วันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2560

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 427 หลอกล่อต่อไป


ตอนที่  427  หลอกล่อต่อไป
 “ถ้าเจ้ามีน้องสาวคนหนึ่งและมีคนเลวชั้นต่ำพยายามตามจีบและชิงเอาเสรีภาพนางไปโดยไม่มีเหตุผล  เจ้าจะทำยังไง?”  เสียงบุรุษคนหนึ่งดังมาจากทิศใดไม่มีใครทราบ  มีความรู้สึกน่าสนใจอยู่ในน้ำเสียง  ไม่ว่าผู้ใดก็ตามที่ได้ฟัง ก็จะเชื่อมโยงเข้ากับภาวะและจิตสำนึกในคำพูดที่เขาสื่อถึง  เสียงนี้ทั้งขัดแย้งและคล้อยตามอย่างน่าประหลาด แต่ก็แสดงความโกรธอย่างชัดแจ้ง


เย่ว์หยางเคยเห็นผู้แข็งแกร่งทรงพลังมามาก และเขาก็เคยมีส่วนร่วมเผชิญหน้ากับพวกแปลกประหลาดนั้นมาแล้วเช่นกัน
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า บุรุษนี้เป็นหนึ่งในคนประหลาดเหล่านั้น
และเขายังอาจถูกมองได้ว่าเป็นตัวประหลาดที่พิเศษมากกว่า
ในเรื่องการใช้สำบัดสำนวน ถ้าเย่ว์หยางเรียกตัวเองว่าเป็นอันดับสอง คงไม่มีใครกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นอันดับหนึ่งในทวีปมังกรทะยาน
พอได้ยินการท้าทายต่อหน้าเช่นนี้ ถ้าเป็นคนอื่นๆ รู้สึกหลั่งเหงื่อเยียบเย็นหรือไม่ก็รู้สึกขยาด  แต่เย่ว์หยางยังคงหัวเราะ  “งั้นท่านก็ต้องดูว่ากระทำโดยเจตนาหรือไม่”
บุรุษที่เขาเพิ่งเผชิญหน้าถึงกับตะลึง  หลังจากชะงักไปสักครู่ เขาพูดต่อ “แล้วเจ้าจะทำยังไง ถ้าเขาทำโดยเจตนา?”
 “งั้นข้าก็จะฆ่าเขา!  เย่ว์หยางทำมือท่าทางเหมือนกับว่าโกรธจัด “เขาเท่ากับรนหาที่ตาย ถ้าเขากล้าทำเจ้าชู้กับน้องสาวข้า”
 “อย่างนั้นจะเป็นยังไง ถ้าเขาไม่มีเจตนา?”  บุรุษหนุ่มรูปงามที่ยืนอยู่ข้างหน้าของเย่ว์หยางตั้งใจถาม  เขาเป็นคนประเภทที่ทำให้คนว้าวุ่นใจได้  แม้ว่าเขาจะไม่ยิ้มก็ตาม
 “ข้าไม่สนใจว่าเขาจะมีเจตนาหรือไม่  ข้าจะฆ่าใครก็ตามที่กล้ามาตามเจ้าชู้กับน้องสาวข้า  เจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร  และข้าเป็นคนมีเหตุผลขนาดไหน?”  เย่ว์หยางตอบด้วยความภูมิใจ
 “คำตอบของเจ้าไม่เลว  ดูเหมือนข้าต้องเรียนรู้จากเจ้าด้วย”  มีเสียงตอบดังขึ้น
 “ไม่ต้องยอข้ามากก็ได้” เย่ว์หยางหลงใหลปลื้มกับตัวเอง
 “ไม่ว่ายังไงก็ตาม  ข้าต้องการเห็นทักษะยิ่งใหญ่ที่เจ้ามี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลิงอำมฤตและวงจักรล้างโลกของเจ้า”  บุรุษผู้มีน้ำเสียงดึงดูดใจดูเหมือนตั้งใจจะสู้กับเย่ว์หยาง แต่เหมือนกับว่าเขาพยายามจะระงับข้อพิพาทส่วนตัวของเขากับเย่ว์หยาง  ดังนั้นนี่จึงมิใช่การขัดขวางกระบวนการเจรจาของเย่ว์หยาง
 “นับเป็นโอกาสยากนะ ที่ท่านจะขอให้ข้าสอนสั่งเจ้า ในฐานะบุตรเขยของท่าน งั้นข้าจะรับงานแนะนำท่านก็ได้ แม้จะไม่เต็มใจก็เถอะ”  เย่ว์หยางพูดอย่างไม่รู้สึกว่ามีอะไรต้องอาย
 “......” มารกระบี่ฟ้าที่ยืนอยู่ด้านหลังเย่ว์หยางมีหน้าบิดเบี้ยวแทบจะกระอักเลือดตาย
ระดับความหน้าหนาของเจ้าผู้นี้พอๆ กับพื้นศิลา  เขาแทบจะฆ่าศัตรูของเขาได้ด้วยคำพูด  การสนทนากับเย่ว์หยางอาจทำให้ศัตรูของเขาปั่นป่วนจนทำให้บาดเจ็บอวัยวะภายในได้
บุรุษร่างยักษ์มือกลองไม่สามารถอดทนต่อเขาได้อีกต่อไป
เขาถือกลองโทมนัสฟ้าและเดินก้าวยาวจากไปโดยไม่หันศีรษะกลับมา
เขาตั้งใจจะไม่คุยกับเย่ว์หยางอีก  เขาไม่ต้องการเห็นเย่ว์หยางอีกต่อไป  เนื่องจากกลัวว่าเย่ว์หยางจะส่งผลเสียต่อเขา  แม้ว่าบุรุษยักษ์มือกลองจะไม่เห็นด้วยว่าเขาไม่ใช่นักบุญที่สองมือเปื้อนเลือด  แต่เขาก็ยังยึดถือหลักการบางอย่าง  แต่หลังจากอยู่ใกล้ๆ เย่ว์หยางแล้ว บุรุษยักษ์มือกลองคิดว่า ถ้าเขาสนิทกับเจ้าเด็กน้อย คุณชายสามตระกูลเย่ว์มากเกินไป  หลักการที่เหลืออยู่ของเขาคงถูกทำลาย
ถ้าว่ากันเรื่องความหน้าด้านไร้ยางอายแล้ว ต่อให้เอาความไร้ยางอายของคนในวังมารมารวมกัน ก็คงไม่อาจเทียบเท่ากับเย่ว์หยางได้
คนอย่างเย่ว์หยางไม่ใช่ผู้ที่ใครจะกลั่นแกล้งได้
ดังนั้นบุรุษยักษ์มือกลองจึงหลีกเลี่ยงเขา  เกี่ยวกับเรื่องที่เขาฆ่ามารมังกรฟ้า  บุรุษยักษ์มือกลองสงสัยว่ามารมังกรคงคลั่งใจตายเพราะโกรธเย่ว์หยางมากจนเกินไป
 “ข้าต้องการรู้ว่า คุณชายสามตระกูลเย่ว์จะโน้มน้าวให้เราช่วยต้าเซี่ยได้ยังไง”  มีอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นเป็นเสียงแหลมทิ่มแทงคล้ายกับเสียงปีศาจ
เสียงของคนผู้นี้ทำให้คนอึดอัดใจเมื่อได้ยิน  ทำให้คนอื่นรู้สึกเหมือนกับมีหนามทิ่มแทงอยู่บนตัวของพวกเขา  แต่พวกเขาไม่สามารถระบุตำแหน่งได้
ทำให้คนรู้สึกไม่สบายใจ
ถ้าว่ากันถึงระดับพลัง คนที่เสียงแหลมเหมือนปีศาจน่าจะมีพลังคล้ายกับบุรุษผู้มีเสียงดึงดูดใจ  เย่ว์หยางประเมินดูว่าสองคนนี้น่าจะเป็นมารฟ้าวิบัติและมารบาปฟ้าซึ่งอยู่ในลำดับที่สี่และห้าในทำเนียบสิบมารฟ้าแห่งวังมาร  สำหรับสาวที่แต่งตัวจนดูหล่อและถูกเย่ว์หยางหยอกเย้าในที่สุด ก็คือมารเคราะห์ฟ้าอยู่ในลำดับหกทำเนียบมารฟ้า  นางได้เลื่อนลำดับเร็วที่สุดในวังมาร
เย่ว์หยางคาดว่าบุรุษยักษ์มือกลองที่เดินจากไปก็คือมารฟ้าพิโรธ
ยังมีอีกคนหนึ่งที่เย่ว์หยางสามารถรู้สึกได้ว่าเขาอยู่รอบๆ ในระยะสิบเมตรห่างจากตัวเขา เพียงแต่เขาไม่เห็นด้วยตาเนื้อก็คือ มารฟ้าสังหาร
มารฟ้าสังหารมีทักษะล่องหนที่สุดยอด  ถ้าไม่ใช่เพราะเย่ว์หยางมีทักษะจักษุญาณทิพย์ที่ทำให้เขาเห็นว่ามารเคราะห์ฟ้าเป็นหญิงแต่งตัวเป็นชาย  เย่ว์หยางก็คงไม่รู้ถึงตัวตนของมารฟ้าสังหาร นักฆ่าเงียบที่อยู่ห่างจากเขาสิบเมตร
อย่างไรก็ตาม การสังหารของมารฟ้าสังหารจะทำได้สำเร็จภายใต้การอำพรางของปราณกระบี่ที่ปล่อยออกมาโดยมารกระบี่ฟ้า
เย่ว์หยางยังคงประทับใจมาก
ด้วยพลังสังหารอย่างนี้ จึงไม่เป็นที่สงสัยเลยที่เขาจะถูกเรียกว่ามารฟ้าสังหาร
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเกิดมาเพื่อล่าสังหาร
ตอนนี้ สิบมารฟ้ามาอยู่ที่นี่เกือบทั้งหมด
มีแต่เพียงมารสัมฤทธิ์ฟ้า (มารมุกฟ้าฉ ผู้แข็งแกร่งที่สุด  มารแค้นฟ้าที่อยู่ในลำดับที่สาม มารกฎฟ้าหรือนางเซียนหงส์ฟ้าที่เหมือนจำศีลอยู่ยังไม่ปรากฏตัว  เนื่องจากการปรากฏตัวของมารฟ้าวิบัติ มารบาปฟ้า มารเคราะห์ฟ้า มารฟ้าพิโรธ มารฟ้าสังหารและมารกระบี่ฟ้า  พวกเขาทำให้เย่ว์หยางหวั่นไหวได้น้อย  พวกเขาล้อมเขาไว้ด้วยความรู้สึกบางอย่าง ก่อตัวเป็นรูปแบบอัญเชิญโบราณทำให้เย่ว์หยางไม่รู้สึกถึงสภาพรอบตัว ทำให้เขาไม่สามารถตรวจสอบถึงตำแหน่งของมารสัมฤทธิ์ฟ้า, มารแค้นฟ้าและมารกฎฟ้าว่าอยู่ตำแหน่งใดกันแน่
 “พวกเจ้ามั่นใจนักหรือ? ไม่สิ, ข้าคร้านจะเปลืองน้ำลายข้ากับคนสิ้นหวังอย่างพวกเจ้าแล้ว”  เย่ว์หยางค่อนข้างจะพูดเกินจริงไปบ้าง
 “เฮ้ เฮ้, ให้เกียรติสุภาพสตรีหน่อยสิ”  มารเคราะห์ฟ้าที่แต่งชุดบุรุษเตือนเย่ว์หยางไม่ให้ผยองเกินไป
 “ข้าแค่พูดความจริง”  เย่ว์หยางยิ้มชั่วร้าย  เขาทำตัวเหมือนเฒ่าหัวงู  มารเคราะห์ฟ้ายิ่งอึดอัดภายใต้สายตาจ้องมองของเขา  หลังจากกระแอมอยู่ชั่วขณะ  เย่ว์หยางหันกลับมาอีกครั้ง จากนั้นก็เริ่มบ่นจุกจิกเหมือนคนแก่  “ความจริงข้าไม่ได้โทษว่าอะไรพวกเจ้าแม้แต่น้อย  เพราะพวกเจ้าเพิ่งจะได้เห็นโลก  ดังนั้นเป็นธรรมดาอยู่เองที่พวกเจ้าทุกคนจะใจแคบและหมดหวัง  ก็คงแปลกถ้าพวกเจ้าทุกคนมีเหตุผล  เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งจู่โจมข้าก่อน  ให้ข้าพูดเรื่องที่ต้องการพูดให้จบเสียก่อน”
เย่ว์หยางรีบโบกมือ เมื่อเขาเห็นมารเคราะห์ฟ้ากำลังตั้งท่าต่อสู้
ตอนนี้ เย่ว์หยางถึงตระหนักได้ว่ามีคนหนึ่งมานั่งอยู่ด้านหลังโดยเขาไม่รู้ตัว
เขานั่งอย่างสบายเหยียดขาทั้งสองออก   เขาอยู่ในชุดกระสอบเนื้อหยาบมีโซ่ทองหมองคล้องอยู่รอบคอและแขน คนที่ดูหงอยผู้นี้ดูคล้ายกับชาวนา หนวดเครามิได้โกน ดูเหมือนลุงอายุสี่สิบปีหน้าตาพอใช้ได้
แต่พลังของเขาทำให้เย่ว์หยางตระหนกเล็กน้อย
ถ้าดูอย่างผิวเผินเขาดูเหมือนนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหนึ่ง  แต่เย่ว์หยางประเมินว่าลุงที่ดูหงอยเหงาผู้นี้อย่างน้อยเป็นผู้ทรงพลังนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับแปด เขาอาจใกล้ได้เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับเก้า
แม้ว่าเขามองดูเย่ว์หยางอย่างสงบไม่แสดงความรู้สึกอะไร  แต่เขากำลังเปล่งความรู้สึกที่มองไม่เห็น เป็นความรู้สึกที่รุนแรงเหมือนพยัคฆ์ที่พลางตัวในป่ารอตะครุบเหยื่อ  พอเป้าหมายไม่ทันรู้สึกตัว ก็ตกอยู่ในความลำบากเสียแล้ว
 “ท่านคือมารฟ้าวิบัติหรือ?”  เย่ว์หยางหันมาถาม
 “มารบาปฟ้า” ลุงที่ดูธรรมดานั้นหยิบกล่องโบราณออกมาและใช้มือลูบคลำ ทำให้โซ่ทองสีหม่นหนักส่งเสียงกรุกกริก
 “ทำไมมารฟ้าวิบัติถึงยังไม่มา?”  เย่ว์หยางถามอีกครั้ง
 “เจ้าไม่เคยได้ยินเขาพูดกันเหรอ “ทันทีที่มารฟ้าวิบัติมาถึง ทุกอย่างในระยะสิบเมตรรอบตัวเขาจะถูกทำลาย?  เขาจะเริ่มฆ่าอย่างสนุกสนานทันทีที่เขามาถึง  ถ้าเจ้าจะฆ่าตัวตายก็เรียกเขาออกมาสิ”
 “งั้นก็ไม่เป็นไร  ข้าแตกต่างจากท่าน  ข้าไม่ชอบหาเรื่องถูกลอบทำร้าย”  เย่ว์หยางตอบโต้
 “ถ้าเจ้าไม่มีเหตุผลที่ดี  อย่างนั้นข้าจะเริ่มบุกเดี๋ยวนี้ละนะ”  มารฟ้าวิบัติผู้ซ่อนตัวอยู่ในที่แห่งหนึ่งพูดอย่างยโส  แน่นอน เขาแข็งแกร่งกว่ามารบาปฟ้าและแค่มีระดับเป็นรองนางเซียนหงส์ฟ้า  เขาไม่ต้องสนใจอะไรมากเหมือนกับมารกระบี่ฟ้า  แม้ว่าเขาจะรับรองไม่ได้ว่าจะสามารถฆ่าเย่ว์หยางได้  แต่มีความเป็นไปได้มากที่จะทำร้ายเย่ว์หยางจนบาดเจ็บหนัก
 “ข้าไม่ได้ตั้งใจจะโน้มน้าวพวกท่านทุกคนให้แข็งขืนทำตาม  พวกท่านทุกคนก็ดื้อรั้นยืนกรานอยู่แล้ว  ข้าคร้านเกินกว่าจะขอความช่วยเหลือจากพวกท่าน  ก็ไม่ได้มีผลอะไรต่อข้ามากนักหรอก ถ้าราชาเฮยอวี้จะทำลายต้าเซี่ย  ข้าไม่ใส่ใจจริงๆ ว่าข้าจะไม่สามารถกลับไปปราสาทตระกูลเย่ว์ได้  เพราะข้าจะไปพำนักอยู่ในแดนสวรรค์ในเร็ววันนี้ และข้าก็อยู่ในระหว่างเตรียมการย้ายถิ่นฐาน  ข้าได้รับไฟเขียวแล้ว มีอะไรต้องกลัวต้องห่วงอีก? ของอย่างวังปรักหักพัง, ทางผ่านโบราณ, วิญญาณนักรบและสมบัติอื่นๆ ไม่มีประโยชน์อะไรในตอนนี้แล้ว  ข้ายังโสดอยู่  ถ้าพวกท่านทุกคนไม่กลัว  อย่างนั้นทำไมข้าต้องกลัวด้วย?”  เย่ว์หยางเริ่มหัวเราะเสียงลั่น
 “ถ้าข้าจำไม่ผิด, คุณชายสามยังเป็นลูกกตัญญูและเป็นพี่ชายที่รักน้องด้วยใช่ไหม?” มารเคราะห์ฟ้าเอียงศีรษะและมองล้อเลียนเย่ว์หยาง
 “ข้าจะพาแม่สี่และน้องสาวไปกับข้าด้วย  ข้าไม่สนสมาชิกครอบครัวที่เหลือ  ราชาเฮยอวี้ทำอะไรข้าไม่ได้  ยิ่งกว่านั้น  ถ้าต้าเซี่ยถูกทำลาย  ราชาเฮยอวี้จะเบนเป้าหมายไปที่พวกท่านทุกคน  เขาจะไม่ไล่ล่าตามล้างผู้เยาว์  แต่คงยากจะพูดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกท่านทุกคน  เพราะพวกท่านทุกคนมีธุรกิจครอบครัวขนาดใหญ่ที่ตกเป็นเป้าสายตาหลายคน หึหึ” เย่ว์หยางทำให้พวกเขากลัว
 “เจ้านึกหรือว่าราชาเฮยอวี้จะรุกรานวังมารของเราได้?”  น้ำเสียงที่ดึงดูดความสนใจของมารบาปฟ้าดังขึ้น
 “ไม่เลย” เย่ว์หยางส่ายหน้า
 “งั้นเจ้าก็ได้แต่เพียงพูดพล่ามไร้สาระ”  มารกระบี่ฟ้าไม่อาจทนต่อไปได้  เย่ว์หยางไม่ควรพูดเช่นนี้ แม้ว่าเขาจะใช้ล้อเด็กเล่น
 “ราชาเฮยอวี้ไม่สามารถทำอะไรได้  แต่ถ้ามีการผนึกกำลังกับซุ่นเทียน, องค์ชายเงาดำ, ประมุขนิกายพันปีศาจและราชาพันปีศาจที่ถูกปลดผนึกแล้ว  อย่างนั้นท่านคิดว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร?”  เย่ว์หยางถาม
 “ก็ยังทำไม่ได้” มารบาปฟ้าคิดชั่วขณะแล้วตอบอย่างหงุดหงิด “ต่อให้ราชันย์จ้าวปีศาจบารุธและฮาซินร่วมมือกัน ก็ไม่มีผู้ใดรุกรานวังมารได้  คุณชายสามดูเหมือนเจ้ายังไม่รู้จักพวกเราดี”
 “แล้วจะเป็นยังไง ถ้าเพิ่มขึ้นไปอีกสองคน?”  เย่ว์หยางยิ้มหลังจากฟังแล้ว “ถ้าเป็นจักรพรรดิชื่อตี้และสนมชื่อเฟยร่วมมือกันเล่า?”
 “เอาอีกแล้วหรือ?” พอได้ยินชื่อนี้ แม้แต่มารเคราะห์ฟ้าก็ยังตกตะลึง “จักรพรรดิชื่อตี้?”
 “ดูเหมือนผู้หญิงของข้ายังไม่ได้บอกพวกท่านทุกคนสินะ”  เย่ว์หยางยิ้มเหมือนจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ “เมื่อไม่กี่วันมานี้ ข้าได้ยินว่าซุ่นเทียนและองค์ชายเงาดำปลดปล่อยยอดนักสู้ยุคโบราณผู้ทรงพลังออกจากวงเวทผนึกโบราณในถ้ำมังกรปีศาจ  นักสู้ผู้นั้นไม่ใช่ใครอื่น นอกจากจักรพรรดิชื่อตี้!  ถ้าพวกเจ้าไม่คุ้นเคยกับชื่อของเขา  อย่างนั้นข้ายังสามารถบอกชื่ออื่นได้อีก  จักรพรรดิอวี้เป็นศัตรูกับจักรพรรดิชื่อตี้เมื่อหกพันปีมาแล้ว  สำหรับราชาเฮยอวี้ เขาก็แค่เคยทำงานรับใช้จักรพรรดิอวี้ แต่เขาไม่มีความภักดี ทรยศหักหลังเจ้านาย  คนอย่างนั้นจะเทียบกับจักรพรรดิชื่อตี้ได้ยังไง?”
 “จักรพรรดิชื่อตี้น่ากลัวขนาดนั้นจริงๆ หรือ?”  มารเคราะห์ฟ้าสีหน้าเปลี่ยน  แต่ดูตกตะลึงมากกว่า
พอได้ยินเช่นนี้ เย่ว์หยางยิ้มทันที
ถ้าเขาสามารถทำให้กลุ่มอื่นเคลื่อนไหวได้  อย่างนั้นเรื่องไร้สาระของเขายังคงดำเนินต่อไปได้  ยิ่งเขามีกำลังใจเพิ่ม ก็ยิ่งมีความน่าเชื่อถือมั่นใจมากขึ้น  จะร่วมมือกับวังมารโจมตีตอบโต้กองกำลังนรกดำยังจะมีปัญหาอีกหรือ?

15 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

สงครามน้ำลาย ช่างยาวนานจริงๆ

Unknown กล่าวว่า...

ฝีปากเป็นหนึ่งไม่มีสอง แถมหน้าอย่างหนาใครจะไปเถียงสู้ 555

chaidet076 กล่าวว่า...

สนุกมากครับ

นายหนอนไหมปีนป่ายต้นรัก กล่าวว่า...

ช่างพล่ามได้ยาวนานนะเย่หยาง

ohmmanee กล่าวว่า...

เสียดายขบล่ะ

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

สกิลปากสุดยอดจริงๆ+หน้าด้านด้วยนะ

ปารมี กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Nopanser Kung กล่าวว่า...

นางหงส์ฟ้าอยู่ไหนกันนนนนน คิดถึงสาวใหญ่จังน้า ~ ไม่ได้เจอกันนาน ><

Unknown กล่าวว่า...

ไฟเขียวแล้ว
คนยุคนี้เข้าใจภาษาปัจจุบันหมดแล้วใช่ไหมเนี่ย

8lek8 กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

ZENDINEL กล่าวว่า...

Thx

แสดงความคิดเห็น