วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 813 วงจักรล้างโลก สังหารทันที


ตอนที่  813  วงจักรล้างโลก สังหารทันที
เย่ว์หยางไม่สมควรจูบเสวี่ยอู๋เสียอย่างไม่มีเหตุผลเมื่อเขาออกมา
 
ที่สำคัญยังมีบุรุษผมงูอยู่ที่นี่อีกคนหนึ่ง ไม่ควรรีบร้อนประกาศอำนาจอธิปไตย นั่นจะทำให้คนที่มีความชอบตกที่นั่งลำบาก  เมื่อดูปัญหาของแดนสวรรค์แล้ว นึกถึงปัญหาในทะเลจีน ดินแดนจีนตะวันออกกำลังมีการเปลี่ยนแปลงไป หากมีความเข้าใจเรื่องในอดีต ผู้คนมากกว่าพันล้านจะก่อภัยพิบัติขนาดเล็กได้หรือ?  แน่นอนว่าตัวอย่างที่ว่ามานี้ย่อมไม่เหมือนกัน  เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนนอกจากเย่ว์หยางแล้วพวกนางไม่ชายตามองบุรุษอื่น  แต่เย่ว์หยางคิดว่าทำให้ความสัมพันธ์คู่รักชัดเจนไปเลยจะดีกว่า เพื่อให้เรื่องยุ่งยากกระจายหายไปกับสายลม
หลังจากจูบเสวี่ยอู๋เสียแล้ว เขากอดองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไว้ในวงแขนและจูบแม่เสือสาวอย่างหนักหน่วงโดยไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมทั้งนั้น
แน่นอนดูแล้วว่าชีวิตรักที่มีความสุขสมของเย่ว์หยางรายล้อมไปด้วยหญิงงาม กล่าวได้ว่าบุรุษผมงูนามว่าฉางฟงอดรู้สึกอิจฉาไม่ได้ จนรู้สึกอยากเอาศีรษะโขกพื้นยิ่งนัก
 “กว่าข้าจะได้พบหญิงงามสักคนแสนยากลำบาก  เห็นอย่างนี้แล้วข้าอยากตาย”  คุณชายฉางฟงผู้อ้างว่ามาจากสี่ตระกูลใหญ่แดนสวรรค์ร้องไห้สะอื้น ท่าทีเศร้าสร้อย ดูเหมือนเป็นไปได้ว่าเขาอาจเฉือนข้อมือฆ่าตัวตายก็เป็นได้
 “ถ้าเจ้าผูกคอตาย เจ้าจะตายช้าและทรมาน  เชื่อข้า...ใช้มีดดีกว่า นี่จะช่วยให้เจ้าสมประสงค์ได้”  เย่ว์หยางยื่นดาบให้เขาอย่างมีน้ำใจ
 “เฮ่ย.. ข้าไม่อยากตายสักหน่อย...”  คุณชายฉางฟงไม่ใช่คนโง่  เขาไม่มีความสุขในชีวิตที่อายุสั้นตายเร็วเช่นกัน
 “ไม่เป็นไร, ถ้าเจ้ายังคิดไม่ตก เจ้ามาหาข้าได้ทุกเมื่อ  ข้ามีสารพัดวิธีให้เจ้าตายโดยไม่เจ็บปวด ตราบใดที่เจ้าจ่ายค่าที่ปรึกษาให้บ้างสักเล็กน้อย ข้าสามารถระดมเงินบริจาคค่าโลงศพจากเมืองหินขาวตะวันตกให้เจ้าได้ ข้าเองก็ยินดีรับเป็นเจ้าภาพให้ ยิ่งถ้าเจ้าเลือกตายในวันหยุดนักขัตฤกษ์ ร้านขายโลงจัดสมณาคุณซื้อหนึ่งแถมหนึ่งให้เจ้าด้วย”  เย่ว์หยางยังพูดไม่จบคุณชายฉางฟงหวาดกลัวจนหน้าถอดสี เขาเผ่นหนีไม่คิดชีวิตไม่กล้าหันกลับมามองอีกเลย เหมือนกับว่าขืนอยู่ต่อแม้อีกวินาทีเดียว เย่ว์หยางอาจกดดันให้เขาฆ่าตัวตายได้
 “หลอกตีกินอีกแล้ว!  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรู้ว่าเย่ว์หยางเป็นผู้แข็งแกร่งที่ไม่ยอมให้คนอื่นดูแคลนตนเองได้ นางกำหมัดและทุบเขา แม้ว่าดูภายนอกเหมือนจะโกรธแง่งอน แต่ความจริงหมัดนางเบาไม่สามารถฆ่าได้แม้แต่ยุง
 “ข้าไม่ห่วงว่าแม่เสือสาวเจ้าจะมีเสน่ห์มากเกินไป!  เย่ว์หยางลูบหน้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเบาๆ นางยินดีจนได้ยินเสียงเต้นของหัวใจ
นางรู้ว่าเขาแข็งแกร่งและหึงนาง
แต่ในที่สุดนางแข็งขืนตัวแต่ไม่โกรธและมีความสุขในใจ
เนื่องจากการปรากฏตัวของบุรุษผมงูฉางฟงผู้นี้และเพราะจอมปีศาจลี่ตี้กำลังจะฆ่าเสวี่ยอู๋เสีย เย่ว์หยางจึงถูกขัดจังหวะความรับรู้ขอบเขตปราณราชันย์ เขาสามารถดึงพลังสนับสนุนมาจากพลังงานกฎสวรรค์ของวิหารปีศาจดินเพื่อเลื่อนระดับเป็นนักสู้ปราณราชันย์อย่างสมบูรณ์  ทั้งยังสามารถเลื่อนพลังได้สูงมากกว่าปราณราชันย์ระดับสอง แต่เมื่อตอนนี้ถูกขัดจังหวะเขาค่อยหาโอกาสเลื่อนระดับในภายหลัง
โลกเราไม่ได้สมบูรณ์พร้อมอยู่แล้ว
สามารถเสี่ยงท้าทายดูดซับพลังกฎสวรรค์เพื่อเลื่อนระดับพลังปราณราชันย์ได้นับเป็นความสำเร็จในวิถีของเย่ว์หยางแล้ว
นอกจากนี้ในการท้าทายที่ยากลำบากนี้ เทพธิดาเทวทูตวายุของเสวี่ยอู๋เสียเนื่องจากผสานพลังอยู่กับคัมภีร์โบราณ จึงทำให้มีวิวัฒนาการกลายเป็นเทพขุนพลวายุซึ่งนับเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่
 “เจ้าเป็นใครกันแน่?”  จอมปีศาจลี่ตี้คำรามเสียงทุ้ม  เขานึกคิดด้วยความขุ่นเคืองว่าเย่ว์หยางไม่ใช่คนธรรมดาในหอทงเทียนแน่นอน  แต่อาจจะมาจากดินแดนในตำนานก็ได้ มนุษย์ธรรมดาจะมีความเข้าใจระดับนั้นได้ยังไง?  ความรู้ทุกอย่างของเขามีอยู่มากมายขนาดไหนกันแน่?  นี่ไม่ใช่ระดับที่นักสู้หอทงเทียนจะสามารถฝึกให้สำเร็จได้จนถึงระดับนี้... ถ้าเขามาจากดินแดนในตำนานจริงๆ  อย่างนั้นการสู้รบครั้งคงตัดสินไปแล้วว่าต้องพ่ายแพ้อย่างน่าอนาถ  ต่อให้เป็นฝ่าบาทจักรพรรดิปีศาจฟ้าก็คงสู้กับนักรบผู้นี้ไม่ได้!
 “คนตายไม่จำเป็นต้องรู้ความลับหรอก!  แม้ว่าเย่ว์หยางจะได้รับการเลื่อนระดับเป็นนักสู้พลังปราณราชันย์  แต่ยังเป็นผู้ใหม่อยู่  เขาไม่กล้าดูถูกศัตรูจริงๆ
จอมปีศาจลี่ตี้ผู้นี้ไม่ใช่ผู้ที่จะรับมือได้ง่าย
เป็นเพราะผนึกของกฎสวรรค์ทำให้เขาสูญเสียพลังไปมาก เหลือพลังไม่ถึงหนึ่งในสิบของพลังเดิม  ถ้าจอมปีศาจลี่ตี้พบกับเขาในช่วงที่พลังสุดยอด
ผลที่ตามมาคงคาดไม่ได้ว่าผู้ใดจะแพ้ผู้ใดจะชนะ  อย่างน้อยถ้าจอมปีศาจลี่ตี้ต้องการหนีไป เย่ว์หยางกับเสวี่ยอู๋เสียร่วมมือกันก็คงหยุดไม่ได้..
เพลิงอมฤตลุกโชนเป็นลำร้อนแรง
เย่ว์หยางกระโดดเข้าไปในกองเพลิง และขี่หงส์เพลิงขับไล่ต้อนจอมปีศาจลี่ตี้ด้วยความเร็วดุจสายฟ้า ขณะที่จอมปีศาจลี่ตี้คำรามดังสายฟ้าเขาปล่อยหมัดใส่ศัตรู มือขวาของเขาค่อยๆ กวาดออกช้าๆ เพราะอิทธิพลของวงจักรนิรันดร  ในระยะสิบเมตรทุกสัดส่วนของจอมปีศาจลี่ตี้ล้วนหนักอึ้ง ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วเหมือนเดิมได้อีก
เย่ว์หยางดูที่อกของจอมปีศาจลี่ตี้และผลักมือซ้ายออกเบาๆ
หลังจากเข้าถึงสำนึกปราณราชันย์แล้ว วงจักรล้างโลกก็สามารถเปลี่ยนร่างอมตะให้เป็นคนตายได้
อักษรรูนโบราณไม่ได้จางลางเลือนเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป  แต่ปรากฏชัดสมบูรณ์แสดงให้เห็นถึงพลังงานที่ทำลายล้างโลกได้
อักษรรูนอมตะที่อยู่ในระดับลึกลงไปปรากฏที่ระหว่างคิ้วของเย่ว์หยาง เชื่อมโยงกับสำนึกปราณราชันย์ พลังกฎสวรรค์ขนาดเล็กของวงจักรล้างโลกและพลังของวงจักรโลกก็มีพลังในการทำลายล้างอยู่ทั้งสามส่วนประกอบนี้ตัดเข้าไปในอกของจอมปีศาจลี่ตี้
พลังตัดครั้งนี้ไม่ได้เหมือนครั้งก่อนที่ตัดขาดเป็นสองท่อน
นั่นรวมทั้งวิญญาณ ปณิธานและพลังงาน
รอยแผลทั้งหมดถูกเปิดออก
ในที่สุดพลังล้างผลาญเช่นนั้นสามารถโจมตีได้
เย่ว์หยางเพิ่งก้าวเข้าสู่ระดับปราณราชันย์  พลังแห่งการรู้แจ้งยังไม่เพียงพอจะใช้พลังที่แท้จริงของวงจักรล้างโลก  ถ้าเย่ว์หยางมีพลังปราณราชันย์ถึงระดับสิบและใช้พลังปราณราชันย์  จากนั้นพลังเทพที่ออกมาจะเป็นพลังเทพที่แท้จริง และทำให้วงจักรมีพลังทำลายล้างที่แท้จริง  ไม่ใช่แค่ฆ่าศัตรู
วงจักรล้างโลกตัดผ่านร่างของจอมปีศาจลี่ตี้ออกด้านหลัง
ภาพที่ปรากฏคือร่างขนาดใหญ่จอมปีศาจลี่ตี้มีบาดแผลเปิด แต่ไม่ได้ร่างขาดเป็นสองท่อน เกราะปีศาจฟ้าแต่เดิมที่ไร้เทียมทานยังถูกวงจักรล้างโลกตัดผ่านโดยไม่อาจป้องกันไว้ได้ ราวกับเขาไม่ทราบว่าวงจักรล้างโลกแตกหักได้
หลังจากรู้แจ้งแล้วเย่ว์หยางเสร็จสิ้นการรู้แจ้งพลังชั้นสูง วงจักรล้างโลกได้ฟื้นฟูพลังปณิธานราชันย์ที่แท้จริง  ตอนนี้ทุกคนเหนื่อย
ร่างเขาเหงื่อโทรมกาย ลมหายใจหนักหน่วงเหมือนวัวกระทิง
ปกติแล้วการต่อสู้ต่อเนื่องเป็นเวลาสามชั่วโมงนั้นเหนื่อยมากอยู่แล้ว
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตกใจรีบเข้ามาคว้าแขนประคองเย่ว์หยาง ตอนนี้ประกายอักษรรูนไม่เพียงแต่กินพลังของเย่ว์หยาง  แม้แต่นางกับเสวี่ยอู๋เสียยังพลอยรู้สึกมึนงงไปด้วย
ซากหักพังของวิหารปีศาจดินได้รับผลกระทบ
ก้อนน้ำแข็ง พื้นที่แข็งเหมือนหินกลายเป็นวังวนหมุนและสิ่งมีชีวิตที่อยู่โดยรอบถูกทำลายทันที
ไม่มีตุ๊กตาน้ำแข็งที่ตื่นขึ้น เพราะถูกผนึกเป็นเวลานานเกินไป และไม่ค่อยมีผู้รอดชีวิตเท่าใดนัก  พวกเขาถูกฆ่าตายตั้งแต่อยู่ภายใต้พลังกดดันของยักษ์ทองแล้ว  เหลืออยู่สอง แต่เพราะพลังของวงจักรล้างโลกที่ใช้ออกโดยอักษรรูนอมตะ สลายเป็นผุยผง  รูปตุ๊กตาน้ำแข็งแตกกระจาย ร่างของพวกเขาถูกวงจักรล้างโลกบดขยี้จนไม่มีอะไรเหลือ  ยกเว้นแต่คัมภีร์อัญเชิญที่ร่วงตกอยู่ในที่ห่างออกไปแล้ว ไม่มีอะไรเหลือ
 “วงจักรล้างโลก ยังมีพลังที่แข็งแกร่งยิ่งนัก!  เสวี่ยอู๋เสียมีคัมภีร์แห่งสัจจะและนางก็ยังไม่รู้ว่าวงจักรล้างโลกมีความน่ากลัวขนาดไหนหลังจากที่เย่ว์หยางมีความสำเร็จเข้าถึงระดับปราณราชันย์
 “....”  เย่ว์หยางอ้าปากหอบ และไม่สามารถคิด เพราะเขาคิดไม่ออก
จอมปีศาจลี่ตี้ที่ถูกวงจักรล้างโลกฟันใส่แต่ยังไม่ตาย
ก็แค่ทำลายชีวิต
เกราะปีศาจฟ้าบนร่างของเขาร่วงลงโดยอัตโนมัติ
แหวนเก็บสมบัติ จากนั้นขวานปีศาจดิน ลักษณะเหมือนงูไม่สามารถคงรักษาเอาไว้ได้ และกลับคืนเป็นร่างเหมือนปีศาจอสูรพิทักษ์ที่ถูกเสี่ยวเหวินหลีตรึงเอาไว้กับผนังน้ำแข็ง  เจ้าของกับอสูรพิทักษ์มีความคล้ายกันมาก
จอมปีศาจลี่ตี้ดูเหมือนต้องการไปหาอสูรพิทักษ์ของเขา  แต่ทันทีที่เขาก้าวเท้า ร่างของเขาสั่น
จอมปีศาจลี่ตี้ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
ในก้าวที่สอง อสูรพิทักษ์ที่อยู่หน้าจอมปีศาจลี่ตี้ จอมเวทที่เคยแปลงตัวเป็นบุรุษผมขาวกลายเป็นลำแสงกระจายหายไปในอากาศ แต่ไม่กลับไปหาจอมปีศาจลี่ตี้ เหมือนอย่างอสูรพิทักษ์ที่ตายแล้วกลับไปหาเจ้านายตามปกติ.. ร่างของเขาระเบิดดังปัง.... คัมภีร์อัญเชิญของจอมปีศาจลี่ตี้ร่วงลงพื้นสีดูหมองหม่นและพลังรัศมีจางลงเหมือนกับชีวิตของผู้เป็นนาย
จอมปีศาจลี่ตี้เข่าอ่อนเกือบทรุดลงกับพื้น แต่เขาดิ้นรนลุกขึ้นยืน
 “ท่านมีความแข็งแกร่งมาก  ถ้าเป็นหลายหมื่นปีที่แล้ว  ข้าคงต้านท่านไม่ได้แม้สักครู่  ถ้าข้ามีพลังแข็งแกร่ง ข้าอยากจะท้าทายท่านในสภาพแข็งแกร่งที่สุด  แต่เพราะสถานการณ์ภายนอกบังคับ  ข้าไม่มีเวลารอได้ ข้าต้องการแข็งแกร่งอย่างเร่งด่วน  จอมปีศาจลี่ตี้! ท่านไม่ได้พ่ายแพ้ในเงื้อมมือข้า หากแต่ท่านพ่ายแพ้ให้กับโชคชะตาต่างหาก”  เย่ว์หยางให้เกียรติจอมปีศาจลี่ตี้
 “โชคชะตาของข้า น่าอนาถอยู่แล้วหลังจากที่ผ่านมาหลายหมื่นปี ดังนั้นตายเสียก็ยังนับว่าดีกว่า  บุรุษหนุ่ม, ขอบคุณเจ้า ถ้าเจ้าพบกับปีศาจฟ้าช่วยบอกเขาด้วยว่าข้าเป็นอิสระแล้ว”
จอมปีศาจลี่ตี้งอตัวและล้วงมือเข้าไปในเกราะปีศาจฟ้าดึงชิ้นไม้ที่อยู่ข้างในเกราะออกมา
เขาเช็ดเบาๆ
จากนั้นโยนให้เย่ว์หยาง
ในที่สุด เขายืดตัวตรงอย่างเข้มแข็ง
เขาทรงกายยืนตัวตรงเหมือนคันทวน  แม้แต่ม่านตาก็ขยายเหมือนกับว่าพลังชีวิตสลายไป แม้ตายเขาก็ไม่ยอมล้มลง  แม้ว่าเย่ว์หยางจะฆ่าเขาด้วยวงจักรล้างโลก เขาก็ยังคือจอมปีศาจลี่ตี้ผู้มีนามกึกก้องทั้งแดนสวรรค์
เย่ว์หยางมองดูโองการปีศาจฟ้าในมือตนเอง  เขาจะมอบของขวัญให้จอมปีศาจลี่ตี้ตอบแทน
คลื่นเพลิงอมฤต
แผดเผาร่างของจอมปีศาจลี่ตี้
นี่เป็นครั้งแรกที่เย่ว์หยางฆ่าศัตรูทรงพลังได้แล้วเขาไม่เก็บศพเอาไว้เป็นปุ๋ยดอกไม้ หรือทำเป็นอาหารสุนัข เป็นครั้งแรกที่เขาปฏิบัติต่อร่างของศัตรูอย่างจริงใจ  ถ้าจอมปีศาจลี่ตี้อยู่ในสภาพสุดยอด เย่ว์หยางจะไม่สามารถโจมตีใส่ศัตรูที่ทรงพลังนี้ได้แม้ว่าเขาจะใช้วงจักรล้างโลกก็ตาม วงจักรล้างโลกแต่ก่อนนั้นถึงจะฆ่าได้ทันทีก็จริง แต่จอมปีศาจลี่ตี้ถูกพลังกฎสวรรค์ผนึกไว้และอ่อนแอบาดเจ็บจากพลังกดดันของยักษ์ทอง และยังถูกเสวี่ยอู๋เสีย องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน เสี่ยวเหวินหลีและเทพขุนพลวายุโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า
ศัตรูเช่นนี้คู่ควรได้รับเกียรติจากเย่ว์หยาง...
เขาไม่ใช่เป็นคนแรกที่ถูกกำจัดในสายธารเวลาอันยาวนาน และจะไม่ใช่คนสุดท้าย แต่เขาก็ควรค่าแก่การถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์เส้นทางการเติบโตของเย่ว์หยาง

11 ความคิดเห็น:

Pingku กล่าวว่า...

ขอบคุณคับ

Numton กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แอบอ่าน กล่าวว่า...

จบดัน

krisda กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ulomzx กล่าวว่า...

รอฉากต่อไปครับ

เดือนดับ กล่าวว่า...

ก้าวแรกไม่เป็นไร ก้าวต่อไปร่างระเบิด

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

chay กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Destiny freedom กล่าวว่า...

อ้าวแล้วพลังของพระอุทกพระแม่ธรณีอะไรซักอย่างที่ตกค้างอยู่ในตัวที่ยังไม่ย่อยไปละ มาดูดซับพลังกฏสวรรค์เลื่อนละดับเนี่ยนะ แล้วคนอื่นเค้าไม่ทำได้มั่งรึไงวะ เฮ้ออ่านไปหนื่อยไป ไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย แต่ก็ต้องอ่านต่อ ขอบคุณผู้แปลครับ

แสดงความคิดเห็น