วันพุธที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2561

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 615 กระจกปลิดวิญญาณ



ตอนที่  615  กระจกปลิดวิญญาณ
มนุษย์ตัวเล็กและอ่อนแออย่างอี้หนานสามารถฆ่ามือสังหารนักสู้ปราณดินระดับห้าได้ทันทีสร้างแรงกระทบและความรู้สึกตกตะลึงให้กับทุกคน

อย่าว่าแต่สมาชิกกลุ่มโจรธรรมดาเลย  แม้แต่ป้อมปราการเหล็กอย่างกองทัพกริฟฟินสายฟ้าก็ยังสั่นและปั่นป่วนเล็กน้อย  ผลกระทบต่อกำลังใจจากการสังหารได้ฉับพลันที่อยู่เหนือระดับนักสู้เป็นเรื่องสร้างความลำบากให้จริงๆ  นอกจากนี้ ทุกคนสามารถเห็นได้ว่าสตรีชาวมนุษย์ผู้นี้ครอบครองคัมภีร์อัญเชิญชั้นแพลตตินัม  นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
มีนักสู้แดนสวรรค์นับไม่ถ้วน แต่พวกเขาไม่มีคัมภีร์อัญเชิญเป็นส่วนใหญ่
ต่อให้พวกเขามี พวกเขาก็ไม่สามารถยกระดับได้จนถึงชั้นแพลตตินัม
นอกจากนี้ คัมภีร์อัญเชิญของสตรีชาวมนุษย์นี้สามารถยกระดับได้จนถึงชั้นแพลตตินัม ตัวนางเองยังเป็นแค่นักสู้ปราณดินระดับหนึ่งเท่านั้น  ถ้ายังยกระดับได้ต่อไป ก็อาจจะก้าวหน้าเป็นคัมภีร์เพชรหรือเป็นคัมภีร์ชั้นศักดิ์สิทธิ์ได้ไม่ใช่หรือ?
สาวยักษ์ปากอ้าตาค้างจ้องมองอี้หนาน ไม่อาจทำใจเชื่อสิ่งที่นางได้เห็นอย่างสิ้นเชิง
แม้ว่านางจะมีพลังถึงขั้นปราณฟ้าระดับห้า แต่นางก็ยังไม่มีคัมภีร์อัญเชิญ แต่สาวน้อยที่อยู่ต่อหน้านาง  ดูตัวเล็กนิดเดียวและอ่อนแอ แค่หายใจแรงๆ ก็แทบจะฆ่านางได้  อย่างไรก็ตามสาวน้อยนางนี้กลับมีคัมภีร์อัญเชิญ นางแทบไม่สามารถยอมรับได้ว่าสาวน้อยนั้นมีคัมภีร์อัญเชิญ  นางมีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน  ดังนั้นการทำสัญญากับคัมภีร์ได้จึงไม่ใช่เรื่องน่าประหลาด  สิ่งที่ทำให้นางไม่สามารถยอมรับได้ก็คือคัมภีร์อัญเชิญในมือของเด็กสาวที่เปราะบางนี้เป็นคัมภีร์ที่ยกระดับถึงชั้นแพลตตินัม  เห็นได้ชัดว่าเด็กสาวนางนี้ผ่านการต่อสู้มาอย่างโชกโชน และไม่ได้อ่อนแอเหมือนอย่างที่นางเข้าใจ
ปัญหาก็คือไม่ว่านักสู้ปราณดินจะแข็งแกร่งมากเพียงไหนก็ตาม แต่ก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่านักรบมือสังหารปราณดินระดับห้ารวดเดียวได้
เป็นไปได้หรือที่มดตัวน้อยจะกัดสิงโตสี่ตัวจนตายได้?
เป็นไปไม่ได้!
 “ไม่ นั่นไม่ใช่พลังกฎรหัสโบราณ  เราไม่รู้สึกถึงแรงกดดัน และคนทั้งสี่ก็ยังสามารถโจมตีได้  นั่นคือข้อพิสูจน์ว่ามันคือพลังเฉพาะอย่าง”  จอมปีศาจจื้อกวงลูบศีรษะที่ล้านเลี่ยนและเขาสรุปด้วยสีหน้าที่น่ากลัว “แม่หนูน้อยนี่สามารถสู้ได้เกินระดับของตัวเองไปมากและสู้เสี่ยงตายในระยะประชิดได้”
 “ในเมื่อเราไม่สามารถเข้าสู้ในระยะใกล้ได้  อย่างนั้นเราก็สู้กันในระยะไกล!  ตาของตัวตลกเสี่ยวโฉ่วเป็นประกายเย็นชา
เขาชี้นิ้วที่ยาวผิดปกติของเขา
นักสู้ปราณดินระดับห้าอีกสี่คนก้าวออกมาทันที พวกเขาเป็นมือธนู
ทั้งสี่คนกระจายออกไประยะห่างกันร้อยเมตรพร้อมกัน ธนูทั้งหมดเล็งยิงใส่อี้หนาน
เย่ว์หยางรู้ว่าจอมปีศาจจื้อกวงฉลาดมากจริงๆ  เขาพบข้อเสียเปรียบของสนามพลังที่อี้หนานใช้ เมื่อเกิดข้อเสียแล้ว สนามพลังประเภทนี้ซึ่งมีขนาดเล็ก  จะมีผลเพียงในระยะรัศมีสิบเมตรรอบตัวอี้หนาน แม้ว่าอี้หนานจะมีพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด  แต่สนามพลังจะแผ่ออกมาได้เพียงระยะสิบเมตร  เนื่องจากจำเป็นต้องใช้สมาธิมากเพื่อเปลี่ยนสภาพเป็นกลีบบุปผา ถ้าเป็นเย่ว์ปิงแทน รัศมีทำการอาจเป็นเพียงเมตรหรือสองเมตรเท่านั้น
แน่นอนว่าความได้เปรียบของสนามพลังก็ชัดเจนมากเช่นกัน
ความคล้ายคลึงกับพลังรหัสโบราณไม่มีใครเทียบได้ในรัศมีระยะสิบเมตร  ศัตรูไม่สามารถฆ่าหรือทำร้ายอี้หนานได้ ตราบใดที่พลังจิตของนางยังไม่หมด
หรือเว้นแต่ศัตรูจะมีพลังระดับปราณฟ้าที่แข็งแกร่งมากซึ่งมีอำนาจโดยตรงที่จะกำจัดสนามพลังที่เกิดขึ้นจากสมาธิพลังจิตของอี้หนาน...
สำหรับการจะทำอย่างนั้นได้  จะต้องมีพลังที่แข็งแกร่งมากเพียงไหน?
เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับนักสู้ปราณฟ้าทั่วไปและมีแต่เพียงนักสู้ปราณฟ้าระดับสามและที่เหนือกว่าจึงจะทำสำเร็จได้  นอกจากนี้ จะต้องเป็นนักสู้ปราณฟ้าประเภทที่มีปัญญาซึ่งมีพลังจิตที่แข็งแกร่งมากและไม่ใช่อสูรปราณฟ้าที่เกิดมาพร้อมกับพลังปราณฟ้าโดยกำเนิด
เย่ว์หยางใช้จักษุญาณทิพย์ตรวจสอบศัตรูและพบว่ามีคนผู้มีพลังทำลายสนามพลังนี้ได้ก็คือจอมปีศาจจื้อกวงและหัวหน้าโจรตัวตลกเสี่ยวโฉว่
จอมพลเกราะทองหลงเสียงและมนุษย์เผ่ากระดูกราเชลทั้งสองขมวดคิ้ว ไม่มั่นใจว่าจะสามารถทำลายสนามพลังได้หรือไม่
จักรพรรดินีราตรีและแม่สี่ความจริงลอบสอนวิชาลับให้อี้หนานหรือเปล่า?
ความจริงพวกนางได้ให้สนามพลังจิตวิญญาณที่ทรงพลังอย่างนั้นหรือเปล่า?  หรือว่าเป็นแต่อี้หนานที่ครอบครองพลังนี้หรือว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและสาวๆ นางอื่นก็มีพลังเช่นนี้ด้วย? พวกนางสามารถสร้างสนามพลังจิตได้หรือว่ายังสามารถสร้างสนามพลังรูปแบบอื่นอีก?   ยิ่งเย่ว์หยางคิดเรื่องนี้  เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าจักรพรรดินีราตรีและแม่สี่ลึกลับมากขึ้น  โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่สี่ เห็นได้ชัดว่าความสามารถต่อสู้ของนางเป็นศูนย์ แม้เมื่อตอนเขาใช้จักษุญาณทิพย์ตรวจสอบดู  เขาสามารถระบุได้แต่เพียงว่านางเป็นบุคคลสามัญ  อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าแม้แต่การกระทำของนางมีแต่จะยิ่งลึกลับมากขึ้น
แม่สี่นั้น สถานะที่แท้จริงของนางเป็นเช่นไร?
เย่ว์หยางไม่เคยเชื่อว่าแม่สี่จะเป็นคนธรรมดาสามัญ  อย่างไรก็ตาม ถ้านางไม่เฉลยออกมาเอง  เย่ว์หยางไม่มีทางเผชิญหน้าคาดคั้นกับนางแน่  เขาได้แต่แกล้งทำเป็นเหมือนไม่มีอะไร
 “ควั่บ!
ธนูแหลมคมทั้งสี่ดอกพุ่งออกมาอย่างว่องไวราวสายฟ้ามีแนวแสงเป็นทางตามหลังพุ่งตรงเข้าหาอี้หนาน  ไม่มีใครคิดว่าอี้หนานจะสามารถหลบธนูสังหารทั้งสี่ดอกนั้นได้  แค่เด็กสาวมนุษย์นักสู้ปราณดินระดับหนึ่งจะต้องถูกฆ่าตายทันทีเมื่อเผชิญหน้ากับนายขมังธนูนักสู้ปราณดินระดับห้า  แต่ไม่มีข้อสรุปแต่อย่างใด
ธนูเหล่านี้ถ้าใช้ลอบทำร้ายระหว่างต่อสู้ก็มีพลังสังหารศัตรูในระดับสูง
แต่นี่เป็นเพราะธนูทั้งหมดบรรจุพลังเข้มข้นของนายขมังธนูทั้งสี่คนนี้
ธนูเหล่านั้นถูกปล่อยออกไปอย่างยอดเยี่ยมพร้อมกัน
เย่ว์หยางไม่ขยับกล้ามเนื้อเลยไม่ว่าส่วนไหนๆ  สาวยักษ์ดูเหมือนต้องการจะเข้ามากวาดธนูออกไป แต่เมื่อเห็นว่าเย่ว์หยางไม่มีทีท่าตั้งใจจะแทรกแซงการต่อสู้เลยแม้แต่น้อย  นางบังคับตัวให้อยู่กับที่
อี้หนานเหยียดแขนอย่างใจเย็น และกระจกภูตที่สดใสปรากฏอยู่ต่อหน้านาง
เพียงเมื่อธนูที่ศัตรูยิงมาทั้งหมดปะทะกับกระจกทำให้พื้นระเบิดและเกิดปรากฏการณ์ประหลาด ธนูที่ไม่มีอะไรหยุดได้นั้นสามารถทะลวงกำแพงเหล็กแข็งได้ หายไปโดยไม่มีร่องรอยเหมือนกับว่าไม่เคยปรากฏมาก่อน แม้แต่เสี่ยวโฉ่ว มนุษย์กระดูกราเชลและจอมพลเกราะทองหลงเสียงก็ยังตาเบิกกว้างไม่สามารถหาที่อยู่ของธนูได้
 “กระจกสะท้อนกลับ”
อี้หนานแตะกระจกภูตด้วยนิ้วมือเรียวของนางและกระจกพลิกกลับทันที
แสงสว่างฉายส่องจนทุกคนนัยน์ตาพร่า
ธนูสังหารสี่ดอกเหล่านั้นปรากฏอีกครั้ง  แต่คราวนี้ตำแหน่งที่ธนูพุ่งเข้าหาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ธนูไม่ได้พุ่งมาทางด้านอี้หนาน  แต่กลับยิงออกมาจากตำแหน่งด้านหน้ากระจกภูตแทน ช่วงเวลาที่มือธนูทั้งสี่มัวแต่ตกตะลึงเกินกว่าจะทันสนองตอบ ธนูพุ่งเข้ามาราวกับอุกกาบาตมีไฟลุกเป็นทางตรงเข้าที่หน้าผากของมือธนูทั้งสี่
ดูเหมือนไม่มีโอกาสจะดิ้นรนอะไรมากนักขณะที่มือธนูทั้งสี่ล้มลงกับพื้นพร้อมกัน
สังหารฉับพลัน
ในพื้นที่ทั้งหมดมีเสียงฮือฮา
อย่างไรก็ตาม ในดวงตาของเย่ว์หยาง  ความเคลื่อนไหวของกระจกสะท้อนกลับของอี้หนานไม่มีอะไรแปลก อย่าว่าแต่ความสามารถของกระจกภูตของนางและพลังจิตสนามพลังของนางเลย  แม้เมื่ออยู่ในวังเทพจักรพรรดิอวี้ เหลยเสินสื่อนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสิบ แม้ว่าจะเหลือแต่วิญญาณก็ยังไม่สามารถทำร้ายอี้หนานได้ด้วยรังสีดำจากในระยะไกล  ความจริงอี้หนานฝีมือเลิศล้ำในการสู้ระยะไกล แต่ฝีมืออ่อนเมื่อสู้ระยะใกล้
เย่ว์หยางคาดว่าเป็นเพราะเหตุนี้ จักรพรรดินีราตรีและแม่สี่จึงสอนให้นางใช้พลังที่คล้ายกฎรหัสโบราณอย่างนั้น สนามพลังจิตจะสามารถปกป้องนางได้
 “เอาอีกครั้ง, ข้าไม่เชื่อ มาดูซิว่าเจ้าจะเอาชนะระดับที่แตกต่างได้มากขนาดไหน” เสี่ยวโฉ่วโกรธ เขาโบกมืออย่างชั่วร้าย
ครั้งนี้สัตว์ประหลาดสองตัวก้าวออกมา
สัตว์ประหลาดทั้งสองมองดูเหมือนตัวหมัดและมีความเหมือนกัน มีโล่กลมอยู่บนหลังของมันและที่มือมีกรงเล็บสั้น ที่ข้อศอกของมันมีหนามแหลมสีแดงเป็นพิเศษ
ตัวหมัดสัตว์ประหลาดนี้กระโดดได้สูงมาก และกระโจนขึ้นในท้องฟ้าได้สูงราวๆ ร้อยเมตร  ขณะที่เท้าของมันก้าวย่างกลางอากาศได้  เห็นได้ชัดว่าพวกมันสามารถก้าวกระโดดในอากาศและความเร็วจากการกระโดดของมันสามารถเพิ่มขึ้นอีกได้ ในที่สุดความเคลื่อนไหวของพวกมันจะเพิ่มขึ้นเร็วมากจนร่างของมันหายไปโดยไม่เหลือร่องรอยให้จับเค้า
สิ่งที่สำคัญที่สุด  พวกมันทั้งสองตัวมีพลังปราณดินระดับเจ็ด  พวกมันแข็งแกร่งมากกว่านักรบปราณดินระดับห้าและมือธนูก่อนหน้านั้นมากมายนัก พวกมันแต่ละตัวสามารถฆ่าอี้หนานได้ทันที  ตัวตลกเสี่ยวโฉ่วคิดว่าถ้าเด็กสาวมนุษย์ผู้อ่อนแอนี้สามารถฆ่าศัตรูระดับสูงกว่านางได้ ก็ต้องมีขีดจำกัดในพลังของนาง และขีดจำกัดนั้นจะไม่มากจนเกินไป  มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อเกินไปที่นางสามารถฆ่าศัตรูนักสู้ปราณดินระดับห้าได้
นางจะสามารถฆ่าศัตรูที่มีพลังปราณดินระดับเจ็ดได้หรือไม่?
ต่อให้นางสามารถทำได้  นางจำเป็นต้องทุ่มเทพลังทั้งหมดหรือเปล่า?  ในกลุ่มโจรตัวตลก  นักสู้ปราณดินระดับเจ็ด มีอยู่เท่าใด? มีอย่างน้อยสามพันคน นางจะสามารถฆ่าได้สักเท่าใด?
เสี่ยวโฉ่วมีความมั่นใจว่าด้วยพลังกระโดดความเร็วแสงของหมัดสองตัวพี่น้อง อี้หนานจะไม่มีเวลาใช้กระจกสะท้อนหรือพลังโจมตีอื่นเป็นแน่ ทั้งนี้เป็นเพราะวิธีที่พวกมันใช้ต่อสู้แตกต่างเฉพาะตัว เทียบกับการต่อสู้ทั้งระยะใกล้และระยะไกลที่เพิ่งจะผ่านมานี้  อย่าว่าโต้ตอบเลย อี้หนานคงยากจะป้องกันตัวจากพวกมันได้  นี่เป็นเพราะนางไม่สามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวของตัวหมัดสองพี่น้องได้เลย  ทั้งหมดที่นางต้องเจอก็คือผิดพลาด  แค่ตัดสินใจผิดก็จะเป็นวันสุดท้ายของนาง เพราะตัวหมัดสองพี่น้องเป็นอสูรที่เชี่ยวชาญในเรื่องการหาจุดอ่อน
 “กระจกภูตเปิดเผย”  กระจกภูตในมือของอี้หนานฉายแสงทันที  ทันใดนั้นแสงสว่างเจิดจ้าส่องไปที่เงาซึ่งกระโจนอยู่ในท้องฟ้า
ไม่ว่าเงาทั้งสองจะเคลื่อนที่ได้เร็วเพียงไหน  พวกมันก็เร็วไม่พอจะหลบลำแสงของกระจกภูต
เงาทั้งสองรีบเคลื่อนไหวเร็วขึ้นทิ้งเงาลวงเป็นสายอยู่ในท้องฟ้า
เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะแยกแยะตัวจริงออกจากตัวปลอมด้วยตาเปล่า
ทั้งหมดที่เห็นก็คือประกายที่เคลื่อนไหว  ปรากฏแวบแล้วก็หายไป
เงายังคงเคลื่อนไหวเพิ่มเติมในตำแหน่งต่างๆ
แต่หมัดเหล่านั้นยังต้องระมัดระวังหาร่องรอยรูปแบบที่ชัดเจน  ลำแสงจากกระจกภูตยังฉายที่เงาทั้งสองพร้อมกันเสมอ ไม่ว่าพวกมันจะเคลื่อนไหว ปรากฏตัวหรือหายตัวยังไงก็ตาม  พวกมันจะถูกลำแสงฉายใส่ตลอดไม่สามารถหลบหนีแสงได้พ้น
 “ดูดวิญญาณ...”
อี้หนานเหยียดมือออกนำทางกระจกภูตจากระยะไกล
เงาทั้งสองที่เคลื่อนไหวอย่างสวยงามถูกแสงจับไว้ไม่สามารถหนีพ้น  พวกมันถูกลากลงมาจากท้องฟ้าอย่างช่วยไม่ได้ ขณะที่พวกมันถลาเข้าหากระจกภูต
ตัวหมัดสองพี่น้องพยายามดิ้นรนให้เป็นอิสระจากแสงรัศมีแต่พวกมันก็พบว่าเป็นไปไม่ได้  พวกมันถูกดึงจากภายใน วิญญาณและร่างของพวกมันไม่เชื่อฟังความต้องการของพวกมัน
ทั้งหมดที่พวกมันทำได้ก็คือดิ้นรนอย่างหนักขณะที่พวกมันค่อยๆ ถูกดึงเข้ามา  นี่จะช่วยให้พวกมันสร้างพลังต้านทานทำให้แรงดึงนั้นช้าลงและยังคงรวบรวมพลังไว้โจมตีอย่างรุนแรงเมื่อพวกมันเข้าใกล้พอ สีหน้าของโจรตัวตลกเสี่ยวโฉ่ว, มนุษย์กระดูกราเชล จอมปีศาจจื้อกวงและจอมพลเกราะทองหลงเสียงกลายเป็นหวาดหวั่นพรั่นพรึง  เนื่องจากการดึงวิญญาณคนแบบนี้ทำให้พวกเขากลัว
โชคดีที่การดึงวิญญาณช้าลงมาก
นอกจากนี้ กระจกภูตจำเป็นต้องเปิดเผยตัวมันเองก่อนที่แสงรัศมีจะจับเป้าหมายที่ระยะไกลและหลังจากมั่นใจว่าไม่มีการดิ้นรนต่อสู้ก็สามารถทุ่มดึงวิญญาณของผู้นั้นมาได้  มิฉะนั้นทักษะที่พิเศษแบบนี้คงเป็นฝันร้ายของนักสู้ปราณฟ้าทั้งหมดแน่
 “เกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่..” เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ได้ดังใจ ตัวหมัดสองพี่น้องเตรียมตัวทำลายตัวเองและฆ่าตัวตาย
 “ผงอัมพาต” อี้หนานชี้ไปที่ผีเสื้อหลอนประสาทให้โปรยหมอกสีรุ้งลงมา
ช่วงเวลาต่อมา ตัวหมัดสองพี่น้องที่กำลังเพิ่มพลังเตรียมต่อสู้กับอี้หนานก็กลายเป็นเหมือนศพเดินได้ รอให้คนอื่นจัดการ  ร่างของพวกมันชาจนไม่สามารถกระพริบตาได้ ขยับนิ้วไม่ได้ จากนั้นอี้หนานใช้กลีบบุปผาวิญญาณปลดปล่อยพลังระเบิด แรงระเบิดของกลีบบุปผาที่งดงามระเบิดและร่างของหมัดสองพี่น้องที่ปูดโปนก็เหี่ยวแห้งลงอย่างรวดเร็ว... ผีเสื้อหลอนประสาทจับร่างพวกมันไว้ด้วยมือและแสงสีแดงเปล่งออกมาจากฝ่ามือของนาง (ผีเสื้อ) ฝ่ามือของนางเริ่มดูดซับพลังงานในสายเลือดที่ปั่นป่วนของตัวหมัดสองพี่น้อง และจับตัวเป็นลูกกลมสองลูก
แม้ว่าจะเป็นอสูรปราณดินระดับเจ็ด แต่ตัวหมัดสองพี่น้องก็มีระดับพลังลดลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากพลังงานในตัวเหือดแห้งและสูญเสียพลังในเลือดของพวกมัน
ภายใต้สายตาของทุกคน พวกมันเริ่มมีระดับที่ตกลงจากอสูรปราณดินระดับเจ็ด
ปราณดินระดับหก ปราณดินระดับห้า..
ผีเสื้อหลอนประสาทโปรยละอองเทาอีกกลุ่มหนึ่ง  หมัดทั้งสองตัวต่างหลงเคลิบเคลิ้มกับละอองนั้น ในชั่ววับเดียวพวกมันก็เห็นสิ่งที่สยดสยองที่สุดในโลก
กล้ามเนื้อทุกส่วนในตัวของมันกระตุกอย่างบ้าคลั่ง  ม่านตาของพวกมันขยายออก ในที่สุดการดิ้นรนเพื่อให้เป็นอิสระจากอาการอัมพาต ตัวหมัดสองพี่น้องใช้กรงเล็บของมันฉีกหน้าของพวกมัน เหมือนกับว่า มีสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวกัดอยู่ที่ใบหน้าของมัน  ขณะที่ทุกคนกำลังมองดูนั่นเอง  ตัวหมัดสองพี่น้องก็ฉีกหน้าของพวกมันก่อนที่จะบดกะโหลกตัวเองอย่างรุนแง
ก่อนที่พวกมันจะตาย หนึ่งในตัวหมัดดูเหมือนจะรู้สึกว่ากำปั้นของพวกมันช้าเกินไปจึงล้วงค้อนใหญ่ออกมาและทุบใส่หัวของมันจนเละ
 “อา..”
ตอนนี้ สายตาที่มองดูอี้หนานไม่มีความสงสัยอีกต่อไป เหลือแต่ความหวาดกลัวเต็มเปี่ยม
พวกเขาหลายคนไม่กลัวตาย
แต่พวกเขากลัวตายแบบสยดสยองแบบนั้น
นักสู้ปราณดินระดับเจ็ด ถูกเล่นสนุกจนตายโดยไม่มีโอกาสตอบโต้ได้ เป็นเรื่องน่าเศร้าเกินไป
 “กระจกแตก”  อี้หนานกำหมัดของนางทันทีและกระจกภูตที่อยู่ต่อหน้านางส่งเสียงดังกึกก้องเหมือนกับกระจกแตก  พื้นผิวของกระจกยังคงเรียบเนียนเหมือนอย่างเคยแต่โลกภายในกระจกนั้นแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ไม่มีใครเข้าใจการกระทำของนาง  แต่คำตอบก็ถูกเปิดเผยทันที  ร่างเงาโปร่งแสงกำลังยืนอยู่ห่างอี้หนานและเย่ว์หยางไปทางด้านหลังสามเมตร
พวกเขาเตรียมจะโจมตีเมื่อพวกเขาตัวแข็งทันทีหลังจากถูกเปิดเผยตัว
พวกเขาค่อยๆ ล้มลงตายอยู่กับพื้นพร้อมกัน
เมื่อดินแดนกระจกเงาแตก พวกที่วิญญาณถูกกระจกภูตกลืนเข้าไปจะตายจากความอ่อนแอในวิญญาณของพวกเขา
คนอื่นๆ ไม่มีทางเข้าใจว่าพวกเขาตายได้อย่างไร  แต่สำหรับพวกที่ตาย ก็เท่ากับถูกพลังกฎรหัสโบราณจากวิหารเทพสตรีในด่านสิบสองนักษัตร์ลงโทษ
 “บัดซบ นี่คือพลังของกฎรหัสโบราณจริงๆ”  ตัวตลกเสี่ยวโฉ่วสั่นด้วยความโกรธ  เขาไม่เคยโกรธขนาดนี้มาก่อนในชีวิต คิดไม่ถึงเลยว่าเด็กสาวที่อ่อนแอผู้นี้จะครอบครองกระจกภูตที่สามารถปล่อยพลังกฎรหัสโบราณได้  แม้ว่าพลังเช่นนั้นจะมีข้อจำกัดมากและป้องกันและโจมตีพลังวิญญาณของฝ่ายตรงข้าม  แต่นั่นก็ยังเป็นพลังกฎรหัสโบราณ พลังที่ไม่มีอะไรหยุดได้!
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ การจะฆ่าสตรีนี้ได้ เว้นแต่ไม่มีจุดอ่อนในวิญญาณของผู้คน ทั้งสองฝ่ายอาจต้องได้รับความเสียหายหนักอย่างแน่นอน  เนื่องจากผู้คนจะต้องถูกกฎรหัสโบราณลงโทษจากการปกป้องกระจกภูต
คนทั้งสองที่เขาส่งไปลอบทำร้ายพวกเขาต้องตายอย่างเงียบๆ จากจุดอ่อนในวิญญาณของพวกเขา
ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มโครงกระดูกดำหรือกลุ่มโจรตัวตลก หรือแม้กระทั่งลูกเรือหรือแขกผู้โดยสาร ล้วนกลัวจนต้องอยู่ห่างจากอี้หนาน
นี่ช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว  เด็กมนุษย์ผู้หญิงนี้คือยมทูตผู้ควบคุมวิญญาณได้
อย่างไรก็ตามยมทูตอย่างอี้หนานก็โถมตัวเข้าอ้อมกอดของเย่ว์หยางทันที เนื่องจากพลังวิญญาณของนางถูกใช้ไปมาก นางกอดเอวเย่ว์หยางซบหน้ากับอกเขาและกระซิบอย่างเหน็ดเหนื่อย “ขอโทษด้วยที่ข้าสู้มาได้ถึงแค่ตอนนี้  ข้าจะพักสักครู่คอยดูเจ้าต่อสู้บ้าง”
 “ไม่มีปัญหา  เจ้าก้าวหน้าไปมากเกินกว่าที่ข้าคาดไว้มาก  ข้าทึ่งมากจริงๆ พักก่อนเถอะนะคนดี ทุกอย่างปล่อยให้ข้าจัดการเอง”
เย่ว์หยางลูบผมอี้หนานเบาๆ ขณะที่ใบหน้าเขามีรอยยิ้มแสดงความพอใจเป็นพิเศษ
ดูเหมือนว่าอี้หนานผู้ที่เขากังวลที่สุดจะก้าวหน้ามาถึงจุดที่นางสามารถดูแลตัวเองได้แล้ว....

14 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

KreanKinG กล่าวว่า...

ขอบคุณมากๆครับ แต่ค้างงง อ๊ากกกกก

ปารมี กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Sunrise กล่าวว่า...

อี้หนานนนนนนเทพมากกกกก

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

TonZng กล่าวว่า...

ยังไม่ได้โชว์อีกหรออบักหยางง

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

WingF กล่าวว่า...

ใหนใครว่า นางโจรสาวไม่เก่ง นี้ไงตอนนึงโชเทพไปเลย สะใจเลยหละ

Unknown กล่าวว่า...

อ้อนสุดๆ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณคับ

Nopanser Kung กล่าวว่า...

อี้หนานสุดยอด!! ช่วงนี้เป็นช่วงของนางจริงๆ

ป.ล. ในที่สุดเย่ว์หยางก็ลงมือซักทีนะ.....หวังว่านะ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

FC อี้หนาน

ZENDINEL กล่าวว่า...

Thx

แสดงความคิดเห็น