วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 763 อาคันตุกะผู้ทรงเกียรติมาแล้ว


ตอนที่  763  อาคันตุกะผู้ทรงเกียรติมาแล้ว
เกาะสุริยันต์  จวนเจ้าเมือง
ถูไห่เพิ่งตื่นหลังจากพักผ่อนหลังอาหารกลางวัน  เขาได้ยินเสียงอึกทึกข้างนอก
 
เขาหยิบแก้วชาพุทราหวานที่สาวใช้ส่งให้และถอนหายใจเล็กน้อยถามพ่อบ้านเจียวซือ  “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
 “เรียนนายผู้เฒ่า!  วันนี้เกิดเรื่องเล็กน้อยขึ้นสองเรื่อง” พ่อบ้านเจียวซือช่วยดึงเก้าอี้ออกรอให้เจ้าเมืองถูไห่นั่งลงอย่างสะดวกสบาย พร้อมกับวางจานรองถ้วยชา และกล่าวรายงาน  “มีนักสู้ปราณฟ้าคนหนึ่งโดยสารรถม้าบินผ่านมาที่นี่ กำลังจะออกไป แต่นายพลเวิงให้ทหารออกไปไล่ล่ากลับโดนเหยียบหน้าโดนทุบตีกลับมา”
 “เหรอ?”  ถูไห่ส่ายศีรษะไม่ได้กังวลใจแม้แต่น้อย  “อาเวิงก็ควรจะรู้ว่าจะกิน จะเล่นจะดื่มได้ยังไง  ถ้าไม่โดนทุบตีสั่งสอนเสียบ้างก็คงไม่รู้ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า  คาดว่าฝ่ายตรงข้ามคงเห็นแก่หน้าข้า มิฉะนั้นเขาคงบิดหัวสุนัขของเจ้านั่นหลุดไปแล้ว”
 “อีกเรื่องหนึ่ง, พนักงานขายของร้านเสริมศักยภาพดูถูกดูแคลนนักท่องเที่ยวว่าไม่มีปัญญาซื้อมังกรบินทองโดยใช้อุบายหลอกล่อ   ใครจะคิดกันเล่าว่าเขาจะเอาเงินออกมากองมากมาย  พวกเขาอยู่ในภาวะขี่หลังเสือลงไม่ได้  นายกองทหารจึงต้องเข้าแทรกแซง  แต่เนื่องจากร้านเสริมศักยภาพเป็นร้านของนายพลเวิง  และนายกองทหารก็ชอบพอกับทางร้านเสริมศักยภาพ ผลก็คือเขาถูกดึงลิ้นออกและ เปลี่ยนสภาพไปเป็นว่าวมนุษย์  คนครึ่งเมืองมองเห็นพากันส่งเสียงฮือฮา”
 “ถูกดึงลิ้นและกลายเป็นว่าวมนุษย์ในท้องฟ้าน่ะหรือ?”  เจ้าเมืองถูไห่ประหลาดใจ 
จะดีหรือ
ว่าวมนุษย์ เจ้าเมืองถูไห่ไม่ยอมปล่อยไว้แน่
เกียรติและประเพณีนี้กล่าวกันว่ามีมาตั้งแต่เมื่อครั้งรบกับทหารทงเทียนหกพันปีก่อน
เวลานั้นแดนสวรรค์พ่ายแพ้อย่างหนัก นักรบหอทงเทียนมาถึงต้องการระบายความโกรธ ก็ใช้วิธีประหารชีวิตด้วยวิธีการต่างๆ
กระบวนการทำว่าวมนุษย์โดยทั่วไปเป็นอย่างนี้ คือจับศัตรูหันหน้าเข้าหาหน้าผาสูงชันเป็นพิเศษ จากนั้นผ่าท้องควักไส้ผู้เคราะห์ร้ายจากนั้นดึงไส้เหวี่ยงปล่อยให้ร่างร่วงลงหน้าผา  คนที่ยังไม่ตายก็จะหล่นตามลงไปด้วยความทรมานเจ็บปวด
บางคนควบคุมน้ำหนักกำลังได้ดีสามารถทำให้มนุษย์ว่าวลอยอยู่ในอากาศได้มากกว่าหนึ่งชั่วโมง
ทัณฑ์มนุษย์ว่าวที่โหดร้ายอย่างนั้นเป็นหนึ่งในสิบสุดยอดทัณฑ์ทรมานของแดนสวรรค์ตะวันตก
บางทีพวกทหารรับจ้างไม่กลัวตาย แต่พวกเขากลัวการทรมานแบบนี้!
สำหรับเจ้าเมืองถูไห่ ว่าวมนุษย์ที่ใช้วิธีลากไส้ออกมานั้นเขาทำมาหลายครั้งแล้ว และค่อนข้างน่าเบื่อ  อย่างไรก็ตามว่าวมนุษย์โดยใช้วิธีดึงลิ้นแล้วเหวี่ยงไปในอากาศเขายังไม่เคยลองดูและมีความสงสัย
 “เรียนนายผู้เฒ่า, นายกองทหารผู้โชคร้ายมาจากเผ่ามนุษย์กิ้งก่า และลิ้นของเขาสามารถถูกดึงออกมาได้ยาวมากกว่าร่างกายหลายเท่า  แม้ว่าข้าไม่เคยเห็นกับตาตนเอง  คนที่ตามดูรายงานว่าตอนแรกนายกองผู้โชคร้ายนั้นถูกดึงลิ้นออกมา แล้วจากนั้นเขาถูกอัดแก๊สปริมาณมหาศาลลงท้องจนพองเหมือนลูกโป่งจนร่างลอยได้ทั้งร่าง และสุดท้ายเขาถูกเชือกมัดคอกลายเป็นว่าวลูกโป่งปล่อยให้คนจูงเล่นวิ่งไปตามถนน...”
 “น่าสนุก” เจ้าเมืองถูไห่ตบมือชอบใจ
จากนั้นเขาใช้นิ้วชี้เคาะกับโต๊ะเล่นเบาๆ  “เมื่อมีเวลาเราน่าจะมองหานักโทษเผ่ามนุษย์กิ้งก่าเอามาทำเป็นว่าวลูกโป่งอย่างนี้บ้าง แล้วจูงไปขังคุกต้องห้ามที่ทิศเหนือของเมือง  ดูซิว่าพวกโจรขโมยที่กล้ารุกรานข้าถูไห่จะมีชะตากรรมอย่างไร  น่าเศร้า!
พ่อบ้านเจียวซือคำนับจนแทบเป็นมุม 90 องศาและรายงานอย่างสุภาพ  “ยินดีทำตามที่ท่านต้องการเลย นายผู้เฒ่า!
เจ้าเมืองถูไห่เหมือนจะเพิ่งคิดบางอย่างขึ้นได้และถาม “นักสู้ปราณฟ้าที่บังเอิญผ่านมาและทุบตีอาเวิงตอนนี้อยู่ที่ไหน  เจ้าไปเชิญเขามาคุยกับข้าได้ไหม?”
สำหรับเรื่องเป็นสหายกับนักสู้ปราณฟ้า ถูไห่รู้สึกว่ามีความเป็นไปได้
ถือว่าไม่น้อยเกินไป
ตราบใดที่ใช้จ่ายเงินแล้วบรรลุผลได้  เจ้าเมืองถูไห่จะไม่ยอมแพ้
ด้วยความสำเร็จมีพลังปราณฟ้าระดับสี่ขั้นสูง เขาจะหลีกเลี่ยงพวกแดนสวรรค์บนอยู่เสมอ และเขารู้สึกว่าเขาไม่เพียงแต่ยังขาดพลังเท่านั้น แต่ยังมีรากฐานอีกด้วย... เขาเห็นนักสู้ปราณฟ้าที่มีพลังอ่อนแอกว่าเขามากกว่าแต่ได้รับอนุญาตให้เข้าแดนสวรรค์บน  ยังไม่ต้องพูดถึงศิษย์จากตระกูลที่มีชื่อเสียงมาก   บ่อยครั้งที่คนที่ไม่ได้เป็นนักสู้ปราณฟ้าหรือเตรียมนักสู้ปราณฟ้าให้ผู้อาวุโสในตระกูลพาเข้าแดนสวรรค์ชั้นบนที่พวกเขาได้แต่ฝัน แต่ไม่เคยเข้าไป
ก่อนหน้านั้นเจ้าเมืองถูไห่ไม่เข้าใจเหตุผล และเพียงแต่รู้สึกว่าไม่ยุติธรรม
ต่อมาหลังจากราชาหลิงหวินรู้แจ้ง  เขาจึงเข้าใจได้ทันทีถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
แม้ว่าเจ้าเมืองลี่จ้าวผู้คอยปกป้องประตูแดนสวรรค์จะมีพลังปราณฟ้าระดับสี่เหนือกว่าเจ้าเมืองทั่วไป แต่ยังขาดการสนับสนุนจากตระกูลที่มีชื่อเสียง  เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าแดนสวรรค์ชั้นบนด้วยพลังส่วนตัวของเขา
แม้ว่าราชาหลิงหวินจะไม่ได้พอใจ นำถูไห่เข้าแดนสวรรค์บน  แต่เขาก็นำความหวังมาให้ถูไห่
ตราบใดที่มีนักสู้ปราณฟ้า 300 คนสนับสนุน ถูไห่จึงมีคุณสมบัติเสนอตัว
เพื่อให้ได้รับคุณสมบัตินี้ เจ้าเมืองถูไห่พยายามทำงานอย่างหนักตลอดสองร้อยปีและพบเจอนักสู้ปราณฟ้า 137 คนที่สนับสนุนเขา มีการใช้เงินไปจำนวนนับไม่ถ้วนในช่วงเวลาแบบนี้   นักสู้ปราณฟ้าที่อยู่ใกล้ๆ ทั้งหมด ถูไห่จะไม่พยายามเอาชนะ  แต่ไม่ใช่ว่านักสู้ปราณฟ้าทุกคนจะยินยอมเลือกถูไห่ เจ้าเมืองจินหลุน (จักรทอง) เจ้าเมืองกวงเยี่ยน ฯลฯ กำลังเคลื่อนไหวในทำนองเดียวกัน
จำนวนนักสู้ปราณฟ้า 300 คนที่สนับสนุนเขาจะไม่มีทางไปถึงได้เลย
ตอนนี้ถูไห่ต้องการรู้จักนักสู้ปราณฟ้าที่ผ่านทางมา ดูว่าจะกลายเป็นสหายและสนับสนุนตัวเขาให้เข้าไปยังแดนสวรรค์บนได้หรือไม่
ไม่มีนักสู้ปราณฟ้าแปลกหน้าผ่านมายังเมืองลี่จ้าวนานครึ่งปีแล้ว
วันนี้ข้าได้พบคนหนึ่ง แม้ว่าเขาจะทุบตีญาติของถูไห่อย่างดุดันไปบ้าง แต่ถูไห่ไม่ถือสา
 “เรียนนายผู้เฒ่า, ข้าเกรงว่าเรื่องนี้อาจยุ่งยากอยู่บ้าง”  พ่อบ้านเจียวซือส่ายหน้าเล็กน้อยและถอนหายใจ  “นายพลเวิงล่วงเกินอีกฝ่ายหนึ่งอยู่ก่อน นายกองทหารและร้านเสริมศักยภาพถูกเขาเล่นงานเพราะพยายามจะโกงทรัพย์สินของเขา ทำให้นักสู้ปราณฟ้าผู้นั้นมองเราอย่างไม่พอใจ  ความจริงพนักงานขายของร้านเสริมศักยภาพถูกบริวารของนักสู้ปราณฟ้านั้นทำร้ายเพราะไปหลอกพวกเขา  และนายกองทหารของเมืองก็ล่วงเกินนักสู้ปราณฟ้านั้นโดยตรง เขาจึงกลายเป็นมนุษย์ว่าวถูกแขวนไว้บนเสาธงในตอนนี้!
 “บัดซบ!  เจ้าเมืองถูไห่ตบโต๊ะจนถ้วยชาพุทราจีนกระดอน
อารมณ์ปกติของเขาสูญสลายไปเพราะความโกรธ
ต่อให้ฆ่าคนหลายร้อยอาการหงุดหงิดในหัวใจก็คงไม่ลดลง
อย่างไรก็ตามเมื่อสามเดือนที่แล้ว ราชาหลิงหวินเรียกเจ้าเมืองถูไห่เข้ามาตำหนิและวิพากย์วิจารณ์พฤติกรรมการฆ่าที่โหดเหี้ยมอำมหิตเกินไป  ชื่อเสียงของเขาไม่ดีนัก ข่าวลือแบบนี้ทำให้ยากกับการเตรียมตัวเข้าแดนสวรรค์บน  หลังจากปรึกษาพูดคุยกับราชาหลิงหวินลับๆ แล้ว เจ้าเมืองถูไห่เปลี่ยนวิธีฆ่าที่สร้างชื่อเสียงอื้อฉาวของเขาไปเป็นตามปกติ
เขาระงับความโกรธ  “เป็นเพราะข้าล่วงเกินอีกฝ่ายหนึ่งก่อน ข้าต้องนึกถึงความประทับใจของเขา  ถ้าเขายินดีจะสนับสนุนข้าให้เข้าแดนสวรรค์บนได้  อย่างนั้นข้าจะเปิดร้านเสริมศักยภาพและสงบศึกกับเขา ทำไมจะไม่ได้เล่า?  นอกจากนี้นักสู้ปราณฟ้า ถ้าต้องการแสดงความโกรธเกรี้ยวกราดขณะเข้าร้านค้า  เขาคงทำลายสร้างความสั่นสะเทือนไปแล้ว  แต่เขาไม่ได้ทำเช่นนั้น เขาเพียงแค่สั่งสอนคนไม่กี่คน  นี่แสดงว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ ไม่ถือสากับเรื่องเล็กน้อย ไปเอาของขวัญมา และบอกความจริงใจของข้ากับเขา ข้ายินดีรอต้อนรับเขาอยู่ที่จวนเจ้าเมือง!
พ่อบ้านเจียวซือพยักหน้า
ในเวลาที่เขาจะเดินออกมา เขาเตือนอย่างระมัดระวัง  “นายผู้เฒ่า, มีเรื่องกล่าวกันว่าอาณาจักรหลิงหวินมีเศษเดนของพวกหอทงเทียนที่ยังเหลืออยู่  แม้ว่าจะผ่านมาหกพันปีแล้ว แต่โจรพวกนี้ก็ยังไม่เลิกรา ไม่มีเลยสักวันที่พวกเขาไม่ต้องการเปิดประตูแดนสวรรค์”
เจ้าเมืองถูไห่โบกมือขวักไขว่ “สบายใจได้ เศษเดนที่เหลือเหล่านี้ไม่กล้ามายังเมืองลี่จ้าวแน่  เกาะสุริยันต์นี้จะทำให้พวกเขาไม่มีที่ซ่อนบนแดนสวรรค์  นอกจากนี้หัวหน้าพวกเศษเดนที่ยังเหลือและก่อความวุ่นวายจะถูกปิดล้อมและฆ่า  บริวารผู้ภักดีของหอทงเทียนจะถูกฆ่าไปทีละคนๆ  พวกที่เหลืออยู่เป็นพวกที่ไม่มีกำลังและแข็งแกร่ง  บางทีพวกเขาอาจไม่มีนักรบปราณฟ้าในตอนนี้ก็ได้  และคนรุ่นหลังในรอบพันปีมานี้ก็แข็งแกร่งไม่พอ  นักสู้ระดับปราณฟ้าตายเร็ว นักสู้ที่เหลือทั้งหมดเป็นพวกมดแมลง ซึ่งยังมีพลังไม่พอ!
 “ถูกแล้ว ยังเป็นท่านที่กังวลถูกต้องกว่า”  พ่อบ้านเจียวซือคำนับ
 “เจ้ากังวลกลัวก็ถูกต้องแล้ว  ความจริงเราต้องให้ความระมัดระวังพวกเศษเดนกบฏ  แต่มีเกาะสุริยันต์แล้ว  อย่าว่าแต่ตอนนี้เลย  แม้แต่กลุ่มกบฏปราณฟ้าเมื่อหกพันปีก่อนก็ยังทำอะไรไม่ได้  เจ้าก็รู้ว่าภายใต้เท้าของเรา นักรบปราณฟ้าฝ่ายกบฏถูกขังอยู่เท่าใด  เกือบร้อยคน และเป็นผู้นำรุ่นต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จมีมากกว่า 20-30 คน....”  เจ้าเมืองถูไห่หัวเราะ
คนข้างนอกคิดว่าเกาะสุริยันต์ก็คือจวนเจ้าเมือง
ความจริงนี่คือคุกที่มีพลังผนึกที่แข็งแกร่งซึ่งผู้ทรงพลังในแดนสวรรค์ร่วมกันสร้าง  แม้นักสู้ระดับปราณฟ้าที่แข็งแกร่งก็ยากจะหลบหนีออกไปจากที่นี่ได้ แม้แต่คุกลี่จ้าวที่อยู่ทางทิศเหนือของเมืองไม่มีอะไรมากไปกว่าคุกธรรมดาที่เอาไว้ขังพวกโจรเล็กโจรน้อยที่ก่อกวนอยู่ในเมืองเท่านั้น
พ่อบ้านเจียวซืออดนับถือเจ้าเมืองถูไห่ไม่ได้ที่เขาทำเป็นไม่เห็น  เมื่อเขาทำความเคารพ ตาของเขาทอประกายแปลกประหลาด
อย่างไรก็ตามประกายตาประหลาดนั้นหายวับไปอย่างรวดเร็ว
กลายเป็นความเคารพและเทิดทูนบูชา
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง
เจียวซือส่งรายงานกลับมา
เพราะเจ้าเมืองถูไห่มีใจจดจ่ออยู่กับแดนสวรรค์บน  นี่นับเป็นข่าวดี เพราะนักสู้ปราณฟ้าผู้ผ่านทางมานั้นและทุบตีนายพลเวิง และจับนายกองทหารประจำเมืองทำเป็นว่าวมนุษย์ยอมรับคำขอโทษและรับคำเชิญให้ร่วมงานเลี้ยง
นักสู้ปราณฟ้านั้นตอบรับมารยาทของพ่อบ้านเจียวซือและมอบหินปะการังแดงคุณภาพดีให้กับถูไห่ชิ้นหนึ่ง
นี่คือหนึ่งในหินปะการังแดงชนิดดีที่สุด
มีแต่แดนสวรรค์บนเท่านั้นถึงมีครอบครอง
อัญมณีหายากต่อให้มีเงินก็หาซื้อในที่นี้ไม่ได้
เจ้าเมืองถูไห่เมื่อเห็นหินปะการังแดงนี้หัวใจแทบกระดอนออกจากตัว นักสู้ปราณฟ้านี้เคยไปแดนสวรรค์บนมาแล้วหรือ?  อย่างน้อยพื้นเพตระกูล อาจารย์ ญาติพี่น้องหรือสหายของเขาคงไม่ธรรมดา  คงจะมีคนที่เคยอยู่ในแดนสวรรค์บนอยู่บ้าง  มิฉะนั้นจะมีของหายากอย่างหินปะการังแดงได้อย่างไร และของนี้ย่อมมีค่าอย่างแน่นอน
 “นักสู้ปราณฟ้านั้นมีพลังระดับใด?”  เจ้าเมืองถูไห่รู้สึกว่าเขาควรจะดึงฝ่ายตรงข้ามมาอยู่ด้วย  แน่นอนว่าจะต้องทำความเข้าใจข้อมูลของฝ่ายตรงข้ามเสียก่อน
 “ข้าไม่สามารถเห็นได้ชัดเจนว่านักสู้ปราณฟ้าผู้มีเกียรตินั้นแข็งแกร่งระดับใด...”  เจียวซือส่ายศีรษะและพูดพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย  “มองดูผิวเผินเหมือนกับเป็นนักสู้ปราณฟ้า  แต่ดูภายนอกกลับเป็นนักสู้เตรียมปราณฟ้า และให้ความรู้สึกว่าด้อยค่าเหมือนมดเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา  เขาสวมหน้ากากแพลตตินัมที่ไม่มีใครเหมือน อาจเทียบได้กับสมบัติชั้นศักดิ์สิทธิ์ ข้าไม่เคยเห็นสมบัติระดับแพลตตินัมที่มีพลังวิญญาณมากขนาดนั้น..ในกลุ่มนักสู้ปราณฟ้าชั้นสูงมาก่อน อีกอย่างเขามีอาวุธดูแล้วน่าจะเป็นอาวุธเทพร่างอสูร  ถุงมือแมงป่องอาวุธเทพร่างอสูร  ข้าคิดว่านั่นเป็นสมบัติที่หาได้ยากในหมู่นักสู้แดนสวรรค์บน!  นักสู้ปราณฟ้าผู้นั้นทำลายเห็นผิดเดิมของข้าไปหมด ทำให้ข้าไม่กล้าคาดเดาเขา”
 “จริงหรือ?” ถูไห่เมื่อได้ยิน เขาเริ่มมีความสุข  ถ้านักสู้ปราณฟ้านี้มาจากแดนสวรรค์บน อย่างนั้นข้าก็คงโชคดี
เขาตบโต๊ะด้วยความตื่นเต้นดีใจ  “มาเถอะ ไม่ เจ้ามาด้วย ข้าต้องไปต้อนรับเขาด้วยตัวเอง!

9 ความคิดเห็น:

sittichok กล่าวว่า...

ขอบคุณมากเลยนะครับ

Numton กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Pingku กล่าวว่า...

ขอบคุณคับ

Emptiest กล่าวว่า...

กำลังงงว่านางมาที่นี่ทำไม น่าจะมาปล้นคุกนะ

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

chay กล่าวว่า...

ต้องปล้นครับ งานนี้

แสดงความคิดเห็น