ตอนที่ 616 บุรุษผู้มีปริศนาลึกลับ
เมื่อเย่ว์หยางออกหน้า อี้หนานถอยออกมาเล็กน้อย
แม้ว่าชุดแต่งงานจะไม่พอดีกับตัวนาง
แต่นางก็เอาสายผ้ามัสลินจากชุดมาพันคล้องคอนาง
มีศัตรูหลายพันรายล้อมพวกเขาและคนแปลกหน้าอีกเป็นหมื่นมองดูพวกเขาอยู่ ตอนนี้พวกเขาอยู่ในแดนสวรรค์ไม่ใช่อยู่ที่บ้าน แต่อี้หนานก็ยังต้องการแต่งงานกับเขาในช่วงเวลานี้
กลายเป็นภรรยาคนใหม่ของเขา
ชุดแต่งงานการเฉลิมฉลองไม่ใช่เรื่องสำคัญจริงจังนัก ตราบใดที่หัวใจของคนทั้งสองรวมเป็นหนึ่งเดียว
ต่อให้นรกก็ยังกลายเป็นสวรรค์ได้
นางหวังว่านางจะอยู่ในชุดเจ้าสาวใหม่ยืนอยู่ด้านหลังของเขา
คอยสนับสนุนเขา
สนับสนุนสามีของนาง
มีศัตรูเป็นหมื่นอยู่ต่อหน้าของเขา เขายังคงเดินหน้าโดยไม่มีทีท่าว่าจะถอย...
วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่นี้คือคนที่นางรัก นี่คือคนรักของนาง!
“ข้าจะหนุนหลังเจ้าไม่ว่าเจ้าจะทำอะไรก็ตาม!” อี้หนานมองดูเย่ว์หยางและระลึกถึงวันที่พวกเขาพบกัน
รายละเอียดในวันที่พบกัน
หัวใจนางเปี่ยมไปด้วยความสุขและทั้งตัวนางรู้สึกอบอุ่นสบาย
นางพยักหน้าให้เขาอย่างหนักแน่นและมั่นใจ
“ข้าจะรออยู่ตรงนี้ ดูเจ้า รอคอยเจ้า!
ไม่ว่าจะเป็นวันนี้หรือในอนาคต
ไม่ว่าจะเป็นแดนสวรรค์หรือที่ไหนๆ ก็ตาม ข้าจะติดตามเจ้าไปเสมอ”
“ก็ได้” เย่ว์หยางไม่พูดอะไรมาก
เขาเหยียดมือลูบผมที่นุ่มสลวยของนาง เขาก้มศีรษะลงขณะกอดนางไว้ในอ้อมกอดประทับจูบที่ริมฝีมือนุ่มราวกลีบดอกไม้ของนางเบาๆ
จากนั้นเขายิ้มให้นาง
เขาหันกลับมาเผชิญหน้ากับศัตรูมากมายอย่างมั่นใจ และชูดาบจันทร์เสี้ยว
คำพูดของเขาง่ายๆ แต่เจตนาที่อยู่เบื้องหลังนั้นชัดเจน “ข้าจะพูดเรื่องเดียว
คนที่มาร่วมงานแต่งงานของข้าสามารถอยู่ต่อได้
คนที่ไม่ต้องการก็ไสหัวไปได้
ส่วนพวกที่มาหาเรื่องให้ถามดาบในมือข้าก่อน”
ยังไม่ทันหายตกใจเรื่องการปรากฏตัวของอี้หนาน
คนที่อยู่ตรงนั้นอาจจะหัวเราะขำขันเมื่อได้ยินคำพูดของเย่ว์หยาง
มนุษย์ตัวน้อยนักสู้ปราณเดินระดับหนึ่งต้องการเผชิญหน้ากับศัตรูเป็นพันที่แข็งแกร่งกว่าเขามากอย่างนั้นหรือ? นี่เขาอยากหาเรื่องตายหรือไง? หรือว่าป่วยจนบ้าไปแล้ว?
แต่หลังจากได้เห็นการปรากฏตัวของอี้หนานซึ่งสามารถฆ่านักสู้ระดับเหนือกว่าตนเองได้ทันที
พวกเขาเริ่มรู้สึกว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ง่ายเหมือนอย่างที่เห็น
พลังของเขาน่าจะสูงกว่าเด็กสาวนั่น
ทั่วทั้งพื้นที่เงียบ เนื่องจากไม่มีใครกล้าตอบเย่ว์หยาง
อย่าว่าแต่นักสู้ระดับปราณฟ้าเลย
ถ้าคนธรรมดาพูดแล้วต้องตายทันทีภายใต้พลังดาบของเด็กหนุ่มนี่คงเป็นเรื่องน่าสมเพชมาก
ความจริง ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่สามารถเห็นพลังของเขาโจรตัวตลกเสี่ยวโฉ่ว,
มนุษย์โครงกระดูราเชล, จอมปีศาจจื้อกวงและคนอื่นคงลงมือไปแล้ว
แต่เด็กหนุ่มมนุษย์ผู้นี่แปลกประหลาดเกินไป ไม่มีใครสามารถมองเห็นพลังของเขาได้
คนที่มีประสบการณ์สามารถทำผิดพลาดได้ นั่นคือสาเหตุที่โจรตัวตลกและคนอื่นๆ
ต้องระมัดระวัง
ที่สำคัญ ยิ่งทอดเวลานานไปก็ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อเขามากขึ้น
“ดยุคผู้นี้ชอบที่จะดื่มฉลองกับคนหนุ่มสาวเป็นที่สุด
มันเป็นเรื่องจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าข้าอยู่ที่นี่เพื่อดื่ม” มนุษย์โครงกระดูกราเชลมองดูตัวตลกเสี่ยวโฉ่วและตัดสินใจทำบางอย่าง
มิฉะนั้นก็คงจะไม่ได้อะไรในเมื่อพวกเขากำลังจะแบ่งปันทรัพย์สิน
ก่อนอื่นมันใช้นิ้วกระดูกของมันล้วงปากและจัดฟัน
จากนั้นมันดึงผ้าเช็ดหน้าสีขาวออกมาเช็ดทำท่าเหมือนกับเป็นขุนนางระดับสูง ด้านหลังเขามีโจรระดับหัวหน้าก้าวเดินออกมา
พวกเขามีพลังปราณดินระดับแปด มีสถานะและลักษณะที่ไม่ธรรมดา
พวกเขาโดดเด่นที่ในกลุ่มศัตรูในเรื่องระดับพลัง
“เหล้าอยู่ไหน?
เราต้องการดื่มสักแก้ว”
แม้ว่าสีหน้าของหัวหน้าโจรทั้งสองจะผ่อนคลาย
แต่พวกเขาก็ลอบตื่นตัวไว้ป้องกันการโจมตีของเย่ว์หยาง
“พวกเจ้าต้องการดื่มฉลองกับข้างั้นหรือ?”
เย่ว์หยางแค่นเสียง
“พวกเจ้ายังไม่คู่ควร!”
เมื่อคำพูดของเขาได้ยินถึงหูผู้คนร่างของเขาก็เคลื่อนเข้าหาหัวหน้าโจรคนหนึ่งทันที
โจรระดับหัวหน้าทั้งสองคนนี้เป็นนักรบเก่ามากล้นไปด้วยประสบการณ์
ทันทีที่พวกเขาเห็นเย่ว์หยางโจมตี พวกเขาแยกกันทันที หัวหน้าหน่วยโจรที่เย่ว์หยางพุ่งเข้าหาชักขวานยักษ์ออกมาต้านรับการโจมตีของเย่ว์หยางโดยตรง
หัวหน้าหน่วยโจรอีกคนอ้อมไปจู่โจมใส่อี้หนานอย่างคล่องแคล่ว
เตรียมลอบทำร้ายนางและโจมตีจุดอ่อน
สาวยักษ์คิดจะเข้ามาขัดขวาง
แต่หลังจากเห็นท่าทีผ่อนคลายของอี้หนาน
และการไม่สนใจป้องกันการต้านรับศัตรู เห็นได้ชัดเจนว่านางเชื่อมั่นในเย่ว์หยาง
นางข่มความรู้สึกที่ต้องการเข้าไปช่วยเหลือและยังคงสังเกตการณ์ต่อไป
ไม่เพียงแต่นางเท่านั้น
แม้แต่นักสู้ปราณฟ้าอื่นๆ รวมทั้งเสี่ยวโฉ่วที่ลอบโกรธขุ่นเคือง หลงเสียงผู้ทระนง
มนุษย์กระดูกผู้น่าเกลียดและจอมปีศาจจื้อกวงผู้เจ้าเล่ห์ต่างสังเกตดูอยู่เงียบๆ
สายตาของพวกเขาจับนิ่งอยู่ที่เย่ว์หยางด้วยความตั้งใจเหมือนดูไพ่ในมือเขากับเหตุเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
คนธรรมดาคงไม่สามารถมองเห็นอะไรได้
แต่พวกเขาเห็นได้เพียงวับเดียวเท่านั้น
มีแต่ระดับนักสู้ปราณฟ้าเท่านั้นที่สามารถมองเห็นความเปลี่ยนแปลงในการต่อสู้...
ความเร็วและพลังของเย่ว์หยางซึ่งแต่เดิมเป็นระดับนักสู้ปราณดินระดับหนึ่ง
เพิ่มขึ้นพรวดพราดในเสี้ยววินาที ร้อยเท่า พันเท่า หมื่นเท่า
ความเร็วที่แต่เดิมช้าราวกับทากคลาน กลับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
และในที่สุดกลับเร็วมากกว่าแสงเป็นร้อยเท่า
เมื่อท่านมองเห็นสายฟ้าธรรมดาที่พาดผ่านหัวหน้าโจรไป และเทียบกับเย่ว์หยาง
ท่านจะเห็นแต่เพียงว่าโจรชั้นหัวหน้าช้ายิ่งกว่าทากคลาน
ก่อนที่ขวานจะทันได้กวัดแกว่ง เย่ว์หยางก็มาถึงหน้าเขาเสียแล้ว
ยิ่งกว่านั้น
เย่ว์หยางผ่านร่างของเขาไปและเลี้ยวมาไล่กวดตามหัวหน้าโจรอีกคนหนึ่งซึ่งกำลังจะลอบทำร้ายอี้หนาน
หัวหน้าโจรผู้นั้นรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติจึงรีบเหลียวหลังไปดู
เขาไม่เห็นอะไรข้างหลังเขา
แต่เมื่อเขาหันกลับมาดูข้างหน้า ก็พบว่าเย่ว์หยางยืนอยู่ข้างหน้าเขาทันใดราวกับว่าเขาไม่ได้ห่างไปจากข้างกายอี้หนาน
มนุษย์โครงกระดูกราเชลไม่จำเป็นต้องดูก็รู้ว่าบริวารทั้งสองของเขาจบสิ้นแล้ว
แต่เมื่อมองดูเมื่อ
เขากลับตกตะลึงหนักกว่าเดิมเพราะเขาพบว่าบริวารของเขาไม่ได้ถูกฆ่าทันที แต่กลับถูกฆ่าอย่างน่าอนาถ
หัวหน้าหน่วยโจรที่ถือขวานยังไม่รู้ว่าศัตรูผ่านเขาไปและยังคงจะเข้าไปไล่ฟันเขา
ทันใดนั้น ร่างของเขากลายสภาพเป็นเนื้อสับทันที เกราะ เลือด
เนื้อและกระดูกกระจายเรี่ยราดอยู่บนพื้นตามแรงของขวาน
มีแต่ผู้ที่ถึงระดับปราณฟ้าเท่านั้นจึงจะสามารถเห็นสิ่งที่เขาทำได้ เย่ว์หยางเพียงแต่แล่ผิวเลาะกระดูกอย่างงดงามไม่กระทบถึงกล้ามเนื้อและส่วนกระดูก
แม้แต่พ่อครัวฝีมือดีที่สุดในโลกก็ยังไม่อาจแล่เนื้อได้ดีขนาดนี้
อย่างไรก็ตามมนุษย์นักสู้ปราณดินระดับหนึ่งสามารถหั่นนักสู้ปราณดินระดับแปดเป็นชิ้นๆ
ต่อหน้าทุกคน
ทักษะนี้คงจะได้รับการปรบมือจากโจรตัวตลกและมนุษย์โครงกระดูกเป็นแน่
ถ้าเย่ว์หยางไม่ใช่ศัตรู
แต่ตอนนี้ปากของพวกเขาเหมือนกับบรรจุน้ำปัสสาวะได้เต็ม ขมขื่นจนพูดไม่ออก
หัวหน้าหน่วยโจรอีกคนหนึ่งที่ต้องการจะลอบทำร้ายอี้หนานตกใจกลัวจนต้องถอยกลับ
เขารีบถอยอยู่ข้างๆ มนุษย์โครงกระดูกราเชล จากนั้นตบอกถอนหายใจโล่งอก
อย่างไรก็ตาม เขาผู้นี้กลับได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต
ในไม่ช้าแผลสีแดงเล็กๆ
ปรากฏขึ้นบนคอของเขา เดิมทีเล็กมากมองไม่เห็น แต่ค่อยๆ
ปรากฏเป็นเส้นสีแดงขยายลุกลามออกไป โลหิตฉีดพุ่งออกมาโดยมิอาจหยุดยั้งได้ ในที่สุดเมื่อโจรหัวหน้าหน่วยเอามือกุมบาดแผล
ศีรษะของเขาก็หลุดออกจากบ่าโดยไม่มีเสียงและร่วงลงพื้นกลิ้งไปสองสามเมตรสร้างความหวาดกลัวให้กับทุกคน
ร่างที่ไร้ศีรษะมีโลหิตฉีดพุ่งในอากาศ
มือที่ต้องการกุมบาดแผลยังคงอยู่ในท่าเดิมดูน่าหวาดหวั่น
ทำให้ผู้คนที่เห็นถึงกับขนลุกชัน
ดูเหมือนว่าในวาระสุดท้าย เขายังไม่รู้ตัวว่าถูกตัดศีรษะ
หัวหน้ากองโจรโครงกระดูกดำ มนุษย์กระดูกราเชลเป็นยอดฝีมือใช้ดาบคนหนึ่ง ด้วยดาบพิลาปในมือของเขาจะตัดหัวใครหรือตัดร่างให้เป็นชิ้นๆ
เป็นเรื่องง่ายๆ อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่าไม่มั่นใจว่าจะทำได้อย่างเย่ว์หยาง
อยู่ต่อหน้าผู้สังเกตการณ์นับพัน มีแรงกดดันจากนักสู้ปราณฟ้านับไม่ถ้วน
สามารถใช้ทักษะฆ่าเฉียบพลันได้อย่างช่ำชองนั่นเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถทำได้
มนุษย์โครงกระดูกราเชลเริ่มชื่นชมเย่ว์หยางอยู่บ้าง
เพราะในการใช้ดาบ เย่ว์หยางเปลี่ยนการฆ่าให้เป็นชิ้นงานศิลปะได้
มันคือสิ่งที่เขาไม่สามารถทำได้
“.....”
ไม้กายสิทธิ์ในมือของตัวตลกเสี่ยวโฉ่วหยุดควงทันที
เขาจับมันไว้แน่นขณะที่นิ้วของเขากลายเป็นซีดขาวเนื่องจากใช้แรงมาก
“ดาบไวยิ่งนัก”
จอมพลเกราะทองซึ่งยืนภูมิใจอยู่บนหัวมังกรทองบินลงมายืนอยู่ที่ดาดฟ้าเรือทันที ความสนใจที่รุนแรงทำให้เขาพบว่าเย่ว์หยางเป็นคู่ต่อสู้ยากจะพบเจอ
“เจ้าผู้นี้ถูกฟันสังหารมา 3600
ครั้ง
แต่ข้าชอบวิธีตัดคอของอีกคนหนึ่ง”
จอมปีศาจจื้อกวงลูบศีรษะล้านเลี่ยนเป็นประกายของเขา
ขณะตรวจสอบศพทั้งสอง จากนั้นเขายื่นมือหยิบเนื้อชิ้นหนึ่งโยนใส่ปากเคี้ยวหน้าตาเฉย ในที่สุดเขาก็ได้บทสรุปสุดท้าย “โอว! ข้าเข้าใจในที่สุด เนื้อถูกแช่เย็นป้องกันไม่ให้เลือดฉีดพุ่งออกมา
เจ้าเด็กนี่ใช้พลังน้ำแข็งของดาบได้อย่างงดงามแช่แข็งคอและหัวเข้าด้วยกัน ผลก็คือหัวไม่ร่วงหล่นลงมาขณะมีความเคลื่อนไหว
แต่พลังที่ใช้ออกไปมีปริมาณน้อยและควบคุมอุณหภูมิไว้อย่างดีมาก ดังนั้นเมื่อเราเห็นเขาเอามือตบอกศีรษะของเขาก็ร่วงลงมาทันที ต้องขอบอกเลยว่าท่านั้นน่าชื่นชมจริงๆ”
“ในอนาคต ข้าจะต้องใช้ท่าฟันที่สมบูรณ์แบบฆ่าคนด้วยฝีมือทั้งหมดของข้า”
มนุษย์โครงกระดูกแสดงท่าทีออกมาว่าท่าดาบนี้มันยอดเยี่ยมจนเขาตั้งใจจะเรียนรู้ดู
“ถูกต้อง นี่คือฝีมือสุดยอด!”
จอมพลเกราะทองหลงเสียงยังคงผงกศีรษะ
“พวกเจ้าพูดจบหรือยัง? ตอนนี้เราควรจะทำอะไร
ไม่ใช่มาปรึกษาพูดคุยกันว่าฆ่าด้วยสวยงามหรือไม่
อยู่ต่อหน้าผู้ทรงพลานุภาพ ฝีมืออะไรก็ไม่มีประโยชน์
สิ่งที่เราต้องการทำในตอนนี้คือกำจัดเจ้าเด็กนี่และภัยคุกคามในอนาคต” ตัวตลกเสี่ยวโฉ่วโวยวายแทบคลั่ง
“มันเป็นเรื่องยากสำหรับคนธรรมดาที่จะฆ่าเขาได้...” จอมปีศาจจื้อกวงขมวดคิ้วขณะที่เขารู้สึกว่าเขาต้องส่งนักสู้ระดับปราณฟ้าออกไป
“โปรดให้ข้าน้อยผู้นี้ได้ลองดูก่อน!” อัศวินอากาศลงมาจากกริฟฟินสายฟ้าตัวหนึ่ง
เขาเป็นขุนพลเกราะเงินนักสู้ปราณดินระดับเก้าผู้ติดตามหลงเสียง
ปกติ
อัศวินที่เป็นนักสู้ปราณดินระดับเก้าต้องมาสู้กับคนเถื่อนนักสู้ปราณดินระดับหนึ่งจะถือว่าเป็นการรังแกกัน แต่ทุกคนรู้สึกได้ว่าอัศวินอากาศผู้นี้มีพฤติกรรมน่าชื่นชม ทั้งนี้เป็นเพราะไม่มีใครคาดหวังอะไรดีๆ
ได้จากเขา แม้ว่าเขาจะเป็นอัศวินอากาศ
แม้ว่าเขาจะเป็นนักสู้ปราณดินระดับเก้า แม้ว่าเขาจะสวมเกราะเงินที่แข็งแกร่ง
ไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะเอาชนะได้
มังกรตาเดียวและทหารรับจ้างร่างผอมร่างคุ้นเคยแล้วว่าอี้หนานและเย่ว์หยางมีฝีมือฆ่าเหนือกว่าระดับของพวกเขา
พวกเขาลอบพนันกัน
แต่พวกเขาไม่ได้พนันว่าใครแพ้ใครชนะ
เพราะพวกเขารู้สึกว่าเย่ว์หยางจะชนะแน่นอน
พวกเขาแค่พนันกันว่าศัตรูจะอยู่รอดได้นานเท่าใด ทหารรับจ้างร่างผอมรู้สึกว่าหนึ่งนาทีก็พอ แต่มังกรตาเดียวรู้สึกว่าแค่สามสิบวินาที
ใบหน้าที่ภูมิใจของหลงเสียงเปลี่ยนและดูลังเลใจเล็กน้อย
เขารู้จักความสามารถพิเศษของบริวารของเขาดี
บริวารผู้นี้ไม่รู้สึกกลัวการได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ไม่ว่าจะถูกตัดบั่นร่างเป็นกี่ชิ้นก็ตาม เขาจะฟื้นฟูสู่สภาพปกติทันที
เขาไม่กลัวถูกตัดศีรษะเพราะเมื่อศีรษะของเขากลับมาตั้งบนตัว เขาก็กลับคืนสู่สภาพก่อน แม้ว่าบริวารของเขาจะมีความสามารถฟื้นฟูที่พิเศษก็ตาม
แต่หลงเสียงไม่เชื่อว่าบริวารของเขาจะชนะ
นี่เป็นเพราะเด็กหนุ่มที่อยู่ต่อหน้าของแข็งแกร่งเกินไป ทั้งที่มีนักสู้ปราณฟ้ามากมายจับตามองเขาอยู่
แต่ไม่มีใครมองเขาออกเลยแม้แต่น้อย
ความจริงเด็กหนุ่มคนนี้อยู่ระดับใดกันแน่?
หลงเสียงไม่อาจคาดเดาได้
“โปรดแนะนำข้าด้วย!”
อัศวินอากาศคิดว่าเขาได้รับการยอมรับขณะที่หลงเสียงยังคงไตร่ตรองอยู่
ดังนั้นเขาเดินตรงเข้าไปเผชิญหน้ากับเย่ว์หยางอย่างมั่นใจ เขาชูดาบอัศวินของเขาเหนือศีรษะและทักทายเขา จากนั้นสาวเท้าเข้ามาเพื่อต่อสู้
อาจกล่าวได้ว่าความเคลื่อนไหวของเขาสมบูรณ์แบบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแรง ความเชื่อมั่น ทัศนคติ
ไม่มีอะไรอ่อนแอ เขาเร่งเร้าพลังในร่างจนอยู่ในระดับสูงสุด นอกจากนี้ เขายังใช้ท่าตั้งรับที่ดีที่สุดของเขา
ถ้าเป็นคู่ต่อสู้คนอื่น
แม้แต่นักสู้ปราณดินระดับสิบก็ไม่สามารถฝ่าแนวป้องกันของเขาได้
“ไสหัวไป!” เย่ว์หยางใช้ท่าง่ายๆ
แต่นอกเหนือความคาดหมายของทุกคน
พวกเขาเห็นว่าเขาใช้แส้เพลิงหวดใส่ร่างของอัศวินอากาศผู้นั้น
ร่างของอัศวินอากาศดูเหมือนจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เขากระเด็นไปราวสิบเมตร
ตอนแรก เขายังสามารถค่อยๆ ลุกขึ้นยืนเหมือนกับว่าไม่มีอะไรผิดปกติกับเขา
และเขายังคงต้องการสู้
แต่ในไม่ช้า
ร่างของเขาก็เริ่มสั่นรุนแรงเหมือนกับว่าเขากำลังทนต่อความเจ็บปวดเกินกว่าคาดคิด
เหงื่อเม็ดโตผุดออกจากหน้าผาก
เขากัดฟันขณะที่เลือดเริ่มไหลออกมา
ต่อหน้าสายตาที่หวาดหวั่นของคนเป็นพัน ร่างที่กำลังสั่นของอัศวินอากาศค่อยๆ
คุกเข่าลง มือของเขาขูดพื้นดาดฟ้าด้วยความตั้งใจอดทนความเจ็บปวดทรมาน
อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องไร้ประโยชน์
เนื่องจากเพลิงลุกลามออกมาจากจมูกและปากของเขา
นักสู้ปราณฟ้าสามารถเห็นเพลิงเหล่านี้ออกมาจากภายในตัวเขา
และในทันใดนั้น
ความอดทนของอัศวินอากาศก็พังทลายขณะที่เขาแหงนหน้ามองฟ้าร้องโหยหวนเจ็บปวด..
อ๊าาาา
อ๊าาาาาาาาาาาาา...
อัศวินอากาศผู้ไม่เคยกระพริบตาต่ออาการบาดเจ็บใดๆ
และภูมิใจในศักดิ์ศรีอัศวินและมีปณิธานกล้าแกร่ง
ตอนนี้คุกเข่าต่อหน้าศัตรูร้องโหยหวน
นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์
ความจริงอัศวินอากาศนั้นยังฝืนอยู่ได้ แต่เขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
ทั้งนี้เพราะความเจ็บปวดที่เขารู้สึกไม่ใช่แค่มาจากกายของเขา
แต่ยังมาจากใจและวิญญาณที่ถูกแส้หวดกระหน่ำอีกด้วย แม้ว่าอวัยวะภายในของเขาจะไม่ถูกไฟเผาผลาญ แต่เขาก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
มีความสามารถอดทนไม่คร่ำครวญมากกว่าสิบวินาทีก็ถือว่าอดทนเหนือคนธรรมดาแล้ว
นี่ถือว่าเกินขีดจำกัดปณิธานที่แข็งแกร่งดุจเหล็กของเขาแล้ว
เมื่อได้ยินเสียงร้องโหยหวนของอัศวินอากาศ
ทั่วทั้งกองกำลังอัศวินอากาศต่างหน้าซีดด้วยความกลัว ความจริงพวกเขาไม่สามารถจินตนาการออกว่าการโจมตีแบบไหนจะสามารถจัดการความเจ็บปวดที่แม้แต่อัศวินอากาศก็ไม่สามารถทนได้
หลงเสียงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขาต้องประเมินเย่ว์หยางใหม่อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เขายังไม่สามารถมองเห็นอะไร
เด็กหนุ่มคนนี้ช่างมีปริศนาลึกลับเสียจริง
24 ความคิดเห็น:
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณครับ
ใช้เพลิงเผาภายในเลยเรอะ
ขอบคุณครับ
ชอบมาก
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
มันเร้าใจทุกครั้งที่เย่หยางออกศึก
เล่นทำไมกะลูกน้องล่อหัวหน้าแม่มเล้ยยย
ถล่มให้ยับ
ขอบคุณ ครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณครับ
มันมากกกกกกกก ขอบคุณครับบบ
หลังจบศึกนี้คงได้รางวัลเพียบเพราะแต่ละคนมีค่าหัวให้ขึ้นเงินไม่น้อย
ขอบคุณครับ
ฮิฮิฮิ ให้มันรู้ซะบ้างว่าไผเป็นไผ ได้เวลาสังหารหมู่แล้วมั้งนิ
ได้เวลา เก็บทรัพย์ แล้ว ฮี่ ฮี่ ฮี่
ขอบคุณคับ
งานนี้งานเดียวสงสัยถ้าเก็บหัวหมดนี่ ค่าหัวเฮียเบ้พุ่งกระฉูดแน่ไม่ หึหึ ฆ่าได้ดีฆ่าได้งดงามจริงๆตอนนี้
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น