วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1373 ลาก่อน

 

ตอนที่  1373  ลาก่อน

เย่ว์หยางไม่ได้หลบหนีจากโลกกระจก แต่จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อมาถึงที่สุดแล้ว

 

เขาแบกภูเขาเทพศักดิ์สิทธิ์ไว้บนหลังและยังคงอยู่ห่างจากทะเลมรณะไม่ไกลนัก  แต่ระยะทางสั้นๆ นี้เหมือนกับเป็นคู่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา  เขาแบกภูเขาเทพศักดิ์สิทธิ์และเสี่ยงทิ้งชีวิตในช่วงหมื่นเมตรสุดท้าย.. ไม่ใช่ว่าเขาไม่ยืนยันสู้ แต่นี้เป็นงานที่เป็นไปไม่ได้เลย!

ด้วยร่างกายที่บาดเจ็บบอบช้ำอย่างหนัก และแบกภูเขาเทพศักดิ์สิทธิ์โดยการหลอมรวมพลังเทพตนเองกับภูเขาเทพศักดิ์สิทธิ์  เทพพิทักษ์ทะเลมรณะเอาก็ทุ่มเทพลังเพื่อหยุดยั้งเขา

แต่ละย่างก้าวของเขาล้วนเผาผลาญพลังชีวิต

จนมาถึงปัจจุบันนี้ได้

ในชีวิตของเขานี่ถือเป็นปาฏิหาริย์ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว!

“ข้าไม่มีพลังโชคชะตาอยู่ในตัวอีกแล้ว” จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อก้มหน้า ไหล่และกระดูกสันหลังของเขาไม่สามารถแบกรับภูเขาเทพศักดิ์สิทธิ์ได้อีกต่อไป

ภูเขาเทพศักดิ์สิทธิ์ร่วงหล่น  ขอบภูเขาอยู่ห่างจากทะเลมรณะหมื่นเมตร

เทพพิทักษ์แห่งทะเลมรณะ แม้จะถอยกลับไปที่ทะเลมรณะ แต่เขาก็เหงื่อท่วมถึงเข่าเช่นกัน

ทั้งหมดนี้ยุติลงแล้ว บุรุษผู้สร้างปฏิหาริย์ที่ใหญ่ที่สุดหยุดแล้ว ไม่สามารถไปต่อได้อีก

“ภูผาเอย ถ้าภพหน้ามีข้าขอเป็นไม้ใหญ่ที่พึ่งพาอาศัยกันไม่มีวันแยกจากกัน” จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อยื่นมือขนาดใหญ่โผล่ออกมาจากด้านล่างของภูเขาเทพศักดิ์สิทธิ์ ดูเหมือนเขาต้องการกอดร่างกลายเป็นหินที่ร่วงลงมาจากยอดเขาเทพศักดิ์สิทธิ์ นางหมดพลังวิญญาณและตายจากร่างศิลา ร่างศิลาร่วงลงมาที่เชิงเขาเทพศักดิ์สิทธิ์แตกเป็นชิ้นๆ  ไม่ใช่รูปสลักที่สวยงามอีกต่อไปแล้ว แต่ยังสะอาดเนื้อดีราวกับหยก เป็นประกายสว่างไสวราวกับเพชรโดยไม่ถูกฝุ่นโคลนเปื้อนเปรอะ

ดูเหมือนว่ากลิ่นอายของวิญญาณจะครอบคลุมอยู่ที่นิ้วและฝ่ามือของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ

จักรพรรดิไร้เทียมขยับมุมปาก คล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม

อย่างช้าๆ

ค่อยๆ ตาย

เขาไม่มองดูใครอื่น

ในขณะนี้ไม่ว่าศัตรูเก่าจะได้รับชัยชนะหรือพ่ายแพ้ แต่ในความคิดของเขากลับคิดไปถึงจุดเริ่มต้น...  ไม่มีความกังวล ไม่มีอะไรต้องไตร่ตรอง ไม่มีอะไรเหลืออยู่ มีแต่ความบริสุทธิ์ตามธรรมชาติ ความคงอยู่ดั้งเดิม

“แสวงหาคุณงามความดี จากนั้นแสดงคุณงามความดี  เจ้าเป็นแบบนี้มานานแล้วใช่ไหม? รู้ว่าจะต้องล้มเหลว แต่เจ้าก็ยังดึงดันยืนกราน  จักรพรรดิไร้เทียมทาน เจ้าสามารถเอาชนะทุกคนได้ แต่น่าเสียดายที่เจ้าไม่สามารถเอาชนะโชคชะตาของเจ้าได้!   ถึงอย่างนั้นเจ้าก็ต้องท้าทายให้ถึงที่สุดใช่ไหม? ใช่แล้ว เจ้าเป็นคนหยิ่งยโสมาโดยตลอด  ถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็นศัตรูเช่นนั้น  แต่เจ้าก็ควรแก่การจดจำและเป็นที่ชื่นชมของเราผู้เป็นเทพ!  เมื่อเป็นเช่นนี้ เราผู้เป็นเทพนี้ขอส่งเจ้าเดินทางเป็นครั้งสุดท้าย!  เทพพิทักษ์แห่งทะเลมรณะเหยียดมือ  พลังเทพอันยิ่งใหญ่กำลังจะเทลงมาจากท้องฟ้า ทันใดนั้นเขาหยุดนิ่ง และถอนหายใจ

ในขณะถอนหายใจ ร่างเทพขนาดยักษ์ของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อสลายจนเหลือแต่ความว่างเปล่าราวกับฝุ่นควัน แม้แต่วิญญาณไม่รู้ว่ากลับสู่สภาพโกลาหลตั้งแต่เมื่อใด  ไม่จำเป็นต้องลงมือแล้ว  จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อตายแล้ว

ทันทีที่ภูเขาเทพศักดิ์สิทธิ์ที่เขาแบกอยู่นั้นถูกวางลง ก็เป็นอันตัดสินว่าจบลงแล้ว

“ลาก่อนศัตรูเก่าในชีวิตของข้า  บุรุษผู้หยิ่งผยองที่สุดและทรงพลังที่สุดในหอทงเทียน!  ศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดล้มตายต่อหน้า เทพพิทักษ์ทะเลมรณะดูเหมือนไม่ได้มีความสุขแต่กลับรู้สึกเศร้าอย่างมิอาจบรรยายได้  หากไม่มีคู่ต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต หากไม่มีคู่ต่อสู้ผู้นี้คอยกดดันจิตใจเขาให้รู้สึกอึดอัดยากจะวางใจตลอดมา  ชัยชนะนี้ไม่ได้นำมาซึ่งความโล่งใจและตื่นเต้นเลย แต่กลับเป็นความเดียวดายที่กัดกินลึกถึงไขกระดูก

หลังจากไว้อาลัยให้กับศัตรูแข็งแกร่ง

หันหน้ากลับมา

เทพพิทักษ์ทะเลมรณะกลับคืนอารมณ์ปกติทันที เขาฟื้นฟูพลังและความเหี้ยมโหดทันทีและตวาดไปทางเหล่าเทพทะเลมรณะจำนวนมากที่กำลังรุมล้อมเล่นงานฮุยไท่หลางราวกับฟ้าฟาด  “พวกเจ้าทำอะไรกันอยู่?  แค่หมาตัวเดียวยังจัดการไม่ได้ พวกเจ้ายังกล้าเรียกตัวเองว่าเผ่าพันธุ์เทพอีกหรือ?”

ความโกรธของเขาทำให้เหล่าเทพทะเลมรณะได้แต่ก้มหน้า ไม่มีใครกล้ามองเทพผู้ทรงพลังโดยตรง

เจี้ยนจางเซิงและชี่ตันจื้อมองดูมังกรปีศาจอย่างกระวนกระวาย

เทพพิทักษ์ทะเลมรณะผู้ทรงพลังมากที่สุดเอาชนะจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อได้ ทั้งเอาชนะชะตาตนเองได้ พวกเขาควรจะทำอย่างไรดี?

มังกรปีศาจหลับตาและส่ายหน้าเบาๆ เขารู้ว่าทุกอย่างกำลังจะจบลงและความหวังริบหรี่ในใจของเขายังไม่ปรากฏ.... อันที่จริงเขารู้ว่ามันจะจบแบบนี้นานแล้ว  แต่เขาก็ยังเลือกจะสนับสนุนผู้น้องของเขา และเลือกฝ่ายที่เป็นไปไม่ได้ที่จะชนะโดยไม่ลังเลใจ  บางทีความล้มเหลวนี้อาจกลายเป็นแรงจูงใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเย่ว์หยาง  และจะเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จอีกครั้งสำหรับเด็กคนนั้นในอนาคต  แต่ครั้งนี้ในการต่อสู้ครั้งนี้คงไม่อาจพลิกสถานการณ์ได้แน่นอน  เขายังอายุน้อยเกินไปที่จะใช้หมัดมือทั้งสองพลิกสถานการณ์ทั้งโลกได้

หลังจากต้องจ่ายคุณค่าอย่างหนักในครั้งนี้ เขาจะเข้าใจ และนี่จะเป็นผลให้เขาก้าวหน้าไปสู่ความสำเร็จ

ถึงเวลานั้น

อนาคตของเขาคงไม่มีใครขวางได้

ตอนนี้เล่า? เขาคงได้แต่ถูกรังแกอย่างน่าสังเวช และไร้กำลังที่จะดิ้นรนตอบโต้กลับ!

“ไม่มีทางอื่นอีกแล้วใช่ไหม?”  เจี้ยนจางเซิงมองดูมังกรปีศาจไม่ลดละ อีกเพียงเล็กน้อยเย่ว์ไตตันจะหนีพ้นจากความยุ่งยากในโลกกระจกได้  เขาคิดอะไรไม่ออกจริงๆ หรือ?

“บางทีอาจมี แต่เราไม่รู้” มังกรปีศาจไม่ยินดีแน่นอน หากเขายังมีกำลังสักเล็กน้อย ถ้าเขาสามารถลุกยืนขึ้นได้ เขาจะไม่มีวันยอมแพ้ และจะไม่ยอมนั่งดูผู้น้องของเขาถูกข่มขี่รังแกอย่างไร้ความปราณี  แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้อีกต่อไป เขากลั้นหายใจลองขยับนิ้วก็ยังทำไม่ได้ นอกจากนอนดูอย่างช่วยไม่ได้ เขาจะทำอะไรได้?

เทพพิทักษ์ทะเลมรณะไม่มองมังกรปีศาจ ในสายตาของเขาไม่เคยเห็นมังกรปีศาจเป็นศัตรูที่คู่ควรให้ความสนใจ

แม้ว่ามังกรปีศาจจะดุร้าย แต่มีจุดอ่อนมากเกินไป

นักสู้ผู้แข็งแกร่งแต่มีจุดอ่อนไม่สามารถขึ้นไปถึงระดับจอมราชันย์ได้  เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นคู่ต่อสู้ระดับสูงสุด

สายตาของเขามองไปที่คนเพียงคนเดียวก็คือเย่ว์ไตตันที่อยู่ในโลกกระจก  เด็กหนุ่มคนนี้คุกคามเขาที่เป็นราชันย์แห่งเทพได้

“เราผู้เป็นเทพต้องยอมรับจริงๆ ว่าเมื่ออยู่ในวัยเดียวกัน ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน เราผู้เป็นเทพไม่ได้แม้แต่หนึ่งในสิบของเจ้าที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้  น่าเสียดายที่เจ้ายังเด็กมาก ไม่มีพื้นฐานผู้สนับสนุน  ก็เท่ากับถูกตัดสินให้ล้มเหลวตั้งแต่แรก  โปรดอภัยให้ข้าด้วย  หอทงเทียนมีแค่จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อก็พอแล้ว เราผู้เป็นเทพไม่ต้องการเห็นคนที่สองอีก สงครามต่อสู้ระหว่างเขากวงหมิงแดนสวรรค์และหอทงเทียน เราผู้เป็นเทพต้องเอาเผ่าพันธุ์เทพทั้งดินแดนกวงหมิงมาเป็นเดิมพัน เราไม่ต้องการให้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองอีกต่อไป” เทพพิทักษ์ทะเลมรณะก้าวเข้าไปในพื้นที่มิติกระจกอย่างใจเย็น ตราบเท่าที่เขาลงมือการสู้รบทั้งหมดจะจบลง

เย่ว์ไตตันจะพ่ายแพ้

เขาจะพ่ายแพ้ต่อการวางแผนที่สมบูรณ์แบบของตงฟางและเทียนอี้ผู้มีความอดทน  พ่ายแพ้ให้กับความทุ่มเทอย่างไม่เห็นแก่ตัวของเทพพิทักษ์เขากวงหมิงและเทพพิทักษ์ทะเลมรณะผู้ทุ่มเทอย่างบ้าคลั่ง  พ่ายแพ้ต่อโชคชะตา  และการพ่ายแพ้ต่อโชคชะตานั้นไม่สามารถพลิกกลับได้ เพราะนั่นไม่ใช่การประลองชะตาของตนเอง

หลังจากจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อตาย ก็จะมีสุดยอดอัจฉริยะของหอทงเทียนที่เพิ่งโดดเด่นขึ้นมาตายตามเขาไปด้วย

สมมติว่านางพญาผู้พิชิตในอีกสนามรบหนึ่งถูกสังหาร

อย่างนั้น

หอทงเทียนจะล่มสลายไปตลอดกาล สามเผ่าพันธุ์ใหญ่ มนุษย์ชาวมังกรทะยาน, แดนนรก และบันไดสวรรค์จะสูญสลายไปกับแม่น้ำสายประวัติศาสตร์ไปตลอดกาล

“โฮ่งๆ!” ฮุยไท่หลางเต็มไปด้วยเลือดทั้งร่าง จากการถูกรุมโจมตีหลายพันครั้ง  มันอ้าปากยักษ์ต่อหน้าโลกมิติกระจกและเห่าคำรามอย่างบ้าคลั่ง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันปกป้องเจ้านายของมัน แต่อาจจะเป็นครั้งสุดท้าย  ไม่ว่ายังไงก็ตาม มันจะไม่ยอมให้ศัตรูคุกคามเจ้านายของมันจนกว่ามันจะล้มตายลง เจ้านายมอบทุกสิ่งทุกอย่างในวันนี้ให้มันมีทั้งเสียงหัวเราะและเสียงด่าทอ

“หมาป่าปีศาจล้างโลก เจ้าคือตัวโชคร้าย และเป็นตัวลางร้ายที่สุดในโลก”  เทพพิทักษ์ทะเลมรณะเอื้อมมือไปจับร่างที่บาดเจ็บสาหัสของฮุยไท่หลางยกขึ้น  “บางทีเจ้าคงไม่ได้คิดหรอกว่าการเกิดมาของเจ้า ก็คือการหยั่งรู้วิธีทำลายหอทงเทียน”

ม่านตาของฮุยไท่หลางรวมตัว ความปรารถนาสู้เหือดหายไปราวกับกระแสน้ำ

การกำเนิดของมันเอง

คือสัญญาณการทำลายหอทงเทียนหรือ? เป็นเพราะตัวมันหรือเปล่าที่ทำให้เจ้านายของมันต้องตกอยู่ในกับดักมรณะอย่างวันนี้?

หากเป็นเช่นนี้ มันมีชีวิตต่อไปจะมีประโยชน์อะไร?  ถ้าไม่มีตัวมันเอง บางทีเจ้านายอาจยังมีโอกาส...

ฮุยไท่หลางคอตกด้วยความหดหู่ จิตใจสิ้นหวังท้อแท้อย่างไม่เคยมีมาก่อน โลกทั้งใบ ชีวิตทั้งชีวิตของมันจืดจางด้วยความท้อแท้เสียใจ  การต่อสู้ไม่มีความหมายเลย ทุกอย่าง การต่อสู้ไม่ได้มีความสำคัญทั้งหมด เป็นสิ่งที่ผิดพลาด ไม่เพียงแค่นั้น การเติบโตและการดำรงอยู่ของมัน ทุกอย่างคือความผิดพลาด ถ้าหากไม่มีตัวมัน ก็คงไม่มีหายนะ นั่นจะเป็นเรื่องดีแค่ไหน?

บางทีเจ้านายอาจจะมีชีวิตที่มีความสุขมากขึ้น ทุกคนที่อยู่รอบตัวเขาต่างพูดคุยอย่างสนุกสนาน เพลิดเพลินกับขนมที่แม่สี่ปรุงเอง แม้แต่เด็กหญิงน้อยซวงเอ๋อก็คงเล่นร่าเริงอยู่รอบตัวเขา หัวเราะกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขไปทั่วสวนดอกไม้

ป่านนี้คงเป็นเช่นนี้แล้ว ถ้าตัวมันเองไม่มายังโลกนี้

ฮุยไท่หลางหลับตา

เมื่อเผชิญหน้ากับมือยักษ์ของเทพพิทักษ์ทะเลมรณะ มันไม่ดิ้นรนต่อ แต่เลือกที่จะยอมจบชีวิต

“ตายซะเถอะ, เจ้าไม่ควรเกิดมาในโลกนี้ การมีอยู่ของเจ้าถูกกำหนดให้เป็นจุดเริ่มต้นของความโชคร้ายของผู้อื่น จงกลับไปสู่ภพโกลาหลนิรันดร นั่นคือจุดหมายเดียวที่ดีที่สุดและเป็นจุดหมายสุดท้ายของเจ้า”  เทพพิทักษ์ทะเลมรณะกดกระแทกฮุยไท่หลางลงกับพื้น แสงเทพห้าสีในมือของเขาภายใต้กฎสวรรค์ราชันย์และภายใต้เจตจำนงสูงสุดคลุมไปทั้งร่างฮุยไท่หลางทีละนิดและกลืนกินมันเข้าไป

“เฮ้อ!” พวกเทพทะเลมรณะถอนหายใจโล่งอก

ไม่ว่าจะทำยังไงพวกเขาก็ฆ่าเจ้าสุนัขเถื่อนนี่ไม่ได้ แต่บัดนี้มันกำลังจะตายในที่สุด

หากไม่มีมัน ก็ไม่มีปัญหากวนใจจากสุนัขเถื่อน อย่างนั้นการต่อสู้ทั้งหมดจะไม่มีปัจจัยอ่อนแอที่ไม่แน่นอนคอยรบกวน  จะมีการประกาศชัยชนะการประลองโชคชะตาอย่างเป็นทางการได้เสียที

เมื่อวิญญาณฮุยไท่หลางแทบจะถูกทำลายเกือบหมด  มันมองดูเจ้านายที่อยู่ในโลกมิติกระจกอย่างไม่คลาดสายตาอย่างหดหู่ เขากำลังต่อดิ้นรนอย่างเต็มที่

แต่ถ้าชาติหน้ามีจริง

มันขอเป็นสุนัขเฝ้าบ้านธรรมดา

คอยหมอบอยู่ใกล้เท้าของเขา

คอยแทะกระดูกอย่างเกียจคร้าน ปล่อยให้หนูน้อยเย่ว์ซวงกระตุกหางมันเล่น... ตราบเท่าที่ได้กลับไปอยู่ในสวนงดงามที่สนุกและมีความสุขได้ ไม่ว่าจะเป็นอะไร จะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอแค่ไหน ไม่ว่าจะฉลาดหรือโง่แค่ไหนก็ตาม...

หมาเฝ้าบ้านโง่ๆ ขออำลา ไม่อย่างนั้นอาจจะไม่ได้พบกันอีก...

ขอลาก่อน..

ลาก่อน!

**** *** ****

6 ความคิดเห็น:

CHANTANA กล่าวว่า...

อย่าตายนะ

Unknown กล่าวว่า...

มาโง่ตอนท้ายซะงั้นหมาเรา ลืมคำพูดเจ้านายที่ว่า "เจ้าดิ้นรนเพื่อมีชีวิตรอดเหมือนข้า"

Kokuryu กล่าวว่า...

หมาแมลงสาปคงไม่ตายง่ายๆ แบบนี้หรอก

BJ กล่าวว่า...

ไม่นะตัวป่วน

Unknown กล่าวว่า...

ตอนหน้า ไทหลางคืนชีพ โหดกว่าเดิม

Pcha กล่าวว่า...

ตายจริงดิ

แสดงความคิดเห็น