วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 807 เจ้าคือเจ้าถิ่นที่นี่!


ตอนที่  807  เจ้าคือเจ้าถิ่นที่นี่!
 “นี่เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ ตราบใดที่กลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง เจ้าจะใช้เวลาคิดถึงปัญหานี้ได้อย่างไม่จำกัด ข้ารับรองได้ว่าเจ้าจะไม่เสียเวลาหลับแม้แต่นาทีเดียว วันละยี่สิบสี่ชั่วโมง ทุกนาที ทุกวินาที”  ชายชราผมขาวที่แขวนอยู่บนโซ่น้ำแข็งไฟฟ้าถูกพลังไฟฟ้าระเบิดจนควันสีน้ำเงินคุกรุ่นจากผิวของเขา
 
อย่างไรก็ตามชายชราผมขาวมีท่าทางเหมือนกับยินดี
ราวกับว่าเขาไม่เจ็บปวด แต่ดูมีความสุข
เย่ว์หยางขมวดคิ้วมองดูน้ำแข็งที่ขาของเขา เขาใช้มือพยายามยกเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนให้สูงขึ้นอีกเล็กน้อย
แม้ว่านี่จะไม่ได้ป้องกันสองสาวจากการถูกแช่แข็ง  แต่ก็ทำให้กระบวนการชะลอตัวช้าลง นั่นคือความต้องการของเขา
นิ้วที่งดงามราวกับลำเทียนหยกของเสวี่ยอู๋เสียเปิดคัมภีร์แห่งสัจจะมองหาคำตอบ
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนชักดาบเทพจักรพรรดิอวี้มาถือในมือ เหมือนกับว่าจะใช้สายฟ้าโจมตี  ถ้ามีเป้าหมายนางคงโจมตีไปแล้ว  แต่ตอนนี้ศัตรูถูกพลังผนึกเอาไว้ซึ่งเป็นพลังกฎที่นักสู้รุ่นก่อนทิ้งเอาไว้ ทำให้แม้ว่านางจะถือดาบเทพไว้ก็ตาม แต่ดูเหมือนว่านางจะทำอะไรไม่ได้
 “ไอ้พลังบ้านี่, สลายไปซักทีสิโว้ย!  บุรุษผมงูพยายามดิ้นรน และน้ำแข็งในร่างของเขาแตกกระเด็นออกไปไกล
ร่างของบุรุษผมงูมีพลังเพียงพอทำลายโลกและสวรรค์ได้ รูปร่างของเขาเหมือนเทพปีศาจ
เขาขับสลายพลังเยือกแข็งออกไปทีละชิ้นๆ
ในเวลาอันรวดเร็วเขาหันส่องกระจกทนทุกข์ กระจกวิเศษที่มีพลังรองจากสมบัติเทพฉายไปทางบุรุษผมขาว  บุรุษผมขาวปล่อยให้กระจกทนทุกข์ฉายใส่ ร่างเขาระเบิด เกิดบาดแผลและเลือดกระเซ็นนับไม่ถ้วนแทนตัวของบุรุษผมงูเป็นพลังสะท้อนกลับ เลือดเหล่านั้นที่กำลังกระเด็นอยู่ที่พื้นหรือที่อากาศเริ่มกลายเป็นน้ำแข็ง พอกระทบถึงพื้นก็กลายเป็นกระสวยน้ำแข็งที่ทรงพลัง
มีกระสวยน้ำแข็งบางชิ้นกระเด็นไปถึงบุรุษผมขาว
กระจกทนทุกข์ส่งพลังอีกครั้ง
กระสวยน้ำแข็งกระทบใส่ร่างและร่วงตกพื้นโดยไม่มีพลังใดๆ  อย่างไรก็ตามในตำแหน่งเดียวกับบุรุษชราผมขาว มีบาดแผลที่ดูแปลกคล้ายกับรูปกระสวยน้ำแข็งที่ทะลุผ่านตัวของบุรุษชราอย่างช่วยไม่ได้
บุรุษผมงูเปลี่ยนอาวุธชั้นศักดิ์สิทธิ์ที่ให้กลายเป็นกระสวยบิน
เขากระโดดขึ้นไปในท้องฟ้า
ไวกว่าสายฟ้า
พุ่งตรงออกไปจากห้องโถงใหญ่...สำหรับเย่ว์หยางและเสวี่ยอู่เสีย  พวกเขาประหลาดใจที่บุรุษผมงูดูเหมือนจะสามารถหนีได้ตั้งแต่แรก แต่กลับแข็งค้างลอยอยู่ในอากาศ
เกล็ดน้ำแข็งเกาะเต็มตัวบุรุษผมงูเว้นแต่ศีรษะของเขา
เขาไม่สามารถดิ้นรนได้อีกต่อไป จึงพยายามใช้เรี่ยวแรงสุดท้ายสะบัดกระจกทนทุกข์เพื่อให้ฟื้นจากการแช่แข็ง
 “ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่มีประโยชน์ ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไร ไม่มีทางที่พวกเจ้าจะเดินออกไปจากวิหารปีศาจดินได้  พลังของผนึกที่นี่อนุญาตให้เข้าได้อย่างเท่านั้น ไม่มีใครได้รับการยกเว้น อย่าว่าแต่เจ้าดื่มเหล้าที่ทำขึ้นจากเลือดของข้าไปด้วย  ตามกฎเจ้าคือสหายของข้า อย่างน้อยต้องร่วมรับโทษไปหนึ่งในสิบ และนี่คือมาตรฐานตลอดไป!” บุรุษผมขาวไม่หัวเราะอีก
 “ยังมีอีกทางหนึ่ง” บุรุษผมงูที่เริ่มถูกแช่แข็งแค่นเสียงออกจากลำคอ และเปล่งเสียงด้วยความเจ็บปวด “พวกเจ้าทั้งสาม  ถ้าพวกเจ้าไม่ต้องการตาย พูดอะไรบ้างสิ เร็วเข้า!
 “ทำยังไง?”  เย่ว์หยางถาม
 “หยิบกระจกทนทุกข์ขึ้นมา จากนั้นส่องน้ำแข็งบนตัวเจ้ามาที่ข้าหรือไปที่ปีศาจเฒ่า เจ้าใช้ดาบเทพฆ่าเขา ต่อเมื่อเขาตาย ผนึกจะได้รับการปลดปล่อย... ดาบเทพสามารถฆ่าเขาได้ มีแต่อาวุธเทพเท่านั้นจึงจะทำได้...”   บุรุษผมงูกระอักโลหิตออกมาเป็นน้ำแข็งอย่างคาดไม่ถึง  น้ำแข็งเริ่มลามมาถึงคอเขาจนคลุมหน้าผากกระจายไปที่ตัวงูบนศีรษะ  งูบนศีรษะนั้นรู้สึกกลัวแต่มันหนีไม่ได้เพราะหางมันถูกตรึงกับศีรษะเขาไม่ว่าจะหลบอย่างไรก็หลบไม่พ้น
 “เราไม่สามารถใช้กระจกทนทุกข์ของเจ้าได้  สมบัติวิเศษของเจ้าเป็นของชั้นสูงเกินไปแค่เป็นรองสมบัติเทพเท่านั้น”  เย่ว์หยางพูดความจริง
 “เจ้าไม่ต้องใช้  ข้าจะควบคุมเอง ตราบเท่าที่เจ้าถือให้ได้”  บุรุษผมงูยังคงใช้พลังจิตควบคุมกระจกทนทุกข์ได้  แต่เขาใช้มือไม่ได้ ภายใต้พลังกฎสวรรค์เขากลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง
 “มันจะได้ผลจริงๆ หรือ?” เย่ว์หยางไม่เห็นด้วย เขายังมีความรู้สึกลังเล
 “ข้าไม่รู้ แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรทำ”  บุรุษผมงูกระอักเลือดด้วยความเจ็บปวด และน้ำแข็งเริ่มลามมาถึงแก้มของเขา  “ข้ามีเวลาไม่มาก เร็ว รีบหน่อย!
ชายชราผมขาวเห็นท่าไม่ดีรีบใช้เท้ากระตุ้นน้ำแข็งที่เท้าทั้งสองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
น้ำแข็งระเบิดใส่
เป็นประกายจุดๆ เหมือนประกายไฟฟ้า
ความตั้งใจของเขาคือเร่งความเร็วแช่แข็งบุรุษผมงูซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด  ประการแรกสุดเพื่อขัดขวางเย่ว์หยางไม่ให้หยิบกระจกทนทุกข์ซึ่งจะถ่ายเทความเจ็บปวดมาที่เขาแทน เขาไม่ต้องการลองอีกครั้ง เกี่ยวกับเย่ว์หยาง เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทั้งสามคนนี้  แม้ว่าเขาจะถือว่ามีความสำคัญแต่ยังไม่น่ากลัวเหมือนกับบุรุษผมงู  ที่สำคัญคือบุรุษผมงูเป็นคนรุ่นหลังของสี่ตระกูลใหญ่ แตกต่างจากเย่ว์หยางที่เป็นตัวปลอม
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนควงดาบเทพจักรพรรดิอวี้และฟันใส่น้ำแข็งที่โจมตีใส่ราวกับสายฝน
เย่ว์หยางได้รับพลังสนับสนุนจากพลังหยินของเสวี่ยอู๋เสียก้าวขาทั้งสองที่ถูกแช่แข็งไปทางกระจกทนทุกข์อย่างยากลำบาก
เสวี่ยอู๋เสียเปิดคัมภีร์แห่งสัจจะ พลังจิตที่มองไม่เห็นเผชิญกับชายชราผมขาวที่เปิดคัมภีร์โบราณเช่นกัน... เทียบกับพลังป้องกันขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่ต้านทานพลังน้ำแข็ง พลังจิตของนางยังอันตรายมากกว่า  หากปล่อยให้ศัตรูโจมตีได้สำเร็จ นางจะตกอยู่ในสภาพสูญเสียจิตใจ อาจได้รับผลกระทบจากพลังงานของศัตรูจนกลายเป็นคนโง่
 “เร็วเขา รีบหน่อย!  ร่างของบุรุษผมงูเริ่มมีน้ำแข็งเกาะแน่น และจมูกกับปากของเขาไม่สามารถหายใจได้  คาดว่าภายในหนึ่งนาทีเขาคงกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง
 “อย่าส่งเสียงดัง” เย่ว์หยางเดินอย่างยากลำบาก  ความจริงถ้าไม่ใช่เพราะพลังน้ำแข็งของเสวี่ยอู๋เสีย เขาก็คงไม่สามารถทำพลังผนึกน้ำแข็งชั่วคราว อย่าว่าแต่เดินหน้าเลย แค่ก้าวทีก้าวเย่ว์หยางยังรู้สึกลำบากอย่างหนัก เหมือนกับว่าทุกย่างก้าวต้องใช้พลังทั้งตัว
เขาก้าวเท้าอย่างหนักหน่วง
ระยะทางสิบกว่าเมตรเหมือนเป็นอุปสรรคใหญ่
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนใช้ดาบเทพจักรพรรดิอวี้ช่วยป้องกัน  ส่วนเสวี่ยอู๋เสียลอบใช้พลังวิญญาณโจมตี
ในที่สุดก่อนมาถึงรูปที่แข็งเป็นน้ำแข็งของบุรุษผมงู เย่ว์หยางพบว่าการงอตัวมีปัญหา  ความเคลื่อนไหวของเขาช้ามากเหมือนเครื่องจักรกลที่ขึ้นสนิท... ขณะนั้นคนที่ชายชราผมขาวกังวลก็คือบุรุษผมงูอยู่ในระหว่างรีบเร่ง 
ฝ่ายหนึ่งต้องการหยุดความสิ้นหวัง ฝ่ายหนึ่งต้องการลงมือให้สำเร็จ
แน่นอนว่าเพราะความสัมพันธ์ของพลังผนึก ไม่มีใครสามารถเข้าไปแทรกแซงได้โดยตรง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเย่ว์หยาง
เย่ว์หยางเอื้อมมือขวาออกไปทีละนิดๆ
จนจวนจะถึงกระจกทนทุกข์
แค่เพียงอีกเล็กน้อยจะสัมผัสถึงกระจกนั้น
 “เร็วเข้า, ข้าจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว” บุรุษผมงูใช้พลังจิตอึดสุดท้ายเพื่อให้หน้าพ้นจากน้ำแข็ง ขณะที่บุรุษผมขาวยิงน้ำแข็งเข้าใส่อย่างบ้าคลั่งกลายเป็นคลื่นพลังพุ่งเข้าหาเย่ว์หยาง  เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
 “ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไป ตราบใดที่พวกเจ้าไม่แตะมัน” ชายชราผมขาวเสนอเงื่อนไข
 “อย่าไปฟังเขา...” บุรุษผมงูกระตุ้นเย่ว์หยางให้หยิบกระจกทนทุกข์ให้เร็วขึ้น ไม่ว่ายังไงก็ตามการเก็บกระจกทนทุกข์ขึ้นมาเป็นการกระทำที่สำคัญที่สุด นั่นคือกุญแจพลิกสถานการณ์การต่อสู้ทั้งหมด  บุรุษผมขาวกระวนกระวายเรียกอสูรจักรกลที่ไม่ธรรมดาออกมาจากหนังสือโบราณออกมาช่วย แต่ไม่ได้ออกมาทำร้ายเย่ว์หยาง แต่มุ่งโจมตีที่กระจกทนทุกข์ที่เขากำลังจะเก็บขึ้นมา
แม้แต่คนตาบอดก็เห็นได้ว่าเย่ว์หยางต่อต้านพลังน้ำแข็งจนถึงขีดจำกัดแล้ว
ถ้ากระจกทนทุกข์ถูกโจมตีกระเด็นไปอีกสิบเมตร เขาคงไม่มีแรงพอเดินไปอีกสิบเมตรอีกครั้ง
เย่ว์หยางค่อยๆ ยื่นมือขวาที่สั่นเทาเพื่อแข่งความเร็วกับอสูรจักรกล
ผู้ใดเร็วกว่าผู้นั้นจะสามารถพลิกสถานการณ์การต่อสู้!
แม้ว่าอสูรจักรกลจะรวดเร็ว แต่ดาบเทพจักรพรรดิอวี้ขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฟันใส่ตัดร่างของมันขาดครึ่งอย่างแม่นยำ  แต่ร่างท่อนบนของมันบินต่อไปได้ ส่วนล่างท่อนล่างตกร่วงกับพื้นน้ำแข็ง  ถ้าไม่ใช่เพราะมือที่จับดาบขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมีน้ำแข็งเกาะแน่นแล้ว มิฉะนั้นอสูรจักรกลคงจะถูกทำลายโดยตรงภายใต้พลังปราณกระบี่เทพ
หลังจากผ่านอุปสรรคนี้ไปได้
เป็นมือของเย่ว์หยางที่เร็วกว่า...
อย่างไรก็ตามในขณะที่นิ้วสัมผัสเข้ากับกระจกทนทุกข์ เย่ว์หยางชะงักทันที  จากนั้นพยายามดิ้นรนถอย และค่อยๆ ยืดตัวตรงภายใต้สายตาของบุรุษผมงูและชายชราผมขาว
 “เจ้าจะทำอะไร?”  สีหน้าของบุรุษผมงูเหมือนกับคนจะเป็นลม
 “สิ่งที่เจ้าทำก็คือเรื่องความฝันในก่อนหน้านั้นที่ข้าเล่าให้ฟังไม่ใช่หรือ? จำได้ไหมเมื่อข้าพูดถึงกฎของจ้าวนรก? ทั้งหมดนั้นเป็นการทดสอบของข้า!  ถ้าข้าแตะต้องกระจกทนทุกข์นี้ ข้าเองนั่นแหละที่เป็นเจ้าหน้าโง่ตัวจริง!  เย่ว์หยางยิ้มกว้างทำให้ศัตรูหงุดหงิดและทำอะไรไม่ถูก เขายังโอบเอวบางของเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน สตรีทั้งสองประกบคัมภีร์แห่งสัจจะกับดาบเทพจักรพรรดิอวี้เข้าด้วยกัน เกิดคลื่นสั่นสะเทือนทางจิตวิญญาณ ทำให้น้ำแข็งนับล้านมารวมกัน.. ดูเหมือนทั้งสามคนจะไม่รู้สึกตัว ร่างของพวกเขากลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งที่ไม่มีการป้องกันใดๆ
จากนั้นครู่ต่อมาฉากภาพน้ำแข็งทั้งหมดแตกกระจายเหมือนกับแก้ว
แตกกระจายเป็นชิ้นส่วนขนาดต่างๆ นับพันชิ้น
ปราสาทน้ำแข็งยังคงเหมือนเดิม  โซ่น้ำแข็งยังคงเดิม
ชายชราผมขาวที่ถูกแขวนห้อยหัวลงและบุรุษผมงูที่ถูกแช่แข็งยังคงเหมือนกัน  แต่สามคนนี้แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง
รูปปั้นน้ำแข็งข้างหน้ากระจกทนทุกข์หายไป  เย่ว์หยางและเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ทอง ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้ขยับเปลี่ยนท่าทางมาก่อน
 “เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?”  เมื่อชายชราผมขาวเห็นเช่นนี้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปมากมาย
 “ฮ่าฮ่า, แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้”  เย่ว์หยางยิ้มมีความสุข เหมือนกับคนแปลกถิ่นในบ้านเกิด แล้วจู่ๆ ก็พบเห็นสหายที่หายหน้าไปนาน รอยยิ้มของเขาเป็นกันเอง  เขาใช้นิ้วค่อยๆ แตะเก้าอี้ทอง และเสียงเหมือนโลหะดังขึ้น  “เป็นยังไงบ้าง, ภาพลวงตาที่เราสร้างขึ้น  เหมือนจริงยิ่งกว่าที่เจ้าสร้างมาหรือเปล่า?  ก่อนที่จะไปแดนสวรรค์ นางพญาเฟ่ยเหวินหลีบอกข้าว่าในแดนสวรรค์ไม่สามารถเชื่อถือใครได้ ไม่ว่าเป็นสหายหรือศัตรูก็ไม่อาจเชื่อได้!
 “เฟ่ยเหวินหลียังมีชีวิตอยู่อีกหรือ?”  ชายชราผมขาวและบุรุษผมงูได้ยินแล้ว ทุกคนรู้สึกตกใจเล็กน้อย
 “ปัญหานั้นเราคงไม่พูดถึงก่อน เรากลับไปที่ปัญหาของการต่อสู้ในตอนนี้  เพราะมีข้อสงสัยสำหรับทุกคน  ดังนั้นเจ้าที่อ้างว่ามาจากตระกูลใหญ่ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น!  เย่ว์หยางชี้ไปที่บุรุษผมงูและอธิบายพร้อมกับยิ้ม
 “ตอนนี้ข้าเป็นพันธมิตรเจ้าอยู่แล้ว  ตราบใดที่เราร่วมมือกัน เราสามารถสู้กับจอมปีศาจลี่ตี้ได้!  บุรุษผมงูร้องตวาดด้วยความโกรธ
 “ใช่แล้ว ข้าทำอย่างนี้ ข้าพยายามจะสู้กับเจ้า เพราะเจ้าคือจอมปีศาจลี่ตี้ตัวจริง”  เย่ว์หยางสบตากับเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและในที่สุดก็ตอบคำตอบนี้ด้วยความมั่นใจ
 “พวกเจ้าพูดอะไร?  พวกเจ้าบ้าไปแล้วหรือ?”  บุรุษผมงูโมโห
 “ว่ากันตามจริงเจ้านั่นแหละคือจอมปีศาจลี่ตี้ และข้ามีหลักฐานจริงๆ” เย่ว์หยางชี้ไปที่ชายชราผมหงอกผู้ถูกแขวนอยู่ในอากาศด้วยโซ่น้ำแข็งทั้งเก้าและถูกพลังกฎสวรรค์ลงโทษอยู่ตลอดเวลา  “เขาไม่ใช่จอมปีศาจลี่ตี้ที่แท้จริง แต่เป็นอสูรพิทักษ์ของเจ้า!  เจ้าใช้ทักษะแฝงเร้นและใช้อสูรพิทักษ์รับโทษแทนร่างกายที่แท้จริงของเจ้า แต่เจ้ากลับหนีการลงโทษครั้งนี้ หรือบางทีเจ้าอาจต้องทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด  แต่อย่างน้อยเจ้าไม่ต้องถูกโซ่ทั้งเก้าล่ามเอาไว้  อย่างน้อยก็ยังฟื้นฟูพลังบางส่วนได้... ส่วนพลังของผนึก เจ้าไม่อาจท้าทายได้  เจ้าไม่อาจหลบหนีออกไปได้ ขอบเขตการกระทำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเจ้าก็คือวิหารปีศาจดิน  ดังนั้นเจ้าจึงมาปรากฏอยู่ที่ด้านหลังเราโดยบังเอิญ”  เย่ว์หยางยิ้มด้วยความมั่นใจเฉิดฉายเหมือนดวงอาทิตย์ “บอกความลับเจ้าอย่างหนึ่งก็ได้ ตาของข้าและคัมภีร์แห่งสัจจะของนาง อย่างน้อยก็เทียบเท่าเทพ แม้แต่เจ้าประมุขตำหนักกลางจีอู๋ลี่ที่มีพลังแทบใกล้เคียงกับเทพก็ยังใช้ไม่ได้  เจ้าสามารถผ่านสายตาข้าไปได้ นี่เป็นการพิสูจน์ความจริงว่าเจ้ามีพรสวรรค์ ใช่แล้วในนี้เจ้าคือเจ้านาย”
เมื่อได้ยินคำพูดสุดท้ายของเย่ว์หยางหน้าของบุรุษผมงูเปลี่ยนไป
ตาของเขาแหลมคมเหมือนดาบ
รังสีฆ่าฟันทะลักออก
หลังจากผ่านไปนาน บุรุษผมงูเบือนสายตาจากเย่ว์หยางและมองดูคัมภีร์แห่งสัจจะในมือของเสวี่ยอู๋เสีย
เสวี่ยอู๋เสียพลิกเปิดคัมภีร์แห่งสัจจะเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่สนใจสายตาของฝ่ายตรงข้าม ราวกับว่าบุรุษผมงูเป็นคนตาบอด  บุรุษผมงูมองดูดาบเทพจักรพรรดิอวี้ขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและพยักหน้าในที่สุด “นี่ถือเป็นเกียรติที่ได้เปิดหูเปิดตา ข้าคิดไม่ถึงจริงๆ เด็กสมัยนี้ฉลาดมาก!   เยี่ยมมาก..ข้าประมาทไปเล็กน้อยคิดว่าพวกเจ้ายังเป็นเด็กที่ไม่รู้ความ สามารถมีคัมภีร์แห่งสัจจะที่เป็นรองสมบัติระดับเทพได้ มีดาบเทพจักรพรรดิอวี้ของจักรพรรดิอวี้นับว่าพวกเจ้าไม่ธรรมดาแน่นอน และอย่างไรก็ตามส่วนที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็คือเจ้ากับเด็กสาวทั้งสองมีความสามารถ มีสมบัติเทพที่เชื่อฟังคำสั่งอย่างสมบูรณ์หรือ? จะไม่มีปัญหากับภาพลวงตาหรือ?”
 “ความสามารถของข้า ท่านจะได้รู้ในอีกไม่ช้า!  ถ้าท่านคิดว่าเราไม่มีทักษะสักเล็กน้อย  เราจะกล้ามาท้าทายท่านถึงวิหารปีศาจดินหรือ  จอมปีศาจลี่ตี้, ถ้าเป็นอย่างนี้ ท่านก็เข้าใจผิดแล้ว”  เย่ว์หยางยิ้มอีกครั้ง  ครั้งนี้รอยยิ้มของเขาไม่เพียงแต่ทำให้บุรุษผมงูรู้สึกเหมือนกับดวงอาทิตย์เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อจิตใจเหมือนกับว่ารอยยิ้มนี้เป็นรอยยิ้มแห่งความตาย!

9 ความคิดเห็น:

dvdkeeper กล่าวว่า...

หลอกกันสุดๆ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณคับ

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ตบมันสักที

Emptiest กล่าวว่า...

หักมุมมาก

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

chay กล่าวว่า...

รู้เลยใครหลอกเก่งกว่ากัน

แสดงความคิดเห็น