วันศุกร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2560

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 446 ทิ้งอดีตสู่ชีวิตอนาคต



ตอนที่  446  ทิ้งอดีตสู่ชีวิตอนาคต

พอได้ยินสาวงามถามว่าต้องการถูกกอดหรือถูกจูบ  เย่ว์หยางพยักหน้าเหมือนเด็กแรกเกิดที่ต้องการทั้งสองอย่าง
 “ในฝันของเจ้านะ”  นางเซียนหงส์ฟ้างับเบาๆ ที่ติ่งหูของเย่ว์หยาง
 
เขารู้สึกเจ็บเล็กน้อย
จากนั้นสาวงามก็เลียที่ติ่งหูอย่างนุ่มนวลแล้วก็ทำอีกข้างหนึ่งเช่นกัน  ท่าทีเจ้าชู้หยอกล้อนี้ที่ไม่เหมือนใครแทบจะทำให้เย่ว์หยางเปลี่ยนเป็นมนุษย์หมาป่าแล้วหอนจากนั้นเอากรงเล็บตะกุยพื้นในทันใด  เมื่อดูข้างหลังเขา  เย่ว์หยางเห็นสาวงามกำลังมองเขาอย่างสงบด้วยรอยยิ้มแฝงแววยั่วเย้าของนาง  นัยน์ตาเป็นประกาย พวงแก้มสีชมพูกับริมฝีปากแดงดุจผลเชอรี่พ่นลมหายใจใส่จนเลือดหมาป่าของเขาแทบเดือด  เสน่ห์ของนางไม่ธรรมดา พอจะทำให้โลกหยุดนิ่งได้  ไม่ว่าผู้ใดก็อดมองไม่ได้
นางเซียนหงส์ฟ้าตบหน้าผากเย่ว์หยางเบาๆ และพูดหยอกล้อ “เด็กร้ายกาจ! เจ้ามองพอหรือยัง?”
เย่ว์หยางแสดงความเห็นว่า “ข้าไม่เคยเชื่อเลย เมื่อมีคนกล่าวอธิบายว่าความงามของคนนับเป็นอาหารตาอย่างหนึ่ง  หลังจากวันนี้ เมื่อข้าได้พบอาหารตาเช่นนั้นกับตัวเอง ข้าถึงได้รู้ว่าคำกล่าวเช่นนั้นไม่เกินจริง”
พอได้ยินคำพูดเหล่านี้  นางเซียนหงส์ฟ้ายิ้ม
โอว!
นางใช้นิ้วมือเรียวงามบีบแก้มเย่ว์หยาง ริมฝีปากสีทับทิมของนางยื่นเข้ามาแทบชิด นางกระซิบกับเขาว่า “มิน่าเล่า เจ้าถึงได้ขโมยหัวใจสาวงามได้มากมายนัก  ปากเจ้าหวานยิ่งนัก  เด็กร้ายกาจ ลูกเล่นตลกๆ เหล่านี้ใช้ได้แค่กับแม่เสือสาวกับโล่วฮัวเท่านั้น  แต่ใช้กับข้าไม่ได้”
 “พี่สาวคนดี!  ข้ามีชีวิตอยู่เพื่อชีวิตรักเปี่ยมสุขเหมือนกัน  อย่าเพิ่งแฉข้าเมื่อถึงเวลาก็แล้วกัน”  เย่ว์หยางพยายามเอื้อมมือกลับไปที่ด้านหลังตั้งใจจะเอาเปรียบนางสักเล็กน้อย  พอรู้ว่าสาวงามไม่แสดงอาการขัดขืน  เขากลับเลื่อนมือไปที่บั้นท้ายของนางแทนแล้วค่อยๆ ยกให้นางขี่หลังของเขา  โดยไม่ต้องมีความเขินอายแบบสาวๆ ทั่วไป นางเซียนหงส์ฟ้าหัวเราะแล้วโน้มตัวขี่หลังเย่ว์หยาง นางใช้สองมือโอบรอบคอเขา ขาทั้งสองข้างเกี่ยวรอบสะเอว นางบิดตัวรอบเขาเหมือนกับนางพญาอสรพิษ
 “ข้าได้ยินมาว่าเจ้าต่อสู้กับหกมารฟ้ามา  เป็นยังไงบ้าง?  เจ้าโดนรังแกจนน้ำตาร่วงหรือเปล่า?”  โดยไม่สนใจข้อถือสาประเพณี นางเซียนหงส์ฟ้าเลื่อนมือเข้าไปในเสื้อผ้าของเย่ว์หยาง และโอว... มือของนางซุกซนยิ่งนัก  ไม่เพียงแต่เย่ว์หยางแทบจะถูกเพลิงปรารถนาเผาผลาญเท่านั้น  แต่เขากลับเหงื่อไหลพร่างพรู  เพราะนักรบหลายคนจ้องมองอย่างเปิดเผย
เย่ว์หยางรีบใช้มือข้างหนึ่งจับมือที่ซุกซนของนางเซียนหงส์ฟ้า แล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งถือบัวเพลิงฟ้าพิโรธไว้
ความกดดันมหาศาลเกิดจากแรงระเบิดฉับพลัน
แรงกดดันที่มองไม่เห็นน่ากลัวยิ่งกว่าแรงดันที่แผ่ออกจากตัวเมื่อจ้าวปีศาจมาถึง เป็นผลให้นักรบที่อ่อนแอที่สุดและอยู่ใกล้ที่สุดกระเด็นไปเป็นร้อยเมตร
อสูรพิทักษ์ที่หยิ่งยโสก่อนนั้นตกใจกลัวจนคิดอะไรไม่ออก  มันล้มลงบนพื้นและไม่กล้าขยับแม้แต่นิ้วเดียว
นักรบเหล่านั้นที่มีปฏิกิริยาช้าพากันล้มลงกับพื้นกันหมด
และพวกเขาไม่รู้ว่าจะทำยังไง
นักรบที่มีหัวคิดไวสองสามคนตระหนักได้ทันทีว่าคู่รักที่กล้าแสดงความสนิทสนมอย่างเปิดเผยนี้คือนักสู้ปราณก่อกำเนิด  ความจริงพวกเขาคือยอดฝีมือนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสูงที่ข่มขวัญพวกเขาได้จนต้องรีบสาวเท้าหนีให้เร็วที่สุด จะเสียใจอยู่ก็เพียงแต่ว่าขาพวกเขาไม่สามารถงอกเพิ่ม จะได้หนีได้เร็วกว่านี้
ตามปกติสิ่งที่นักสู้ปราณก่อกำเนิดเกลียดที่สุดก็คือถูกคนอื่นล่วงล้ำความเป็นส่วนตัว  ก็เหมือนกลุ่มคนพวกนี้ที่ดูเหมือนจะเพลิดเพลินกับการดูการแสดงออกของคนอื่น  แม้จะไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็เป็นเรื่องต้องห้ามแน่นอน
โชคดีที่พวกเขาไม่ได้ดูเพื่อตั้งใจฆ่า  มิฉะนั้นพลังเพลิงที่ใช้ไปคงสามารถฆ่าคนโดยรอบภายในวินาทีเดียวแน่
พอเห็นทักษะของเย่ว์หยาง  นางเซียนหงส์ฟ้าจูบหยอกเอินเขา “โอว, มิน่าเล่า เจ้าถึงกล้าท้าทายหกมารฟ้า  เจ้าบรรลุขอบเขตใหม่นี่เอง  แม้ว่าเจ้าจะเป็นเด็กร้ายกาจจอมเจ้าชู้  แต่ความสามารถของเจ้านับได้ว่าเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งแน่!  ตอนนี้ เจ้าไม่ได้มาอวดผลของการฝึกฝนใช่ไหม?  ข้ายังไม่สามารถต่อสู้ได้ อาการบาดเจ็บของข้ายังไม่ทุเลาดี!
 “โอว, อาการบาดเจ็บของท่านยังไม่หายสนิทอีกเหรอ?”  เย่ว์หยางตำหนิด้วยความห่วงใย “อย่างนั้นทำไมท่านถึงรีบจากไปเร็วนัก ในเมื่อยังไม่หายดี?  ข้าไม่ได้คิดค่าเช่าบ้านจากท่านสักหน่อย”
 “อาการบาดเจ็บภายนอกหายหมดแล้ว  แต่บาดแผลหัวใจข้ายังไม่หาย”  นางเซียนหงส์ฟ้าก็เพียงแต่พูดหยอกล้อเย่ว์หยาง เพื่อลองใจว่าเขาห่วงใยนาง ปฏิกิริยาของเขาทำให้นางพอใจ
 “ข้าเก่งที่สุดในเรื่องการรักษาบาดแผลหัวใจ”  เย่ว์หยางไม่โกรธ และแบกนางเซียนหงส์ฟ้าไปที่อื่นเพื่อเย้าหยอกนางต่อ
 “พาข้าไปที่ตำหนักซัคคิวบัส  ข้าเกรงว่าชีวิตที่เหลืออยู่ของข้าอาจต้องทำงานต่างโคต่างม้าให้เจ้า  จะไม่มีโอกาสกลับไปดูแลตำหนักซัคคิวบัสต่อไป  ข้าต้องกลับไปที่เผ่าพันธุ์ซัคคิวบัสก่อน”  คำพูดของนางเซียนหงส์ฟ้าพูดออกมาอย่างจริงจัง
นางรู้ว่าเย่ว์หยางจะสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับนาง  เพราะอาจมีสงครามใหญ่เพื่อต่อต้านกับราชาเฮยอวี้รออยู่
หลังจากรบกับราชาเฮยอวี้แล้ว  ยังอาจมีจักรพรรดิชื่อตี้และสนมชื่อเฟย
หลังจากศึกนั้นแล้ว  พวกเขายังต้องไปแดนสวรรค์
ในแดนสวรรค์ มีซิวคง, จิ่วเซียวและหมิงเย่ว์กวง สามผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์รออยู่  การต่อสู้ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้รออยู่  ถ้าเป็นอย่างนี้ จะมีเวลาดูแลตำหนักซัคคิวบัสได้อย่างไร?  จะดูแลตำหนักซัคคิวบัสก็เพราะมีเวลาว่างขณะฝึกฝน  เป็นเพียงหน้าที่ซึ่งทำมาเพื่อฆ่าเวลา  แต่ตอนนี้มีการศึกที่อันตรายอยู่ข้างหน้า จำเป็นต้องฝึกฝนหนักกว่าแต่ก่อน  แล้วจะมีเวลาดูแลเรื่องอื่นได้อย่างไร?  นางเซียนหงส์ฟ้ามิได้พูดออกมา  แต่ตำหนักซัคคิวบัสมีกฎอยู่ต่างหาก  ก็คือเมื่อปีศาจซัคคิวบัสทุกตนพบบุรุษที่นางรัก  พวกนางต้องพาเขากลับมายังเผ่าพันธุ์  เพื่อให้ได้รับการยอมรับอย่างดีจากเผ่าพันธุ์ ก่อนที่จะไปจากตำหนักซัคคิวบัสเพื่อใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
แม้ว่าจะพูดตีขลุมว่านางเซียนหงส์ฟ้าหลงรักเย่ว์หยางจนไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากเขา  แต่หลังจากที่ผ่านการต่อสู้โชคเลือดเสี่ยงตายมาด้วยกัน และด้วยการฝึกผสานร่างผสานหัวใจให้เป็นหนึ่งร่วมกัน คงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้สึกผูกพันอะไร
ไม่ว่านางจะแข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม แต่นางก็ยังเป็นสตรีคนหนึ่ง
หลังจากเปลือยกายฝึกด้วยกัน และหลังจากต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายด้วยกันหลายครั้ง
ใครจะสามารถลืมเรื่องทั้งหมดด้วยยิ้มเดียวเล่า?
นางเซียนหงส์ฟ้าไม่เคยพบบุรุษโดยเจาะจงมาก่อน นางไม่เคยเปิดใจยอมรับบุรุษดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม มีหลายอย่างเปลี่ยนไป  แม้ว่าแรกเริ่มเดิมทีนางอิจฉาพี่สาวนางและต้องการจะขโมยศิษย์ของนาง  แต่หลังจากใช้เวลาฝึกฝนและต่อสู้ร่วมกันมามาก  เย่ว์หยางเข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจนางโดยไม่รู้ตัว
นี่คือสาเหตุที่ในหัวใจนางเซียนหงส์ฟ้าตัดสินใจให้โอกาสหนุ่มน้อยผู้นี้
แม้ว่าเขายังอายุน้อยมาก  น้อยจนแทบเป็นเรื่องเหลวไหล  นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ  สิ่งที่สำคัญก็คือเขามีความสามารถ  เขามีศักยภาพและเขาชอบนางมาก
เพื่อคลี่คลายอาการคอขวดในการฝึกฝน  จำเป็นต้องมีการผลักดันให้ก้าวไปข้างหน้า
ตำนานกล่าวไว้ว่า กระบี่สามารถตัดสายใยสัมพันธ์ สะบั้นอายตนะรับรู้ทั้งหกและปล่อยวางกายหยาบหลือแต่เพียงจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่บริสุทธิ์สูงส่ง
ก็จะค่อยๆ กลายเป็นจื้อจุนและเป็นเทพเจ้าได้ในที่สุด
นางเซียนหงส์ฟ้าเคยทำเช่นนั้น  ไม่ถามไถ่เรื่องราวความรักระหว่างชายหญิง  อุทิศตนเองให้กับการฝึกฝนเท่านั้น
จนกระทั่งนางได้พบเย่ว์หยาง
นางตระหนักได้ว่าวิธีฝึกฝนของเขาและของนางแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง  แต่กลับให้ผลที่ดีกว่ามาก
เขาไม่จำเป็นต้องตัดสายใยผูกพัน สะบั้นอายตนะรับรู้ทั้งหก ปล่อยวางกายหยาบ  แต่กลับเพิ่มพลังความสามารถได้อย่างรวดเร็ว รวดเร็วกว่า  วิธีการเอาชนะเครื่องกีดขวางอารมณ์ของเขาต่างจากการทำสมาธิสงบนิ่งของคนอื่น แต่กลับเป็นแก่นแท้และเด่นชัด วิธีฝึกผสานร่างของเขาเป็นกลวิธีของเทพเจ้าอย่างแท้จริง แสดงให้เห็นผลที่ชัดเจน  แล้วเรื่องที่กายหยาบจะกลายเป็นกายศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร?นั้น เย่ว์หยาง เด็กหนุ่มคนนี้ยังไม่ถึงกับสะบั้นอายตนะรับรู้ทั้งหกและปล่อยวางกายหยาบ  เขามีแต่ปราณก่อกำเนิดและเพลิงอมฤต และใช้ของเหล่านี้ทำการกำจัดร่าง  ชำระ แล้วจากนั้นจึงก่อเกิดใหม่  วิธีการของเขาดีกว่า ไวกว่าวิธีที่นางรู้จักเป็นร้อยเท่าพันเท่า
เนื่องจากนี่คือวิธีที่ดีที่สุด และในขณะเดียวกันนางจะมีโอกาสลิ้มรสความหอมหวานของความรักในฐานะที่นางเป็นสตรี ทำไมจะไม่ได้เล่า?
แน่นอน ก่อนที่นางเซียนหงส์ฟ้าจะตัดสินใจเช่นนั้น  นางลังเลอยู่นานมาก
อย่างไรก็ตาม เมื่อนางเห็นใบหน้ายิ้มเปี่ยมสุขของหญิงงามอู๋เหินที่เป็นภรรยาของเขา  ความอิจฉาที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนเกิดขึ้นในใจนาง และจากนั้นนางก็ตระหนักว่า สิ่งที่นางขาดหายไปก็คือความรัก
 “ตำหนักซัคคิวบัส?  มีปีศาจซัคคิวบัสเยอะไหม?...” เมื่อเย่ว์หยางและนางเซียนหงส์ฟ้าไปถึงตำหนักซัคคิวบัสที่หอทงเทียนชั้นเจ็ด  พวกเขาก็ตระหนักได้ว่า ไม่ผิดพลาดแน่ที่นี่คือหนึ่งในสิบสถานที่ที่อันตรายที่สุดในหอทงเทียน  เหตุผลก็เพราะที่นี่มีปีศาจซัคคิวบัสอาศัยอยู่นับหมื่น และมีปีศาจหญิงอีกหลายหมื่นเป็นผู้รับใช้ เกือบทั้งหมดมีรูปร่างเหมือนมนุษย์  ขณะที่บางส่วนยังมีรูปร่างประหลาดอยู่  แต่อย่างน้อยก็มีร่างเป็นมนุษย์ครึ่งหนึ่ง  ไม่ต้องพูดถึงบุรุษสักคน  ต่อให้เป็นทหารทั้งกองกองจะถูกสูบจนแห้งทันที
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกบุรุษจะเปลี่ยนเป็นหน้าซีดเมื่อพูดถึงตำหนักซัคคิวบัส  ที่นี่คือนรกของบุรุษอย่างมิต้องสงสัย
พวกซัคคิวบัสเป็นสิ่งมีชีวิตที่ร้ายกาจที่ชอบยั่วยวนบุรุษ  ผู้นำในกลุ่มจะเป็นสตรี  พวกนางเกิดมาก็มักมีแต่สตรี  พวกบุรุษไม่มีอยู่เลย
เห็นได้ชัดว่า  ซัคคิวบัสเมื่อมีความสัมพันธ์กับบุรุษ ก็จะดูดพลังชีวิตของบุรุษจนแห้ง
สูบจนแห้ง
พวกนางสามารถเก็บเชื้อพันธุ์ของมนุษย์ได้เป็นพันปี และจากนั้นจะเป็นเหมือนนางพญามด มีช่วงเวลาที่อุดมสมบูรณ์อย่างอิสระ  แน่นอนว่า ใช่ว่าซัคคิวบัสทั้งหมดจะเต็มใจผสมพันธุ์  เพราะทุกครั้งที่พวกนางทำอย่างนี้ซ้ำกัน  พลังความสามารถของพวกนางจะลดลงครึ่งหนึ่ง  ขณะที่ซัคคิวบัสน้อยที่พึ่งเกิดจะได้รับตกทอดพลังมาครึ่งหนึ่ง และเติบโตเร็วมาก
ที่หอทงเทียน พวกซัคคิวบัสเป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจที่เล็กมากเมื่อเทียบกับเผ่าอื่น  แต่ทันทีที่พวกนางจับบุรุษที่แข็งแรงมาได้  พวกนางจะใช้ความสามารถที่ไม่เหมือนใครสูบพลังชีวิตของบุรุษจนแห้งโดยไม่มีความปราณี
พวกซัคคิวบัสที่ทรงพลัง ไม่จำเป็นต้องมีสัมพันธ์กับบุรุษ พวกนางแค่ต้องง้างปากพวกเขา และภายในไม่กี่วินาที พวกนางก็สามารถดูดพลังชีวิตระดับนักสู้ปราณก่อกำเนิดจนแห้งเหือดได้
นั่นคือสาเหตุที่พอพูดถึงสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวอย่างปีศาจซัคคิวบัสทำให้บุรุษกลัวหวาดหวั่นไม่คลาย
 “อย่าหวั่นเกรงไปเลย  พวกนางไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ตำนานเล่าขาน  พวกนางจะสูบพลังของบุรุษผู้ตั้งใจจะข่มเหงนางจนแห้งเท่านั้น  ถ้าพวกเขามีความรักต่อกันที่แท้จริง  ซัคคิวบัสจะอยู่กับคนรักไปตลอดชีวิต และจะไม่ทำอะไรที่เป็นอันตราย  ในตำหนักซัคคิวบัส มีประวัติบันทึกไว้ว่าอย่างน้อยก็มีซัคคิวบัสพันตนที่แต่งงานออกจากเผ่าพันธุ์ไป และหลายชีวิตก็มีความสุข”  นางเซียนหงส์ฟ้าไม่ใช่ซัคคิวบัส  นางเป็นมนุษย์แท้ๆ  เนื่องจากนางพญาซัคคิวบัสผู้เป็นอสูรระดับจ้าวปีศาจคอยปกป้องพิทักษ์สิ่งมีชีวิตด้วยตัวนางเอง  นางเซียนหงส์ฟ้าได้รับการยกย่องเทิดทูนเหมือนกับเป็นจ้าวตำหนัก  แม้แต่สถานะของนางยังสูงกว่านางพญาในหมู่ปีศาจซัคคิวบัสทั้งหมด
 “จ้าวตำหนักมารกฎฟ้า  พวกเราขออวยพรให้ท่านมีความสุข”  นางพญาซัคคิวบัสต้อนรับพวกเขาอยู่หน้าตำหนัก  นางดูน่ารักมากและมีความสูงประมาณสองเมตร  นางสวมมงกุฎบนศีรษะอยู่ในเสื้อคลุมราชินีและอวยพรให้นางเซียนหงส์ฟ้ามีความสุขด้วยความจริงใจ
 “เมื่อไม่กี่ร้อยปีมานี้  ท่านมักเป็นคนดูแลข้าเสมอ และกลับเป็นข้าที่ทำอะไรตอบแทนให้ตำหนักซัคคิวบัสน้อยเหลือเกิน  ไน่ไน่! ข้ามีความสุขมากที่ได้พบกับท่าน”  นางเซียนหงส์ฟ้าและนางพญาซัคคิวบัสต่างสวมกอดกัน  นางพญาซัคคิวบัสเป็นทั้งครูและสหาย  นางมักสอนให้นางเซียนหงส์ฟ้าเสมอถึงวิธีใช้ชีวิตของนางเพื่อฝึกฝนอสูรพิทักษ์ เนื่องจากนางใช้ชีวิตฝึกฝนอสูรพิทักษ์ตั้งแต่ยังเป็นระดับหนึ่งธรรมดา  จนวันนี้กลายเป็นอสูรเพชรระดับสิบ กลายเป็นจักรพรรดินีปีศาจซัคคิวบัสที่ยังไม่มีผู้ใดไปถึงระดับนั้น 
 “เผ่าพันธุ์ซัคคิวบัสขอต้อนรับเจ้าตลอดไป  ที่นี่คือบ้านของเจ้า  เจ้าคือความภูมิใจของเผ่าพันธุ์เรา  เรายินดีต้อนรับให้เจ้ากลับมาสู่บ้านธรรมชาติของเราเสมอ”  นางพญาซัคคิวบัสยกย่องนางที่เป็นพี่น้องตนเองได้พบคู่ครองที่ดี เมื่อนางเห็นเย่ว์หยางทักทายนางด้วยมารยาทนักสู้ปราณก่อกำเนิด
นางได้ยินเรื่องราวของคุณชายสามตระกูลเย่ว์มาแล้ว
เขายังเยาว์วัยนัก แต่เขาเก่งกาจพอทำให้หอทงเทียนระดับสูงต้องสั่นสะเทือน
วันนี้ บางทีเขายังไม่สามารถเผชิญหน้ากับซุ่นเทียนและองค์ชายเงาดำ  ไม่สามารถเอาชนะราชาเฮยอวี้ได้  แต่พรุ่งนี้ล่ะ?  ใครกล้าพูดบ้างว่าเป็นไปไม่ได้?
ศิษย์ที่ได้รับการคัดเลือกจากสุดยอดของมนุษย์  จะผิดไปได้ยังไงกัน?  ทักษะของจื้อจุน ถ้าเอามาใช้ตัดสินคน ไม่มีทางผิดพลาด
 “โปรดดูแลให้นางมีความสุขด้วย  กฎฟ้านางเป็นเด็กโชคร้ายมาก  เจ้าต้องทำให้นางมีความสุข  ข้าเชื่อว่าเจ้าทำได้ ดังนั้น ข้าขอฝากฝังนางไว้กับเจ้า”  นางพญาซัคคิวบัสยิ้มแต่ลอบส่งข้อความให้เย่ว์หยาง  ในขณะเดียวกัน ขณะที่เย่ว์หยางหันมาทักทาย นางยัดกล่องเล็กๆ ไว้ในมือเย่ว์หยางอย่างรวดเร็ว
การกระทำเช่นนี้ทำให้เย่ว์หยางตกใจเล็กน้อย  เป็นไปได้ว่า นี่ต้องเกี่ยวข้องกับเขาหรือไม่?  การกระทำของนางครั้งนี้ดูเหมือนมีความหมายลึกซึ้งกระมัง?
นางเซียนหงส์ฟ้ากำลังวุ่นวายกับการกอด 4 ผู้อาวุโสของเผ่าซัคคิวบัสเป็นการอำลา และไม่เห็นกล่องน้อยนี้  พอเห็นเย่ว์หยางรับไว้ นางพญาซัคคิวบัสก็ยิ้มและมองดูเย่ว์หยางกับนางเซียนหงส์ฟ้าจากไป
ปีศาจซัคคิวบัสนับหมื่นร้องเพลงประสานเสียงกันอย่างไพเราะส่งต่อเป็นทอดยินดีที่ซัคคิวบัสได้พบรักประสบความสำเร็จ
จากนั้นเย่ว์หยางค่อยเข้าใจ  นางเซียนหงส์ฟ้าพาเขามาที่นี่เพื่อร่ำลาอดีต
เป็นไปได้ไหมว่ากล่องน้อยนี้ คืออดีตของนาง?
สถานะที่แท้จริงของนาง?
ด้วยสิ่งนี้ อาจเป็นไปได้ไหมที่จะพบกับข้อมูลเกี่ยวกับจื้อจุน?

12 ความคิดเห็น:

ปารมี กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากคับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณคร๊าฟปม

นายหนอนไหมปีนป่ายต้นรัก กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Nopanser Kung กล่าวว่า...

ฮิฮิฮิ ฟินจริงๆ นางเซียนหงส์ฟ้าสุดยอด!! >w<
ป.ล. ถ้าจื้อจุ่นรู้จะอิจฉาไหมนิ กับวิธีฝึกตนของนางเซียนตนนี้

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

โอ้วที่นี้มีคู่หูที่มีพลังเกือบๆเท่าจือจุ่น ไม่ต้องกลัวจะโดนลุมละ เด่วอิเยง่พาไปฝึกให้ขึ้นระดับ10 เข้าขั้นเตรียมชั้นปราณชั้นต่อไป (ชื่อชั้นไรนะลืม)

8lek8 กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น