ตอนที่ 512 พวกท่านช่างดีต่อข้าจริงๆ?
ทางเข้าธารน้ำแข็งโบราณ
ในใจกลางหุบธารน้ำแข็งที่กว้างใหญ่ มีภูเขาแก้วผลึกใสรูปกรวยสูงตระหง่านเกินกว่าหนึ่งกิโลเมตร ถ้าไม่มีแท่งภูเขาแก้วผลึกที่พังทลายและทำให้ซากหักพังปรากฏอยู่เล็กน้อย
คงไม่มีใครเชื่อว่านั่นคือซากโบราณสถาน
พายุหมุนกำลังหมุนเป็นเกลียวอยู่รอบๆ
ภูเขานั้น ทำให้ธารน้ำแข็งปั่นป่วนไปหมด
รอยแยกมิติสลายปรากฏเป็นครั้งคราว
แต่สิ่งที่แปลกที่สุดก็คือมันมักจะปรากฏอยู่รอบๆ
ภูเขาแต่กลับไม่สร้างความเสียหายให้กับภูเขาแก้วผลึก
ราชันย์ปีศาจใต้พาทุกคนเข้าไปทางประตูแก้วผลึกทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นหนึ่งในทางเข้าสามทางเข้าสู่ซากโบราณสถาน
กล่าวกันว่ามีประตูทิศเหนือ, ใต้,
ตะวันออกและตะวันตกเมื่อในอดีต
แต่ประตูทิศเหนือถูกรื้อจนใช้งานไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดสามารถเข้าจากตรงนั้นได้ ประตูทิศตะวันออกและทิศใต้ยังอยู่ในความวุ่นวาย
ทำให้ทางผ่านตรงนั้นอันตรายมาก มีเส้นทางที่ปลอดภัยทางเดียวก็คือทางเข้าประตูทิศตะวันตกที่ราชันย์ปีศาจใต้ได้ผ่านเข้ามาในอดีต
“ระวังให้ดีนะทุกคน! ภายในมีทางเดินเป็นจำนวนมาก และถ้าหลงเข้าไปในหนึ่งในทางเหล่านั้น พวกท่านอาจติดอยู่ภายในถึงสองสามวันก็เป็นได้” ราชันย์ปีศาจใต้แจ้งให้ทุกคนทราบ
“.....”
เย่ว์หยางเรียกเสี่ยวเหวินหลีทันที
ราชาเฮยอวี้,
จักรพรรดิฟ้าและจักรพรรดิใต้พิภพตกใจเล็กน้อย
ทำไมเขาถึงเรียกอสูรพิทักษ์
ทั้งที่ยังไม่มีอสูรตัวใดปรากฏ?
เย่ว์หยางเคยผ่านวังเบญจธาตุและได้รับความเสียหายที่นั่นมาก่อน
ถ้ากฎโบราณภายในซากโบราณสถานจำกัดการอัญเชิญ อย่างนั้นไม่ว่าอสูรของเขาจะแข็งแกร่งเพียงใด
ก็เปล่าประโยชน์กันทั้งหมด จ้าวปีศาจน้ำแข็งดึกดำบรรพ์ที่เพิ่งฆ่านักสู้ปราณก่อกำเนิดต่างเผ่าพันธุ์ไปนั้นไม่ใช่อสูรศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นอสูรแพลตตินัมระดับสิบ
แต่พลังของมันคล้ายกับพลังของนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับแปด
ถ้ามีอสูรที่แข็งแกร่งขนาดนั้นสักร้อยตัวหรือแข็งแกร่งยิ่งกว่าซ่อนอยู่ภายใน
และในสภาพที่ไม่มีใครสามารถอัญเชิญอสูรของพวกเขาได้
เย่ว์หยางไม่สามารถนึกภาพออกเลยว่าผลจะเป็นเช่นไร
ไม่ต้องคิดเลยว่าราชาเฮยอวี้คิดกับเขายังไง ความปลอดภัยของเขาต้องมาก่อนเสมอ
เย่ว์หยางไม่เพียงแต่เรียกเสี่ยวเหวินหลีอออกมาเท่านั้น
เขายังเรียกโคเงาอาหมันผู้มีพลังหัวใจธรณีสารและไม่มีวันเหนื่อยออกมาด้วย
“เข้าไปกันเถอะ!” ราชันย์ปีศาจใต้ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร
แต่ราชาเฮยอวี้และจักรพรรดิฟ้าระมัดระวังเสี่ยวเหวินหลีเป็นพิเศษ เนื่องจากพวกเขาลอบมองเธออยู่หลายครั้ง
เหมือนกับจะยืนยันว่าเธอคืออสูรศักดิ์สิทธิ์หรือเป็นอสูรในตำนาน
เสี่ยวเหวินหลียังหลับอยู่บนหลังของเย่ว์หยางเหมือนกับเป็นลูกสาวเขา ตาของเธอยังคงปิดสนิทเหมือนกับว่าหลับสนิท
ปฏิกิริยาแรกที่ราชาเฮยอวี้มีเมื่อเห็นเสี่ยวเหวินหลีก็คืออยู่ห่างๆ
จากเธอ
แม้ว่าพวกเขาไม่ได้ต่อสู้กันมาก่อน แต่ปีศาจอสรพิษน้อยของเย่ว์หยางก็มีพลังที่น่าประทับใจมาก เพราะเธอมีทักษะแฝงเร้นโซ่ล่องหนที่ทรงพลังที่สามารถตรึงความเคลื่อนไหวของศัตรูของเธอได้ ยอดฝีมือนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสูงๆ
ของหอทงเทียนก็ได้ยินเรื่องนี้มานานแล้ว
ซุ่นเทียนและองค์ชายเงาดำก็เคยพลาดท่าเป็นเหยื่อทักษะแฝงเร้นโซ่ล่องหนของเสี่ยวเหวินหลีมาแล้ว แม้แต่ราชันย์จ้าวปีศาจแดนอเวจีก็ไม่เว้น มีแม้กระทั่งคาดเดาว่าก้วนหลานตายภายใต้การร่วมโจมตีของเย่ว์หยางและเสี่ยวเหวินหลีโดยใช้วงจักรล้างโลกและทักษะแฝงเร้นโซ่ล่องหนตามลำดับ
จักรพรรดิฟ้าก็ยังคงระวังเสี่ยวเหวินหลี
หลังจากถูกพันธนาการ
ราชาเฮยอวี้ยังคงได้รับการปกป้องด้วยสมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์เต็มร่าง ก็เพียงแค่ว่าทำให้พลังเขาลดลงเล็กน้อย
พลังของสมบัติศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ทรงพลังแข็งแกร่งเท่ากับราชาเฮยอวี้
เขาเป็นผู้มีชื่อเสียงในเรื่องทักษะความเร็วและพลังงานแสงจะไม่ได้เปรียบแต่อย่างใด
ถ้าเผชิญหน้ากับทักษะแฝงเร้นโซ่ล่องหน
อาจกล่าวได้ว่าเขาถูกโซ่ล่องหนจำกัดอย่างสมบูรณ์
นี่คือสาเหตุที่เขาไม่ต้องการล่วงเกินหาความลำบากให้เย่ว์หยาง
มีเพียงจักรพรรดิใต้พิภพที่ยังเงียบมองดูโคเงาอาหมัน
“แปลกจริงๆ...
ไม่มีอสูรเฝ้าทางผ่านแก้วผลึก”
ราชันย์ปีศาจใต้นำทางเย่ว์หยางมาหยุดพักอยู่ที่ประตูทิศตะวันตก แต่นางหยุดนิ่งสนิทหลังจากไปตามทางได้สองสามร้อยเมตร “ควรจะมีเงาปีศาจที่สามารถซ่อนตัวอยู่ในทางแก้วผลึกที่นี่ได้ พวกมันสามารถเลียนแบบทักษะของผู้บุกเข้ามาได้
และไม่มีวันตาย
ดังนั้นพวกมันจึงสร้างความปวดหัวให้เป็นอย่างมาก
เดี๋ยวนี้ไม่ทราบว่าพวกมันหายไปอยู่ที่ไหนกันหมด เกิดอะไรขึ้น?”
“เจ้าแน่ใจนะว่าเราไม่ได้มาผิดทาง?” ราชาเฮยอวี้ถาม
“ไม่เลย,
แม้ว่าทางเดินแก้วผลึกที่นี่จะดูเหมือนเขาวงกตน่าสับสน แต่ข้ามั่นใจว่าข้าไม่ได้ไปผิดทาง” ราชันย์ปีศาจใต้สั่นศีรษะ
“เป็นไปได้ไหมว่าทางเดินมีการเคลื่อนไหวด้วยตัวเองทำให้ตำแหน่งเปลี่ยนไป?” จักรพรรดิฟ้าพูดถึงความเป็นไปได้
“ไม่
ไม่มีทางเป็นเช่นนั้นไปได้
ข้าไม่รู้สึกถึงการสั่นสะเทือนแต่อย่างใด
ข้ามีความรู้สึกไวต่อเสียงและกลิ่นมาก
ยิ่งกว่านั้นเครื่องหมายที่นี่ก็ไม่ได้หายไป ดังนั้นนี่จึงเป็นเส้นทางที่ข้าใช้ในครั้งก่อน” ราชันย์ปีศาจใต้ จะใช้หมุดเงินปักไว้ทุกๆ
สองสามเมตรที่นางเดิน เข็มเหล่านั้นจะมีแรงสั่นสะเทือนอ่อนซึ่งทำหน้าที่นำทางให้นาง
เย่ว์หยางสังเกตได้ว่านางจะรวบรวมหมุดทั้งหมดที่นางทิ้งไว้เบื้องหลังและใส่หมุดชุดใหม่ทุกๆ
สองสามเมตร ดังนั้นว่าตามเครื่องหมายเหล่านี้
ราชันย์ปีศาจใต้จึงเชื่อมั่นว่าไม่ได้มาผิดทาง
“ขอข้าถามหน่อยได้ไหม
เครื่องหมายที่เจ้าทิ้งไว้เบื้องหลังเป็นโน้ตเพลงใช่ไหม? เพลงอะไรเหรอ?” เย่ว์หยางถามทันที
“วังลึกลับ” ราชันย์ปีศาจใต้มองดูเย่ว์หยางอย่างครุ่นคิด
“อย่าสงสัยเลยทุกคน
เราเดินมาถูกทางแล้ว
เพียงแต่ระยะทางเท่านั้นที่ผิด
อาจจะดูเหมือนว่าเราเดินไม่กี่ร้อยเมตร
แต่ความจริงเราอาจเดินมาเป็นพันเมตรหรืออาจไกลกว่าก็ได้”
เย่ว์หยางชี้ไปที่จักรพรรดิใต้พิภพข้างหลังเขา “และเขาก็คือเงาปีศาจ
ข้าไม่รู้ว่าจักรพรรดิใต้พิภพตัวจริงไปไหนแล้ว
แต่เขาคือร่างเลียนแบบของจักรพรรดิใต้พิภพที่ใช้ทักษะมาหลอนพวกเรา”
“มาอีกแล้วหรือ?” สายตาราชาเฮยอวี้กลายเป็นเยือกเย็นทันที
เขาไม่ได้ตระหนักจริงๆ
ว่าจักรพรรดิใต้พิภพถูกแทนที่อย่างเงียบๆ
ถ้าอสูรพิทักษ์สมบัติมีพลังแปลกประหลาดอย่างอื่น อย่างนั้นจะทำให้เขาตกอยู่ในอันตรายหรือไม่?
จักรพรรดิฟ้าปลดปล่อยพลังปราณก่อกำเนิดระดับเก้าและโจมตีใส่จักรพรรดิใต้พิภพ
เขามั่นใจว่าการโจมตีครั้งแรกของเขาจะทำให้จักรพรรดิใต้พิภพต้องกระเด็นไปจากแรงกระแทก
เงาปีศาจสามารถลอกความสามารถลึกลับของเขาได้แต่ไม่ใช่ความแข็งแกร่งของเขา
เงาปีศาจมีพลังเทียบเท่านักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับเจ็ดจึงพ่ายแพ้ได้ง่ายกระเด็นไปมากกว่าสิบเมตรเพราะแรงกระแทก
หลังจากมันออกไปแล้วทั่วทั้งพื้นที่ก็ชัดเจน เหมือนกับว่ามีพลังงานทำความสะอาดให้
พื้นที่เขายืนอยู่ไม่เปลี่ยน แต่ทางเดินเปลี่ยนแปลง
ดูเหมือนคล้าย แต่ก็ดูแตกต่างกัน
ปีศาจเงาที่ปลอมตัวเป็นจักรพรรดิใต้พิภพแสดงร่างเงาดำที่ดูเพศไม่ออก นี่คือร่างเดิมของมัน
จักรพรรดิใต้พิภพถูกปีศาจเงาเข้าแทนที่และจักรพรรดิใต้พิภพตัวจริงอยู่ที่ไหนไม่มีใครรู้ ขณะที่ราชาเฮยอวี้เตรียมจะพูด เขาก็ตระหนักได้ทันทีว่ามีจักรพรรดิฟ้ามากมายอยู่ในทางเดินแก้วผลึก
พวกมันทั้งหมดมีความเร็วระดับที่ทุกคนไม่สามารถจำแนกได้ระหว่างจักรพรรดิฟ้าตัวจริงและตัวปลอม จักรพรรดิฟ้าคำรามลั่นและโจมตีใส่ร่างปลอมของจักรพรรดิใต้พิภพทุกร่างอย่างบ้าคลั่ง
ทำให้คนที่เห็นถึงกับมึนงงเมื่อเห็นภาพนั้น
“จักรพรรดิฟ้า ท่านมัวแต่เสียเวลาต่อสู้ งั้นเราจะไปล่าสมบัติกันต่อเถอะ” เย่ว์หยางราดน้ำมันลงในกองไฟ
ทำให้จักรพรรดิฟ้าโกรธยิ่งขึ้น
“โธ่เว้ย, ข้าคือตัวจริง
มาช่วยข้ากำจัดพวกที่เหลือด้วย!
ต่อให้พวกมันไม่ตาย พวกมันก็ต้องใช้เวลาฟื้นตัวนาน ถ้าเจ้าจะฆ่าพวกมัน”
จักรพรรดิฟ้าคลั่งไปแล้ว
“ข้าคือตัวจริง.....”
“พวกแก..เจ้าพวกวายร้าย ข้าจะฆ่าพวกเจ้า....”
ร่างจักรพรรดิฟ้าทั้งหมดต่างก็อ้างว่าพวกมันเป็นตัวจริง
แม้แต่ราชาเฮยอวี้ก็ไม่สามารถจำแนกได้ระหว่างตัวจริงกับตัวปลอม
เย่ว์หยางไม่สนใจช่วยอยู่แล้วเมื่อเขาเห็นว่าจักรพรรดิฟ้าตกเป็นเป้าหมาย คนน้อยลงก็หมายความว่ามีคู่แข่งน้อยลง อาจจะมีสมบัติลับแค่เพียงหนึ่ง
แม้ว่าต่อให้มีเป็นล้าน เขาก็จะไม่ยอมเหลือให้จักรพรรดิฟ้าแน่นอน
เย่ว์หยางคว้าตัวราชันย์ปีศาจใต้และพาวิ่ง เขาไม่สนใจจักรพรรดิฟ้า
ไม่ว่าเขาจะโกรธหรือคลั่งก็ตาม
ราชาเฮยอวี้ลังเลเล็กน้อย แต่เขาตัดสินใจอยู่ต่อในที่สุด
เขามีทักษะพิเศษที่ทำให้เขารู้สึกได้ถึงเป้าหมายของเขา
และแม้ว่าเขาสามารถรู้สึกได้เพียงคนเดียว
เขาก็สามารถกำหนดตำแหน่งของเย่ว์หยางได้
ดังนั้นราชาเฮยอวี้จึงไม่กลัวว่าเขาจะหลบหนี
ยิ่งกว่านั้น
ไม่มีการรับรองว่าข้างหน้าจะปลอดภัย...
แต่จักรพรรดิฟ้าไม่ต้องการให้เย่ว์หยางได้สมบัติลับก่อนเขา ดังนั้นเขาเร่งเร้าพลังจนถึงระดับสิบ
“พลังหมื่นสุริยา!”
ด้วยพลังไม้ตายของเขา
จักรพรรดิฟ้าตัวปลอมทั้งหมดบินหนีด้วยความเร็วสูง และถูกพลังบังคับกลับคืนสู่รูปลักษณ์เดิม พวกมันบาดเจ็บสาหัสแต่ไม่ตาย
ดังนั้นพวกมันจึงเหาะเข้าไปจำศีลในทางเดินแก้วผลึกทีละตัวทันที พวกมันสามารถลอกเลียนทักษะพิเศษได้ แต่ลอกเลียนพลังความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่ได้
ดังนั้นปัญหานี้จักรพรรดิฟ้ายังคงจัดการได้ ยกเว้นแต่ว่าเขาอยู่ในสภาพน่าอดสู
หลังจากเอาชนะเงาปีศาจได้ทั้งหมด
ราชาเฮยอวี้และจักรพรรดิฟ้าก็ติดตามเย่ว์หยางและราชันย์ปีศาจใต้อย่างใจจดจ่อ เมื่อพวกเขาไปถึงลานแก้วผลึก พวกเขาก็ต้องทึ่งกับภาพที่อยู่ต่อหน้าพวกเขา
เหมือนกับเย่ว์หยาง
นั่นเป็นพื้นที่ย่อย มีลักษณะเฉพาะ
เหมือนกับวิหารสิบสองนักษัตร
แต่ไม่มีอสูรพิทักษ์รักษาแต่อย่างใด
ลานแก้วผลึกทั้งหมดมีขนาดมหึมา
แต่ว่างเปล่า
เย่ว์หยางคะเนว่าพื้นที่ทั้งหมดมีขนาดเท่าสนามฟุตบอลร้อยสนาม
อาจจะครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่กว่าภูเขาแก้วผลึก
มีโดมแก้วผลึกอยู่เหนือผนังแก้วผลึกหนาอยู่สูงเกือบพันเมตร เมื่อพูดถึงขนาดปัจจุบัน
ภูเขาแก้วผลึกด้านนอกอาจไม่พอดีกับมันก็ได้ อย่าว่าแต่ทางเดินแก้วผลึกก็อยู่ห่างไม่กี่พันเมตร
ในใจกลางลานแก้วผลึก
มีแท่งแก้วผลึกสูงหกเมตรอยู่ต่อหน้าเย่ว์หยาง
มีอักษรรูนสวรรค์จารึกอยู่บนนั้น
มีหีบสี่ใบวางอยู่ด้านล่าง
ได้แก่หีบทอง หีบเงิน หีบทองแดงและหีบไม้
“สมบัติลับหาได้ง่ายอย่างนี้เชียวหรือ?” จักรพรรดิฟ้าตะลึง
“.....” ราชาเฮยอวี้รู้สึกว่าไม่น่าเป็นไปได้เช่นกัน
เขายังคิดว่าหีบเหล่านี้เป็นเงาปีศาจหรือภาพลวงตาที่อสูรพิทักษ์สมบัติแห่งลานแก้วผลึกสร้างขึ้นมาเพื่อหลอกล่อทุกคน
เย่ว์หยางไม่ตอบ
ราชันย์ปีศาจใต้ถอนหายใจแผ่วเบา “ข้าเคยมาที่นี่ก่อนหน้านั้น และข้าได้เลือกหีบหนึ่งในสี่
มีแสงยิงออกมาและต่อมาที่ข้ารู้ก็คือ ข้าอยู่ในโลกชายขอบสวรรค์ ข้าถูกแสงนั้นขับไล่ออกมา”
“จะเป็นยังไงถ้าข้าเลือกหมดทั้งสี่ใบ?” จักรพรรดิฟ้าถาม
เย่ว์หยางชี้ไปที่อักษรรูนสวรรค์บนเสาแก้วผลึก “จักรพรรดิฟ้า
ข้าไม่รู้เลยว่าเจ้าอ่านหนังสือไม่ออก
เจ้าไม่เข้าใจสิ่งที่เขียนไว้ตรงนั้นหรือ?
เขาเขียนไว้ชัดเจนว่าเราต้องเลือกหีบหนึ่งใบจากในสี่ใบนี้
และสมบัติลับจะตกอยู่กับคนที่โชคดี ถ้าเจ้าไม่มีวาสนากับสมบัติลับ เจ้าจะถูกขับไล่ออกไปเหมือนนาง ถ้าเจ้าเลือกผิด เจ้าอาจถูกส่งไปนรกบ่อเลือดก็ได้
นั่นอาจเป็นที่ๆ เจ้าได้เที่ยวฟรีๆ มีกระดูกขาวๆ
และเนื้อถลกหนังเป็นอาหารว่างก็เป็นได้
นอกจากนี้ ถ้าเจ้าเลือกจะทำเช่นนี้ ข้าต้องขอแสดงความยินดีกับเจ้าเลยว่า
เจ้าจะพบกับอสูรดึกดำบรรพ์ที่แข็งแกร่งมากปรากฏตัวรออยู่ที่ลานแก้วผลึก
ข้าเชื่อว่าเจ้าจะมีความสุขจนฉี่ราดกางเกงได้เลย”
“ในเมื่อเจ้ากลัวนัก อย่างนั้นก็ไม่ต้องเลือกอะไร” จักรพรรดิฟ้าพยายามข่มความโกรธกับคำพูดแดกดันของเย่ว์หยาง
“ราชันย์ปีศาจใต้
เจ้าเลือกครั้งที่เท่าไหร่แล้ว?”
ราชาเฮยอวี้เป็นคนมีฝีมืออยู่แล้ว เขาไม่สนใจคำพูดถากถางของเย่ว์หยาง
แม้ว่าเขาจะไม่เชี่ยวชาญในการอ่านภาษารูนสวรรค์เท่าเย่ว์หยาง
แต่เขาก็สามารถทำความเข้าใจได้บางส่วนและเขาก็ทราบความหมายในทำนองเดียวกับที่เย่ว์หยางพูด
“ข้ามาที่นี่สองครั้ง
ครั้งนี้จะเป็นครั้งที่สาม
แต่ตำแหน่งและลำดับของกล่องก็แตกต่างเปลี่ยนไปด้วย ครั้งแรกข้าโดนไล่ออกไป และครั้งที่สองเป็นหีบเปล่า
ตอนนี้เป็นครั้งที่สามแล้ว
ข้าไม่สามารถบ่งบอกอะไรได้แน่นอน
พวกท่านเลือกก่อนเถอะ
ข้าจะเป็นคนสุดท้าย” ราชันย์ปีศาจใต้ไม่มั่นใจเพียงพอ
ดังนั้นนางตัดสินใจให้โอกาสคนที่เหลือเสี่ยงก่อน
“เจ้าเลือกก่อน!” จักรพรรดิฟ้าชี้มาที่เย่ว์หยาง
“ทำไมล่ะ?”
เย่ว์หยางงง
ทำไมจักรพรรดิฟ้าถึงได้ดีต่อเขานัก?
“พวกเราสามคนลงคะแนนตกลงให้เจ้าเลือกเป็นคนแรก” จักรพรรดิฟ้าระบุว่าเขาเป็นคนที่รักประชาธิปไตยมาก
และใช้กลยุทธออกเสียงข้างมากเพื่อชี้ขาด
“จริงเหรอ? พวกท่านช่างดีต่อข้ามากจริงๆ..
อย่างนั้นข้าไม่เกรงใจก็แล้วกัน”
เย่ว์หยางมองดูจักรพรรดิฟ้าอย่างประชดและหัวเราะอย่างเย็นชา
เหมือนกับว่าเขารู้แล้วว่ากล่องไหนมีสมบัติ เขาถลาไปข้างหน้าทันที ด้วยอาการเช่นนั้น
จักรพรรดิฟ้ารู้สึกแสนเสียดาย ฮึ่ม..
เย่ว์หยางอาจมีทักษะพิเศษบางอย่างและสามารถระบุได้ว่ากล่องไหนมีสมบัติลับ ถ้าเขาปล่อยให้เย่ว์หยางเลือก เขาจะต้องประสบความสูญเสียมากอย่างแน่นอน
11 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ^_^
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
โดนหลอกแน่นอน ไอ้นี่มันแสบกว่าที่คิดนัก หึหึ
ขอบคุณครับ
ช่างน่าสงสาร 5555+ จะเลือกก่อนก็กลัว ให้เย่ว์หยางเลือกก่อนก็กลัวจะไม่ได้สมบัติ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น