วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 410 ศัตรูแข็งแกร่งปรากฏ



ตอนที่  410  ศัตรูแข็งแกร่งปรากฏ
การบุกถ้ำมังกรปีศาจเป็นไปโดยราบรื่น
อย่างไรก็ตาม นี่กลับให้ความรู้สึกที่ไม่ดีกับเย่ว์หยาง  มันง่ายดายเกินไป  นี่ต้องเป็นกับดัก
มองดูผิวเผิน ไม่มีปัญหาอะไรในการบุกเข้าถ้ำมังกรปีศาจพร้อมๆ กับนักผจญภัยอีกสองร้อยคนที่ร่วมผจญภัยด้วยกัน  ก่อนที่พวกเขาจะเข้ามาในถ้ำมังกรปีศาจ  มังกรแดงนับสิบก็ได้เข้าจู่โจมทำร้าย  อย่างไรก็ตาม  ทุกคนทำงานเพื่อวัตถุประสงค์เดียวกันและเอาชนะพวกมังกรได้อย่างรวดเร็ว  คนส่วนใหญ่จะหนีออกมาได้และมีไม่กี่คนถูกฆ่าตายคาที่  เหตุผลหลังที่พวกเขาชนะได้ก็คือมีนักสู้ปราณก่อกำเนิดอยู่ในฝ่ายเขาถึงสองคน  คนหนึ่งได้รับเชิญนักผจญภัยกลุ่มดาบโล่ เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสามนามว่า ระเบิดเพลิง  อีกคนหนึ่งเป็นสหายของเขา เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสองนามว่า สลาตัน

มีแค่เพียงสองคนนี้ ก็ได้ชัยชนะมาอย่างง่ายๆ
ขณะนั้นเย่ว์หยางเรียกตั๊กแตนมัจจุราชกลับคืน  ยิ่งกว่านั้น เขายังคงปกปิดตนเองรวมตัวอยู่ในหมู่นักผจญภัยและไม่ได้ออกมาฆ่ามังกรเพลิงแดง
ทอเรนหัวหน้ากลุ่มและคนอื่นเหลียวมองท้องฟ้าในที่ไกลอยู่บ่อยครั้ง
ท่านเขาเงินยังไม่ปรากฏตัว
นักสู้ปราณก่อกำเนิดอีกคน “ไตตัน” ก็ยังไม่ปรากฏตัว เรื่องนี้ทำให้ทอเรนหัวหน้ากลุ่มชักกังวลขึ้นมาบ้างแล้ว
หลังจากที่มังกรเพลิงแดงพ่ายแพ้และหลบหนีไปไม่เหลือร่องรอย  นอกจากมีทหารรับจ้างบาดเจ็บไม่กี่คนและนำซากมังกรบินกลับเมืองปั๋วหนาน  ทุกคนมีมติบุกรังมังกรปีศาจ  ภายใต้การนำของนักสู้ปราณก่อกำเนิดสี่คน  อย่าว่าแต่ถ้ำมังกรปีศาจเลย  พวกเขาสามารถตะลุยไปได้ทุกที่ในหอทงเทียนชั้นหกได้
ขณะที่ทุกคนเข้าใกล้ปากถ้ำมังกรปีศาจ แสงสว่างเจิดจ้าก็พุ่งลงมาข้างล่างเหมือนดาวตกจากพุ่งมาจากที่ไกล
หัวหน้ากลุ่มทอรัสรู้สึกชุ่มชื่นใจ
นั่นคือท่านเขาเงิน นักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับห้า
ทุกคนรีบแสดงความเคารพ แม้แต่จอมยุทธระเบิดเพลิงและจอมยุทธสลาตัน นักสู้ปราณก่อกำเนิดทั้งสองคนก็ไม่เว้น  การหารือระหว่างนักสู้ปราณก่อกำเนิดไม่จำเป็นต้องรู้จักผู้เห็นเหตุการณ์  นักผจญภัยค่อยๆ ถอยออกมาอย่างรู้สำนึกตัวเอง  นักสู้ปราณก่อกำเนิดทั้งสามคนสนทนาแลกเปลี่ยนไม่กี่คำก็รีบเข้าถ้ำมังกรปีศาจ  หลังจากนั้นพวกนักผจญภัยก็พยายามจะเป็นพวกแรกที่เข้าถ้ำมังกรปีศาจ  ด้วยความเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด นักผจญภัยกลุ่มดาบโล่จึงได้อยู่หน้า
เย่ว์หยางขมวดคิ้ว
เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เขารู้สึกอย่างนี้เมื่อตอนบุกวังหลวงปีศาจและวังเทพของจักรพรรดิอวี้
เป็นไปได้ไหมว่า ถ้ำมังกรปีศาจก็คือวังปีศาจอีกแห่งหนึ่ง?
หรืออาจจะเป็นวังเทพจักรพรรดิอวี้อีกแห่งหนึ่ง?
 “....”  เย่ว์ต้องการหันหลังกลับและออกไปจากที่นี้  เขารู้สึกว่าการบุกเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยนี้เป็นเรื่องไม่ฉลาด  ทว่าถ้าเขาออกไป  อย่างนั้นเขาอาจจะพลาดอะไรบางอย่างไปก็ได้  เมื่อจะฝึกฝน เรื่องยากที่สุดก็คือหาคู่ต่อสู้ที่สามารถช่วยให้เขาก้าวหน้า  ทุกๆ การผจญภัย, ทุกๆ การต่อสู้คือโอกาสยกระดับทั้งนั้น  มนุษย์จำต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบาก  ถ้าเขากลัวสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่งในหอทงเทียนชั้นหก  อย่างนั้นเขาก็ไม่ควรตั้งความหวังไปดินแดนสวรรค์
ไม่ว่าถ้ำมังกรปีศาจจะเป็นที่เช่นใดก็ตาม  ต่อให้เป็นนรก  เย่ว์หยางตัดสินใจว่าจะเข้าไปจนกว่าจะไปได้ไกลที่สุดเท่าที่เขาทำได้
เขากำหมัดแน่น
ดาบมืดมองดูเย่ว์หยางที่ยังคงหยุดอยู่กับที่และจู่ๆ ก็กระซิบว่า “ท่านไตตันจะมาจริงๆ หรือ?”
 “เขาจะมา”  เย่ว์หยางหันไปมองจอมขโมยลึกลับ
 “เนื่องจากเขาจะต้องมา  ดังนั้นข้าจะเข้าไป  ถ้าเขาไม่มา ข้ารู้สึกว่าสองเราก็ควรจะจากไป  การมาที่นี่อีกครั้งทำให้ข้ารู้สึกหวาดกลัวยิ่งขึ้น  จะต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นข้างใน  ข้ารู้สึกเหมือนกับว่ากำลังเข้าไปในถ้ำน้ำแข็ง”  ดาบมืดรู้สึกขนลุกทั่วตัว  เขาไม่ได้มีความรู้สึกไวเหมือนนักสู้ปราณก่อกำเนิด  แต่เขาก็ยังเป็นขโมยที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง  ดังนั้นความรู้สึกที่ว่องไวของเขาไม่ใช่ความอ่อนแอ  แม้ว่าเขาจะไม่สามารถระบุความรู้สึกที่แปลกได้ก็ตาม  แต่โดยสัญชาตญาณเขารู้สึกว่าสถานการณ์จะย่ำแย่หนัก  ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะอาการตอบสนองของเย่ว์หยาง  เขาคงไม่ยอมเข้าถ้ำมังกรปีศาจเป็นแน่
 “คนพวกนั้นสามารถจากไปได้แล้ว..”  เย่ว์หยางมองดูขอบฟ้าที่อยู่ห่างไกล  นักผจญภัยเหล่านั้นผู้เอาซากมังกรกลับไปหายวับไปในทันที
 “อะไรนะ?”  ดาบมืดถึงเหงื่อพร่างพรูจากตัวทันที
 “เข้าไปเถอะ, สถานที่นี้คงน่าสนุก”  เย่ว์หยางกระโดดลงมาจากหน้าผาและบินเข้าไปรวมกลุ่มกับนักผจญภัย
 “ไม่, ที่นี่ไม่น่าสนุกเลยแม้แต่น้อย” ดาบมืดปาดเหงื่อเย็นและไล่ตามหลังเย่ว์หยางทันที  ตอนนี้เขารู้สึกว่าที่ๆ ปลอดภัยที่สุดในถ้ำมังกรปีศาจก็คืออยู่ใกล้ๆ เด็กหนุ่มหน้ากาก  ถ้าเขาหายไป อย่างนั้นก็เท่ากับเขาสูญเสียชีวิต
ภายในถ้ำมังกรปีศาจ อากาศจะร้อนและมีกลิ่นกำมะถัน
ยิ่งพวกเขาเข้าไปลึกๆ ก็ยิ่งร้อนมากขึ้น
ได้รับการยืนยันแล้วว่านี่ไม่ใช่ถ้ำภูเขาไฟ ไม่ใช่ถ้ำลาวา  เหตุผลข้อเดียวก็คือเพราะมีสิ่งมีชีวิตที่ปล่อยความร้อนได้อาศัยอยู่ที่นี่
เย่ว์หยางระวังตัวทุกฝีก้าว  เขาไม่เคยใช้ความพยายามระวังตัวมากขนาดนี้มาก่อน
แม้เมื่อตอนที่เขาบุกเข้าวิหารแกะตามอำเภอใจเป็นครั้งแรก เขาก็ยังไม่รู้สึกเครียดเท่านี้  ทุกย่างก้าวเขารู้สึกเหมือนเดินเข้าหาความตาย  รู้สึกเหมือนถูกบีบรัดคอเจ็บปวดมากจนหายใจไม่ออก  ถ้าเย่ว์หยางไปจากถ้ำมังกรปีศาจทันที  จะไม่มีใครหยุดเขาได้  อย่างไรก็ตาม  เย่ว์หยางกำหมัดแน่นและไม่ยอมทำเช่นนั้น  เขาเชื่อว่านี่เป็นการผจญภัยที่ยากลำบากมากและอาจมีการต่อสู้ที่คาดไม่ถึง  ถ้าเขาสามารถผ่านถ้ำนี้ไปได้  อย่างนั้นนี่จะเป็นประโยชน์ในการฝึกฝนของเขาเป็นอย่างมาก  ตรงกันข้าม  ถ้าเขาจากไป  อย่างนั้นความเสียใจจะคงอยู่ในหัวใจเขา  เช่นเดียวกับนักรบผู้ไม่สามารถผ่านวิหารคนคู่และวิหารเทพสตรีได้  พวกเขาหนีความอ่อนแอในจิตใจและไม่ยอมเผชิญหน้ากับมันตลอดไป
อักษรรูนโบราณในร่างของเขาสั่นและสะท้อนอย่างแผ่วเบา
มีแนวโน้มว่า สถานที่นี้มีวงแหวนอักษรรูนโบราณ
วงแหวนอักษรรูนโบราณที่เย่ว์หยางเคยเจอก่อนหน้านี้อยู่ที่หน้าผาในทะเลสาบเทียมเมฆ  สถานที่นั้นเป็นพื้นที่ห้ามบิน  คงมีบางอย่างที่นี่ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้กระมัง?
ที่หน้าผาทะเลสาบเทียมเมฆ  เย่ว์หยางเข้าใจพลังของอักษรรูนและได้รับผลประโยชน์มหาศาล  เป็นไปได้หรือไม่ที่เขาจะสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในวันนี้เป็นอย่างดี?
 “อสูรของข้า....”  จู่ๆ พวกนักผจญภัยก็โวยวายทันที
 “โอว....พระเจ้า!
 “ไม่นะ...มันเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร!
เย่ว์หยางสายตาเย็นเยียบ  ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าในถ้ำมังกรปีศาจนั้นมีข้อห้ามอะไร  สถานที่นี้ไม่อนุญาตให้ใช้สัตว์อสูรอย่างสิ้นเชิง  จะตรงกันข้ามกับวังเบญจธาตุ  อสูรนับไม่ถ้วนกลิ้งเกลือกอยู่กับพื้นด้วยความเจ็บปวดทรมาน  ในที่สุดพวกมันก็กลายเป็นเศษไฟหลากสีสันก่อนที่เจ้าของมันจะทันได้เรียกกลับคืนมา พวกมันก็สูญหายไป  แม้แต่อสูรสายเสริมพลังก็แยกตัวออกจากเจ้าของและหายไปอย่างรวดเร็ว
ถ้ำมังกรปีศาจลึกมากและเต็มไปด้วยพลังถึงขนาดห้ามการอัญเชิญ
ไม่มีอสูร, มีแต่เพียงเจ้าของ... หัวใจเย่ว์หยางถึงกับสะท้าน  เป็นไปได้ไหมว่าเหตุผลที่เขารู้สึกว่าอันตรายเป็นเพราะเขาจะไม่สามารถพึ่งพาอสูรของเขาได้?  นี่เป็นการลดทอนความแข็งแกร่งเขาอย่างมากมาย
เทียบกับเย่ว์หยางแล้ว นักผจญภัยหลายคนเดือดร้อนสูญเสียในเรื่องจะต้องสู้โดยไม่มีพลังของสัตว์อสูร
ไม่ว่ายังไงก็ตาม  เย่ว์หยางก็ยังเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดคนหนึ่งและเชี่ยวชาญในทักษะต่อสู้  แม้จะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเสี่ยวเหวินหลีและเงาปีศาจยักษ์  แต่เขาก็ยังสู้ได้  อย่างไรก็ตาม นักผจญภัยเหล่านั้น  ที่ต้องอาศัยอสูรสายเสริมพลังและอสูรสายธาตุเฉพาะล้วนหมดหวัง  การสูญเสียอสูรของพวกเขาก็เท่ากับสูญเสียพลังต่อสู้ทั้งหมด  ในท่ามกลางความโกลาหล  คนราวๆ สามสิบคนไม่มีทางเลือกจำต้องจากไป เพราะพวกเขาสูญเสียพลังต่อสู้และไม่อาจสำรวจต่อไปได้
หลังจากนั้นห้านาที  เย่ว์หยางรู้สึกได้ถึงความตายของคนสามสิบคน  ความคงอยู่ของพวกเขาหายไปเหมือนกับว่าถูกดาบตัดขาด
กลุ่มนักผจญภัยผู้ไม่รู้อะไรยังคงเดินหน้าไปต่อ
เย่ว์หยางยืนอยู่ในท่ามกลางพวกเขาและไม่แสดงตัวคอยลอบสังเกต
ภายในถ้ำมีแร่เพลิงแดง แสงของมันไม่สว่างมากพอ  แต่ก็พอจะส่องทางได้  สิ่งที่ทำให้ทุกคนรู้สึกห่อเหี่ยวก็คือกลิ่นแปลกๆ จากการเผาไหม้ในอากาศที่ร้อน  นี่เองทำให้เผ่าพันธุ์ที่มีประสาทรับกลิ่นแรงกล้ารู้สึกถึงกลิ่นที่น่ากลัว  กลิ่นนั่นมาจากมังกรขนาดยักษ์
ต่อให้สถานที่นี้ไม่ห้ามการอัญเชิญ เพียงแค่กลิ่นมังกรยักษ์ก็เพียงพอทำให้สัตว์อสูรรู้สึกกลัวและพากันหนีไปแล้ว
 “ท่านไตตันจะมาจริงๆ หรือ?”  ดาบมืดเดินอยู่ข้างเย่ว์หยางและถามเงียบๆ
 “ถูกแล้ว”  เย่ว์หยางไม่ได้สนใจเขา เขาหยิบหินก้อนหนึ่งขึ้นมาสังเกตดู
นี่คือหินธรรมดามาก แต่กลับให้ความรู้สึกลี้ลับเต็มไปด้วยพลังรหัสโบราณในอดีต  เย่ว์หยางเคยพบสถานการณ์เช่นนี้มาก่อนที่ทะเลสาบเทียมเมฆ  ดูเหมือนจะไม่ได้มีความสัมพันธ์กับแร่ธาตุที่นี่และกลไกที่แท้จริงก็คือ วงแหวนอักษรรูนโบราณ
เย่ว์หยางอดจะคาดหวังในใจเพิ่มขึ้นไม่ได้
ถ้าเขาสามารถดูดซับพลังของวงแหวนอักษรรูนโบราณชุดที่สองนี้และได้รับอักษรรูนมากมาย  เขาเชื่อว่านี่จะช่วยยกระดับวงจักรล้างโลกและอักษรรูนอื่นๆ ของเขา  ยิ่งเย่ว์หยางเดินลึกเข้าไป เขาก็ยิ่งรู้สึกถึงรหัสโบราณ  หลังจากเดินเข้าไปในถ้ำมังกรปีศาจราวๆ 2-3 กิโลเมตร  เขาพบว่ามีพื้นที่ว่างขนาดใหญ่อยู่เบื้องหน้าเขา  มันมีขนาดเท่าสนามฟุตบอลสิบสนาม  พื้นที่ทั้งหมดสีแดงดุจเลือดอุดมไปด้วยแร่ดาวเพลิง  สูงขึ้นไปเป็นรูปโดมเป็นชั้นทรายแดง, เมฆโลหิตและปรอทแดงที่หมุนวนได้เหมือนกับเป็นวังน้ำวน
ดาบมืดส่ายศีรษะด้วยความสิ้นหวัง “ไม่, ตอนข้ามาที่นี่ครั้งก่อน ยังไม่มีวังวนทรายแดงเมฆโลหิตเลย”
วังวนทรายแดงเมฆโลหิต  อาจกล่าวได้ว่ามันสามารถเพิ่มพลังเปลวไฟใดๆ ก็ได้  ยิ่งกว่านั้น ยังสามารถเพิ่มพลังไฟปีศาจให้มากขึ้นอีกด้วย  อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ทุกคนจะต้องเสียสละเลือดบูชายัญเป็นจำนวนมาก
สิ่งนี้สามารถหาพบได้เฉพาะในบ่อปีศาจ  คาดไม่ถึงเลยว่าที่นี่ก็ยังมีอีกด้วย
สิ่งที่ทำให้เย่ว์หยางต้องสนใจไม่ใช่วังวนทรายแดงเมฆโลหิตด้านบน  แต่เป็นที่พื้นซึ่งมีพลังของรหัสโบราณเล็ดลอดออกมา  นี่เป็นการพิสูจน์ได้ว่าวงแหวนอักษรรูนโบราณซ่อนอยู่ด้านใต้  ที่ฝั่งตรงข้ามของกลุ่มนักผจญภัย เป็นผนังขนาดใหญ่  นักสู้ปราณก่อกำเนิดสามคนคือ ท่านเขาเงิน, ระเบิดเพลิงและสลาตันยืนอยู่ที่นั่น  พวกเขามองดูวงแหวนอักษรรูนด้านบน  นอกจากเย่ว์หยางแล้ว ไม่มีใครอื่นบอกได้ว่าวงแหวนอักษรรูนโบราณนั้นเป็นของปลอม  แม้ว่าจะมีพลังดำรงคงอยู่  แต่มันไม่สะท้อนกับอักษรรูนโบราณในตัวเย่ว์หยาง
นั่นเป็นของปลอมแน่นอน
แต่น่าเสียดาย แม้แต่เขาเงินก็ยังถูกวงแหวนอักษรรูนโบราณหลอกได้ง่ายๆ
 “ยินดีต้อนรับทุกคน  ดูเหมือนว่าเรามีอาคันตุกะมาเยือนหลายท่าน”  มังกรดำยักษ์ออกมาจากผนังด้านตะวันออก  ยืดหัวน่ากลัวออกมาและพูดภาษามนุษย์  “แต่น่าเสียดายที่เราคงแบ่งวงแหวนอักษรรูนนี้กับพวกเจ้าไม่ได้  แน่นอนว่าเราจะไม่ปฏิเสธที่จะใช้เลือดพวกเจ้าเพื่อปลุกมัน  เมื่อการบูชายัญเสร็จสิ้น  เราจะบอกความลับแก่เจ้าเกี่ยวกับเรื่องวงแหวนอักษรรูนโบราณที่ผู้อาวุโสของเราทิ้งไว้ให้เรา
 “จำนวนมนุษย์น้อยไปนิด จะดีเพียงไหนถ้าได้พวกเขามาสักพัน” มังกรแดงอีกตัวหนึ่งออกมาจากผนังด้านตะวันตกและยืดหัวมันออกมาพูดด้วยภาษามนุษย์แต่ไม่ค่อยชัด และยังห่างจากมังกรดำ
 “กรรรร!  มังกรแดงอีกตัวที่มีขนาดตัวเล็กกว่าทั้งสองบินออกมาจากที่ใดมิอาจรู้ได้  มันบินวนไปรอบๆ และเกาะอยู่บนหินย้อยที่ยื่นออกมาจากวังวน มันมองลงมาและแผดเสียงดังแสบแก้วหูใส่กลุ่มนักผจญภัย  เสียงของมันก้องไปทั้งพื้นที่เหมือนกับเสียงฟ้าร้อง  นักผจญภัยที่อ่อนแอถึงกับเลือดออกทางหูและล้มลงบนพื้น
แค่เสียงคำรามจากมังกรแดง ก็ยังไม่ทำให้รู้ว่าพลังของมันจะน่ากลัวเพียงไหน
หัวใจของนักผจญภัยเกือบทั้งหมดตกวูบและสูญเสียความกล้าที่มีมาแต่เดิม
ข้างนอกถ้ำ นักล่ามังกรสองกลุ่มอย่างน้อยกลุ่มละยี่สิบคนมาถึงอย่างเงียบเชียบ  หน้าของเขาเต็มไปด้วยความคลั่งและกระหายเลือด  พวกมันหัวเราะเหมือนกับว่านักผจญภัยเสนอตัวเพื่อบูชายัญ เหมือนกับหมูที่ขึ้นเขียง
เย่ว์หยางกวาดสายตาไปด้านนอกและหรี่นัยน์ตาเล็กน้อย
เขาเห็นคนบางคนที่คาดไม่ถึง  เป็นไปไม่ได้ที่คนๆ นี้จะปรากฏตัวขึ้น ทว่าเขาก็ปรากฏตัวขึ้นจริงๆ
คนผู้นี้ปรากฏตัวเพื่อจัดการกับนักผจญภัยสองร้อยคนจริงๆ หรือ
หรือว่านี่เป็นแผนเล่นงานเขา?
นี่เป็นแผนหรือเปล่า?
อย่างไรก็ตาม คนผู้นี้ปรากฏตัวโดยไม่ใช้อุบายใดๆ อาจเป็นได้ว่าเขาไม่กลัวศัตรูตื่นตัว?
ถ้าคนผู้นี้ไม่ได้มาเพราะเย่ว์หยาง  อย่างนั้น คนผู้นี้มาถ้ำมังกรปีศาจเพื่ออะไร?  อะไรดึงดูดเขาให้มาที่นี่?
 “ซุ่นเทียนจักรพรรดิแห่งจื่อเว่ย...” สามนักสู้ปราณก่อกำเนิดหวาดกลัวแล้ว  จักรพรรดิแห่งจื่อเว่ยที่หายไปจากหอทงเทียนชั้นหกนานหลายร้อยปี กลับมาปรากฏตัวในถ้ำมังกรปีศาจ  แม้แต่คนโง่คงคิดไม่ถึงว่าเขาจะมาที่นี่เพื่อฆ่ามังกรยักษ์ให้กับคนธรรมดา
 “ข้าไม่ใช่เจ้าของที่นี่  ข้าเป็นอาคันตุกะคนหนึ่ง  คนที่เชิญข้ามาก็คือองค์ชายเงาดำ”  ทันทีที่ซุ่นเทียนพูดเช่นนี้  ทุกคนรู้สึกว่าสถานการณ์เลวร้ายและมีแต่ความตายรออยู่  หัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
 

12 ความคิดเห็น:

แค่ผ่านมา กล่าวว่า...

เจอโจทก์เก่า

Lucky กล่าวว่า...

ตบมันเลยเฮียหยาง

Unknown กล่าวว่า...

แผลเก่าที่หัว หายแล้วรึ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ปารมี กล่าวว่า...

งวดนี้ซุ่นเทียนหรือเงาดำจะตาย ขอบคุณครับ

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุรครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

แหยงเลย ซุปเทียน

Unknown กล่าวว่า...

แหยงเลย ซุปเทียน

Unknown กล่าวว่า...

โจท์เก่าก็มา งามไส้เเล้วไหมล่ะ

Nopanser Kung กล่าวว่า...

อืื้อหือ ไม่ค้องเดินหาศัตรูเก่าให้เสียเวลา
พวกนั้นก็โผล่มาเจอด้วยความบังเอิญซะงั้น แถมมาแบบแพ็คคู่อีกต่างหาก

8lek8 กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

แสดงความคิดเห็น