ตอนที่ 1018 ไม่มีประเพณีทำร้ายคนตาย!
หลังจากศัตรูจากไปแล้ว
เย่ว์หยางและหลิวเย่เริ่มสำรวจป้อมปราการเหล็กอย่างระมัดระวังพยายามหาข้อมูลเพิ่มเติม
ป้อมรบเหล็กมีเส้นผ่าศูนย์กลางห้าร้อยเมตร
ภายในกว้างใหญ่จริงๆ
ภายในมีห้าตอน
ทางเดินใหญ่หรือทางเข้าห้องทำกิจกรรมรวมป้องกันอย่างดี มนุษย์เงือกกลายพันธุ์พวกนี้เข้มงวดมาก
ใครจะผ่านเข้าไปต้องแสดงป้ายผ่านและรับการทดสอบบางอย่าง
กลยุทธ์ปิดฟ้าข้ามทะเล?
ใช้กับที่นี่ไม่ได้
หลิวเย่รู้สึกประหม่า
ที่สำคัญนางแอบเข้าไปในถิ่นศัตรูเพื่อรวบรวมข้อมูลแบบนี้
นางไม่เคยลองทำเลย
บางครั้งหน่วยลาดตระเวนของศัตรูก็อยู่ใกล้เป็นพิเศษเพียงแค่มุมห้องไม่ถึงสิบเมตร
แต่การสนองตอบต้องทำให้เหมาะสมและต้องทำก่อนศัตรูจะหันกลับมาพบตัวนางเอง ถ้าไม่มีเย่ว์หยางอยู่ด้วย นางก็อยู่เพียงคนเดียว หลายครั้งที่นางกลัวศัตรูพบเจอ นางรู้ว่าต้องใช้โอกาสนี้ปรับอารมณ์ตัวเอง โอกาสที่ได้ลงมือแบบนั้นมีไม่มากนัก
ดังนั้นนางจึงยึดโอกาสนี้ไว้
ขณะเดียวกันนางมุ่งมั่นจะแสดงฝีมือให้ดีที่สุดต่อหน้าเขา ด้วยความเอาใจใส่เต็มที่ ประสิทธิภาพของนางดีกว่าปกติถึงสิบเท่า บางครั้งมีความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ
เย่ว์หยางสนองตอบได้ทันเวลาเปลี่ยนจากอันตรายให้กลายเป็นความปลอดภัย
นางประสบความสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ
ความมั่นใจของนางเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ใจของนางมุ่งมั่นมากขึ้น
มีเย่ว์หยางอยู่ด้วยหลิวเย่ไม่กังวล
แสดงพลังอย่างสุดฝีมือและเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ
ความเครียดถูกกำจัดออกไปทีละน้อย ทั้งกายและใจเป็นสมาธิมากขึ้น
ความตื่นตัวของนางอยู่ในสภาวะพิเศษ...ติดตามเย่ว์หยางทำให้นางรู้สึกเหมือนมีไฟ
เมื่อมองไปที่จุดตรวจที่ศัตรูเฝ้ารักษา
นางผ่านศัตรูไปอย่างง่ายดายทีละคน โดยที่ศัตรูไม่รู้ ใจของนางยิ่งตื่นเต้น
นี่ไม่ใช่การต่อสู้
แต่เหมือนกับเป็นการเอาชนะศัตรูในการต่อสู้
ความรู้สึกได้ถึงความสำเร็จนั้นเหมือนกัน
หลังจากตรวจค้นภายในป้อมปราการเหล็ก
เย่ว์หยางส่งสัญญาณมือให้หลิวเย่หยุดพัก และปาดเหงื่อที่หน้าผากให้นางเบาๆ
นางทำงานได้ดี บางครั้งก็ไม่ควรฝืนมากเกินไป
หลิวเย่รู้สึกเขินอาย นางก้มหน้าและรู้สึกว่าแม้บางครั้งเขาจะแข็งกร้าว
แต่บางคราวก็อ่อนโยน
หลังจากได้พักช่วงเวลาสั้นๆ จิตใจที่เครียดของนางเริ่มมีความมั่นใจ
เตรียมเทเลพอร์ตไปต่อ
ออกจากป้อมปราการเหล็ก
มุ่งหน้าออกไปทิศทางตรงข้ามกับเมืองไป๋เหอ
เย่ว์หยางและหลิวเย่เดินทางต่อเนื่อง
การเดินทางรอบนี้ราบรื่นกว่าเมื่อก่อน
นี่เป็นเพราะความเชื่อมั่นของหลิวเย่มากขึ้น กระบวนการเทเลพอร์ตและตำแหน่งเวลาจึงแม่นยำมากขึ้น
พวกทหารที่เฝ้าทาง นอกจากจะไม่ฉลาดแล้ว ยังผ่อนคลายยิ่งกว่าเมื่อก่อน
ทางเดินเหล็กขนาดสิบเมตร
ทุกๆ ห้ากิโลเมตรหรือราวๆ นั้นจะมีทหารลาดตระเวนเดินกลับไปมา
ด้วยความเข้มงวดกับการลาดตระเวนขนาดนั้น
ตราบใดที่พวกเขาไม่มองหาเป้าหมายโดยตรง
เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะหาเย่ว์หยางและหลิวเย่เจอ
หลังจาพวกเขาเดินทางไปอีกมากกว่าสิบกิโลเมตร ในที่สุดก็ถึงป้อมปราการโลหะยักษ์ใหญ่อีกแห่งหนึ่ง เมื่อเข้าไปในป้อมปราการนี้
เขาพบว่าใหญ่กว่าป้อมปราการครั้งก่อนประมาณ 10%
นอกจากนี้
แม้ว่าหลิวเย่ที่ไม่คุ้นเคยกับจักรกลก็สามารถเห็นได้
ป้อมปราการเหล็กขนาดเล็กข้างหน้าและป้อมปราการเหล็กขนาดใหญ่ด้านหลังเป็นรูปแบบที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
นางไม่สามารถบอกอายุที่แน่นอนได้
แต่เย่ว์หยางทำได้
คำจารึกที่เขียนลงบนผนังเหล็กภายในป้อมปราการเหล็กขนาดใหญ่ด้านหลัง
รวมถึงเครื่องหมายบางอย่างที่หายไปมากมายโดยเฉพาะที่ใช้ในยุคสมัยโบราณ
เย่ว์หยางสามารถตัดสินได้ว่าป้อมปราการเหล็กขนาดใหญ่ด้านหลังเป็นผลงานของคนโบราณ
สิ่งที่เขาเห็นก่อนหน้านี้เป็นเพียงของเลียนแบบของคนรุ่นหลัง
“นี่คือที่ซึ่งมนุษย์เงือกกลายพันธุ์จะใช้คืนชีพบรรพบุรุษพวกเขาหรือ?” หลิวเย่ถามด้วยความสงสัย
“ไม่ใช่”
เย่ว์หยางส่ายหน้า
“นั่นคือสถานที่ที่เราจะต้องปลดผนึกโบราณใช่ไหม?” หลิวเย่ถามอีกครั้ง
“มีเหตุผลที่จะบอกว่าเป็นผนึกนั้นถูกต้องแน่
แต่การกระทำของมนุษย์เงือกกลายพันธุ์เหล่านี้ทำให้ข้าสับสน ข้าจะต้องตรวจสอบดูก่อน และสถานการณ์เฉพาะหน้ายังไม่ชัดเจนว่าเป็นอย่างไร?” เย่ว์หยางฉลาดมาก ในความคิดของเขา
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมการปลดผนึกโบราณสำหรับเปิดประตูเข้าสู่ขุมทรัพย์สุดท้ายจะเชื่อมโยงกับการฟื้นคืนชีพบรรพบุรุษของมนุษย์เงือกกลายพันธุ์ได้?
ทั้งสองคนสงสัยและอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน
เย่ว์หยางถ่ายทอดคำจารึกและคำอธิบายที่เขียนไว้อย่างต่อเนื่อง
ส่วนหลิวเย่คอยระวังหลังให้เขา
บางครั้งนางเป็นห่วงเขาจริงๆ
เพราะในบางที่มีอันตรายมาก ทหารยามเดินผ่านพวกเขาไปต่อหน้าต่อตา แต่เย่ว์หยางยังคงคัดลอกอย่างไม่สนใจอะไร
ทำให้นางกลัวมาก
พื้นล่างของป้อมปราการเหล็กขนาดยักษ์จมลึกลงไปใต้น้ำ
พื้นที่ฐานล่างสุดคือที่ลับสุดยอด
นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ซึ่งหลิวเย่พบว่ามนุษย์เงือกกลายพันธุ์เกือบทั้งหมดปกป้องคุ้มกันอยู่ที่นี่
มีทหารยามอย่างน้อยห้าร้อยนายป้องกันประตูเหล็กอย่างแน่นหนา จากข้อมูลต่างๆ
ที่เย่ว์หยางรวบรวมได้ก่อนหน้านี้
ที่นี่ควรเป็นสถานที่มนุษย์เงือกกลายพันธุ์ใช้ชุบชีวิตบรรพบุรุษของพวกเขา
แต่ตามแผนที่ขุมทรัพย์โบราณ
ที่นี่น่าจะเป็นตำแหน่งสำหรับปลดผนึก
เย่ว์หยางตัดสินใจอย่างกล้าหาญจะปลอมเป็นมนุษย์เงือกกลายพันธุ์
ทุกๆ
ชั่วโมงทหารภายในและภายนอกป้อมจะผลัดเวรกัน
เขาตั้งใจแอบอยู่ด้านหลังมนุษย์เงือกกลายพันธุ์ที่เปลี่ยนกะ
หลิวเย่รู้ดีว่าสนามพลังสร้างโลกของเย่ว์หยางสามารถจำลองทุกอย่าง แต่เขากับนางเป็นมนุษย์อย่างเห็นได้ชัด และพวกเขาลื่นไหลไปตามทางสว่างเช่นนั้น
ทำให้นางรู้สึกหวาดหวั่น จะเกิดอะไรถ้าถูกพบเจอ?
แม้ว่าจะไม่มีใครค้นพบ
แต่พวกเขาไม่รู้ว่าหลังจากเข้ามาแล้วพวกเขาอยู่ตรงจุดไหน!
“ไม่ต้องกังวล พวกเราเป็นเหมือนอากาศทั้งหมด
ข้ารับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่เห็นเรา
แม้ว่าพวกเขาจะเห็น
แต่พวกเขาจะไม่มีความสงสัย
ทุกอย่างอยู่ในความควบคุมของข้า
ขอให้เจ้าติดตามข้าอย่างวางใจ”
เย่ว์หยางสามารถลอบเข้ามาได้
เขายืนยันทำตามสิ่งที่เขาต้องการ
แต่สาวน้อยหลิวเย่ต้องใช้พลังความคิดมากมายที่สุดในชีวิต
“เป็นอย่างนั้นจริงๆ หรือ?” หลิวเย่รู้สึกไม่สบายใจ
“เจ้าผ่านประสบการณ์ในประตูเป็นตายมาแล้ว
แล้วนี่อะไรเล่า?” เย่ว์หยางจ้อง หลิวเย่พยักหน้าทันที และตอบเขาจริงจัง
“ใช่แล้ว!”
ติดตามขบวนหลังทหารยามมนุษย์เงือกกลายพันธุ์เครียดและไม่ง่ายจริงๆ
หลิวเย่รู้สึกว่าหัวใจของนางแทบกระดอนออกมานอกตัว
แต่นางก็ยังปลอดภัยจริงๆ
ไม่มีใครพบความแตกต่างระหว่างพวกเขา
และเย่ว์หยางและหลิวเย่เป็นอากาศใสไม่มีใครสังเกตเห็น
ขณะเดียวกันทหารยามเหล่านี้ยังคงเงียบและเดินไปข้างหน้าราวกับเครื่องจักรกล
คาดว่าพวกเขาได้รับการฝึกฝนอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษห้ามมิให้พูดคุยกันในระหว่างผลัดเวรเพื่อไม่ให้การป้องกันผ่อนคลาย
ด้านหลังประตูเหล็กมีพื้นที่ขนาดใหญ่
เป็นโดมเหล็กสูงถึงร้อยเมตร
เสาผลึกพลังงานสีแดงขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลาง
ใหญ่ขนาดสิบคนยังโอบไม่รอบและเก็บกักพลังงานมากมายมหาศาลไว้ในนั้น
มีนักบวชผู้ประกอบพิธีบูชายัญหลายคนที่ฐานกำลังสาธยายมนต์เสียงทุ้มซึ่งหลิวเย่ฟังไม่ถนัด
มีผลึกพลังงานหลายขนาดแตกต่างกันอยู่บนฐานวงแหวนของเสาผลึก
พลังงานระหว่างนักบวชประกอบพิธีทั้งหมดเป็นสีแดงเลือด
ทหารมากกว่าสิบคนร่างโชกเลือด เดินตรงไปที่เสาผลึกเลือดและแสงพลังงานสีเลือดดูดกินเลือดราวกับว่ามีชีวิต เมื่อเลือดถูกดึงออกมาจะมีสีแดงประหลาดปรากฏขึ้น
เย่ว์หยางมีขวัญกล้าเทียมฟ้าแน่นอน
เขาไม่เพียงแต่จะเดินเข้าไปตามปกติเท่านั้น แต่ยังอยู่ต่อหน้ามนุษย์เงือกกลายพันธุ์มากมาย
เขามองดูจารึกที่ฐานเสาผลึกแดง อ่านดูคำอธิบาย
หลิวเย่กัดฟันเดินตามเขา
ความรู้สึกในการเป็นขโมยต่อหน้าสายตาทุกคนเป็นเรื่องน่ากลัวจริงๆ....
เย่ว์หยางไม่รู้สึกตัวว่าเป็นขโมย นอกจากสังเกตคำจารึกที่บันทึกเอาไว้ เขายังกล่าวทักทายนักบวชเหล่านั้น
ราวกับว่ากลัวคนอื่นจะไม่เห็นพวกเขา
“กล้าหาญอะไรอย่างนี้?”
เป็นครั้งแรกที่หลิวเย่ยกความสงสัยออกจากก้นบึ้งหัวใจ
“ไม่เป็นไร
ในสนามพลังของข้า ศัตรูจะคิดว่าเราเป็นนักบวชสถานะเดียวกับพวกเขา พวกเขาจะมองไม่เห็นข้อบกพร่องอะไร” เย่ว์หยางหันไปปลอบหลิวเย่
จากนั้นเขาได้พูดคุยเกี่ยวกับนักบวชมากมาย
และยังวิจารณ์ผู้คนอย่างรุนแรงเนื่องจากไม่เห็นด้วย หลิวเย่อดหลั่งเหงื่อเยียบเย็นไม่ได้
นี่เป็นขโมยที่หยิ่งยโสเกินไปหรือไม่?
นางอดสะกิดเขาไม่ได้ แสดงว่าเกือบจะเสร็จอยู่แล้ว อย่าลากเวลาเกินไป
มิฉะนั้นจะมีคนพบบางอย่างที่ผิดปกติ
แต่เย่ว์หยางก็แทบทำให้นางเป็นลม
สุดท้ายก็ต้องพยายามดึงเย่ว์หยางออกมาอย่างยากลำบาก
จนกระทั่งกลับมาถึงเรือท่องเที่ยว หลิวเย่จึงโล่งใจได้
การเป็นขโมยนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ แล้ว อย่าริเป็นขโมย
แม้จะไม่มีใครพบ แต่เป็นเรื่องเจ็บปวดใจมาก
หลังจากหลิวเย่ตั้งสติได้
นางมีคำถามเถี่ยวกับเสาผลึกพลังงานสีเลือด
“นั่นใช่สถานที่ปลดผนึกขุมทรัพย์โบราณตามที่ระบุในลายแทงหรือไม่? มนุษย์เงือกกลายพันธุ์จะชุบชีวิตบรรพบุรุษของพวกเขาได้อย่างไร?
สิ่งมีชีวิตที่ทำการผนึกที่นี่คงไม่ได้ใช้พลังงานธรรมดา? จะใช้พลังงานของเสาผลึกได้อย่างไร?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า
แม้แต่สาวน้อยอย่างเจ้าก็ยังรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่เสาผลึกพลังงานนั่นใช้ผนึกสิ่งมีชีวิตไม่ได้ แต่น่าเสียดายที่มนุษย์เงือกกลายพันธุ์เหล่านั้นไม่รู้ตัว”
เย่ว์หยางหัวเราะอย่างมีความสุข
“ข้าคิดว่าสิ่งต่างๆ ที่ปรากฏครั้งแรกทำให้ข้าสับสนในตอนแรก
แต่หลังจากข้าเข้าไปอ่านคำจารึกโบราณและพูดคุยกับพวกเขาในที่สุดก็เข้าใจ ไม่มีธรรมเนียมเกี่ยวกับการฆ่าคน!
บรรพบุรุษของมนุษย์เงือกกลายพันธุ์ในยุคเก่าโพ้นเคยพบเจอผนึกนี้ พวกเขาต้องการปลดผนึกโบราณ
เป็นที่คาดกันว่าพวกเขาได้รับทราบข่าวลายแทงขุมทรัพย์โบราณ
หรือค้นพบความลับบางอย่าง แต่กลับถูกสังหารหมู่โดยนักสู้ของหอทงเทียนในอดีต
รวมทั้งทำลายล้างศิลาพลังงานเหล่านั้น
ในเวลานั้นนักสู้ผู้แข็งแกร่งที่ฆ่าบรรพบุรุษยุคโน้นของเผ่ามนุษย์เงือกกลายพันธุ์ได้จารึกข้อความบนฐานวงแหวนรอบเสาผลึกเตือนใจคนรุ่นหลัง เป็นผลทำให้อนุชนรุ่งหลังของมนุษย์เงือกกลายพันธุ์เกิดความเข้าใจผิดในบันทึกข้างต้น
คิดว่าการรวบรวมเลือดมากขึ้นจะทำให้พวกเขาฟื้นคืนชีพได้”
“หา....”
หลิวเย่ตกใจและตะลึงอยู่นานกว่าจะตั้งสติได้
“อย่างนั้นต่อไปบรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้วของพวกเขา
จะไม่มีทางฟื้นคืนชีวิตได้ใช่ไหม?”
“พลังงานของเสาผลึกนั่นถูกใช้เพื่อการปลดผนึกประตูขุมทรัพย์โบราณ เจ้ากล้าพูดได้ไหมว่าเจ้าสามารถชุบชีวิตผู้คนได้?” เย่ว์หยางถาม
“ไม่ ไม่มีประเพณีใดน่ากลัวขนาดนี้...” หลิวเย่ได้ยินแล้วอดหลั่งเหงื่อเยียบเย็นมิได้
จะยกเลิกการคืนชีพที่เกินเลยไปได้หรือไม่?
แน่นอนว่าเพราะจารึกเหล่านี้ถูกจารึกมานานเกินไป
จนเกิดผลผิดพลาดทางประวัติศาสตร์ เป็นไปได้ที่ทำให้เกิดการเข้าใจผิด แต่มนุษย์เงือกกลายพันธุ์นั้นกระตือรือร้นจะกอบกู้ชื่อเสียงบรรพบุรุษยุคก่อนโน้นโดยไม่ค้นหาความจริง
คิดแต่จะรวบรวมเลือดเพื่อคืนชีพบรรพบุรุษที่ไม่เคยมีอยู่จริง
เห็นได้ชัดว่าคำเตือนถึงอนุชนรุ่นหลังต้องไม่หยิ่งผยอง
มิฉะนั้นจะถูกตัดสินล้างเผ่าพันธุ์
แต่มนุษย์เงือกกลายพันธุ์คิดว่าเป็นบรรพบุรุษยุคก่อนโน้นทิ้งคำสั่งให้ชุบชีวิต
นี่เป็นเรื่องตลกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์จริงๆ
ไม่มีประเพณีทำร้ายคนตาย
4 ความคิดเห็น:
โธ่.ที่แท้ก้เป็นแค่พวกโง่...แบบนี้มีสมบัติเท่าไหร่ เย๋ว์หยางกวาดเรียบแน่นอน
.ใจจ้า
แป่ว
กรรม
แสดงความคิดเห็น