วันอังคารที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2560

Panlong ตอนที่ 4-2 กลับบ้าน (2)



ตอนที่  4-2  กลับบ้าน (2)


ในคฤหาสน์ตระกูลบาลุค ฮ็อกกำลังเอนกายบนเก้าอี้พลางอ่านหนังสือโบราณเล่มหนาอย่างระมัดระวัง
 “ท่านลอร์ดฮ็อก! อาหารเย็นพร้อมแล้วค่ะ” คนรับใช้หญิงเอ่ยอย่างเคารพ

ตั้งแต่พ่อบ้านแอชลี่ย์ติดตามวอร์ตันไปจักรวรรดิโอเบรียน ตระกูลบาลุคก็ไม่เหลือคนรับใช้อื่น และฮ็อกซึ่งเป็นหัวหน้าตระกูลนักรบเลือดมังกรก็ไม่สามารถทำงานบ้านทั้งหมดได้ด้วยตนเอง ทำให้ต้องจำเป็นต้องจ้างคนรับใช้หญิงเพื่อทำงานเหล่านั้น
 “โอว” ฮ็อกปิดหนังสือแล้วมองคนรับใช้ ในหัวใจเขาหนักอึ้ง และถอนหายใจออกมา “โชคยังดี ดูเหมือนว่าพวกขุนนางอื่นจะรู้แล้วว่าบุตรชายข้าเป็นจอมเวทอัจฉริยะของสถาบันเอินส์ จึงยอมให้ข้ายืมเงินอีกครั้ง มิเช่นนั้นชีวิตคงยากลำบากนัก”
เนื่องจากเขาเก็บภาษีจากชาวเมืองอู่ซันในอัตราต่ำ ฮ็อกจึงมีเงินแค่พอจ่ายเงินเดือนให้ทหาร และส่งบรรณาการให้อาณาจักรเท่านั้น แค่คิดถึงเรื่องนี้ฮ็อกก็หดหู่ใจ ตระกูลบาลุคตกต่ำลงในยุคสมัยของเขา สมบัติต่างๆล้วนถูกขายออกไปสิ้น
ยังโชคดีที่...
เขายังมีบุตรชาย....บุตรชายที่ยอดเยี่ยมทั้งสอง
 “ลินลี่ย์กลายเป็นจอมเวทระดับ 5 แล้ว เขาจะจบการศึกษาในอีกไม่นาน ในตอนนั้นข้าคงส่งมอบตระกูลให้อยู่ในความดูแลของเขาได้ ข้าจะได้ไปทำในสิ่งที่ข้าอยากทำมาโดยตลอดเสียที”
ฮ็อกลุกขึ้นยืน เตรียมตัวเดินไปห้องอาหาร แต่ทันใดนั้น...
 “ท่านลอร์ดฮ็อก ท่านลอร์ดฮ็อก!” เสียงฮิลแมนดังมาแต่ไกล
ฮ็อกมองลอดประตูใหญ่ออกไปอย่างสงสัย ในเวลาสั้นๆ ฮิลแมนก็ผลุนผลันเข้ามา และไม่ห่างกันนัก เด็กหนุ่มรูปร่างกำยำก็ตามเข้ามา
เมื่อเห็นเด็กหนุ่ม รอยยิ้มกว้างก็ปรากกฏขึ้นบนใบหน้าของฮ็อก เขาหัวเราะลั่น “ลินลี่ย์ เจ้ากลับมาแล้ว ฮ่าฮ่า น่ายินดียิ่งนัก เป็นเรื่องน่าทึ่งครั้งใหญ่ทีเดียว!”
 “อากาธ่า ช่วยเตรียมอาหารเย็นเพิ่มด้วย” ฮ็อกกล่าวในขณะตบไหล่ลินลี่ย์อย่างภูมิใจ “ลูกพ่อ เจ้าเกือบสูงกว่าข้าแล้ว โอ้ ไม่ใช่ว่าเจ้าจะได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ตอนสิ้นปีเท่านั้นหรือ? เหตุใดครานี้จึงกลับมาได้เล่า?...”
ลินลี่ย์ยิ้มบ้าง “ท่านพ่อ ข้าจะเล่าให้ท่านฟังระหว่างทานอาหารเย็นดีหรือไม่?”
 “ลึกลับขนาดนั้นเชียวหรือ?” ฮ็อกเริ่มขมวดคิ้วใส่ลินลี่ย์
ฮิลแมนที่ยืนอยู่ข้างๆหัวเราะ “ท่านลอร์ดฮ็อก ลินลี่ย์ก็ไม่บอกอะไรข้าเช่นกัน แต่เหมือนว่าเขาเตรียมของขวัญพิเศษมาให้ท่านด้วย ข้าถามเท่าไรเขาก็ไม่ยอมพูด”
 “ลุงฮิลแมน!” ลินลี่ย์ทำหน้ามุ่ยใส่ฮิลแมน
 “ก็ได้ ข้าเงียบแล้วๆ” ฮิลแมนหัวเราะลั่น
ความมืดปกคลุมผืนฟ้า แผ่ขยายเงาปกคลุมผืนดิน แต่ในห้องอาหารของตระกูลบาลุคกลับสว่างไสวด้วยแสงเทียน หลังจากเสร็จอาหารเย็น หญิงรับใช้ อากาธ่า ก็ทำความสะอาดโต๊ะและจากไป เหลือเพียงลินลี่ย์และฮ็อกในห้อง ลินลี่ย์จึงวางกระเป๋าเบื้องหน้าบิดา
 “อะไรอยู่ข้าในอย่างนั้นหรือ?” ฮ็อกมองลินลี่ย์อย่างสงสัย
 “เราจะเปิดมันดูในอีกอึดใจ” ลินลี่ย์ยืนขึ้นแล้วเดินไปปิดประตู ฮ็อกอดหัวเราะไม่ได้ “มันลึกลับขนาดที่เจ้าต้องปิดประตูเชียวหรือ?”
ลินลี่ย์นั่งลงอย่างมั่นใจ “ท่านพ่อ! ท่านสามารถเปิดกระเป๋าได้แล้ว”
 “หืม! มาดูกันว่าเจ้านำสิ่งใดมา” ฮ็อกเปิดกระเป๋าอย่างสงสัย แต่ก็ยิ่งประหลาดใจว่าด้านในยังมีถุงผ้าอีกชั้น ปากถุงถูกผูกไว้อย่างแน่นหนา ถุงโป่งพองจนมีขนาดใหญ่เนื่องจากมีแก่นเวทจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ภายใน
ฮ็อกใช้มือคลำภายนอกถุง แล้วเอ่ยอย่างสงสัย “เป็นถุงที่ใหญ่เสียจริง รู้สึกไม่เหมือนกับเหรียญทอง หรือจะเป็นเม็ดพลอยกัน?” ฮ็อกไม่มั่นใจว่ามันคืออะไร ในขณะพูดเขาก็เปิดถุงทันที
เมื่อถุงถูกเปิดออก
แก่นเวทงดงามหลากสีสันส่องประกายเป็นแสงสีรุ้ง ฮ็อกรู้สึกมึนงงเมื่อเห็นพวกมัน ในถุงนั้นเต็มไปด้วยแก่นเวทจำนวนมาก ในชีวิตของฮ็อกไม่เคยเห็นแก่นเวทมากมายขนาดนี้มาก่อน
 “ทั้งหมดคือแก่นเวทหรือ?” ดวงตาของฮ็อกหมุนคว้างและจับจ้องลินลี่ย์ด้วยความประหลาดใจ หลังจากนั้น เขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ฮ็อกเคยเห็นแก่นเวทมาก่อน แต่ไม่เคยเห็นจำนวนมากมายขนาดนี้ จำนวนของมันเพียงถุงเดียวก็สามารถทำให้ผู้พบเห็นตกใจได้ง่ายๆ
ลินลี่ย์พยักหน้า “ถูกแล้ว ในกระเป๋านี้เต็มไปด้วยแก่นเวทระดับสูงและศิลาเวทอีกเล็กน้อย ตามที่ข้าอ่านพบ แก่นเวททั้งหมดนี่คงมีค่าประมาณ 70,000 เหรียญทอง”
 “เจ็ดหมื่นเหรียญทอง?” ฮ็อกรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง
ในหลายปีมานี้ ฮ็อกต้องยากลำบากเนื่องจากขาดแคลนเงิน หากมีใครต้องการให้เขาหาเงิน 500 เหรียญทองมาให้ เขาก็ทำได้เพียงหยิบยืมผู้อื่นเท่านั้น นับเป็นความยากจนที่ไม่มีใครจะคิดถึง
เจ็ดหมื่นเหรียญทอง!
ไม่ใช่ว่าเงิน 70,000 เหรียญทองนี้จะสามารถเลี้ยงปากท้องของคนในตระกูลบาลุคได้อีกเป็นร้อยปีเลยหรือ?
 “แน่นอน 70,000 เหรียญทองนี้เป็นเพียงราคาอ้างอิงเดิมจากในหนังสือ ข้าคาดว่าปัจจุบันอาจสูงถึง 80,000 เหรียญทองเสียด้วยซ้ำ” ลินลี่ย์พูดตามตรง
พอมองไปยังแก่นเวทหลายหลากสีตรงหน้า ฮ็อกพลันรู้สึกว่าเขายังอยู่ในความฝัน ทั้งร่างเหมือนกำลังล่องลอย
 “ฮา.....ฮา.......”
ฮ็อกสูดหายใจลึกสองครั้ง ในที่สุดก็ควบคุมอารมณ์ของตนเองได้
 ลินลี่ย์ เจ้าได้แก่นเวทพวกนี้จากที่ใด?” ฮ็อกเอ่ยถาม เขาจ้องมองลินลี่ย์เขม็ง “เจ้าเข้าไปในเทือกเขาอสูรเวทอย่างนั้นหรือ?”
ลินลี่ย์พยักหน้า “ขอรับท่านพ่อ ข้าได้ของทั้งหมดนี่มาจากเทือกเขาอสูรเวท”
 “เจ้า...เจ้า...” ฮ็อกรู้สึกโกรธอย่างห้ามไม่ได้ “เทือกเขาอสูรเวทเป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุดแห่งหนึ่งบนแผ่นดินนี้ การจะเข้าไปต้องฝ่าฟันภัยอันตรายมากมาย เหตุใดเจ้าไม่มาพูดคุยกับข้าก่อนตัดสินใจเข้าไป? เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันอันตรายขนาดไหน?”
หลังพูดจบ ฮ็อกก็เริ่มหัวเราะคำพูดตนเอง
ลินลี่ย์เคยเข้าไปมาแล้ว เขาย่อมรู้ว่าภายในนั้นเต็มไปด้วยอันตรายเพียงใด
ฮ็อกหลุบตาต่ำลงและไม่กล่าวสิ่งใด หลังจากเห็นปฏิกิริยาบนใบหน้าของลินลี่ย์ที่ ‘ตั้งใจฟังเขาพร่ำสอน’ เขาก็เขย่ามือบุตรชายพลางถอนหายใจ “ลินลี่ย์ ไม่ใช่ว่าข้าที่เป็นบิดาของเจ้าอยากจะดุด่าเจ้าเสียเมื่อไร แต่เจ้าต้องรู้ว่าตอนนี้ตนเองนั้นเป็นจอมเวทอัจฉริยะของสถาบันเอินส์ โอกาสในอนาคตของเจ้านั้นไร้ขีดจำกัด และภาระหนักอึ้งของตระกูลบาลุคจะไปตกอยู่บนบ่าเจ้า ยิ่งกว่านั้น น้องชายเจ้าก็ยังเด็กนัก ใครจะรู้ว่าเมื่อไรเขาจะสามารถเป็นนักรบเลือดมังกรที่แท้จริงได้? ตอนนี้ความหวังทั้งหมดของข้ามีเพียงเจ้าแล้ว เช่นเดียวกับอนาคตของตระกูลบาลุค เหตุใดจึงทำเหมือนชีวิตของเจ้าเป็นเรื่องตลกเช่นนี้?”
ลินลี่ย์ไม่กล้าพูดแม้สักคำ
 “ถอดเสื้อของเจ้าออก ให้ข้าดูบาดแผลของเจ้า” จู่ๆฮ็อกก็เอ่ยขึ้น
ถอดเสื้อผ้าของเขาออก?
ลินลี่ย์รู้สึกลังเล เมื่อสวมเสื้ออยู่ก็ไม่มีใครสังเกตเห็น แต่ลินลี่ย์รู้ดีว่าร่างกายของตนเต็มไปด้วยร่องรอยและบาดแผลมากมายเพียงใด
ฮ็อกขมวดคิ้ว “ถอดออก”
หลังจากลังเลพักหนึ่ง ในที่สุดลินลี่ย์ก็ถอดเสื้อออกทำให้ร่างกายท่อนบนของเขาเปลือยเปล่า บนแผ่นอกของเขามีรอยแผลเป็นจำนวนนับไปถ้วน และหลายรอยสาหัสถึงชีวิต!
หลังจากเห็นรอยแผลเป็นน่ากลัวมากมายบนร่างกายลินลี่ย์ ฮ็อกพลันรู้สึกใจหาย
ฮ็อกสัมผัสแผ่นอกของบุตรชายด้วยมืออันสั่นเทา เห็นบาดแผลที่แทบคร่าชีวิตบนร่างกายลินลี่ย์ ฮ็อกรู้สึกขมขื่นไปทั้งหัวใจ ความทรมานเพียงใดที่บุตรชายเขาต้องอดทนผ่านพ้นมา? ประสบการณ์เฉียดตายกี่ครั้งที่ต้องพบเจอ? ฮ็อกไม่อยากแม้แต่จะคิดถึงมัน
 “ลินลี่ย์ เจ้า....” ฮ็อกเค้นเสียงออกมาอย่างยากลำบาก
 “ท่านพ่อ ดูสิ ข้าสบายดี” ลินลี่ย์กล่าวปลอบโยนในทันที
ฮ็อกเหลือบตามองกองแก่นเวทที่มีมูลค่าเป็นเงินก้อนโต และหันกลับมามองรอยแผลเป็นลึกบนร่างกายของลินลี่ย์ ทั้งร่างของฮ็อกถึงกับสั่นเทิ้ม
ในใจของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
เกลียดที่ตนเองช่างไร้ประโยชน์ ไร้ความสามารถสิ้นดี!
หลังจากสูดหายใจลึก ฮ็อกก็ตกอยู่ในความเงียบ สายตาจ้องมองไปยังผืนฟ้า และในที่สุดเขาก็กล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ลินลี่ย์ เจ้าคงเหน็ดเหนื่อยกับเดินทางมาทั้งวัน รีบไปพักผ่อนเถิด”
 “ขอรับท่านพ่อ”
ลินลี่ย์จากไปอย่างเงียบเชียบ ทิ้งให้ฮ็อกนั่งอยู่ตามลำพังท่ามกลางแสงเทียนในห้องอาหาร
 

2 ความคิดเห็น:

Anny กล่าวว่า...

น้ำตาจะไหลสงสารท่านพ่อ😢

neng2006 กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น