วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1354 จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ!

 

ตอนที่  1354  จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ!

จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อมองดูจื้อจุนอีกครั้ง

 

จื้อจุนลังเลเล็กน้อย นางจะไม่เปลี่ยนไปเพราะใคร แต่นางได้เห็นสัญญาณบางอย่างรู้สึกว่านี่เป็นเส้นทางแห่งโชคชะตาของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อและเขายืนกราน นางจึงได้แต่พยักหน้า  “ท่านเป็นผู้อาวุโส เชิญท่านสู้ก่อน”

“ขอบคุณมาก”  จักพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อยิ้มอย่างง่ายดาย ทันใดนั้นสะพานงูลอยฟ้ายที่มืดมิดทั้งหมดพลันสว่างเหมือนมีอาทิตย์อุทัยยามเช้า

เขายื่นมือใหญ่ออกมาด้านหน้า

ค่อยๆ ควบกลั่นพลังเทพ

โดยไม่รู้ตัวเจตจำนงของเขาเติมเต็มโลกแกนสมดุลโลกเต็มไปทั่วทุกอณูอากาศ

ไม่ว่าศัตรูจะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าจะซ่อนอยู่หรือไม่ ล้วนไม่มีประโยชน์

กลุ่มเทพมารแห่งทะเลมรณะมีความรู้สึกว่าพวกเขาถูกศัตรูกักไว้ ตราบใดที่จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อลงมือ พลังโจมตีครั้งยิ่งใหญ่จะต้องตามมา และทุกคนจะต้องพบกับหายนะอย่างแน่นอน  การหลบหนีเป็นเรื่องตลก!

เมื่อเห็นจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อมีพลังคุกคามที่ก้าวแกร่ง  พวกเขารู้สึกเจ็บปวดลึกๆ

ในท่ามกลางความตกใจ พวกเขาลงมือพร้อมกัน

ผนึกกำลัง

ด้วยความได้เปรียบจากจำนวนคนที่มากกว่า พวกเขาระเบิดพลังเหนือธรรมชาติและผนึกกำลังสู้กับจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ

บัลลังก์เทพที่มีความหลากหลายรูปทรงแปลกตาและบัลลังก์เทพต่างๆ เปล่งประกายออกมาด้านหลังเหล่าเทพมารแห่งทะเลมรณะเหล่านี้ ลักษณะทั่วไปของพวกเขาคืองดงามมีลักษณะสวยงามแปลกตาจนทำให้ผู้คนอดทึ่งไม่ได้

อย่างไรก็ตาม จื้อจุนสังเกตเห็นว่าแม้ว่าบัลลังก์เทพเหล่านี้จะเพิ่มพูนพลังความยิ่งใหญ่ให้กับเจ้านายพวกเขาอย่างมากก็ตาม แต่ไม่มีใครได้รับการยอมรับจากเจตจำนงโบราณของโลกแกนสมดุลโลก  เช่นเดียวกับเจี้ยนจางเซิงที่เหลือเพียงแขนเดียวที่กำลังแบกโดมท้องฟ้าบนเทพบรรพต  ร่างเขากำลังสึกกร่อนไม่หยุดยั้งและการชำระร่างเทพของเจี้ยนจางเซิงทำให้เขาต้องแบกรับความเจ็บปวดอย่างไร้ขอบเขตทุกวินาที

เทพมารแห่งทะเลมรณะจะถูกทรมานด้วยเจตจำนงโบราณหรือไม่จื้อจุนไม่รู้ แต่นางยืนยันได้ว่ากฎสวรรค์โบราณกำลังขับไล่พวกเขา

อย่างช้าๆ

แต่จื้อจุนมองเห็นได้ชัดเจน

กฎสวรรค์โบราณกำลังละลายบัลลังก์เทพของเทพฝ่ายมารช้าๆ ... ถ้าไม่ใช่ฝ่ายเทพมารแห่งทะเลมรณะนี้ต่อต้านการขับไล่ของกฎสวรรค์โบราณเล็กน้อย บัลลังก์เทพเหล่านี้จะสลายตัวไปอย่างรวดเร็ว จึงไม่น่าแปลกใจที่ศัตรูไม่กล้าแสดงบัลลังก์เทพง่ายๆ ปรากฏว่าแต่เดิมในโลกแกนสมดุลโลกนี้ไม่ได้มีกฎสวรรค์รองรับ

ชายชราคนหนึ่งเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของเทพมารแห่งค่ายทะเลมรณะ

ผมบนศีรษะและหนวดเคราของเขาเป็นสีขาวทั้งหมด แต่หน้าของเขาเหมือนกับทารก

ไม่แก่เลยสักนิด

ทำให้คนโดยทั่วไปเข้าใจว่าคนผู้นี้มีหลักการชีวิตที่ดีมีความสุข

ชายชราสวมชุดโบราณยุคหลายหมื่นปีก่อน  ในมือขวาของเขาถือคทามังกรที่เหมือนมีชีวิตดูแล้วไม่ใช่สมบัติวิเศษ แต่ดีกว่าของวิเศษทั่วไป

สิ่งที่ทำให้จื้อจุนทึ่งก็คือ คทานี้สร้างจากไม้เทพมังกรในตำนาน

ประวัติศาสตร์ลับโบราณของไม้มังกรศักดิ์สิทธิ์ที่หอทงเทียนได้บันทึกไว้ ไม่เหมือนใครในดินแดนสวรรค์  มันอาจเกิดจากน้ำลายพิษและเลือดเกิดขึ้นเมื่อมังกรต่อสู้กัน นี่เป็นสมบัติที่หายากในแดนสวรรค์ เพราะช่วยขับล้างพิษและมีฤทธิ์เสริมพลังที่ยอดเยี่ยม

แน่นอนว่าผลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือใช้สังหารมังกร

มังกรทุกตัวจะอ่อนแอลงเป็นสิบเท่าเมื่ออยู่ต่อหน้ามัน เมื่อใช้ทำร้าย มันจะไม่สามารถรักษาตัวเองได้และอาจก่อให้เกิดโรงติดเชื้อที่ทำให้หน้ามังกรเปลี่ยนไป

“รู้ว่าอสูรหลักของข้าคือมังกรดังนั้นเจ้าจึงฝึกฝนพิษน้ำลายมังกรหรือ?”  จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อหัวเราะ เขาไม่เพียงแต่ไม่ได้สะทกสะท้านเท่านั้น แต่สีหน้าของเขายังแสดงอาการดูหมิ่นมากขึ้น

“ไม่มีอะไรทั้งนั้น เห็นด้วยกับการเริ่มต่อสู้ของชาวเทพ มิฉะนั้นการต่อสู้ครั้งนี้คงจะไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง”  ชายชราที่ถือคทามังกรเป็นผู้นำชั่วคราวของกลุ่มเทพมารแห่งทะเลมรณะกลุ่มนี้  หลังจากเขาลอบพูดคุยกับสหายของเขา  เขาขอเป็นคนแรกที่ยืนขึ้นและโบกคทาสร้างแสงรุ้งจากปลายคทาด้านบนและพุ่งเข้าหาจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ แสงเทพที่ไม่มีพลังทำลายล้างพิเศษพุ่งเข้าหาจักรพรรดิไร้เทียมทานทันที

“ข้ารอมานานแล้วเกินไปแล้ว สงครามเทพครั้งนี้ล่าช้ามาหลายหมื่นปีแล้ว” จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่ออัญเชิญคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่มีรูปแบบไม่ธรรมดา ลักษณะเป็นโลหะ พลังเทพพุ่งเข้าหาฝ่ายตรงข้ามทันที

บึ้ม

พลังเทพถูกขัดขวางทันที

อย่างไรก็ตามการตัดสินใจของเทพทั้งสองโดยสมัครใจได้รับการรับรองโดยกฎสวรรค์โบราณทันที

เมื่อครู่นี้กฎสวรรค์โบราณได้กันผู้ชมที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปชั่วคราว เจตจำนงโบราณวาดวงกลมที่มองเห็นอย่างคลุมเครือในพื้นที่ขนาดใหญ่ซึ่งเป็นสนามรบสู้ตัดสินเป็นตายของสองคนนี้

ทันทีที่กฎสวรรค์โบราณจางหายไปชั่วคราว บัลลังก์เทพไม่ถูกขับไล่อีกต่อไป และสีหน้าของเทพมารฝ่ายทะเลมรณะค่อยผ่อนคลายในที่สุด มีอยู่ไม่กี่คนที่เริ่มแสดงอาการอวดดี

เมื่อมีบัลลังก์เทพ ก็มีพลังรบไม่จำกัด

แม้ว่าจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อจะแข็งแกร่งมาก  แต่ถ้าเขาไม่สามารถฆ่าได้ในท่าเดียว  อย่างนั้นการต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้ที่ยืดเยื้อไม่รู้จักจบสิ้น  กลุ่มเทพมารแห่งทะเลมรณะได้เปรียบในด้านจำนวนคนและสามารถใช้กลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นได้ เช่นสงครามหลอกล่อหรือล้อมสู้เป็นกลุ่ม  ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามีข้อดีมากกว่านี้ในตอนท้ายของการต่อสู้ อาจจะสามารถปราบเอาชนะจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อได้!  ท้ายที่สุดไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งเพียงไหนแต่เขาก็มีเพียงคนเดียว

ขณะที่เด็กสาวแปลกประหลาดที่ยังไม่มีบัลลังก์เทพคอยปกป้องอย่างเป็นทางการ แม้ว่านางจะเข้าสู่สงครามด้วยก็ยังไม่น่ากลัว

“นี่คือบัลลังก์เทพหรือ?”  จื้อจุนขมวดคิ้วเล็กน้อย

เดิมทีนางคิดว่าบัลลังก์เทพทุกตนเหมือนกันหมด  คิดไม่ถึงว่าจะแตกต่างเปลี่ยนแปลงได้มากมายถึงเพียงนี้ แทบไม่พบความเหมือนหรือคล้ายกันแต่อย่างใด

จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อกำลังจะเดินหน้าเข้าต่อสู้ เมื่อได้ยินคำพูดนาง เขาชะงักฝีเท้าลงทันทีและส่งเสียงพูดเบาๆ  “ในฐานะรุ่นอาวุโสข้าไม่เคยทำอะไรให้ผู้เยาว์รุ่นหลังเลย ฮะฮะ ความจริงข้าละอายใจที่จะพูดถึง แต่พอโชคชะตาข้าเริ่มขึ้น ในใจของข้าไม่มีอะไรต้องเสียใจอีกต่อไป  ดังนั้นข้าจะละเว้นและบอกความลับของบัลลังก์เทพกับเจ้า!

จื้อจุนได้แต่เงียบแต่ยังยกมือแสดงความคารวะ

บัลลังก์เทพนี้เป็นความลับในความลับ ถ้าไม่ใช่อาจารย์กับศิษย์ ผู้รับการฝึกฝน คงไม่พูดถึง ตอนนี้จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อต้องบอกว่าทำลายธรรมเนียมใหญ่นี้

“ก่อนอื่นทำไมบัลลังก์เทพจึงไม่สามารถควบสร้างได้ด้วยตนเอง มันต้องถูกสร้างขึ้นโดยอาจารย์ผู้มีความแข็งแกร่งระดับสูง  เพราะบัลลังก์เทพนี้เป็นเหมือนธรณีประตูของการได้รับการยอมรับเป็นนักสู้ชั้นเทพ  เมื่อพลังถึงมาตรฐานก็ได้รับ ถ้าไม่ถึงก็ไม่ได้  ในขณะที่เดียวยังเป็นประตูเบิกทางเป็นสัญลักษณ์ของการยอมรับว่าเป็นเทพ  มีแต่เพียงเทพเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าสู่โลกที่สูงขึ้นและพื้นที่ที่สูงขึ้นไป ตัวอย่างเช่นโลกที่สร้างขึ้นโดยเจตจำนงเทพราชันย์ หรือโลกมิติเวลาอื่นที่ยอดเยี่ยมและไม่มีที่สิ้นสุดเป็นเหมือนหนังสือเดินทางของหอทงเทียนที่มีทั้งบัตรบรอนซ์ บัตรเงิน บัตรทอง ฯลฯ

“ไม่! เป็นแบบนี้ไปไม่ได้!  การรับรองของหอทงเทียนของพวกเจ้าเป็นเพียงเครื่องมือสำหรับโลกที่อยู่ในระดับต่ำเท่านั้น เพียงเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการจัด มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับบัลลังก์เทพที่ลึกลับซับซ้อนไม่มีที่สิ้นสุด” ชายชราผอมสูงฝ่ายเทพมารจากทะเลมรณะพยายามคัดค้านอย่างรุนแรง

“ฟังสิ่งที่เขาพูด!  มีแต่เพียงเทพมารอย่างชี่ตันจื้อที่ให้ความสนใจกับคำพูดของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ

นี่คือความลับที่พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน

แม้ว่าพวกเขาจะมีบัลลังก์เทพแล้วก็ตาม

แต่ก็ยังเป็นความลับ

ส่วนความน่าทึ่งมหัศจรรย์

พวกเขายังไม่รู้อะไร!

บัลลังก์เทพที่อยู่ด้านหลังของบุรุษร่างผอมสูงเหมือนคมมีดที่หมุนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด  แม้ว่าเขาจะไม่เห็นด้วยกับคำพูดของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ  แต่เขาไม่ได้รับการสนับสนุนมากนัก ตรงกันข้าม เทพฝ่ายมารมีหลายคนยินดีรับฟังความลับจากจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ

“บทบาทของบัลลังก์เทพมีมากกว่านั้นแน่นอน  ก็อย่างที่ข้าเพิ่งบอกไป มันเป็นมาตรฐาน ถ้าเกินมาตรฐานไปมากแล้ว บัลลังก์เทพจะไม่ถูกเรียกว่าบัลลังก์เทพ หรือจะบอกก็ได้ว่าบัลลังก์เทพก็คือโลกนิรันดรซึ่งเกิดขึ้นจากเจตจำนงสูงสุดของเทพจอมราชันย์และมีพลังเทพเป็นของตนเองที่ไม่เหมือนใคร โลกที่บัลลังก์เทพพัฒนาขึ้นนี้ไม่ใช่โลกคัมภีร์  โลกคัมภีร์คือสิ่งที่มหาเทพยุคโบราณได้พัฒนาขึ้นเพื่อเราจริง เป็นการสร้างแม่แบบให้กับเรา  มีแต่โลกที่สร้างขึ้นเองและเป็นนิรันดร์เท่านั้นที่เป็นโลกแห่งความจริง  นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทำได้ มีแต่เทพราชันย์เท่านั้นที่ทำได้สำเร็จ ทั้งยังมีมาตรฐานที่สูงกว่าที่ข้าคิดแน่นอน  นี่เป็นเรื่องเกินความสามารถที่ข้าจะตรวจพบเจอได้  เช่นเดียวกับที่เราเคยได้ยินเกี่ยวกับการมีอยู่เทพโบราณหรือมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ แต่เราไม่เคยพบเห็น” จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อมั่นใจว่าเทพจอมราชันย์เป็นสิ่งมีชีวิตสูงสุดที่ทุกชีวิตสามารถเข้าใจได้

“ไม่ใช่ว่าเริ่มสร้างบัลลังก์เทพก่อนแล้วค่อยเริ่มสร้างโลกหรือ?”  จื้อจุนคิดอยู่สักครู่ นึกถึงเด็กหนุ่มผู้ผิดปกติธรรมดาดูเหมือนจะคล้ายแบบนี้อยู่บ้าง

“เป็นไปไม่ได้!  เทพร่างผอมสูงร้องคัดค้าน

“หุบปาก!” ชี่ตันจื้อกำลังฟังด้วยความสนใจ เมื่อได้ยินเจ้าผู้นี้ต่อต้านเขาอดสบถด่าไม่ได้

“ข้าไม่รู้, อาจจะมี หรืออาจไม่มีก็ได้.. ต่อให้มีก็อาจไม่มีใครรู้แต่คนที่อยู่เบื้องหลังเขาต้องทำเช่นนี้เพื่อเขา  มิฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างโลกให้สมบูรณ์ทั้งสำหรับชาวแดนสวรรค์และหอทงเทียน การสร้างโลกไม่ใช่เรื่องง่าย”  จักรพรรดิไร้เทียมทานไม่ได้พูดตรงๆ

“เลิกพูดได้แล้ว ความจริงการพูดเรื่องสร้างโลกเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ!  เทพร่างผอมสูงแค่นเสียง

“เป็นเรื่องที่ยากมากกับการสร้างโลก  เทพบางตนโอ้อวดหยิ่งยโส ข้ากล้าพูดได้เลยว่าความคิดของพวกเขาได้ก่อตัวเป็นโลกๆ หนึ่ง”  จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่ออารมณ์ดี  “แต่อย่างไรก็ตามนั่นเป็นเพียงแสงเทพของพวกเขาวาดภาพในมิติที่ว่างเปล่า แม้ว่ามองผิวเผินจะดูมีชีวิตสวยสดงดงาม แต่ไม่สามารถปกปิดความเปราะบางและความบกพร่องของมันได้ นั่นไม่ใช่โลกแต่อย่างใดเป็นเพียงฟองสบู่ที่สวยงาม เพียงแค่แตะเบาๆ ครั้งเดียวก็หายไปในทันที  โลกแห่งความเป็นจริงนั้นคงอยู่ชั่วนิรันดร์  เป็นนิรันดร์ยิ่งกว่าโลกแห่งแกนสมดุลโลกนี้ และไม่มีเทพใดสามารถทำลายหรือเปลี่ยนแปลงได้ ตราบใดที่เจ้าของผู้สร้างโลกนั้นได้จัดการโลกทั้งหมดโดยเทพจอมราชันย์ จึงจะบรรลุผลได้ตามที่ต้องการ”

“ในเมื่อเป็นเทพจอมราชันย์ข้าจะไม่เข้าไปแตะต้องในตอนนี้ก่อน  ท่านสามารถพูดคุยเกี่ยวกับบัลลังก์เทพได้หรือไม่?”  จื้อจุนรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องพูดถึง โลก มากเกินไป นั่นคือสิ่งที่อยู่ไกลเกินเอื้อมในปัจจุบัน

“บัลลังก์เทพคือใบวัดมาตรฐาน”  จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อพยักหน้า  “แทบจะคล้ายกับบัตรคำสั่งของหอทงเทียน

“ท่านเพิ่งจะพูดถึงบัตรทองแดง บัตรเงินไปแล้ว?  อย่างนั้นบัลลังก์เทพก็มีมาตรฐานที่ต่างกันอย่างนั้นหรือ?”  จื้อจุนสังเกตแง่มุมนี้อย่างกระตือรือร้น

“ใช่แล้ว” จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อพูดเช่นนั้น เทพมารกลุ่มทะเลมรณะที่แอบฟังอยู่รู้สึกตกใจเช่นกัน บัลลังก์เทพมีมาตรฐานที่แตกต่างกันหรือ? เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร? บัลลังก์เทพมีลักษณะเป็นตามบุคคลไม่ใช่หรือ? จะมีมาตรฐานต่างกันได้อย่างไร?

“เป็นไปไม่ได้...”  นักสู้ระดับเทพร่างผอมสูงยังพูดไม่ทันจบก็ถูกสหายถลึงตาใส่ ทุกคนกำลังตั้งใจฟัง แล้วเจ้ามาก่อนกวนอะไรตรงนี้!

ความลับชั่วนิรันดร์นี้  ถ้าไม่พูดตอนนี้ ใครจะรู้ความจริง?

จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อชะงัก “บัลลังก์เทพมีมาตรฐานที่แตกต่างกัน แต่ใช่ว่าจะรู้กันได้ง่าย รวมทั้งนักสู้ระดับเทพเองก็ยังไม่รู้ว่าใครอยู่ตำแหน่งระดับใด เทพที่มีรังสีเทพสูงมากกว่าสิบเมตรแต่ไม่ถึงร้อยเมตรเรียกว่าบัลลังก์ระดับต้น มีความลับบางอย่างในแดนสวรรค์บนเรียกบัลลังก็เทพนี้ว่าบัลลังก์เทพที่สง่างาม บัลลังก์เทพที่โดดเด่นเป็นต้น นั่นเป็นภาษาปากที่พวกเทพใช้เพื่อกลบเกลื่อน แต่ความจริงส่วนใหญ่ก็คือบัลลังก์เทพชั้นต้น ผู้ที่มีรังสีสูงร้อยถึงสามร้อยเมตรเรียกว่าบัลลังก์เทพสามัญ สูงสามร้อยถึงห้าร้อยเมตรเรียกว่าบัลลังก์เทพชั้นสูง ถ้าสูงมากกว่านั้นแต่ไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตรเรียกว่าบัลลังก์เทพชั้นเลิศ ถ้าสูงถึงหนึ่งกิโลเมตรถึงสิบกิโลเมตรเรียกว่าบัลลังก์เทพจอมราชันย์”

จื้อจุนไม่เข้าใจ “ทำไมถึงมีมาตรฐานหนึ่งกิโลเมตรด้วย?”

จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังทันที  “เนื่องจากเทพจอมราชันย์มีผลงานสำเร็จหลักๆ ก็คือสร้างโลก ต่อให้ได้บัลลังก์เทพนิรันดร์  แต่เขาไม่เต็มใจจะสร้างบัลลังก์เทพแยกออกมาเป็นพิเศษ  ดังนั้นโดยทั่วไปจึงไม่มีความแตกต่างจากเทพที่มีรังสีสูงมากกว่าหนึ่งกิโลเมตรหรือที่สูงกว่านั้นไม่ได้มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ อย่างน้อยที่สุดก็ยังไม่ต่างจากเทพจอมราชันย์ เทียบกันแบบนี้อาจจะยังไม่เหมาะ ลองเทียบกับนักสู้ปราณก่อกำเนิดของหอทงเทียน ถ้าพวกเขาระเบิดพลังออกมา ก็แทบไม่อาจอาศัยอยู่ในทวีปมังกรทะยานได้  พวกเขาดูเหมือนนักสู้ทั่วไปไม่ถึงขนาดได้รับการยกย่องเทิดทูนด้วยความหวาดกลัว  แต่หากเทพจอมราชันย์ทำเช่นนั้น  เขาคงไม่อาจอยู่ในโลกของเขาได้ และผู้คนที่อาศัยอยู่ในโลกของเขาจะไม่สามารถต้านทานพลังของเขาได้  ดังนั้นบัลลังก์เทพของพวกเขาจึงไม่โดดเด่นเป็นพิเศษแต่อย่างใด มันคือ ประตู  เพียงแค่เปิดประตูเข้าและออก เหมือนคนธรรมดาสร้างบ้านเท่าภูเขากวงหมิงและเปิดประตูหลายหมื่นเมตรเพื่อเข้าออก?”

“เข้าใจแล้ว” จื้อจุนเข้าใจอย่างสมบูรณ์และพยักหน้าแสดงความเคารพขอบคุณที่ช่วยปัดเป่าความสงสัยให้นาง

“ถ้าจำเป็นก็ให้เจ้าบอกเจ้าเด็กน้อยน้อยนั่นด้วย บางทีเขาอาจไม่ต้องการความรู้ตื้นๆ ของข้าเลยก็ได้!  จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อแหงนหน้าหัวเราะ

“เขาต้องการแน่นอน” จื้อจุนหยุดชะงักและถามต่อทันที  “ความลับนี้ไม่อาจเปิดเผยได้ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าท่านเปิดเผยออกไป?”

“ข้าไม่รู้, บางทีอาจถูกผนึก หรือเป็นอย่างอื่น!  นัยน์ตาที่ดูเหมือนดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ของจักรพรรดิไร้เทียมทานเปล่งแสง  “ข้าตั้งปณิธานแน่วแน่แล้ว ก้าวย่างโชคชะตาของข้าบอกว่าเรื่องแบบนี้ไม่สำคัญอีกแล้ว บางทีนี่เป็นการจัดการโชคชะตาผู้อาวุโสอย่างข้าต้องมาให้ความรู้นี้แก่เจ้า มิฉะนั้นทำไมสหายเฒ่าพวกนั้นต้องเอาข้าไปขังไว้ในเจดีย์ดำนานขนาดนั้น ลาก่อนแม่สาวน้อย นับเป็นเกียรติสำหรับข้า นักรบรุ่นอาวุโสที่ได้พบเจ้า  ถ้าเป็นไปได้โปรดขึ้นไปยืนบนจุดสูงสุดโลกและดูแลโลกทั้งหมด!  ข้าจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อไม่สามารถบรรลุความสำเร็จได้อีก ข้าหวังว่าเจ้า จื้อจุนชาวมนุษย์จะสามารถทำได้”

“ลาก่อน”  จื้อจุนคารวะเป็นครั้งที่สุด นางเห็นแล้วว่าบรรพบุรุษผู้อาวุโสนี้ตัดสินใจเดินตามโชคชะตาอย่างเป็นทางการ

“แม้ว่าข้าจะไม่สามารถบรรลุชีวิตนิรันดร์ได้ แต่ข้าก็ไร้เทียมทานมาได้จนถึงวันนี้!  จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อเงยหน้าส่งเสียงกู่ก้องคำรามอย่างห้าวหาญสะเทือนไปทั้งโลกภูเขาศักดิ์สิทธิ์และทะเลมรณะ

ด้านหลังของเขามีบัลลังก์เทพรูปอักขระรูนมีไฟลุกไหม้

ที่ด้านบนใจกลางจุดตัดอักขระรูน

เป็นอักขระรูนอมตะที่มีเพลิงลุกไหม้ตลอด

ด้านหลังจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อมีภาพมังกรฟ้ากระพือปีกคลุมไปทั้งโลก หัวมังกรที่ดูสง่างามทำให้นักสู้ระดับเทพหลายคนรู้สึกหวั่นเกรง...  จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อเดินมาตามถนนเพลิง คล้ายจะบอกว่านี่เป็นบทเพลงแห่งชีวิตของเขาและเป็นความตั้งใจสูงสุดในการก้าวไปข้างหน้าโดยไม่ลังเล

นี่คือผู้ไร้เทียมทานลูกหลานหอทงเทียน ทันทีที่ระเบิดพลังกราดเกรี้ยว พลังสายฟ้าของเทพก็เทพไม่อาจต้านได้

เทพจอมราชันย์ในอนาคตกำลังเติบโต

และในขณะนี้....

ภายใต้โลกนี้ถามว่า ใครสามารถเทียบเคียงเขาได้?

ตอนนี้มีบุรุษเพียงคนเดียวที่เป็นที่น่าภูมิใจของโลก คนผู้นั้นคือจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ!

**** **** ****

10 ความคิดเห็น:

blakaros กล่าวว่า...

ทั้งหมดช่วยกันกรุยเส้นทางเพื่อ 1 เดียวจริงๆ

BlackFire กล่าวว่า...

รู้สึกรักตัวละครนี้จัง

CHANTANA กล่าวว่า...

ขอบคฺณคับ

Deils(of)darK กล่าวว่า...

สังเกตุดูเหมือนเป้าหมายคือจุดเดียวกันแหละแต่เหมือนจะต้องแย่งกัน พอทำใจได้ก็เลยเปลี่ยนจากแย่งกันเป็นผลักดันคนที่มีอนาคตขึ้นไปแทน

Pcha กล่าวว่า...

ชูโรงเต็มที่

Badly กล่าวว่า...

จบสวยอยู่ครับ

Unknown กล่าวว่า...

สุดท้ายตัวโกงคือตัวที่เต็มใจให้พระเอกเก่งแค่ต้องทายปริศนาให้ถูกมั้ง

Failz กล่าวว่า...

ขอบคุณ​คับ

Apirak Panyakam กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะ

แสดงความคิดเห็น