วันศุกร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2561

Panlong เล่มที่ 9 สร้างชื่อสะท้านโลก – ตอนที่ 16 ของขวัญร่วมยินดี


เล่มที่ 9 สร้างชื่อสะท้านโลก ตอนที่ 16 ของขวัญร่วมยินดี
พระราชวังหลวงตกอยู่ภายใต้การคุ้มกันอย่างแน่นหนา อัศวินผู้กล้าพบเห็นได้ทุกที่พอๆกับนางกำนัลผู้งดงามในวัง  จักรพรรดิโจฮันน์และลินลี่ย์เดินเคียงคู่กัน โดยมีวอร์ตันเดินตามหลังพวกเขา  ด้านหลังคนทั้งสามนี้มีทหารมหาดเล็กจำนวนหนึ่งและนางกำนัลประจำวังเดินตาม  ทหารทุกคนที่พบพวกเขาคำนับพวกเขาอย่างสุภาพเมื่อได้เห็นจักรพรรดิโจฮันน์

 “นี่คืออาจารย์ลินลี่ย์”  นักรบหลายคนเมื่อเห็นลินลี่ย์เดินเคียงคู่จักรพรรดิโจฮันน์ ก็เริ่มพึมพำเบาๆ กันเอง
สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความเคารพและชื่นชมลินลี่ย์  พวกเขายังอายุน้อยทุกคนและหลายคนยังไม่แก่กว่าลินลี่ย์  คนหนุ่มหลายคนในจักรวรรดิตั้งลินลี่ย์เป็นเป้าหมายที่พวกเขาจะต้องไปให้ถึง
 “จักรวรรดิโอเบรียนขึ้นชื่อว่าทรงอำนาจทางทหารมากที่สุดในบรรดาหกมหาอำนาจ  นักรบทั้งหมดนี้ในวังหลวงล้วนแข็งแกร่งมากทั้งนั้น”  ตามรายทางลินลี่ย์สังเกตว่าที่นี่ไม่มีนักรบแม้แต่คนเดียวที่มีระดับต่ำกว่าหก
ส่วนใหญ่จะระดับหกและหลายคนที่มีระดับเจ็ด  แม้ระดับแปดก็มีสองสามคนก็ยังพอเห็นได้อยู่
แม้แต่องครักษ์เดินยามธรรมดาก็แข็งแกร่งมาก  ใครจะสามารถคิดได้ว่าทั้งอาณาจักรนั้นจะทรงพลังมากมายเพียงไหน
 “ลินลี่ย์, ดูสิ สายตาขององครักษ์จะเป็นประกายเมื่อพวกเขาเห็นเจ้า  ข้าเกรงว่าในใจของพวกเขา ความเคารพที่พวกเขารู้สึกต่อเจ้าจะยิ่งใหญ่กว่าเราเสียอีก”  จักรพรรดิโจฮันน์ตรัสพลางทรงพระสรวลพลาง
ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น
ตั้งแต่การประลองที่สนามประลองครั้งนั้น ชื่อเสียงของลินลี่ย์แพร่กระจายไปทั่วจักรวรรดิโอเบรียน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะอายุของเขา  เขาจึงกลายเป็นตำนานไปแล้ว
ลินลี่ย์อยู่ในวัยยี่สิบ และไม่ใช่แค่เป็นประติมากรอัจฉริยะเท่านั้น  แต่ยังคงเป็นจอมเวทอัจฉริยะและเป็นนักรบระดับเซียน  ในหัวใจหลายคน  แม้ว่าพวกเขาไม่มีมีพรสวรรค์เท่ากับลินลี่ย์  ตราบใดที่พวกเขาฝึกฝนอย่างหนัก  พวกเขาอาจบรรลุถึงความสำเร็จอย่างลินลี่ย์ได้สักหนึ่งในสิบก็ยังดี  นั่นก็ทำให้พวกเขามีความสุขแล้ว
ความจริงเหตุการณ์นี้ทำให้ผู้เยาว์มากมายในจักรวรรดิขะมักเขม้นฝึกฝนกันมากยิ่งขึ้น
จักรวรรดิโอเบรียนยืนหยัดมายาวนาน เมื่อใดก็ตามที่มีอัจฉริยะปรากฏตัวขึ้น  จักรวรรดิจะแพร่กระจายข่าวไปอย่างเป็นทางการร่วมกับข่าวลือในหมู่ชาวบ้านธรรมดา  ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับพลเมืองของจักรวรรดิจึงมีอย่างกว้างขวาง
….

ในอุทยานของวังหลวง มีงานจัดเลี้ยง โต๊ะเต็มไปด้วยอาหารและผู้ที่นั่งอยู่มีเพียงจักรพรรดิโจฮันน์ ลินลี่ย์และวอร์ตัน
พนักงานประจำวังลำเลียงอาหารเลิศรสจานแล้วจานเล่ามาวางบนโต๊ะ  ขณะที่องครักษ์รายล้อมพวกเขามองพวกเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
 “พวกเจ้าทุกคนออกไปกันได้แล้ว”  จักรพรรดิโจฮันน์โบกพระหัตถ์
 “พระเจ้าค่ะ..ฝ่าบาท”
พนักงานชายหญิงและองครักษ์แยกย้ายไปหมด  ในไม่ช้าก็มีแต่เพียงโจฮันน์ ลินลี่ย์และวอร์ตันเท่านั้น
จักรพรรดิโจฮันน์มองดูวอร์ตัน  ความจริงขณะที่เดินไปทั่ววัง ใจของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย
ทำไมเทพสงครามถึงต้องการช่วยวอร์ตัน?
ในจักรวรรดิ เทพสงครามมีอำนาจสูงที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย  วอร์ตันไม่มีทางเทียบเขาได้ เทพสงครามและวอร์ตันก็มีแนวโน้มว่าจะไม่มีความสัมพันธ์กันมาก
 “เป็นไปได้ไหมว่าบรรพบุรุษที่เคารพของเรา เทพสงครามมีความเกี่ยวข้องกับบรรพบุรุษของตระกูลนักรบเลือดมังกร? ไม่น่าจะเป็นอย่างอื่นไปได้  ห้าพันปีที่แล้ว  เมื่อจักรวรรดิก่อตั้ง บาลุคนักรบเลือดมังกรก็มีชื่อเสียงมากแล้วเป็นความจริง  แต่พวกเขาไม่มีอะไรมากไปกว่านักสู้ระดับเซียนชั้นสูง  ยังมีความห่างชั้นระหว่างพวกเขากับเทพสงครามช่วงใหญ่  และทั้งสองมีความเกี่ยวพันแบบไหนกันแน่?”
จักรพรรดิโจฮันน์ไม่เชื่อเรื่องนั้น
เทพสงครามคือผู้ที่อยู่ในระดับเดียวกับนักพรตสูงสุด  จะมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับบาลุคมากขนาดไหน?  ต่อให้มี แล้วเป็นไปได้ไหมที่ลึกซึ้งเพียงพอจนถึงกับต้องช่วยลูกหลานของบาลุคในห้าพันปีต่อมา?
 “วอร์ตัน!  จักรพรรดิโจฮันน์ไม่คิดอะไรมากต่อไป  เขายิ้มและตรัส “ต่อไปเจ้ากับนีน่าก็จะต้องอยู่ด้วยกันแล้ว  เจ้าต้องดูแลนีน่าให้ดี  เด็กคนนี้เป็นองค์หญิงเจ้าอารมณ์  เราหวังว่าเจ้าจะปฏิบัติกับนางเป็นอย่างดี”
วอร์ตันยืดอกรีบทูลทันที “ฝ่าบาท, มิต้องทรงกังวล”
แต่ลินลี่ย์จ้องมองจักรพรรดิโจฮันน์
 “สองสามวันก่อน  เคย์ลันบอกว่าจักรพรรดิโจฮันน์จะเลือกบลูเมอร์ แต่ตอนนี้...”  ลินลี่ย์ยังงงกับเรื่องนี้
ลินลี่ย์ถามตามตรง  “ฝ่าบาท, ข้าพระองค์ขอทูลถาม,  ทำไมพระองค์ถึงเลือกวอร์ตันน้องชายข้าพระองค์?”
จักรพรรดิโจฮันน์สะดุ้งเล็กน้อย
 “ฮะฮะ..”  จักรพรรดิโจฮันน์ทรงพระสรวลเสียงดัง  “ลินลี่ย์, เราพูดเรื่องนี้ไปที่ตำหนักแล้วมิใช่หรือ?  เราไตร่ตรองหลายอย่างจากจุดยืนของนีน่าด้วย  ที่สำคัญคือ นีน่าชอบพอกับวอร์ตัน  เรายินดีอย่างลึกซึ้งที่เราสามารถนำความสุขมาให้นีน่าได้”
ลินลี่ย์ลอบหัวเราะ
ถ้าจักรพรรดิโจฮันน์พิจารณาหลายอย่างจากจุดยืนของนีน่าจริงๆ  อย่างนั้นเมื่อวอร์ตันทูลขอแต่งงานนาง เขาคงไม่ทอดเวลายาวนานจนมีเหตุการณ์เกิดขึ้นตามมาเป็นพรวนกว่าจะยอมรับได้
จักรพรรดิโจฮันน์เห็นสีหน้าท่าทางของลินลี่ย์  “อะไรกัน?  เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ, ลินลี่ย์?”
 “ข้าพระองค์ไม่ปักใจเชื่อเต็มที่นัก”  ลินลี่ย์โพล่งออกมา
จักรพรรดิโจฮันน์สะดุ้ง ใครจะกล้าพูดเช่นนั้นต่อหน้าพระองค์?  แต่คนที่พูดคำเหล่านี้ก็คือลินลี่ย์ ยอดฝีมือระดับเซียนชั้นสูง  จักรพรรดิโจฮันน์หัวเราะเบาๆ แก้เก้อ  “ความจริง เรายอมรับว่าแต่เดิมเราก็พิจารณาบลูเมอร์”
นั่นมีแนวโน้มอย่างนั้น
แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่ลินลี่ย์ได้พบกับเคย์ลัน  แต่เขารู้สึกว่าเคย์ลันเป็นคนที่เชื่อถือได้
 “ลินลี่ย์, เจ้าควรจะรู้ว่าในความเป็นจริง เป็นยอดฝีมือระดับเซียนจะกำหนดความรุ่งเรืองและล่มสลายของจักรวรรดิได้”  จักรพรรดิโจฮันน์ถอนหายใจ  “ยอดฝีมือระดับเซียนสามารถฆ่าแม่ทัพทหารฝ่ายศัตรูได้อย่างง่ายดายแม้จะมีทหารเป็นล้านล้อมรอบ  ส่วนจอมเวทระดับเซียนมีคาถาทำลายล้างต้องห้ามและทำลายกองทัพที่มีคนเป็นล้านได้  อาจกล่าวได้ว่าในสายตาของคนธรรมดาระดับเซียนก็คือยอดฝีมือไร้เทียมทาน”
ลินลี่ย์พยักหน้า  เมื่อเขายังอายุน้อย  ระดับเซียนเป็นนักสู้ที่สูงสุดแน่นอนในชีวิตที่เจอมา
 “แม้ว่าเราจะเป็นจักรพรรดิ  เราก็ไม่กล้าออกคำสั่งเซียน  ถ้าเรารุกรานพวกเขา พวกเขาอาจไปจากจักรวรรดิได้  เราเชื่อว่ามีหลายสถานที่รอต้อนรับการมาถึงของยอดฝีมือระดับเซียน” จักรพรรดิโจฮันน์ฝืนหัวเราะ
ลินลี่ย์เข้าใจตรงนี้
ถ้ายอดฝีมือระดับเซียนจะหนีไป เนื่องจากความสามารถในการบินของพวกเขา นั่นเป็นเรื่องง่ายมาก
 “บลูเมอร์และวอร์ตันทั้งสองคนมีแนวโน้มว่าจะบรรลุถึงระดับเซียนในอนาคต  แต่ปัญหาที่สำคัญก็คือ  บลูเมอร์เป็นคนของวิทยาลัยเทพสงคราม  ยอดฝีมือทั้งหมดของจักรวรรดิรวมกลุ่มอยู่ที่วิทยาลัยเทพสงคราม  เราไม่ต้องการขัดใจกับวิทยาลัยเทพสงคราม  ที่สำคัญมีกลุ่มยอดฝีมือระดับเซียนอยู่ที่นั่น ไม่ใช่แค่คนหรือสองคน!”
กลุ่มยอดฝีมือระดับเซียน แค่ได้ยินคำพูดนี้ก็เพียงพอทำให้ผู้คนสั่นสะท้านได้
 “ศิษย์สำนักเดียวกับบลูเมอร์เข้ามาพูดมาคุยให้บลูเมอร์  เราไม่มีทางเลือกเลย”  จักรพรรดิโจฮันน์ส่ายพระพักตร์ถอนหายใจ
 “อย่างนั้นทำไมพระองค์ถึงเลือกน้องชายข้าพระองค์ในที่สุดเล่า?”  ลินลี่ย์ถาม
เขาสงสัยเรื่องนี้มาตลอดเวลา  เหตุผลใดกันแน่?
จักรพรรดิโจฮันน์จ้องมองลินลี่ย์กับวอร์ตันอย่างงงงัน  “ลินลี่ย์, ตระกูลบาลุคเจ้ามีสัมพันธ์ใดในทางประวัติศาสตร์กับเทพสงครามหรือไม่?”
 “เทพสงคราม?”
ลินลี่ย์เข้าใจทันที เขาตกใจทูล “ฝ่าบาท, พระองค์ตรัสว่าเป็นเทพสงครามทำให้พระองค์เลือกวอร์ตันหรือพระเจ้าค่ะ?”
 “ถูกแล้ว”  จักรพรรดิโจฮันน์ตรัส  “ลินลี่ย์ คิดดูให้ดี ในจักรวรรดิ ใครจะมีน้ำหนักมากกว่าสมาชิกของวิทยาลัยเทพสงคราม?  มีแต่เทพสงครามผู้ทรงอำนาจที่สุดในแผ่นดิน”
 “บรรพบุรุษที่เคารพของเรา เทพสงครามบอกกับเราทางใจตรงๆ และสั่งให้เราเลือกวอร์ตัน”  แววตื่นเต้นยังอยู่ในดวงตาของจักรพรรดิโจฮันน์  “นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้ยินเสียงเทพสงคราม บรรพบุรุษของเรา”
เทพสงคราม!
เป็นเทพสงครามจริงๆ!
เทพสงครามคือบุคคลที่เหลือเชื่อ  ห้าพันปีที่แล้ว  เขาสู้รบกับนักพรตสูงสุดเหนือแม่น้ำยูลานที่หยุดนิ่ง พิสูจน์ว่าเขาเป็นนักสู้ระดับเทพแน่นอน
หลังจากห้าพันปี  แม้ว่าไม่มีใครเคยเห็นเทพสงครามสู้อีกเลย  แต่ทุกคนเข้าใจว่า เนื่องจากพรสวรรค์ธรรมชาติของเทพสงคราม  เขาก็ยังมีพลังที่น่ากลัวมากขึ้นในตอนนี้
เทพสงครามฝึกได้รวดเร็วเหลือเชื่อ จากบุคคลธรรมดา ไปเป็นระดับเทพในช่วงเพียงไม่กี่ร้อยปี
เขายกระดับฉับพลันเมื่อห้าพันปีก่อนทำให้ชื่อเสียงและเกียรติยศของเขาครอบคลุมสี่สุดยอดนักรบ กลายเป็นดาวจรัสฟ้าแห่งยุคนั้น
 “เทพสงครามช่วยน้องชายของข้า?”  ลินลี่ย์ไม่อาจเข้าใจได้
 “อาจเป็นไปได้ว่าเขารู้ว่าด้านเรามียอดฝีมือระดับเซียนถึง 6?” ลินลี่ย์เริ่มสงสัย เนื่องจากพลังของเทพสงคราม เขาย่อมรู้สึกได้ถึงพลังของกองกำลังของลินลี่ย์ได้
ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ
เป็นไปไม่ได้  สำหรับเทพแล้ว พวกเซียนไม่มีอะไรเลย มีแนวโน้มว่าเทพสงครามสามารถฆ่าพวกเขาทั้งหกด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
 “อย่างนั้นยังจะมีเหตุผลใดกันแน่?  เป็นไปได้จริงๆ หรือว่าเพราะเขามีสัมพันธ์บางอย่างกับบรรพบุรุษตระกูลบาลุค?”  ลินลี่ย์ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเบื้องหลังการกระทำของเทพสงครามมีเหตุผลใดกันแน่
…..

ด้านตะวันตกของเมืองหลวง  ภูเขาเทพสงคราม นอกจากยอดเขาหลักแล้ว  ยังมียอดเขาอื่นอีกสี่ยอด มีถ้ำธรรมชาติเชื่อมยอดเขาสองยอดเข้าด้วยกัน
แลงค์และคาสโตรกำลังเดินเคียงไหล่ไปตามถ้ำ
หลังจากเดินเข้าไปหลายร้อยเมตรผ่านอุโมงค์ถ้ำที่คดเคี้ยว อุโมงค์พลันชันลงอย่างรวดเร็ว  ถ้ามีคนจ้องมองหลุมมืดลึกอย่างน่าทึ่งจะมองไม่เห็นสิ่งใดสักอย่าง ไม่มีผู้ใดสามารถบอกได้ว่าอุโมงค์ลึกเพียงใด
 “วูบบบ”
แลงค์และคาสโตรกระโดดลงไปในหลุมลึก  พวกเขาร่วงลงไปด้วยความเร็วค่อนข้างช้า  หลังจากร่วงลงมาหลายพันเมตร ทั้งสองคนก็ลงสัมผัสที่พื้นอย่างนุ่มนวลเหมือนใบไม้ร่วง  จากทางเข้าอุโมงค์ถึงหลุมนี้เพียงพันเมตร แต่หลุมนี้ยังลงไปใต้ดินอีกหลายพันเมตร
 “อาจารย์มักใช้เวลาปิดประตูฝึกฝนตามปกติ  และเมื่อใดก็ตามที่ท่านทำเช่นนั้น  ปกติท่านจะใช้เวลาหลายปี หลายสิบปี หรืออาจเป็นการฝึกระยะยาว  เมื่อท่านมาช่วยฝึกฝนให้  ท่านไม่เคยพูดทางจิตกับเรา  แต่ครั้งนี้ที่ตำหนักผู้กล้า ท่านส่งพลังทางจิตและบอกเราให้บอกโจฮันน์เลือกวอร์ตัน  จากนั้นก็บอกให้เรากลับมาที่นี่”  แลงค์รู้สึกประหลาดใจ
นี่นับว่าตรงกันข้ามกับนิสัยของเทพสงครามมาก
มีน้อยเรื่องในโลกซึ่งนักพรตอย่างเทพสงครามจะออกคำสั่งเอง
 “ศิษย์น้อง ไม่ต้องคิดมากเกินไปหรอก  อาจารย์มีเหตุผลของการกระทำอย่างนี้แน่นอน  ทั้งหมดที่เราต้องทำก็คือ เชื่อฟัง”  คาสโตรกล่าว
 “ศิษย์พี่พูดถูก”  แลงค์พยักหน้า
สำหรับศิษย์ของวิทยาลัยเทพสงคราม คำสั่งของเทพสงครามไม่อาจละเลยได้  พวกเขาจะต้องทำทุกอย่างที่เทพสงครามสั่งให้พวกเขาทำ  ไม่มีความจำเป็นต้องคิดอะไร
 “ครืนนน...” ความร้อนที่แสบผิวรู้สึกได้จากส่วนลึกของในถ้ำ  ขณะที่พวกเขาเดินเข้าไป หินค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงเช่นกัน
อุณหภูมิที่นี่สูงมาก
หลังจากเข้าไปมากกว่าร้อยเมตรแล้ว แลงค์และคาสโตรก็มาหยุดอยู่หน้าประตูหินสีดำสนิท ผนังหินล้อมประตูนี้มีสีแดงจัดและอุณหภูมิสูงจัด  แม้แต่แลงค์กับคาสโตรยังต้องใช้ปราณยุทธที่เท้าเพื่อป้องกันตนเอง
ถ้ากระดาษชิ้นหนึ่งถูกโยนออกไป เป็นไปได้ว่าจะถูกผลาญจนไม่เหลืออะไรทันที
 “เจ้ามากันแล้ว”  เสียงสงบเย็นดังขึ้นจากหลังประตู
เสียงของเทพสงครามนุ่มนวล  แต่มีพลังทะลุทะลวง  เสียงเป็นเหมือนกับเข็มชอนไชเข้าไปในวิญญาณของคน  คาสโตรและแลงค์ ศิษย์ทั้งสองคนของเขาแม้จะสงสัยว่าเทพสงครามอาจทำให้วิญญาณของพวกเขาหลุดลอยได้โดยใช้แค่เพียงเสียงอย่างเดียว
นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่คาสโตรและศิษย์คนอื่นของเทพสงครามกลัวอาจารย์ของพวกเขามาก  เทพสงครามทรงพลานุภาพมากจริงๆ
 “ขอรับอาจารย์”  คาสโตรและแลงค์พูดด้วยความเคารพ  คาสโตรพูดต่อ  “อาจารย์,  ท่านมีอะไรจะแนะนำพวกเราบ้าง?”
เสียงของเทพสงครามดังขึ้นอีกครั้ง  “วันที่ 12 เมษายนจะเป็นวันพิธีหมั้นหมายของเจ้าหนูวอร์ตัน  ไปบอกศิษย์พี่ใหญ่ของเจ้าให้เตรียมแหวนมิติเก็บสมบัติวงหนึ่ง ในวันพิธีหมั้นของเจ้าเด็กวอร์ตัน ให้มอบแหวนนี้เป็นของขวัญวันหมั้นของเขา”
คาสโตรและแลงค์ตะลึงไปหมด
เทพสงครามจะประทานของขวัญวันหมั้น?
เรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน  แม้เมื่อพวกเขาที่เป็นศิษย์ส่วนตัวแต่งงาน เทพสงครามไม่ได้ใส่ใจ  ที่สำคัญคือ คนระดับเทพสงครามต้องส่งของขวัญร่วมยินดีให้ผู้อื่นด้วยหรือ?  แม้ว่าเขาต้องการจะทำเช่นนั้น แต่ว่าใครจะคู่ควรแก่การรับของขวัญจากเขา?
แต่ตอนนี้เทพสงครามสั่งพวกเขาให้ส่งของขวัญแสดงความยินดีไปร่วมฉลองงานหมั้นหมายของวอร์ตัน?
 “ตอนนี้ พวกเจ้าไปได้แล้ว”  เสียงสงบของเทพสงครามดังก้องในอุโมงค์อีกครั้ง
คาสโตรและแลงค์จ้องดูประตูหินดำสนิท จากนั้นมองหน้ากันเอง  แม้ว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจแม้แต่น้อย  แต่พวกเขามิกล้าขัดคำสั่งของเทพสงคราม
 “ขอรับ, อาจารย์”  แลงค์และคาสโตรตอบ  เสียงของเขาเต็มไปด้วยความเคารพไม่มีใครเหมือน

10 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

แอด ทำไมมีถังเทียนโผล่มาเรื่องนี้ 555

Unknown กล่าวว่า...

ถังเทียนมาจากไหนนนน
สะดุ้ง
อิอิ

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ถังเทียนเริ่มสงสัย 55555

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณมากคับ

GG กล่าวว่า...

ขอบคุณ

นักอ่านนิรนาม กล่าวว่า...

ที่เทพสงครามช่วย อาจจะเพราะสัมผัสได้ถึงแหวนปู่เดลินที่ลินลี่ย์ใส่อยู่ก็ได้
ตอนลินลี่ย์มาวังอาจยังไม่แน่ใจ แต่พอมาตำหนักผู้กล้าก็สัมผัสได้ไรงี้
สองคนสี้อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกันก็ได้

สุดยอด กล่าวว่า...

มีปมให้ลุ้นอยู่เรื่องจริงๆ ^^

ทิชา กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

MAXNY กล่าวว่า...

ลืมไปเรื่องแหวนไปเลยผม มันทำอะไรได้บ้างนอกจากบัฟลดใช้มานา 15% เนี้ย อ้อลืมไปเก็บวิญญานได้อีก อนาคตพระเอกอาจสูญเสียร่างไป แล้วไปอยู่ในแหวนก่อน

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุนคับ

แสดงความคิดเห็น