วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 515 ร่วมกันระดมสมอง

ตอนที่  515  ร่วมกันระดมสมอง
พลังของฝูอิงแข็งแกร่งกว่าเขามาก  ถังเทียนไม่ปฏิเสธเรื่องนั้น พลังโจมตีจากฝูอิงแทบจะทำลายร่มของเสี่ยวเอ้อได้  ถังเทียนไม่เคยเห็นพลังโจมตีที่รุนแรงขนาดนั้นมาก่อน

อย่างไรก็ตามถังเทียนเคยเป็นหัวโจกประจำโรงเรียนมาแล้ว  เขาเข้าใจอย่างเต็มที่เรื่องการสู้ตัวต่อตัว การสู้กันระหว่างกลุ่มแก๊ง  แม้ว่าการต่อสู้ระหว่างกลุ่มจะต่ำ อาจเป็นไปได้ที่อาจใช้วิธีที่พวกหัวโจกใช้กัน
และถังเทียนก็คือหัวโจกใหญ่ที่โดดเด่นเป็นพิเศษ
ถังเทียนไม่อาจเทียบได้ในเรื่องยุทธศาสตร์และกลศึกที่ซับซ้อนละเอียดอ่อนของปิง  อย่างไรก็ตามเมื่อว่าถึงการต่อสู้ระหว่างกลุ่มอันธพาล  ปิงไม่อาจเทียบได้กับถังเทียน  ถังเทียนจะใช้วิธีการนอกลู่นอกทางซึ่งมีประสิทธิภาพสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้   เขามีความคิดแผลงๆ จนแม้แต่ปิงก็ได้แต่ทำตาปริบๆ
ปิงไม่เคยยอมรับว่าถังเทียนฉลาดอย่างแท้จริงเมื่อถึงเวลาสู้กันด้วยกลยุทธ์  แต่เขายอมรับว่าความกล้าหาญในการต่อสู้ของถังเทียนนั้นน่ากลัว
สำหรับกลุ่มต่อสู้เพื่อให้ประสบความสำเร็จ ต้องเอาไปใช้โจมตีศัตรูให้ได้เป็นอย่างน้อย
ถังเทียนหยิบรายงานข่าวกรองที่ได้รับจากติงตังและบอกให้ทุกคนเข้าประชุม ขณะที่เขาแจกจ่ายรายงานให้กับทุกคน
 “ครั้งนี้เป้าหมายของเราคือฝูอิง  รอบนี้ไม่ต้องยั้งมือไว้ไมตรีอีก เราจำเป็นต้องฆ่าเขา”
ถังเทียนพูดน้ำเสียงสนทนาปรึกษาและมีความตั้งใจว่าจะฆ่าฝูอิง
ทุกคนเงียบ  พวกเขาอ่านรายงานข่าวกรองอย่างอย่างจริงจัง  ถ้ารายงานเป็นความจริง อย่างนั้นฝูอิงก็มีพลังที่น่ากลัว
ค่าพลังวิญญาณ 298 จุดและด้วยวิชาจิตวิญญาณสำหรับโจมตีอย่างเดียวก็คือ ดาบวิญญาณเกียรติยศชาวยุทธ
ในบรรดาวิชาระดับบรอนซ์ในสมาพันธ์ชาวยุทธ  ดาบวิญญาณเกียรติยศถูกมองว่าเป็นวิชาพื้นฐานมากที่สุด  ด้วยค่าพลังวิญญาณเริ่มต้นเพียง 8 จุด ก็ยังมิอาจเทียบกับวิชาเคลื่อนย้ายพริบตาของถังเทียนได้  อย่างไรก็ตามฝูอิงใช้ความพยายามอย่างมากมายจนเชี่ยวชาญวิชาจิตวิญญาณที่ธรรมดานี้ ทำให้ค่าพลังวิญญาณของวิชาดาบวิญญาณเกียรติยศนี้มีค่าสูงถึง 210 จุด  ต่ำกว่าระดับค่าวิญญาณสูงสุด 230 ของวิชานี้เพียง 20 จุด
หลังจากเห็นเช่นนั้นทุกคนได้แต่สูดหายใจลึก
มีค่าพลังวิญญาณ 210 จุดนั่นเกือบจะเท่าวิชาจิตวิญญาณของเซียนชั้นเงินแล้ว
มิน่าเล่าพลังโจมตีของฝูอิงถึงได้น่ากลัวนัก
นอกจากนี้ ฝูอิงยังเชี่ยวชาญม่านพลังป้องกันที่รู้จักกันในนามว่าโล่เกียรติยศ  เขาใช้เวลาไม่มากในการฝึกฝนวิชานี้  ดังนั้นค่าวิญญาณที่ใช้ไปก็เพียง 20 จุด
วิชาจิตวิญญาณอื่นซึ่งเป็นวิชาเหาะเหินซึ่งต้องใช้ค่าพลังวิญญาณอย่างเห็นได้ชัดก็คือวิชาย่างเท้าเงา  วิชาย่างเท้าเงาไม่ใช่วิชาจิตวิญญาณที่พิเศษในสมาพันธ์ชาวยุทธ  แต่เป็นวิชาทั่วไป  อย่างไรก็ตามฝูอิงฝึกวิชานี้จนถึงระดับพลังวิญญาณที่ 68 จุด
 “ค่าพลังวิญญาณ 68 จุดจากวิชาย่างก้าวเงา”  มอนตาอุทาน  “ในอดีต ฝูอิงยังไม่มีชื่อในสมาพันธ์ชาวยุทธ และไม่ได้เชี่ยวชาญวิชาจิตวิญญาณที่ทรงพลังแต่อย่างใด”
 “เขาต้องมีความพากเพียรอย่างเต็มที่จึงสามารถเชี่ยวชาญวิชาดาบเกียรติยศจนถึงระดับ 210 จุด นั่นคือสิ่งที่ไม่เคยได้ยินเลย”
ถังเทียนหงุดหงิดขณะที่เขาจ้องมองกลุ่มเซียน  “ข้าเรียกประชุมท่าน ณ ที่นี้เพื่อระดมสมอง! ทุกคนต้องเสนอความคิดอย่างน้อยหนึ่งอย่าง  ไม่ว่าจะแย่ยังไงก็ตาม  ใครก็ตามที่ไม่สามารถหาวิธีการได้ในครั้งนี้  การจ่ายสมบัติวิญญาณก็จะล่าช้าออกไปด้วย”
เมื่อพวกเขาได้ยินคำว่า “สมบัติวิญญาณ”  กลุ่มเซียนเคร่งขรึมขึ้น
มอนตาจอมเจ้าเล่ห์  เมื่อได้ยินคำบอกกล่าวของถังเทียน  เขารู้ว่าเป็นโอกาสดีที่สุดในการปลุกเร้าผู้คน  เขาพูดต่อ “ไม่ว่าเซียนจะแข็งแกร่งเพียงไหนก็ตาม เขามักจะมีจุดอ่อนอย่างหนึ่งอยู่เสมอ  ต่อให้ฝูอิงแข็งแกร่ง แต่เขาเป็นแค่เพียงนักสู้บ้านนอกระดับสูง”
คำพูดของมอนตาเรียกความสนใจจากกลุ่มเซียนได้  แม้แต่ถังเทียนก็ยอมฟัง  มอนตายิ่งกระตือรือร้นมากขึ้น
 “เขามีเพียงวิชาจิตวิญญาณต่างๆ แค่สามวิชา รวมๆ แล้วจึงดูเหมือนกลายเป็นวิชาโจมตีระดับเงิน  วิชาท่าร่างชั้นบรอนซ์ที่โดดเด่นแต่ยังไม่สุดยอดและวิชาป้องกันระดับบรอนซ์ที่น่าเกรงขาม  ดังนั้นก็อย่างที่ข้าบอกเขาเป็นแค่ยอดฝีมือบ้านนอกระดับสูงที่ไม่มีสมบัติวิญญาณที่แท้จริง  เทียบกับนายใหญ่ที่นี่แล้วเป็นผู้ทรงอำนาจที่ร่ำรวย ไม่มีใครเลยที่ใกล้เคียงเขา”
มอนตาไม่ลืมที่จะยกยอถังเทียนด้วย  แต่เขาต้องพูด เพราะเขาก็เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน
 “ว่าต่อ!  ถังเทียนพอใจที่ได้ยินเช่นนั้น  ตามคาดมอนตาจอมลวง เขารู้วิธีล่อหลอกคนอย่างแท้จริง!
 “ฝูอิงไม่มีปัญหาอะไรกับการเอาชนะนักสู้บรอนซ์ทั่วๆ ไป  ด้วยพลังดาบเกียรติยศ ไม่มีใครหยุดเขาได้  วิชาเหาะของเขาจะช่วยเพิ่มพลังรุกให้เขามากขึ้น  แต่เขามีจุดอ่อนก็คือพลังป้องกันของเขา  นอกจากนี้วิชาบินของเขามีค่าพลังวิญญาณเพียง 100 จุดซึ่งไม่ถือว่าแข็งแกร่งนักสำหรับวิชานั้น  เราจะมุ่งเน้นที่จุดอ่อนของเขา
มอนตาตื่นเต้นมากกับการมีโอกาสฆ่าฝูอิง  ความจริงที่บอกก็คือการได้เปรียบจากรายงานข่าวกรองโดยไม่ต้องสู้กับฝูอิงนับเป็นประโยชน์ต่อพวกเขามากมาย
 “ค่าวิญญาณเริ่มต้นของย่างเท้าเงาคือ 5 จุด เขาสามารถฝึกจนถึง 68 จุดได้นั่นถือว่าเป็นความสำเร็จที่ไม่ธรรมดา  อย่างไรก็ตามวิชานี้เน้นที่การหลบหลีกหลบหนีระยะสั้นเท่านั้น  ถ้าเป็นกรณีนั้น อย่างนั้นรัศมีการโจมตีของเราจะต้องกว้าง เพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่มีทางหลบหนีไปได้  ใครที่เป็นผู้เชี่ยวชาญวิชาจิตวิญญาณพลังโจมตีความฝันที่มีรัศมีกว้าง?”
มอนตาหันไปมองรอบๆ  ขณะที่เขาถามเซียนรอบตัวเขา
เซียนคนหนึ่งเงยหน้าขึ้น  “ข้าเอง  วิชาของข้าคือทะเลเมฆใช้ค่าพลังวิญญาณ 70 จุด”
มอนตาตาเป็นประกาย “ดี!
เซียนคนอื่นๆ แสดงความประหลาดใจ  วิชาทะเลเมฆเป็นวิชาจิตวิญญาณขนาดใหญ่ที่สามารถสร้างก้อนเมฆเพื่อดักศัตรู  เมื่อศัตรูถูกดักไว้ในเมฆ  เขาจะกลายเป็นคนสับสน แม้แต่ตอนที่เขาคิดว่ากำลังเดินเป็นเส้นตรง  แต่เขากลับเดินอ้อมเป็นวงแทน
วิชาจิตวิญญาณแบบนี้พวกเซียนของกลุ่มมหาอำนาจมักจะเรียนรู้ไว้เสมอ เหมาะกับการทำสงครามขนาดใหญ่  แต่ในฐานะเซียนอิสระ มีน้อยมากที่เรียนวิชาแบบนี้ เพราะมันสามารถใช้ดักศัตรูได้ก็จริง แต่พลังโจมตียังอ่อน
หลังจากทุกคนฉายประกายความสามารถแล้ว  เซียนคนหนึ่งรู้สึกอาย  “ข้ามีสมบัติวิญญาณอีกอย่างหนึ่ง”
ตอนนี้ทุกคนให้ความสนใจเขา  เขาสามารถใช้ทะเลเมฆของเขาเพื่อดักศัตรูและใช้สมบัติวิญญาณเพื่อเผด็จศึกอีก ถือเป็นความเข้ากันอย่างยอดเยี่ยม  เซียนบางส่วนรู้สึกกลัว  แม้ว่าวิชาทะเลเมฆจะไม่เป็นประโยชน์สำหรับเซียนเต็มที่  แต่ทุกคนเข้าร่วมกับกลุ่มดาวหมีใหญ่แล้ว  วิชานี้จะกลายเป็นมีประโยชน์มาก  เซียนผู้นี้จะกลายเป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้ในอนาคต
 “มีทะเลเมฆซึ่งใช้ค่าวิญญาณ 70 จุด ฝูอิงไม่มีโอกาสหนีแน่  อย่างนั้นเราจะใช้วิชานี้ดักเขาและจัดการเขา” มอนตากล่าว  “จำไว้ว่า พลังรุกของเราจำเป็นต้องกระจายตัว เพื่อที่ว่าจะได้ไม่เพ่งไปที่ตัวบุคคลใดคนหนึ่ง”
 “เราสามารถเพิ่มอะไรบางอย่างลงไปในทะเลเมฆเพื่อล่อความสนใจของฝูอิงได้ไหม?  บางทีอาจเป็นพวกหุ่นเชิดที่มีรังสีเซียน”  ถังเทียนถามหลังจากเขาหวนนึกถึงตอนที่เขาสู้กับฝูอิง  “เขามีความรู้สึกที่แข็งแกร่ง  แม้แต่ข้าใช้เคลื่อนย้ายในพริบตาก็ยังยากจะหลบหลีกจากความรู้สึกของเขาได้”
มอนตาเห็นด้วย  “ไม่ต้องสงสัยเลย ท่านคือเจ้านายใหญ่ของเราอย่างแท้จริง  สติปัญญาของท่านเหนือล้ำกว่าเราทุกคน”
กลุ่มเซียนแอบแช่งชักการกระทำของมอนตา พวกเขาไม่เคยเห็นเขาเอาแต่ยกยอครั้งแล้วครั้งเล่า  แต่วันนี้เขาช่างและน่ารำคาญเป็นพิเศษ
 “ใช่แล้ว, แผนท่านเจ้ากลุ่มดาวยอดเยี่ยมจริงๆ”
 “ไม่มีใครคิดบ้างว่าจะใช้หุ่นเชิดในทะเลเมฆยังไงบ้างหรือ?”
 “ท่านเจ้ากลุ่มดาวฉลาดที่สุดและรู้ดีที่สุดกว่าพวกเรา!”
……

ถังเทียนไม่สนใจความเห็นของคนพวกนี้ทุกคน เขายังคงคิดถึงกลยุทธ์หุ่นเชิดและนั่นเป็นความคิดที่ดี  เขายังคงคิดว่าการใช้แค่ทะเลเมฆยังไม่สามารถดักฝูอิงได้  พวกเขาจำเป็นต้องเพิ่มกลยุทธ์และแผนการเพื่อให้สำเร็จ
เฮ้..ข้าลืมไปได้ยังไงกัน...
ถังเทียนเงยหน้า  “ใช้พิษเป็นยังไงบ้าง?  ข้ามีพิษตั้งมากมาย  พิษที่เป็นหมอกอย่างนั้นสามารถใช้ร่วมกับทะเลเมฆได้  เพื่อเป็นฉากหน้ากันตรวจเจอ  นี่เป็นแนวความคิดที่ดี ยิ่งเป็นพิษสีขาวยิ่งดีที่สุด...”
พิษ... มีอยู่มาก....
ถึงรอบนี้ ทุกคนพากันเงียบ
พวกเขาทุกคนขนลุกเกลียวเมื่อนึกได้ว่าสงครามครั้งแรกถูกนำมาใช้โดยถังเทียน  พวกองค์การวิญญาณมืดทำให้สวรรค์วิถีตกอยู่ในสภาพหวาดกลัว  ฉากภาพความวุ่นวายนั้นยังคงอยู่ในใจของทุกคน
 “ข้าจะต้องไปตรวจดู  ถ้าข้าจำไม่ผิด  เราอาจค้นคว้าพิษใหม่ซึ่งมีผลต่อเซียนได้แล้ว...”
ถังเทียนรำพึงกับตนเอง
ทุกคนตกใจเมื่อได้ยินว่าพิษที่มีผลต่อเซียน
ทุกคนสีหน้าซีดขาว
ถังเทียนตัดสินใจไปเมืองสามวิญญาณเพื่อดูด้วยตัวเอง
ฝูอิงลืมตาซึ่งมีประกายเจิดจ้า  แขนซ้ายของเขาหายไปอย่างสิ้นเชิง สิ่งที่เหลือก็คือรอยแผลไหม้  หลังจากฟื้นฟูสองวันพลังต่อสู้ของเขาก็กลับคืนมา
เมื่อเขากลับไปสำนักงานใหญ่สมาพันธ์ชาวยุทธ  เขาจะหาวิธีสร้างแขนของเขา  แต่เมื่อใดก็ตามที่เขาคิดเรื่องการต่อสู้ในคืนนั้น  เขาจะเต็มไปด้วยความโกรธ  หลังจากผ่านการสู้รบมาหลายศึกและฆ่านักสู้มามากมายนับไม่ถ้วน  เขายังได้รับบาดเจ็บอย่างหนักพ่ายแพ้หนักขนาดนั้นได้ยังไง
เขาตัดสินใจไม่รอกองพลใบไม้แดง  เขาเหาะออกจากหลุมและมุ่งตรงไปที่เมืองหานกู่
เมื่อเขาเข้าไปในเมืองหานกู่และเห็นป้อมปราการประตูเดี่ยว  ฝูอิงจ้องมองด้วยความโกรธ  การสู้รบของเขาก่อนหน้านั้นกับถังเทียนทำให้เซียนอิสระทุกคนตัดสินใจต่อต้านที่จะเข้าไปในป้อม
ฝูอิงตระหนักได้ทันที  เขารีบไปทางด้านตะวันตกของเมือง  ในเวลาชั่วครู่ เขามาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าเริ่นหรูไห่และพวก
สีหน้าของเริ่นหรูไห่เปลี่ยน  เขารู้ว่าเขากำลังพบกับคู่ต่อสู้ที่น่ากลัว
ฝูอิงทำหน้าเหี้ยมอำมหิตขณะจ้องมองพวกเขา  “พวกเจ้ามีทางเลือกสองทาง จะเข้าร่วมเป็นบริวารของข้าหรืออยากตาย  เมื่องานนี้จบ ข้าจะปล่อยพวกเจ้าเป็นอิสระกันทุกคน”
เริ่นหรูไห่และกลุ่มของเขาตกใจ  ฝูอิงมีพลังที่น่ากลัวทำให้พวกเขาไม่สามารถปฏิเสธคำขอพวกเขาได้  แม้แต่ถงเก๋อก็รู้ว่าพวกเขาไม่ใช่คู่มือของเขาได้
ฝูอิงไม่รอคำตอบของพวกเขา  “เราจะไปหาเซียนที่แข็งแกร่งกว่าใครทั้งหมดบางส่วน”
ที่เมืองสามวิญญาณ  ผู้เฒ่าเฟ่ยคิดไม่ถึงเลยว่าถังเทียนจะมาเอง  เขาตื่นเต้นกับการมาถึงของเขา  แม้ว่าสตรีเหล็กจะไม่อยู่แถวๆ นี้  แต่เมืองสามวิญญาณปัจจุบันก็ให้ความสำคัญกับการมุ่งขยายงานอาวุธจักรกล
หลังจากรู้ว่าถึงเทียนตั้งใจมาที่เมืองเอง  ผู้เฒ่าเฟ่ยไม่ลังเล ส่งหลอดแก้วให้เขา
 “นายท่าน นี่คือพิษใหม่ที่เราได้ค้นคว้ามีนามว่า ขาวลวงตาประโยชน์ของพิษนี้ก็คือไม่ได้เข้าสู่ร่างกายของคนโดยผ่านอากาศ  แต่กลับผ่านพลังงานของคนโดยตรง เมื่อพลังงานได้รับผลจากพิษ ขาวลวงตา แล้วและพลังงานเข้าไปในร่างของคนผู้นั้นแล้ว พิษจะแพร่เข้าไปในร่างกายของผู้นั้นอย่างรวดเร็ว และส่งผลกับสนามพลังวิญญาณทำให้คนผู้นั้นพบกับภาพลวงตา”
ผู้เฒ่าเฟ่ยอธิบายช้าๆ  “พวกเซียนทรงพลังรอบด้าน  ประสิทธิภาพของพิษขาวลวงตานี้สั้น เพียงสิบนาทีก่อนที่สนามพลังวิญญาณของเซียนจะสามารถระบุถึงพิษชนิดนี้ได้”
 “สิบนาทีก็มากเกินพอ!”  ถังเทียนตอบ
ผู้เฒ่าเฟ่ยยังส่งยาต้านพิษจำนวนมากให้ถังเทียนและบอกวิธีป้องกันก่อนที่เขาจะใช้ในการต่อสู้เพื่อไม่ให้เขาได้รับผลร้ายจากพิษ ขาวลวงตาถ้าถังเทียนได้รับพิษอย่างนั้นพวกเขาจะตกอยู่ในความยุ่งยากครั้งใหญ่
ถังเทียนมั่นใจเมื่อเขายื่นมือไปรับพิษขาวลวงตา
เขาเตรียมตัวรับมือฝูอิงเป็นอย่างดี

8 ความคิดเห็น:

PKMint กล่าวว่า...

โดนเชือดอีกศพ 555+

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

พระเอกช่างเลวได้ใจนัก

นักอ่านนิรนาม กล่าวว่า...

พิษอะไรขาวขุ่น ๆ นะ 😄

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

windwolf กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Anny กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะ

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

เขาจะรวยไหมครับ

แสดงความคิดเห็น