วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 418 ฤทธิ์คลั่งสร้างทักษะใหม่



ตอนที่  418  ฤทธิ์คลั่งสร้างทักษะใหม่
การร่วมมือกันระหว่างสนมชื่อเฟยและจักรพรรดิชื่อตี้ทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ถ้าพวกเขาไม่ได้อยู่ในสภาพอ่อนแอและบาดเจ็บหนัก  เย่ว์หยางคงโดนถล่มย่อยยับไปแล้ว
การใช้ธนูโลหิตมีแต่จะทำให้ทุกข์ทรมานย่อยยับกันทั้งสองฝ่าย


ถ้าพวกเขาไม่ถูกไล่ต้อนจนมุมจริงๆ  พวกเขาคงไม่ใช้การโจมตีเช่นนี้
 “แย่แล้ว!
ประกายเงาที่วาบผ่านไปก็คือหง นางพญากระหายเลือดบินเข้าไปในถ้ำมังกรปีศาจกับโคเงาอาหมันและตั่วตั่วนางพญาดอกหนามมงกุฏทองไล่ตามมาข้างหลัง  พวกนางเพิ่งออกมาจากโลกคัมภีร์  แต่พวกนางกลัวว่าจักรพรรดิชื่อตี้จะรู้สึกได้ถึงพวกนาง จึงรั้งรออยู่ข้างนอกจนกระทั่งเย่ว์หยางขอความช่วยเหลือนางอย่างเป็นทางการ  ความเร็วของนางพญากระหายเลือดหงอยู่ในระดับรวดเร็วที่สุด  ดังนั้นนางจึงมาถึงก่อนเป็นคนแรก  นางคาดไม่ถึงว่าเย่ว์หยางจะตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย  นางพญาหงจึงพุ่งเข้าไปทันทีและใช้ปีกของนางกวาดเย่ว์หยางออกไปจากทาง กางแขนและใช้ร่างของนางเป็นโล่บังเย่ว์หยางจากลูกศรโลหิตสังหาร
ลูกศรโลหิตแทงทะลุหัวใจนาง
แรงปะทะมหาศาลส่งผลให้นางปลิวไปในอากาศกระแทกเข้ากับผนังหิน
แม้ว่าเย่ว์หยางจะรู้ว่านางคืออสูรพิทักษ์ของเขาและคงไม่ตายแน่ แต่การเห็นนางถูกยิงทะลุหัวใจเพื่อช่วยเขาและถูกกระแทกปะทะเข้าไปในผนังหิน ทำให้เขาโกรธ
เขาไม่ได้ระเบิดพลังโกรธมานานแล้ว  จนกระทั่งตอนนี้...
 “บัดซบ, กากเดนที่น่ารำคาญ!
เสียงกู่คำรามออกมาจากลำคอของเย่ว์หยางสั่นสะเทือนน่ากลัวเหมือนภูเขาไฟระเบิด คลื่นกระแทกสั่นสะท้านไปทั้งถ้ำมังกรปีศาจทำให้ถ้ำมังกรปีศาจที่สั่นสะเทือนไม่มั่นคงอยู่แล้วมีหินร่วงแตกร่วงลงมามากมาย
พื้นข้างล่างแตกแยกและมีรอยร้าวคล้ายใยแมงมุมและกลายเป็นแผ่นดินไหวที่รุนแรง
ตาเย่ว์หยางเปลี่ยนเป็นสีแดงและความคิดของเขาว่างเปล่า
ตอนนี้ เขาถูกความโกรธพิโรธครอบงำและสำนึกในเหตุผลชะงักงัน
เขายื่นมือออกและรวบรวมเพลิงบัวแดงทั้งหมด  พลังงานที่เหมือนน้ำพุที่ยังเหลืออยู่   พลังงานเทพของโล่เทพพิทักษ์และของเหลวของธนูโลหิตที่ยังเหลืออยู่ในอากาศ   เขารวมพลังทั้งหมดเหล่านี้สร้างเป็นบอลพลังงาน  ตามมาด้วยแรงระเบิดของพลังหยางของเขา  เย่ว์หยางบีบลูกบอลพลังงานเหมือนกับว่าเขาพยายามจะบีบคอศัตรูของเขาให้ตาย  ความตั้งใจของเย่ว์หยางอาจต้องการทำลายลูกบอลพลังงาน หรืออาจเป็นไปได้ว่าเขากำลังระบายความโกรธ  หรืออาจเป็นอะไรก็ได้ แต่ไม่มีเหตุผล  เป็นการกระทำลงไปด้วยความโกรธล้วนๆ
แต่กลับเกิดสิ่งที่น่าหวาดหวั่นขึ้น
พลังงานทั้งหมดที่ถูกบีบผสมกับทักษะหยางของเย่ว์หยาง  ภายใต้แรงโกรธเกรี้ยวของเย่ว์หยางเริ่มผสมผสานพลังที่แปลกประหลาด กลายเป็นพลังชนิดใหม่นามว่า เพลิงม่วงทอง
 “เป็นไปไม่ได้...”
ม่านตาของจักรพรรดิชื่อตี้ขยายออกขณะที่มองดู  แต่มุมตาของเขากระตุก
ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม  พลังที่กลั่นขึ้นใหม่ไม่มีทางที่จะสร้างจากพลังของศัตรูได้  เพราะไม่เพียงแต่มันจะขับไล่ต่อต้านพลังงานเดิมของเจ้าของเท่านั้น  แต่มันยังมีจิตสำนึกของศัตรูอยู่ด้วย  ดังนั้นการผสานพลังไม่มีทางเกิดขึ้นได้ง่าย  เหมือนนักสู้มีอาวุธคมกล้าสองเล่ม  แต่คงไม่อาจหลอมพวกมันให้เป็นอาวุธที่คมกล้ากว่าเดิมเล่มเดียวได้
อย่างไรก็ตาม  เหตุการณ์ที่ปรากฏตำตาของเขาฟ้องว่าเป็นเรื่องจริงทั้งหมด
เขาเห็นด้วยตาตนเอง  ดังนั้นจักรพรรดิชื่อตี้ได้แต่ยอมรับ
หลังจากผสมผสานหลอมรวมแล้ว  เพลิงม่วงทองกลับกลายเป็นคล้ายเพลิงบัวแดง แต่เป็นรูปแบบของเพลิงชนิดใหม่
ไม่จำเป็นต้องพูด  พลังของมันแข็งแกร่งยิ่งกว่าเพลิงบัวแดง
จักรพรรดิชื่อตี้รู้สึกว่าเพลิงชนิดใหม่นี้ให้ความรู้สึกที่โกรธพิโรธจนทำให้แม้แต่จักรพรรดิชื่อตี้ก็ยังตกใจ
ความโกรธนี้ทั้งแปลก แต่ก็คุ้นเคยสำหรับเขา
ในอดีตที่ผ่านมา  พลังโกรธที่จักรพรรดิอวี้ปล่อยออกมายามโกรธเต็มที่ก็คล้ายกับไฟชนิดใหม่นี้มาก  แม้ว่าพวกเขาอาจจะไม่เหมือนกัน  แต่ก็มีพลังอำนาจและพลังคุกคามคล้ายๆ กันทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดกลัวจนมิอาจควบคุมตนเองได้
อาจเป็นไปได้ว่าเพลิงนี้สูงส่งถึงระดับที่มีเพียงสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดจึงจะใช้ได้เช่นนั้นหรือ?
แต่เจ้าเด็กนี่ยังไม่มีพลังของสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดเลย
แต่เย่ว์หยางสามารถสร้างมันต่อหน้าเขาได้อย่างไร?
ทักษะแฝงเร้นของคนผู้นี้คืออะไรกันแน่?
จักรพรรดิชื่อตี้ผู้มีประสบการณ์สะบัดศีรษะไล่อาการปวดหัวทันที
 “ตายยยยย!  บางทีเป็นเพราะเขาไม่สามารถทำลายพลังของคู่ต่อสู้และสร้างเพลิงชนิดใหม่แทน  เย่ว์หยางสูญเสียสำนึกเหตุผลกลายเป็นโกรธเกรี้ยวบ้าคลั่งยิ่งขึ้น  เขายังคงบีบลูกบอลเพลิงม่วงทองต่อไป ราวกับว่าต้องการทำลายมัน  ที่คาดไม่ถึงก็คือ เขาบีบอัดมันจนเล็กกว่าเดิมถึงสิบเท่า  ในที่สุด  เย่ว์หยางที่ยังตาแดงฉานก็โกรธจัดคำรามลั่น  เสียงแผ่นดินไหวดังขึ้น ขณะที่เขาชูมือขวาที่ถือบอลเพลิงม่วงทองและซัดใส่จักรพรรดิชื่อตี้และสนมชื่อเฟย”
 “ป้อมปราการเหล็ก...”  จักรพรรดิชื่อตี้ลอบตื่นตัว  เขากระทืบเท้าและสมบัติวิเศษปรากฏทันที
มุกขาวลูกเล็กลอยออกมา  ภายในมุกมีภาพปราสาทดำภาพหนึ่ง
ทันใดนั้น มุกนั้นแตกออกและภาพเปลี่ยนจากภาพลวงตากลายเป็นสิ่งที่มีตัวตน  มันขยายออกอย่างรวดเร็ว กลายเป็นปราสาทหลังหนึ่งสร้างขึ้นจากโลหะ  มีขนาดมหึมาสูงถึง 20 เมตร กว้าง 10 เมตรและยาว 3 เมตร  มันตั้งตระหง่านต่อหน้าจักรพรรดิชื่อตี้ บังข้างหน้าเขาไว้
ด้วยของสิ่งนี้  จักรพรรดิชื่อตี้สามารถป้องกันตนเองจากอันตรายทุกอย่าง
จักรพรรดิชื่อตี้เคยทดสอบปราการเหล็กมาก่อนนั้นแล้ว  ต่อให้เป็นดาบอาวุธชั้นศักดิ์สิทธิ์ที่กล่าวกันว่าสามารถฟันทุกอย่างในโลกได้  ก็ไม่สามารถเจาะทะลุมันได้
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อปราการเหล็กที่เป็นสิ่งประดิษฐ์มีพลังป้องกันสูงสุด ใช้ต่อต้านลูกบอลเพลิงม่วงทองลูกเล็กนี้?
บึ้ม!
แรงระเบิดรุนแรงดังออกมาอีกครั้ง
ผนังผาด้านตะวันตกทรุดตัวทลายลงทั้งหมดเผยให้เห็นรอยแตกทำลายขนาดมหึมา  รอยแตกขนาดใหญ่สูงเกินร้อยเมตรและยังคงแยกลงไปถึงหุบเขา  หินแตกหักปลิวว่อนคลุมไปทั่วท้องฟ้า ระดับพลังสูงจนน่าตระหนก
คลื่นกระแทกในถ้ำมังกรปีศาจมีแรงขนาดสั่นสะเทือนโลกได้  แม้แต่โคเงาก็ยังถูกแรงกระแทกกระเด็นถอยหลังไปถึงสิบเมตร
ม่านตาของจักรพรรดิชื่อตี้ขยายออกอีกครั้ง
เพราะเขาเห็นปราการเหล็กพังทลายจากแรงกระแทกปะทะ
แทบจะทันทีเมื่อปะทะกัน  ป้อมปราการเหล็กก็แตกสลายเป็นล้านๆ ชิ้นถูกเพลิงม่วงทองทำลายอย่างสิ้นเชิง
เหมือนกับว่าไม่ได้เรียกป้อมปราการเหล็กออกมา  แต่เป็นปราสาททรายที่เด็กก่อกันเล่น  เพราะมันพังทลายหลังจากปะทะกันเพียงครั้งเดียว
มีเพียงจักรพรรดิชื่อตี้ที่รู้ดีถึงพลังป้องกันของอาวุธสมบัติของเขา
พระเจ้าช่วย!
จักรพรรดิชื่อตี้กระโจนขึ้นไปในอากาศทันที  ก่อนที่โล่เทพพิทักษ์จะกลับมาป้องกันเขา  เขาไม่มั่นใจว่าจะสู้กับบอลเพลิงม่วงทองได้  ฝ่ายเย่ว์หยางต้องการจะพุ่งเข้าใส่  แต่ถูกโล่เทพพิทักษ์ขัดขวางอยู่  เขาถูกโล่เทพพิทักษ์ยั่วจนโกรธเช่นกัน  เขาจับมันฟาดใส่พื้นอย่างบ้าคลั่งเหมือนกับคนที่สูญเสียสติ  พื้นหินถูกเย่ว์หยางฟาดกระแทกแตกกระจายเป็นชิ้น เกิดประกายไฟเป็นล้านขณะที่พื้นระเบิดสนั่นหวั่นไหว
พอเห็นสิ่งที่เย่ว์หยางกำลังทำ  จักรพรรดิชื่อตี้ซวนเซตกตะลึง
เจ้าเด็กนี่อยู่ในสภาวะคลั่ง มิได้อ่อนแอกว่าจักรพรรดิอวี้เมื่อยามโกรธเลย
โล่เทพพิทักษ์มิอาจถูกทำลายได้  แต่แสงประกายสีเงินเริ่มหมองลงไม่มีประกายเหมือนกับคนที่น่าสงสารกำลังถูกทุบตี
 “มันบ้าไปแล้ว”  จักรพรรดิชื่อตี้ตัดสินใจว่าเขาควรจะรีบหนีไปโดยเร็ว
เขาอาจตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบมากยิ่งขึ้น  หากเขายังคงสู้ต่อไป  เย่ว์หยางยิ่งบ้าก็ยิ่งแข็งแกร่ง  เย่ว์หยางมีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่  และเมื่อเขาสูญเสียสติความรับรู้  แต่เขายังน่ากลัวยิ่งกว่าตอนเป็นจอมเจ้าเล่ห์ยามปกติ  เพราะตอนนี้เขาปลดปล่อยศักยภาพที่แท้จริงของเขาออกมา
จักรพรรดิชื่อตี้ไม่ต้องการสมบัติที่เขามีอยู่ในใต้ดินต่อไป รวมทั้งระฆังกวักวิญญาณด้วย  เขาต้องรีบออกไป
เขาโอบสนมชื่อเฟย ไม่หลบออกไปทางหน้าถ้ำทางทิศตะวันตก  แต่ทลายผนังหินทางด้านตะวันออกออกไป
 “ฮ่าาาห์..ตาย ตาย ตาย!  พอตระหนักว่าโล่เทพพิทักษ์ในมือเขากลายเป็นลำแสงกลับไปอยู่ข้างจักรพรรดิชื่อตี้แล้ว  เย่ว์หยางไล่ตามจักรพรรดิชื่อตี้ด้วยความเร็วในระดับที่อันตราย  ตอนนี้เย่ว์หยางไวกว่าจักรพรรดิชื่อตี้ในเรื่องความเร็ว  เขาเงื้อหมัดที่มีเพลิงอมฤตเผาผลาญและตวัดใส่จักรพรรดิชื่อตี้
หมัดของเขาแตกกระจายราวห่าฝนใส่จักรพรรดิชื่อตี้ และน้ำหนักแรงแฝงหนักหน่วงดุจฟ้าฟาด!
สิ่งที่ทำให้จักรพรรดิชื่อตี้ตกใจก็คือในบรรดาสิบหมัดทั้งหมด  มีอยู่สองหมัดที่ไวมากจนแม้แต่โล่เทพพิทักษ์ไม่ทันได้มีปฏิกิริยาพอ ส่งผลให้มีหมัดหนึ่งต่อยถูกหลังของจักรพรรดิชื่อตี้
ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะโล่เทพพิทักษ์ช่วยป้องกันหมัดทั้งหมดไว้  เขาคงไม่กล้าพูดว่า เขาสามารถหลบหนีภายใต้พลังต่อสู้ที่บ้าคลั่งของคนผู้นี้
แสงสีเงินระเบิดออกมาจากร่างของจักรพรรดิชื่อตี้
นัยต์ตาของเขามีน้ำตาโลหิตสองสายไหลออกมานองหน้าเพราะความทุกข์ทรมานที่ได้รับ
พลังน้ำพุระเบิดออกมาจากภายใต้เท้าของจักรพรรดิชื่อตี้  ส่งผลให้เย่ว์หยางลอยไปในอากาศเมื่อเขาเอาแต่โจมตีจนลืมป้องกันตนเอง
ด้วยแรงปะทะจากหมัดทั้งสองของเย่ว์หยาง  จักรพรรดิชื่อตี้จึงพุ่งทลายผนังหินได้เร็วยิ่งขึ้น
เขาก้าวไปอยู่บนโล่เทพพิทักษ์อีกครั้ง  เพื่อที่ว่ามันจะได้นำเขาหนีไป
เขาจากไปเร็ว ราวกับดาวตก
หินก้อนหนึ่งร่วงลงมาเปรอะไปด้วยเลือด... เป็นรอยกระอักโลหิตของจักรพรรดิชื่อตี้เพราะฤทธิ์หมัดของเย่ว์หยาง
จากรอยเลือดที่น่ากลัว อาจสรุปได้ว่าจักรพรรดิชื่อตี้ นักสู้จากเมื่อหกพันปีที่แล้วถูกเย่ว์หยางเล่นงานบาดเจ็บเจียนตาย  ถ้าไม่ใช่เพราะสมบัติระดับเทพ  เขาคงไม่สามารถหนีพ้นภายใต้ความรุดหน้าที่ทรงพลังของเย่ว์หยาง
แม้ว่าเขาจะหนีไปได้ ก็มีโชคเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน  แต่ความดีส่วนใหญ่ต้องยกให้สมบัติระดับเทพ  มิฉะนั้นผลที่ตามมาคงมิอาจคาดคิด
อีกด้านหนึ่ง เย่ว์หยางอาละวาดทลายผนังหิน
เขายังอยู่ในสภาวะบ้าคลั่งจึงมีกลไกป้องกันตัวที่แข็งแกร่งมาก  แม้ว่าเขาจะถูกน้ำพุพลังระเบิดโจมตีทำร้าย  เขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด  การถูกโจมตีมีแต่จะทำให้เขาโกรธคลั่งมากขึ้น
พอสูญเสียเป้าหมาย  เย่ว์หยางยังคงใช้หมัดทลายผนังหินต่อไป  ถ้ำมังกรปีศาจ  แทบจะถูกเขาพังทลายราบ
นางพญากระหายเลือดทลายผนังหินออกมาและโถมตัวเข้าหาเย่ว์หยาง  นางกอดเขาโดยไม่คำนึงถึงอันตราย
นางยังมีเลือดซึมออกมาจากปากของนาง และบาดแผลที่อกของนางยังมองเห็นได้  แสงและพลังไฟฟ้าจำนวนมหาศาลอยู่รอบๆ บาดแผลของนาง เหมือนกับว่ามีกระบวนการเปลี่ยนรูปบางอย่างเกิดขึ้น  แต่นางพญากระหายเลือดไม่สนใจกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้น  ขณะที่นางกำลังกอดเย่ว์หยางที่เตรียมจะไล่ตามจักรพรรดิชื่อตี้ไว้แน่น  นางตะโกนพลางหลั่งน้ำตาพลาง “ข้าไม่เป็นไรแล้ว, ได้โปรดรู้สึกตัวเถอะ, อย่าทำอย่างนี้”
นางกังวลว่าเย่ว์หยางจะสูญเสียสำนึกจนได้รับบาดเจ็บ หากเขายังคงไล่ตามจักรพรรดิชื่อตี้ต่อไป  ขณะที่เขาไม่รู้วิธีป้องกันตัวเอง  นี่จะทำให้เขาถูกโจมตีทำร้ายได้ง่าย
นางพญากระหายเลือดยิ่งห่วงใยว่าร่างของเย่ว์หยางจะได้รับอันตรายจากการโกรธมากเกินไป
หัวใจของนางปวดร้าวเพราะเขาและขณะเดียวกันนางก็กังวลห่วงใยเขาเช่นกัน
ความรู้สึกทางอารมณ์ที่ซับซ้อนเช่นนั้น  ทำให้นางร้องเรียกเจ้านายพลางร้องไห้  นางหวังว่าเขาจะกลับได้สติด้วยเสียงของนาง
โคเงาและนางพญาดอกหนามมงกุฎทองก็ร้องเรียกเย่ว์หยางคล้ายๆ กัน  ขณะที่พวกนางเข้ามารุมล้อมเขาด้วยความห่วงใย
ตอนแรกก็แทบจะไม่มีผลอะไร
แต่หลังจากเวลาผ่านไป  ร่างของเย่ว์หยางสั่นเบาๆ ขณะที่เขากลับได้สติ
 “เอ๋?”
อาการโกรธของเย่ว์หยางเริ่มบรรเทาลง  ประกายสีแดงในดวงตาเริ่มจางลงขณะที่เขาค่อยๆ รู้สึกตัวอีกครั้ง
นางพญากระหายเลือดดีใจมากจนเริ่มเดี๋ยวร้องไห้เดี๋ยวหัวเราะ
น้ำตาที่นองหน้าของนางทำให้เย่ว์หยางรู้สึกปวดใจเมื่อได้เห็น
เมื่อเย่ว์หยางกลับเป็นปกติ  เขามองไปรอบๆ ด้วยความตกใจ  ถ้ำมังกรปีศาจพังทลายจากพลังโจมตีของเขาแต่เหมือนกับว่าเขาจะลืมสิ่งที่เขากระทำลงไป  เขาถามอย่างมึนงงว่า “เกิดอะไรขึ้น.... จักรพรรดิชื่อตี้หลบหนีไปแล้วใช่ไหม?  ทำไมไม่เป็นไปตามแผนของข้าล่ะ.. อา... ที่นี่จะพังทลายในไม่ช้าแล้ว  เราต้องรีบออกไป  ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง!
ที่ใต้เท้าของพวกเขา เพลิงมหาศาลในรูปเพลิงบัวม่วงทองลอยกลับมาล้อมตัวเย่ว์หยาง
เย่ว์หยางสับสน  เกิด..เกิดอะไรขึ้น?
ไฟเหล่านี้เป็นของเราหรือ?
เขายังไม่สามารถคิดอะไรได้ในทันที  เขาเลิกให้ความสนใจเพลิงม่วงทองเมื่อเขาเห็นว่ามันไม่ได้ปะทะกับเพลิงอมฤต  มันเพียงแต่หลบเพลิงอมฤตและลอยได้ด้วยตัวมันเอง  เขาต้องออกไปจากถ้ำมังกรปีศาจก่อนที่พวกเขาจะพูดคุยอะไรได้
เย่ว์หยางโอบอุ้มนางพญากระหายเลือดที่บาดเจ็บหนักเหาะออกมาจากถ้ำมังกรปีศาจที่กำลังสั่นสะเทือนผ่านไปทางช่องผนังทิศตะวันตก
ตามรายทาง มีหินก้อนมหึมายังคงพังทลายลงมาต่อเนื่อง
เพดานหินโยกคลอนรุนแรง  ขณะที่ยอดเขาที่อยู่สูงเหนือพื้นไม่กี่ร้อยเมตรเริ่มพังทลายเช่นกัน  เย่ว์หยางเร่งความเร็วในการบินหันศีรษะมองดูที่วงเวทผนึกโบราณที่ไม่ได้รับผลจากการพังทลายเลยแม้แต่น้อย  เขาถอนหายใจคิดว่า  เขาอาจไม่สามารถศึกษาวงเวทผนึกได้ในตอนนี้เสียแล้ว  ขณะที่โคเงาและนางพญาดอกหนามมงกุฎทองสะสางสนามต่อสู้  นางพญากระหายเลือดกลับมีความสุขอยู่ในอ้อมกอดของเจ้านายนาง  นางรู้สึกอายที่ถูกเจ้านายโอบอุ้มออกมาจากที่ซ่อน
ไม่ใช่ว่านางสูญเสียความสามารถในการบิน  เพียงแต่การกระทำของนางในตอนนี้คล้ายการกระทำของเด็กสาวมนุษย์ที่เขินอายคนหนึ่ง  นางพญากระหายเลือดหงไม่ทราบว่าการกระทำของนางจะช่วยให้นางได้มีการพัฒนาทางอารมณ์  และนางไม่ต้องการคิดอะไรอื่นในตอนนี้  ทั้งหมดที่นางต้องการก็คือมีความสุขอยู่ในอ้อมกอดเจ้านาย
นางรู้แต่เพียงว่านางชอบความรู้สึกแบบนี้
เมื่อเย่ว์หยางเหาะออกมาจากถ้ำมังกรปีศาจ  สาวกิเลนและเสี่ยวเหวินหลีก็รออยู่ข้างนอกแล้ว
ตามแผนการเดิม  พวกนางจะบุกเข้าไปฆ่าจักรพรรดิชื่อตี้  เย่ว์หยางรู้สึกว่าเขาต้องไม่ปล่อยให้จักรพรรดิชื่อตี้หลบหนีออกไป  ดังนั้นเขาจึงให้สาวๆ คอยหนุนอยู่ข้างหลัง
พอเห็นเย่ว์หยาง สาวกิเลนก็มองเขาเป็นการขอโทษ “จักรพรรดิชื่อตี้เจ้าเล่ห์เกินไป  เขาใช้อาวุธเทพปกป้องตัว  ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถฆ่าเขาได้  ข้าอาจฆ่าสนมชื่อเฟยที่หมดสติก็ได้  นางไม่สามารถต่อสู้ได้แล้ว  ดังนั้นนางจึงไม่คุกคามต่อข้าและปีศาจน้อย  แต่ข้าไม่อาจหักใจทำร้ายนางได้  ดังนั้น ข้า ข้าปล่อยนางไป”  นางเตะเท้าคู่หนึ่งให้เย่ว์หยาง  เห็นได้ชัดว่าเป็นเท้าของจักรพรรดิชื่อตี้  เย่ว์หยางพยักหน้าและเก็บไว้ในแหวนแพลตตินัม
ไม่มีอะไรสามารถจะทำได้เมื่อฆ่าจักรพรรดิชื่อตี้ไม่ได้  เพราะที่สำคัญ เข้าได้รับการปกป้องโดยอาวุธเทพ
นั่นเป็นเรื่องที่ทำให้เย่ว์หยางทึ่งแล้ว ที่พวกนางสามารถตัดเท้าของจักรพรรดิชื่อตี้ได้
ถ้าสาวกิเลนฆ่าจักรพรรดิชื่อตี้ได้  คงเป็นเรื่องเสียใจที่ค้างคาอยู่ในใจเย่ว์หยางเนื่องจากเขาไม่สามารถฆ่าเขาด้วยมือเขาเองได้
ตราบใดที่เขาสามารถทำร้ายจักรพรรดิชื่อตี้บาดเจ็บหนัก  เย่ว์หยางเชื่อว่าด้วยเวลาและพัฒนาการของตัวเขาเอง  อาจเป็นไปได้ที่เขาจะต้องสู้และพบกับคนที่แข็งแกร่ง
ด้านหลังเขา โคเงาอาหมันแบกระฆังยักษ์กวักวิญญาณออกมาด้วย  ภายในระฆังมีชิ้นส่วนปราการโลหะอยู่มากมาย  ถ้าไม่ใช่ว่ามันไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไปแล้ว  นางคงจะเก็บชิ้นส่วนมาเพิ่ม  ขณะที่นางพญาดอกหนามมงกุฎทองกินร่างมังกรพ่นไฟที่ตายไปเรียบร้อย และนำซากมังกรแดงที่ถูกเย่ว์หยางฆ่าตายทันทีออกมาด้วย
ถ้ำมังกรปีศาจพังทลายสิ้นเชิง  ขณะที่ภูเขารอบๆ ก็ถล่มทลายเป็นหลายเสี่ยง
เศษศิลาขนาดใหญ่พังทลายเป็นชิ้นส่งผลให้โคลนและเศษหินฟุ้งกระจายไปในอากาศ จากนั้นก็ตกลงไปในหุบเขาทำให้พื้นที่สั่นสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่ว
เสียงกึกก้องดังอยู่เป็นเวลานาน
 “น่าเสียดายที่วงเวทผนึกอักษรรูนโบราณถูกฝังอยู่ใต้หิน  เราต้องกลับมาที่นี่  ถ้าเรามีเวลาศึกษามันดู  ข้ารู้สึกว่าผนึกอักษรรูนโบราณต้องมีค่ามาก”  หลังจากต่อสู้ เย่ว์หยางเหนื่อยล้ามากและต้องการพักผ่อนทันที  นอกจากนี้เขาเกรงว่าซุ่นเทียนและองค์ชายเงาดำจะฉวยโอกาสจากความเหนื่อยล้าและโจมตีเขา  ดังนั้นก่อนที่สาวกิเลนจะกลับเข้าไปจำศีล ขณะที่เสี่ยวเหวินหลีและพวกที่เหลือยังปลอดภัย  พวกนางก็ต้องกลับเข้าไปพักผ่อนในโลกคัมภีร์ด้วย
ทันทีที่เย่ว์หยางกลับไปยังโลกคัมภีร์  เขาหลับด้วยความเหนื่อยอ่อนทันที ก่อนที่จะจัดการทรัพย์สมบัติที่เขาได้มาเสียอีก
นี่คือบ้านที่ปลอดภัยที่สุดของเขา  เย่ว์หยางผ่อนคลายได้อย่างแท้จริงที่นี่
สาวกิเลนยิ้มและหายไปพร้อมกับลำแสงหลากสีสัน
เสี่ยวเหวินหลีที่เหนื่อยล้าจากการต่อสู้ ยังคงกลับเข้าไปพักในตัวของเย่ว์หยาง  สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ พอทำเช่นนั้น เธอจะช่วยให้เย่ว์หยางฟื้นตัวได้เร็ว
เมื่อสาวงามอู๋เหินมองเห็นรอยคราบน้ำตาบนใบหน้าของนางพญากระหายเลือด ดูเหมือนนางจะเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา  จากนั้นอู๋เหินพยักหน้าให้นางและยิ้มให้นางพญาหง  “ตัวเขาสกปรกไปหมดแล้ว  ข้าต้องอาบน้ำให้เขา เจ้ามาช่วยข้าด้วยเถอะ”  อู๋เหินพูดเสียงนุ่มนวล
พอได้ยินเช่นนั้นนางพญากระหายเลือดสะดุ้งเล็กน้อย  จากนั้นนางก้มหน้าเล็กน้อยและตอบเบาๆ ว่า “อืม...”
 

17 ความคิดเห็น:

ปารมี กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

หายไปตั้งนานดีใจจังมาซักที

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ตอนนี้หลายอารมณ์เลย อิอิ

Lucky กล่าวว่า...

นางหงส์สู้ๆเพื่ออนาคต1ในฮาเร็ม

นายหนอนไหมปีนป่ายต้นรัก กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ พัฒนาการเป็นอะไรละนี่ทีนี้

เปา กล่าวว่า...

จะเอานางพญาทำเมียไหมอ่ะ

Unknown กล่าวว่า...

อสูรพี่แก จะเหลือรึฟาดเรียบ

8lek8 กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

รอดอีกแล้วๆ ไม่ยอมๆ

Unknown กล่าวว่า...

รอดอีกแล้วๆ ไม่ยอมๆ

Nopanser Kung กล่าวว่า...

แหม่ๆๆๆ หงเอ๋อ (ชื่อนี้ใช่มะ) ไม่ธรรมดาจริงๆ 55555+
สาวอสูรที่เย่ว์หยางเลี้ยงจะสำเร็จไปหนึ่งคนแล้วสินะ จะได้เห็นเย่ว์หยางเปลือยด้วย ~

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อสูรของพี่น่ารักทั้งนั้นเลย

Unknown กล่าวว่า...

เรื่องนี้ไม่แปลต่อแล้วหรอครับ

Unknown กล่าวว่า...

เงียบจัง

akekapoj-tee กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

แสดงความคิดเห็น