ตอนที่
705 กฎปรับสภาพร่างกาย
ถังเทียนรู้สึกว่าหมัดของเขาหนักเหมือนภูเขา เขากัดฟันทน กล้ามเนื้อทุกมัด
กระดูกและเอ็นทุกท่อนกำลังสั่นด้วยความถี่ที่น่าประหลาดใจ ความแข็งแกร่งทางกายปะทุออกมาในส่วนต่างๆ
ของร่างกายเขา
ความเปลี่ยนแปรต่างๆ
นับไม่ถ้วนผุดขึ้นมาในใจของถังเทียน
และทั้งหมดนั้นพัฒนาขึ้นมาจากวิชาหมัดพื้นฐานของเขา พลังทุกรูปแบบที่ปรากฏจะทำให้พละกำลังในร่างของเขากระตือรือร้นขึ้น
ราวกับว่ามีความสอดคล้องกัน
ถังเทียนมีความสุขเพลิดเพลิน
และบังคับควมคุมการไหลเวียนพลังในร่างกายเขา
แม้ว่ารูปแบบทั้งหมดจะปรากฏในใจของเขา กระแสพลังจะถูกหยุดและเปลี่ยนไปทันที
พลังทะลักไปทั่วร่างและมารวมกันที่หมัดของเขา
เหมือนกับพันลำธารไหลไปบรรจบกับมหาสมุทร พลังเล็กน้อยนับไม่ถ้วนไหลมาบรรจบต่อเนื่อง
และขยายมากขึ้นๆ กลายเป็นสภาพทรงพลังในปัจจุบัน
พลังในหมัดของเขายังคงเพิ่มขึ้นช้าๆแต่แน่นอน
ความเปลี่ยนแปลงที่มองเห็นอย่างเลือนรางนับไม่ถ้วนเหมือนกับกิ่งก้านที่ถูกตัดจากต้นไม้ ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือ ในกิ่งไม้เหล่านั้นอาจจะมีรูปรอยที่แตกต่างกันขนาดที่แตกต่าง แต่ละกิ่งอาจจะมีรูปรอยที่แยกแตกต่างไป
พลังที่เกิดจากร่างกายของเขาโคจรไปรอบตัวอย่างรวดเร็ว
การเปลี่ยนแปลงหลากหลายรูปแบบยังมีนับไม่ถ้วน
หมัดที่ดูเหมือนช้าปล่อยออกตามใจนึก
เหมือนดวงดาวระยิบระยับในท้องฟ้ากว้างใหญ่
อากาศในห้องดูเหมือนจะถูกดูดเข้ามาในหมัดเปลี่ยนเป็นหนืดและข้นทำให้หมัดถังเทียนช้ามาก
ชี่....
เสียงเบาดังออกมา และห้องมืดเต็มไปด้วยแสงทันที
แสงและลำแสงสีแดงปรากฏอยู่ภายในหมัดของถังเทียน
หมัดของถังเทียนยังคงเคลื่อนไปข้างหน้าช้าๆ
ซี.. ซี่... ซี่... แสงกระพริบและปั่นป่วนขัดแย้งสว่างวาบหลายครั้ง
ราวกับแสงสีรุ้งรวมตัวกันอยู่ที่หมัดของถังเทียน
นี่คือการปรากฏของกฎธรรมชาติ
หมัดของถังเทียนดูเหมือนสูบเอาพลังที่ลึกลับอย่างหนึ่ง
สูบเอากฎธรรมชาติกลายเป็นแสงสว่างเจิดจ้า
รัศมีแสงสดใสอย่างต่อเนื่อง
และจำนวนลำแสงที่บรรจบครอบคลุมหมัดของถังเทียนยิ่งมากขึ้นทุกที แสงสายรุ้งที่เฉิดฉายเหมือนกับสีรุ้งกำลังว่ายวนไปรอบๆ
และกลายสภาพเป็นม่านพลังรูปกรวย
ลำแสงแตกแขนงออกมายุ่งเหยิงเหมือนกับตาข่ายใหญ่ผุดออกมาต่อหน้าถังเทียน
รูปแบบนับไม่ถ้วนผ่านเข้ามาในใจของถังเทียน กฎธรรมชาตินับไม่ถ้วนวาบผ่านดวงตาของถังเทียน
ทันใดนั้น ร่างของถังเทียนแข็งทื่อ
พลังจากร่างกายหยาบของเขาหายไปจากตัวโดยไม่มีร่องรอย
‘แย่แล้ว!’
ถังเทียนไม่มีเวลาแม้แต่จะร้องออกมาดังๆ เพล้ง
ม่านพลังของกฎธรรมชาติที่หุ้มหมัดอยู่ต่อหน้าเขาแตกสลายทันที อากาศที่หนืดเหนียวกลับคืนสู่สภาวะปกติ
จากนั้นเขานึกออกว่าเขาใช้พลังร่างกายไปมากก่อนนั้นแล้ว
และพลังของเขายังไม่ฟื้นคืน
ดังนั้นพลังจากร่างกายของเขาจึงไม่จะรักษาวิชานี้ได้
‘แย่แล้ว....’
ตาของถังเทียนเหลือกกลับ เขาล้มลงกับพื้นหมดสติทันที สองสามวินาทีต่อมาก็กรนเสียงสนั่น พลังงานร่างกายของเขาถูกใช้ไปมาก ดังนั้นจึงฝึกพลังหมัดไม่เสร็จสมบูรณ์
แต่เขาเพิ่งใช้ร่างกายหนักเกินไป และไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ
ร่างพลังกายเป็นศูนย์สามารถฟื้นสภาพได้รวดเร็วมาก
จึงเป็นธรรมดาอยู่นั่นเองที่ทำให้ถังเทียนเข้าสู่สภาวะหลับใหลเพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูเร็วขึ้น
ในอากาศ
คุณชายฉินและหมิงจูซึ่งมาสังเกตดูการสู้รบถึงกับหน้าขาวซีด
และเงียบอยู่เป็นเวลานาน
เมื่อเห็นว่าหมิงจูหน้าซีดขาว คุณชายฉินคิดว่านางตกใจจากการเห็นภาพการต่อสู้
จึงแนะนำให้นางกลับไปพัก
ความจริงเขาก็สั่นพอกัน การสู้รบส่งผลกระทบต่อเขาอย่างมากมาย
จากเหตุนั้นทำให้เขารู้ว่านักสู้ที่แข็งแกร่งแท้จริงเป็นยังไง! เบนสันผู้อำมหิตมีฝีมือยากจะหยั่งถึง
พร้อมกับบุรุษหน้ากากผีผู้บ้าระห่ำ
ทั้งสองคนแสดงการโจมตีที่หลากหลาก
พลังของพวกเขาสามารถทำลายพื้นที่โดยรอบ พวกเขาเบิกตากว้าง
และเขาได้รับผลกระทบอย่างลึกซึ้ง
เทียบรุ่นอาวุโสอื่นผู้คิดฝากเรื่องทั้งหมดให้รุ่นลูก เขารู้สึกละอาย
ทั้งที่ยังปฏิบัติต่อหมิงจูอย่างสุภาพแต่ไม่ค่อยมีอารมณ์เหมือนเคย
หมิงจูพยักหน้า จากนั้นเดินออกจากมา นางทำเข้มแข็งต่อหน้า แต่หัวใจนางปั่นป่วนนานแล้ว เพราะนางรู้สึกว่ารูปร่างของบุรุษหน้ากากผีคล้ายกับบ่าวนามว่าถังเทียน และพวกเขามีความคล้ายคลึงกัน
นางต้องการกลับไปบ้านดูว่าถังเทียนยังอยู่หรือไม่ แต่นางข่มใจไว้
เมื่อได้เห็นว่าบุรุษหน้ากากผีชิงตัวสุภาพสตรีจากเบนสันได้สำเร็จ
หมิงจูรู้ว่าเรื่องจะสร้างผลกระทบเป็นวงกว้าง ไม่มีใครสนใจเกี่ยวกับเบื้องหลังของใครมากนัก แต่หลังจากเกิดเรื่อง ตระกูลต่างๆ
จะต้องกระตือรือร้นหาอาคันตุกะลึกลับผู้นี้แน่นอน
สำหรับเขาแล้วสามารถพาสหายหนีออกมาจากตระกูลมัวร์ได้
ก็มีความเป็นไปได้มากที่สุดที่เขาจะตามหาตามตระกูลอื่นแล้วชิงสหายกลับมา ตระกูลอื่นๆ จะรับมือคนผู้นั้นได้ยังไง? เบนสันได้พิสูจน์พลังของเขาเองแล้ว
แต่ก็ยังไม่ได้เปรียบ เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้
นางไม่รู้ว่าเรื่องจะกลายเป็นเช่นไร แต่นางรู้ว่าเมืองจื่อจวนจะต้องตกอยู่ในความยุ่งเหยิง
แต่เรื่องที่นางกังวลมากกว่าก็คือ
บุรุษหน้ากากผีใช่ถังเทียนหรือไม่?
ถ้าใช่,
อย่างนั้นก็คงไม่ใช่เรื่องดีต่อตระกูลเซวียแน่นอน
นางมั่นใจว่าตระกูลต่างๆ ในเมืองจื่อจวนจะต้องตามหาบุรุษหน้ากากผีแน่ เมื่อตระกูลเซวียเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ในเวลานั้น...
หมิงจูสั่นสะท้านไม่กล้าคาดคิดผลที่ตามมา
นางรีบเหินกลับไปยังบ้านตระกูลเซวียอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นยามเฝ้าปากทาง นางถาม “ถังเทียนอยู่ที่ไหน?”
“ถังเทียน?” พวกยามสับสน
“ข้าไม่เห็นเขา”
หัวใจของหมิงจูสั่นสะท้าน นางขบริมฝีปากและรีบวิ่งไปที่พักของถังเทียน บ่าวทาสที่ผ่านไปมาไม่เคยเห็นคุณหนูดูร้อนรนอย่างนี้ พวกเขาไม่เงยหน้า และได้แต่เงียบ
หมิงจูวิ่งไปที่พักของถังเทียนราวกับลมพัด
ที่ทางเข้า เมื่อได้ยินเสียงกรนดังสนั่น
นางค่อยสงบใจได้
‘ไม่ใช่เขา’
นางผลักเปิดประตูอย่างระมัดระวัง
และเห็นถังเทียนกำลังหลับอยู่บนพื้นเสียงดังสนั่น
ร่างของเขาไม่มีอันตรายแต่อย่างใด ไม่มีข้อกังขาใดๆ อีกแล้ว
ถังเทียนที่กำลังหลับเสียงสนั่น
พึมพำกับตัวเองและพลิกตัวหันหน้าไปทางท้องฟ้านอนแผ่หลา เมื่อถังเทียนกำลังหลับเสียงดังอย่างนั้น
ความโกรธที่นางเก็บไว้พลุ่งขึ้นมาทันที
‘เจ้าหลับขณะปฏิบัติหน้าที่ในคลังสินค้า
และยังทำให้ข้าเสียหน้าต่อหน้าฉินจื่อซาน เจ้าช่างแก้ไม่หายจริงๆ!’
หมิงจูว้ากลั่น “ถังเทียน! เจ้าลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลยนะ! เจ้าเอาแต่หลับทั้งวันทั้งคืน
ขี้เกียจอะไรอย่างนี้
นี่มันเหลวไหลเสียจริง..”
ถังเทียนไม่ขยับแม้แต่น้อย เสียงกรนของเขายังคงดังเหมือนฟ้าคำรามต่อไป
หมิงจูโกรธจนตัวสั่น แต่ในฐานะคนมีการศึกษาดีทำให้ให้นางไม่สามารถพูดคำหยาบคายได้
นางต้องการบอกว่าเขาจะต้องถูกขับออกจากบ้านตระกูลเซวีย แต่เมื่อคิดว่าคุณนายผู้เฒ่าต้องใช้เงินถึงสองแสนเหรียญซื้อเขา
ถ้านางไล่เขาออกไปก็จะเป็นที่สบอารมณ์เขาหรือเปล่า?
หมิงจูยิ่งหน้าตาบูดบึ้งยิ่งขึ้น
นางเคยเห็นตัวสร้างปัญหามามากมาย
แต่นางไม่เคยเห็นคนอย่างถังเทียนที่ทำให้นางรู้สึกจนใจ
นางได้ยินเสียงเคลื่อนไหวด้านหลังนาง
แต่เป็นบริวารของนางที่วิ่งเข้ามาหลังจากได้ยินเสียงวุ่นวาย พอพวกเขามองดู
หมิงจูระงับอารมณ์ที่อยากเตะถังเทียนเอาไว้
นางแค่นเสียงและเดินออกไป
เมื่อเห็นเช่นนั้นทุกคนแตกฮือ ‘เมื่อหมิงจูไม่พอใจ เราคงโชคร้ายต้องพบกับความยากลำบากแน่’ แต่สายตาของพวกเขามองดูถังเทียนเต็มไปด้วยความสงสัย เพราะแม้แต่หมิงจูก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้
ทุกคนออกไปในเวลาอันรวดเร็วและปล่อยถังเทียนไว้ในห้องตามลำพัง
แน่นอนว่า
ถังเทียนไม่รู้เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น เขาเอาแต่หลับส่งเสียงดังลั่น
ไม่มีใครสังเกตเห็นสภาพร่างกายที่แปลกประหลาดของถังเทียน ร่างของเขาสั่นสะเทือนอย่างแผ่วเบา
กล้ามเนื้อทุกตารางนิ้วดูเหมือนเปิดและปิด ราวกับว่ากล้ามเนื้อเหล่านั้นกำลังหายใจ ด้วยระดับสั่นสะเทือนที่เร็วมาก
ร่างของเขากำลังเปล่งแสง แสงจางๆ
นี้ทำให้มองทะลุเห็นเนื้อเขา
แสงรัศมีค่อยๆ สลัวลงและหายไปในที่สุด
เมื่อถังเทียนตื่นขึ้น
เขารู้สึกถึงความปลอดโปร่งที่อธิบายไม่ได้ในทั่วทั้งตัวเขา เมื่อเขาตอบสนอง เขารู้สึกได้เหมือนระเบิดกำแพงเสียงดังเป็นระยะต่อเนื่อง เขาตกใจ
สถานการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้ว
ใช่แล้วหลังจากฝึกร่างพลังกายเป็นศูนย์ แต่หลังจากนั้นไม่ว่าเขาจะฝึกฝนพยายามมากเพียงไหน
ก็ไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลย
‘ทำไมถึงได้เกิดขึ้นอีกครั้ง?’
เขาตรวจสอบร่างกายทันที
และเขาถึงกับตะลึงในทันใด
กระดูก
กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นในร่างกายเขาทั้งหมดมีระดับพลังอย่างที่เขาไม่คาดคิดมาก่อน กล้ามเนื้อทุกตารางนิ้ว แข็งแรงพอๆ
กับด้ายทองดำ กระดูกของเขาดูแปลกประหลาดยิ่งกว่า
เมื่อเขาตรวจดูกระดูกอ่อนของเขาข้างใน
จะมีสีสันความเงางามเหมือนกับหยก
เลือดสีแดงสว่างสดใสของเขามีประกายสีทองเลือนราง
แก่นชีวิตของเขาดูเหมือนจะมีความแข็งแรงขึ้นหลายเท่า
ทันใดนั้นเขาสังเกตส่วนที่เหลือในร่างกายเขา
‘นี่คือกฎ...ธรรมชาติ!’
‘กฎควบคุมกาย’
ทันใดนั้น
เขาเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในที่สุด
ร่างพลังกายเป็นศูนย์
เขากันได้กับกฎอย่างเป็นธรรมชาติ
และด้วยความอ่อนเพลียอย่างเต็มที่ของร่างกายเขา
เนื้อของเขากลายเป็นเหมือนฟองน้ำที่ดูดซับกฎธรรมชาติที่อยู่โดยรอบ
เข้ากันได้ดีกับกล้ามเนื้อของเขาและถูกดูดซับเข้าไป
และเริ่มปรับแต่งเข้ากับร่างกายของเขา
มีประโยชน์มากมายสำหรับร่างพลังกายเป็นศูนย์
แต่ยังมีคำถามที่มักกระทบใจถังเทียนอยู่เสมอ คือแล้วจะพัฒนาให้ก้าวหน้าได้ยังไง?
จนกระทั่งตอนนี้ ถังเทียนจึงได้ตระหนัก ‘ใช่แล้ว ใช้กฎธรรมชาติปรับสภาพร่างกาย! กฎธรรมชาติคือกฎของโลก ใช้กฎธรรมชาติเหล่านั้นปรับแต่งสภาพร่างกาย
ร่างกายจะกลายเป็นแข็งแรงเพียงไหน?’
ถังเทียนอ้าปากหัวเราะลั่น
เขายืนขึ้นและเริ่มทดสอบดู เมื่อเทียบกับแต่ก่อนนี้ ร่างของเขาที่ถูกปรับสภาพโดยกฎธรรมชาติแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่า พลังของเขาเพิ่มขึ้นสามเท่า
นอกจากนี้สภาพร่างกายของเขายังเสริมความแข็งแกร่งอย่างเห็นได้ชัด
ที่สำคัญที่สุดก็คือพลังภายนอกเพิ่มขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนนี้ ถังเทียนลองเคลื่อนไหว
และสามาถรู้สึกได้ถึงพลังที่น่าประหลาดที่สะสมอยู่ในร่างของเขา
ทันใดนั้น
ถังเทียนคิดถึงหมัดที่ถูกขัดจังหวะไว้ก่อนเขาเป็นลม เขายิ่งกระตือรือร้นมากขึ้น ‘ถ้าข้าใช้พลังเรี่ยวแรงทั้งหมดตอนนี้
จะมีผลอะไรเกิดขึ้น?’
แต่หลังจากมองไปรอบๆ แล้ว เขาต้องข่มความคิดนี้ไว้ ถ้าเขาชกออกไปบ้านคงพังพินาศแน่นอน
‘ข้าเพิ่งจะช่วยหานปิงหนิงกลับมา ข้าต้องไม่ทำตัวโดดเด่น’
เมื่อคิดถึงหานปิงหนิง และเห็นว่าท้องฟ้ามืดค่ำแล้ว เขาวิ่งตรงไปที่คลังสินค้าทันที
บ่าวทาสที่ถังเทียนผ่านไปทุกคนมองเขาอย่างเหยียดหยาม
เสี่ยวเหยาบังเอิญผ่านมาเห็นถังเทียน นางร้องเรียกเขาและเตือนเขาอย่างใจดี “ถังเทียน เจ้าอย่าหลับตอนกลางคืนดีกว่า เจ้ามักจะเกียจคร้านอยู่เสมอ พี่หมิงจูจะต้องลงโทษเจ้าแน่นอน”
ถังเทียนสับสน เขาไม่รู้จักเสี่ยวเหยา แต่ก็ยังขอบคุณนาง
เมื่อเห็นว่าถังเทียนดูเหมือนไม่ใส่ใจอะไร เสี่ยวเหยาก็ทำอะไรไม่ได้
ถังเทียนมาถึงคลังสินค้า เขาผลักเปิดประตูใหญ่และหลังจากเข้ามาแล้ว
เขาปิดประตู
เมื่อได้ยินถังเทียนมาถึง หานปิงหนิงปรากฏตัวอย่างเงียบงัน แต่สิ่งที่ทำให้ถังเทียนประหลาดใจก็คือ
ข้างตัวนางมีคนอีกคนหนึ่ง
10 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
น่าจะเป็นคนที่สอนกฎธรรมชาติหลุมดำ(ใช่ปะ)ให้ถังเทียน 5555
กิ้กมา ถังเทียนฆ่ามันส้ะ
สงสัยมาฝากตัวเป็นศิษย์
ขอบคุณครับ
ผิงเสี่ยวซาน แน่ ๆ 55555
ผิงเสี่ยวซานช่ายมั้ย อีกคนอ่ะ
ขอบใจจ้า
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น