ตอนที่ 228
กระเรียนร้องเก้าชั้นฟ้า
ปัง ปัง ปัง!
ถังเทียนยุ่งอยู่กับการป้องกันการโจมตีของอสูรหินกรวด สำหรับเขาแล้ว
การโจมตีจากอสูรหินกรวดธรรมดาไม่ใช่เรื่องใหญ่
แต่ทุกครั้งที่โล่ตะลุยเลือดป้องกันการโจมตีได้ กระแสความร้อนจะไหลเข้ามาในร่างของเขา
นี่ไม่ใช่ประสบการณ์ที่ดีอย่างแน่นอน ความรู้สึกร้อนลวกและเจ็บปวดเข้ามาในตัวเขาผ่านกล้ามเนื้อและกระดูกครั้งแล้วครั้งเล่า เขาไม่รู้ว่าทหารดาบโล่ของกองทัพออฟิอูคัสรับมือได้อย่างไร
เพียงแต่สามารถทนความเจ็บปวดนี้ได้
พวกเขาต้องมีความโดดเด่นที่ทำเช่นนั้นได้
ถังเทียนกัดฟันพยายามทนต่อไป
หลังจากโจมตีใส่ปิงได้เมื่อคืนก่อนนั้น ทำให้เขาติดใจที่จะใช้มันมากขึ้น เขาต้องการประลองอีกครั้งและเขาสงสัยว่าทหารดาบโล่จากกองทัพดาวออฟิอูคัสในอดีตก็คงเสพติดความรู้สึกแปลกประหลาดเช่นกัน
เอาละ,
ข้าจะไม่คิดเรื่องของกองทัพดาวออฟิอูคัสอีก...
หลังจากตั้งรับการโจมตีไม่กี่ที ถังเทียนตระหนักว่าเขายังไม่มีพลังถึงระดับสูง
จ้าวอสูรหินกรวดในกลุ่มสังเกตเห็นถังเทียนอยู่ก่อนแล้ว และตั้งแต่แรกเริ่ม มันก็สงสัยแล้ว แต่ทันทีที่มันตระหนักว่าถังเทียนเอาแต่ยกโล่
และเป็นเหมือนลูกบอลที่ถูกอสูรหินกรวดไล่เตะ
เขาไม่มีความเคลื่อนไหวเพื่อโจมตีแต่อย่างใด
มันไม่ลังเลสงสัยและตัดสินใจโจมตี
มันย่องเข้าไปในกลุ่มของอสูรหินกรวดเงียบๆ
เมื่อหนึ่งในอสูรหินกรวดยกหมัดของมันฟาดใส่โล่ตะลุยเลือด มันเข้ามาร่วมโจมตี ความเร็วของมันเร็วกว่าอสูรหินกรวดตัวอื่น
หมัดของมันเหมือนเหล็กโผล่มาฟาดใส่หลังถังเทียนทันที
หมัดนี้ไม่ก่อให้เกิดเสียง ไหล่ของมันยืดหยุ่นเหมือนเส้นบะหมี่
ไม่มีสัญญาณใดๆ มันปรากฏตัวอยู่ด้านหลังถังเทียน
ตาของมันเป็นประกายเจ้าเล่ห์
แม้แต่พลังของมันก็ยังแข็งแกร่งมากกว่าอสูรหินกรวด ทำไมมันต้องเผชิญหน้ากับศัตรูแล้วโจมตีด้วยเล่า?
ศัตรูนับไม่ถ้วนล้วนล้มลงแทบเท้าของมัน ฝูงของมันใหญ่กว่าฝูงอื่นๆ
เพราะมันฉลาดกว่า
พวกที่เชื่อในพลังตนเองจะเข้าใจความฉลาดของสติปัญญาได้อย่างไร? โอว
ข้าจะไม่บอกพวกมันแน่นอน
จ้าวอสูรหินกรวดกวาดมองอย่างมีความสุข
ฉับพลันโล่สีแดงจางปรากฏมารับหมัดของมันไว้
ปัง!
มันรู้สึกว่าหมัดของมันเพียงแต่ต่อยใส่หินที่แข็ง,
ไม่สิ มันแข็งยิ่งกว่าหิน!
ถังเทียนลอบระมัดระวังอยู่เสมอ สัญชาตญาณของเขาถูกใช้จนเต็มพิกัด เขาง่วนอยู่กับการใช้โล่ป้องกัน เขาจำเป็นต้องใช้สัญชาตญาณของเขาเพื่อที่จะปล่อยพลังออกมา
เมื่อเห็นความเคลื่อนไหวที่สับสนของเขา
เป็นเพราะเขาไม่รู้วิธีใช้โล่ป้องกัน
แต่หลังจากถูกปิงเหวี่ยงหมัดใส่เมื่อวานนี้ เขาขัดเกลากระบวนท่าเล็กน้อย ขณะที่พื้นฐานของเขามั่นคงมาก เพิ่มประสบการณ์การต่อสู้และเพิ่มคู่หูฝึกฝนของเขา ถังเทียนหวังผลบางอย่าง
แม้ว่าการป้องกันของเขาไม่ถูกต้องตามแบบแผน เขาก็ยังสกัดการโจมตีจากอสูรหินกรวดได้
และความเคลื่อนไหวของเขาค่อนข้างมั่นคง
วิทยายุทธพื้นฐานของเขาที่โดดเด่นอยู่แล้วได้แสดงผลของมัน
แม้ว่าวิชาโล่ตั้งรับของเขายังไม่เป็นที่คุ้นเคย แต่เขาสามารถรับมือได้
เมื่อเจ้าอสูรหินกรวดปรากฏตัวอยู่ด้านหลังเงียบๆ
ถังเทียนก็รู้สึกถึงความคงอยู่ของมันได้
เขายกโล่ป้องกันหมัดของอสูรหินกรวดไว้ทันที
และเหลือพลังไว้อีกเล็กน้อยป้องกันการลอบทำร้ายของจ้าวอสูรหินกรวด
เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าจ้าวอสูรหินกรวดจะลอบทำร้าย
คลื่นพลังงานขนาดมหึมาไหลออกมาจากโล่ทำให้ถังเทียนชะงัก จ้าวอสูรหินกรวดมีพลังสมชื่อมันจริงๆ
พลังหมัดของมันแข็งแกร่งเหนือกว่าอสูรหินกรวดธรรมดามากมายนัก
กระแสความร้อนกระจายไปทั่วร่างกายถังเทียน
และเพิ่มปริมาณปราณสะสมอีกมากมายทันที
ถังเทียนสูดอากาศเย็น มันเจ็บปวดมากจนเขาต้องกัดฟัน
เมื่อเห็นว่าการลอบทำร้ายที่มันภูมิใจล้มเหลว จ้าอสูรหินกรวดโกรธทันที แต่ด้วยบุคลิกและความเจ้าเล่ห์ของมัน มันไม่ได้ใช้พลังเต็มที่เมื่อตอนโจมตีถังเทียน
ถังเทียนได้แต่ใช้โล่ป้องกันต่อไป
จ้าวอสูรหินกรวดตระหนักได้ในเวลาอันรวดเร็ว แม้ว่าศัตรูผู้นี้จะมั่นคง
แต่เขาก็ยังไม่รู้ตัว มันค่อยๆ
เพิ่มพลังโจมตีมากขึ้นๆ และทวีความดุร้ายขึ้นอีก
ปัง ปัง ปัง
เห็นได้ชัดว่าถังเทียนอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมากขึ้น แต่จ้าวอสูรหินกรวดไม่ได้สังเกตเห็นใบหน้าถังเทียนเบื้องหลังโล่ตะลุยเลือดว่าไม่ได้มีความตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อย
ปัง!
ถังเทียนตัวสั่นเล็กน้อย
นี่เป็นความรู้สึกแบบเดียวกับที่เขารู้สึกเมื่อคืน
ขณะที่กระแสความอุ่นสายเล็กๆ
นับไม่ถ้วนผสานรวมตัวกันอีกครั้งจนเต็มไปทั้งตัวถังเทียนทันที
นัยน์ตาถังเทียนเทียนเป็นประกายทันที
จ้าวอสูรหินกรวดตระหนักได้ทันทีว่าศัตรูที่อยู่ข้างหน้ามันหายไปแล้ว
เอ...
ปัง!
ด้านหน้าของโล่ระเบิดใส่หน้าผากของเจ้าอสูรหินกรวดอย่างรุนแรง
ปัง!
เหมือนกับแตงโมที่ถูกแผ่นเหล็กหนาหวดใส่ สมองของจ้าวอสูรหินกรวดแตกสลายกลายเป็นเม็ดทรายนับไม่ถ้วนทันที
พลังหวดเสริมพลัง
สามารถกระแทกปิงที่ควบคุมพยัคฆ์ฟ้ากระเด็นไปในอากาศเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่ได้ พลังในการโจมตีนี้ร้ายแรงและน่ากลัวแน่นอน วันนี้หลังจากการทดสอบนี้ไป แรงหวดนี้
ยิ่งทำให้ถังเทียนรู้สึกสนุกและแข็งแกร่งขึ้นมาก
เซี่ยอวี่ซึ่งอยู่ห่างไกลกวาดตามองผ่านโดยบังเอิญ
และได้เห็นประจักษ์ภาพเหตุการณ์ที่น่าตื่นตะลึงนี้ เขาตะลึงงันเหมือนกับรูปปั้น
หลังจากผ่านไปชั่วขณะริมฝีปากเขาสั่นอีกครั้ง นัยน์ตาเหม่อลอย เขาค่อยๆ
เรียกความรู้สึกกลับมาช้าๆ
เด็กนั่น...เป็นใครกันแน่?
เขามองดูถังเทียนด้วยความตกใจ การโจมตีนั่นไม่ได้อยู่ในกฎเกณฑ์ของมนุษยชาติเลย ความเปลี่ยนแปลงในกระบวนท่าดูไม่สมเหตุผล
ทั้งท่วงท่าที่ถือโล่นั่น...
แต่... แต่.....
แต่การโจมตีนั่นเป็นเหมือนฝันร้ายที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา ศีรษะของจ้าวอสูรหินกรวดทั้งหมดแตกสลายกลายเป็นทรายทันที! เขาไม่อาจเห็นเคล็ดการใช้ ไม่อาจเห็นความเปลี่ยนแปลงในวิทยายุทธ
มีแต่พลังป่าเถื่อน
พลังที่ไร้ความสมเหตุผล
แม้แต่ตอนนี้
ร่างไร้ศีรษะของจ้าวอสูรหินกรวดยังอยู่ในท่ายืนไม่ขยับเลยแม้แต่นิ้วเดียว
เป็นเวลาหลายปีแล้ว
เซี่ยอวี่ไม่เคยพบกับความกลัวขนาดนั้น
คนป่าเถื่อน!
เขาต้องเป็นคนแดนเถื่อนอย่างแน่นอน!
พระเจ้า,
ข้านี่บ้าไปแล้ว
ทำไมข้าถึงได้เห็นด้วยกับกัวตงต้องมาสร้างศัตรูกับคนแบบนี้?
ฉากภาพที่ศีรษะของเขาถูกยิงจนระเบิดด้วยพลังโล่ตะลุยเลือดปรากฏในหัวของเซี่ยอวี่....
น่ากลัวมาก!
เซี่ยอวี่สั่นจนขนนกสีดำในตัวหลุดร่วงเพราะความกลัว
*********************************
“หนีกันเถอะ!” ผู้เฒ่าบอดซอกำศรวลกล่าว
ในเวลานั้นเขาไม่สนใจอะไรอีกต่อไป
เสียงของเขาแหบแห้งและเต็มไปด้วยความกังวล
หนี? สตรีชุดดำตะลึง,
นางโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ท่านจอมยุทธ...”
ชายชราตาบอดจะใส่ใจนางได้อย่างไร? เขารู้สึกถึงอันตรายแล้วว่ากำลังมาจากคนที่พุ่งตรงมาทางเขาด้วยความเร็วสูง
ความรู้สึกถึงอันตรายรุนแรงครอบคลุมร่างกายเขาทั้งหมด
เป็นความรู้สึกถึงอันตรายที่รุนแรงที่สุดที่เขาเคยรู้สึกมา
ชายชรารู้ดีว่าหมายความว่ายังไง ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลใจพยายามที่จะหลบหนี
ถึงตอนนี้
สตรีชุดดำเพิ่งตระหนักว่ามีร่างสองสามร่างเคลื่อนไหวมาถึงพวกเขาแล้ว
ปราณอันตรายของฝ่ายตรงข้ามทำให้นางไม่สามารถขยับได้
อาเฮ่อชำเลืองมองสตรีในชุดดำ หางตาของเขากระตุก... ทำไมต้องมีคนมาแต่งตัวเหมือนกันอีกแล้ว
ความเคลื่อนไหวที่มือของเขารวดเร็ว
พอเขาจับด้ามกระบี่ทั้งที่ไม่ได้ชักกระบี่ออกจากฝัก เขาขยับตัวเล็กน้อย ในท้องฟ้าก็ปรากฏลำแสงสีขาวยิงใส่สตรีชุดดำทันที
หน้านางซีดขาว
นางรู้สึกแต่เพียงว่าสายตายของนางถูกลำแสงสีขาวบดบังสิ้นเชิง
และสิ่งที่ทำให้นางตื่นเต้นยิ่งกว่าก็คือ นางไม่สามารถขยับได้! ทั้งตัวนางขยับไม่ได้แม้แต่ปลายนิ้ว
วิ..วิชากระบี่อะไรกันนี่?
ลำแสงที่ยิงใส่นาง
ตลอดตัวของนางชาไปหมด
นางหมดสติทันที
เฒ่าบอดซอกำศรวลรู้ว่าห้วงเวลาความเป็นความตายมาถึงแล้ว
และมือขวาที่ถือซอเอ้อหูกรีดมือลงที่สายครั้งหนึ่ง เช้ง..
พลังคลื่นเสียงไร้รูปกระจายออก
อี้เทียนกับหูซิ่งรู้สึกสมองสะเทือนและมือของพวกเขาเคลื่อนไหวได้ช้าลงทันที
เซี่ยชิงใจสั่นสะท้าน เขาสั่นกระบี่ในมือของเขา
กระบี่ส่งเสียงร้องในใจเขา ทำให้เขาต่อต้านคลื่นสั่นสะเทือนได้
ขณะที่ทั้งสามคนถูกชายชราตาบอดบีบบังคับให้ถอย เงาดำสายหนึ่งรีบมาทันที
สีหน้าของอาเฮ่อเคร่งขรึม
สะบัดกระบี่โบราณในมือของเขาพร้อมกับฝักกระบี่และเสียงร้องที่ชัดเจนของกระเรียนดังออกมาจากตัวกระบี่!
อากาศในรัศมีห้าเมตรถูกกระบี่กระเรียนกระตุ้น
ขณะที่กระแสปราณนับไม่ถ้วนไหลไปตามมือของอาเฮ่อเข้าไปยังกระบี่โบราณ กระแสปราณมาบรรจบกันเป็นภาพเลือนราง
อาเฮ่อลอยตัวขึ้นพร้อมกับกระบี่เหมือนกับหงส์ดำขนาดใหญ่กำลังสลัดขน
วิชาของสำนักกระเรียน ระบำกระเรียน
อาเฮ่อแข็งแกร่งอยู่แล้ว
ถังเทียนยังไม่ได้แนะนำหรือสอนอะไรทั้งหมดที่เขารู้เกี่ยวกับปราณร่างกระเรียนให้อาเฮ่อ
อาเฮ่อเรียนรู้จากสำนักกระเรียนอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว
หลังจากเข้าใจสิ่งที่เรียนรู้ก็ทำให้ความรู้ของเขากว้างไกล
หลายจุดที่เขายังไม่เข้าใจ เขาก็เข้าใจได้ทะลุปรุโปร่ง
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาเรียนรู้วิทยายุทธของสำนักกระเรียนอีกครั้ง
ทันทีที่เรียนรู้ทุกอย่างอีกครั้ง เขาก็เริ่มเข้าใจทุกอย่างลึกซึ้งขึ้น
เขากับถังเทียนนั้นแตกต่างกัน
เขาคุ้นเคยกับวิทยายุทธจากสำนักกระเรียนทุกอย่างเป็นอย่างดี
เพียงแต่ขาดพื้นฐานปราณร่างกระเรียนเท่านั้นซึ่งนั่นคือกุญแจสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ตอนนี้กุญแจนั้นถูกค้นพบแล้ว
และได้ไขออกแล้ว วิทยายุทธทุกอย่างของสำนักกระเรียนจึงกระจ่างชัดเจนอย่างไม่เคยมีมาก่อน
เมื่อก่อนจนถึงเมื่อครู่นี้
เขายังไม่มีความเข้าวิทยายุทธของสำนักกระเรียนอย่างลึกซึ้งกว้างขวางอยู่เลย
ระบำกระเรียนหนึ่งในวิชานั้นที่เขาไม่เข้าใจ
ท่าระบำกระเรียนมีความมาดมั่นและสง่างาม
นั่นคือสิ่งที่ทุกคนเรียนรู้เมื่อพวกเขาได้ศึกษาในสำนักกระเรียน
แต่ทุกคนคิดว่าท่วงท่าที่สง่างามของระบำกระเรียนเกิดจากพลังกล้ามเนื้อและกระดูก จนกระทั่งตอนนี้ ในมือของอาเฮ่อ เปี่ยมด้วยพลังร่างกระเรียน
ระบำกระเรียนจึงได้เปล่งประกายและแสดงพลังที่แท้จริงของมัน
ระบำกระเรียนคือเคล็ดวิชาที่สามารถหลอมรวมกับวิทยายุทธอื่นๆ
ของสำนักกระเรียนได้ เป็นท่าที่รวดเร็วและสง่างาม
สามารถทำให้วิชาของสำนักกระเรียนแข็งแกร่งมากขึ้น แต่ยากจะพัฒนาได้
ท่ากระบี่ของอาเฮ่อใช้ออกด้วยพลังระบำกระเรียน
สีหน้าของเฒ่าบอดซอกำศรวลบิดเบี้ยวเหยเก เสียงของกระบี่แหลมคมเสียดแทงใจเขานัก
เขาสามารถบอกได้จากเสียงกระพือลมของเสื้อผ้าอาเฮ่อได้ว่า
เหมือนกับเห็นหงส์ดำร่ายรำสยายปีก มีพลังคล่องแคล่วแข็งแกร่งนัก
ยอดฝีมือ!
ใบหน้าของบ่าวใบ้เปลี่ยนไป เขาไม่สามารถหลบได้ทันเวลา เขาคลี่พัดในมือเขาทันที
ฝ่ามือของเขามีเปลวไฟปกคลุมและต้านรับกระบี่อาเฮ่อไว้ เปลวเพลิงที่ฝ่ามือบ่าวใบหนาแน่น
และอากาศรอบฝ่ามือกลายเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว
สีหน้าของอาเฮ่อไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย
แต่ม่านตาของเขาเป็นประกายเจิดจ้า ไม่มีใครมองสบตาของเขาตรงๆ
หัวใจของเขาตื่นเต้นอย่างมาก
เพราะเขาสามารถใช้วิทยายุทธที่แท้จริงของสำนักกระเรียนได้
เขาสามารถใช้วิทยายุทธที่แท้จริงของสำนักกระเรียนได้จริงๆ!
ตั้งแต่วันนี้ไป
สำนักกระเรียนจะฟื้นฟูกลับสู่ความรุ่งเรืองอีกครั้ง!
การต่อสู้ในวันนี้จะเป็นศึกแรกที่สำนักกระเรียนได้พบกับเกียรติยศของพวกเขา
อาเฮ่อมีสีหน้าตื่นเต้น ปราณร่างกระเรียนในร่างเขาเพิ่มขึ้นในระดับสูงสุด
กระบี่โบราณในมือของเขาสั่นสะท้านและปลดปล่อยเสียงร้องตรงขึ้นสั่นสะท้านถึงสวรรค์
กระเรียนร้องเก้าชั้นฟ้า!
7 ความคิดเห็น:
ดีใจด้วยนะอาเฮ่อ
ตอนนี้ อาเฮ่อคือพระเอกค่ะ อิอิ
ขอบคุณครับ
สนับสนุนให้เปลี่ยนพระเอกเป็นอาเฮ่อครับ ส่วนถังเทียนกับเซียนฮุ่ยคุมอำนาจอยู่หลังฉากอีกทีหนึ่ง :D
ขอบคุณครับ ตัวเอกปรากฏ ? 5555+
อ่านมา 200 กว่าตอน พระเอกมาแล้ว
รอบหน้าใส่ชุดสีแดงนะ ไม่เหมือนไครแแน่
แสดงความคิดเห็น