ตอนที่ 610 จะปล้นหรือรับสมัครงาน?
“ท่านแขกผู้มีเกียรติ
บัตรของท่านถูกจัดเตรียมไว้ให้แล้ว
มีทองอยู่ทั้งหมด 9090 หักภาษีร้อยละสิบ
ชิพนี้เป็นของขวัญจากห้องอัญมณีในฐานะเป็นของที่ระลึก
นี่เป็นชิพแรกที่ท่านแขกผู้มีเกียรติใช้เล่นชนะพนันถึงสองครั้ง ขออวยพรให้ท่านแขกผู้มีเกียรติโชคดีตลอดไป” สตรีสาวงามจากต่างเผ่าพันธุ์มาเคาะประตูห้องแทบจะทันทีเมื่อเย่ว์หยางกลับเข้าไปในห้องพักของเขา นอกจากจะได้รับบัตรทองแดงที่มีอักษรรูนสวรรค์อยู่ในนั้นแล้ว
นางยังคงยื่นชิพพนันที่ทำอย่างประณีตให้อี้หนาน
“โอว, ขอบคุณมาก!”
อี้หนานยังคงรู้สึกว่านี่คือเครื่องรางที่นำโชคมาให้นาง
นางจึงยอมรับไว้ด้วยความยินดี
“.....” อย่างไรก็ตาม
เย่ว์หยางยังคงสงบและสำรวมอยู่
เขารับบัตรทองแดงและรีบปิดประตูห้องอย่างรวดเร็ว
“เรากลายเป็นครอบครัวที่มีเงินออมถึงหมื่นเหรียญทองในช่วงเวลาสั้นๆ
ทำไมเจ้าถึงไม่มีความสุขเล่า?”
อี้หนานถามและยิ้มขณะที่นางโอบคอเย่ว์หยางเขย่งปลายเท้าและจูบเขา
“เราอาจตกอยู่ในความยุ่งยากเล็กน้อย
เรือลำนี้อาจจะถูกทำลาย
ข้ากำลังตัดสินใจว่าจะกลับเข้าไปในโลกคัมภีร์ดีหรือไม่ ถ้าเรากลับเข้าไป
เราอาจไม่สามารถเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ แต่ถ้าเราไม่กลับเข้าไป ก็อาจตกอยู่ในอันตราย” เมื่อเห็นว่าอี้หนานไม่เข้าใจ เย่ว์หยางลดเสียงเบาลง “มีบางคนต้องการจะระเบิดเรือ ข้ารู้สึกถึงคลื่นพลังมหาศาลได้”
ทันทีที่เขาพูดจบประโยค เสียงระเบิดดังได้ยินชัดเจนทันที
หลังจากการระเบิดขนาดใหญ่
ก็รู้สึกได้ถึงแรงอัดขนาดมหึมา
แต่เย่ว์หยางใช้มือทั้งสองป้องกันนางเอาไว้
อี้หนานจึงไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
นางใช้นิ้วอุดหูตัวเองเอาไว้
เมื่อเห็นห้องพังถล่มและสิ่งของแตกกระจาย นางอดแลบลิ้นไม่ได้
รอบๆ ด้านสงบลงภายในไม่กี่วินาที
จากนั้นจึงค่อยมีเสียง
ไม่ต้องรอให้ผู้คนพบว่ามีอะไรเกิดขึ้น ระฆังเตือนภัยก็ดังขึ้น จากนั้นเสียงของลูกเรือประกาศออกมา “ท่านแขกผู้มีเกียรติประจำเรือ
มีกลุ่มโจรสลัดอยู่บนเรือ โปรดอยู่ในความสงบ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเราจะขับไล่ศัตรูและปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของทุกคนไว้
อ๊า อ๊า...”
ก่อนที่คนผู้นั้นจะพูดจบ
ดูเหมือนเขาถูกใครบางคนฆ่า
ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องโหยหวนที่เหมือนกับหินก้อนมหึมาถูกโยนลงในทะเลสาบนิ่ง,
เหมือนกับไม้ตีรังผึ้ง ก่อให้เกิดความวุ่นวายปั่นป่วนตามมา ในห้องเรือเสียงกรีดร้องดังขึ้นตามๆ กันมา
บ้างก็มีเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือ
บ้างก็ทำลายห้องพักหนีไปตามทิศทางที่ปลอดภัย บรรดากลุ่มคนทั้งหมดที่พยายามหลบหนี
บางพวกก็หนีออกไปโดยไม่ทันแต่งตัวให้เรียบร้อย ส่วนใหญ่เป็นทหารรับจ้างและสาวงามจากในเรือ
“โอวพระเจ้า มีโจรสลัดอยู่บนเรือ โจรสลัดกำลังปล้นทรัพย์สิน หนีเร็ว หนีเร็ว!”
“เป็นกองโจรกลุ่มหนึ่ง
และมีมากมายหลายคน....”
“เฮ้ย..ข้าหากางเกงข้าไม่เจอ.. โธ่เว้ย ใครก็ได้ให้ข้ายืมกางเกงหน่อย?”
“ฮึ่ม!” ทหารรับจ้างร่างผอมและสาวเผ่าม้าน้ำก็หลบหนีอยู่ในกลุ่มผู้คนด้วยเช่นกัน
พวกเขายังจงใจทำให้ทหารรับจ้างรอบๆ แตกตื่นมากยิ่งขึ้น
เย่ว์หยางหลับตารอจนกระทั่งเหตุการณ์ด้านนอกค่อยสงบลง
จากนั้นผงกศีรษะเบาๆให้อี้หนานซึ่งอยู่ในอ้อมกอดของเขา และพูดยืนยันว่า “มีคนปล้นเรือจริงๆ และพวกเขาเป็นกลุ่มที่ใหญ่มาก มีจำนวนพลราวพันคนรายล้อมเรือเอาไว้ และยังมีการวางระเบิดบนเรืออีกด้วย
กระทั่งมีบางคนคอยแจ้งข้อมูลให้คนภายนอก นำพวกเขามาที่นี่ มันน่าจะเป็นการส่งสัญญาณรูปแบบหนึ่ง
โดยวางสายไว้ภายในรออยู่ก่อนแล้วโจมตีพร้อมกัน.... หัวหน้าของโจรพวกนี้ไม่ธรรมดา,
โจมตีเรือสำราญขนาดใหญ่แบบนั้นและดำเนินแผนการได้ราบรื่น คนที่มีความสามารถขนาดนั้นย่อมทำงานได้ดี”
“งั้นเจ้าน่าจะอยู่ที่นี่เพื่อดูว่าจะเปิดเผยได้ยังไง ข้าจะกลับเข้าไปก่อน”
อี้หนานจูบแก้มเย่ว์หยางด้วยความรักพลางหัวเราะคิกคัก
“ความจริงเจ้าสามารถอยู่ต่อได้
เพียงแต่ต้องไม่ลืมว่าสถานะของเรา
เราเป็นคนธรรมดามีพลังและสถานะเพียงเล็กน้อย โจรพวกนี้ไม่ได้ปล้นเรา ข้าคาดว่าเป้าหมายของพวกเขาก็คือพวกคนชั้นสูงที่มีทองมากๆ ฮ่าฮ่า
เราสามารถฉวยโอกาสจากวิกฤตินี้เก็บเกี่ยวอะไรบางอย่างได้บ้าง มาเถอะ
ข้าจะพาเจ้าไปหาเรื่องตื่นเต้นกัน”
เย่ว์หยางต้องการจะส่งอี้หนานกลับในตอนแรก
แต่เมื่อเห็นว่าโจรสลัดที่ปล้นเรือเหาะไม่ใช่คนธรรมดา เขาแน่ใจว่าพวกเขาต้องไม่สนใจคนที่ไม่สำคัญอย่างเขา เขาจึงต้องการพาอี้หนานออกไปผจญภัย
“ขโมยอะไรเหรอ?”
อี้หนานกระตือรือร้นอยากลองหลังจากได้ฟัง
อี้หนานเคยใช้ชุดขโมยมาแล้ว
แต่นางไม่เคยขโมยอะไรมาก่อนในชีวิตของนาง
เกี่ยวกับเรื่องการขโมย เป็นเรื่องที่นางไม่เคยทำมาก่อน
เพราะนางได้รับการอบรมมาดี
แต่นางไม่ได้คัดค้านเย่ว์หยางให้ทำ
เพราะพวกเขากำลังปล้นจากพวกผู้ดี
คนพวกนั้นไม่ใช่คนดี
แม้ว่าเย่ว์หยางจะขโมยอะไรของพวกเขามา ก็ยังนับว่าเป็นโจรผู้กล้า
ดังนั้นนางจึงให้ความสนใจและตัดสินใจร่วมเสี่ยงอันตรายกับเย่ว์หยาง
ดูว่าเขาจะฉวยโอกาสจากวิกฤติเก็บเกี่ยวอะไรมาได้บ้าง
เย่ว์หยางฉุดมือนางไปตามตู้ที่ล้มระเกะระกะในห้องต่างๆ และเก็บเหรียญทองซึ่งตกเรี่ยราดมาได้จำนวนหนึ่ง
แต่ทหารรับจ้างเหล่านี้ไม่มีเงินมากมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ดังนั้นผลเก็บเกี่ยวจึงไม่มาก
มีความแตกต่างกันมากของห้องพักในเรือซึ่งเป็นของขุนนางหรือชนชั้นสูง มีทั้งแหวนและสร้อยคอเครื่องประดับทุกชนิด
และแม้กระทั่งอัญมณีเม็ดเล็กและเหล้ายี่ห้อดัง
พวกผู้ดีเหล่านี้มีความสุขสำราญอยู่บนเรือสำราญ พวกเขาไม่เคยคาดเลยว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นกับเรือ
และเผ่นหนีออกไปจากห้องปล่อยให้เย่ว์หยางและอี้หนาน
สองหัวขโมยได้กำไรจากสถานการณ์
อี้หนานยิ้มตลอดเวลาที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น
เพราะว่าเย่ว์หยางห้าวหาญไม่เหมือนใคร
เขาโยนของที่ไม่มีประโยชน์ทิ้งหมด เช่นเสื้อผ้า รองเท้าและหมวกแพงๆ
ออกนอกเรือ นี่เป็นการกระทำที่ไม่ทำให้ใครได้ประโยชน์
หลังจากจำนวนโจรในห้องเพิ่มขึ้น
เย่ว์หยางพาอี้หนานซ่อนตัวจากพวกเขาและกลับไปห้องพักของตัวเอง
พวกเขามองหน้ากันอย่างมีความสุข
ความจริงแล้ว ของบางอย่างที่พวกเขาขโมยมาก็มีประโยชน์ไม่มาก บางอย่างสามารถแลกเงินได้ บางอย่างก็เป็นแค่เครื่องประดับ...
นี่เป็นเพราะของที่มีค่าแท้จริงย่อมอยู่กับพวกขุนนางแน่นอน คนพวกนั้นจะไม่ทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง
แต่เมื่อพูดถึงการฉวยโอกาสจากวิกฤติและได้ของบางสิ่งบางอย่างนั้นเป็นเรื่องน่าสนุกมาก
เมื่ออี้หนานคิดวิธีที่พวกขโมยจะไม่หาเสื้อผ้าที่มีค่า
เมื่อพวกเขาเข้าห้องของคนชั้นสูงและได้แต่ยืนอยู่หน้าห้องอย่างโง่งม เนื่องจากของโดนเก็บกวาดไปหมดแล้ว
นางอดหัวเราะไม่ได้
นางไม่สนใจกระเป๋าใบใหญ่แม้แต่น้อย
นางชอบบรรยากาศที่เย่ว์หยางพานางลอบเข้าไปขโมยของมากกว่า ไม่ว่าจะดีจะแย่ เขามักจะกุมมือของนางไว้เสมอ
นางจะติดตามเขาไปอย่างนี้ตลอดชีวิตของนาง
เขาเป็นชีวิตครึ่งหนึ่งของนาง
อี้หนานมองดูของที่เย่ว์หยางขโมยมา และบรรจุของทุกอย่าง
จากนั้นเปิดห้องแล้วโยนออกไปนอกหน้าต่างเรือ
นางหัวเราะร่าจนแทบยืนไม่อยู่
จนนางต้องเกาะแขนเขาไว้จึงจะยืนได้มั่นคง
น่าอายจริงๆ
ด้วยการก่อกวนของเย่ว์หยาง
ทั้งฝ่ายโจรและฝ่ายขุนนางคงได้ประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ ที่แย่ที่สุดเจ้าเด็กนี่ทำก็คือโยนกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่ลงแต่ในทะเลสาบเท่านั้น
ต่อให้มีคนเห็น ก็ยากที่ใครจะเอากลับคืนมาได้
“น่าเสียดายที่เราไม่มีเวลาพอค้นหาห้องพักในเรือสักสองสามห้อง มีห้องพักเกินสองหมื่นห้องในเรือ และห้องของคนชั้นสูงจริงๆ กลับไม่อยู่ด้านนี้” เย่ว์หยางถอนหายใจต่อเนื่อง อี้หนานปิดปากหัวเราะอยู่นาน
ในที่สุดนางก็หยุดหัวเราะ
“มีพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ห้องพักชั้นหนึ่ง เราไม่มีทางเข้าไปข้างในได้ นอกจากนี้โลภมากไปก็ไม่ดี เราจะลำบากหนักถ้าถูกจับได้”
“....” เย่ว์หยางขมวดคิ้ว
เขาตระหนักได้ว่าขโมยคนหนึ่งกำลังวิ่งมาทางด้านพวกเขา
“พวกเจ้าทุกคนออกมาและไปที่ดาดฟ้า
นี่คือการปล้น และข้าไม่ได้ล้อเล่น
ใครก็ตามที่ไม่ฟังข้า
ข้าจะใช้มีดฟันพวกเจ้า”
บุรุษสองสามคนอยู่ในชุดดำลักษณะเหี้ยมโหดเดินมาทางชั้นนี้
ถีบประตูเข้ามาตรวจค้น
ความจริง พวกเขาแค่ค้นหาคร่าวๆ
และขู่คนโดยไม่คิดอะไร
ตอนแรกพวกเขาคิดว่าจะไม่มีใครเหลือในห้องธรรมดา และเตรียมตัวจากไป
แต่หนึ่งในพวกเขาประสาทไวและรู้สึกได้ถึงพลังชีวิตของเย่ว์หยางและอี้หนาน
หลังเดินผ่านประตูห้อง
เขาเดินกลับมาอย่างไม่แน่ใจ และระเบิดเสียงหัวเราะทันทีที่เห็นเย่ว์หยางกับอี้หนาน “โก่วจือ, โก่วจือ ดูซิว่าข้าเจออะไร
สาวงามที่น่าตะลึง! โอวพระเจ้า
นี่คือหญิงงามชาวมนุษย์
สาวงามชาวมนุษย์ที่ข้าเคยพบที่เฟยเยียนยังเทียบกับนางไม่ได้เลย เมื่อเอามาเทียบกับแม่สาวคนนี้ ผู้หญิงเหล่านั้นกลายเป็นไม่ได้เรื่องเลย”
สหายของพวกเขาพากันวิ่งเข้ามาและส่งเสียงดังแออัดกันอยู่ที่ประตูเหมือนกับฝูงหมาป่าตัวผู้
น้ำลายแทบหยดจากปากของพวกเขา
บุรุษผู้เต็มไปด้วยหนามทั่วตัวลูบศีรษะและเลียริมฝีปาก “แย่หน่อยที่ลูกพี่หญิงไม่ยอมให้เราข่มขืนใคร มิฉะนั้น... อย่างไรก็ตาม
แค่แอบแตะเนื้อต้องตัวหน่อย
ลูกพี่หญิงคงไม่ว่าอะไรมั้ง? เอ้อเหมา เจ้าต้องคอยระวังไว้
เราอาจทำลายกฎวันนี้ก็ได้ และใช้เสรีภาพกับนางงามน้อยนี้! ข้าคงต้องดูถูกตัวเองแน่หากไม่ฉวยโอกาสจากนางงามน้อยนี่”
“เผียะ!”
เสียงตบดังขึ้นที่หลังศีรษะของเขา
มังกรตาเดียวปรากฏอยู่ด้านหลังคนเหล่านี้
และตะโกนลั่น “ไสหัวไป
ถ้าพวกเจ้ายังจะลงมือต่อไป พี่ใหญ่หญิงคงไม่ทันได้ทำอะไรพวกเจ้าแน่
เพราะข้าจะฟันพวกเจ้ากับมือตัวเอง
ข้าสามารถทำเป็นเหมือนไม่เห็นอะไรๆ กับเรื่องอื่นๆ ได้ แต่ถ้าพวกเจ้าบังอาจทำลายกฎข้อแรก โทษของพวกเจ้าจะต้องตาย”
พวกโจรขลาดเขลาทันทีเมื่ออยู่ต่อหน้ามังกรตาเดียว
พวกเขารีบยิ้ม “พี่สาม เราแค่พูดหยอกเย้านางเล่น เราไม่กล้าล่วงเกินสาวน้อยคนนี้อย่างแน่นอน”
มังกรตาเดียวเตะพวกเขาทุกคน
และตะโกนลั่น “ไสหัวไป เห็นพวกบัดซบอย่างพวกเจ้าแล้วข้าหงุดหงิด”
เมื่อพวกเขาออกไป เขายิ้มเป็นกันเองให้เย่ว์หยางและอี้หนาน “น้องชาย, น้องสาว ข้ากำลังตามหาพวกเจ้าทั้งสองคน! อย่ากลัว, แม้ว่าข้าจะเป็นโจร แต่ข้าก็มีคุณธรรม เราคือกลุ่มโจรเพลิงพิโรธ มีชื่อเสียงมาก เราไม่เคยข่มขืนหรือกระทำการที่เป็นอันตรายต่อคนอื่น เราเป็นก๊วนโจรชั้นยอด! ไม่มีใครที่ไม่ยกนิ้วให้เราเมื่อพวกเขาได้ยินเรื่องเรา
ก๊วนโจรเพลิงพิโรธ? พวกแกะอ้วนที่พบกับเราไม่ต้องกลัวว่าเราจะเอาชีวิต เรารีดไถเงินบางส่วนและเจรจากันภายใต้บรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง เราสัญญาว่าจะไม่ใช้ความรุนแรง”
เย่ว์หยางหน้าห่อเหี่ยว
ดูเหมือนว่ามังกรตาเดียวจะสังเกตเขาออกบ้างแล้ว
อย่างไรก็ตาม
อี้หนานไม่มีประสบการณ์มากนักในสังคมและคิดว่ามังกรตาเดียวจะดูแลนางและเย่ว์หยางจริงๆ ดังนั้นนางคำนับเล็กน้อยขอบคุณเขา “ขอบคุณท่านลุง ตอนนี้เราไม่ค่อยกลัวแล้ว พวกท่านแตกต่างจากโจรธรรมดาจริงๆ อย่างไรก็ตาม เราไม่มีเงินมากนัก นอกจาก 9000
เหรียญทองที่เราเพิ่งเล่นพนันเอาชนะมาได้
ท่านลุง เรากำลังมุ่งหน้าไปเมืองสายรุ้งต่อ ท่านบอกลูกพี่ของท่านได้ไหม
ถ้าพวกท่านทิ้งเงินให้เราไว้สักเล็กน้อย
ถ้าเป็นไปได้ เราจะให้ความร่วมมือกับพวกท่าน ถ้าเป็นไปไม่ได้ข้าก็เสียใจ
คงต้องยอมสู้กับพวกท่าน”
มังกรตาเดียวหัวเราะ “ไม่ ไม่ ไม่,
น้องสาวผู้นี้ เจ้าเข้าใจผิดแล้ว
ข้าไม่ได้ขอเงินจากเจ้า
แต่จะเชิญเจ้าทั้งสองคนเข้าร่วมกลุ่มโจรเพลิงพิโรธ ถ้าเจ้าทั้งสองคนยินดีทำงานในก๊วนโจรเรา พวกเจ้าจะได้รับเงินเดือนประจำ
สิ้นปีมีโบนัสให้หลังจากเสร็จภารกิจ มีเครื่องแบบสำหรับพนักงาน นอกจากมีภารกิจเร่งด่วนแล้ว
พวกเจ้าจะมีวันหยุดสุดสัปดาห์ละสองวัน สรุปโดยรวมก็คือ
เราปฏิบัติต่อพนักในก๊วนโจรเพลิงพิโรธของเราเป็นอย่างดี”
เย่ว์หยางและอี้หนานตะลึง
เจ้าผู้จะมาปล้นหรือมารับสมัครพนักงานกันแน่?
19 ความคิดเห็น:
ขอบคุณมากครับ
55555 โอ้ยยย ขำาาา
ขอบคุณครับ
ฝ่ายบุคคลรึเปล่า
ฝ่ายบุคคลมาทาบทามเองเลยวุ้ย
พอจะมีเวลาสัก2-3ชมไหม ...ถุ้ย
HR มาเองเลย
เฮ้ย เดี๋ยวนะเดี๋ยว!!!
งงเรื่องระดับพลังนิดหน่อย นักสู้ปราณก่อกำเนิดที่ไม่มีคำภีร์เรียกว่า นักสู้ปราณก่อกำเนิดดิน คนที่มีคำภีร์เรียกว่า นักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้า ส่วนคนที่มีระดับพลังสูงกว่าปราณก่อกำเนิดเรียกว่า นักสู้ปราณฟ้า ผมเข้าใจถูกต้องหรือเปล่า เห็นผู้แปล แปลว่า นักสู้ปราณดิน นักสู้ปราณฟ้า ผมก็เลยงง
ฮิฮิฮิ หวานกันเข้าไป! หวานกันให้มากกว่านี้อีก! ชดเชยเกือบ 600 ตอนที่นางแทบไม่มีบท
ตามความเข้าใจผมนะ
นักสู้ปราณก่อกำเนิดมี 10 ระดับ สูงกว่านั้นเป็นสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดหรือจะเรียกว่าปราณก่อกำเนิดฟ้าก็ได้
ส่วนที่แดนสวรรค์แบ่งนักสู้ปราณก่อกำเนิดเป็น 2 พวก ที่ไม่มีคัมภีร์เรียกว่า ปราณดิน ถ้ามีคัมภีร์เรียกว่า ปราณฟ้า ครับ
ขอบคุณครับ
ขำจิงตรงตอนจบ ขอบคุณมากนะครับ
จริงๆ สวัสดิการก็ไม่ได้แย่นะ อยู่เที่ยวเล่นกับพวกก๊วนโจรสักวันสองวันก็น่าจะได้ 55555
แดนมนุษย์ทงเทียน แบ่งนักสู้เป็นสามพวกใหญ่ๆ
1. นักสู้ระดับธรรมดา (สามัญ) มี 1 - 8 ระดับ
2. นักสู้ปราณก่อกำเนิด มีระดับตั้งแต่ 1 - 10
3. สุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิด เกิดภูมิปัญญาที่มนุษย์จะแบ่งได้
แดนสวรรค์ ในตอนนี้ แบ่งเป็น 2 คือ
1. นักสู้ปราณดิน เทียบเท่ากับนักสู้ปราณก่อกำเนิด
2. นักสู้ปราณฟ้า เทียบเท่ากับสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิด
ขอบคุณมากครับ
ชวนมหาโจรเข้าแก๊งโจร 555555555555555 ไม่นานสงสัยลูกพี่หญิงคงโดนเย่ปักธง
Thx
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น