วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1306 ความสำเร็จผ่านเจ้าแม่จันทรา

 

ตอนที่  1306  ความสำเร็จผ่านเจ้าแม่จันทรา

คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์

 

คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมาพร้อมกับเย่ว์หยางเติบโตก้าวหน้ามาพร้อมกัน บ้านเดิมที่งดงามซึ่งเย่ว์หยางและเสวี่ยอู๋เสียสร้างขึ้น มีการพัฒนาขยายพื้นที่หลายครั้ง พังทลายภายใต้พลังชะตา กลับคืนสู่สภาวะโลกที่ปั่นป่วนวุ่นวาย

ขณะที่เย่ว์หยางลอยลงมาจากแสงชะตา

เท้าสัมผัสพื้น

เขาพบว่าคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นเหมือนด่านที่สิบของมิติฝึกฝนในคัมภีร์เทพ เป็นพื้นที่ปั่นป่วน

ที่นี่คือบ้านที่แท้จริงของเขา บ้านหลังน้อยในเมืองไป๋เฉิง และบ้านสวนน้อยอยู่อีกด้านหนึ่ง  แต่นั่นเป็นที่ระลึก  ถ้ามีเวลาว่างเขาสามารถอยู่ที่นั่นได้สักวันหรือสองวันระลึกถึงความทรงจำที่เขาเริ่มต้นอยู่กับแม่สี่และน้องสาวอีกสองคนเป็นบ้านที่อบอุ่นผูกพันชะตาร่วมกัน จากนั้นเป็นบ้านที่เขาเริ่มต้นความสัมพันธ์กับอู๋เหิน โล่วฮัว เริ่มต้นชีวิตคู่ในบ้านสวนน้อย แน่นอนเขาต้องพักอยู่ที่นี่

เพียงแต่ในพื้นที่มิติคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์นี้ เขาควรสร้างโลกใหม่ยังไงดี

ต้องสร้างโลกอีกครั้ง

ความจริงไม่ใช่เรื่องยาก

เย่ว์หยางเคยใช้พลังเทพชะตามาก่อน และมีประสบการณ์มากขึ้น

คำถามก็คือในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์และกฎคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์เดิม ตัวของเขาจะสร้างโลกแบบไหนให้เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน เขาเชื่อว่าในอนาคตไม่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้น ยังมีแม่สี่และจักรพรรดินีราตรี ฝ่าบาทและคนอื่นๆ อาจตั้งรกรากอยู่ที่นี่เป็นเวลานานได้

“หรือจะรอให้พวกนางตื่นขึ้นแล้วค่อยรวบรวมความคิดทุกคนก็ได้!

เย่ว์หยางอุ้มจื้อจุนที่ยังคงหลับอยู่ในอ้อมแขนของเขา

มองดูรอบๆ

ทั้งโลกตกอยู่ในสภาวะสับสนวุ่นวาย มีแต่ตัวเขากับจื้อจุนเท่านั้นที่ยังคงอยู่

เสวี่ยอู๋เสีย องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน โล่วฮัว อี้หนาน เย่ว์ปิงและเย่ว์หวี่ยังคงหลับสนิทไม่รู้ว่าจะตื่นขึ้นเมื่อใด

ความขัดแย้งทางจิตใจของเขาในปัจจุบันนี้อยู่ในระดับสูงมาก และเขาต้องการจะวางจื้อจุนในอ้อมแขนลงและลอบเผ่นออกไปทันที  แต่เขาก็ยังลังเลไม่อยากสูญเสียโอกาสที่สวรรค์ประทานมาให้  เป็นเรื่องยากที่จะได้จื้อจุนมาอยู่ในอ้อมกอด โอกาสเช่นนี้อาจหาไม่ได้อีกในอนาคต  หากเขาไม่ได้ใช้โอกาสนี้สักพัก จะสายเกินไปถ้าจะกลับมาคิดในภายหลัง  แต่ถ้าเขายังคงกอดนางต่อไป ถ้าจื้อจุนตื่นขึ้นมานางโกรธเข้า จะไม่มีใครช่วยเขาได้...  โฮ่ย.. เขาจะทำยังไงดี?  ทำไมคนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาต้องเป็นจื้อจุนด้วย ทำไมไม่ใช่คนอื่น?

ถ้าเป็นฝ่าบาท แม้ว่าจะน่ากลัวบ้าง แต่คงไม่รู้สึกปวดตับขนาดนี้!

เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?

เย่ว์หยางพบว่าเขาไม่สามารถคิดอะไรได้ชั่วขณะ?

นี่ไม่เหมือนกับความจำเสื่อม บางทีอาจเป็นข้อมูลชะตาของทุกคนมาบรรจบกันก็ได้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาเป็นผู้นำแห่งชะตาและได้รับหลายสิ่งหลายอย่างมากเกินไป  กลไกการทำงานในสมองไม่สามารถป้องกันตนเอง และข้อมูลจำนวนมากถูกผนึกชั่วคราว  จากนั้นค่อยๆ ปล่อยความรู้ตามความเหมาะเหมือนกับความรู้ที่ได้จากมารดาเขา

“จำไม่ได้หรือ? ให้ข้าช่วยเตือนความจำเจ้าไหม?”  เสียงไพเราะเหมือนธรรมชาติดังขึ้นข้างหลังเย่ว์หยาง

จากนั้นแขนขาวราวกับกลีบบัวยื่นออกมาจากด้านหลัง

โอบกอดเขาจากด้านหลัง

เย่ว์หยางตกใจ

หันไปมองข้างหลัง

เขาพบว่าด้านหลังเขาเป็นหญิงสาวอีกคนหนึ่ง

นางไม่ใช่ใครอื่น นางคือเทพธิดาประกายจันทราอสูรพิทักษ์ของจื้อจุนซึ่งจื้อจุนไม่ค่อยให้นางปรากฏตัวให้เห็น

คราวนี้นางกับเทพธิดาประกายจันทรามีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นพลังหรือระดับนักสู้  เทพธิดาประกายจันทราแข็งแกร่งกว่าเมื่อตอนแบกรับพลังชะตาถึงร้อยเท่า บางทีอาจจะมากกว่านั้น ด้านบนศีรษะนางมีวงรัศมีจันทราถึงสามวง  พลังของนางเหนือล้ำยิ่งกว่าเทพปีศาจเว่ยกวงที่เย่ว์หยางไม่อาจเอาชนะได้อย่างสิ้นเชิง   ที่สำคัญที่สุดก็คือหน้าผากของนางมีสัญลักษณ์ที่เป็นเครื่องหมายว่านางเป็นภรรยาของเย่ว์หยาง

“นี่ นี่ นี่ เรื่องนี้...”  เย่ว์หยางมีท่าทางโง่งมในตอนแรก

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะลืมจริงๆ น่าเศร้ามาก!  เทพธิดาประกายจันทรา แม้ว่าปากจะพูดอย่างนี้ แต่ใบหน้าของนางแทบจะเหมือนกับจื้อจุน และมีโอกาสเข้าใจผิดได้ง่าย นางยิ้มอย่างซุกซน

นางยกมือซ้ายกรีดกรายชี้ที่หน้าผากของเย่ว์หยาง

อย่างนุ่มนวล

เหมือนดอกไม้ปริศนาในใจผลิบาน ความทรงจำที่ถูกผนึกชั่วคราวถูกปลดปล่อย

ความทรงจำหลั่งไหลพรั่งพรูออกมาราวกับสายน้ำจนเต็มหัวใจของเย่ว์หยางทันที  เขารู้และเข้าใจพัฒนาการของเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างเต็มที่ทันที

เรื่องเป็นเช่นนี้ – เมื่อพลังชะตาเทพราชันย์เพิ่มจนถึงขีดจำกัด  ทุกคนเข้าไปอยู่ในแสงเทพและตกเข้าไปในคัมภีร์อัญเชิญทั้งสามเหลือแต่เพียงเย่ว์หยาง รอให้เย่ว์หยางผ่านกระบวนการขั้นสุดท้าย การรับภาระชะตาของทุกคนจึงจะสำเร็จ  อย่างไรก็ตามเนื่องจากระยะทางไกลเกินไป  จื้อจุนที่ยังรีบลงบันไดมาด้วยพลังสุดท้ายของนาง  เนื่องจากไม่สามารถมาทันช่วงเวลาสุดท้ายได้ทัน  แม้ว่าเขาไม่จำเป็นต้องให้จื้อจุนช่วย และเย่ว์หยางมีพลังชะตามากพอสำหรับการเลื่อนระดับ  ลึกๆ ในใจของเขาไม่ต้องการให้มีความเสียใจแบบนี้

เขาหวังว่าชะตาของจื้อจุนจะเชื่อมโยงกับเขาตลอดไป

ไม่แยกจากกัน

เวลาช้าเกินไป

ในขณะนั้นเทพธิดาประกายจันทรา อสูรพิทักษ์ของจื้อจุนที่กำลังแบกรับพลังชะตาตามมาอยู่ใกล้ๆ ปล่อยวางพลังชะตาทันที... และนางเคลื่อนไหวอย่างที่เย่ว์หยางไม่คาดคิด

นางถอดเกราะและเปลืองเสื้อผ้าออกข่มความอายและฉีกเสื้อผ้าและเกราะรบของเย่ว์หยางออกเช่นกันกดร่างเขาลง ในฐานะอสูรพิทักษ์ของจื้อจุนและฝึกพลังคู่รักกับเย่ว์หยางเป็นนักสู้ระดับเทพคนแรกที่เป็นภรรยาของเย่ว์หยาง ในเวลาเดียวกันการเปลี่ยนแปลงชะตาผ่านการฝึกพลังคู่รักนี้ ทำให้ชะตาของเย่ว์หยางกับจื้อจุนเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด

ในช่วงเวลาสุดท้ายที่เป็นไปไม่ได้ที่จื้อจุนจะมาถึงได้ทัน เพราะกฎสวรรค์ของบันไดสวรรค์

แสงเทพศักดิ์สิทธิ์ถูกดูดซับทันที

เย่ว์หยางกับเทพธิดาประกายจันทราและจื้อจุนทั้งสามถูกดูดเข้าไปในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ชะตาของทั้งสามหลอมรวมกันแล้ว จากนี้ต่อไปจะไม่มีวันพรากจากกันอีก

“ผลลัพธ์เช่นนี้ย่อมดีที่สุด แต่ข้าไม่รู้จะอธิบายนางอย่างไรเมื่อนางฟื้นได้สติ” เย่ว์หยางเข้าใจแล้ว เขาโอบกอดเทพธิดาผู้กล้าหาญซึ่งพยายามอย่างหนักเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ถ้าไม่ใช่เพราะนางเป็นฝ่ายเริ่มฝึกพลังคู่รักกับเขาซึ่งยังถูกพลังชะตาหนึ่งกิโลเมตรกดทับ  จื้อจุนกับเขาคงเชื่อมโยงชะตาไม่ทันเวลาเป็นแน่

“ไม่ต้องอธิบาย นางย่อมรู้แน่นอน” เทพธิดาประกายจันทราหัวเราะ

“.......” เย่ว์หยางหลั่งเหงื่อ

ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง

คาดว่าจื้อจุนเมื่อตื่นขึ้นคงคว้ามีดเล่มใหญ่ไล่ฟันเขา ต่อให้เขาต้องการซ่อนตัวจากนางก็ไม่มีทางซ่อนตัวได้พ้น

เทพธิดาประกายจันทรามองดูจื้อจุนชั่วขณะและหันมองดูรอบๆ นางพบว่ามีนางกับเย่ว์หยางสองคนเท่านั้นที่ฟื้นคืนสติ นางกระซิบใกล้หูเย่ว์หยางทันที “ทุกคนยังหลับอยู่ ทำไมเราไม่ฝึกพลังคู่รักกันต่อ?”

“ตอนนี้หรือ?” เย่ว์หยางอุทาน

จื้อจุนอยู่ตรงนี้

ถ้านางตื่นขึ้นมาและเห็นว่าเขากำลังโรมรันพันตูกับเทพธิดาประกายจันทรา เขาตายแน่!

เทพธิดาประกายจันทราดูเหมือนไม่กังวลเช่นนั้น นางจูบแก้มเย่ว์หยางและปลอบโยนเขาเบาๆ “ไม่เป็นไร ความเคลื่อนไหวเล็กน้อยของเรา ยกเว้นเราแล้วจะไม่มีใครตื่นขึ้นมาทันที  นอกจากนี้หากเจ้าต้องการจะยอมรับและเป็นผู้เชี่ยวชาญพลังเทพราชันย์ในทุกด้าน ประมาณกันว่าต้องใช้เวลาหลายหมื่นหลายพันปีขึ้นไปก็ยังไม่พอ เพราะพลังชะตาที่ทุกคนร่วมแบกรับให้เจ้านั้นยิ่งใหญ่เกินคาด  ถ้าเราฝึกฝนพลังคู่รักตอนนี้ เจ้าจะสามารถคุ้นเคยและใช้ประกายเทพกับพลังเทพของเจ้าได้ ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถท้าทายเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ได้  แต่สำหรับตงฟางคนทรยศ เจ้าเอาชนะได้สบาย”

“เจ้าทรงพลังในครั้งเดียวแบบนั้นได้อย่างไร?”  เย่ว์หยางไม่เข้าใจ เพราะการเปลี่ยนแปลงของเทพธิดาประกายจันทราทำให้เขาสับสนเล็กน้อย

“ถ้าไม่ใช่เพราะตัวร้ายเจ้า....”  เทพธิดาประกายจันทราหน้าแดงเล็กน้อย

ไม่จำเป็นต้องพูด เย่ว์หยางเข้าใจได้

การฝึกพลังคู่รัก

การหลอมรวมชะตาของทั้งสองด้วยกันช่วยให้นางเป็นภรรยาระดับเทพของเทพราชันย์

นี่คือพันธะระหว่างสามีและภรรยา ได้รับการยอมรับโดยประกายเทพ ใกล้เคียงกับสัญญาของอสูรพิทักษ์กับเจ้าของและเป็นปริศนา

“ตอนนี้ข้าไม่ใช่เทพธิดาประกายจันทรานักสู้ระดับเทพคนเดิมอีกแล้ว เพราะชะตาทั้งหมดของข้าเปลี่ยนไปเป็นพันธสัญญาภรรยาเทพราชันย์ และได้รู้แจ้งผ่านการฝึกพลังคู่รักถึงขอบเขตพลังใหม่ ความขาด (ข้างแรม) ความบริบูรณ์ (ข้างขึ้น) และความนิรันดร์ ข้าได้รับพลังชะตาจากเจ้า พลังของข้าจึงเป็นพลังชะตาจันทรา เพราะฉะนั้นในเวลานี้ไม่ว่าจะเป็นคืนจันทร์เพ็ญ คืนเดือนแรม พลังของข้าจะเต็มไม่มีขาดพร่องอยู่เสมอ  ไม่มีอำนาจพลังใดที่จะยับยั้งตัดขาดดวงจันทร์ที่ผูกพันอยู่กับโลก กฎนี้กำหนดโดยหัวใจของข้า...  ข้าสามารถเปลี่ยนแปลงได้ดังใจไม่ถูกจำกัด นี่คือพลังระดับใหม่ของข้า ดังนั้นต่อไปให้เจ้าเรียกข้าว่า ฮ่วนเยี่ย (เจ้าแม่จันทรา)”

“ฮ่วนเยี่ย?” เย่ว์หยางคิดไม่ถึงเลยว่าเทพธิดาประกายจันทราซึ่งแต่เดิมพลังฝึกฝนอยู่ในขั้นนักสู้ระดับเทพ จะสามารถก้าวไปได้ไกลรวดเดียวมีพลังมากขึ้นถึงร้อยเท่า

บางทีผ่านการฝึกฝนครั้งนี้

ทำให้นางเป็นตัวตนพลังที่แท้จริง

ก่อนหน้านี้ทั้งหมดเป็นเพราะจื้อจุน

พอฝึกพลังคู่รักจึงส่งผลให้ทั้งสามคนมีพลังเพิ่มขึ้นสามารถแบกรับพลังชะตาให้สูงขึ้น

“ข้ารู้ว่าข้าไม่สามารถแทนนางได้ ข้าไม่มีทางแทนนางได้  แต่ข้าหวังว่าข้าจะสามารถช่วยให้เจ้าได้มีความสุขและเป็นการสนับสนุนที่แตกต่าง ดังนั้นข้าจึงปลุกปลอบความกล้าของตนเองมอบทุกสิ่งทุกอย่างยอมเป็นภรรยาเจ้า บางทีเวลาที่เราอยู่ด้วยกันอาจจะสั้นไปบ้าง แต่ข้าแน่ใจว่าข้าจะเป็นภรรยาที่ดีให้เจ้าได้”

เทพธิดาประกายจันทรา ไม่.. ฮ่วนเยี่ยมีร่างอมตะผ่านการผลัดกระดูกเปลี่ยนเส้นเอ็นโอบคอแนบใบหน้าเย่ว์หยางและประทับริมฝีปากกับเย่ว์หยางแขนของนางโอบเย่ว์หยางแนบแน่น

เจ้าแม่จันทราฮ่วนเยี่ยไม่ได้อยู่ห่างจากจื้อจุน แต่นางกลับจับมือของเย่ว์หยางอย่างกล้าหาญ

มากดลงที่ยอดอก

อีกทางหนึ่ง

ให้เขาซบหน้าลง

ดูเหมือนว่าวิธีการที่กล้าและมีเสน่ห์ยั่วยวนนี้ในการทำให้เขาตระหนักถึงความเหมือนและความต่างระหว่างทั้งสอง ให้เข้าในความเป็นเอกลักษณ์ของนางและเจ้านายนางเงียบๆ

ความเคลื่อนไหวของนางแผ่วเบานุ่มนวลเป็นตามจังหวะไม่มีเสียง

ไม่ใช่ว่านางไม่เต็มใจที่จะพูดหรือไม่พอใจ แต่เป็นความเข้าใจเห็นใจ รู้ดีว่าเขามีสัญชาตญาณเกรงกลัวแต่จื้อจุน  นางหวังว่าเขาจะผ่อนคลายเบาใจได้เล็กน้อยแน่นอน  แน่นอนว่าเย่ว์หยางผ่านการฝึกพลังคู่รักสามีภรรยากับนางมาแล้ว กำจัดความหวั่นเกรงไม่กล้าเต็มร้อย เขาตื่นเต้นกับความรู้สึกในวิญญาณ แต่ก็ยังมีสติ ใจหนึ่งก็อดมองจื้อจุนไม่ได้

เขากังวลว่านางจะตื่นขึ้นมาในเวลาใดเวลาหนึ่งก็ได้

ทั้งที่รู้ว่าเป็นอย่างนี้ก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้

แต่ถ้าเขาไม่มอง  เขารู้สึกเหมือนว่าเขามีความผิดปกติ ไม่มีทางสงบใจได้

“หรือว่าความจริงนี่เป็นกลโกงอย่างหนึ่ง?”  เย่ว์หยางยังอดคิดยุ่งเหยิงไม่ได้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในการนอนหลับของจื้อจุนก็เหมือนฝึกพลังคู่รักควบคู่ไปกับเทพธิดาฮ่วนเยี่ย  และนั่นเป็นความเย้ายวนมากขึ้น  เพราะด้วยวิธีนี้ทำให้มีความสุขเพิ่มขึ้นเป็นสิบๆ เท่า

11 ความคิดเห็น:

CHANTANA กล่าวว่า...

จัดเลยเบย555555

Popcorn กล่าวว่า...

ได้มาอีก2แต้ม

นัดบ้า กล่าวว่า...

นี่มันคือแซนวิสในตำนาน

Pcha กล่าวว่า...

เยสๆๆๆๆ

blakaros กล่าวว่า...

รายนี้มาอย่างงงๆจริงๆ

Sairys กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

oBABYVOXo กล่าวว่า...

จัดหนักๆเลย

Failz กล่าวว่า...

ขอบคุณ​คับ

Apirak Panyakam กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Anunaki กล่าวว่า...

ทั้ง 2 อาจจะตื่นทั้งคู่ไหมนะ

ïиƒïиï†ч гє†гч กล่าวว่า...

จัดทั้งสองไปดิ สามก็เคยมาแล้วกลัวอัลรายยย

แสดงความคิดเห็น