วันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 228 กระเรียนร้องเก้าชั้นฟ้า

ตอนที่  228  กระเรียนร้องเก้าชั้นฟ้า

ปัง ปัง ปัง!
ถังเทียนยุ่งอยู่กับการป้องกันการโจมตีของอสูรหินกรวด  สำหรับเขาแล้ว การโจมตีจากอสูรหินกรวดธรรมดาไม่ใช่เรื่องใหญ่  แต่ทุกครั้งที่โล่ตะลุยเลือดป้องกันการโจมตีได้  กระแสความร้อนจะไหลเข้ามาในร่างของเขา

นี่ไม่ใช่ประสบการณ์ที่ดีอย่างแน่นอน  ความรู้สึกร้อนลวกและเจ็บปวดเข้ามาในตัวเขาผ่านกล้ามเนื้อและกระดูกครั้งแล้วครั้งเล่า  เขาไม่รู้ว่าทหารดาบโล่ของกองทัพออฟิอูคัสรับมือได้อย่างไร เพียงแต่สามารถทนความเจ็บปวดนี้ได้  พวกเขาต้องมีความโดดเด่นที่ทำเช่นนั้นได้
ถังเทียนกัดฟันพยายามทนต่อไป
หลังจากโจมตีใส่ปิงได้เมื่อคืนก่อนนั้น  ทำให้เขาติดใจที่จะใช้มันมากขึ้น  เขาต้องการประลองอีกครั้งและเขาสงสัยว่าทหารดาบโล่จากกองทัพดาวออฟิอูคัสในอดีตก็คงเสพติดความรู้สึกแปลกประหลาดเช่นกัน
เอาละ, ข้าจะไม่คิดเรื่องของกองทัพดาวออฟิอูคัสอีก...
หลังจากตั้งรับการโจมตีไม่กี่ที  ถังเทียนตระหนักว่าเขายังไม่มีพลังถึงระดับสูง
จ้าวอสูรหินกรวดในกลุ่มสังเกตเห็นถังเทียนอยู่ก่อนแล้ว  และตั้งแต่แรกเริ่ม มันก็สงสัยแล้ว  แต่ทันทีที่มันตระหนักว่าถังเทียนเอาแต่ยกโล่ และเป็นเหมือนลูกบอลที่ถูกอสูรหินกรวดไล่เตะ  เขาไม่มีความเคลื่อนไหวเพื่อโจมตีแต่อย่างใด
มันไม่ลังเลสงสัยและตัดสินใจโจมตี
มันย่องเข้าไปในกลุ่มของอสูรหินกรวดเงียบๆ
เมื่อหนึ่งในอสูรหินกรวดยกหมัดของมันฟาดใส่โล่ตะลุยเลือด  มันเข้ามาร่วมโจมตี  ความเร็วของมันเร็วกว่าอสูรหินกรวดตัวอื่น หมัดของมันเหมือนเหล็กโผล่มาฟาดใส่หลังถังเทียนทันที
หมัดนี้ไม่ก่อให้เกิดเสียง  ไหล่ของมันยืดหยุ่นเหมือนเส้นบะหมี่ ไม่มีสัญญาณใดๆ มันปรากฏตัวอยู่ด้านหลังถังเทียน  ตาของมันเป็นประกายเจ้าเล่ห์  แม้แต่พลังของมันก็ยังแข็งแกร่งมากกว่าอสูรหินกรวด  ทำไมมันต้องเผชิญหน้ากับศัตรูแล้วโจมตีด้วยเล่า?
ศัตรูนับไม่ถ้วนล้วนล้มลงแทบเท้าของมัน  ฝูงของมันใหญ่กว่าฝูงอื่นๆ เพราะมันฉลาดกว่า  พวกที่เชื่อในพลังตนเองจะเข้าใจความฉลาดของสติปัญญาได้อย่างไร? โอว ข้าจะไม่บอกพวกมันแน่นอน
จ้าวอสูรหินกรวดกวาดมองอย่างมีความสุข ฉับพลันโล่สีแดงจางปรากฏมารับหมัดของมันไว้
ปัง!
มันรู้สึกว่าหมัดของมันเพียงแต่ต่อยใส่หินที่แข็ง, ไม่สิ มันแข็งยิ่งกว่าหิน!
ถังเทียนลอบระมัดระวังอยู่เสมอ  สัญชาตญาณของเขาถูกใช้จนเต็มพิกัด  เขาง่วนอยู่กับการใช้โล่ป้องกัน  เขาจำเป็นต้องใช้สัญชาตญาณของเขาเพื่อที่จะปล่อยพลังออกมา
เมื่อเห็นความเคลื่อนไหวที่สับสนของเขา เป็นเพราะเขาไม่รู้วิธีใช้โล่ป้องกัน
แต่หลังจากถูกปิงเหวี่ยงหมัดใส่เมื่อวานนี้  เขาขัดเกลากระบวนท่าเล็กน้อย  ขณะที่พื้นฐานของเขามั่นคงมาก  เพิ่มประสบการณ์การต่อสู้และเพิ่มคู่หูฝึกฝนของเขา  ถังเทียนหวังผลบางอย่าง
แม้ว่าการป้องกันของเขาไม่ถูกต้องตามแบบแผน  เขาก็ยังสกัดการโจมตีจากอสูรหินกรวดได้ และความเคลื่อนไหวของเขาค่อนข้างมั่นคง  วิทยายุทธพื้นฐานของเขาที่โดดเด่นอยู่แล้วได้แสดงผลของมัน  แม้ว่าวิชาโล่ตั้งรับของเขายังไม่เป็นที่คุ้นเคย แต่เขาสามารถรับมือได้
เมื่อเจ้าอสูรหินกรวดปรากฏตัวอยู่ด้านหลังเงียบๆ ถังเทียนก็รู้สึกถึงความคงอยู่ของมันได้
เขายกโล่ป้องกันหมัดของอสูรหินกรวดไว้ทันที และเหลือพลังไว้อีกเล็กน้อยป้องกันการลอบทำร้ายของจ้าวอสูรหินกรวด
เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าจ้าวอสูรหินกรวดจะลอบทำร้าย
คลื่นพลังงานขนาดมหึมาไหลออกมาจากโล่ทำให้ถังเทียนชะงัก  จ้าวอสูรหินกรวดมีพลังสมชื่อมันจริงๆ  พลังหมัดของมันแข็งแกร่งเหนือกว่าอสูรหินกรวดธรรมดามากมายนัก
กระแสความร้อนกระจายไปทั่วร่างกายถังเทียน และเพิ่มปริมาณปราณสะสมอีกมากมายทันที  ถังเทียนสูดอากาศเย็น มันเจ็บปวดมากจนเขาต้องกัดฟัน
เมื่อเห็นว่าการลอบทำร้ายที่มันภูมิใจล้มเหลว  จ้าอสูรหินกรวดโกรธทันที  แต่ด้วยบุคลิกและความเจ้าเล่ห์ของมัน  มันไม่ได้ใช้พลังเต็มที่เมื่อตอนโจมตีถังเทียน
ถังเทียนได้แต่ใช้โล่ป้องกันต่อไป
จ้าวอสูรหินกรวดตระหนักได้ในเวลาอันรวดเร็ว  แม้ว่าศัตรูผู้นี้จะมั่นคง แต่เขาก็ยังไม่รู้ตัว  มันค่อยๆ เพิ่มพลังโจมตีมากขึ้นๆ และทวีความดุร้ายขึ้นอีก
ปัง ปัง ปัง
เห็นได้ชัดว่าถังเทียนอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมากขึ้น  แต่จ้าวอสูรหินกรวดไม่ได้สังเกตเห็นใบหน้าถังเทียนเบื้องหลังโล่ตะลุยเลือดว่าไม่ได้มีความตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อย
ปัง!
ถังเทียนตัวสั่นเล็กน้อย  นี่เป็นความรู้สึกแบบเดียวกับที่เขารู้สึกเมื่อคืน ขณะที่กระแสความอุ่นสายเล็กๆ นับไม่ถ้วนผสานรวมตัวกันอีกครั้งจนเต็มไปทั้งตัวถังเทียนทันที
นัยน์ตาถังเทียนเทียนเป็นประกายทันที
จ้าวอสูรหินกรวดตระหนักได้ทันทีว่าศัตรูที่อยู่ข้างหน้ามันหายไปแล้ว เอ...
ปัง!
ด้านหน้าของโล่ระเบิดใส่หน้าผากของเจ้าอสูรหินกรวดอย่างรุนแรง
ปัง!
เหมือนกับแตงโมที่ถูกแผ่นเหล็กหนาหวดใส่  สมองของจ้าวอสูรหินกรวดแตกสลายกลายเป็นเม็ดทรายนับไม่ถ้วนทันที
พลังหวดเสริมพลัง
สามารถกระแทกปิงที่ควบคุมพยัคฆ์ฟ้ากระเด็นไปในอากาศเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่ได้  พลังในการโจมตีนี้ร้ายแรงและน่ากลัวแน่นอน  วันนี้หลังจากการทดสอบนี้ไป แรงหวดนี้ ยิ่งทำให้ถังเทียนรู้สึกสนุกและแข็งแกร่งขึ้นมาก
เซี่ยอวี่ซึ่งอยู่ห่างไกลกวาดตามองผ่านโดยบังเอิญ และได้เห็นประจักษ์ภาพเหตุการณ์ที่น่าตื่นตะลึงนี้  เขาตะลึงงันเหมือนกับรูปปั้น หลังจากผ่านไปชั่วขณะริมฝีปากเขาสั่นอีกครั้ง นัยน์ตาเหม่อลอย เขาค่อยๆ เรียกความรู้สึกกลับมาช้าๆ
เด็กนั่น...เป็นใครกันแน่?
เขามองดูถังเทียนด้วยความตกใจ  การโจมตีนั่นไม่ได้อยู่ในกฎเกณฑ์ของมนุษยชาติเลย  ความเปลี่ยนแปลงในกระบวนท่าดูไม่สมเหตุผล ทั้งท่วงท่าที่ถือโล่นั่น...
แต่... แต่.....
แต่การโจมตีนั่นเป็นเหมือนฝันร้ายที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา  ศีรษะของจ้าวอสูรหินกรวดทั้งหมดแตกสลายกลายเป็นทรายทันที!  เขาไม่อาจเห็นเคล็ดการใช้  ไม่อาจเห็นความเปลี่ยนแปลงในวิทยายุทธ มีแต่พลังป่าเถื่อน  พลังที่ไร้ความสมเหตุผล
แม้แต่ตอนนี้ ร่างไร้ศีรษะของจ้าวอสูรหินกรวดยังอยู่ในท่ายืนไม่ขยับเลยแม้แต่นิ้วเดียว
เป็นเวลาหลายปีแล้ว เซี่ยอวี่ไม่เคยพบกับความกลัวขนาดนั้น
คนป่าเถื่อน!
เขาต้องเป็นคนแดนเถื่อนอย่างแน่นอน!
พระเจ้า, ข้านี่บ้าไปแล้ว  ทำไมข้าถึงได้เห็นด้วยกับกัวตงต้องมาสร้างศัตรูกับคนแบบนี้?
ฉากภาพที่ศีรษะของเขาถูกยิงจนระเบิดด้วยพลังโล่ตะลุยเลือดปรากฏในหัวของเซี่ยอวี่....
น่ากลัวมาก!
เซี่ยอวี่สั่นจนขนนกสีดำในตัวหลุดร่วงเพราะความกลัว
*********************************

 “หนีกันเถอะ!  ผู้เฒ่าบอดซอกำศรวลกล่าว ในเวลานั้นเขาไม่สนใจอะไรอีกต่อไป  เสียงของเขาแหบแห้งและเต็มไปด้วยความกังวล
หนี?  สตรีชุดดำตะลึง, นางโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว  “ท่านจอมยุทธ...”
ชายชราตาบอดจะใส่ใจนางได้อย่างไร?  เขารู้สึกถึงอันตรายแล้วว่ากำลังมาจากคนที่พุ่งตรงมาทางเขาด้วยความเร็วสูง ความรู้สึกถึงอันตรายรุนแรงครอบคลุมร่างกายเขาทั้งหมด
เป็นความรู้สึกถึงอันตรายที่รุนแรงที่สุดที่เขาเคยรู้สึกมา
ชายชรารู้ดีว่าหมายความว่ายังไง  ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลใจพยายามที่จะหลบหนี
ถึงตอนนี้ สตรีชุดดำเพิ่งตระหนักว่ามีร่างสองสามร่างเคลื่อนไหวมาถึงพวกเขาแล้ว  ปราณอันตรายของฝ่ายตรงข้ามทำให้นางไม่สามารถขยับได้
อาเฮ่อชำเลืองมองสตรีในชุดดำ  หางตาของเขากระตุก... ทำไมต้องมีคนมาแต่งตัวเหมือนกันอีกแล้ว
ความเคลื่อนไหวที่มือของเขารวดเร็ว พอเขาจับด้ามกระบี่ทั้งที่ไม่ได้ชักกระบี่ออกจากฝัก เขาขยับตัวเล็กน้อย  ในท้องฟ้าก็ปรากฏลำแสงสีขาวยิงใส่สตรีชุดดำทันที
หน้านางซีดขาว นางรู้สึกแต่เพียงว่าสายตายของนางถูกลำแสงสีขาวบดบังสิ้นเชิง และสิ่งที่ทำให้นางตื่นเต้นยิ่งกว่าก็คือ นางไม่สามารถขยับได้!  ทั้งตัวนางขยับไม่ได้แม้แต่ปลายนิ้ว
วิ..วิชากระบี่อะไรกันนี่?
ลำแสงที่ยิงใส่นาง
ตลอดตัวของนางชาไปหมด นางหมดสติทันที
เฒ่าบอดซอกำศรวลรู้ว่าห้วงเวลาความเป็นความตายมาถึงแล้ว และมือขวาที่ถือซอเอ้อหูกรีดมือลงที่สายครั้งหนึ่ง เช้ง..
พลังคลื่นเสียงไร้รูปกระจายออก
อี้เทียนกับหูซิ่งรู้สึกสมองสะเทือนและมือของพวกเขาเคลื่อนไหวได้ช้าลงทันที
เซี่ยชิงใจสั่นสะท้าน  เขาสั่นกระบี่ในมือของเขา กระบี่ส่งเสียงร้องในใจเขา ทำให้เขาต่อต้านคลื่นสั่นสะเทือนได้
ขณะที่ทั้งสามคนถูกชายชราตาบอดบีบบังคับให้ถอย  เงาดำสายหนึ่งรีบมาทันที
สีหน้าของอาเฮ่อเคร่งขรึม สะบัดกระบี่โบราณในมือของเขาพร้อมกับฝักกระบี่และเสียงร้องที่ชัดเจนของกระเรียนดังออกมาจากตัวกระบี่!
อากาศในรัศมีห้าเมตรถูกกระบี่กระเรียนกระตุ้น  ขณะที่กระแสปราณนับไม่ถ้วนไหลไปตามมือของอาเฮ่อเข้าไปยังกระบี่โบราณ  กระแสปราณมาบรรจบกันเป็นภาพเลือนราง  อาเฮ่อลอยตัวขึ้นพร้อมกับกระบี่เหมือนกับหงส์ดำขนาดใหญ่กำลังสลัดขน
วิชาของสำนักกระเรียน  ระบำกระเรียน
อาเฮ่อแข็งแกร่งอยู่แล้ว  ถังเทียนยังไม่ได้แนะนำหรือสอนอะไรทั้งหมดที่เขารู้เกี่ยวกับปราณร่างกระเรียนให้อาเฮ่อ  อาเฮ่อเรียนรู้จากสำนักกระเรียนอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว หลังจากเข้าใจสิ่งที่เรียนรู้ก็ทำให้ความรู้ของเขากว้างไกล หลายจุดที่เขายังไม่เข้าใจ เขาก็เข้าใจได้ทะลุปรุโปร่ง
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาเรียนรู้วิทยายุทธของสำนักกระเรียนอีกครั้ง ทันทีที่เรียนรู้ทุกอย่างอีกครั้ง เขาก็เริ่มเข้าใจทุกอย่างลึกซึ้งขึ้น
เขากับถังเทียนนั้นแตกต่างกัน  เขาคุ้นเคยกับวิทยายุทธจากสำนักกระเรียนทุกอย่างเป็นอย่างดี เพียงแต่ขาดพื้นฐานปราณร่างกระเรียนเท่านั้นซึ่งนั่นคือกุญแจสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง  ตอนนี้กุญแจนั้นถูกค้นพบแล้ว และได้ไขออกแล้ว  วิทยายุทธทุกอย่างของสำนักกระเรียนจึงกระจ่างชัดเจนอย่างไม่เคยมีมาก่อน
เมื่อก่อนจนถึงเมื่อครู่นี้ เขายังไม่มีความเข้าวิทยายุทธของสำนักกระเรียนอย่างลึกซึ้งกว้างขวางอยู่เลย
ระบำกระเรียนหนึ่งในวิชานั้นที่เขาไม่เข้าใจ
ท่าระบำกระเรียนมีความมาดมั่นและสง่างาม นั่นคือสิ่งที่ทุกคนเรียนรู้เมื่อพวกเขาได้ศึกษาในสำนักกระเรียน  แต่ทุกคนคิดว่าท่วงท่าที่สง่างามของระบำกระเรียนเกิดจากพลังกล้ามเนื้อและกระดูก  จนกระทั่งตอนนี้ ในมือของอาเฮ่อ เปี่ยมด้วยพลังร่างกระเรียน ระบำกระเรียนจึงได้เปล่งประกายและแสดงพลังที่แท้จริงของมัน
ระบำกระเรียนคือเคล็ดวิชาที่สามารถหลอมรวมกับวิทยายุทธอื่นๆ ของสำนักกระเรียนได้ เป็นท่าที่รวดเร็วและสง่างาม สามารถทำให้วิชาของสำนักกระเรียนแข็งแกร่งมากขึ้น แต่ยากจะพัฒนาได้
ท่ากระบี่ของอาเฮ่อใช้ออกด้วยพลังระบำกระเรียน
สีหน้าของเฒ่าบอดซอกำศรวลบิดเบี้ยวเหยเก  เสียงของกระบี่แหลมคมเสียดแทงใจเขานัก  เขาสามารถบอกได้จากเสียงกระพือลมของเสื้อผ้าอาเฮ่อได้ว่า เหมือนกับเห็นหงส์ดำร่ายรำสยายปีก มีพลังคล่องแคล่วแข็งแกร่งนัก
ยอดฝีมือ!
ใบหน้าของบ่าวใบ้เปลี่ยนไป  เขาไม่สามารถหลบได้ทันเวลา  เขาคลี่พัดในมือเขาทันที ฝ่ามือของเขามีเปลวไฟปกคลุมและต้านรับกระบี่อาเฮ่อไว้   เปลวเพลิงที่ฝ่ามือบ่าวใบหนาแน่น และอากาศรอบฝ่ามือกลายเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว
สีหน้าของอาเฮ่อไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย แต่ม่านตาของเขาเป็นประกายเจิดจ้า ไม่มีใครมองสบตาของเขาตรงๆ
หัวใจของเขาตื่นเต้นอย่างมาก เพราะเขาสามารถใช้วิทยายุทธที่แท้จริงของสำนักกระเรียนได้  เขาสามารถใช้วิทยายุทธที่แท้จริงของสำนักกระเรียนได้จริงๆ!
ตั้งแต่วันนี้ไป สำนักกระเรียนจะฟื้นฟูกลับสู่ความรุ่งเรืองอีกครั้ง!
การต่อสู้ในวันนี้จะเป็นศึกแรกที่สำนักกระเรียนได้พบกับเกียรติยศของพวกเขา
อาเฮ่อมีสีหน้าตื่นเต้น  ปราณร่างกระเรียนในร่างเขาเพิ่มขึ้นในระดับสูงสุด กระบี่โบราณในมือของเขาสั่นสะท้านและปลดปล่อยเสียงร้องตรงขึ้นสั่นสะท้านถึงสวรรค์
กระเรียนร้องเก้าชั้นฟ้า!
 

7 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ดีใจด้วยนะอาเฮ่อ

Sky กล่าวว่า...

ตอนนี้ อาเฮ่อคือพระเอกค่ะ อิอิ

windwolf กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

สนับสนุนให้เปลี่ยนพระเอกเป็นอาเฮ่อครับ ส่วนถังเทียนกับเซียนฮุ่ยคุมอำนาจอยู่หลังฉากอีกทีหนึ่ง :D

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ ตัวเอกปรากฏ ? 5555+

pornsin กล่าวว่า...

อ่านมา 200 กว่าตอน พระเอกมาแล้ว

ไอซ์ กล่าวว่า...

รอบหน้าใส่ชุดสีแดงนะ ไม่เหมือนไครแแน่

แสดงความคิดเห็น