วันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 140 หลิงซิ่วเจ้าอารมณ์

ตอนที่  140  หลิงซิ่วเจ้าอารมณ์
"เฮ้, สมองของเจ้าไปหมดแล้วหรือ?" ถังเทียนกระซิบที่หูของหลิงซิ่ว  เขาพูดอย่างระมัดระวัง "ถ้าเจ้าทะเลาะกับเขา จะเกิดอะไรขึ้นกับเงินเดือนเจ้า? ไม่มีใครให้เงินเจ้าใช้นะ แล้วอนาคตเจ้าจะทำอะไรกิน?"

หลิงซิ่วกอดหอกเงินของเขามองดูถังเทียนอีกครั้ง และพึมพำ "มันเกี่ยวอะไรกับเจ้า?"
"ข้ากำลังคิดเผื่อเจ้านะ สมัยนี้หางานได้ยาก"  ถังเทียนบ่นเหมือนยายแก่และทำเสียงเจ้ากี้เจ้าการ "เจ้ายังอายุน้อย ประสบการณ์ก็ยังไม่มาก เมื่อเผชิญกับโลกจริงที่โหดร้าย เจ้ายังเห็นโลกมากไม่พอนะ..."
หลิงซิ่วด่าอย่างโกรธเคือง "หุบปากไปเลย"
ถังเทียนรู้สึกละอาย และเขาไม่สบายใจเล็กน้อย  เขาไม่ได้มีเจตนาจะเสียดสี และรู้สึกแย่ที่ทำให้หลิงซิ่วต้องตกงาน
หลิงซิ่วโอบหอกของเขาขณะที่นั่งก้มหน้าหดหู่และไม่เป็นมิตร คล้ายกับว่าเขาเป็นภูเขาไฟที่พร้อมจะปะทุทุกเมื่อ
สัญชาตญาณรับรู้ถึงอันตรายของถังเทียนว่องไวมาก  เขารู้ได้เลยว่าเขาไม่ควรแหย่เจ้าวายร้ายคนนี้ในยามนี้!
อย่ายั่วโมโหเขาดีกว่า
ถังเทียนเดินไปหากู้เสวี่ยเงียบๆ ชั่วครู่ต่อมา เขาก็อดใจไม่ไหว "เจ้าอย่าคิดมากไปเลยน่า ก็แค่พลาดท่าเล็กๆ น้อยๆ เอง?"
เพียงเท่านั้น หลิงซิ่วก็ระเบิดอารมณ์ เขากระโดดผางและใช้หอกเงินพู่แดงชี้มาทางถังเทียนตะโกนลั่น "มาสิวะ, เจ้าบัดซบ  ข้าจะสั่งสอนเจ้า!"
ปราณสังหารกล้าแข็งขนาดนั้น
ถังเทียนฝืนยิ้ม เขายักไหล่แบมือแสดงท่าทางว่า "เจ้าไม่ควรใส่ใจ" และหัวเราะ "ฮ่าฮ่าฮ่า  ข้าถามแบบสบายๆ ความจริงก็แค่คำถาม ถ้าเจ้าไม่รู้สึกเหมือนว่าเป็นการพูด ข้าก็จะไม่ถาม...."
เหมือนกับว่าที่ก้นเขามีรากงอกลงไปในพื้น  เขายังคงนั่งอยู่
หลิงซิ่วชะงัก แต่ในช่วงต่อมา เขาวิ่งมาอยู่ต่อหน้าถังเทียนเหมือนกับพยัคฆ์โกรธกริ้วและคำรามลั่น น้ำลายของเขากระเด็นใส่หน้าของถังเทียน "เจ้าเป็นคนแบบนี้ได้ยังไง? ทำได้ยังไงกัน เจ้าบัดซบ  เจ้ารู้แต่วิธีที่น่าสมเพชและน่ารังเกียจหรือไง? มาต่อสู้พิสูจน์ศักดิ์ศรีกันเลย มา!"
ถังเทียนเงยหน้า  แต่เขาไม่มีความตั้งใจจะยืนขึ้น เขาพูดด้วยสีหน้าคาดหวัง "ครั้งหนึ่งเชียนฮุ่ยเคยขอไม่ให้ข้าสู้กับคนที่เพิ่งตกงาน ข้าคิดว่านางมีเหตุผล"
หลิงซิ่วชะงัก
กู้เสวี่ยก็ตกใจกับสิ่งที่นางเห็นประจักษ์  ไม่ใช่แค่นางเท่านั้น  แม้แต่ปากของเมอเรย์ก็ยังหุบไม่ลง  ภาพที่อยู่ข้างหน้า ช่างทำให้เขางงงันนัก
นางเริ่มสำรวจหลิงซิ่วอย่างจริงจังครั้งแรก
หลิงซิ่วรูปร่างสูงโปร่ง  แต่เขาตัวบางกว่าถังเทียน ผมของเขาสีฟ้าเหมือนน้ำทะเล ที่หาได้ยากคือเขามีดวงตาสีส้ม เหมือนกับว่ากำลังมีไฟลุกโชน
นางเคยได้ยินชื่อของหลิงซิ่วมามากกว่าครั้งหนึ่ง  หลิงซิ่วไม่ได้ติดตามผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลมานานเท่าใดนัก  เขาเพิ่งปรากฏตัวสองปีที่แล้ว แต่ภายในช่วงสองปีนี้ เขากลายเป็นที่รู้จักว่าเป็นนักสู้ผู้แข็งแกร่งที่สุดในดาวไพรมายา
ทันใดนั้น กู้เสวี่ยจำได้ว่าหลิงซิ่วมีฉายาอย่างหนึ่ง
หลิงซิ่วเจ้าอารมณ์
นักสู้ผู้น่าเกรงขามผู้นี้มีอารมณ์ร้อนแรง  เล่าลือกันว่าเขาเบื่อบุญคุณความแค้นและการแสวงหาการแก้แค้น ถ้าเขาไม่สามารถทำงานกับคนอื่นต่อไปได้  เขาคงต้องต่อสู้แน่
แต่...หลิงซิ่วกลายเป็นคนทรยศจริงๆ
ทำไม?
จู่ๆ ก็มีเสียงชรา เคร่งเครียดดังขึ้น "หลิงซิ่ว เจ้าจะไปจากข้าจริงหรือ?"
ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลปรากฏตัว  เขาจ้องดูหลิงซิ่วด้วยความโกรธ
หลิงซิ่วชะงักค้างและค่อยหันหลังกลับมาตามปกติ  เขากอดหอกเงินพู่แดงและยังคงนั่งอยู่พูดด้วยความรู้สึกกดดัน "ใช่แล้ว"
ตลอดทั้งที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยความเงียบ วิธีการที่หลิงซิ่วยอมรับอย่างเปิดเผยทำให้เกิดผลกระทบใหญ่ต่อทุกคน  ช่วงสองปีที่ผ่านมา หลิงซิ่วได้รับตำแหน่งสูงในตระกูลกู้ผ่านผลงานเขา
สำหรับตระกูลใดก็ตาม เมื่อยอดฝีมือคนหนึ่งลาออก พวกเขาอาจตกอยู่ในอันตราย และเพราะเหตุนั้น ตำแหน่งของผู้อาวุโสสูงสุดในตระกูลอาจจะร่วงลงติดดินก็ได้
ปากของถังเทียนอ้าค้างขณะมองดูหลิงซิ่วด้วยความตกใจ เจ้าหมอนี่เอาจริงเฮ้ย...
เมื่อมองจากหางตา เขาเห็นสีหน้าถังเทียน ทันใดนั้นสีหน้าของหลิงซิ่วเปลี่ยนเป็นดูดีขึ้น
"ทำไมกัน?" เสียงของผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลสั่น
"ทำไมน่ะหรือ?" หลิงซิ่วผงะ เขาเอียงศีรษะตรองดู "ข้าไม่สบายใจ ถ้าข้าไม่สบายใจที่จะอยู่ต่อ ดังนั้นข้าควรจะจากมา"
"ไม่สบายใจหรือ?" เสียงของผู้อาวุโสสูงสุดค่อยมั่นคง เขานึกทบทวน เขาไม่ได้เกลี้ยกล่อมหลิงซิ่วมากพอ เขาพยายามทำเสียงของเขาให้จริงใจมากที่สุดเท่าที่ทำได้   "ข้าดูแลเจ้าไม่ดีเอง  ข้าหวังว่าเจ้าจะให้โอกาสข้าแก้ตัว ไม่ว่าอะไรที่เจ้าต้องการ  ไม่ว่าอะไรที่เจ้าอยากได้ ข้าจะสนับสนุนเจ้า ตระกูลกู้จะสนับสนุนให้เจ้าทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเงิน, การ์ดวิญญาณ, สมบัติ, พลังสายเลือด ขอเพียงเจ้าระบุออกมาเราก็จะจัดให้เจ้า"
ผู้อาวุโสตระกูลให้คำมั่น เขาสังเกตเห็นความผิดพลาดของตนเอง และด้วยการตัดสินใจโดยไม่อ้อมค้อม หลายๆ คนแอบชื่นชมการกระทำของผู้อาวุโสสูงสุด ใครจะมีความถ่อมตนและสำนึกผิดยอมขอโทษในความผิดของพวกเขาได้ทันที เขาเป็นคนที่ยินดีและพอใจกับการกระทำของเขา  แน่นอนว่าย่อมต้องเป็นคนที่มีพลังและไร้ยางอายอีกด้วย
หลิงซิ่วส่ายหน้าและกล่าวอย่างตื้นตันใจ  "ข้าไม่ชอบรังแกคนที่อ่อนแอกว่า ไม่สบายใจและเบื่อหน่ายชีวิตแบบนี้ ครั้งหนึ่งอาจารย์ผู้สอนข้าเคยบอกว่าในฐานะที่เป็นนักสู้ เราควรต่อสู้ด้วยความมีเกียรติและตั้งใจ   ข้าไม่เคยยอมรับมาตรฐานของผู้สอนของข้า  แต่ข้าไม่ต้องการถลำลึก  เมื่อเป็นแบบนี้ อะไรก็ตามที่ข้าทำให้ท่านก็ถือว่าเพียงพอต่อการตอบแทนเงินเหรียญดวงดาวที่ท่านจ่ายให้ข้าทั้งหมด"
ไม่รู้ว่าเหตุใด เมื่อหลิงซิ่วพูดจบ  เขาถึงได้รู้สึกปลอดโปร่งใจนัก  ในที่สุดเขาก็สิ้นสุดชีวิตที่ยุ่งเหยิงนี่เสียที
ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลโกรธจนหัวเราะ  "หลิงซิ่ว เจ้ายังทำตัวเป็นเด็กอยู่อีกหรือ?  เจ้าพูดไร้เดียงสาอย่างนั้นออกมาได้ยังไง สร้างความผิดหวังให้ข้านัก เงินที่ใช้จ่ายให้เจ้าฝึกฝนนั้นมาจากไหน? เจ้าได้การ์ดวิญญาณมาจากไหน? สมบัติของเจ้าเล่า?  ตกมาจากฟ้าหรือไง? ตอนนี้เจ้าเพิ่งมาบอกว่าข้าไม่มีสิ่งที่เรียกว่าเกียรติใช่ไหม? ฮ่าฮ่าฮ่า"
"นอกจากนี้อาจารย์ผู้สอนข้ายังบอกว่า สิ่งที่ทำให้เจ้าถึงระดับสุดยอดได้ ไม่ใช่การ์ดวิญญาณ ไม่ใช่เหรียญดวงดาว  แต่เป็นความเชื่อมั่นและความเพียร"
"พวกท่านทุกคนฆ่าพ่อแม่นางเพื่อเงินและผลประโยชน์  นั่นมันเรื่องของพวกท่าน, ข้ายุ่งด้วยไม่ได้  แต่ท่านกลับเค้นสมองเพื่อลักพาตัวเด็กสาวที่เพิ่งจะสูญเสียบิดามารดาไปเป็นแม่พันธุ์ให้กำเนิดเด็กรุ่นหลังที่จะทำให้สายเลือดรุ้งหิมะปรากฏ" นัยน์ตาสีแดงเพลิงของหลิงซิ่วเป็นประกายลุกโชน เขาชี้หอกไปที่ถังเทียนแล้วตะโกน "แม้แต่เจ้างี่เง่านี่ ยังรู้จักสิ่งที่ตัวต้องทำ"
ถังเทียนเพิ่งจะเรียกความรู้สึกของตนได้ ก็ชะงักทันที เจ้ากำลังชมข้า.... นี่ชมข้าอยู่ใช่ไหม?
หลิงซิ่วรู้สึกเหมือนว่าได้ระบายบางอย่างออกมาจากอก  เขารู้สึกเข้มแข็งอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน  ต่อให้เขาเผชิญหน้ากับความตาย  เขาก็จะไม่ขมวดคิ้ว
ในเสี้ยววินาที  เขาได้รับการปลุกเร้า, ใช่แล้ว เขาต้องไม่มีทางสูญเสียศรัทธาของตนเอง
ศรัทธาตนเอง  สิ่งที่เขาชอบ มันคือสภาพจิตใจที่เป็นพื้นฐานเดิมของเขา
หลิงซิ่วมองดูผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลและกล่าว "ข้าเสียใจจริงๆ แต่ข้าจะขอเป็นตัวของตัวเอง"
ถังเทียนนั่นอยู่ด้านข้างด้วยสีหน้าหยิ่่ง เขากำลังพึมพำ  ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย  เจ้านี่ไม่เห็นต้องตอบแทนเสียสูงลิบ...
จู่ๆ หลิงซิ่วเดินตรงเข้าหาผู้อาวุโสสูงสุดตระกูล
ผู้อาวุโสสูงสุดสีหน้าเปลี่ยน เขาถอยออกมาโดยเร็ว  ในช่วงที่เขาตื่นเต้นนี้ เขาตะโกนลั่น "หลิงซิ่ว เจ้าพยายามจะลงมือกับข้างั้นหรือ?"
หลิงซิ่วไม่สนใจ  เขาก้าวออกไปอีกเจ็ดแปดก้าวก่อนที่จะหยุดและใช้หอกแทงลงไปในพื้นปูน ขีดเป็นเส้นตรงใต้เท้ายืดยาวไปจนสุดทางอีกด้านหนึ่ง
"ใครก็ตามที่ผ่านเส้นนี้เข้ามาจะต้องตาย"
คำพูดเย็นชาของหลิงซิ่วกระทบโสตผู้คนทำให้ทุกคนสั่น
โดยไม่พูดอะไรต่อ เขาหันและเดินกลับไปใกล้ถังเทียนก่อนจะนั่งกอดหอกของเขาต่อ
หน้าของผู้อาวุโสสูงสุดบัดเดี๋ยวแดงบัดเดี๋ยวเขียวคล้ำ  แต่เขายังคงเงียบ  เขารู้จักอารมณ์ของหลิงซิ่วเป็นอย่างดี  ถ้าคนผู้นี้ต้องการจะทำอะไร  ไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้
แต่...ถ้าเขาคิดว่าไม่มีใครสามารถรับมือเขาได้  อย่างนั้นเขาคิดผิดเสียแล้ว...
ผู้อาวุโสสูงสุดต้องการจะฆ่าเขา  หากว่าเขาไม่กลับใจเพราะความผิดพลาดของเขา รากฐานที่เขาเองวางแผนมาเป็นสิบปีคงจะพังทลายเหมือนหิมะถล่ม  เขาไม่สามารถยอมรับเรื่องนั้นได้
ท้องถนนเต็มไปด้วยความสงบอีกครั้ง
ชื่อเสียงที่อำมหิตของหลิงซิ่วไม่ใช่สิ่งที่ถังเทียนสามารถเทียบได้  พระยายมหลิงไม่ใครกล้าแตะต้องได้
ทั้งสี่คนนั่งล้อมวงกันโดยไม่พูดอะไร
กู้เสวี่ยลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนที่นางจะพูดเบาๆ  "ขอบคุณท่าน"
หลิงซิ่วกอดหอกเงินตาไม่กระพริบ กล่าวว่า "ไม่ต้องขอบคุณข้า  ข้าแค่ทำเพื่อตัวเอง"
แม้จะเข้าใจแค่เพียงครึ่งเดียว กู้เสวี่ยก็ยังพูดต่อ "แต่ข้ายังต้องขอบคุณท่านอยู่ดี"
หลิงซิ่วไม่พูดอะไรสักคำ เขาจ้องมองถังเทียนที่ทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง เขาถาม "ถ้าเจ้ามีอะไรจะพูด  ก็พูดออกมา"
ถังเทียนดีใจ "อย่างนั้นข้าพูดตรงๆ ละนะ"
"พูดไป" หลิงซิ่วพูดอย่างรำคาญ
"เจ้าตาสว่างได้เพราะข้าหรือเปล่า? โอว, มันทำให้เจ้าได้ค้นพบมโนธรรมใช่ไหม?" ถังเทียนนัยน์ตาเป็นประกาย  "ต้องใช่แน่ๆ  มันต้องเป็นเช่นนั้น  แน่นอน..ข้าคือหนุ่มชาวฟ้านี่นา  ฮ่าฮ่าฮ่า... ข้านี่ก็ไม่เบาเหมือนกัน"
แก๊ก แก๊ก แก๊ก!
หลิงซิ่วหันหน้ามาด้วยท่าทีเหมือนหุ่นยนต์ ผมสีน้ำเงินของเขาตั้งชันด้วยความโกรธ สีหน้าถมึงทึง คู่ตาสีแดงเพลิงเหมือนกับมีเปลวไฟ ใบหน้าพลันเปลี่ยนเป็นดำคล้ำเหมือนกับว่ามีเมฆหนาครึ้มพร้อมกับสายฟ้า
"บัดซบเอ๊ย...ข้าจะฆ่าเจ้า!"
หลิงซิ่วกระโจนใส่ถังเทียนเหมือนเสือตะครุบเหยื่อ
กู้เสวี่ยและเมอเรย์มองดูการต่อสู้ที่กำลังจะเริ่มขึ้นอย่างงงงวย
ทั้งสองคนมองหน้ากันเอง  ทั้งสองคนรู้สึกว่าไม่ว่าจะทำยังไง พวกเขาก็ไม่สามารถเข้าใจว่าทั้งสองคนกำลังคิดอะไรอยู่
หลังจากต่อสู้กันแล้ว ทั้งสองคนมีสภาพที่ดูไม่ได้ ต่างคนต่างจ้องหน้าโดยไม่ยอมลดราวาศอก
"ข้าเป็นพี่ใหญ่ของเจ้า กล้าดียังไงถึงได้ลงมือกับพี่ใหญ่ของเจ้า?  เจ้ากำลังละเมิดเบื้องบน!" ถังเทียนระเบิดอารมณ์
"เพื่อความยุติธรรม  ตัวบัดซบอย่างเจ้าต้องได้รับบทเรียนเสียบ้าง" หลิงซิ่วเถียง
"ยุติธรรม? ความเห็นใจน่ะหรือ?" ถังเทียนจ้องมองเขาด้วยความไม่พอใจ
"มีความเห็นใจแล้วเกี่ยวอะไรกับเจ้า?"  หลิงซิ่วรู้สึกขัน
"อา!" ถังเทียนร้องและนอนคว่ำหน้ากับพื้น ร่างของเขากระตุกเป็นครั้งคราว เหมือนกับว่าเขาอยู่ในความเจ็บปวด
 “ความเห็นใจ.. ความเห็นใจ..” ถังเทียนกลิ้งไปมาบนพื้นราวกับว่าถูกตะคริวกิน เสียงร้องของถังเทียนแหลมเสียดหูของหลิงซิ่ว
หลิงซิ่วตะลึง แต่ไม่นานก็ตะโกนอย่างหงุดหงิด “นี่เจ้าจะทำให้ข้าเป็นไอ้งี่เง่าไปอีกถึงไหนกัน”
เจ้าบัดซบนี่หน้าด้านเกินไปแล้ว ช่างไม่มีจิตวิญญาณนักสู้เลย  คนที่น่าโมโหที่สุดก็คือเจ้า.. เจ้าจะทำเหมือนกับว่าข้าไม่มีปัญญาไปอีกถึงไหน?
 “เฮ้อ... เจ้างี่เง่านี่ไม่ยอมฮุบเหยื่อหรือนี่? แปลกดี...”
ถังเทียนพึมพำตามหลัง  หลิงซิ่วแทบทรุดลงกับพื้น
 

11 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

มีเส้นบางๆระหว่าง อัจริยกับปัญญาอ่อนนะฮะ(ถังเทียน)

Jumanjee กล่าวว่า...

อธิบายไม่ถูก

Unknown กล่าวว่า...

...?....

Unknown กล่าวว่า...

0.0

Unknown กล่าวว่า...

555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ นี่มันอะไรกันเนี่ย 5555

สุดยอด กล่าวว่า...

บื้อ ปะทะ บ้า 555

Unknown กล่าวว่า...

นึกภาพตามพระเอกแต่ละทีปวดหัวเลย555
มาดพระเอก

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณคับ.

ZENDINEL กล่าวว่า...

Thx

แสดงความคิดเห็น