ตอนที่
10 ข้ารู้ความลับทั้งหมดของเจ้า
หา?
ชีเซิ่งเจี่ยมักจะคิดช้าเสมอ เขาไม่รู้จะตอบยังไงเมื่อถูกถามแบบนั้น
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็จำเหตุผลได้
"ต้องมีใครบางคนในหมู่พวกหัวสูงที่อิจฉาพรสวรรค์ของอาจารย์ซุน
นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาบังคับให้เขาไปอยู่แผนกรับส่งพัสดุ"
หวังฮ่าวยักไหล่ "ช่าย ใช่แล้ว เจ้าจะพูดยังไงก็ได้"
"ข้าไม่ได้โกหกพวกเจ้านะ"
ชีเซิ่งเจี่ยรู้สึกกังวล
"ข้าบอกเรื่องนี้กับพวกเจ้าเพราะข้าอยากให้พวกเจ้าได้รับคำชี้แนะจากเขา
ถ้าเขาใช้เคล็ดการนวดของเขาให้กับเจ้ายกระดับพลังฝึกปรือได้ มันจะดีแค่ไหน?"
หวังฮ่าวหวั่นไหว
"บอกเราได้ไหม!
เขาชี้แนะเจ้าอย่างไรบ้าง?"
โจวชี่ฉลาดมากกว่า
เขาต้องการตัดสินความสามารถของซุนม่อผ่านกระบวนการการชี้แนะ
ชีเซิ่งเจี่ยพูดไปตามเป็นจริง
หลังจากโจวชี่ฟังจบเขาก็พยักหน้า
"เข้าใจแล้ว จริงๆ
แล้วเขาไม่ได้ชี้แนะเจ้าเท่าใดนัก เขาก็แค่นวดให้เจ้าเท่านั้น"
"ฮืม
ดูเหมือนเคล็ดวิชานวดของซุนม่อไม่เลวเลย เราน่าจะลองดูบ้าง!"
ตอนนี้หวังฮ่าวติดอยู่ที่ขอบเขตเสริมสร้างร่างกายระดับ
4 มาสามเดือนแล้ว ไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย
"นั่นต้องเป็นอาจารย์ซุน!"
ชีเซิ่งเจี่ยเน้นย้ำเป็นอย่างมาก เขาต้องการจะบอกว่าเมื่อคืนนี้พวกเขาไม่มีเวลาเพียงพอ
ดังนั้นอาจารย์ซุนจึงมีโอกาสแค่ช่วยเขาฟื้นฟูร่างกายและจะช่วยชี้แนะเขาในภายหลัง อย่างไรก็ตามเขาถูกโจวชี่ขัดจังหวะ
"เจ้าควรพักเสียก่อน เราจะไปดูกัน!"
ทั้งสองคนเดินออกไป
"พวกเจ้าต้องมีความเคารพอาจารย์ซุนมากกว่านี้!"
ชีเซิ่งเจี่ยเตือนพวกเขา เขานอนลงชั่วขณะหนึ่ง แต่เขารู้สึกไม่สบายใจ
ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นสวมเสื้อและวิ่งตามสหายออกไป
ปัง!
หลี่กงถีบเปิดประตูโกดัง เขามีสีหน้าที่ไม่เป็นมิตร
สายตาของเขาราวกับมีดโกนที่ต้องการแล่เนื้อเถือหนังซุนม่อออกทั้งหมด
ซุนม่อไม่แม้แต่จะลืมตา
เขายังคงฝึกวิชาเซียนมหาจักรวาลไร้ลักษณ์ต่อไป
"เฮ้ย!"
เมื่อเห็นซุนม่อไม่สนใจเขาหลี่กงคำรามอย่างไม่พอใจ อย่างไรก็ตามการวางอำนาจเหนือไป
มันไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง
สถาบันจงโจวในช่วงไม่กี่ปีมานี้
เขาเห็นครูฝึกสอนมาก็มาก
ส่วนใหญ่จะเต็มไปด้วยความกังวลใจเมื่อมาถึงครั้งแรก พวกเขาระมัดระวังตัว
และเป็นมิตรมากเกินไปกลัวว่าจะทำอะไรผิดพลาด
อย่างไรก็ตามซุนม่อผู้นี้ยอดเยี่ยมจริงๆ
เขาดูสงบมาก
แม้ว่าจะได้รับคำแนะนำจากหัวหน้าแผนกรับส่งพัสดุให้ไล่ซุนม่อออกจากสถาบัน
แต่หลี่กงต้องยอมรับว่าอารมณ์ของซุนม่อนั้นดีเยี่ยม นอกจากใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาแล้ว
ร่างกายของเขาตรงแน่วราวกับเสาหลักก็ยังดูดีอีกด้วย
"อย่างที่คาดไว้
เจ้ามีต้นทุนพอที่จะกิน 'ข้าวนุ่ม' ได้"
หลี่กงรำพึง เมื่อเขานึกถึงใบหน้าที่น่าเกลียดของตนเอง
ความไม่พอใจที่เขามีต่อซุนม่อก็กลับพุ่งสูงอย่างรวดเร็วอีกครั้ง เขาเตรียมจะสั่งสอนซุนม่ออย่างไร้ความปราณี
"โอว
งั้นเจ้าคงอยากจะขากะเผลกต่อไปใช่ไหม?"
ซุนม่อยิ้มเล็กน้อย
"เจ้านั่นแหละที่อยากเป็นง่อย"
หลี่กงสบถด่าด้วยความโมโห
"ในกรณีแบบนั้น
ทำไมทัศนคติที่เจ้ามีต่อข้าผู้ที่รักษาอาการอ่อนแอของเจ้าได้
ถึงได้หยาบคายและไร้เหตุผลสิ้นดีเล่า?" ซุนม่อย้อนถาม
"เจ้ารักษาข้าได้หรือ?" หลี่กงหนังตากระตุก
"ก็แน่อยู่แล้ว"
คำพูดของซุนม่อง่ายและกระชับ
"เจ้า..."
หน้าอกของหลี่กงกระเพื่อม
เขาถลึงตามองซุนม่อด้วยความโมโห กำหมัดแน่นเหมือนต้องการจะต่อยตีใครสักคน เจ้าผู้นี้ปากร้ายกาจนัก
"ถ้าเจ้าไม่เชื่อ
ก็ไปซะ"
ซุนม่อไม่อ่อนข้อให้
"เจ้าไม่อยากทำงานในสถาบันต่อหลังจากฝึกงานแล้วใช่ไหม?
หลี่กงขู่
ดังคำพูดที่กล่าวว่า
คุยกับพระยายมนั้นง่าย แต่จัดการผีตีนโรงตีนศาลนั้นยาก
สำหรับหัวหน้างานในแผนกขนส่งพัสดุอย่างหลี่กง เขาอาจทำให้เด็กฝึกงานตายได้
ถ้าเขาต้องการจะยุ่งกับพวกนั้น
ถ้าเบื้องสูงจัดเด็กฝึกงานให้มาอยู่กับหลี่กง เด็กฝึกงานก็เหมือนกับอยู่ในนรก ท้ายที่สุดหากเด็กฝึกงาน 'ทำข้อผิดพลาดมากมาย' ในระหว่างฝึกงาน เขาจะถูกไล่ออกตรงๆ
ไม่ว่าความผิดจะมากหรือน้อยก็ตาม
มันขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของหลี่กง
"ฮ่าฮ่าฮ่า"
ซุนม่อหัวเราะอย่างเย็นชา แม้ว่าอันซินฮุ่ยจะเป็นคนรักในวัยเยาว์ของเขา
ทั้งสถาบันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งในวัยเด็กของเขาด้วย
แต่เขาจะไม่ยอมแพ้และประจบประแจงหลี่กงแน่นอน
"เจ้า.."
หลี่กงโกรธจัดจนปอดแทบระเบิด
ขณะนั้นเองมีเสียงเรียกอาจารย์ซุนคั่นขึ้นระหว่างการสนทนา
ชีเซิ่งเจี่ยกับเพื่อนทั้งสามคนยืนอยู่ที่หน้าประตู
"นี่คือพื้นที่เก็บของ
พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่?"
หลี่กงระงับอารมณ์ของเขา
"เรามาหาอาจารย์ซุน"
ชีเซิ่งเจี่ยตอบกลับ
"อาจารย์ซุน?"
สายตาของหลี่กงเต็มไปด้วยความสงสัยขณะมองไปที่ซุนม่อ "เจ้ากำลังพูดถึงเขาเหรอ?"
ไม่จำเป็นต้องให้ชีเซิ่งเจี่ยตอบ เพราะเขาฉุดดึงหวังฮ่าวและโจวชี่วิ่งไปหาซุนม่อ
"คารวะอาจารย์ซุน"
"บัดซบ!"
หลี่กงตกตะลึง
เขามีสีหน้าท่าทีเงอะงะขณะสำรวจชีเซิ่งเจี่ย
เขาอยากจะถามว่าชีเซิ่งเจี่ยบ้าไปแล้วเหรอ?
ซุนม่อไม่ได้แม้แต่จะเป็นครูช่วยสอนด้วยซ้ำ
"อาจารย์ซุน! เมื่อเร็วๆ นี้การฝึกปรือของข้าไม่ราบรื่น
ข้าอยากจะขอคำชี้แนะจากท่าน!"
โจวชี่กล่าวเป็นคนแรก
ซุนม่อไม่ตอบ
เขาใช้เนตรทิพย์สำรวจนักเรียนทั้งสองคน
ชื่อหวังฮ่าวปรากฏอยู่เหนือศีรษะของคนที่เตี้ยกว่าทางด้านซ้าย
ความแข็งแกร่ง : 6 ปานกลาง
สติปัญญา : 5
ตามมาตรฐาน
ความคล่องตัว : 6
ปานกลาง
ปณิธาน : 3 ความธรรมดาที่ไม่ธรรมดา
.....
ค่าความเป็นไปได้
: ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
หมายเหตุ : อย่าเสียเวลากับคนธรรมดา
"เจ้าระบบ!
ข้าคิดว่าเจ้าบอกข้าว่าเป็นตัวพิษใช่ไหม?
ข้อสังเกตของเจ้าก็โหดร้ายเช่นกัน"
ซุนม่อเหลือกตา
ไม่มีข้อมูลที่น่าตื่นตาเป็นพิเศษ ทุกอย่างบ่งบอกว่าธรรมดา
มันน่าเบื่อจนชวนหลับถ้าพวกเขาเห็นเข้า
สำหรับโจวชี่
เขาดูดีกว่าเล็กน้อย แต่ข้อมูลของเขาก็ระดับปานกลางเช่นกัน
อย่างไรก็ตามคุณค่าความเป็นไปได้ของเขานั้นดีกว่าเล็กน้อย
โดยค่าประเมินอยู่ที่ ค่าเฉลี่ยทั่วไป
"ทำไมไม่มีอัจฉริยะมาหาข้าเลย"
ซุนม่อถอนหายใจ
เมื่อเห็นว่าซุนม่อไม่พูดอะไรและสำรวจร่างกายพวกเขา
หวังฮ่าวกับโจวชี่รู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย
"อย่าบอกนะว่าเขาเป็นพวกโรคจิตที่ชอบผู้ชายหุ่นดี"
โจวชี่รู้สึกตัวว่าเขาหล่ออยู่เสมอ
จึงอดลูบใบหน้าตัวเองไม่ได้
"เฮ้, พวกเจ้าถูกเขาหลอกแล้ว แม้แต่ครูช่วยสอน เขายังเป็นไม่ได้ด้วยซ้ำ
ได้แต่มาช่วยงานจิปาถะที่แผนกรับส่งพัสดุเท่านั้น"
หลี่กงใส่ร้ายซุนม่อ
"อย่าดูหมิ่นอาจารย์ซุน"
หวังฮ่าวและโจวชี่ไม่มีอาการตอบสนอง
แต่ชีเซิ่งเจี่ยไม่ยอมทน เขาหันไปตวาดใส่หลี่กง
สีหน้าของหลี่กงแข็งทื่อ
โทสะเลวร้ายลุกโชนอยู่ในอกของเขา
ในที่สุดเขาก็เป็นแค่หัวหน้าพนักงานในแผนกรับส่งพัสดุ
ที่แม้แต่นักเรียนสวะอย่างชีเซิ่งเจี่ยยังกล้าตวาดใส่เขา
ยิ่งกว่านั้นเมื่อเผชิญหน้ากับซุนม่อ แม้ว่าเขาจะเป็นแค่ครูฝึกสอน
แต่ไม่มีนักเรียนคนใดกล้าแสดงอาการดูหมิ่นเหยียดหยามต่อเขา ไม่ว่าพวกเขาจะสาปแช่งซุนม่อในใจแค่ไหนก็ตาม
นี่คือสถานะของครูในสังคม
ความจริง
ถ้าไม่ใช่เพราะหัวหน้าแผนกรับส่งพัสดุไม่ได้สั่งให้เขาสร้างความลำบากให้ซุนม่อและถึงกับบอกว่าเขาจะออกหน้ารับผลที่ตามมาทั้งหมด
หลี่กงก็คงไม่ยุ่งกับซุนม่อ
ซุนม่อก้มศีรษะลงและจ้องไปที่เสื้อคลุมสีฟ้าอ่อนที่เขาสวมอยู่
แม้ว่าสิ่งนี้จะทำมาจากผ้าฝ้ายทั้งการออกแบบก็เรียบง่าย แต่ก็แสดงถึงเอกลักษณ์ของครูฝึกสอน
หลี่กงแม้ว่าจะสวมเสื้อแบบจีนติดกระดุมและกางเกงผ้าฝ้ายสีน้ำเงิน
รวมถึงแหวนพลอยบนนิ้วของเขาที่ไม่รู้ว่าแท้หรือปลอม แต่เขาก็ยังเป็นแค่คนงานไร้ฝีมือในฝ่ายรับส่งพัสดุ
"ข้าต้องใส่ชุดครูสีฟ้าแน่นอน"
จู่ๆ
ซุนม่อก็รู้สึกว่าชุดที่เขาสวมนั้นดูน่ารำคาญมาก
"อาจารย์ซุน? ข้าได้ยินมาว่าท่านช่วยให้ชีเซิ่งเจี่ยยกระดับใหม่ได้ภายในคืนเดียวใช่ไหม?"
โจวชี่ไม่อาจควบคุมอารมณ์ตนเองได้
"พวกเจ้าคงต้องกลับไปก่อน
ตอนนี้ข้ายังไม่ว่าง!"
ซุนม่อเข้าใจว่านักเรียนทั้งสองคนนี้ต้องการใช้คำชี้แนะของเขาเพื่อเป็นข้ออ้างในการสัมผัสเคล็ดการนวดแผนโบราณ
"โจวชี่!"
ชีเซิ่งเจี่ยไม่สบายใจอยู่บ้าง
นี่เป็นทัศนคติที่เจ้าควรมีเมื่อขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเหรอ? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าอาจารย์ซุนรำคาญ?
"อาจารย์ซุน, การฝึกปรือของข้าไม่มีความก้าวหน้ามาสามเดือนครึ่งแล้ว
ได้โปรดชี้แนะข้าด้วย!"
เมื่อเทียบกับโจวชี่แล้ว
การแสดงออกของหวังฮ่าวยังน่าฟังกว่า
"เจ้าโง่!"
หลี่กงมองพวกเขาด้วยความรังเกียจ
สถาบันจงโจวตกต่ำจริงๆ
นักเรียนที่พวกเขาคัดเข้ามาเริ่มทำตัวเหลวไหลมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาไม่มีวิจารณญาณขั้นพื้นฐานอีกต่อไป
"ปัญหาของเจ้าคือสิ้นเปลืองพลังงานมากเกินไป หยุดคิดเรื่องสตรี อย่าหมกมุ่นกับการช่วยตัวเอง
หลังจากเจ้าพักผ่อนได้ระยะหนึ่ง ปัญหาของเจ้าจะได้รับการคลี่คลาย พักสมองจดจ่ออยู่กับการฝึกฝน
แล้วเจ้าจะสบาย"
สีหน้าของซุนม่อสงบนิ่ง
แต่เขาลอบหัวร่อในใจ ตามข้อมูลแสดงให้เห็นว่าปณิธานของหวังฮ่าวมีเพียง 3 มันแย่มาก
ข้อมูลยังแสดงให้เห็นว่าเขามักจะนอนดึกตลอดครึ่งปีหลัง เขาต้องช่วยตัวเองถึงวันห้าถึงหกครั้ง
ไม่ว่าร่างกายของเด็กหนุ่มจะแข็งแรงเพียงใด ก็ไม่อาจทนรับได้
"เอ๋??"
หวังฮ่าวคาดไม่ถึงว่าซุนม่อจะชี้ให้เห็นจุดนี้
เขาอยู่ในอาการงุนงง จากนั้นใบหน้าก็แดงเข้มราวกับตูดลิง
"น่าอายชะมัด"
เมื่อเห็นว่าความลับของเขาถูกค้นพบ
หวังฮ่าวอายมากจนไม่ว่าจะทำอย่างไร เขาชอบอ่านนิยาย เมื่อครึ่งปีที่แล้วเขาได้หยิบยืมหนังสือปลุกอารมณ์ชายมาอ่าน
หลังเสร็จสมอารมณ์หมาย มันเหมือนกับว่าโลกใหม่ได้เปิดกว้างสำหรับเขา จากนั้นเขาก็หยุดไม่ได้
ในตอนนั้นเองที่เขาติดนิสัยช่วยตัวเอง
เขาต้องการเลิกนิสัยเช่นนี้ แต่บางครั้งเขาก็อดกลั้นไม่ไหว
"นี่มันไร้สาระไปหรือเปล่า"
โจวชี่มองดูซุนม่อ
รู้สึกว่าซุนม่อนี้ดีแต่พูดเรื่องไร้สาระหน้าตาเฉย
"อาจารย์ซุน
ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะของท่าน!"
หวังฮ่าวคำนับ
เทียบกับเมื่อก่อน ทัศนคติของเขามีความเคารพขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เขาไม่ใช่คนโง่
ก่อนหน้านี้ซุนม่อเพียงเหลือบมองเขาเล็กน้อยแล้วบอกได้ว่าปัญหาของเขาอยู่ที่ใด
การตัดสินของเขาไม่น่ากลัวไปหน่อยหรอกหรือ? หากซุนม่อพยายามชี้แนะเขา เขาอาจยกระดับความแข็งแกร่งของเขาได้มาก
ติง!
คะแนนความประทับใจจากหวังฮ่าว +3
ความเชื่อมสัมพันธ์กับหวังฮ่าว
ปลดล็อค สถานะปัจจุบัน :
เป็นกลาง (5/100)
"อ๋า? เขาพูดถูกหรือนี่?"
โจวชี่ตกใจเมื่อหลังจากเห็นทัศนคติของหวังฮ่าว
เมื่อพูดถึงการช่วยตัวเอง เขาจำได้ว่าในช่วงสองสามวันมานี้ เวลาเข้าห้องน้ำ
หวังฮ่าวมักจะใช้เวลานานเป็นชั่วโมงจนโจวชี่เริ่มกังวลว่าหวังฮ่าวคงไม่สบาย
ชีเซิ่งเจี่ยมีสีหน้ามึนงง
เขาไม่เข้าใจว่าการช่วยตัวเองคืออะไร!
"จริงหรือนี่?"
หลี่กงจ้องมองซุนม่ออย่างคลางแคลงใจ
เขายอดเยี่ยมมากจริงๆ หรือ?
หรือเป็นการแกล้งกัน? นี่ต้องเล่นตลกกันแน่นอนใช่ไหม?
"ข้ามองไม่ผิด
อาจารย์ซุนยอดเยี่ยมจริงๆ!"
ชีเซิ่งเจี่ยภูมิใจ
ติง!
คะแนนประทับใจจากชีเซิ่งเจี่ย +1
ความสัมพันธ์กับชีเซิ่งเจีย
: เป็นกลาง (51/100)
ซุนม่อชำเลืองมองชีเซิ่งเจี่ย
ในใจนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์ตื้นตัน คนซื่อสัตย์ยังไงก็น่ารักเสมอ
แค่ไม่ถึงวันชีเซิ่งเจี่ยเทคะแนนประทับใจให้เขามากกว่า 50 คะแนน
ซุนม่อกำลังใคร่ครวญเงียบๆ
ในการหล่อเลี้ยงนักเรียนเหล่านี้ให้มีพรสวรรค์ มีความยากลำบากเพิ่มขึ้นมาก
โจวชี่และหวังฮ่าวต้องการพบกับประสบการณ์เคล็ดนวดแผนโบราณ
แต่พวกเขาไม่รู้ว่าจะพูดยังไง
ชีเซิ่งเจี่ยเป็นคนสัตย์ซื่อถือมั่น
เนื่องจากเขาทนไม่ได้ที่จะเห็นสหายรักของเขารู้สึกอึดอัด เขาตัดสินใจช่วยพูดแทน
"อาจารย์ซุน, พวกเขาอยากเห็นฝีมือการนวดของท่าน!"
อีคิวของชีเซิ่งเจี่ยยังต่ำไป
โดยพื้นฐานแล้วเขาไม่คิดว่าถ้าซุนม่อไม่เต็มใจ คำพูดแบบนี้อาจทำให้ซุนม่อไม่พอจนเริ่มเกลียดเขา
ซุนม่อไม่อยากจะคิด
เขาต้องการปฏิเสธ (เจ้าบอกว่าอยากสัมผัสวิชานี้
แล้วข้าต้องให้เจ้าได้สัมผัสตามนั้น แล้วชื่อเสียงข้าเล่า?)
อย่างไรก็ตาม
ก่อนที่เขาจะพูดอะไร ระบบแจ้งเตือนก็ดังขึ้น
"ติง!
ภารกิจใหม่ ช่วยสิบคนแก้ปัญหาเส้นทางโคจรพลังปราณของพวกเขา
ทำให้ดีที่สุดจะยกระดับเคล็ดวิชาโคจรพลังของเจ้า
รางวัล : หีบสมบัติเหล็กดำ!"
2 ความคิดเห็น:
ขอภารกิจเยอะๆ555
ต้องกาภาระกิจทำตลอดสินะ
แสดงความคิดเห็น