วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2560

Panlong ตอนที่ 2-1 หนูเงา อสูรเวท



ตอนที่  2-1 หนูเงา อสูรเวท
“อสูรเวท หนูเงาน่ะหรือ?  ปู่เดลิน, หนูเงามีลักษณะพิเศษอะไรบ้าง  ในหมู่อสูรเวท มันอยู่ในระดับใด?”  ลินลี่ย์และเดลิน โคเวิร์ทสื่อสารกันทางจิต  แต่ขณะเดียวกัน ลินลี่ย์กำลังจ้องดูมันอย่างตื่นเต้น
เดลิน โคเวิร์ทยิ้ม เขาแกล้งกระแอมและอ้ำอึ้งอยู่ 2-3 วินาที  จากนั้นจึงพูดช้าๆ “อสูรเวท หนูเงาไม่สามารถไปจัดอันดับมันได้ง่ายๆ  ทั้งนี้เพราะมันเป็นตัวแทนของเผ่าพันธุ์หนูทั้งหมด  ในบรรดาสิ่งมีชีวิตประเภทหนู  มีหลักๆ อยู่สองสายพันธุ์ คือหนูกินศิลาและหนูเงา แต่หนูกินศิลาและหนูเงากินได้ทุกอย่าง  พวกมันกินอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นหิน กระดูก แม้กระทั่งเนื้อ”

ลินลี่ย์พยักหน้าในใจ
ตอนนี้ เขาเห็นหนูเงาสีดำกำลังแทะหินก้อนหนึ่ง
 “อสูรเวทถูกจัดไว้เป็นเก้าระดับ  อสูรเวทระดับแรกจะอ่อนแอที่สุด  และแน่นอนว่า ที่สูงกว่าระดับเก้า ก็คืออสูรเวทระดับเซียน!  เดลิน โคเวิร์ทยิ้มให้ลินลี่ย์  “ลินลี่ย์, หนูกินศิลาสายพันธุ์ที่อ่อนแอที่สุดก็คือหนูกินศิลาสีเทา  หนูกินศิลาระดับที่หนึ่งถึงสาม ทุกตัวจะมีสีเทา  อาจมีบางส่วนที่มีสีแตกต่าง  หนูกินศิลาพอถึงระดับที่สี่ จะเห็นขนของมันเปลี่ยนสีเงินยวง  พอถึงระดับเจ็ด ขนของมันจะเปลี่ยนเป็นสีทอง!  หนูกินศิลาสีทองอย่างน้อยเป็นอสูรเวทระดับเจ็ด  และอย่างมากเป็นได้ถึงอสูรเวทระดับแปด”
 “ลินลี่ย์, เผ่าพันธุ์ของหนูกินศิลานั้นน่ากลัวมาก  ส่วนใหญ่เป็นเพราะพวกมันมีจำนวนมหาศาล และมีมีฟันที่แหลมคมมาก คมกว่าหนูเงาเสียอีก  เมื่อหนูกินศิลาจำนวนมากปรากฏตัวขึ้น  ต่อให้กองทัพเป็นแสนก็อย่าหวังว่าจะต้านทานพวกมันได้”  เดลิน โคเวิร์ทถอนหายใจขณะพูด
เดลิน โคเวิร์ทนึกถึงภัยพิบัติที่เขาได้เห็นประจักษ์เมื่อนานมาแล้ว
หนูกินศิลาไม่ได้ว่องไวพอๆ กับหนูเงา  แต่ร่างของมันแข็งและทนทานเหมือนเหล็ก  หนูกินศิลาระดับที่สูงๆ จะมีร่างกายทนกว่า และฟันของมันก็คมกว่า  ร่างของมันดูเหมือนเล็ก  แต่มันเป็นแค่ภาพลวงตา  ในจำนวนที่มหาศาล พวกมันน่ากลัวแน่นอน
 “อาวุธที่พวกทหารใช้ทั้งหมดไม่อาจฆ่าหนูกินศิลาได้  แต่หนูกินศิลาสามารถฆ่าและกินทหารได้” เดลิน โคเวิร์ทถอนหายใจอีกครั้ง
ในภาพจินตนาการของลินลี่ย์ ปรากฏมีภาพขนาดใหญ่หนูกินศิลานับไม่ถ้วนบุกเข้ามาจากที่รกร้างหรือภูเขาและเข้าโจมตีทหารในกองทัพ  ภาพของหนูนับไม่ถ้วนกลืนกินทหารทั้งกองทัพ ทำให้หัวใจลินลี่ย์สะท้าน
น่ากลัวจริงๆ
 “ในบรรดาสิ่งชีวิตเผ่าพันธุ์หนูทั้งสองเผ่าพันธุ์นี้  หนูกินศิลามีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งมาก ฟันแหลมคมและมีจำนวนมหาศาล  แต่หนูเงาเล่า?  มีหนูเงาจำนวนมากเช่นกัน  แต่จำนวนของพวกมันยังน้อยกว่าหนูกินศิลา”  เดลิน โคเวิร์ทดูเหมือนเป็นสารานุกรม ฉลาดและรอบรู้
“แล้วหนูเงาเล่า?  หนูเงามีพลังขนาดไหน?”  ลินลี่ย์ถาม
มีหนูเงาตัวหนึ่งอยู่ไม่ห่างจากเขา  เป็นธรรมดาที่ลินลี่ย์ต้องการรู้ว่าพวกมันมีพลังมากขนาดไหน
 “หนูกินศิลาที่อ่อนแอที่สุด เป็นอสูรระดับหนึ่ง  แต่หนูเงานั้นแตกต่าง  หนูเงาที่อ่อนแอที่สุดเป็นอสูรเวทระดับสาม มีขนดำเป็นเงา  เมื่อตอนที่ทั้งร่างของมันเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน นั่นเป็นสัญญาณว่ามันพัฒนาไปถึงระดับห้า  และเมื่อขนของมันกลายเป็นสีม่วง ก็หมายความว่ามันเป็นอสรูเวทระดับเจ็ดเป็นอย่างน้อย  และอย่างมากที่สุดก็เป็นอสูรเวทระดับแปด”  คำพูดของเดลิน โคเวิร์ทถูกต้อง แม่นยำ
ลินลี่ย์ยอมรับอยู่ในใจ
ว่ากันเรื่องพลังและศักยภาพ  หนูเงาไม่ด้อยกว่าหนูกินศิลาแม้แต่น้อย
 “ปู่เดลิน!  ตามคำที่ท่านพูด หนูเงาระดับสามหรือสี่จะมีขนสีดำ  พอเมื่อถึงระดับห้าขนของมันจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน  ดังนั้นท่านกำลังพูดว่าเจ้าตัวน้อยตรงนั้นคืออสูรเวทระดับสามหรือสี่ใช่ไหม?”  ลินลี่ย์ยังคงซักถามต่อไป
 “หนูเงาสีดำตัวนี้ไม่ธรรมดา”
เดลิน โคเวิร์ทขมวดคิ้วขณะพูด  หนูกินศิลาขึ้นชื่อทางด้านแข็งแกร่งและมีฟันที่แหลมคม  ขณะที่หนูเงาขึ้นชื่อในเรื่องความเร็วและฟันที่แหลมคม!  ความเร็วเป็นหนทางที่ดีมากที่จะตรวจสอบความแข็งแกร่งเจ้าหนูเงานั่นโดยเฉพาะ”
 “มันเคลื่อนไหวเร็วมาก, สิบเมตรในชั่วพริบตา  แต่เนื่องจากมันคือหนูเงา  ข้าคาดว่ามันไม่ใช่หนูธรรมดา”  ลินลี่ย์ยังคงจำการเคลื่อนไหวของมันก่อนนั้นได้ชัดเจน
เดลิน โคเวิร์ทพยักหน้า  “หนูเงาเคลื่อนที่ได้เร็วมากแน่นอน  แต่แค่ลูกหนูเงาก็มีความเร็วเท่าหนูเงาเต็มวัย นี่ยังใช่เรื่องธรรมดาอีกหรือ”  รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเดลิน
 “ผิดธรรมดาหรือ?”  ลินลี่ย์มองดูเดลิน โคเวิร์ท
เดลิน โคเวิร์ทพูดต่อ “ถูกแล้ว!  ลูกหนูเงามีความเร็วขนาดหนูเงาเต็มวัยระดับสี่ ก็หมายความว่าเมื่อมันเติบโตขึ้น มีความเป็นไปได้ว่าจะกลายเป็นหนูเงาสีม่วงระดับเจ็ด  ข้าสงสัยว่า... มันจะเป็นลูกหนูเงาสีม่วงก็เป็นได้”
 “ลูกหนูเงาม่วงหรือ?”  ลินลี่ย์ถาม “แต่ขนมันสีดำนี่”
เดลิน โคเวิร์ทหัวเราะ  “ลินลี่ย์  หนูเงาม่วงและหนูเงาน้ำเงิน เมื่อแรกเกิด ทุกตัวจะมีสีดำ  พอพลังของพวกมันเพิ่มขึ้น สีขนของพวกมันจะค่อยๆ เปลี่ยนไป!  สีขนของพวกมันเป็นข้อพิสูจน์ถึงพลังของพวกมัน”
ลินลี่ย์เข้าใจทันที  “เป็นอย่างนั้นนั่นเอง”
 “ปู่เดลิน, อย่างนั้นตามคำบอกของท่าน  หนูเงาตัวนี้มีความเร็วเหลือเชื่อ  หนูเงาที่อยู่ต่อหน้าข้าเร็วกว่าลุงฮิลแมนเล็กน้อย  แต่ท่านกลับบอกข้าว่ามันเป็นหนูเงาระดับสี่แล้ว  สำหรับอสูรเวทระดับสี่ยังไวกว่านักรบระดับหกด้วยหรือ...” ลินลี่ย์อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความทึ่ง
เดลิน โคเวิร์ทหัวเราะ  “ลินลี่ย์!  ถ้าพวกมันไม่ไวมาก แล้วจะเรียกพวกมันว่าหนูเงาไปทำไม?”
ในระดับพลังเดียวกัน  หนูเงาเมื่อวิ่ง ยังวิ่งได้ไกลกว่ามนุษย์คนหนึ่งเสียอีก
 “หนูเงาคืออสูรเวทที่มีคุณค่าที่หาได้ยาก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนูเงาสีม่วงระดับเจ็ด  จอมเวทหลายคนต้องการหนูเงาสีม่วง  แต่พวกมันว่องไวเกินไป  หนูเงาตัวเต็มวัยมีค่ามาก  แต่ยากจะจับและฝึกให้เชื่องได้  ลูกหนูเงาสีม่วงน่าจะจับและฝึกให้เชื่องได้ง่ายกว่า  แค่จะหาลูกหนูเงาให้พบได้ก็นับว่าเป็นเรื่องยากแล้ว”  เดลิน โคเวิร์ทยิ้มให้ขณะที่เขามองลินลี่ย์
ลินลี่ย์ก็สามารถจินตนาการได้เช่นกัน
หนูเงาสีม่วงเป็นอสูรเวทระดับเจ็ดเป็นอย่างน้อย  ซึ่งก็หมายความว่าอย่างน้อยที่สุดพวกมันมีพลังระดับเดียวกับมังกรลมกรด
 “ลินลี่ย์  หนูเงาม่วงถูกมองว่าเป็นราชาในกลุ่มของหนู  และสามารถสั่งหนูเงาจำนวนมากได้  แม้ว่าหนูเงาจะไม่มีจำนวนมากเท่าหนูกินศิลา  แต่พวกมันก็ยังนับว่ามีมาก  ลูกหนูเงาม่วงจะได้รับการปกป้องจากจากหนูเงาเต็มวัยหลายตัว”
เดลิน โคเวิร์ทชำเลืองมองหนูเงาดำที่กำลังกินหินอยู่ไกลออกไป
 “มีพลังมากทั้งที่ยังเล็ก มีโอกาส 8-9 ส่วนที่จะเป็นลูกหนูเงาสีม่วง  ข้าสงสัยจริงๆ ว่ามันมาอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลเจ้าได้โดยไม่มีหนูเต็มวัยคอยคุ้มกันได้อย่างไร”  เดลิน โคเวิร์ทพูดลอยๆ ด้วยความแปลกใจ
ลินลี่ย์เห็นด้วยกับคำพูดของเดลิน โคเวิร์ท
 “ลินลี่ย์!  ทันใดนั้น เดลิน โคเวิร์ทมองดูลินลี่ย์ด้วยสายตาแปลกประหลาด  เสียงของเขามีท่าทางจูงใจ ขณะที่พูดว่า “อย่าไปใส่ใจเรื่องที่ลูกหนูเงาสีม่วงมาอยู่ที่นี่เลย  เจ้าอยากจะเก็บมันไว้เป็นสหายไหม?  หนูเงาโตเร็วมาก  โดยเฉพาะหนูเงาสีม่วง  ในสิบปีราวๆ นั้นมันจะเติบโตเต็มวงจรชีวิตของมัน  เมื่อเวลาผ่านไป เจ้าจะได้มีสหายที่เป็นอสูรเวท อย่างน้อยก็ระดับเจ็ด และอาจเป็นระดับแปดก็ได้”
พอได้ยินคำพูดของเขา  ลินลี่ย์ใจเต้นรัว
การฝึกอสูรเวทระดับเจ็ดหรือระดับแปดให้เชื่องเป็นเรื่องยากมาก  แต่การฝึกพวกมันเมื่อพวกมันยังเล็กเป็นเรื่องง่ายกว่ากันมากนัก
นอกจากนี้ ไม่ใช่ว่าลูกอสูรเวททั้งหมดจะเหมือนกัน  บางพวกเติบโตเร็วมาก  ขณะที่บางพวกโตช้า  บรรดาอสูรเวทตระกูลมังกร  บางตัวก็ใช้เวลาเป็นพันปีกว่าจะเติบโตเต็มวัย  มนุษย์ส่วนใหญ่ไม่มีความสามารถจะรอนานขนาดนั้น  หนูเงาเป็นหนึ่งในอสูรเวทที่เติบโตค่อนข้างเร็ว
แต่การเผชิญหน้ากับลูกหนูเงาสีม่วงเป็นเรื่องที่เกิดได้ยากมาก
ที่สำคัญ ยิ่งเป็นอสูรเวทที่ทรงพลัง ก็ต้องยิ่งปกป้องมันตั้งแต่ยังเล็ก  แม้ว่าเหตุยังไม่ชัดเจนว่าทำไมหนูเงาจึงมาปรากฏอยู่ในคฤหาสน์ของเขา  แต่ก็ปฏิเสธความจริงไม่ได้ว่ามันอยู่ที่นี่เพียงลำพังแน่นอน
 “ลินลี่ย์ การได้ครอบครองหนูเงา ก็เท่ากับได้ครอบครองกองทัพหนูเงาทั้งหมด”  เดลิน โคเวิร์ทยิ้มให้ลินลี่ย์  “นี่คือเหตุผลให้หนูเงามีค่ามากกว่าอสูรเวทระดับเจ็ดหรือระดับแปดอีกหลายตัว
เดลิน โคเวิร์ทยังคงพยายามจูงใจลินลี่ย์ต่อไป
แล้วลินลี่ย์อายุเจ็ดหรือแปดขวบจะต้านทานไหวหรือ?
 “ปู่เดลิน!  ข้าจะฝึกหนูเงาสีม่วงตัวนี้ให้เชื่องได้ยังไง?”  ลินลี่ย์มองเดลิน โคเวิร์ทอย่างตื่นเต้น
เดลิน โคเวิร์ทรู้สึกมีความสุขมาก  “ถ้าลินลี่ย์น้อยสามารถฝึกหนูเงาตัวนี้ให้เชื่องได้จริงๆ  ในอนาคต ข้าคงสะดวกมากขึ้นอีกนิด”  เดลิน โคเวิร์ทรู้ดีในฐานะที่เป็นวิญญาณดวงหนึ่ง  เขาไม่มีพลังเวทของตนเองเลยแม้แต่น้อย  จอมเวทผู้วิเศษที่ไม่มีพลังเวท ก็ไม่มีความสามารถในการโจมตีมากนัก
ไม่มีทางที่เขาจะปกป้องลินลี่ย์ได้
แต่หลังจากผ่านไปครึ่งปี  เขาเริ่มพิจารณาเห็นเด็กน้อยไร้เดียงสา ที่ฝึกอย่างหนักผู้นี้เป็นเหมือนหลานชายตนเอง  เป็นธรรมดาที่เขาต้องการหาทางเพิ่มความแข็งแกร่งให้ลินลี่ย์
 “ลินลี่ย์!  เจ้าต้องใจเย็น”  เดลิน โคเวิร์ทพูดหนักแน่น  “แม้ว่านี่จะเป็นแค่ลูกหนูเงาสีม่วง  แต่ความเร็วของมันเทียบเท่ากับหนูเงาเต็มวัยระดับสี่  ต่อให้ลุงฮิลแมนของเจ้า  ก็ไล่ตามมันไม่ทัน  เจ้าก็ยิ่งไม่มีความสามารถใช้กำลังกำราบมันได้  และเจ้ายังไม่สามารถใช้เวทมัดวิญญาณได้”
ลินลี่ย์สะดุ้ง
จิตใจที่ร้อนรนของเขาพลันสงบลง  เขาหัวเราะอย่างจนใจ พลางกล่าวว่า “ตอนนี้ ข้าจำได้แล้ว  จะฝึกอสูรเวทให้เชื่องได้  วิธีแรกคือบังคับมันและวิธีที่สองคือใช้เวทผูกวิญญาณ ซึ่งมีแต่จอมเวทระดับเจ็ดเป็นอย่างน้อย ถึงจะใช้ได้”
ลินลี่ย์ผิดหวังเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้
น่าเสียดาย เขาอ่อนแอเกินไป  แม้ว่าเขาจะโชคดีได้พบลูกหนูเงาสีม่วง  แต่เขาไม่มีความสามารถฝึกให้มันเชื่องได้

6 ความคิดเห็น:

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณคับ

iboon2550@gmail.com กล่าวว่า...

ขอขอบคุณในน้ำใจไมตรีอันทรงคุณค่านี้ไว้ในดวงใจของเราตลอดไปขอจงจำเริญๆๆนะท่าน

iboon2550@gmail.com กล่าวว่า...

ขอขอบคุณในน้ำใจไมตรีอันทรงคุณค่านี้ไว้ในดวงใจของเราตลอดไปขอจงจำเริญๆๆนะท่าน

ปารมี กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

neng2006 กล่าวว่า...

ขอบพระคุณมากครับผม

Unknown กล่าวว่า...

เพิ่งเริ่มอ่านค่ะสนุกดี😸🔥🔥

แสดงความคิดเห็น