วันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 465 ละเลงเลือด



ตอนที่  465  ละเลงเลือด
เสียงดังมาจากหลังผาข้างหน้าพวกเขา เสียงนั้นดังเข้ามาใกล้ทุกทีได้ยินชัดเจนมาก  ฝูเยี่ยนมีประสบการณ์มากมาย ฟังเสียงก็รู้ว่ากองทหารจำนวนหนึ่งกำลังมุ่งหน้าเข้ามาและไม่ใช่จำนวนน้อยอย่างแน่นอน

 “เตรียมสู้!”
อสูรดวงดาวหรือ?
เป็นไปได้ไหมว่าจะเป็นภูตอสูรประเภทแมลงบิน?
ฝูเยี่ยนคิดว่าเขาน่าจะเดาถูกประมาณ 80-90% ขณะนั้นมีเงาพุ่งออกมาจากหลังภูเขา
ไวมาก!
ฝูเยี่ยนสั่นสะท้าน หางตาของเขากระตุก เซียนนักสู้!  ความเร็วของฝ่ายตรงข้ามต้องเป็นนักสู้ระดับเซียนแน่นอน  เดี๋ยวก่อน  ฝูเยี่ยนรู้สึกว่าคนที่ตรงเข้ามารูปลักษณ์คุ้นตา เขาจ้องเขม็ง และจำได้ว่าคนผู้นั้นคือ เซียนกระบี่เหอ!
แต่ว่า...
ท่านเหออยู่ในสภาพทุลักทุเลอย่างหนัก เสื้อผ้าฉีกขาดรุ่งริ่ง ดินโคลนเปรอะไปทั้งตัว แม้แต่รองเท้าก็หลุดหายไป  ฝูเยี่ยนไม่อยากเชื่อสายตาของเขา  คนผู้นี้คือท่านเหอที่เขาเคารพนับถือหรือนี่? ถ้าเขาไม่รู้จักมาก่อน  เขาคงคิดว่านั่นคือขอทานตามท้องถนน  ไม่, ต่อให้เป็นขอทานของกลุ่มดาววาฬก็ยังสะอาดกว่าเจ้าผู้นั้นเยอะ
คนผู้นี้... ไม่นะ, เขาคือท่านเหอ...
เดี๋ยวก่อน  นั่นคือท่านเหอ!
ฝูเยี่ยนค่อยรู้สึกตัว ใครกันที่สามารถทำให้เซียนกระบี่ตกอยู่ในสภาพน่าอนาถเช่นนั้น?  ทันใดนั้นสายตาของเขามองตรงไปข้างหน้า
บึ้ม!
หน้าผาที่อยู่ข้างหน้าระเบิดโดยไม่มีคำเตือน  ก้อนหินจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งตรงเข้าหาพวกเขาเหมือนฝนตก แต่ไม่มีใครรู้ว่าจะหลบยังไง พวกเขายืนตะลึงกันหมดทุกคน  พวกเขายืนมึนงงและมองดูเงามหึมาที่วิ่งเข้าหาพวกเขา
รังสีกระบี่นับพันหนาแน่นก่อตัวเป็นพายุหมุนขนาดใหญ่  อยู่ต่อหน้าพายุ พวกเขาดูเหมือนตัวเล็กนิดเดียว เงาจากพายุปรากฏอยู่ในสายตาพวกเขา  ความกลัวอย่างไม่มีใดเปรียบผุดขึ้นมาจากส่วนลึกของหัวใจพวกเขา  พวกเขาหน้าซีด ตัวสั่นโดยสัญชาตญาณ
 “ฆ่า!”
ฝูเยี่ยนตะโกนประโยคนี้โดยสัญชาตญาณ พิสูจน์ว่าเขามีคุณสมบัติเป็นผู้นำทหาร
ด้วยความคุ้นเคยกับคำสั่ง ทำให้นักรบก้าวออกมาโจมตีด้วยสัญชาตญาณของพวกเขาเอง รังสีกระบี่และดาบหนาแน่นพุ่งออกมาจากด้านหลังของฝูเยี่ยนบรรจบกันเป็นพลังโจมตีขนาดใหญ่พุ่งเข้าหาพายุวังวนกระบี่
อนิจจา ผลที่ออกมาสร้างความผิดหวังให้ฝูเยี่ยน
การโจมตีของพวกเขาไม่อาจทะลวงพายุวังวนกระบี่ ไม่ได้สร้างความสะเทือนหวั่นไหวแม้แต่น้อย   เสียงหวีดหวิวที่แหลมคมเต็มทั้งฟ้าและดินทำให้ศีรษะของพวกเขามึนชา รังสีกระบี่ที่หมุนปั่นด้วยความเร็ว ปั่นจนกระทั่งพวกเขาไม่อาจยืนหยัดมั่นได้
เมื่อถึงเวลานี้ สายเกินกว่าจะหลบหนี
ตาของฝูเยี่ยนแดงก่ำ  เขาคำราม  “ป้องกัน!”
เสียงคำรามของเขาในพายุนั้นเบา  แต่ช่วยให้คนที่สิ้นหวังมีประกายแห่งความหวังและไขว่คว้าไว้
กำแพงคิงคองล้อมรอบกองทัพไว้หนาแน่น ทุกคนกระตุ้นปราณแท้ของพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง  กำแพงคิงคองส่องแสงเป็นประกายสีทอง มีอักขระสีทองลอยอยู่บนผิว
กำแพงคิงคองเมื่อฝึกจนถึงระดับสูง สามารถสร้างอักษรจารึกสีทอง  นี่สร้างความกล้าให้ผู้คนสองสามเท่า  พวกเขาอาจจะรอดก็ได้
ฝูเยี่ยนต้องการให้ขบวนทัพทั้งสามสื่อสารถึงกันได้  ดังนั้นระยะห่างระหว่างขบวนทัพพวกเขาจึงไม่มากกว่า 100 เมตร  กองทัพทั้งสามตั้งท่าป้องกันที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นทางเลือกเดียวของพวกเขา
พายุหมุนวังวนกระบี่ทำลายทุกอย่าง  รังสีกระบี่หมุนอยู่วงนอกกำแพงคิงคองเหมือนกับพายุฝน  เสียงที่ดังหนาแน่นป้องกันทุกคนไม่ให้ได้ยินอะไร
ประกายไฟแพรวพราวกระจายไปทั่วทุกมุมของกำแพงคิงคอง แสงสว่างเจิดจ้าจนไม่มีใครเห็นอะไรได้ชัดเจน
ในสภาพที่ล่อแหลมทุกคนปล่อยเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่ง กระตุ้นปราณแท้กันอย่างสุดชีวิต มันคือความหวังเดียวที่พวกเขาจะรอดอยู่ได้
กำแพงคิงคองสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและดูเหมือนกับจะพังทลายได้ทุกเมื่อ
ความตั้งใจจะเอาชีวิตรอดของมนุษย์นั้นน่ากลัวนัก  ขณะที่รัศมีแสงเริ่มฉายไปที่นักสู้ในกองทัพทุกคน  พวกเขาแทบจะบรรลุพลังก้าวหน้าในช่วงเวลาอย่างนั้น
สวรรค์ยังไม่ทอดทิ้งเรา
ฝูเยี่ยนตอนแรกรู้สึกได้  เขาเป็นผู้นำทหารและควบคุมรังสีได้ทั้งหมด  ปราณแท้ที่ส่งผ่านมาจากนักสู้ทุกคนปะทุออกทันที  กำแพงคิงคองซึ่งเดิมทีกำลังจะพังทลายกลับมั่นคงอย่างน่าอัศจรรย์
ขบวนของสามกองทัพเป็นรูปสามเหลี่ยม คล้ายกับสิ่วสามเล่ม  พวกเขากระแทกพายุวังวนกระบี่อย่างดุเดือด
รังสีกระบี่ปะทะกับกำแพงคิงคองอย่างต่อเนื่อง ด้วยปริมาณของรังสีกระบี่ที่เพิ่มขึ้น  สภาพของพายุวังวนกระบี่ที่แต่เดิมยังมั่นคงเริ่มมีท่าทีเบาบาง
พลังพายุวังวนกระบี่ค่อยๆ อ่อนลง แต่กำแพงคิงคองสามกองทัพถึงขีดจำกัดแล้ว  แม้ว่าคนจะมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถก้าวหน้าได้ในเรื่องความเป็นความตาย
เมื่อจำนวนคนเพิ่มพลังลดลง หัวใจของฝูเยี่ยนตกลงไม่หยุด
กำแพงคิงคองสั่นสะเทือนหนักขึ้นทุกที  แรงสั่นสะท้านเพิ่มมากขึ้น  ปราณแท้ที่มาจากพวกเขาทุกคนค่อยๆ เสื่อมโทรมลง
เสียงเปราะแตกดังออกมาชัดเจน ฝูเยี่ยนหลับตาอย่างสิ้นหวัง
เราทำอะไรลงไป!
ในเวลาใกล้เคียงกันกำแพงคิงคองของอีกสองกองพลแตกทำลายพร้อมกัน
ในเวลานี้ พายุรังสีกระบี่ที่เบาบางระเบิดออกมาเสียงดังสนั่น ขณะที่รังสีกระบี่นับไม่ถ้วนกวาดออกไปรอบๆ พร้อมกับเสียงระเบิด
รังสีกระบี่กวาดไปทั่วพื้นที่ทุกซอกทุกมุมของสนามรบไม่มีเหลือแม้แต่ที่เดียว
โลหิตมากมายฉีดพุ่งกระจายพร้อมกัน เมื่อมองจากมุมมองบนอากาศ  กลับเหมือนเหมือนดอกไม้โลหิตที่เบ่งบานเต็มที่
มีร่างหนึ่งลอยอยู่เลือดเนื้อด้านล่าง
ไม่มีเสียงหวีดหวิวแสบแก้วหู  ไม่มีประกายแสง มีแต่หุบเขามรณะที่เงียบสงัด ด้านบนดอกไม้โลหิต เด็กหนุ่มลอยตัวอยู่ในท่ายืนเงียบๆ ไม่มีความวิตกกังวลอยู่ดวงตา ใบหน้าของเขาว่างเปล่าตัดกับภาพโลหิตที่อยู่ใต้เท้าเขา เต็มไปด้วยความงามที่แสนหฤโหด
 “...สู้....”
เสียงกระซิบของเด็กหนุ่มเบาและไม่สามารถได้ยิน
ร่างของเด็กหนุ่มร่วงลงมาบนพื้นอย่างไร้พลัง
จิ่งหาวตาเหลือกทันที  เขามาปรากฏข้างตัวถังเทียนทันทีและกอดเขาไว้
ทุกคนตกใจกับภาพนี้
สีหน้าของโต้วหย่งซีดเผือด  เขาฝืนยิ้มซึ่งดูแล้วน่าเกลียดกว่าร้องไห้เสียอีก  เขาพูดกับไป๋ซือซือ “ดูเหมือนว่าเราไม่จำเป็นต้องคิดเรื่องจะคิดบัญชีกับกลุ่มดาววาฬยังไงอีกต่อไปแล้ว”
เสียงของเขาสั่นเครือ และมือของเขาสั่นสะท้าน
เขาเคยฆ่าคนอย่างมากมายมาก่อน  แต่ฉากภาพข้างหน้าเขาทำให้เขาตกตะลึงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ชีวิตของนักสู้ช่างอ่อนแอเหมือนกับมดแมลง
ดอกไม้โลหิตบานค่อยๆ เต็มพื้นที่ทั่วหุบเขา
ไป๋ซือซืองอตัวอาเจียนทันที
สีหน้าของเหออี้หมิงซีดขาวและงุนงง   ตอนแรกเขายังมีพลังกรีดร้องเพื่อชีวิต แต่เมื่อเห็นฉากนองเลือดในสมรภูมิด้วยตาตัวเอง เขาทรุดตัวลงกับพื้น
 “คราวนี้ลำบากจริงๆ”  ปิงตบหน้าผาก  เขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที
เขาไม่เคยใส่ใจกับกองพลปลาวาฬทั้งสาม  เนื่องจากเขาเตรียมการจับพวกเขาไว้นานแล้ว  แต่เขาไม่เคยคิดว่าถังเทียนจะมีพลังพอทำลายกองพลปลาวาฬทั้งสามทัพได้
ก็คงจะไม่เป็นไรหรอกถ้าจะพูดว่าแค่ทำลาย  แต่ฉากภาพข้างหน้าที่ปรากฏต่อสายตานั้นนองเลือดและโหดอำมหิตเกินไป  ปิงเข้าใจความเป็นจริง  เขาคือคนที่ปีนป่ายออกมาจากกองซากศพ  ในยุคเวลาของเขา ไม่ว่าในสนามเพลาะใดๆ  ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดเหตุนองเลือดได้เสมอ
แต่ที่เหลือเล่า?
สงครามใหญ่เป็นเพียงบทนำ นักสู้ส่วนใหญ่ในสวรรค์วิถีเติบโตขึ้นในสภาพแวดล้อมที่สงบ  การฆ่าและการต่อสู้ของนักสู้เป็นเรื่องปกติทั่วไปไม่ได้เห็นกันบ่อยนัก
อย่างไรก็ตามฉากภาพก่อนนั้นผ่านไปนานแล้ว  สมบัติมากมายกระจายไปทั่วทุกมุมสวรรค์วิถี
หลังจากต่อสู้ ถังเทียนมีฉายาที่ดุร้ายมากมายว่า เพชฌฆาตหมู่
ปิงพ่นควันเป็นวง มุมปากของเขากระตุก  แต่ก็ยังดี การฆ่ากองทัพทั้งสามด้วยตัวคนเดียว  ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่นี้ แม้แต่พญาราชสีห์เลโอนก็ยังทำไม่ได้เมื่อตอนเขายังอายุน้อย  หลังจากต่อสู้ สมาพันธ์ชาวยุทธในช่วงเวลาสั้นๆ คงไม่กล้ามาทำอะไรพวกเขาแน่นอน
สำหรับพวกเขา เวลาคือสิ่งสำคัญที่สุด
พวกเขาต้องการเวลาเพื่อให้นักสู้ของพวกเขาเติบโตขึ้น  ต้องการเวลาเพื่อจัดตั้งอาวุธจักรกลวิญญาณใหม่ ต้องการเวลาเพื่อฝึกฝนเซียนนักสู้ของพวกเขาเอง  แม้แต่ครึ่งก้าวจะสำเร็จชั้นเซียนก็ตาม
โอว บางทีสามคนนี้...
ปิงชำเลืองมองโต้วหย่งและคนที่เหลือซึ่งยืนเบียดกันอยู่ในระยะไกล
ปิงซึ่งเป็นคนแรกในบรรดาคนที่เหลือรู้สึกตัวก่อน เริ่มคิดก้าวต่อไปของเขา  กลุ่มดาววาฬจบสิ้นแล้ว  ด้วยการทำลายสามกองพลปลาวาฬ  พวกเขาถูกมัดไปแล้วและจะถูกทำลาย  ตอนนี้พวกเขาถือความได้เปรียบแล้ว
คนกลุ่มหนึ่งเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว เป็นกองทหารที่ไม่คุ้นเคยและทุกคนระมัดระวัง
อาเดรียนพาเด็กหนุ่มร่างผอมเข้ามาหาปิง
 “นี่คือผู้น้อยหลูตี๋ เขานำพากองพลทหารพรานข่ายมาลี้ภัย”
ตาของหลูตี๋บวม  ไม่ใช่แต่เพียงเขาเท่านั้น  เนื่องจากเบ้าตาของอาเดรียนก็บวมเช่นกัน
ปิงตะลึง  เขาให้อาเดรียนไปแนะนำหลูตี๋ให้ยอมแพ้  แต่ดูเหมือนว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับทั้งสองทำให้กลายเป็นเช่นนั้นดังนั้นเขาอดถามไม่ได้  “เกิดอะไรขึ้น?”
อาเดรียนหลั่งน้ำตา พูดพลางสะอื้น  “กลุ่มดาวนายพรานตกอยู่ในเงื้อมมือของศัตรูแล้ว  ท่านเจ้าดวงดาวตายแล้ว!
ปิงตะลึง  สีหน้าของเขาเคร่งขรึม  เขาตบไหล่ของอาเดรียน หันไปคุยกับหลูตี๋ “เจ้ามาได้เวลาจริงๆ ไปช่วยคนก่อน”
จากนั้นหลูตี๋และอาเดรียนจึงได้เห็นสถานการณ์ในหุบเขาได้ชัด ทั้งสองคนตกตะลึงทันที
 “นี่คือ?”  หลูตี๋ถามเสียงสั่นเครือ  ฉากภาพข้างหน้าเขาน่าอนาถเกินไป เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นสมรภูมิที่น่าสังเวชขนาดนั้น
 “นี่เป็นฝีมือของเจ้าเด็กบ้าถัง”  น้ำเสียงของปิงซับซ้อน
 “เขาเพียงคนเดียวหรือ?”  อาเดรียนตาเบิกกว้าง เหมือนกับว่าไม่สามารถทำใจเชื่อได้  “เขา.. เขาอยู่ในวังวนกระบี่เพื่อขัดเกลาจิตวิญญาณยุทธของเขาไม่ใช่หรือ?”
 “มันคือวังวันกระบี่นั้น” ปิงส่ายศีรษะ  “เจ้าจะรู้เมื่อถึงเวลา มาช่วยคนก่อน ไม่รู้ว่าเราจะช่วยได้สักกี่คน”
อารมณ์ของปิงซับซ้อน
ไม่มีผู้นำทหารที่ชอบสิ่งทำลายจนส่งผลเสียสมดุล  แม้ว่าพวกเขาจะได้รับชัยชนะ แต่ก็ทำให้การเตรียมการของเขาไม่มีความหมายต่อไป
ชนะก็ดีเหมือนกัน  เขาหัวเราะให้ตัวเอง  เขาไม่ใช่ถังโฉ่วจึงไม่สนใจกลายเป็นแม่ทัพที่มีชื่อเสียง
ไม่มีอะไรผิดปกติกับเจ้าเด็กห้าวถัง  แม้ว่าเขาจะล้มลงหมดสติ แต่ลมหายใจของเขาสม่ำเสมอ และหายใจของเขามั่นคงเหมือนกับว่า... เขาหลับสนิท...
เจ้าเด็กโง่นี่!
แม้กระทั่งการรบก่อนนี้ก็ได้ข้อสรุป  กองกำลังหมาป่าและกองพลทหารราบโจมตีประตูดวงดาวสองสามแห่งและตัดทางถอยของกลุ่มดาววาฬ
อาเฮ่อ, หลิงซิ่ว, อาโมรี่และหานปิงหนิง และนักสู้ชั้นทองของกลุ่มดาวมังกร ต่างนำกองโจรหมาป่าและเริ่มขับไล่ศิษย์ตระกูลสูงส่งที่ต้องการบรรลุความสำเร็จจากกลุ่มดาวหมีใหญ่ให้กลับบ้านไป
เมื่อกองทัพทั้งสามถูกทำลาย และประตูดวงดาวถูกยึดครอง  พวกเขาจึงกลายเป็นเต่าที่ถูกขังอยู่ในโอ่ง
พวกศิษย์เหล่านั้นสามารถต่อสู้ในการรบที่ป่าเถื่อนได้  แต่พวกเขาจะตื่นเต้นเมื่อพบกับอันตราย  สถานการณ์กลายเป็นสิ้นหวังยิ่งขึ้นจนหัวใจพวกเขาเริ่มกระวนกระวาย
ไม่มีใครรู้ว่าใครยอมแพ้ก่อน  เนื่องจากผู้คนเริ่มยอมแพ้คนแล้วคนเล่า
ที่สถาบันหมาป่าฟ้า พวกนักเรียนที่เพิ่งได้เปลี่ยนชุดจักรกลต่างก็โกรธโวยวาย  พวกเขายังไม่ทันได้ลงเวทีต่อสู้เลย เจ้าพวกสวะเหล่านี้ก็ยอมแพ้เสียแล้ว
ขณะนั้น คำสั่งใหม่ก็ส่งมาถึงอย่างรวดเร็ว

15 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ตอนนี้ค่อนข้างน่าหดหู่สำหรับกลุ่มดาววาฬมากเลยนะ และถังเทียนก็ดูจะโหดร้ายเกินไปมากๆเลย

พัฒนาการเยอะแบบนี้กลัวจะสุญเสียในตอนท้ายๆจัง

Unknown กล่าวว่า...

กรี๊ดดดดดดดดดด รอตอนใหม่อยู่นะคะ จุ๊ฟฟฟฟฟฟ

✿MALILA✿ กล่าวว่า...

ตายๆๆๆ 555555

Unknown กล่าวว่า...

โหดกว่าที่คิดไปไกล

aloha777 กล่าวว่า...

โครตคึก ชาวหมาป่า ไม่ได้สู้ยังโกรธศตรูที่ยอมแพ้เร็วอะ
พอๆกัน ลูกพี่โหด ลูกน้องห้าว ไปด้วยกันได้กับพี่ถังเรย แก๊งหมาป่าตะลุยสวรรค์วถี

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Sunrise กล่าวว่า...

ขอบใจหลายยยย อย่างฟังสรุปผลต่อจังเลยยย

Unknown กล่าวว่า...

กูว่าแล้ววววววว หายนะของกลุ่มดาววาฬ

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

โทษห้าวถังมันไม่ได้หรอก คนอื่นไปยืนดูมันเจ็บอย่างสบายใจตั้งนาน มันก็บอกว่าลองมาโดนมั่งมั๊ย แล้วมันก็คิดได้ว่า กูไม่ยอมโดนคนเดียว ลงกับพวกตัวเองไม่ได้เลยลากไปใส่ศัตรู 55+

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

55555....บอกแล้ว 22 ล้อ เบรคแตก คันเร่งค้าง

dvdkeeper กล่าวว่า...

โกโก้ครั้นซ์

pong_za69 กล่าวว่า...

ยึดดาวปลาวาฬต่อเลย

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

พี่ถังทำแบบนี้ไม่ถูกนะ เราไม่เหลือคนรอดไปแลกตังเลย

แสดงความคิดเห็น