วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2562

เล่ม 20 ปริศนามงกุฎ - ตอนที่ 43 มหาเทพพิโรธ


เล่ม 20 ปริศนามงกุฎ - ตอนที่ 43 มหาเทพพิโรธ
 “เจ้า...เป็นเทพพารากอนหรือเปล่า?”
คำถามนี้เป็นสิ่งที่ไม่เพียงแต่คลีเมนไทน์เท่านั้นที่สงสัย  แม้แต่เจ็ดพารากอนที่อยู่ห่างออกไปและกำลังบินมาสมทบก็ยังเต็มไปด้วยความตกใจและเหลือเชื่อ!  ลินลี่ย์ แม้ไม่ได้แปลงร่างมังกรแต่ก็สามารถทำอันตรายคลีเมนไทน์ได้ทั้งที่มีสมบัติมหาเทพ

เขามีพลังแบบไหนกัน?
ช่องว่างระหว่างพลังมากกว่าถึงสิบเท่า!   ทรงพลังมากกว่าพารากอนถึงสิบเท่า?  นอกจากมหาเทพแล้ว ยังมีคนที่ทำอย่างนี้ได้อีกหรือ?  นอกจากนี้ นี่ยังเป็นช่วงที่เขาไม่ได้แปลงร่างมังกร  ถ้าเขาแปลงร่างมังกร ลินลี่ย์จะแข็งแกร่งขึ้นมากขนาดไหนเมื่อเทียบกับพารากอน?  ความคงอยู่ของลินลี่ย์ไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่จริงๆ
 “พารากอน?”  ลินลี่ย์เลิกคิ้ว
 “เป็นไปได้หรือว่า...เจ้ายังบรรลุพลังอย่างอื่นได้?  เป็นไปได้หรือว่าหลังจากเรากลายเป็นพารากอน เรายังสามารถบรรลุพลังระดับใหม่ได้อีก?”  คลีเมนไทน์รีบถาม เครื่องรางจอมเทพไม่ได้เป็นที่ดึงดูดใจสำหรับเทพพารากอน  หลังจากกลายเป็นเทพพารากอนแล้ว  พวกเขาสูญเสียแรงบันดาลใจ  เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าพวกเขาถึงระดับสุดยอดของการฝึกฝนแล้ว  บางคนใช้ชีวิตอย่างสบาย  บางคนก็อยู่อย่างสันโดษ ขณะที่พารากอนอื่นจะควบคุมในฝ่ายพวกตนเอง
แต่เมื่อเห็นลินลี่ย์  เทพพารากอนเหล่านี้พบว่ายังมีความเป็นไปได้ที่จะได้พลังเพิ่มขึ้นอีก!
ทันใดนั้นหัวใจของพวกเขาเริ่มมีไฟลุกโชนอีกครั้ง!
 “ไม่, เป็นไปได้หรือว่าแค่เพราะข้ายังเป็นเทพพารากอน แล้วข้าจะไม่สามารถแข็งแกร่งกว่าท่านสิบเท่าหรือว่าร้อยเท่าได้?”  ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น
 “อือ..”  คลีเมนไทน์ตะลึง  “เจ้า..หรือว่าเป็นเพราะร่างกายของเจ้า?”
 “ถูกแล้ว, ข้าเป็นพารากอน  แต่ร่างของเขายังทรงพลังมากกว่าของท่าน!  ร่างของข้าเทียบได้กับสมบัติมหาเทพ”  ลินลี่ย์ยิ้ม  แม้แต่ตอนนี้ ลินลี่ย์ยังไม่พร้อมจะเปิดเผยความลับของเขาแก่คนทั่วไป
 “ร่างกาย..นี้เทียบได้กับสมบัติมหาเทพอย่างนั้นหรือ?  นั่น..เป็นไปได้อย่างไร?”
คลีเมนไทน์ตอนนี้เข้าใจได้หมด!
เทพพารากอนผู้ใช้พลังมหาเทพมีเหตุผลพอจะพูดได้ว่าเทียบเท่า  แต่ร่างกายของลินลี่ย์เทียบได้กับสมบัติมหาเทพในแง่พลัง  พลังร่างกายอย่างนั้นทำให้พลังโจมตีของลินลี่ย์เพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่าหรือเกือบร้อยเท่ามากกว่าเทพพารากอนทั่วไป
 “ทำไมจะเป็นไปไม่ได้เล่า?  แฮมเมอร์ แม้ว่าเขาจะไม่ใช่เทพพารากอน แต่เขาก็มีพรสวรรค์ธรรมชาติเช่นกัน  พลังโจมตีวัตถุของเขาเทียบได้กับเทพพารากอนแล้ว  ท่านบอกข้าที  ถ้าเขาเป็นเทพพารากอนและยังมีพลังปณิธานด้วย พลังโจมตีวัตถุของเขาจะเหนือกว่าท่านมากไหม?”  ลินลี่ย์หัวเราะอย่างเยือกเย็น
เนื่องจากความทรงพลังของแฮมเมอร์มีก่อนที่จะเป็นเทพพารากอน  ถ้าเขากลายเป็นเทพพารากอน แฮมเมอร์จะมีพลังเหนือพารากอนคนอื่นทันที
 “ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว”  คลีเมนไทน์ถอนหายใจยาว
 “ลินลี่ย์!  ตอนนี้เจ้าเป็นคนที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา  นอกจากมหาเทพ”  คลีเมนไทน์มองดูลินลี่ย์ด้วยสายตาซับซ้อน
คลีเมนไทน์เข้าใจสิ่งที่ลินลี่ย์กำลังพูด  ไม่มีเทพพารากอนคนอื่นที่มีร่างกายเทียบได้กับสมบัติมหาเทพ
ต้องเข้าใจก่อนว่าในประวัติศาสตร์ทั้งหมด ในพิภพจักรวาลทั้งสิ้น  มีไม่ถึงสิบคนที่ร่างกายของพวกเขาเทียบได้กับสมบัติมหาเทพในแง่ของพลัง!  แฮมเมอร์ก็อาจนับได้ว่าเป็นคนหนึ่ง ขณะที่เบรุตก็เป็นอีกคนหนึ่ง... ในจักรวาลทั้งสิ้นมีไม่ถึงสิบคน  สำหรับหนึ่งในคนที่หาได้ยากนั้น ยังกลายเป็นพารากอนด้วย?  อย่างนั้นจะเหมือนสิ่งใด
จำนวนของสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์ต่างๆที่คงอยู่ในพิภพโลกธาตุทั้งสิ้นและในประวัติศาสตร์มีจำนวนไม่อาจจะคิดจินตนาการได้  แต่ยังมีพารากอนเกิดขึ้นมาเพียงยี่สิบกว่าคน
โอกาสนับว่าต่ำมาก!  อาจจะกล่าวได้ว่าโอกาสแทบเป็นศูนย์
มีสิ่งมีชีวิตอย่างแฮมเมอร์หรือเบรุตไม่ถึงสิบ  สำหรับหนึ่งในพวกเขาที่กลายเป็นเทพพารากอนไม่ได้เป็นจริงเป็นจังมากนัก
ความจริง ตามวิถีกฎธรรมชาติของจักรวาลนั้นดำเนินไปด้วยดี  แต่สำหรับผู้ที่มีพรสวรรค์ธรรมชาติมากเกินไป ก็คงเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะฝึกฝน  อย่าว่าแต่เบรุตและแฮมเมอร์เลย ไม่มีลูกหลานของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์เลยสักคนที่กลายเป็นเทพพารากอนได้
ฟ้ากำหนดไว้เพียงเท่านั้น!
ถ้าลินลี่ย์พัฒนาไปตามปกติ  ไม่มีทางที่เขาจะกลายเป็นผู้ทรงพลังมากมายขนาดนี้ ทั้งไม่สามารถจะได้รับร่างกายที่เทียบได้กับสมบัติมหาเทพ!
อย่างไรก็ตาม แม้มีร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ถึงสี่ร่าง  แต่วิญญาณของเขากลายสภาพได้สำเร็จ!
ร่างกายที่แข็งทนทานและทรงพลังของลินลี่ย์ไม่ได้ติดตัวเขามาแต่กำเนิด  มันถูกสร้างเมื่อมีการหลอมรวมพลังเทพสี่สายธาตุ
ถึงแม้วิญญาณกลายสภาพสี่สายธาตุของเขาจะมีความสำเร็จ  แต่ไม่ได้เป็นเครื่องประกันว่าจะมีเรื่องมหัศจรรย์เกิดขึ้น!
ลินลี่ย์หลอมรวมพลังเทพและพลังปณิธานทั้งสองซึ่งเหนือกว่าเทพชั้นสูงทุกคน  นี่ทำให้สิ่งที่ลินลี่ย์ยังขาดในเคล็ดลึกลับ  ช่วยให้เขาเทียบได้กับพารากอนคนหนึ่ง  แต่ร่างของเขาแข็งแกร่งพอๆ กับสมบัติมหาเทพ  ทำให้เขาเหนือกว่าพารากอนคนอื่นๆ มากมาย
 “คลีเมนไทน์!  ท่านถามข้อสงสัยของท่านไปแล้ว  ตอนนี้มอบเพชรกระจับแดงให้ข้าได้แล้ว”  ลินลี่ย์จ้องมองคลีเมนไทน์
 “ข้าเองอยากเอาไปเสนอให้ประมุขมหาเทพ  แต่ก็ช่างเถอะ”  คลีเมนไทน์โบกมือและเพชรกระจับแดงปรากฏอยู่ในมือ คลีเมนไทน์ถือเพชรกระจับแดงหัวเราะขณะที่เขามองดูลินลี่ย์  “เพชรกระจับแดงนี้มีพลังงานที่ไม่เหมือนใครซึ่งคอยหล่อเลี้ยงวิญญาณ  อย่างไรก็ตาม สำหรับเราเหล่าพารากอน มันไม่มีประโยชน์”
คลีเมนไทน์โยนเพชรกระจับแดงให้ลินลี่ย์ตามปกติ
สมบัติก็มีระดับความแตกต่างในการส่งผลต่อระดับของบุคคลด้วย
ถ้ามนุษย์ธรรมดาถือเพชรกระจับแดง  บางทีอาจทำให้วิญญาณของเขามีพลังมากพอๆ กับวิญญาณของเซียน
ถ้าเป็นเทพแท้ เขาจะรู้สึงถึงความเปลี่ยนแปลงในวิญญาณของเขาได้  หรือแม้แต่จะฆ่าเทพชั้นสูงธรรมดาก็ได้  แต่ถ้าเป็นเทพชั้นสูงถือเพชรนี้ วิญญาณก็จะไม่มีพลังเพิ่มขึ้นมากนัก
ความจริงก็เหมือนกับพลังงานที่ปล่อยออกมา  ยิ่งคนผู้นั้นทรงพลังมาก ผลที่ได้ก็น้อยลง
ที่สำคัญเพชรกระจับแดงเป็นเพียงเครื่องราง ไม่ใช่สมบัติจอมเทพ  แม้ว่าจะให้ผลที่ไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่ใช่สมบัติที่ไร้เทียมทาน
โบรดีเมื่อถือครองมันไว้  ก็สามารถฆ่าอสูรหกดาวได้
แต่โมลด์ เมื่อถือครองมุกวิญญาณทั้งเก้าก็ยังแทบตายมาแล้วเมื่อเผชิญหน้ากับลินลี่ย์ที่ผสานพลังเทพสี่สายธาตุได้
สำหรับเขาการเพิ่มพลังถึงขีดจำกัดอยู่แล้ว
สำหรับพารากอนในแง่ของกายและวิญญาณทั้งสอง หลังจากที่พวกเขาได้รับพลังปณิธานแล้ว  พวกเขาก็ถึงขีดจำกัดในหมู่เทพ  แม้ว่าพวกเขาจะถือเพชรกระจับแดงหรือมุกวิญญาณ  อย่างมากก็มีพลังเพิ่มขึ้น สิบถึงยี่สิบเปอร์เซนต์  พลังที่เสริมเพิ่มขึ้นไปนั้นอาจจะเพิ่มเป็นสองเท่าหรือสามเท่า  แต่สำหรับคนที่แข็งแกร่งกว่าสิบเท่า  นั่นไม่มีประโยชน์
 “ผลของการเปลี่ยนแปลง เท่าที่พารากอนกังวลนั้นมีเล็กน้อย”  ลินลี่ย์ยื่นมือรับเพชรกระจับแดงที่ถูกโยนออกมานั้น กระแสพลังอบอุ่นเติมเต็มร่างและวิญญาณของลินลี่ย์  เป็นความรู้สึกคล้ายกับเมื่อตอนที่เขาได้รับมุกวิญญาณทั้งเก้า  พลังบำรุงเลี้ยงอย่างนี้สำหรับผู้มีวิญญาณแข็งแกร่งอย่างลินลี่ย์ไม่มีผลอะไรแม้แต่น้อย
มองอย่างผิวเผินลินลี่ย์ดูสงบมาก  แต่ในใจของเขา  เขาตื่นเต้นมากจนตัวสั่น
 “เพชรกระจับแดง  นี่คือเพชรกระจับแดงจริงๆ!  ลินลี่ย์ลอบดีใจ  “เครื่องรางทั้งสาม  ในที่สุดข้าก็ได้มาทั้งหมด!
ในใจของเขาลินลี่ย์ยังคงจำฉากภาพในวัยเยาว์ของเขาได้ชัดเจน  วันนั้นมีแสงพร่าเลือนลอยออกมาจากแหวนมังกรขนดกลายสภาพเป็นรูปคนแก่เสื้อคลุมสีเหลืองอ่อนเคราขาวดูใจดี  “หวัดดี เจ้าเด็กน้อย, ข้าชื่อเดลิน โคเวิร์ท เป็นเซียนจอมเวทแห่งจักรวรรดิพูเอนท์!
นับจากวันนั้นเป็นต้นมาชะตาชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไป
ลินลี่ย์ไม่เคยลืมว่าปู่เดลินเสียสละวิญญาณของเขาเพื่อใช้เวทต้องห้ามช่วยลินลี่ย์  นั่นเป็นเหตุการณ์ที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิตที่ผ่านมาของลินลี่ย์
 “ปู่เดลิน...อีกไม่นาน ข้าคงได้เห็นท่านอีกครั้ง”  ลินลี่ย์พูดกับตนเองเงียบๆ
ลินลี่ย์ตื่นเต้นต้องการจะนำเครื่องรางทั้งสามอย่างมารวมกันให้กลายเป็นหนึ่งทันที และใช้มงกุฏแห่งชีวิตอัญเชิญจอมเทพวิถีชีวิต  แต่ลินลี่ย์ไม่ปล่อยให้ความดีใจครอบงำใจของเขา  “นี่ยังไม่ใช่เวลาหลอมรวมเครื่องรางทั้งสาม  ถ้าข้าอัญเชิญจอมเทพออกมาตอนนี้  มหาเทพจะต้องรู้ทันทีว่าข้ามีเครื่องรางทั้งสาม  นั่นจะเป็นเหตุนำหายนะมาให้!
ถ้าจอมเทพรู้ว่าลินลี่ย์  ที่เป็นเทพคนหนึ่งมีเครื่องรางทั้งสามแล้ว... ผลกระทบอะไรจะตามมา?
ลินลี่ย์ไม่กล้าแม้แต่จะคิดถึง
 “แม้ว่ามหาเทพจะพบว่าข้ามีเครื่องรางจอมเทพชิ้นหนึ่ง  เครื่องรางชิ้นเดียวคงไม่เพียงพอทำให้กลุ่มมหาเทพโมโหได้  แต่ถ้าพวกเขารู้ว่าข้ามีเครื่องรางครบทั้งสาม  มหาเทพคงจะโกรธแค้นมาก  เมื่อข้ากลับไปยังทวีปยูลาน  ตอนนั้นข้าสามารถอัญเชิญจอมเทพได้  แม้ว่ามหาเทพจะเต็มไปด้วยความเกลียด อย่างแย่ข้าก็แค่รั้งอยู่ในทวีปยูลานไม่ออกมาอีกเลย”  ลินลี่ย์ตัดสินใจแล้ว
ขณะนั้นเอง...
ในท้องฟ้าเหนือทะเลไร้ขอบเขต มีร่างหลายร่างบินเข้ามาหาด้วยความเร็วสูง
ลินลี่ย์ชำเลืองมองคลีเมนไทน์ จากนั้นหันกลับไปดู เป็นพารากอนทั้งเจ็ดและบีบี
 “ลินลี่ย์, ขอแสดงความยินดีด้วย”  เสียงหัวเราะดังลั่น ผู้กล่าวคือดันนิงตัน
 “กลายเป็นพารากอนเป็นเรื่องหนึ่ง  แต่ร่างของเจ้าแข็งแกร่งมากจนเทียบได้กับสมบัติมหาเทพเชียวหรือ?”  คำพูดของบุรุษที่สูงสี่เมตรผมสีฟ้าแฝงด้วยความรู้สึกอิจฉา  เทพพารากอนทั้งเจ็ดและแม้แต่บีบีก็ยังได้ยินคำสนทนาระหว่างลินลี่ย์และคลีเมนไทน์
 “ลินลี่ย์!  เท่าที่ข้าจำได้ ระหว่างสงครามมหาพิภพร่างของเจ้ายังไม่แข็งแกร่งเท่านี้ เดี๋ยวนี้เจ้าทำได้อย่างไร?”  เทพพารากอนแห่งลมไบเออร์มองดูลินลี่ย์
 “ทุกคนสามารถฝึกจนร่างกายระดับนั้นได้ไหม?”  พารากอนทุกคนจ้องมองลินลี่ย์
ใครเล่าไม่ต้องการเสริมพลังร่างกายของพวกเขาเล่า?
มีสมบัติมหาเทพสำหรับป้องกันพลังโจมตีภายนอก เพียงแต่หมายความว่าผู้นั้นมีเกราะที่ทรงพลัง  แต่มีร่างเหมือนกับสมบัติมหาเทพ?  นั่นเป็นพลังที่สามารถพลิกแม่น้ำคว่ำทะเล พลังที่น่ากลัวขนาดฉีกสวรรค์ให้ขาดได้
 “ข้าต้องมีประสบการณ์พบกับเรื่องมากมายจึงมาถึงระดับนี้ได้”  ลินลี่ย์ไม่ให้คำตอบที่ชัดเจนนัก
เทพพารากอนอื่นมองหน้ากันเอง ไม่ต้องการถามอะไรอีกต่อไป
 “ทุกท่าน พวกท่านคงไม่ต้องสู้กันเพื่อชิงเพชรกระจับแดงนี้กับข้าแล้วใช่ไหม?”  ลินลี่ย์พูดพร้อมกับยิ้ม
 “สู้กับเจ้าน่ะหรือ?  เราดูเหมือนคนที่ต้องการหาเรื่องตายหรือ?”  เนเนซพารากอนแห่งสายฟ้า ยังคงพูดเสียงเย็นชา  แต่ในดวงตานางแฝงแววขำขัน  “ข้าไม่มีสมบัติมหาเทพป้องกันการโจมตีภายนอก  ต่างจากคลีเมนไทน์  เจ้าต้องแปลงร่างมังกรจึงจะฆ่าเขาได้  แต่กับข้าเจ้าไม่ต้องแปลงเป็นมังกรเลย”
 “ช่างเถอะ หลังจากเห็นความเร็วของเจ้า ลินลี่ย์และพลังโจมตีของเจ้า ข้าก็เข้าใจได้ทันทีว่าข้าไม่มีโอกาสได้รับเพชรกระจับแดง”  ดันนิงตันหัวเราะเช่นกัน
พารากอนกลุ่มนี้ยังยิ้มกันได้ทุกคน
พวกเขาเพียงแต่มาต่อสู้เพื่อชิงเพชรกระจับแดงตามคำขอของมหาเทพของพวกเขา  ถ้าพวกเขาจะต้องสู้เพื่อแย่งชิง พวกเขาจะทุ่มสู้สุดกำลัง  แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีความหวัง พวกเขาก็ยอมแพ้ตามปกติ  พวกเขาไม่ได้รู้สึกผิดหวังหรือขมขื่น  ที่สำคัญเครื่องรางจอมเทพไม่มีประโยชน์ต่อพารากอนอย่างพวกเขามากนัก
 “พี่ใหญ่, พี่ใหญ่!  บีบีรีบบินมาอยู่ข้างๆ ลินลี่ย์และหลิ่วตาให้ลินลี่ย์  “ทุกอย่างเสร็จหรือยัง? ตอนนี้เราไปได้กันหรือยัง?”
ลินลี่ย์หัวเราะทันที  “แน่นอนว่าเราสามารถไปได้”
ลินลี่ย์กวาดสายตามองดูพารากอนทั้งแปด จากนั้นยิ้ม “ทุกท่าน, การต่อสู้ชิงเพชรกระจับแดงมาถึงที่สุดแล้ว ข้าไม่ต้องการรั้งอยู่พิภพโอคาลุนด์นานไปกว่านี้  ฉะนั้นบีบีกับข้าจะออกไปตอนนี้แล้ว”
ขณะนั้นเอง...
 “เอ๊ะ?”  ลินลี่ย์หันไปมอง
เหนือทะเล คลื่นพลังงานเริ่มก่อตัวเป็นรูป  สีสันของโลกเริ่มเปลี่ยนไป  และแสงเริ่มกลายเป็นวง  ทันใดนั้นดูเหมือนว่าดวงอาทิตย์ในท้องฟ้าสูญเสียความแวววาวหลังจากนั้นพลังงานที่น่าสะพรึงกลัวเริ่มเปล่งแสงและรวมกลุ่มเป็นร่างหนึ่งช้าๆ...
รัศมีที่คุ้นเคยนั่น...
 “ประมุขมหาเทพแห่งแสง!  ลินลี่ย์หรี่ตา
 “ลินลี่ย์!  เสียงดังก้องกังวานเหมือนฟ้ากระหึ่มดังขึ้น ขณะที่ร่างยักษ์สูงสิบเมตรปรากฏตัวขึ้น  และลักษณะของมันคล้ายกับลักษณะของประมุขมหาเทพแห่งแสง เพียงแต่มีขนาดใหญ่กว่า
 “ประมุขมหาเทพ”  ลินลี่ย์แค่ยิ้มขณะมองดูประมุขมหาเทพแห่งแสง
 “ขอโทษด้วยนะลินลี่ย์, ข้าได้แจ้งประมุขมหาเทพแห่งแสงว่าข้าได้เพชรกระจับแดงมาไว้ในครอบครองแล้ว  หลังจากเกิดเรื่องนี้ ข้าต้องแจ้งให้เขารู้เป็นอย่างน้อย”  คลีเมนไทน์ส่งสำนึกเทพเชิงขอโทษ
 “ข้าเข้าใจ” ลินลี่ย์เข้าใจเหตุผลที่คลีเมนไทน์ต้องทำเช่นนี้
ประมุขมหาเทพแห่งแสงลอยตัวลงมาจ้องมองลินลี่ย์อย่างเย็นชา  สายของเขากวาดมองแปดพารากอนและบีบี
ประมุขมหาเทพแห่งแสงโกรธจัด  เพราะคลีเมนไทน์ต้องการเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ทั้งหมด  ประมุขมหาเทพแห่งแสงถึงกับเดินทางเข้ามาในมิติปั่นป่วนด้วยตนเองจากพิภพแสงศักดิ์สิทธิ์  เขาเดินทางผ่านคลื่นมิติปั่นป่วนที่กว้างไกลและรีบเร่งตรงมาที่พิภพโอคาลุนด์
เพียงแต่ แม้ว่าสี่พิภพชั้นสูงและเจ็ดโลกธาตุศักดิ์สิทธิ์จะอยู่ใกล้เคียงกัน แต่พิภพโลกธาตุอื่นนับไม่ถ้วน แม้ว่าจะอยู่ใกล้กัน แต่ก็ยังเป็นพื้นที่ห่างไกล
สำหรับคนอย่างประมุขมหาเทพแห่งแสง  เขาต้องเดินทางถึงหนึ่งในสิบระยะทาง จากตรงนี้ใครคงคิดได้ว่าไกลเพียงไหน
ประมุขมหาเทพแห่งแสงเปี่ยมไปด้วยความหวังและตื่นเต้นมาก  เขาไม่สนใจว่าจะต้องใช้ความพยายามและเรี่ยวแรงเพียงไหนเพื่อทำให้เขาไปถึงที่นั่น  แต่ใครจะคิดกันเล่าว่าเมื่อมาได้ครึ่งทางเขาได้รับการบอกกล่าวว่าเกิดอะไรขึ้น เพชรกระจับแดงถูกลินลี่ย์ชิงไป!
ถ้าคลีเมนไทน์ไม่เคยได้รับมาก่อน  นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
แต่เพราะคลีเมนไทน์ได้รับไว้ก่อนไม่ใช่หรือ?  ประมุขมหาเทพแห่งแสงถึงได้มีความสุขมาก  เพราะเขาเริ่มมองว่าเพชรกระจับแดงตกเป็นของเขาแล้ว  ตอนนี้พอเพชรถูกคนอื่นได้ไป ย่อมทำให้เขาโกรธแน่นอน  และเนื่องจากเขาเดินทางผ่านมิติปั่นป่วนระยะไกลขนาดนั้น เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้น
 “ลินลี่ย์, เจ้า...”  ประมุขมหาเทพแห่งแสงกำลังจะพูดบางอย่าง
 “ท่านประมุขมหาเทพ”  ลินลี่ย์ขัดจังหวะประมุขมหาเทพแห่งแสงและถามด้วยความสงสัย  “ที่นี่คือพิภพโลกธาตุ เป็นไปได้หรือว่าท่านตั้งใจจะขัดขวางข้าไว้ที่นี่  ด้วยร่างแยกพลังงานที่มีพลังงานน้อยนิดนี่น่ะหรือ?”

12 ความคิดเห็น:

Ko Surapong กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

จะฟัดกับประมุขมหาเทพแสงแล้ว !!

Ko Surapong กล่าวว่า...

พี่ลี่ย์ มาถึงก็พูดข่มเลย 555

WingF กล่าวว่า...

555 โกรธได้โกรธไป แน่จริงก็มาดิคร้าบ

sittichok กล่าวว่า...

ขอบคุณมากเลยนะครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับผู้แปลมากๆๆๆครับ

Kaawee กล่าวว่า...

ขอบคุณผู้แปลมากๆ ครับ

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ได้บอลครบแปดลูกแล้ว อัญเชิญมังกรมาได้





ผิดเรื่องเระ^_^

Unknown กล่าวว่า...

เคยดูครับเซนต์เซย่า​ ชอบครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณ​ครับ​

samchay กล่าวว่า...

5555

KiattisakPleng กล่าวว่า...

คุ้นๆนะ จำได้ละนััััััััักเตะเเข้งสายฟ้าใช่ไหม

แสดงความคิดเห็น