพเราะยิ่งกว่าธรรมชาติใดๆ เป็นล้านเท่าดังขึ้น  บางทีอาจดังมากจากฟากฟ้า บางทีอาจเป็นเสียงสะท้อนก้องทางวิญญาณ  ไม่ใช่เพียงเย่ว์หยางเท่านั้น แม้แต่เสวี่ยอู๋เสียที่กำลังอธิษฐาน แม้แต่จักรพรรดิหัวซิ่วรี่และแม่สี่ผู้นั่งนิ่งเงียบอยู่ตลอดเวลาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยพร้อมกันและอุทานออกมา  เป็นเสียงที่บริสุทธิ์ยิ่งกว่าสิ่งใด สามารถล้างอารมณ์มืดมัวด้านลบในใจทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย  ภายใต้เสียงที่ไพเราะนี้ ความเกลียดชังและความสิ้นหวังทั้งหมดระเหยหายไปอย่างไร้ร่องรอย  โลกวิญญาณในปัจจุบันของเย่ว์หยางและเสวี่ยอู๋เสียนั้นสะอาดบริสุทธิ์ ไม่ถูกรบกวนจากเงามรณะที่แทรกแซงโดยตงฟางและนักสู้แดนสวรรค์คนอื่นๆ  ที่ตั้งใจทำลายความหวังใหม่ เสียงนี้เหมือนทำให้ความหวังที่ถูกทำลายมานานงอกขึ้นมาใหม่ดุจเมล็ดพันธุ์เติบโตกลายเป็นสิ่งนิรันดร์  “ไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็ตาม จงอย่ายอมแพ้ เพราะลูกคือเมล็ดพันธุ์แห่งความหวังที่แม่ทิ้งไว้ให้โลกนี้!  เมื่อมีเจ้า โลกนี้ย่อมมีความหวัง เมื่อมีเจ้าโลกนี้จะไม่มีทางถูกความเจ็บปวดโศกเศร้าครอบงำ จะมีแต่การพูดคุยอย่างมีความสุขและเสียงหัวเราะ นั่นเป็นสิ่งที่เจ้าจะนำมาให้ทุกคน... ลูกแม่ เจ้าเองจะได้รับความสุขเป็นผลตอบแทนเช่นกัน!

 “แม่ขออวยพรลูก แม่รักลูกตลอดไป!

พลังลึกลับที่เขาไม่รู้ว่าส่งมาจากไหนได้รองรับภาระพลังชะตาสูงถึง 3,600 เมตรอย่างง่ายดาย

นี่

คือพลังของท่านแม่หรือ?

นี่คือแนวทางและความหวังที่นางนำมาให้เขาหรือ?

ในขณะนั้นเย่ว์หยางรู้สึกว่าสตรีลึกลับคอยปกป้องเขาอยู่เบื้องหลังเงียบๆ การให้ของนางไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ ไม่ได้มาเป็นรูปร่างมนุษย์อย่างชัดเจน ไม่ได้ออกมาดูแลแสดงความรักของมารดา นี่คือความรักของมารดาในตำนานหรือ? ท่านแม่ ตัวเขาเองก็มีแม่ที่แท้จริงด้วย ไม่ใช่มารดาในนามของสหายผู้น่าสงสาร (คุณชายสามตัวจริง) แต่เป็นตัวเขาที่เป็นเด็กหนุ่มข้ามโลก  เป็นมารดาของเขาที่บอกว่าได้อธิษฐานต่อพฤกษาบุปผาแห่งชีวิต เขาไม่รู้ว่านางกลายเป็นผู้มอบความรักให้กับเด็กหนุ่มผู้ข้ามมาจากโลกอื่นได้ยังไง

ก่อนนี้เขารู้สึกได้เหมือนความรักนี้อยู่ในตัวแม่สี่  แต่เขาไม่เคยรู้สึกชัดเจนเหมือนวันนี้

จนกระทั่งตอนนี้ เขาจึงเข้าใจ

ปรากฏว่ามารดาเขาอยู่เคียงข้างเขาเสมอ เพียงแต่เขาไม่เคยรู้ตัว!

 “ท่านแม่ ท่าน ท่านจริงๆหรือ? ข้าโดดเดี่ยวยิ่งนัก  ท่านเป็นแม่ของข้าหรือเปล่า?”  เย่ว์หยางอยากตะโกนก้องฟ้ายิ่งนัก แต่เขาหลั่งน้ำตาออกมาโดยไม่รู้ตัว  “ท่านแม่...”

7 ความคิดเห็น:

CHANTANA กล่าวว่า...

เอาแล้วกำลังใจมาเต็มเลย

Failz กล่าวว่า...

ขอบคุณ​คับ

BJ กล่าวว่า...

น่าสงสารจริงๆ​ เดี๋ยวตอยหย้าเหลืออีก1เมตร​ สาวกิเลนมาแย่งซีนแน่ๆ

Unknown กล่าวว่า...

อ่านตอนนี้แล้วขนลุก

oldmonkey กล่าวว่า...

อีก100 ตอน

Sairys กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ïиƒïиï†ч гє†гч กล่าวว่า...

ต้องสำเร็จแล้วแหละ

แสดงความคิดเห็น