วันอังคารที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2562

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 895 ความเข้าใจของสาวขี้เมา


ตอนที่  895  ความเข้าใจของสาวขี้เมา
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ความลับของดวงตาใต้พิภพจากจักรพรรดิหัวซิ่วรี่ แต่เย่ว์หยางไม่กังวล  และเมื่อฝ่าบาทหายกริ้ว  ก็ไม่จำเป็นต้องกังวล
 
ในช่วงสองวันที่ผ่านมาเสวี่ยอู๋เสียต้องคุยกับแม่สี่ เย่ว์หยางสะกิดนางอยู่นาน แต่นางปฏิเสธจะคุยด้วย
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแม่เสือสาวไปหาเย่ว์หวี่ที่บันไดสวรรค์ยังไม่กลับมา  สงสัยว่าเย่ว์หวี่คงจะถูกโน้มน้าวให้ทำอะไรบางอย่าง?
เย่ว์หยางสงสัย ในที่สุดเขาคร้านจะคิดถึงเรื่องนี้  เขาหมกตัวกับการค้นคว้ากำไลอสูร  เย่ว์หวี่ยังไม่กลับมา ไม่มีใครเป็นผู้ช่วยเย่ว์หยาง และในที่สุดจุ้ยมาวอี้อดไม่ได้ที่จะเข้ามาช่วย
นางคุ้นเคยกับชีวิตที่ผ่อนคลายสบายๆ  ใครจะคิดกันเล่าว่าเย่ว์หยางทดลองกับระเบิดหลายครั้งครา แทบจะทำให้นางหัวใจวาย โอกาสล้มเหลวในการทดลองสูงมากเกินไป!
โชคดีที่นางเข้ามาช่วยในช่วงสองสามวัน ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปอีกนาน จุ้ยมาวอี้คิดว่านางคงไม่รู้สึกว่านางไม่โกรธ คาดว่าเย่ว์หยางคงช่วยทำหน้าที่รับผิดชอบพร้อมกับเขาทุกวัน ความสัมพันธ์อย่างนี้ทำให้นางยิ้มได้
 “คนบ้านี่ไม่รู้จักเข็ด พอทำโน่นทำนี่ไม่ถูกก็เปลี่ยนไปทำอย่างอื่น..” จุ้ยมาวอี้เห็นว่าเย่ว์หยางล้มเหลวถึงสามครั้ง แต่ก็ยืนยันจะทำการทดลองอย่างเดิม  นางอดจะคัดค้านไม่ได้  ในตอนเริ่มต้นนางสัญญากับเย่ว์หยางว่าไม่ว่าเขาทำอะไรก็จะไม่คัดค้าน  คิดไม่ถึงเลยว่านางเข้ามาช่วยได้ไม่ถึงวัน นางก็เริ่มคัดค้านการวิจัยค้นคว้าของเย่ว์หยาง
 “ความล้มเหลวเป็นเรื่องปกติ  ถ้าการค้นคว้าไม่ผ่านความล้มเหลวมาหลายร้อยครั้ง  อย่างนั้นจะไม่มีทางยืนยันผลการค้นคว้าได้  แม้ว่าผลของการค้นคว้าจะออกมาถูกต้องจริงๆ แต่ก็ต้องทำการทดสอบให้รอบด้าน ช่างเถอะ, ไม่ต้องอธิบายให้เจ้าฟังมากนักหรอก พูดให้คนโง่อย่างเจ้าฟังไปก็เปลืองน้ำลาย”  เย่ว์หยางทำสีหน้าท่าทางราวกับผู้เชี่ยวชาญของคนตระกูลสูงดูถูกคนธรรมดาผู้ช่างสงสัย แต่กลับไม่กล่าวว่า “ข้าพูดเรื่องจริง”
 “......”  จุ้ยมาวอี้ยอมคล้อยตามเขา ในที่สุดนางยอมเงียบ
 “บอกความจริงกับเจ้าก็ได้ การทดลองนี้ อันตรายที่สุด ความจำที่สำคัญที่สุดย่อมดีกว่า  ขั้นตอนการทดลองมิอาจผิดพลาดได้  ผิดพลาดไม่ได้แม้แต่น้อย  เจ้าต้องมีความจำเหมือนกับข้าจึงจะไม่มีปัญหา  หือ? แปลก ผลึกเพลิงแดงปีศาจอยู่ที่ไหน?”  เย่ว์หยางรำพึงกับตนเอง
 “จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเจ้าทำผิดขั้นตอน?”  จุ้ยมาวอี้เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจ
 “มันจะระเบิด...”  เย่ว์หยางไม่ได้หันหน้ากลับมา
 “เจ้าเพิ่งบอกว่าผลึกปีศาจเพลิงแดงหายไปไม่ใช่หรือ?”  จุ้ยมาวอี้หลั่งเหงื่อเยียบเย็น
 “พบแล้ว แค่ลืมใส่วงเวทรูนไปด้วย แต่ผลึกปีศาจน้ำแข็งสีน้ำเงิน ข้ายังหาไม่เจอ...”  เย่ว์หยางเดินมองหา
 “แย่แล้ว...”  จุ้ยมาวอี้จำได้ว่าเจ้าเด็กนี่เพิ่งใส่ผลึกปีศาจน้ำแข็งฟ้าในวงเวทรูนระดับกลาง  นางตกใจและหันหลังหนี  ทว่าสายเกินไป
บึ้ม บึ้ม บึ้ม
วงเวทรูนเกิดการระเบิดรุนแรง
แรงระเบิดทำให้จุ้ยมาวอี้กลิ้งไปอยู่ที่มุมห้องและเกือบถูกซากหักพังจากแรงระเบิดฝังทั้งเป็น
เมื่อนางลุกขึ้น นางพบว่าเสื้อผ้านางขาดเป็นรูโหว่ แม้ว่าคนจะปลอดภัย แต่ก็รู้สึกว่าหลังเย็นวาบ
ส่วนเย่ว์หยางถูกแรงระเบิดอัดไปติดบนหลังคามองดูเหมือนเนื้อรมควัน ตัวดำเกรียมมองดูไม่เหมือนคนมีชีวิต เย่ว์หยางก็เหมือนจุ้ยมาวอี้ พอเขาร่วงกลับลงมา ทั้งตัวดำมืดมองเห็นแค่ตาและฟันเท่านั้นสีขาว จุ้ยมาวอี้ตะโกนใส่ตามที่เย่ว์หยางเคยโอ้อวดไว้  “เจ้าบอกว่าความจำเจ้าดีไม่ใช่หรือ?..”
เย่ว์หยางกุมผม “ความจำข้าไม่เลวจริงๆ  แต่ข้าจำไม่ได้ว่าเอาผลึกปีศาจไปวางไว้ตรงไหนน่ะสิ  หลายๆ อย่างปกติพี่หวี่จะเป็นคนจัดไว้ให้  ข้าเพียงแต่รับของที่นางส่งมาให้..”  เขาพูดจนจุ้ยมาวอี้รู้สึกละอายใจ  และตอนนี้นางจำได้ว่า ดูเหมือนว่านางค่อนข้างจะอึดอัดใจเล็กน้อย เมื่อนางช่วยเขา เพราะเกิดการระเบิดหลายครั้ง อารมณ์นางพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย  ดูเหมือนว่าเมื่อพูดถึงผลึกปีศาจอัคคีสีแดงและผลึกปีศาจน้ำแข็งฟ้า นางคงจะเข้าใจผิด
บางทีความล้มเหลวของการทดลองไม่ใช่เป็นเพราะเขา
 “แต่เป็นเพราะ....”  นางตระหนักได้ว่าเป็นความผิดนาง  จุ้ยมาวอี้รู้สึกตัวว่าผิดมากและไม่โกรธเขาอีกต่อไป  แน่นอนว่าถ้านางต้องการยอมรับผิดโดยตรงย่อมเป็นไปไม่ได้! นางตัดสินใจออกไปล้างหน้า  ปรับความคิดและเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นกลับมายังห้องทดลองของเขา  ครั้งนี้ต้องให้ความร่วมมือกับเขาอย่างจริงจังเต็มร้อย
เมื่อจุ้ยมาวอี้ทำใจเปลี่ยนชุดและทำความสะอาดกลับมาที่ห้องทดลอง  นางพบว่าเย่ว์หยางยังคงอยู่ในสภาพเดิมตัวดำเพราะแรงระเบิดแต่ก็ยังทดลองต่อ  นางรีบวิ่งเข้าไปจัดพื้นที่มีซากหักพัง และคอยหยิบสิ่งของที่เขาต้องการ
ปัง!
เสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้งจนหูอื้อ แรงระเบิดอัดจุ้ยมาวอี้จนกระแทกผนังล้มครืน สิ่งของหลายอย่างที่วางไว้ในห้องที่กระจัดกระจายไม่เป็นระเบียบอยู่ดูยุ่งเหยิงมากขึ้น
จุ้ยมาวอี้แทบจะร้องไห้  เป็นเรื่องยากมากจริงๆ ที่นางจะทำอะไรสักอย่างด้วยตัวเอง?
นางกัดฟันทำความสะอาด รอจนกระทั่งงานของนางเสร็จ ก็พบว่าเย่ว์หยางวาดวงเวทรูนใหญ่ขึ้นและซับซ้อนมากขึ้น  เพราะการวาดวงเวทต้องใช้พลังงานที่ซับซ้อน เขาจึงทำอะไรแทบไม่ได้ถึงสิบนาที แม้แต่จะพูดก็ทำไม่ได้ สายตาจับจ้องมองดูรูปวงเวท เมื่อเห็นเขาหลั่งเหงื่อ ใบหน้าที่ดำเปื้อนพอถูกเหงื่อก็ชะล้างเขม่าคราบสกปรกเป็นรูปหยดสีขาว  จุ้ยมาวอี้อดใจอ่อนมิได้  ความจริงเจ้าเด็กนี่จริงจังมาก  แม้ว่าจะบ้าผู้หญิงอยู่บ้าง แต่เวลาทดลองจริงจังกลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน!
จุ้ยมาวอี้จำได้ว่าเคยเห็นเย่ว์หวี่ช่วยงานทดลองเย่ว์หยางมาก่อน และรู้ว่าเย่ว์หวี่จะถือผ้าเช็ดหน้าอยู่คอยซับเหงื่อให้เขา....
 “จะบ้าเหรอ, อย่าบังสายตาข้าตอนเช็ดเหงื่อได้ไหม!  เย่ว์หยางสบถ
 “เจ้า....” จุ้ยมาวอี้ต้องการพูดว่าเขาอยากจะเช็ด นางไม่จำเป็นต้องรอรับใช้เขาก็ได้!  แต่คำพูดยังไม่ทันพูดออกมานางกล้ำกลืนอดกลั้นไว้ได้  เมื่อเย่ว์หวี่เช็ดเหงื่อให้เขา นางไม่รู้สึกอิจฉาจริงๆ หรือ?
นางมักจะอ่อนโยนเสมอรู้ว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ และทำอย่างสุภาพนุ่มนวลที่สุด  แม้ว่าจะรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่จุ้ยมาวอี้ก็อดกลั้นไว้  นางเช็ดเหงื่อให้เขาอย่างระมัดระวัง และนำน้ำมาให้เขาดื่ม
คิดไม่ถึงเลยว่าเย่ว์หยางหมกมุ่นกับการทดลองถึงกับตวาดด้วยความโมโห “ออกไปห่างๆ ข้า ต่อให้ฟ้าถล่มดินทลาย ก็อย่าเพิ่งรบกวนข้าตอนนี้”
เหมือนกับถูกฟ้าผ่า!
จุ้ยมาวอี้โมโหเขากัดฟันกรอดๆ เกือบจะเอาน้ำเทราดศีรษะของเขาแล้ว  ในที่สุดนางหักห้ามใจได้ คาดว่าเย่ว์หวี่คงไม่เคยรบกวนเขาในเวลานี้ ตัวนางเองที่ทำผิดพลาด  นางวางแก้วน้ำไว้ที่ด้านหนึ่ง  จุ้ยมาวอี้รออยู่นาน และรู้สึกว่าเขาต้องดื่มน้ำบ้าง  มิฉะนั้นเขาคงเสียเหงื่อจนตัวแห้งเหือดแน่  นางจะทำยังไงดี  ถ้าเย่ว์หวี่อยู่ที่นี่ นางจะทำอย่างไร?
ใช้กระบวยตักป้อน?
ไม่ เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะใช้กระบวยตักน้ำดื่ม นั่นช้าเกินไป  ถ้าอย่างนั้นยังใช้ไม่ได้  แล้วนางควรทำอย่างไร? ในเวลาอย่างนี้ปกติ เย่ว์หวี่ทำอย่างไร?
นางคงต้องหาทางจนได้ เย่ว์หวี่คงไม่ปล่อยให้น้องชายกระหายน้ำเป็นแน่  จุ้ยมาวอี้คิดอยู่เป็นเวลานาน และในที่สุดนางหาโอกาสจนได้ นางคิดถึงตอนที่เย่ว์หยางทำหลอดให้หนูน้อยเย่ว์ซวงเป่าลูกโป่งฟองสบู่  ใช่แล้ว อย่างนี้ต้องใช้ได้แน่นอน
คิดได้ดังนี้แล้วจุ้ยมาวอี้รีบเข้าไปหาของในบ้าน แต่ในบ้านไม่มีของที่นางต้องการ  นางรีบวิ่งออกมาและเข้าไปในห้องของแม่สี่และห้องของซวงเอ๋อ ดึงกล่องสมบัติของซวงเอ๋อออกมาค้นหา และพบว่ามีหลอดอยู่สองสามชิ้นที่ยังไม่ได้ใช้ ยังไม่ทันได้เก็บกล่องสมบัติจิปาถะของซวงเอ๋อกลับเข้าที่ นางรีบวิ่งกลับออกมาและเอาหลอดใส่แก้วและยกไปให้เขา นางเอาหลอดน้ำจ่อที่ริมฝีปากเขา
 “ขออีกแก้ว..”  เย่ว์หยางไม่ได้ขอบคุณนาง เขาหมกมุ่นอยู่กับการค้นคว้าและไม่มีเวลาจะพูดอะไรมากนัก  ครั้งนี้วงเวทรูนเปล่งแสงสลับกระพริบอย่างซับซ้อน  เย่ว์หยางเพ่งสมาธิเต็มที่เพื่อจดจำการเปลี่ยนแปลงของมัน  ยังคงช้าไปหนึ่งวินาที
 “ก็ได้”  จุ้ยมาวอี้ดีใจ นางไม่พูดอะไรต่อรีบกลับไปรินน้ำมาเพิ่มอีกทันที
พอไปได้ครึ่งทาง นางรู้สึกว่าแขนเสื้อนางรุ่มร่ามเกินไป นางจึงฉีกออกโดยตรง
หลังจากนั้นนางพบว่าแขนเสื้อฉีกขาดแล้ว นางจำได้อย่างหนึ่ง  เย่ว์หวี่พอออกมาจากห้องทดลองมักจะสวมเสื้อแขนกุด คาดได้ว่าเสื้อแขนยาวมักจะส่งผลกระทบต่องานได้ง่ายจึงไม่ควรใส่มาเลย  รอจนจุ้ยมาวอี้รินน้ำและกลับมา นางพบว่าวงเวทรูนเริ่มส่องแสงเจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ
โอว.. มันกำลังจะระเบิดอีกแล้ว
ตอนแรกนางคิดจะหลบเลี่ยงทันที  แต่เมื่อนางเห็นเย่ว์หยางในเวลานี้ เขายังจ้องมองอย่างตั้งใจ  ถ้าเขาต้องการหลบ เป็นไปไม่ได้ที่แรงระเบิดจะอัดกระแทกเขาจนกระเด็น ด้วยอำนาจของสนามพลัง เขาสามารถต้านทานแรงระเบิดในการทดลองได้  แต่เขากลับไม่ทำ เขายังคงจ้องมองการเปลี่ยนแปลงสุดท้ายของวงเวทรูนต่อไป โดยไม่รู้ตัวว่าจะเกิดการระเบิดในวินาทีต่อไป
วืดดดด บึ้ม!
ระเบิดดังขึ้นเป็นไปตามที่กำหนด
จุ้ยมาวอี้ยืนอยู่ด้านหน้าและต้านแรงระเบิดไว้
แม้ว่าจะเปลี่ยนชุดมาใหม่แต่ก็ขาดวิ่นเป็นรูอีก  นางพบว่านั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญแม้แต่น้อย  ตอนนี้นางเริ่มรู้เข้าใจความคิดของเย่ว์หวี่เมื่อนางทำงานกับเย่ว์หยาง
ตราบเท่าที่จะทำให้เขาประสบความสำเร็จ ยังมีอย่างอื่นที่นางทำได้หรือ
นี่มันชุดอะไรกัน!
นอกจากนี้ ในบ้านเขา ไม่มีใครอื่นนอกจากเขาที่มองเห็นเสื้อผ้าของตนเอง แม้ตนเองก็ยังไม่มีเวลาว่างมาดูแลตัวเอง เสื้อผ้าขาดวิ่นกระจาย ใครจะมาดูกันเล่า?   แต่เรื่องที่น่าสนใจก็คือจุ้ยมาวอี้นางจำได้ว่า ก่อนการระเบิดครั้งแรก วงเวทรูนมีการเปลี่ยนแปลงสูงและต่ำสองครั้ง  หลังจากเมื่อนางกำลังจะอารมณ์เสีย เขาผสมผสานวงเวทรูนชั้นที่สามเสริมเข้าไปอีก... จนถึงตอนนี้นอกจากชั้นบน ชั้นกลางและชั้นล่างรวมสามชั้นแล้ว ยังมีการเสริมพื้นที่โดยรอบ กล่าวคือแม้ว่าจะมีการระเบิดเพราะล้มหลวในแต่ละครั้ง  แต่ก็ทำให้เขาก้าวหน้า!
เขาค่อนข้างทนต่อแรงระเบิดและยืนยันในการสำรวจตรวจดูความจริง
ทัศนคติแนวความคิดเช่นนี้ทำให้การค้นคว้าของเขาก้าวหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า
คนอื่นมักมองเห็นแต่ความสำเร็จของคุณชายสามตระกูลเย่ว์ แต่ไม่รู้แม้แต่น้อยว่า บนเส้นทางแห่งความสำเร็จ ต้องสูญเสียเหงื่อไปเท่าไหร่..” แววตาของจุ้ยมาวอี้แสดงความรู้สึกตื่นเต้น
ความทรงจำของเขายอดเยี่ยมอย่างแท้จริง  ทำไมเขาถึงทำผิดพลาดระหว่างวัสดุทั้งสองอย่างที่แตกต่างกัน ระหว่างผลึกปีศาจเพลิงแดงและผลึกปีศาจน้ำแข็งฟ้า  วัสดุทั้งสองอย่างนี้แตกต่างกันอย่างมากมิใช่หรือ? นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แต่เขาทุ่มเทอย่างมากบันทึกความเปลี่ยนแปลงของวงเวทรูนอย่างสุดความสามารถ  ความจริงนอกจากว้าวุ่นสับสนและวัสดุที่ทำให้เกิดความผิดพลาดใหญ่ระหว่างผลึกปีศาจเพลิงแดง และผลึกปีศาจน้ำแข็งฟ้าแตกต่างมากเกินไป
เมื่อเขาเริ่มทดลอง เขาจะทุ่มเทสมาธิทั้งหมดจนลืมทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่ความหิวกระหายก็ยังลืม
เพราะเหตุนี้ นางจึงต้องการรู้จักเย่ว์หยางให้ดีที่สุด
ร่วมมือกับเขา
 “อีกครั้ง  ต้องลองอีกครั้ง....” จุ้ยมาวอี้ตระหนักได้ทันที นางข่มความตื่นเต้นในใจเดินเข้าไปหาและแตะไหล่เขา  “เจ้าสร้างวงเวทใหม่เถอะ เดี๋ยวข้าจะเตรียมวัสดุให้เจ้าเอง ครั้งนี้ข้าจะไม่ทำให้ผิดแน่นอน...”  เย่ว์หยางต้องมองนางอีกครั้งด้วยสายประหลาดและงงงัน  นางไม่ปรี๊ดปรอทแตกอีกแล้วหรือ? ดูเหมือนว่าอารมณ์ของนางจะดีขึ้น เกิดอะไรกันแน่?
 “เช็ดเหงื่อก่อน!  จุ้ยมาวอี้พบว่าตัวนางเองไม่เคยสุภาพนุ่มนวลมาก่อน แต่นางใช้ผ้าเช็ดหน้าอย่างระมัดระวัง เช็ดเขม่าระเบิดออกจากหน้าของเขา นางพยายามระมัดระวังอย่างดีที่สุดเพื่อไม่ให้รบกวนการจัดวงเวทของเขาเท่าที่เป็นไปได้ เมื่อเห็นสภาพเสื้อผ้าฉีกขาดรุ่งริ่งของเย่ว์หยาง  นางคิดว่าไม่เคยเห็นสภาพของเขาแบบนี้มาก่อน  อย่างไรก็ตามการทดลองก็ทำให้เป็นอย่างนี้ เย่ว์หวี่ยังไม่กลัว ทำไมนางต้องกลัวด้วย
บึ้ม!
อีกครั้ง
บึ้มมม!
 “ไม่มีอะไรอีกแล้ว  ลองอีกครั้ง....”
ด้วยความร่วมมือเต็มที่ของจุ้ยมาวอี้ เย่ว์หยางทดลองวงเวทรูนเพื่อค้นคว้ากำไลอสูรต่อไป
สามวันต่อมาเมื่อองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพาเย่ว์หวี่กลับมาจากบันไดสวรรค์ ขณะที่นางผลักเปิดประตูห้องทดลองเสียงดังเอี๊ยด นางพบว่าจุ้ยมาวอี้กำลังป้อนกำลังหน้าแดงเช็ดเหงื่อให้เย่ว์หยางอย่างเบามือ ทั้งสองคนกำลังหมกมุ่นจดจ่อกับการทดลอง แม้ว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเย่ว์หยางจะผลักเปิดประตูห้อง พวกเขาก็ไม่รู้
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตะลึง  นางไม่เคยเห็นจุ้ยมาวอี้อ่อนโยนอย่างนั้นมาก่อน
ขณะที่เย่ว์หวี่ยืนยิ้ม..

9 ความคิดเห็น:

manit กล่าวว่า...

ใจจ้า

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณหลายๆ

ulomzx กล่าวว่า...

ใกล้สำเร็จแล้ว..ไม่ใช่กำไรอสูรหรอก แต่เป็นสาวขี้เมาตางหาก

Unknown กล่าวว่า...

ขออีก

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Outlaw12 กล่าวว่า...

+1

Lex กล่าวว่า...

ท่าจะได้เมียเพิ่มอีก 1

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น