วันศุกร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2561

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 616 บุรุษผู้มีปริศนาลึกลับ



ตอนที่  616  บุรุษผู้มีปริศนาลึกลับ
เมื่อเย่ว์หยางออกหน้า อี้หนานถอยออกมาเล็กน้อย
แม้ว่าชุดแต่งงานจะไม่พอดีกับตัวนาง แต่นางก็เอาสายผ้ามัสลินจากชุดมาพันคล้องคอนาง

มีศัตรูหลายพันรายล้อมพวกเขาและคนแปลกหน้าอีกเป็นหมื่นมองดูพวกเขาอยู่  ตอนนี้พวกเขาอยู่ในแดนสวรรค์ไม่ใช่อยู่ที่บ้าน  แต่อี้หนานก็ยังต้องการแต่งงานกับเขาในช่วงเวลานี้ กลายเป็นภรรยาคนใหม่ของเขา  ชุดแต่งงานการเฉลิมฉลองไม่ใช่เรื่องสำคัญจริงจังนัก  ตราบใดที่หัวใจของคนทั้งสองรวมเป็นหนึ่งเดียว ต่อให้นรกก็ยังกลายเป็นสวรรค์ได้  นางหวังว่านางจะอยู่ในชุดเจ้าสาวใหม่ยืนอยู่ด้านหลังของเขา
คอยสนับสนุนเขา
สนับสนุนสามีของนาง
มีศัตรูเป็นหมื่นอยู่ต่อหน้าของเขา  เขายังคงเดินหน้าโดยไม่มีทีท่าว่าจะถอย... วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่นี้คือคนที่นางรัก นี่คือคนรักของนาง!
 “ข้าจะหนุนหลังเจ้าไม่ว่าเจ้าจะทำอะไรก็ตาม!  อี้หนานมองดูเย่ว์หยางและระลึกถึงวันที่พวกเขาพบกัน รายละเอียดในวันที่พบกัน หัวใจนางเปี่ยมไปด้วยความสุขและทั้งตัวนางรู้สึกอบอุ่นสบาย นางพยักหน้าให้เขาอย่างหนักแน่นและมั่นใจ  “ข้าจะรออยู่ตรงนี้ ดูเจ้า รอคอยเจ้า! ไม่ว่าจะเป็นวันนี้หรือในอนาคต  ไม่ว่าจะเป็นแดนสวรรค์หรือที่ไหนๆ ก็ตาม ข้าจะติดตามเจ้าไปเสมอ”
 “ก็ได้”  เย่ว์หยางไม่พูดอะไรมาก เขาเหยียดมือลูบผมที่นุ่มสลวยของนาง เขาก้มศีรษะลงขณะกอดนางไว้ในอ้อมกอดประทับจูบที่ริมฝีมือนุ่มราวกลีบดอกไม้ของนางเบาๆ
จากนั้นเขายิ้มให้นาง
เขาหันกลับมาเผชิญหน้ากับศัตรูมากมายอย่างมั่นใจ และชูดาบจันทร์เสี้ยว
คำพูดของเขาง่ายๆ แต่เจตนาที่อยู่เบื้องหลังนั้นชัดเจน  “ข้าจะพูดเรื่องเดียว คนที่มาร่วมงานแต่งงานของข้าสามารถอยู่ต่อได้  คนที่ไม่ต้องการก็ไสหัวไปได้  ส่วนพวกที่มาหาเรื่องให้ถามดาบในมือข้าก่อน”
ยังไม่ทันหายตกใจเรื่องการปรากฏตัวของอี้หนาน  คนที่อยู่ตรงนั้นอาจจะหัวเราะขำขันเมื่อได้ยินคำพูดของเย่ว์หยาง  มนุษย์ตัวน้อยนักสู้ปราณเดินระดับหนึ่งต้องการเผชิญหน้ากับศัตรูเป็นพันที่แข็งแกร่งกว่าเขามากอย่างนั้นหรือ?  นี่เขาอยากหาเรื่องตายหรือไง? หรือว่าป่วยจนบ้าไปแล้ว?
แต่หลังจากได้เห็นการปรากฏตัวของอี้หนานซึ่งสามารถฆ่านักสู้ระดับเหนือกว่าตนเองได้ทันที  พวกเขาเริ่มรู้สึกว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ง่ายเหมือนอย่างที่เห็น
พลังของเขาน่าจะสูงกว่าเด็กสาวนั่น
ทั่วทั้งพื้นที่เงียบ เนื่องจากไม่มีใครกล้าตอบเย่ว์หยาง
อย่าว่าแต่นักสู้ระดับปราณฟ้าเลย  ถ้าคนธรรมดาพูดแล้วต้องตายทันทีภายใต้พลังดาบของเด็กหนุ่มนี่คงเป็นเรื่องน่าสมเพชมาก
ความจริง ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่สามารถเห็นพลังของเขาโจรตัวตลกเสี่ยวโฉ่ว, มนุษย์โครงกระดูราเชล, จอมปีศาจจื้อกวงและคนอื่นคงลงมือไปแล้ว  แต่เด็กหนุ่มมนุษย์ผู้นี่แปลกประหลาดเกินไป  ไม่มีใครสามารถมองเห็นพลังของเขาได้
คนที่มีประสบการณ์สามารถทำผิดพลาดได้ นั่นคือสาเหตุที่โจรตัวตลกและคนอื่นๆ ต้องระมัดระวัง
ที่สำคัญ ยิ่งทอดเวลานานไปก็ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อเขามากขึ้น
 “ดยุคผู้นี้ชอบที่จะดื่มฉลองกับคนหนุ่มสาวเป็นที่สุด มันเป็นเรื่องจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าข้าอยู่ที่นี่เพื่อดื่ม”  มนุษย์โครงกระดูกราเชลมองดูตัวตลกเสี่ยวโฉ่วและตัดสินใจทำบางอย่าง  มิฉะนั้นก็คงจะไม่ได้อะไรในเมื่อพวกเขากำลังจะแบ่งปันทรัพย์สิน ก่อนอื่นมันใช้นิ้วกระดูกของมันล้วงปากและจัดฟัน  จากนั้นมันดึงผ้าเช็ดหน้าสีขาวออกมาเช็ดทำท่าเหมือนกับเป็นขุนนางระดับสูง  ด้านหลังเขามีโจรระดับหัวหน้าก้าวเดินออกมา พวกเขามีพลังปราณดินระดับแปด มีสถานะและลักษณะที่ไม่ธรรมดา พวกเขาโดดเด่นที่ในกลุ่มศัตรูในเรื่องระดับพลัง
 “เหล้าอยู่ไหน?  เราต้องการดื่มสักแก้ว”  แม้ว่าสีหน้าของหัวหน้าโจรทั้งสองจะผ่อนคลาย แต่พวกเขาก็ลอบตื่นตัวไว้ป้องกันการโจมตีของเย่ว์หยาง
 “พวกเจ้าต้องการดื่มฉลองกับข้างั้นหรือ?”
เย่ว์หยางแค่นเสียง  “พวกเจ้ายังไม่คู่ควร!
เมื่อคำพูดของเขาได้ยินถึงหูผู้คนร่างของเขาก็เคลื่อนเข้าหาหัวหน้าโจรคนหนึ่งทันที
โจรระดับหัวหน้าทั้งสองคนนี้เป็นนักรบเก่ามากล้นไปด้วยประสบการณ์ ทันทีที่พวกเขาเห็นเย่ว์หยางโจมตี พวกเขาแยกกันทันที หัวหน้าหน่วยโจรที่เย่ว์หยางพุ่งเข้าหาชักขวานยักษ์ออกมาต้านรับการโจมตีของเย่ว์หยางโดยตรง  หัวหน้าหน่วยโจรอีกคนอ้อมไปจู่โจมใส่อี้หนานอย่างคล่องแคล่ว เตรียมลอบทำร้ายนางและโจมตีจุดอ่อน
สาวยักษ์คิดจะเข้ามาขัดขวาง  แต่หลังจากเห็นท่าทีผ่อนคลายของอี้หนาน และการไม่สนใจป้องกันการต้านรับศัตรู เห็นได้ชัดเจนว่านางเชื่อมั่นในเย่ว์หยาง
นางข่มความรู้สึกที่ต้องการเข้าไปช่วยเหลือและยังคงสังเกตการณ์ต่อไป
ไม่เพียงแต่นางเท่านั้น  แม้แต่นักสู้ปราณฟ้าอื่นๆ รวมทั้งเสี่ยวโฉ่วที่ลอบโกรธขุ่นเคือง หลงเสียงผู้ทระนง มนุษย์กระดูกผู้น่าเกลียดและจอมปีศาจจื้อกวงผู้เจ้าเล่ห์ต่างสังเกตดูอยู่เงียบๆ  สายตาของพวกเขาจับนิ่งอยู่ที่เย่ว์หยางด้วยความตั้งใจเหมือนดูไพ่ในมือเขากับเหตุเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
คนธรรมดาคงไม่สามารถมองเห็นอะไรได้  แต่พวกเขาเห็นได้เพียงวับเดียวเท่านั้น
มีแต่ระดับนักสู้ปราณฟ้าเท่านั้นที่สามารถมองเห็นความเปลี่ยนแปลงในการต่อสู้... ความเร็วและพลังของเย่ว์หยางซึ่งแต่เดิมเป็นระดับนักสู้ปราณดินระดับหนึ่ง เพิ่มขึ้นพรวดพราดในเสี้ยววินาที ร้อยเท่า พันเท่า หมื่นเท่า ความเร็วที่แต่เดิมช้าราวกับทากคลาน กลับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และในที่สุดกลับเร็วมากกว่าแสงเป็นร้อยเท่า  เมื่อท่านมองเห็นสายฟ้าธรรมดาที่พาดผ่านหัวหน้าโจรไป และเทียบกับเย่ว์หยาง ท่านจะเห็นแต่เพียงว่าโจรชั้นหัวหน้าช้ายิ่งกว่าทากคลาน ก่อนที่ขวานจะทันได้กวัดแกว่ง เย่ว์หยางก็มาถึงหน้าเขาเสียแล้ว
ยิ่งกว่านั้น เย่ว์หยางผ่านร่างของเขาไปและเลี้ยวมาไล่กวดตามหัวหน้าโจรอีกคนหนึ่งซึ่งกำลังจะลอบทำร้ายอี้หนาน
หัวหน้าโจรผู้นั้นรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติจึงรีบเหลียวหลังไปดู
เขาไม่เห็นอะไรข้างหลังเขา  แต่เมื่อเขาหันกลับมาดูข้างหน้า ก็พบว่าเย่ว์หยางยืนอยู่ข้างหน้าเขาทันใดราวกับว่าเขาไม่ได้ห่างไปจากข้างกายอี้หนาน
มนุษย์โครงกระดูกราเชลไม่จำเป็นต้องดูก็รู้ว่าบริวารทั้งสองของเขาจบสิ้นแล้ว แต่เมื่อมองดูเมื่อ เขากลับตกตะลึงหนักกว่าเดิมเพราะเขาพบว่าบริวารของเขาไม่ได้ถูกฆ่าทันที  แต่กลับถูกฆ่าอย่างน่าอนาถ
หัวหน้าหน่วยโจรที่ถือขวานยังไม่รู้ว่าศัตรูผ่านเขาไปและยังคงจะเข้าไปไล่ฟันเขา
ทันใดนั้น ร่างของเขากลายสภาพเป็นเนื้อสับทันที เกราะ เลือด เนื้อและกระดูกกระจายเรี่ยราดอยู่บนพื้นตามแรงของขวาน มีแต่ผู้ที่ถึงระดับปราณฟ้าเท่านั้นจึงจะสามารถเห็นสิ่งที่เขาทำได้ เย่ว์หยางเพียงแต่แล่ผิวเลาะกระดูกอย่างงดงามไม่กระทบถึงกล้ามเนื้อและส่วนกระดูก แม้แต่พ่อครัวฝีมือดีที่สุดในโลกก็ยังไม่อาจแล่เนื้อได้ดีขนาดนี้
อย่างไรก็ตามมนุษย์นักสู้ปราณดินระดับหนึ่งสามารถหั่นนักสู้ปราณดินระดับแปดเป็นชิ้นๆ ต่อหน้าทุกคน
ทักษะนี้คงจะได้รับการปรบมือจากโจรตัวตลกและมนุษย์โครงกระดูกเป็นแน่ ถ้าเย่ว์หยางไม่ใช่ศัตรู
แต่ตอนนี้ปากของพวกเขาเหมือนกับบรรจุน้ำปัสสาวะได้เต็ม ขมขื่นจนพูดไม่ออก
หัวหน้าหน่วยโจรอีกคนหนึ่งที่ต้องการจะลอบทำร้ายอี้หนานตกใจกลัวจนต้องถอยกลับ เขารีบถอยอยู่ข้างๆ มนุษย์โครงกระดูกราเชล จากนั้นตบอกถอนหายใจโล่งอก
อย่างไรก็ตาม เขาผู้นี้กลับได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต
ในไม่ช้าแผลสีแดงเล็กๆ ปรากฏขึ้นบนคอของเขา เดิมทีเล็กมากมองไม่เห็น แต่ค่อยๆ ปรากฏเป็นเส้นสีแดงขยายลุกลามออกไป โลหิตฉีดพุ่งออกมาโดยมิอาจหยุดยั้งได้  ในที่สุดเมื่อโจรหัวหน้าหน่วยเอามือกุมบาดแผล ศีรษะของเขาก็หลุดออกจากบ่าโดยไม่มีเสียงและร่วงลงพื้นกลิ้งไปสองสามเมตรสร้างความหวาดกลัวให้กับทุกคน
ร่างที่ไร้ศีรษะมีโลหิตฉีดพุ่งในอากาศ มือที่ต้องการกุมบาดแผลยังคงอยู่ในท่าเดิมดูน่าหวาดหวั่น ทำให้ผู้คนที่เห็นถึงกับขนลุกชัน
ดูเหมือนว่าในวาระสุดท้าย เขายังไม่รู้ตัวว่าถูกตัดศีรษะ
หัวหน้ากองโจรโครงกระดูกดำ มนุษย์กระดูกราเชลเป็นยอดฝีมือใช้ดาบคนหนึ่ง ด้วยดาบพิลาปในมือของเขาจะตัดหัวใครหรือตัดร่างให้เป็นชิ้นๆ เป็นเรื่องง่ายๆ อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่าไม่มั่นใจว่าจะทำได้อย่างเย่ว์หยาง อยู่ต่อหน้าผู้สังเกตการณ์นับพัน มีแรงกดดันจากนักสู้ปราณฟ้านับไม่ถ้วน สามารถใช้ทักษะฆ่าเฉียบพลันได้อย่างช่ำชองนั่นเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถทำได้
มนุษย์โครงกระดูกราเชลเริ่มชื่นชมเย่ว์หยางอยู่บ้าง
เพราะในการใช้ดาบ เย่ว์หยางเปลี่ยนการฆ่าให้เป็นชิ้นงานศิลปะได้
มันคือสิ่งที่เขาไม่สามารถทำได้
 “.....”  ไม้กายสิทธิ์ในมือของตัวตลกเสี่ยวโฉ่วหยุดควงทันที เขาจับมันไว้แน่นขณะที่นิ้วของเขากลายเป็นซีดขาวเนื่องจากใช้แรงมาก
 “ดาบไวยิ่งนัก” จอมพลเกราะทองซึ่งยืนภูมิใจอยู่บนหัวมังกรทองบินลงมายืนอยู่ที่ดาดฟ้าเรือทันที  ความสนใจที่รุนแรงทำให้เขาพบว่าเย่ว์หยางเป็นคู่ต่อสู้ยากจะพบเจอ
 “เจ้าผู้นี้ถูกฟันสังหารมา 3600 ครั้ง  แต่ข้าชอบวิธีตัดคอของอีกคนหนึ่ง”  จอมปีศาจจื้อกวงลูบศีรษะล้านเลี่ยนเป็นประกายของเขา ขณะตรวจสอบศพทั้งสอง  จากนั้นเขายื่นมือหยิบเนื้อชิ้นหนึ่งโยนใส่ปากเคี้ยวหน้าตาเฉย  ในที่สุดเขาก็ได้บทสรุปสุดท้าย  “โอว! ข้าเข้าใจในที่สุด เนื้อถูกแช่เย็นป้องกันไม่ให้เลือดฉีดพุ่งออกมา  เจ้าเด็กนี่ใช้พลังน้ำแข็งของดาบได้อย่างงดงามแช่แข็งคอและหัวเข้าด้วยกัน  ผลก็คือหัวไม่ร่วงหล่นลงมาขณะมีความเคลื่อนไหว แต่พลังที่ใช้ออกไปมีปริมาณน้อยและควบคุมอุณหภูมิไว้อย่างดีมาก  ดังนั้นเมื่อเราเห็นเขาเอามือตบอกศีรษะของเขาก็ร่วงลงมาทันที  ต้องขอบอกเลยว่าท่านั้นน่าชื่นชมจริงๆ”
 “ในอนาคต ข้าจะต้องใช้ท่าฟันที่สมบูรณ์แบบฆ่าคนด้วยฝีมือทั้งหมดของข้า”  มนุษย์โครงกระดูกแสดงท่าทีออกมาว่าท่าดาบนี้มันยอดเยี่ยมจนเขาตั้งใจจะเรียนรู้ดู
 “ถูกต้อง นี่คือฝีมือสุดยอด!”  จอมพลเกราะทองหลงเสียงยังคงผงกศีรษะ
 “พวกเจ้าพูดจบหรือยัง?  ตอนนี้เราควรจะทำอะไร ไม่ใช่มาปรึกษาพูดคุยกันว่าฆ่าด้วยสวยงามหรือไม่  อยู่ต่อหน้าผู้ทรงพลานุภาพ ฝีมืออะไรก็ไม่มีประโยชน์  สิ่งที่เราต้องการทำในตอนนี้คือกำจัดเจ้าเด็กนี่และภัยคุกคามในอนาคต”  ตัวตลกเสี่ยวโฉ่วโวยวายแทบคลั่ง
 “มันเป็นเรื่องยากสำหรับคนธรรมดาที่จะฆ่าเขาได้...”  จอมปีศาจจื้อกวงขมวดคิ้วขณะที่เขารู้สึกว่าเขาต้องส่งนักสู้ระดับปราณฟ้าออกไป
 “โปรดให้ข้าน้อยผู้นี้ได้ลองดูก่อน!”  อัศวินอากาศลงมาจากกริฟฟินสายฟ้าตัวหนึ่ง  เขาเป็นขุนพลเกราะเงินนักสู้ปราณดินระดับเก้าผู้ติดตามหลงเสียง
ปกติ อัศวินที่เป็นนักสู้ปราณดินระดับเก้าต้องมาสู้กับคนเถื่อนนักสู้ปราณดินระดับหนึ่งจะถือว่าเป็นการรังแกกัน  แต่ทุกคนรู้สึกได้ว่าอัศวินอากาศผู้นี้มีพฤติกรรมน่าชื่นชม  ทั้งนี้เป็นเพราะไม่มีใครคาดหวังอะไรดีๆ ได้จากเขา  แม้ว่าเขาจะเป็นอัศวินอากาศ แม้ว่าเขาจะเป็นนักสู้ปราณดินระดับเก้า แม้ว่าเขาจะสวมเกราะเงินที่แข็งแกร่ง ไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะเอาชนะได้
มังกรตาเดียวและทหารรับจ้างร่างผอมร่างคุ้นเคยแล้วว่าอี้หนานและเย่ว์หยางมีฝีมือฆ่าเหนือกว่าระดับของพวกเขา
พวกเขาลอบพนันกัน
แต่พวกเขาไม่ได้พนันว่าใครแพ้ใครชนะ เพราะพวกเขารู้สึกว่าเย่ว์หยางจะชนะแน่นอน  พวกเขาแค่พนันกันว่าศัตรูจะอยู่รอดได้นานเท่าใด  ทหารรับจ้างร่างผอมรู้สึกว่าหนึ่งนาทีก็พอ  แต่มังกรตาเดียวรู้สึกว่าแค่สามสิบวินาที
ใบหน้าที่ภูมิใจของหลงเสียงเปลี่ยนและดูลังเลใจเล็กน้อย
เขารู้จักความสามารถพิเศษของบริวารของเขาดี บริวารผู้นี้ไม่รู้สึกกลัวการได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด  ไม่ว่าจะถูกตัดบั่นร่างเป็นกี่ชิ้นก็ตาม  เขาจะฟื้นฟูสู่สภาพปกติทันที  เขาไม่กลัวถูกตัดศีรษะเพราะเมื่อศีรษะของเขากลับมาตั้งบนตัว  เขาก็กลับคืนสู่สภาพก่อน  แม้ว่าบริวารของเขาจะมีความสามารถฟื้นฟูที่พิเศษก็ตาม แต่หลงเสียงไม่เชื่อว่าบริวารของเขาจะชนะ
นี่เป็นเพราะเด็กหนุ่มที่อยู่ต่อหน้าของแข็งแกร่งเกินไป  ทั้งที่มีนักสู้ปราณฟ้ามากมายจับตามองเขาอยู่ แต่ไม่มีใครมองเขาออกเลยแม้แต่น้อย
ความจริงเด็กหนุ่มคนนี้อยู่ระดับใดกันแน่?
หลงเสียงไม่อาจคาดเดาได้
 “โปรดแนะนำข้าด้วย!”  อัศวินอากาศคิดว่าเขาได้รับการยอมรับขณะที่หลงเสียงยังคงไตร่ตรองอยู่  ดังนั้นเขาเดินตรงเข้าไปเผชิญหน้ากับเย่ว์หยางอย่างมั่นใจ  เขาชูดาบอัศวินของเขาเหนือศีรษะและทักทายเขา  จากนั้นสาวเท้าเข้ามาเพื่อต่อสู้  อาจกล่าวได้ว่าความเคลื่อนไหวของเขาสมบูรณ์แบบทุกอย่าง  ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแรง ความเชื่อมั่น ทัศนคติ ไม่มีอะไรอ่อนแอ เขาเร่งเร้าพลังในร่างจนอยู่ในระดับสูงสุด  นอกจากนี้ เขายังใช้ท่าตั้งรับที่ดีที่สุดของเขา ถ้าเป็นคู่ต่อสู้คนอื่น แม้แต่นักสู้ปราณดินระดับสิบก็ไม่สามารถฝ่าแนวป้องกันของเขาได้
 “ไสหัวไป!”  เย่ว์หยางใช้ท่าง่ายๆ แต่นอกเหนือความคาดหมายของทุกคน  พวกเขาเห็นว่าเขาใช้แส้เพลิงหวดใส่ร่างของอัศวินอากาศผู้นั้น
ร่างของอัศวินอากาศดูเหมือนจะไม่ได้รับบาดเจ็บ  แต่เขากระเด็นไปราวสิบเมตร
ตอนแรก เขายังสามารถค่อยๆ ลุกขึ้นยืนเหมือนกับว่าไม่มีอะไรผิดปกติกับเขา และเขายังคงต้องการสู้
แต่ในไม่ช้า ร่างของเขาก็เริ่มสั่นรุนแรงเหมือนกับว่าเขากำลังทนต่อความเจ็บปวดเกินกว่าคาดคิด
เหงื่อเม็ดโตผุดออกจากหน้าผาก  เขากัดฟันขณะที่เลือดเริ่มไหลออกมา  ต่อหน้าสายตาที่หวาดหวั่นของคนเป็นพัน ร่างที่กำลังสั่นของอัศวินอากาศค่อยๆ คุกเข่าลง มือของเขาขูดพื้นดาดฟ้าด้วยความตั้งใจอดทนความเจ็บปวดทรมาน
อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องไร้ประโยชน์ เนื่องจากเพลิงลุกลามออกมาจากจมูกและปากของเขา
นักสู้ปราณฟ้าสามารถเห็นเพลิงเหล่านี้ออกมาจากภายในตัวเขา
และในทันใดนั้น ความอดทนของอัศวินอากาศก็พังทลายขณะที่เขาแหงนหน้ามองฟ้าร้องโหยหวนเจ็บปวด..
อ๊าาาา
อ๊าาาาาาาาาาาาา...
อัศวินอากาศผู้ไม่เคยกระพริบตาต่ออาการบาดเจ็บใดๆ และภูมิใจในศักดิ์ศรีอัศวินและมีปณิธานกล้าแกร่ง ตอนนี้คุกเข่าต่อหน้าศัตรูร้องโหยหวน นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์  ความจริงอัศวินอากาศนั้นยังฝืนอยู่ได้ แต่เขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป ทั้งนี้เพราะความเจ็บปวดที่เขารู้สึกไม่ใช่แค่มาจากกายของเขา แต่ยังมาจากใจและวิญญาณที่ถูกแส้หวดกระหน่ำอีกด้วย  แม้ว่าอวัยวะภายในของเขาจะไม่ถูกไฟเผาผลาญ  แต่เขาก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
มีความสามารถอดทนไม่คร่ำครวญมากกว่าสิบวินาทีก็ถือว่าอดทนเหนือคนธรรมดาแล้ว นี่ถือว่าเกินขีดจำกัดปณิธานที่แข็งแกร่งดุจเหล็กของเขาแล้ว
เมื่อได้ยินเสียงร้องโหยหวนของอัศวินอากาศ ทั่วทั้งกองกำลังอัศวินอากาศต่างหน้าซีดด้วยความกลัว  ความจริงพวกเขาไม่สามารถจินตนาการออกว่าการโจมตีแบบไหนจะสามารถจัดการความเจ็บปวดที่แม้แต่อัศวินอากาศก็ไม่สามารถทนได้
หลงเสียงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขาต้องประเมินเย่ว์หยางใหม่อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เขายังไม่สามารถมองเห็นอะไร
เด็กหนุ่มคนนี้ช่างมีปริศนาลึกลับเสียจริง

24 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

dvdkeeper กล่าวว่า...

ใช้เพลิงเผาภายในเลยเรอะ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

โนนะเกงกิ กล่าวว่า...

ชอบมาก

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

นายหนอนไหมปีนป่ายต้นรัก กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

store กล่าวว่า...

มันเร้าใจทุกครั้งที่เย่หยางออกศึก

TonZng กล่าวว่า...

เล่นทำไมกะลูกน้องล่อหัวหน้าแม่มเล้ยยย

JaOurPaLa กล่าวว่า...

ถล่มให้ยับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณ ครับ

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

natthapol.nondang@gmail.com กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

roothttp กล่าวว่า...

มันมากกกกกกกก ขอบคุณครับบบ

Unknown กล่าวว่า...

หลังจบศึกนี้คงได้รางวัลเพียบเพราะแต่ละคนมีค่าหัวให้ขึ้นเงินไม่น้อย

windwolf กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Nopanser Kung กล่าวว่า...

ฮิฮิฮิ ให้มันรู้ซะบ้างว่าไผเป็นไผ ได้เวลาสังหารหมู่แล้วมั้งนิ

มารทมิฬ กล่าวว่า...

ได้เวลา เก็บทรัพย์ แล้ว ฮี่ ฮี่ ฮี่

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณคับ

Unknown กล่าวว่า...

งานนี้งานเดียวสงสัยถ้าเก็บหัวหมดนี่ ค่าหัวเฮียเบ้พุ่งกระฉูดแน่ไม่ หึหึ ฆ่าได้ดีฆ่าได้งดงามจริงๆตอนนี้

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น