ตอนที่ 763
อาคันตุกะผู้ทรงเกียรติมาแล้ว
เกาะสุริยันต์ จวนเจ้าเมือง
ถูไห่เพิ่งตื่นหลังจากพักผ่อนหลังอาหารกลางวัน เขาได้ยินเสียงอึกทึกข้างนอก
เขาหยิบแก้วชาพุทราหวานที่สาวใช้ส่งให้และถอนหายใจเล็กน้อยถามพ่อบ้านเจียวซือ “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“เรียนนายผู้เฒ่า! วันนี้เกิดเรื่องเล็กน้อยขึ้นสองเรื่อง”
พ่อบ้านเจียวซือช่วยดึงเก้าอี้ออกรอให้เจ้าเมืองถูไห่นั่งลงอย่างสะดวกสบาย
พร้อมกับวางจานรองถ้วยชา และกล่าวรายงาน
“มีนักสู้ปราณฟ้าคนหนึ่งโดยสารรถม้าบินผ่านมาที่นี่ กำลังจะออกไป แต่นายพลเวิงให้ทหารออกไปไล่ล่ากลับโดนเหยียบหน้าโดนทุบตีกลับมา”
“เหรอ?”
ถูไห่ส่ายศีรษะไม่ได้กังวลใจแม้แต่น้อย
“อาเวิงก็ควรจะรู้ว่าจะกิน จะเล่นจะดื่มได้ยังไง ถ้าไม่โดนทุบตีสั่งสอนเสียบ้างก็คงไม่รู้ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า คาดว่าฝ่ายตรงข้ามคงเห็นแก่หน้าข้า มิฉะนั้นเขาคงบิดหัวสุนัขของเจ้านั่นหลุดไปแล้ว”
“อีกเรื่องหนึ่ง,
พนักงานขายของร้านเสริมศักยภาพดูถูกดูแคลนนักท่องเที่ยวว่าไม่มีปัญญาซื้อมังกรบินทองโดยใช้อุบายหลอกล่อ ใครจะคิดกันเล่าว่าเขาจะเอาเงินออกมากองมากมาย พวกเขาอยู่ในภาวะขี่หลังเสือลงไม่ได้ นายกองทหารจึงต้องเข้าแทรกแซง
แต่เนื่องจากร้านเสริมศักยภาพเป็นร้านของนายพลเวิง และนายกองทหารก็ชอบพอกับทางร้านเสริมศักยภาพ
ผลก็คือเขาถูกดึงลิ้นออกและ เปลี่ยนสภาพไปเป็นว่าวมนุษย์ คนครึ่งเมืองมองเห็นพากันส่งเสียงฮือฮา”
“ถูกดึงลิ้นและกลายเป็นว่าวมนุษย์ในท้องฟ้าน่ะหรือ?” เจ้าเมืองถูไห่ประหลาดใจ
จะดีหรือ
ว่าวมนุษย์
เจ้าเมืองถูไห่ไม่ยอมปล่อยไว้แน่
เกียรติและประเพณีนี้กล่าวกันว่ามีมาตั้งแต่เมื่อครั้งรบกับทหารทงเทียนหกพันปีก่อน
เวลานั้นแดนสวรรค์พ่ายแพ้อย่างหนัก
นักรบหอทงเทียนมาถึงต้องการระบายความโกรธ ก็ใช้วิธีประหารชีวิตด้วยวิธีการต่างๆ
กระบวนการทำว่าวมนุษย์โดยทั่วไปเป็นอย่างนี้
คือจับศัตรูหันหน้าเข้าหาหน้าผาสูงชันเป็นพิเศษ
จากนั้นผ่าท้องควักไส้ผู้เคราะห์ร้ายจากนั้นดึงไส้เหวี่ยงปล่อยให้ร่างร่วงลงหน้าผา คนที่ยังไม่ตายก็จะหล่นตามลงไปด้วยความทรมานเจ็บปวด
บางคนควบคุมน้ำหนักกำลังได้ดีสามารถทำให้มนุษย์ว่าวลอยอยู่ในอากาศได้มากกว่าหนึ่งชั่วโมง
ทัณฑ์มนุษย์ว่าวที่โหดร้ายอย่างนั้นเป็นหนึ่งในสิบสุดยอดทัณฑ์ทรมานของแดนสวรรค์ตะวันตก
บางทีพวกทหารรับจ้างไม่กลัวตาย
แต่พวกเขากลัวการทรมานแบบนี้!
สำหรับเจ้าเมืองถูไห่
ว่าวมนุษย์ที่ใช้วิธีลากไส้ออกมานั้นเขาทำมาหลายครั้งแล้ว
และค่อนข้างน่าเบื่อ
อย่างไรก็ตามว่าวมนุษย์โดยใช้วิธีดึงลิ้นแล้วเหวี่ยงไปในอากาศเขายังไม่เคยลองดูและมีความสงสัย
“เรียนนายผู้เฒ่า,
นายกองทหารผู้โชคร้ายมาจากเผ่ามนุษย์กิ้งก่า
และลิ้นของเขาสามารถถูกดึงออกมาได้ยาวมากกว่าร่างกายหลายเท่า แม้ว่าข้าไม่เคยเห็นกับตาตนเอง คนที่ตามดูรายงานว่าตอนแรกนายกองผู้โชคร้ายนั้นถูกดึงลิ้นออกมา
แล้วจากนั้นเขาถูกอัดแก๊สปริมาณมหาศาลลงท้องจนพองเหมือนลูกโป่งจนร่างลอยได้ทั้งร่าง
และสุดท้ายเขาถูกเชือกมัดคอกลายเป็นว่าวลูกโป่งปล่อยให้คนจูงเล่นวิ่งไปตามถนน...”
“น่าสนุก” เจ้าเมืองถูไห่ตบมือชอบใจ
จากนั้นเขาใช้นิ้วชี้เคาะกับโต๊ะเล่นเบาๆ
“เมื่อมีเวลาเราน่าจะมองหานักโทษเผ่ามนุษย์กิ้งก่าเอามาทำเป็นว่าวลูกโป่งอย่างนี้บ้าง
แล้วจูงไปขังคุกต้องห้ามที่ทิศเหนือของเมือง
ดูซิว่าพวกโจรขโมยที่กล้ารุกรานข้าถูไห่จะมีชะตากรรมอย่างไร น่าเศร้า!”
พ่อบ้านเจียวซือคำนับจนแทบเป็นมุม
90 องศาและรายงานอย่างสุภาพ
“ยินดีทำตามที่ท่านต้องการเลย นายผู้เฒ่า!”
เจ้าเมืองถูไห่เหมือนจะเพิ่งคิดบางอย่างขึ้นได้และถาม
“นักสู้ปราณฟ้าที่บังเอิญผ่านมาและทุบตีอาเวิงตอนนี้อยู่ที่ไหน เจ้าไปเชิญเขามาคุยกับข้าได้ไหม?”
สำหรับเรื่องเป็นสหายกับนักสู้ปราณฟ้า
ถูไห่รู้สึกว่ามีความเป็นไปได้
ถือว่าไม่น้อยเกินไป
ตราบใดที่ใช้จ่ายเงินแล้วบรรลุผลได้ เจ้าเมืองถูไห่จะไม่ยอมแพ้
ด้วยความสำเร็จมีพลังปราณฟ้าระดับสี่ขั้นสูง
เขาจะหลีกเลี่ยงพวกแดนสวรรค์บนอยู่เสมอ
และเขารู้สึกว่าเขาไม่เพียงแต่ยังขาดพลังเท่านั้น แต่ยังมีรากฐานอีกด้วย...
เขาเห็นนักสู้ปราณฟ้าที่มีพลังอ่อนแอกว่าเขามากกว่าแต่ได้รับอนุญาตให้เข้าแดนสวรรค์บน
ยังไม่ต้องพูดถึงศิษย์จากตระกูลที่มีชื่อเสียงมาก บ่อยครั้งที่คนที่ไม่ได้เป็นนักสู้ปราณฟ้าหรือเตรียมนักสู้ปราณฟ้าให้ผู้อาวุโสในตระกูลพาเข้าแดนสวรรค์ชั้นบนที่พวกเขาได้แต่ฝัน
แต่ไม่เคยเข้าไป
ก่อนหน้านั้นเจ้าเมืองถูไห่ไม่เข้าใจเหตุผล
และเพียงแต่รู้สึกว่าไม่ยุติธรรม
ต่อมาหลังจากราชาหลิงหวินรู้แจ้ง เขาจึงเข้าใจได้ทันทีถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
แม้ว่าเจ้าเมืองลี่จ้าวผู้คอยปกป้องประตูแดนสวรรค์จะมีพลังปราณฟ้าระดับสี่เหนือกว่าเจ้าเมืองทั่วไป
แต่ยังขาดการสนับสนุนจากตระกูลที่มีชื่อเสียง
เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าแดนสวรรค์ชั้นบนด้วยพลังส่วนตัวของเขา
แม้ว่าราชาหลิงหวินจะไม่ได้พอใจ
นำถูไห่เข้าแดนสวรรค์บน
แต่เขาก็นำความหวังมาให้ถูไห่
ตราบใดที่มีนักสู้ปราณฟ้า
300 คนสนับสนุน ถูไห่จึงมีคุณสมบัติเสนอตัว
เพื่อให้ได้รับคุณสมบัตินี้
เจ้าเมืองถูไห่พยายามทำงานอย่างหนักตลอดสองร้อยปีและพบเจอนักสู้ปราณฟ้า 137
คนที่สนับสนุนเขา มีการใช้เงินไปจำนวนนับไม่ถ้วนในช่วงเวลาแบบนี้ นักสู้ปราณฟ้าที่อยู่ใกล้ๆ ทั้งหมด
ถูไห่จะไม่พยายามเอาชนะ
แต่ไม่ใช่ว่านักสู้ปราณฟ้าทุกคนจะยินยอมเลือกถูไห่ เจ้าเมืองจินหลุน
(จักรทอง) เจ้าเมืองกวงเยี่ยน ฯลฯ กำลังเคลื่อนไหวในทำนองเดียวกัน
จำนวนนักสู้ปราณฟ้า
300 คนที่สนับสนุนเขาจะไม่มีทางไปถึงได้เลย
ตอนนี้ถูไห่ต้องการรู้จักนักสู้ปราณฟ้าที่ผ่านทางมา
ดูว่าจะกลายเป็นสหายและสนับสนุนตัวเขาให้เข้าไปยังแดนสวรรค์บนได้หรือไม่
ไม่มีนักสู้ปราณฟ้าแปลกหน้าผ่านมายังเมืองลี่จ้าวนานครึ่งปีแล้ว
วันนี้ข้าได้พบคนหนึ่ง
แม้ว่าเขาจะทุบตีญาติของถูไห่อย่างดุดันไปบ้าง แต่ถูไห่ไม่ถือสา
“เรียนนายผู้เฒ่า,
ข้าเกรงว่าเรื่องนี้อาจยุ่งยากอยู่บ้าง”
พ่อบ้านเจียวซือส่ายหน้าเล็กน้อยและถอนหายใจ “นายพลเวิงล่วงเกินอีกฝ่ายหนึ่งอยู่ก่อน
นายกองทหารและร้านเสริมศักยภาพถูกเขาเล่นงานเพราะพยายามจะโกงทรัพย์สินของเขา
ทำให้นักสู้ปราณฟ้าผู้นั้นมองเราอย่างไม่พอใจ
ความจริงพนักงานขายของร้านเสริมศักยภาพถูกบริวารของนักสู้ปราณฟ้านั้นทำร้ายเพราะไปหลอกพวกเขา และนายกองทหารของเมืองก็ล่วงเกินนักสู้ปราณฟ้านั้นโดยตรง
เขาจึงกลายเป็นมนุษย์ว่าวถูกแขวนไว้บนเสาธงในตอนนี้!”
“บัดซบ!” เจ้าเมืองถูไห่ตบโต๊ะจนถ้วยชาพุทราจีนกระดอน
อารมณ์ปกติของเขาสูญสลายไปเพราะความโกรธ
ต่อให้ฆ่าคนหลายร้อยอาการหงุดหงิดในหัวใจก็คงไม่ลดลง
อย่างไรก็ตามเมื่อสามเดือนที่แล้ว
ราชาหลิงหวินเรียกเจ้าเมืองถูไห่เข้ามาตำหนิและวิพากย์วิจารณ์พฤติกรรมการฆ่าที่โหดเหี้ยมอำมหิตเกินไป ชื่อเสียงของเขาไม่ดีนัก ข่าวลือแบบนี้ทำให้ยากกับการเตรียมตัวเข้าแดนสวรรค์บน หลังจากปรึกษาพูดคุยกับราชาหลิงหวินลับๆ แล้ว
เจ้าเมืองถูไห่เปลี่ยนวิธีฆ่าที่สร้างชื่อเสียงอื้อฉาวของเขาไปเป็นตามปกติ
เขาระงับความโกรธ “เป็นเพราะข้าล่วงเกินอีกฝ่ายหนึ่งก่อน
ข้าต้องนึกถึงความประทับใจของเขา
ถ้าเขายินดีจะสนับสนุนข้าให้เข้าแดนสวรรค์บนได้
อย่างนั้นข้าจะเปิดร้านเสริมศักยภาพและสงบศึกกับเขา ทำไมจะไม่ได้เล่า? นอกจากนี้นักสู้ปราณฟ้า
ถ้าต้องการแสดงความโกรธเกรี้ยวกราดขณะเข้าร้านค้า
เขาคงทำลายสร้างความสั่นสะเทือนไปแล้ว
แต่เขาไม่ได้ทำเช่นนั้น เขาเพียงแค่สั่งสอนคนไม่กี่คน นี่แสดงว่าเขาเป็นผู้ใหญ่
ไม่ถือสากับเรื่องเล็กน้อย ไปเอาของขวัญมา และบอกความจริงใจของข้ากับเขา
ข้ายินดีรอต้อนรับเขาอยู่ที่จวนเจ้าเมือง!”
พ่อบ้านเจียวซือพยักหน้า
ในเวลาที่เขาจะเดินออกมา
เขาเตือนอย่างระมัดระวัง “นายผู้เฒ่า,
มีเรื่องกล่าวกันว่าอาณาจักรหลิงหวินมีเศษเดนของพวกหอทงเทียนที่ยังเหลืออยู่ แม้ว่าจะผ่านมาหกพันปีแล้ว
แต่โจรพวกนี้ก็ยังไม่เลิกรา ไม่มีเลยสักวันที่พวกเขาไม่ต้องการเปิดประตูแดนสวรรค์”
เจ้าเมืองถูไห่โบกมือขวักไขว่
“สบายใจได้ เศษเดนที่เหลือเหล่านี้ไม่กล้ามายังเมืองลี่จ้าวแน่ เกาะสุริยันต์นี้จะทำให้พวกเขาไม่มีที่ซ่อนบนแดนสวรรค์
นอกจากนี้หัวหน้าพวกเศษเดนที่ยังเหลือและก่อความวุ่นวายจะถูกปิดล้อมและฆ่า บริวารผู้ภักดีของหอทงเทียนจะถูกฆ่าไปทีละคนๆ
พวกที่เหลืออยู่เป็นพวกที่ไม่มีกำลังและแข็งแกร่ง บางทีพวกเขาอาจไม่มีนักรบปราณฟ้าในตอนนี้ก็ได้
และคนรุ่นหลังในรอบพันปีมานี้ก็แข็งแกร่งไม่พอ นักสู้ระดับปราณฟ้าตายเร็ว
นักสู้ที่เหลือทั้งหมดเป็นพวกมดแมลง ซึ่งยังมีพลังไม่พอ!”
“ถูกแล้ว ยังเป็นท่านที่กังวลถูกต้องกว่า” พ่อบ้านเจียวซือคำนับ
“เจ้ากังวลกลัวก็ถูกต้องแล้ว
ความจริงเราต้องให้ความระมัดระวังพวกเศษเดนกบฏ แต่มีเกาะสุริยันต์แล้ว อย่าว่าแต่ตอนนี้เลย แม้แต่กลุ่มกบฏปราณฟ้าเมื่อหกพันปีก่อนก็ยังทำอะไรไม่ได้ เจ้าก็รู้ว่าภายใต้เท้าของเรา
นักรบปราณฟ้าฝ่ายกบฏถูกขังอยู่เท่าใด
เกือบร้อยคน และเป็นผู้นำรุ่นต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จมีมากกว่า 20-30
คน....” เจ้าเมืองถูไห่หัวเราะ
คนข้างนอกคิดว่าเกาะสุริยันต์ก็คือจวนเจ้าเมือง
ความจริงนี่คือคุกที่มีพลังผนึกที่แข็งแกร่งซึ่งผู้ทรงพลังในแดนสวรรค์ร่วมกันสร้าง
แม้นักสู้ระดับปราณฟ้าที่แข็งแกร่งก็ยากจะหลบหนีออกไปจากที่นี่ได้
แม้แต่คุกลี่จ้าวที่อยู่ทางทิศเหนือของเมืองไม่มีอะไรมากไปกว่าคุกธรรมดาที่เอาไว้ขังพวกโจรเล็กโจรน้อยที่ก่อกวนอยู่ในเมืองเท่านั้น
พ่อบ้านเจียวซืออดนับถือเจ้าเมืองถูไห่ไม่ได้ที่เขาทำเป็นไม่เห็น เมื่อเขาทำความเคารพ
ตาของเขาทอประกายแปลกประหลาด
อย่างไรก็ตามประกายตาประหลาดนั้นหายวับไปอย่างรวดเร็ว
กลายเป็นความเคารพและเทิดทูนบูชา
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง
เจียวซือส่งรายงานกลับมา
เพราะเจ้าเมืองถูไห่มีใจจดจ่ออยู่กับแดนสวรรค์บน นี่นับเป็นข่าวดี
เพราะนักสู้ปราณฟ้าผู้ผ่านทางมานั้นและทุบตีนายพลเวิง
และจับนายกองทหารประจำเมืองทำเป็นว่าวมนุษย์ยอมรับคำขอโทษและรับคำเชิญให้ร่วมงานเลี้ยง
นักสู้ปราณฟ้านั้นตอบรับมารยาทของพ่อบ้านเจียวซือและมอบหินปะการังแดงคุณภาพดีให้กับถูไห่ชิ้นหนึ่ง
นี่คือหนึ่งในหินปะการังแดงชนิดดีที่สุด
มีแต่แดนสวรรค์บนเท่านั้นถึงมีครอบครอง
อัญมณีหายากต่อให้มีเงินก็หาซื้อในที่นี้ไม่ได้
เจ้าเมืองถูไห่เมื่อเห็นหินปะการังแดงนี้หัวใจแทบกระดอนออกจากตัว
นักสู้ปราณฟ้านี้เคยไปแดนสวรรค์บนมาแล้วหรือ?
อย่างน้อยพื้นเพตระกูล อาจารย์ ญาติพี่น้องหรือสหายของเขาคงไม่ธรรมดา คงจะมีคนที่เคยอยู่ในแดนสวรรค์บนอยู่บ้าง
มิฉะนั้นจะมีของหายากอย่างหินปะการังแดงได้อย่างไร
และของนี้ย่อมมีค่าอย่างแน่นอน
“นักสู้ปราณฟ้านั้นมีพลังระดับใด?” เจ้าเมืองถูไห่รู้สึกว่าเขาควรจะดึงฝ่ายตรงข้ามมาอยู่ด้วย
แน่นอนว่าจะต้องทำความเข้าใจข้อมูลของฝ่ายตรงข้ามเสียก่อน
“ข้าไม่สามารถเห็นได้ชัดเจนว่านักสู้ปราณฟ้าผู้มีเกียรตินั้นแข็งแกร่งระดับใด...”
เจียวซือส่ายศีรษะและพูดพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย “มองดูผิวเผินเหมือนกับเป็นนักสู้ปราณฟ้า แต่ดูภายนอกกลับเป็นนักสู้เตรียมปราณฟ้า
และให้ความรู้สึกว่าด้อยค่าเหมือนมดเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา เขาสวมหน้ากากแพลตตินัมที่ไม่มีใครเหมือน
อาจเทียบได้กับสมบัติชั้นศักดิ์สิทธิ์
ข้าไม่เคยเห็นสมบัติระดับแพลตตินัมที่มีพลังวิญญาณมากขนาดนั้น..ในกลุ่มนักสู้ปราณฟ้าชั้นสูงมาก่อน
อีกอย่างเขามีอาวุธดูแล้วน่าจะเป็นอาวุธเทพร่างอสูร ถุงมือแมงป่องอาวุธเทพร่างอสูร ข้าคิดว่านั่นเป็นสมบัติที่หาได้ยากในหมู่นักสู้แดนสวรรค์บน! นักสู้ปราณฟ้าผู้นั้นทำลายเห็นผิดเดิมของข้าไปหมด
ทำให้ข้าไม่กล้าคาดเดาเขา”
“จริงหรือ?” ถูไห่เมื่อได้ยิน เขาเริ่มมีความสุข ถ้านักสู้ปราณฟ้านี้มาจากแดนสวรรค์บน
อย่างนั้นข้าก็คงโชคดี
เขาตบโต๊ะด้วยความตื่นเต้นดีใจ “มาเถอะ ไม่ เจ้ามาด้วย
ข้าต้องไปต้อนรับเขาด้วยตัวเอง!”
9 ความคิดเห็น:
ขอบคุณมากเลยนะครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณคับ
กำลังงงว่านางมาที่นี่ทำไม น่าจะมาปล้นคุกนะ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ต้องปล้นครับ งานนี้
แสดงความคิดเห็น