ตอนที่ 813
วงจักรล้างโลก สังหารทันที
เย่ว์หยางไม่สมควรจูบเสวี่ยอู๋เสียอย่างไม่มีเหตุผลเมื่อเขาออกมา
ที่สำคัญยังมีบุรุษผมงูอยู่ที่นี่อีกคนหนึ่ง
ไม่ควรรีบร้อนประกาศอำนาจอธิปไตย นั่นจะทำให้คนที่มีความชอบตกที่นั่งลำบาก เมื่อดูปัญหาของแดนสวรรค์แล้ว นึกถึงปัญหาในทะเลจีน
ดินแดนจีนตะวันออกกำลังมีการเปลี่ยนแปลงไป หากมีความเข้าใจเรื่องในอดีต
ผู้คนมากกว่าพันล้านจะก่อภัยพิบัติขนาดเล็กได้หรือ?
แน่นอนว่าตัวอย่างที่ว่ามานี้ย่อมไม่เหมือนกัน
เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนนอกจากเย่ว์หยางแล้วพวกนางไม่ชายตามองบุรุษอื่น
แต่เย่ว์หยางคิดว่าทำให้ความสัมพันธ์คู่รักชัดเจนไปเลยจะดีกว่า
เพื่อให้เรื่องยุ่งยากกระจายหายไปกับสายลม
หลังจากจูบเสวี่ยอู๋เสียแล้ว
เขากอดองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไว้ในวงแขนและจูบแม่เสือสาวอย่างหนักหน่วงโดยไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมทั้งนั้น
แน่นอนดูแล้วว่าชีวิตรักที่มีความสุขสมของเย่ว์หยางรายล้อมไปด้วยหญิงงาม
กล่าวได้ว่าบุรุษผมงูนามว่าฉางฟงอดรู้สึกอิจฉาไม่ได้
จนรู้สึกอยากเอาศีรษะโขกพื้นยิ่งนัก
“กว่าข้าจะได้พบหญิงงามสักคนแสนยากลำบาก เห็นอย่างนี้แล้วข้าอยากตาย”
คุณชายฉางฟงผู้อ้างว่ามาจากสี่ตระกูลใหญ่แดนสวรรค์ร้องไห้สะอื้น
ท่าทีเศร้าสร้อย ดูเหมือนเป็นไปได้ว่าเขาอาจเฉือนข้อมือฆ่าตัวตายก็เป็นได้
“ถ้าเจ้าผูกคอตาย เจ้าจะตายช้าและทรมาน เชื่อข้า...ใช้มีดดีกว่า นี่จะช่วยให้เจ้าสมประสงค์ได้” เย่ว์หยางยื่นดาบให้เขาอย่างมีน้ำใจ
“เฮ่ย.. ข้าไม่อยากตายสักหน่อย...” คุณชายฉางฟงไม่ใช่คนโง่
เขาไม่มีความสุขในชีวิตที่อายุสั้นตายเร็วเช่นกัน
“ไม่เป็นไร, ถ้าเจ้ายังคิดไม่ตก
เจ้ามาหาข้าได้ทุกเมื่อ ข้ามีสารพัดวิธีให้เจ้าตายโดยไม่เจ็บปวด
ตราบใดที่เจ้าจ่ายค่าที่ปรึกษาให้บ้างสักเล็กน้อย ข้าสามารถระดมเงินบริจาคค่าโลงศพจากเมืองหินขาวตะวันตกให้เจ้าได้
ข้าเองก็ยินดีรับเป็นเจ้าภาพให้ ยิ่งถ้าเจ้าเลือกตายในวันหยุดนักขัตฤกษ์
ร้านขายโลงจัดสมณาคุณซื้อหนึ่งแถมหนึ่งให้เจ้าด้วย” เย่ว์หยางยังพูดไม่จบคุณชายฉางฟงหวาดกลัวจนหน้าถอดสี
เขาเผ่นหนีไม่คิดชีวิตไม่กล้าหันกลับมามองอีกเลย
เหมือนกับว่าขืนอยู่ต่อแม้อีกวินาทีเดียว เย่ว์หยางอาจกดดันให้เขาฆ่าตัวตายได้
“หลอกตีกินอีกแล้ว!”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรู้ว่าเย่ว์หยางเป็นผู้แข็งแกร่งที่ไม่ยอมให้คนอื่นดูแคลนตนเองได้
นางกำหมัดและทุบเขา แม้ว่าดูภายนอกเหมือนจะโกรธแง่งอน
แต่ความจริงหมัดนางเบาไม่สามารถฆ่าได้แม้แต่ยุง
“ข้าไม่ห่วงว่าแม่เสือสาวเจ้าจะมีเสน่ห์มากเกินไป!”
เย่ว์หยางลูบหน้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเบาๆ
นางยินดีจนได้ยินเสียงเต้นของหัวใจ
นางรู้ว่าเขาแข็งแกร่งและหึงนาง
แต่ในที่สุดนางแข็งขืนตัวแต่ไม่โกรธและมีความสุขในใจ
เนื่องจากการปรากฏตัวของบุรุษผมงูฉางฟงผู้นี้และเพราะจอมปีศาจลี่ตี้กำลังจะฆ่าเสวี่ยอู๋เสีย
เย่ว์หยางจึงถูกขัดจังหวะความรับรู้ขอบเขตปราณราชันย์
เขาสามารถดึงพลังสนับสนุนมาจากพลังงานกฎสวรรค์ของวิหารปีศาจดินเพื่อเลื่อนระดับเป็นนักสู้ปราณราชันย์อย่างสมบูรณ์
ทั้งยังสามารถเลื่อนพลังได้สูงมากกว่าปราณราชันย์ระดับสอง แต่เมื่อตอนนี้ถูกขัดจังหวะเขาค่อยหาโอกาสเลื่อนระดับในภายหลัง
โลกเราไม่ได้สมบูรณ์พร้อมอยู่แล้ว
สามารถเสี่ยงท้าทายดูดซับพลังกฎสวรรค์เพื่อเลื่อนระดับพลังปราณราชันย์ได้นับเป็นความสำเร็จในวิถีของเย่ว์หยางแล้ว
นอกจากนี้ในการท้าทายที่ยากลำบากนี้
เทพธิดาเทวทูตวายุของเสวี่ยอู๋เสียเนื่องจากผสานพลังอยู่กับคัมภีร์โบราณ
จึงทำให้มีวิวัฒนาการกลายเป็นเทพขุนพลวายุซึ่งนับเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่
“เจ้าเป็นใครกันแน่?” จอมปีศาจลี่ตี้คำรามเสียงทุ้ม เขานึกคิดด้วยความขุ่นเคืองว่าเย่ว์หยางไม่ใช่คนธรรมดาในหอทงเทียนแน่นอน แต่อาจจะมาจากดินแดนในตำนานก็ได้
มนุษย์ธรรมดาจะมีความเข้าใจระดับนั้นได้ยังไง?
ความรู้ทุกอย่างของเขามีอยู่มากมายขนาดไหนกันแน่?
นี่ไม่ใช่ระดับที่นักสู้หอทงเทียนจะสามารถฝึกให้สำเร็จได้จนถึงระดับนี้...
ถ้าเขามาจากดินแดนในตำนานจริงๆ
อย่างนั้นการสู้รบครั้งคงตัดสินไปแล้วว่าต้องพ่ายแพ้อย่างน่าอนาถ
ต่อให้เป็นฝ่าบาทจักรพรรดิปีศาจฟ้าก็คงสู้กับนักรบผู้นี้ไม่ได้!
“คนตายไม่จำเป็นต้องรู้ความลับหรอก!” แม้ว่าเย่ว์หยางจะได้รับการเลื่อนระดับเป็นนักสู้พลังปราณราชันย์ แต่ยังเป็นผู้ใหม่อยู่ เขาไม่กล้าดูถูกศัตรูจริงๆ
จอมปีศาจลี่ตี้ผู้นี้ไม่ใช่ผู้ที่จะรับมือได้ง่าย
เป็นเพราะผนึกของกฎสวรรค์ทำให้เขาสูญเสียพลังไปมาก
เหลือพลังไม่ถึงหนึ่งในสิบของพลังเดิม
ถ้าจอมปีศาจลี่ตี้พบกับเขาในช่วงที่พลังสุดยอด
ผลที่ตามมาคงคาดไม่ได้ว่าผู้ใดจะแพ้ผู้ใดจะชนะ อย่างน้อยถ้าจอมปีศาจลี่ตี้ต้องการหนีไป
เย่ว์หยางกับเสวี่ยอู๋เสียร่วมมือกันก็คงหยุดไม่ได้..
เพลิงอมฤตลุกโชนเป็นลำร้อนแรง
เย่ว์หยางกระโดดเข้าไปในกองเพลิง
และขี่หงส์เพลิงขับไล่ต้อนจอมปีศาจลี่ตี้ด้วยความเร็วดุจสายฟ้า
ขณะที่จอมปีศาจลี่ตี้คำรามดังสายฟ้าเขาปล่อยหมัดใส่ศัตรู มือขวาของเขาค่อยๆ
กวาดออกช้าๆ เพราะอิทธิพลของวงจักรนิรันดร
ในระยะสิบเมตรทุกสัดส่วนของจอมปีศาจลี่ตี้ล้วนหนักอึ้ง ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วเหมือนเดิมได้อีก
เย่ว์หยางดูที่อกของจอมปีศาจลี่ตี้และผลักมือซ้ายออกเบาๆ
หลังจากเข้าถึงสำนึกปราณราชันย์แล้ว
วงจักรล้างโลกก็สามารถเปลี่ยนร่างอมตะให้เป็นคนตายได้
อักษรรูนโบราณไม่ได้จางลางเลือนเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป
แต่ปรากฏชัดสมบูรณ์แสดงให้เห็นถึงพลังงานที่ทำลายล้างโลกได้
อักษรรูนอมตะที่อยู่ในระดับลึกลงไปปรากฏที่ระหว่างคิ้วของเย่ว์หยาง
เชื่อมโยงกับสำนึกปราณราชันย์
พลังกฎสวรรค์ขนาดเล็กของวงจักรล้างโลกและพลังของวงจักรโลกก็มีพลังในการทำลายล้างอยู่ทั้งสามส่วนประกอบนี้ตัดเข้าไปในอกของจอมปีศาจลี่ตี้
พลังตัดครั้งนี้ไม่ได้เหมือนครั้งก่อนที่ตัดขาดเป็นสองท่อน
นั่นรวมทั้งวิญญาณ
ปณิธานและพลังงาน
รอยแผลทั้งหมดถูกเปิดออก
ในที่สุดพลังล้างผลาญเช่นนั้นสามารถโจมตีได้
เย่ว์หยางเพิ่งก้าวเข้าสู่ระดับปราณราชันย์ พลังแห่งการรู้แจ้งยังไม่เพียงพอจะใช้พลังที่แท้จริงของวงจักรล้างโลก ถ้าเย่ว์หยางมีพลังปราณราชันย์ถึงระดับสิบและใช้พลังปราณราชันย์ จากนั้นพลังเทพที่ออกมาจะเป็นพลังเทพที่แท้จริง
และทำให้วงจักรมีพลังทำลายล้างที่แท้จริง
ไม่ใช่แค่ฆ่าศัตรู
วงจักรล้างโลกตัดผ่านร่างของจอมปีศาจลี่ตี้ออกด้านหลัง
ภาพที่ปรากฏคือร่างขนาดใหญ่จอมปีศาจลี่ตี้มีบาดแผลเปิด
แต่ไม่ได้ร่างขาดเป็นสองท่อน
เกราะปีศาจฟ้าแต่เดิมที่ไร้เทียมทานยังถูกวงจักรล้างโลกตัดผ่านโดยไม่อาจป้องกันไว้ได้
ราวกับเขาไม่ทราบว่าวงจักรล้างโลกแตกหักได้
หลังจากรู้แจ้งแล้วเย่ว์หยางเสร็จสิ้นการรู้แจ้งพลังชั้นสูง
วงจักรล้างโลกได้ฟื้นฟูพลังปณิธานราชันย์ที่แท้จริง ตอนนี้ทุกคนเหนื่อย
ร่างเขาเหงื่อโทรมกาย
ลมหายใจหนักหน่วงเหมือนวัวกระทิง
ปกติแล้วการต่อสู้ต่อเนื่องเป็นเวลาสามชั่วโมงนั้นเหนื่อยมากอยู่แล้ว
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตกใจรีบเข้ามาคว้าแขนประคองเย่ว์หยาง
ตอนนี้ประกายอักษรรูนไม่เพียงแต่กินพลังของเย่ว์หยาง แม้แต่นางกับเสวี่ยอู๋เสียยังพลอยรู้สึกมึนงงไปด้วย
ซากหักพังของวิหารปีศาจดินได้รับผลกระทบ
ก้อนน้ำแข็ง
พื้นที่แข็งเหมือนหินกลายเป็นวังวนหมุนและสิ่งมีชีวิตที่อยู่โดยรอบถูกทำลายทันที
ไม่มีตุ๊กตาน้ำแข็งที่ตื่นขึ้น
เพราะถูกผนึกเป็นเวลานานเกินไป และไม่ค่อยมีผู้รอดชีวิตเท่าใดนัก
พวกเขาถูกฆ่าตายตั้งแต่อยู่ภายใต้พลังกดดันของยักษ์ทองแล้ว เหลืออยู่สอง
แต่เพราะพลังของวงจักรล้างโลกที่ใช้ออกโดยอักษรรูนอมตะ สลายเป็นผุยผง รูปตุ๊กตาน้ำแข็งแตกกระจาย
ร่างของพวกเขาถูกวงจักรล้างโลกบดขยี้จนไม่มีอะไรเหลือ ยกเว้นแต่คัมภีร์อัญเชิญที่ร่วงตกอยู่ในที่ห่างออกไปแล้ว
ไม่มีอะไรเหลือ
“วงจักรล้างโลก ยังมีพลังที่แข็งแกร่งยิ่งนัก!”
เสวี่ยอู๋เสียมีคัมภีร์แห่งสัจจะและนางก็ยังไม่รู้ว่าวงจักรล้างโลกมีความน่ากลัวขนาดไหนหลังจากที่เย่ว์หยางมีความสำเร็จเข้าถึงระดับปราณราชันย์
“....”
เย่ว์หยางอ้าปากหอบ และไม่สามารถคิด เพราะเขาคิดไม่ออก
จอมปีศาจลี่ตี้ที่ถูกวงจักรล้างโลกฟันใส่แต่ยังไม่ตาย
ก็แค่ทำลายชีวิต
เกราะปีศาจฟ้าบนร่างของเขาร่วงลงโดยอัตโนมัติ
แหวนเก็บสมบัติ
จากนั้นขวานปีศาจดิน ลักษณะเหมือนงูไม่สามารถคงรักษาเอาไว้ได้
และกลับคืนเป็นร่างเหมือนปีศาจอสูรพิทักษ์ที่ถูกเสี่ยวเหวินหลีตรึงเอาไว้กับผนังน้ำแข็ง เจ้าของกับอสูรพิทักษ์มีความคล้ายกันมาก
จอมปีศาจลี่ตี้ดูเหมือนต้องการไปหาอสูรพิทักษ์ของเขา แต่ทันทีที่เขาก้าวเท้า ร่างของเขาสั่น
จอมปีศาจลี่ตี้ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
ในก้าวที่สอง
อสูรพิทักษ์ที่อยู่หน้าจอมปีศาจลี่ตี้
จอมเวทที่เคยแปลงตัวเป็นบุรุษผมขาวกลายเป็นลำแสงกระจายหายไปในอากาศ
แต่ไม่กลับไปหาจอมปีศาจลี่ตี้ เหมือนอย่างอสูรพิทักษ์ที่ตายแล้วกลับไปหาเจ้านายตามปกติ..
ร่างของเขาระเบิดดังปัง....
คัมภีร์อัญเชิญของจอมปีศาจลี่ตี้ร่วงลงพื้นสีดูหมองหม่นและพลังรัศมีจางลงเหมือนกับชีวิตของผู้เป็นนาย
จอมปีศาจลี่ตี้เข่าอ่อนเกือบทรุดลงกับพื้น
แต่เขาดิ้นรนลุกขึ้นยืน
“ท่านมีความแข็งแกร่งมาก ถ้าเป็นหลายหมื่นปีที่แล้ว ข้าคงต้านท่านไม่ได้แม้สักครู่ ถ้าข้ามีพลังแข็งแกร่ง
ข้าอยากจะท้าทายท่านในสภาพแข็งแกร่งที่สุด
แต่เพราะสถานการณ์ภายนอกบังคับ
ข้าไม่มีเวลารอได้ ข้าต้องการแข็งแกร่งอย่างเร่งด่วน จอมปีศาจลี่ตี้!
ท่านไม่ได้พ่ายแพ้ในเงื้อมมือข้า หากแต่ท่านพ่ายแพ้ให้กับโชคชะตาต่างหาก” เย่ว์หยางให้เกียรติจอมปีศาจลี่ตี้
“โชคชะตาของข้า
น่าอนาถอยู่แล้วหลังจากที่ผ่านมาหลายหมื่นปี ดังนั้นตายเสียก็ยังนับว่าดีกว่า บุรุษหนุ่ม, ขอบคุณเจ้า
ถ้าเจ้าพบกับปีศาจฟ้าช่วยบอกเขาด้วยว่าข้าเป็นอิสระแล้ว”
จอมปีศาจลี่ตี้งอตัวและล้วงมือเข้าไปในเกราะปีศาจฟ้าดึงชิ้นไม้ที่อยู่ข้างในเกราะออกมา
เขาเช็ดเบาๆ
จากนั้นโยนให้เย่ว์หยาง
ในที่สุด
เขายืดตัวตรงอย่างเข้มแข็ง
เขาทรงกายยืนตัวตรงเหมือนคันทวน แม้แต่ม่านตาก็ขยายเหมือนกับว่าพลังชีวิตสลายไป
แม้ตายเขาก็ไม่ยอมล้มลง
แม้ว่าเย่ว์หยางจะฆ่าเขาด้วยวงจักรล้างโลก เขาก็ยังคือจอมปีศาจลี่ตี้ผู้มีนามกึกก้องทั้งแดนสวรรค์
เย่ว์หยางมองดูโองการปีศาจฟ้าในมือตนเอง
เขาจะมอบของขวัญให้จอมปีศาจลี่ตี้ตอบแทน
คลื่นเพลิงอมฤต
แผดเผาร่างของจอมปีศาจลี่ตี้
นี่เป็นครั้งแรกที่เย่ว์หยางฆ่าศัตรูทรงพลังได้แล้วเขาไม่เก็บศพเอาไว้เป็นปุ๋ยดอกไม้
หรือทำเป็นอาหารสุนัข เป็นครั้งแรกที่เขาปฏิบัติต่อร่างของศัตรูอย่างจริงใจ ถ้าจอมปีศาจลี่ตี้อยู่ในสภาพสุดยอด
เย่ว์หยางจะไม่สามารถโจมตีใส่ศัตรูที่ทรงพลังนี้ได้แม้ว่าเขาจะใช้วงจักรล้างโลกก็ตาม
วงจักรล้างโลกแต่ก่อนนั้นถึงจะฆ่าได้ทันทีก็จริง
แต่จอมปีศาจลี่ตี้ถูกพลังกฎสวรรค์ผนึกไว้และอ่อนแอบาดเจ็บจากพลังกดดันของยักษ์ทอง
และยังถูกเสวี่ยอู๋เสีย องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
เสี่ยวเหวินหลีและเทพขุนพลวายุโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า
ศัตรูเช่นนี้คู่ควรได้รับเกียรติจากเย่ว์หยาง...
เขาไม่ใช่เป็นคนแรกที่ถูกกำจัดในสายธารเวลาอันยาวนาน
และจะไม่ใช่คนสุดท้าย
แต่เขาก็ควรค่าแก่การถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์เส้นทางการเติบโตของเย่ว์หยาง
11 ความคิดเห็น:
ขอบคุณคับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
จบดัน
ขอบคุณครับ
รอฉากต่อไปครับ
ก้าวแรกไม่เป็นไร ก้าวต่อไปร่างระเบิด
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณครับ
อ้าวแล้วพลังของพระอุทกพระแม่ธรณีอะไรซักอย่างที่ตกค้างอยู่ในตัวที่ยังไม่ย่อยไปละ มาดูดซับพลังกฏสวรรค์เลื่อนละดับเนี่ยนะ แล้วคนอื่นเค้าไม่ทำได้มั่งรึไงวะ เฮ้ออ่านไปหนื่อยไป ไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย แต่ก็ต้องอ่านต่อ ขอบคุณผู้แปลครับ
แสดงความคิดเห็น