วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1301 เส้นทางไม่หวนกลับ

 

ตอนที่  1301  เส้นทางไม่หวนกลับ

หอทงเทียนชั้นที่สิบ

 

ในขณะที่กองทัพอัศวินมังกร นักรบเลือดมังกรทั้งสองกลุ่ม ทหาร นักรบ ทหารรับจ้างที่ติดตามสนับสนุนเย่ว์หยางตกอยู่ในสภาพคลั่งไคล้ ทันใดนั้นพวกเขาเหมือนถูกควบคุมด้วยมือขนาดใหญ่ที่มองไม่เห็น ทั้งหมดจึงค่อยหลุดออกจากความบ้าคลั่งและตื่นขึ้น

พวกเขาไม่มีเวลาจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวพวกเขา และความจริงที่โหดร้ายตามมาหลังจากนั้น

ถูกหลอก!

พวกเขาถูกหลอกโดยไม่คาดคิด  ถูกหลอกอย่างน่าสมเพชยิ่งนัก  “โปรดทราบ, สหายที่รักของข้า, ไม่สิ สหายชาวเมืองทั้งหลาย ที่เจ้าได้ยินนั้นเป็นข้าเอง เป็นคนที่พวกเจ้าเกลียดชังเข้ากระดูกดำ คนที่พวกเจ้าอยากฉีกเนื้อออกเป็นพันๆ ชิ้นและดื่มเลือดกินเนื้อข้า ถลกหนังมาปูนอน ข้าคือตงฟางผู้ชั่วร้าย คนทรยศหอทงเทียน  ในแดนสวรรค์เรียกข้าว่าเจ้าตำหนักใหญ่แห่งตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์  ข้าได้ยืมชื่อของคุณชายสามตระกูลเย่ว์เพื่อหลอกลวงเจ้าพวกมดแมลงผู้โง่เขลาและขโมยพลังศรัทธาของพวกเจ้าพร้อมกับพลังของอสูรศึกที่พวกเจ้าทำสัญญาด้วยเช่นกัน  บางทีพวกเจ้าอาจยังสับสน บางทีพวกเจ้าอาจยังงงงวย หรืออาจจะโกรธจนปอดและหัวใจจวนเจียนจะระเบิดก็เป็นได้  แต่สิ่งเหล่านี้ก็มีความสัมพันธ์กัน เพราะความโกรธของพวกเจ้าจะไม่เปลี่ยนความจริงที่โง่เขลาของพวกเจ้าไปได้แม้แต่น้อย ตรงกันข้ามศรัทธาของพวกเจ้าพิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเจ้าต่ำต้อยเล็กน้อยเพียงไหน  สหายที่รัก!  อาจจะบอกได้ว่าพวกเจ้าไร้ความสามารถก็คงไม่ผิดไปนัก  ความโง่เป็นภาพสะท้อนสติปัญญาที่แท้จริงของพวกเจ้า  ข้าไม่ต้องการโจมตีพวกเจ้า  แต่พวกเจ้าไม่มีอะไรที่สมควรได้รับการยกย่องนอกจากส่งความโง่เง่าคลั่งไคล้ปริมาณมากมาให้ข้า..... นี่คือจุดประสงค์ที่แท้จริงในการบอกความจริงกับพวกเจ้า  จงฆ่าตัวตายอย่างโกรธแค้นติดตามคุณชายสามตระกูลเย่ว์ที่ไม่ประสบความสำเร็จซะเถอะ  จงตายไปด้วยกัน!

 “อะไรนะ?” แม้ว่าพวกเขาจะหวังว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริง  แต่เสียงของตงฟางนั้นแทรกซึมอยู่ในแก้วหูทุกคน แม้ว่าพวกเขาจะอุดหูก็ตาม แต่เสียงก็ยังชอนไชผ่านไปถึงใจของพวกเขาได้

 “หอทงเทียนต้องไม่มีความหวัง ในอดีตข้าได้สาบานไว้แล้วว่าจะต้องทำลายมันด้วยน้ำมือตนเองและจะไม่ลืมน้ำใจของพวกเจ้าที่ช่วยเติมเชื้อเพลิงเร่งให้มันพังพินาศเร็วขึ้น  ความโง่เขลาของพวกเจ้าทำให้ข้าประหลาดใจ และมันช่วยข้าได้อย่างมาก  น่าเสียดายที่คุณชายสามโชคร้าย เพราะมีคนโง่เง่าอย่างพวกเจ้าเป็นพวก  เดิมทีเขาก็ก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังดิ้นรนต่อสู้อย่างหนัก  แต่เพราะต้องแบกรับการโจมตีอย่างมากมาย ทั้งข้ายังได้ความโง่ของพวกเจ้าช่วยด้วย จึงทำให้เขาทำอะไรก็ติดขัดไปหมด จริงหรือเปล่า?  หรือไม่จริง เป็นเพราะพวกเจ้า พวกเจ้าต่างหากที่ทำลายเย่ว์ไตตัน!

 “ไม่!” อัศวินมังกรและนักรบเลือดมังกรกุมศีรษะด้วยความรู้สึกเจ็บปวด พวกเขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะถูกศัตรูใช้เป็นเครื่องมือและในทางกลับกันกลับสร้างผลกระทบต่อคุณชายสามตระกูลเย่ว์อย่างไม่อาจย้อนกลับได้

 “ข้าไม่อยากมีชีวิตอีกต่อไปแล้ว!  หลายคนเงื้ออาวุธของตนเอง และพวกเขาไม่ต้องการมีชีวิตต่อ ความคิดแรกของพวกเขาคือฆ่าตัวตาย

 “ลาก่อน, สหายที่ฉลาดของข้า ข้าจะไม่มีวันลืมพวกเจ้า ในประวัติศาสตร์โลกพันปี คนโง่ๆ อย่างพวกเจ้าหาได้ยากจริงๆ!  ทุกวินาทีที่พวกเจ้ามีชีวิตอยู่ทำให้อากาศเสีย มลภาวะเป็นพิษทำลายความบริสุทธิ์ของหอทงเทียน ข้าไม่รู้จักสิ่งมีชีวิตอย่างพวกเจ้า แล้วพวกเจ้ายังบากหน้ามีชีวิตต่อไปได้อย่างไร  มดแมลงอย่างพวกเจ้ารีบๆ ยกมือฆ่าตัวตายไปเสียดีกว่า นั่นเป็นทางเลือกที่ถูกต้องที่สุดแล้ว!  เสียงของตงฟางฟังชัด ทำร้ายจิตใจยิ่งกว่าปีศาจ  หลังจากทุกคนได้ยินมีความรู้สึกเหมือนวิญญาณถูกทิ่มแทงด้วยมีดคมจนหลั่งโลหิต

เมื่อภาพตงฟางหายไปในความว่างเปล่า ทหารแทบทุกคนล้มลงกับพื้นอย่างอ่อนแรงเหมือนดินโคลนเหลว ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้

แต่ละคนเอามือปิดหน้าร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดหัวใจ  เดิมทีพวกเขาต้องการติดตามคุณชายสามตระกูลเย่ว์ ร่วมกันต่อต้านการรุกรานจากแดนสวรรค์เพื่อปกป้องบ้านเกิด ทุกคนจิตใจระอุกรุ่นเลือดลมพลุกพล่าน ต่อสู้ด้วยพลังเต็มที่เพื่อสร้างอนาคตให้หอทงเทียน

แต่บัดนี้ไม่มีเกียรติยศ มีแต่ความอัปยศอดสู และความโง่เขลาเท่านั้นที่จะตราตรึงตลอดไป

ทำไม?

ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?

ทำตามความเชื่อศรัทธาผิดด้วยหรือ?

เมื่อกองทหารทั้งหมดร่ำไห้ด้วยความรู้สึกละอาย มีทหารนับไม่ถ้วนยกอาวุธขึ้นเตรียมพร้อมจะขจัดความเจ็บปวดและความละอายใจด้วยเลือดจากลำคอพวกเขา ทันใดนั้นมีคนลุกขึ้นยืนชูแขนตะโกนเสียงดังสนั่น  “เจ้าพวกโง่! ความตายไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาสักหน่อย!  พวกเจ้าทำเช่นนี้มีแต่จะทำให้ศัตรูหัวเราะอย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น!  ฟังให้ดี ถ้าพวกเจ้ายังมีเหตุผล มีความสามารถคิดได้ ก็อย่าปล่อยให้ความตื่นตกใจครอบงำพวกเจ้า สิ่งที่พวกเจ้ากำลังทำอยู่นี้นั่นเป็นความประสงค์ต้องการของเจ้าคนทรยศ เขากำลังรอ การใช้ชีวิต เลือดเนื้อ วิญญาณของเรา ก็เท่ากับเป็นการบูชายัญตามที่เขาต้องการ  ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ แล้วนั่นจะส่งผลกระทบครั้งยิ่งใหญ่ต่อคุณชายสามตระกูลเย่ว์  พวกเจ้าต้องการมีส่วนร่วมกับการกระทำอย่างนี้หรือ?  พวกเจ้าแน่ใจไหมว่าต้องการทำเช่นนั้นจริงๆ และต้องการผลักดันคุณชายสามตระกูลเย่ว์ที่พากเพียรอย่างหนักลงเหว  ลุกขึ้นยืน, ถ้าเราจะตายก็ต้องตายด้วยศรัทธาของเรา นั่นจะทำให้เป้าหมายที่เราเสียสละมีคุณค่ามากขึ้น!

 “ใช่แล้ว ต้องเป็นเช่นนั้น เราถูกหลอก ขโมยเอาพลังและพลังอสูรไป และไม่มีทางต่อสู้ร่วมกับเย่ว์ไตตันได้  แต่เราไม่อาจตายแบบนี้ แม้ว่าเราจะตาย เราต้องช่วยเย่ว์ไตตันให้สำเร็จ  เขาต้องการความความช่วยเหลือของเรา แม้จะเป็นเพียงบทบาทเล็กๆ เราก็ต้องไม่ยอมแพ้! เราไม่มีความแข็งแกร่ง แต่เรามีร่างกาย มีชีวิต มีลมหายใจ มาเถิดเรามาแบกรับชะตาของเย่ว์ไตตันกัน  ตราบเท่าที่เราทุ่มชีวิต เราต้องช่วยเย่ว์ไตตันได้อย่างแน่นอน!  เหลยปัน ผู้เยาว์แห่งตระกูลเหลย และพูดสนับสนุนทูตมังกรจางหลานอี้

 “เราทำได้หรือ?”  อัศวินมังกรและนักรบเลือดมังกรลุกขึ้นยืนและดวงตาพวกเขาเป็นประกายอีกครั้ง

 “แน่นอน เรายังมีชีวิตอยู่  นี่คือสิ่งที่ศัตรูต้องการหลอกลวง  แต่ไม่สามารถหลอกลวงได้  เราต้องใช้มันเพื่อแลกกับความสำเร็จของคุณชายสามตระกูลเย่ว์!  ผู้ที่ยืนขึ้นตอนนี้คือองค์ชายเผ่าภูตบูรพาหลงผาน

เขาคือโอรสองค์เล็กของจักรพรรดิมังกร แต่เป็นพี่ชายของราชันย์ปีศาจใต้และเป็นสามแม่ทัพใหญ่ของกองทัพอัศวินมังกร

เพราะบุคลิกของเขาสบายๆ รักอิสระ แม้ว่าเขาจะมีความสามารถมาก แต่เขาไม่สนใจวิทยายุทธ์จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้วเขาได้รับแรงบันดาลใจจากยอดฝีมือดาวรุ่งอย่างเย่คง เจ้าอ้วนไห่และเสวี่ยทันหลางในทวีปมังกรทะยาน  ก่อนจะเข้าร่วมกลุ่มอัศวินมังกร  เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งจนเป็นถึงผู้บัญชาการใหญ่และมีอิทธิพลมากกว่าผู้บัญชาการใหญ่อีกสองคนจากเผ่าโยวหมิงและตำหนักจันทรา

เขายืนขึ้นและยืนยันคำพูดของทูตมังกรจางหลานอี้และเหลยปันทำให้พวกอัศวินมังกรและนักรบเลือดมังกรสงบลง

 “เรามาลุกขึ้นยืนอีกครั้ง มาช่วยกันแบกรับชะตาของเย่ว์ไตตันต่อไป เขาจะไม่ยอมแพ้แน่นอน และเราต้องไม่ยอมแพ้แม้ว่าเราจะไม่มีอะไรเลย  แต่ตอนนี้เรายังมีชีวิตอยู่....”

 “สหายของเราทุกท่าน เราคือสหายศึกที่สนิทกันที่สุดในหอทงเทียน...”

 “คราวนี้เราจะไม่ถูกศัตรูล่อลวงอีกต่อไป  ข้ารู้สึกถึงพลังแห่งชะตาอีกครั้ง ต่อให้ร่างกายของข้าจะแหลกราญกลายเป็นธุลีข้าจะไม่สนใจอีกต่อไป ตราบใดที่ประสบความสำเร็จ ตราบใดที่ร่างกายของข้าได้รับผลโชคชะตาเพียงเล็กน้อย  ชะตาของข้าจะไม่ก้มหัวให้เจ้า  แม้ว่าข้าจะสู้เจ้าไม่ได้ แต่บุรุษที่ข้าสนับสนุน เขาจะต้องเชิดหน้ายืดอกและบีบเจ้าไว้ในเงื้อมมือของเขา!  ต่อให้ร่างกายข้าสูญสลายไปแล้วมีความสำเร็จ  ถ้ามันสามารถแลกเปลี่ยนเป็นอนาคตของบุรุษผู้นั้นได้ข้าก็ยอม!  การมีอยู่ของข้าคือความภักดี ความแน่วแน่ไม่มีพลังใดจะสั่นคลอนศรัทธาข้าได้อีก...”

อัศวินมังกรและนักรบเลือดมังกรยืนขึ้นทีละคนและพวกเขาจับมือร่วกัมนต้านทานพลังดึงดูดของชะตา

ไม่ต่างจากก่อนหน้านี้

ตอนนี้พวกเขาจะไม่บ่นเกี่ยวกับน้ำหนักของพลังชะตาอีกต่อไป

พวกเขาไม่สนใจความเป็นความตายอีกต่อไป เพราะพวกเขาเหลืออยู่แต่ชีวิตเท่านั้น

ในท้องฟ้าแสงเทพฉายลงบนใบหน้าและมือ ร่างกายของบุรุษผู้ภักดีเหล่านี้ทำให้พวกเขาดูสงบสำรวมเป็นพิเศษในช่วงเวลานี้!

แสงจากสวรรค์ส่องออกมาจากม่านเมฆขยายเพิ่มมากขึ้นๆ ในท้ายที่สุดกลายเป็นลำแสงขนาดใหญ่มองดูเหมือนน้ำตกแสง  ภายใต้ลำแสงนี้ดูเหมือนว่าความชั่วร้ายและสิ่งสกปรกโสมมทั้งหมดในโลกได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ การละทิ้งและเสียสละอันบริสุทธิ์นี้ใกล้เคียงกับความภักดีนิรันดร

นี่คือคำตอบที่เงียบ ซึ่งเขามีต่อผู้หลอกลวง

นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนที่ดีที่สุดของผู้ติดตาม

ในอีกพื้นที่หนึ่ง

ภาพเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางปรากฏอยู่ต่อหน้าคนอื่น ส่งเสียงเสียงที่ชั่วร้ายยิ่งกว่าปีศาจ  แต่สิ่งที่เสียงนี้เปิดเผยไม่ได้เป็นการเยาะเย้ยหรือกระทบกระเทียบ แต่เป็นการล่อลวงและสมรู้ร่วมคิด

 “เหยียนพั่วจวินและฟงชิซา เป็นที่รู้จักกันดีในนามว่าคือสามดาวรุ่งมือสังหาร แต่ตอนนี้ดูตัวเจ้าเองสิ ยังเป็นคนแข็งแกร่งอยู่อีกหรือไม่?  ครั้งหนึ่งเจ้าเคยได้รับเกียรติร่วมกับเสวี่ยทันหลาง ตอนนี้เจ้าลองดูตัวเองสิ สถานะนักสู้หายไปไหน?  เจ้าอยู่ต่อหน้าเย่ว์ไตตันยังด้อยกว่าสุนัขตัวหนึ่ง!  ใช่แล้วแม้แต่สุนัขเฝ้าบ้านฮุยไท่หลางยังน่ากลัวยิ่งกว่าเจ้า แต่ก็ยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างสบายใจเมื่อเทียบกับเจ้า!   ไม่, เจ้าด้อยยิ่งกว่าสุนัข ไม่มีอะไรดีกว่าขยะอย่างเจ้าอ้วนไห่ ไห่ต้าฟู่  ปกติแล้วเจ้านั่นเป็นถังขยะ เป็นโคลนใต้เท้าเจ้า แล้วตอนนี้เล่า?   เขาเหยียบหัวผ่านพวกเจ้า ทำให้พวกเจ้าไม่มีคุณสมบัติพอจะผายลมต่อหน้าเขา... นี่คือชีวิตที่เจ้าต้องการใช่ไหม? นี่คือความแข็งแกร่งและทักษะแฝงเร้นที่แท้จริงของเจ้าหรือ?  โอว ไม่ พวกเจ้าเป็นผู้มีพรสวรรค์มากที่สุด  แต่เจ้าริษยาเย่ว์ไตตัน เขาโจมตีเจ้า ไม่เพียงแค่นั้น ไม่เพียงแต่สุนัขของเขาเท่านั้น  แต่ยังรวมถึงเจ้าอ้วนไห่ที่มีความเป็นขยะมากที่สุด เย่คงที่เกือบอดอาหารตาย และสองพี่น้องตระกูลหลี่ที่เป็นทหารรับจ้างที่ไม่สามารถเข้ากันได้ เจ้าพวกนี้บังอาจตีเจ้าที่เคยเป็นความภาคภูมิใจของพระเจ้า  ฮ่าฮ่า เย่ว์ไตตันชอบเล่นแบบนี้มากที่สุด!  ถ้าพวกเจ้าต้องการไปต่อ ก็ต้องกลายเป็นแบบเจ้าอ้วนไห่และคนอื่นๆ ที่เคยเป็นขี้โคลนใต้เท้า  เจ้าอาจมีชีวิตต่อไปได้โดยเทียบกับสุนัข ข้าไม่มีอะไรจะพูดแล้ว... แต่เจ้าจงรู้ไว้ว่าเจ้ามีทางเลือกที่ดีกว่า!  ฟังให้ดี เย่ว์ไตตันกำลังจะตาย หอทงเทียนจะพินาศในอีกไม่ช้าโดยมิอาจกู้คืนได้  เจ้าคืออนาคตของหอทงเทียน ใช่แล้วเจ้าได้ยินถูกต้อง  เจ้าเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่ในหอทงเทียน หากเจ้าต้องการก็จงพยักหน้า  เจ้าจะได้รับพลังที่แข็งแกร่งร้อยเท่า พันเท่า หรือพลังที่แข็งแกร่งกว่าที่เจ้ามีหมื่นเท่า โดยเจ้าไม่ต้องจ่ายราคาใดๆ ตราบใดที่เจ้าเต็มใจยอมรับ  เจ้าจะได้รับสถานะทุกอย่าง    อะไรที่เจ้าอ้วนไห่ เย่คง เสวี่ยทันหลางมีจะกลายเป็นขยะเมื่อเทียบกับที่เจ้ามี อย่าว่าแต่พวกเขาไม่รอดแล้ว พวกเขาไม่มีดีแม้เท่าปลายนิ้วเท้าเจ้า!  จงพยักหน้า ตราบใดที่เจ้าต้องการ ข้าสามารถมอบความแข็งแกร่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดแก่เจ้าได้ทันที ทั้งหอทงเทียนจะไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้า! 

รูปของตงฟางปรากฏอยู่ข้างหน้าเหยียนพั่วจวินและฟงชิซา

เสียงเหมือนกับอสรพิษ

ชอนไชเข้าไปในแก้วหู

ไม่, เสียงนี้สามารถแทรกซึมเข้าไปในหัวใจพวกเขาได้โดยตรง  แม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะใช้มืออุดหูก็ตาม แต่ก็ไร้ประโยชน์

 “ตราบเท่าที่ข้าพยักหน้ารับ ข้าจะได้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดหรือ?”  ดวงตาของเหยียนพั่วจวินเต็มไปด้วยความสับสน  เขาไม่ต้องการที่จะปฏิเสธว่าเขาโหยหาพลังความแข็งแกร่งมากมายเพียงไหนในช่วงเวลาแห่งการฝึกฝนพากเพียร?  นั่นไม่ใช่เพื่อพลังที่แข็งแกร่งหรือ!  เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ยิ่งเขาฝึกฝนมากเท่าใด เจ้าอ้วนไห่ดูเหมือนจะห่างไกลออกไปทุกที คนอื่นๆ ก็เป็นเช่นนั้น!  ถ้าเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้อย่างเย่ว์หยางและเสวี่ยทันหลางก็ว่าไปอย่าง  แต่เจ้าอ้วนไห่เคยเป็นขยะชิ้นใหญ่และในตอนนี้สามารถเอาชนะตัวเขาได้อย่างง่ายดาย  ถ้าไร้ประโยชน์แล้ว ยังจำเป็นต้องฝึกหนักอีกหรือ?

 “พั่วจวิน, เจ้าไม่อาจเชื่อคำที่ตงฟางพูด? เขาเป็นคนทรยศไม่ใช่หรือ!  ฟงชิซากระวนกระวาย และเขารู้สึกว่าปณิธานเหยียนพั่วจวินกำลังหวั่นไหว

 “ข้าเป็นผู้ทรยศต่อหอทงเทียน  ครั้งหนึ่งข้าเคยเป็นที่โปรดปรานของเทพ เชื่อมั่นในความรักและได้รับการสนับสนุนจากหอทงเทียนมากที่สุด  ข้ากล้าพูดได้ว่าก่อนนั้นผู้ติดตามของข้าไม่น้อยไปกว่าเย่ว์ไตตัน  แต่ว่าข้าได้อะไรกลับมา?  ต่อหน้าความสัมพันธ์ข้าแพ้บุรุษที่ด้อยกว่าข้าเพียงเพราะความสัมพันธ์ที่หนุนอยู่เบื้องหลังเขา เพียงเพราะต้นกำเนิดเขามีเกียรติ และข้าคืออุปสรรคสำคัญที่สุดต่อกฎของการปกครองของผู้อื่น ในที่สุดข้าก็กลายเป็นคนทรยศหอทงเทียน! นี่คือข้าและภาพที่แท้จริงของเจ้าในวันนี้!   เจ้าเคยเป็นคนใจกล้า อย่างไรก็ตามไม่มีอะไรที่เจ้าทำได้ เจ้าปล่อยให้เย่ว์ไตตันเหยียบย่ำข้ามเจ้า ในทางตรงกันข้าม เจ้าอ้วนไห่ที่มีสัมพันธ์อันดีกับเย่ว์ไตตัน ได้เปลี่ยนจากสถานะขยะที่ยิ่งใหญ่กลายเป็นคุณชายไห่ทันที...  ตอนนี้เจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือ?  ความสัมพันธ์มีความสำคัญมากแค่ไหน ไม่มีใครหนุนหลังเจ้า เจ้าฝึกฝนอะไรได้บ้าง? ฟังข้าให้ดีเหยียนพั่วจวิน ถ้าเจ้าต้องการ ข้าสามารถรับเจ้าเป็นศิษย์ได้ และมอบทุกอย่างในหอทงเทียนให้เจ้า  เจ้าไม่เคยคิดจะเป็นเจ้าปกครองหอทงเทียนทั้งหมดใช่ไหม?”  ตงฟางยิ้มมุมปาก เขายิ้มมองดูเหยียนพั่วจวินผู้ที่เขากำลังล่อลวงอยู่ข้างหน้านี้”

 “ข้า...” เหยียนพั่วจวินไม่ต้องการปฏิเสธว่าเขาถูกล่อลวง

 “อย่าทำอย่างนี้ ตงฟางกำลังโกหกล่อลวงเจ้า  พั่วจวิน! สิ่งที่ไม่ใช่ความสามารถของตัวเองก็เป็นเหมือนฟองน้ำ พอรวมตัวกันก็แตกไป เจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือ?  ถ้าเจ้าต้องการเช่นนี้ ข้าจะไม่หน่วงเหนี่ยวเจ้า  แต่ข้าจะไม่ร่วมเส้นทางกับเจ้าอีก  ข้าไม่ปฏิเสธว่าข้าอิจฉาทันหลางและเย่คงและคนอื่นๆ มาก  แต่เจ้าก็เห็นเช่นกันว่าเจ้าอ้วนไห่ก็มีความพากเพียรพยายามอย่างเพียงพอถึงมีวันนี้ได้ เราควรสร้างสมดุลทางจิตใจ ไม่ใช่ความริษยา แต่ถึงจะริษยาก็ต้องไล่ล่าความสำเร็จอย่างขยันขันแข็ง ความสัมพันธ์มันไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต มีแต่ความเชื่อมั่นศรัทธาของเราเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด..  พั่วจวิน ข้าขอเรียกชื่อเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ข้าตัดสินใจแล้ว ขอทิ้งทุกอย่างติดตามเย่ว์ไตตัน ข้าจะสละพลังน้อยนิดแบกรับชะตาของเขาและชะตาของหอทงเทียน!  ฟงชิซาไม่รู้สึกกลัวตายอีกต่อไป แต่ภายใต้การล่อลวงของตงฟางกลับเสริมความเชื่อของเขา

แสงเทพศักดิ์สิทธิ์ฉายลงมาจากอากาศ

คลุมทั้งศีรษะของเขา

เขาถือคัมภีร์อัญเชิญ ใบหน้าและดวงตาของเขาเปล่งประกาย และดูเจิดจ้ายิ่งกว่าแสงเทพศักดิ์สิทธิ์ในท้องฟ้า

เหยียนพั่วจวินเห็นแล้วน้ำตาไหลพราก ใบหน้าของเขากระตุกเกร็ง แต่ในท้ายที่สุดศรัทธาก็ชนะการล่อลวงได้เขาถือคัมภีร์อัญเชิญไว้ในมือของเขาเช่นกัน  “สหายเก่าของข้า คู่แข่งของข้า พี่น้องข้า  ข้าผิดไปแล้ว แต่ข้าจะไม่ให้พวกเจ้าต้องยืนสู้ตามลำพัง  อนาคตของหอทงเทียนไม่ได้เป็นของข้า  ข้าเป็นคนโลภ โปรดยกโทษให้ข้า ขอให้ข้าร่วมเดินทางกับเจ้า ข้าอยากเป็นคนดีที่สุดในโลก  แต่เมื่อเทียบกับคนที่ดีที่สุดในโลกแล้ว ข้าต้องการสหายผู้ร่วมหยอกล้อเล่นหัวมากกว่า”

แสงเทพศักดิ์สิทธิ์คลุมตัวเหยียนพั่วจริวและฟงชิซาไว้ในพริบตาเดียว

แผนล่อลวงของตงฟางล้มเหลว

ดูเหมือนว่ามีอุบัติเหตุคาดไม่ถึงเล็กน้อย

จากมุมมองของเขา ฟงชิซาไม่ต้องพูดถึง แต่เหยียนพั่วจวินอย่างน้อยก็ถูกล่อลวงได้ และอธิบายไม่ได้เช่นกันว่าความเชื่อก็เป็นการล่อลวงอย่างหนึ่ง แม้ด้วยการสมัครใจตายของฟงชิซายอมแบกพลังชะตาก็ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึง

เป็นเพราะระดับการล่อใจไม่เพียงพอหรือ?  เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการล่อลวงด้วยคิดระดับเทพ!

เขาไม่ยอมรับความพ่ายแพ้กลับไปหาเย่ว์เทียน เย่ว์เยี่ยน เย่ว์ฟงและคนอื่น

 “หนอนน้อยที่น่าสมเพชอย่างเจ้าไม่เคยได้รับการเหลียวแลจากเย่ว์ไตตันอย่างแท้จริง เจ้าควรจะเสียสละแบกรับชะตาเพื่อเขาอีกหรือ? เจ้าทำเช่นนี้มีประโยชน์อะไร?  เจ้าคิดว่าเขาจะขอบคุณเจ้าหรือ?  เจ้าคิดว่าเขาจะประสบความสำเร็จด้วยการกระทำเช่นนี้จริงหรือ?  ทำไมข้าถึงมีเวลาว่างมาพูดคุยกับเจ้าอย่างนี้เล่า?  นั่นเป็นเพราะเขามีชะตาถูกกำหนดให้ต้องล้มเหลว!  ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เจ้ายังคงต้องเผชิญชะตาของเจ้าอย่างหนักและคิดจะหัวเราะเยาะข้าอย่างนั้นหรือ?  นึกถึงอดีตของเจ้าสิเย่ว์เทียน  เจ้าเป็นหลานชายของบุตรคนโต เจ้าจะสละสิทธิ์ในตระกูลเย่ว์ทั้งหมดหรือ?  เย่ว์เยี่ยน! เจ้าเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ไม่ใช่หรือ?  เย่ว์ฟง เจ้ามีพรสวรรค์และอนาคตที่ดี แต่เจ้าคิดว่าพี่สามของเจ้าให้เวลาเจ้ามากกว่าตัวเขาหรือไม่?  เย่คงตายแล้ว เจ้าอ้วนไห่ก็ตายไปแล้ว เสวี่ยทันหลางตายแล้ว ทุกคนตายแล้ว ฟงชิซาและเหยียนพั่วจวินก็เดินมาถึงทางตันของชีวิตแล้ว  ตอนนี้หอทงเทียนยังจะเหลือใครอีก?  มีแต่พวกเจ้าเท่านั้น... ตราบใดที่พวกเจ้าพยักหน้าเบาๆ จากนั้นพวกเจ้าจะได้ทุกอย่างทันที  เย่ว์เทียน!  ไม่เพียงแต่เจ้าจะสามารถฟื้นฟูทุกสิ่งทุกอย่างในตระกูลเย่ว์ได้  แต่เจ้ายังสามารถเป็นเจ้าปกครองหอทงเทียนทั้งหมด  เย่ว์เยี่ยนเจ้าสามารถเปลี่ยนจากขยะไปเป็นนักสู้ระดับเทพได้ทันที  เด็กน้อยเย่ว์ฟง อนาคตของเจ้าจะไร้ขีดจำกัด...”

คำพูดของตงฟางเหมือนลูกศรทิ่มแทงความรู้สึกภายในหัวใจของเย่ว์เทียน

เย่ว์ฟงยังเล็กและปณิธานยังไม่มั่นคง

เขาร้องไห้จ้าอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร

เขาไม่ต้องการทรยศพี่ชาย และหวังว่าจะมีอนาคต เขาไม่มีผู้ใหญ่ในตระกูลคอยปลอบใจ เข้าไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรได้แต่ตกอยู่ในความสิ้นหวัง

นอกจากร้องไห้เสียงดังเขาไม่รู้ว่าจะทำอะไรอย่างอื่นได้

แต่เย่ว์เทียนและเย่ว์เยี่ยนพี่ชายทั้งสองเห็นได้ชัดว่าตกหลุมกับดักแห่งศรัทธาแล้ว

บางทีในวินาทีต่อมาพวกเขาอาจพยักหน้ายอมรับเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยของตงฟางที่น่ากลัวยิ่งกว่าปีศาจและพยักหน้ารับเบาๆ...  ขณะที่หัวใจของเย่ว์ฟงกำลังหวาดกลัวไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี ทันใดนั้นมือใหญ่ของเย่ว์เทียนลูบศีรษะเขาเบาๆ และส่งเสียงที่เย่ว์ฟงฟังแล้วรู้สึกเหลือเชื่อ “น้องเก้า!  ในใจของเจ้า ข้าเป็นที่ชายที่ดีที่สุดหรือไม่? แม้ว่าเสี่ยวซานจะรุ่งเรืองขึ้นมา  แต่เขาก็ให้อะไรมากมายแก่เจ้า  แต่ก็ยังด้อยกว่าข้าใช่ไหม!  ข้าทำเจ้าเจ็บปวดที่สุด ไม่เพียงแต่ก่อนเท่านั้น แต่ยังมีภายหลังอีกด้วย!  เป็นพี่ใหญ่จะทำแบบนี้ได้อย่างไร จะเป็นตัวอย่างให้น้องไม่ได้ใช่ไหม?”

เย่ว์เยี่ยนเตะก้นเย่ว์ฟง เขาส่งเสียงด้วยความโมโหเกรี้ยวกราด “น้องเก้า!  พี่สี่เสียคนไปแล้ว เจ้าคิดอย่างนี้ใช่ไหม?  ข้าเย่ว์เยี่ยนต่อให้เป็นสวะ แต่ข้าจะไม่ทรยศต่อตระกูล  ข้าเป็นลูกหลานตระกูลเย่ว์ มีจิตใจไม่ย่อท้อ เจ้าคิดว่าข้าพยักหน้าแล้วจะยอมเป็นสุนัขเลี้ยงของคนอื่นหรือ?  ข้าไม่อาจเทียบกับพี่สามที่ไร้เทียมทานของเจ้าได้ แต่ข้าเย่ว์เยี่ยนมีความภูมิใจในศักดิ์ศรีของตนเอง และข้าก็เคยถูกล่อลวงมาหลายครั้งแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า คนอย่างข้าน่ะหรือจะเป็นนักสู้ระดับเทพ? ช่างหัวมันเถอะ ถ้าโกหกข้าไม่ได้ อย่างดีก็คงโกหกหลอกเด็กได้  ข้ายอมตาย คนไร้ความสามารถอย่างข้า ไร้ประโยชน์  แต่ข้าไม่ต้องการความเมตตาจากคนอื่น!  ข้าเย่ว์เยี่ยนไม่ขอเลียก้นใครเพื่อให้ได้ความแข็งแกร่งโว้ย!

 “พี่ใหญ่ พี่สี่ ฮือออ!  เย่ว์ฟงเมื่อได้ยินก็ร้องไห้หนักขึ้น  แต่ตอนนี้เขาโล่งใจ ตอนแรกเขาร้องไห้เพราะความกลัว แต่ตอนนี้เขารู้ไห้เพราะความภูมิใจพี่ชาย

 “งั้นพวกเจ้าก็จะตายกันหมด...”  ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของตงฟางกลายเป็นเคร่งเครียด

 “เราไม่รบกวนเจ้า  เราจะไม่ยอมหลงผิดอีก เรายังดีกว่าคนทรยศอย่างเจ้า  ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งเราจะกลายเป็นวีรบุรุษได้!” เย่ว์เทียนหัวเราะ  เขาเรียกคัมภีร์อัญเชิญ แสงเทพสามสายฉายลงมาจากท้องฟ้าคลุมทั้งตัวเขา เย่ว์เยี่ยน เย่ว์ฟง จากนั้นไม่รอให้ตงฟางได้มีโอกาสพูด ลำแสงเทพฉายจากฟากฟ้ารับผู้เยาว์ตระกูลเย่ว์ ตระกูลเสวี่ย ตระกูลฟง และตระกูลเหยียนที่ตั้งใจตายอย่างบริบูรณ์ ไม่เปิดโอกาสให้ตงฟางได้ล่อลวง  บางทีพวกเขาคงไม่สามารถทนต่อการล่อลวงของตงฟางได้ แต่พวกเขามีความตั้งใจแน่วแน่อย่างหนึ่งคือจะไม่ทรยศตลอดไป

ตงฟางแหงนหน้ามองดูอากาศ

เป็นเวลานาน

เขาไม่พูดอะไรสักคำ

เงาร่างของมือสังหารเทพถูซื่อถอนหายใจยาว  “ตงฟาง! บ้านเกิดของเจ้ามีพวกหัวแข็งดื้อรั้นมากกว่าบ้านเกิดข้าเสียอีก บางทีคงเป็นเพราะเหตุนี้ตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ถึงได้ทุ่มกำลังทำลายให้หมดสิ้น  ข้าเข้าใจความรู้สึกของเจ้า  ถ้ามีทางเลือก ใครจะยอมเป็นคนทรยศ  อย่างไรก็ตามถ้าเราอยู่บนเส้นทางแล้วก็ต้องไปต่อให้จบ เพราะเราไม่สามารถย้อนกลับได้...  ทางเลือกของชีวิตก็คือทางเลือกของโชคชะตา  เราตัดสินชะตาของเราเองโดยไม่ได้ตั้งใจ!  นี่คือตัวเลือกของเราเอง ไม่ว่าจะถูกหรือผิดไม่มีอะไรสำคัญ  นี่คือเส้นทางที่ไม่มีทางย้อนกลับ มีแต่ต้องก้าวต่อไปข้างหน้าเท่านั้น!

11 ความคิดเห็น:

Pcha กล่าวว่า...

ดีงาม

oldmonkey กล่าวว่า...

หลอกไม่ได้สักคน55

CHANTANA กล่าวว่า...

สฺดฯเลยแต่ละคน

blakaros กล่าวว่า...

ทั้งเพื่อนทั้งครอบครัว ไม่ได้เลวร้ายไปทั้งหมดสินะ

Failz กล่าวว่า...

แผนของตงฟาง กลายเป็นช่วยพี่เย่ว์สะงั้น

oBABYVOXo กล่าวว่า...

ยอมตายดีกว่าเป็นคนทรยศ

Sairys กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

SorathornBest กล่าวว่า...

เติมทรูอยู่รอแปปนึงนะ

Unknown กล่าวว่า...

สรุป อ่านไป อ่านมา ตงฟาง โง่สุด เป็นคนไร้ศรัทธา ไม่มีความเชื่อในสิ่งที่ถูก คิดแค่ว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นถูก สิ่งที่คนอื่นทำนั้นเป็นเรื่องโง่เขลา ยิ่งอ่านยิ่งสงสารตงฟาง อยู่เหนือคนอื่นเพื่อเหยียบย้ำคนอื่น แต่อีกคนแข็งแกร่งเพื่อปกป้อง ถามคนอ่านคุณจะตามใคร

ïиƒïиï†ч гє†гч กล่าวว่า...

ระบบเติมทรูช้าจังว้า

Kingtest5 กล่าวว่า...

เหมือนตงฟางจะยอมเสียสละเป็นคนเลวเพื่อให้หอทงเทียนรุ่งเรืองเลย

แสดงความคิดเห็น