วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 98 แผงเพลิงนกยูง

ตอนที่ 98  แผงเพลิงนกยูง
ถังเทียนพุ่งราวกับลูกกระสุนด้วยพลังเต็มที่ เสียงลมพัดกรอกหูอื้ออึง  เพลิงในดวงตาเขาพริ้วไหวนุ่มนวล

รังสีอำมหิตของเขาแผ่ออกขณะพุ่งผ่านท้องฟ้า บุรุษหนุ่มในท้องฟ้าเหยียดตัวออก เหมือนกับว่ารังสีของดวงอาทิตย์แผดเผาจนตัวเขาลุกโชน
เอ้อจู้ที่อยู่ด้านล่างถึงกับแตกตื่น ใบหน้าขาวซีด เมื่อเขาจ้องมองขึ้นไปในดวงตาของร่างข้างบน มันทำให้เขากลัว  ความหยิ่งในความแข็งแกร่งที่เขาพึ่งพามาตลอด ถูกกดดันจนพ่ายแพ้สิ้นเชิง
ถังเทียนที่อยู่ในอากาศ เพ่งเล็งเอ้อจู้ในฐานะศัตรูที่ถูกจับตา จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใจที่เขาไม่กล้าเคลื่อนไหว ซึ่งจะทำให้ถังเทียนกลายเป็นเหมือนนักล่าที่มีประสบการณ์
มีดบินหกเล่ม มีรัศมีสีทองพุ่งฝ่าอากาศมาจนใกล้จะถึงหลังของถังเทียน  เมื่อเห็นว่าเอ้อจูตกอยู่ในอันตราย เสี่ยวหลูตัดสินใจเคลื่อนไหว โดยไม่มีการยั้งมือ ปราณเที่ยงแท้ถ่ายเทเข้าในมีดบินและมีดบินนั้นมีรังสีทองเปล่งประกาย วิถีของมีดบินเป็นเหมือนกิ่งหลิวที่ถูกลมพัดจึงทำให้มีดพุ่งเข้ามาเป็นแนวโค้ง
มีดบินสีทองทั้งหกเล่มพุ่งไขว้สลับกันในอากาศเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วและแปลกประหลาด  ด้วยความรวดเร็วปานสายฟ้า
ไม่มีผู้ใดสังเกตว่าที่มุมหนึ่ง สตรีชุดดำถือธนูจันทราตั้งท่าเตรียมยิง  ใบหน้าที่สวมหน้ากากของนางมีดวงตาที่เปล่งรังสีฆ่าฟันที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับเข็มทิ่มแทง
ธนูขึ้นสายเต็มที่แล้ว ลูกธนูทองแดงหนักถูกเหนี่ยวรั้งมาด้านหลัง
ธนูบรอนซ์หนักนี้แตกต่างจากธนูทองแดงที่นางยิงก่อนหน้านั้น ตัวลูกธนูหนาเท่าหัวแม่มือ ขนนกที่หางธนูเป็นสามแฉกแทนที่จะเป็นสอง ปลายธนูแหลมส่องประกายเยือกเย็นมีประกายไฟที่ทำให้คนหวาดกลัว
นางเป็นคนมีเชาว์ปัญญาไหวพริบ ตอนแรกนางพัวพันหลอกล่อกับจิ่งหาว และเอาแต่หลบต่อเนื่องโดยไม่ทำอะไร แม้แต่จิ่งหาวก็ไม่ได้ตระหนักว่าธนูในมือของนางไม่ใช่ของที่ธรรมดา
มันคือสมบัติดวงดาวชั้นบรอนซ์แห่งหมู่ดาวคนธนู (ซาจิทาเรียส) ธนูเขียว
ธนูนี้มีลูกธนูที่แตกต่างกันสามแบบ ธนูบรอนซ์หนักเป็นหนึ่งในนั้น  ธนูบรอนซ์ธรรมดาไม่สามารถปลดปล่อยศักยภาพที่แท้จริงของธนูเขียวได้ และมีแต่ลูกศรเฉพาะแบบสามอย่างจึงจะสามารถดึงพลังของสมบัติดวงดาวออกมาได้อย่างครบถ้วน
ปราณเที่ยงแท้ที่ถูกถ่ายเทเข้าในธนูบรอนซ์หนัก และสายแห่งรังสีเขียววาบผ่านเหมือนสายฟ้าตั้งท้ายธนูไปจนถึงปลายคมธนู
ขณะที่รังสีแสงเชื่อมโยงถึงปลายลูกธนู ชิ้ง ชิ้ง คมธนูหยกเขียวสองด้านก็แยกออกจากปลายลูกธนูเปลี่ยนปลายธนูเป็นสี่มุมทันที
นิ้วมือเรียวยาวขาวดุจหิมะของนางปล่อยลูกธนูจากแล่ง
ฟิ้ว
※※※※※※※※※※※※※

จิ่งหาวผงะเล็กน้อยกับรูปแบบการโจมตีของถังเทียน  แม้ว่าเมื่อเขาซ้อมฝีมือกับถังเทียน เขาก็ยังประหลาดใจในการต่อสู้จริง ประสิทธิภาพของถังเทียนนับว่ายังชนะเขาได้อีกครั้ง
เจ้าหมอนี่...
ทันใดนั้น รังสีฆ่าฟันรุนแรงผ่านตัวเขาไปทำให้เขารู้สึกใจตก
หน้าจิ่งหาวเปลี่ยน เขาลืมไปจริงๆ เกี่ยวกับสตรีที่อยู่ในตำแหน่งม้าของวิญญาณมืด
แย่แล้ว!
จากมุมสายตาของเขา  เขามองเห็นแสงของลูกศรสีเขียวอ่อน จากนั้นก็หายไปในกลางอากาศ  เป้าหมายเป็นถังเทียนอย่างมิต้องสงสัย
จิ่งหาวไม่พะวงถึงเรื่องอื่น เขาตะโกนอย่างไม่ลังเลใจ "มงกุฏเหนือ"
มงกุฏที่ด้ามกระบี่เปล่งแสงและขณะเดียวกัน กระบี่มงกุฏเหนือของจิ่งหาวก็แทงออกไป!
ลำแสงสีขาวปล่อยออกจากกระบี่และมันหายไปทันที
ติง!
รังสีกระบี่ขาวและแสงธนูเขียวอ่อนปะทะกัน
เหมือนกับเสียงตีฆ้อง ทุกคนรู้สึกเหมือนเลือดลมพลุกพล่าน  สตรีชุดดำคราง  กระบี่นี้จิ่งหาวใช้ออกอย่างสุดกำลัง  เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้รับประโยชน์จากมันแน่  แต่จู่ๆ ดวงตานางสว่างวูบ
จิ่งหาวระบายลมหายใจ  ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับถังเทียน เขาคงเสียใจแย่ และตอนนั้น เมื่อลูกศรกับรังสีกระบี่ปะทะกัน คมลูกศรสองคมแยกออกจากกันทันที มันถูกสร้างจากปราณเที่ยงแท้
คมศรทั้งสองเปลี่ยนเป็นลูกศรแสงเล็กสองดอกกลางอากาศ  จากนั้นความเร็วของลูกศรเพิ่มขึ้นและกลมกลืนอยู่ในมีดบินสีทองทั้งหก
ถังเทียนลอยอยู่ในอากาศไม่สามารถจะหลบได้
จิ่งหาวสีหน้าเปลี่ยนอีกครั้ง เขาไม่เคยคิดว่าคู่ต่อสู้ของเขาจะมีแผนตามหลัง
ถังเทียนตกอยู่ในอันตราย
※※※※※※※※※※※

ถังเทียนเพียงแต่รู้สึกถึงอันตรายพุ่งเป้ามาที่เขา  และความรู้สึกถึงอันตรายของเขานั้นรุนแรง  เขาผ่อนลมหายใจ เขาคิดว่าความรู้สึกถึงอันตรายหายไป  แต่เขาคาดไม่ถึงว่า จู่ๆ มันกลายเป็นรังสีฆ่าฟันที่อ่อนจางและเยือกเย็น
ถังเทียนสั่น
พลังของพี่จิ่งหาว สามารถจัดการได้  แต่ถ้าพี่จิ่งหาวไม่สามารถกันมันเอาไว้ได้ล่ะ...
เขาอยู่กลางอากาศและโดยพื้นฐานไม่สามารถยืมพลังได้
ตั๊กแตนจับจั๊กจั่น นกขมิ้นไล่ตามหลัง
ความมั่นใจในความสำเร็จแต่เดิมพังทลายเพราะศัตรู  อารมณ์ของคนปกติจะกลัวและหดหู่อย่างหนัก  แต่สำหรับถังเทียน เขาไม่เสียสมาธิแม้แต่น้อย  แม้ว่ารังสีฆ่าฟันจะอ่อนมาก  แต่ถังเทียนไม่ผ่อนคลายการป้องกัน  สัญชาตญาณของเขาบอกเขาว่ารังสีฆ่าฟันซ่อนอันตรายใหญ่หลวงไว้
ทำยังไงดี?
ถังเทียนคิดหนัก  ภายใต้อันตรายใหญ่หลวง จิตวิญญาณพลังยุทธเงินในร่างของเขาดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงอันตราย จึงกระตุ้นการทำงานมันอย่างผิดธรรมดา
ความคิดเลือนลางถูกเชื่อมเข้ากับจิตวิญญาณพลังยุทธเงินโดยมิได้คาดฝัน
หือ..อะไรนี่?
ถังเทียนเบิกตากว้าง  ขณะที่ใบหน้าเขามีความยินดีอย่างมิอาจควบคุมได้  นี่มัน..
จิตวิญญาณพลังยุทธเงินขยายตัว  ความคิดที่พร่าเลือนเริ่มชัดเจนขึ้น
นกยูงครามโผล่ออกมาจากร่างกายเขา  มีเกราะขนนกครามเกิดขึ้นและมีเปลวไฟสีเขียวแสงส่องสว่างเป็นคลื่นภายใต้เกราะขนนก
เกราะขนนกที่ด้านหลังถังเทียนปล่อยเปลวเพลิงเขียว  เขาลอยตัวจากพื้นช้าๆ และอยู่ในอากาศอย่างเงียบสงบ
ทุกคนที่เห็นภาพประจักษ์นี้ต่างก็ปากอ้าตาค้าง
ถังเทียนบินด้วยความเร็วสูงราวกับแสง เกราะนกยูงนี้ราวกับภาพลวงตา มันขัดแย้งกับภาพที่เกิดขึ้นต่อหน้าพวกเขา
ไม่ทราบว่ามีนกยูงครามปีนขึ้นไปอยู่บนไหล่ของถังเทียนตั้งแต่เมื่อใด มันหันศีรษะมามองด้วยสายตาที่หยิ่งเยือกเย็น พอหน้าผากของมันสั่นสะเทือนก็ปรากฏขนนกสีแดงขึ้น
เปลวเพลิงเขียวที่ลอยอยู่รอบหางของนกยูงขยายขนาดและสีสัน  ทันใดนั้นแสงรังสีน้ำเงินสายหนึ่งยิงออกมาจากขนนกยูงของเกราะเข้าหาขนนกยูงชิ้นอื่นๆ ในพริบตาเดียว  ก็กลายเป็นแผงแสงสีน้ำเงินเจิดจ้า  บนแผงแสงมีเปลวไฟสีเขียวลุกโชน เหมือนกับว่านกยูงกำลังคลี่ปีกรำแพน
แผงเพลิงนกยูง
ไม่ทราบว่าวลีนี้ปรากฏขึ้นในใจของถังเทียนได้ยังไง
ฉากภาพสวยงามนี้ สร้างความตื่นเต้นตื่นตะลึงให้กับทุกคน
"ผู้อาวุโสหนง..." จิ่งหาวพึมพำ  เขาใจลอยมองดูแผงเพลิงสีฟ้าและตานกยูงครามบนไหล่ถังเทียนอย่างภูมิใจ  ทันใดนั้น เขาคิดถึงคำอธิบายเกี่ยวกับนกยูงคราม  ตามรายงานเมื่อผู้อาวุโสหนงได้มันมา  นกยูงครามเป็นแค่เพียงสมบัติชั้นบรอนซ์ธรรมดา  แต่ผู้อาวุโสหนงทุ่มเทหยาดเหงื่อเลือดเนื้อ จัดการเปลี่ยนแปลงมันจากภายในออกมาจนเป็นสมบัติชั้นบรอนซ์ที่แข็งแกร่งที่สุด
ก่อนผู้อาวุโสหนงจะตาย ได้บรรจุจิตวิญญาณพลังยุทธเข้าในสมบัติที่หายาก ก็คือนกยูงนี้....
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เมื่อเห็นนกยูงที่น่าภูมิใจและเยือกเย็นนี้  จู่ๆ จิ่งหาวเหมือนเห็นร่างชายชราร่างงองุ้มตัวผอมแต่ดูหยิ่งภาคภูมิใจ
นามของกรงเล็บภูตพรายเพลิงสร้างความหวาดหวั่นในวันเก่าก่อนเหล่านั้น....
ตอนนั้น นกยูงก็ดูหยิ่งภาคภูมิใจเหมือนตอนนี้
จิ่งหาวเหม่อมอง
นัยน์ตาของสตรีชุดดำเต็มไปด้วยอาการตกใจตื่นตะลึงเมื่อได้เห็นนกยูงที่เยือกเย็นและภาคภูมิบนไหล่ของถังเทียน  เหมือนกับว่านางเห็นปีศาจในฝันร้าย
นั่นคือ.... นกยูงคราม!
ชื่อที่ไพเราะความจริงกับเกี่ยวข้องกับชื่อที่อำมหิตโหดร้าย กรงเล็บภูตพราย
คนผู้นั้นตายไปนานแล้วไม่ใช่หรือ?  เว้นแต่บุรุษหนุ่มนี้ จะเป็นผู้สืบทอดกรงเล็บภูตพราย... ทำไมเราไม่รู้เรื่องนี้เลย
มือเท้านางเย็นเฉียบเหมือนมีน้ำแข็ง
ปุ ปุ ปุ
เสียงเบาดังต่อเนื่องสามารถได้ยินได้  ขณะที่แสงทองหกสายและธนูเล็กหยกเขียวพุ่งเข้าใส่แผงเพลิงนกยูง
แผงเพลิงนกยูงสามารถพับ หุ้ม และม้วนตัวได้จากนั้นก็เข้าไปอยู่ที่หลังของถังเทียนทันที  ถังเทียนแค่นเสียงเบื่อหน่าย และร่างของเขาเพิ่มความเร็วขึ้นอีก  แผงเพลิงนกยูงสามารถป้องกันประกายแสงพลังงานโจมตีทั้งแปดสายได้สำเร็จ  นกยูงครามสามารถป้องกันเจ้านายภายใต้สถานการณ์วิกฤติเท่านั้น  แต่พลังที่จะคงมันเอาไว้ของถังเทียนยังไม่เพียงพอ  พลังยังห่างไกลจากยุคที่มันรุ่งเรือง
มีเศษพลังอีกสามส่วนที่มารบกวนในร่างของถังเทียน มันคือมีดบินที่คมและรุนแรงเล่มหนึ่งและพลังงานประหลาดอีกสองสายที่เย็นและมืดมน  พลังมีดบินถูกเปลี่ยนแปลงโดยร่างกระเรียนในตัวถังเทียน ขณะที่พลังที่มืดมนและเยือกเย็นอีกสองสายพลังร่างกระเรียนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้หมด
เป็นครั้งแรกที่ร่างกระเรียนไม่สามารถสลายพลังงานได้ และเส้นชีพจรเขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ถังเทียนถึงกับตะลึง  นกยูงบนไหล่ของเขาดูหมองลง และเมื่อใช้เกราะขนนกเพื่อป้องกันการโจมตีอีกครา เห็นได้ชัดว่าใช้พลังงานไปมาก
ถังเทียนไม่หยุด และหยิบยืมพลังเพื่อเพิ่มความเร็วของเขายิ่งขึ้นเหมือนกระสุนปืนใหญ่  เขาพุ่งเข้าหาเอ้อจู้
"เพลิงเตาหลอม!"
เสียงคำรามลั่นดังก้องออกมาจากถังเทียนผู้เกือบจะเสียชีวิตไปแล้ว
เปลวเพลิงเตาหลอมที่ครอบคลุมหมัดเปลี่ยนเป็นสีเขียวอย่างรวดเร็ว  ปราณเพิ่มขึ้นพรวดพราด
เอ้อจู้ฝืนใจตั้งท่าป้องกันตัว ปราณเที่ยงแท้ระดับสี่ถ่ายเทเข้าไปนพลั่วจันทร์เสี้ยว ขณะที่เลือดซึมออกจากปากเขา  เขารู้ว่าถ้าเขาไม่ทุ่มเทพลังทั้งหมด เขาได้ตายแน่  ความกลัวหายไปจากใบหน้าเขาหมดเหลือแต่ความตั้งใจสู้เข้ามาแทน
"ฆ่า!" เอ้อจู้มองอย่างโกรธแค้น กระแทกพลั่วจันทร์ลงพื้น รัศมีสีทองเปล่งออกและฉายไปในอากาศ
ถังเทียนยังอยู่ในอากาศเป็นเหมือนอินทรีที่จับจ้องล่าเหยื่อ เขาปล่อยหมัดออกไปข้างหน้าด้วยเสียงที่น่ากลัว
หมัดที่ถูกเปลวเพลิงเขียวสดใสหุ้มไว้ปล่อยระลอกสั่นสะเทือนออกมาไม่หยุด กำปั้นแหวกอากาศก่อให้เกิดคลื่นระเบิดเสียง
พลังสีเขียวกับสีเขียวปะทะกันดังสนั่น
จากนั้นทุกอย่างสลายวับ
เอ้อจู้กระเด็นถอยหลัง ตา จมูก ปากของเขามีเลือดไหลออกมา
การตอบโต้แลกชีวิตของฝ่ายตรงข้าม ทำให้ถังเทียนไม่สบายใจ  ปราณเที่ยงแท้ธาตุดินของฝ่ายตรงข้ามไม่คู่ควรจะเป็นคู่ต่อกรของร่างกระเรียน ซึ่งสลายและแปลงพลังได้ในพริบตา การต่อสู้มาถึงขั้นนี้แล้ว ทำให้ถังเทียนไม่กลัวอะไร  เขากระตุ้นพลังปราณเที่ยงแท้และเข้าประชิดร่างของเอ้อจู้
ฝ่ามือมีดวงเดือนพลิกแพลงและอำมหิต
เอ้อจู้พยายามดิ้นรนต่อสู้ป้องกันฝ่ามือทั้งสอง แต่ชายโครงด้านล่างถูกทำร้ายสองแผล เกิดรอยบาดแผลฉีกขาดทันที
รังสีฆ่าฟันปรากฏวูบในดวงตาของถังเทียน เหมือนกับปีศาจเคลื่อนตัวเข้าประชิดด้านข้างเอ้อจู้
ขาทั้งสองระดมเตะใส่อย่างรุนแรงจนเกิดเสียงหวีดหวิว และเอ้อจู้ที่ได้รับบาดเจ็บหนักเสียเปรียบอย่างสิ้นเชิง  เขาพยายามพยุงตัวเอง แต่ทันใดนั้นจุดแสงสีแดงขนาดเม็ดฝนสว่างวาบที่ระหว่างขาของเขา
เอ้อจู้ผงะถอยหลัง  ในห้วงเวลาที่สิ้นหวัง เขาไม่คำนึงถึงอะไรอย่างอื่นอีก และใช้ฝ่ามือบังข้างหน้าไว้
ฝ่ามือของเขาถูกแสงสีแดงเจาะทะลุทันที
ร่างเอ้อจู้ชะงักค้าง ดวงตาเบิกโพลงด้วยความคับแค้น หลังจากลำแสงแดงทะลุผ่าน คอของเขามีรูกว้าง
ดรรชนีมารพิโรธ!

3 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น