วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2561

Panlong เล่มที่ 8 เดินทางไกลหมื่นกิโลเมตร – ตอนที่ 52 ตระกูลเบรุต

เล่มที่ 8 เดินทางไกลหมื่นกิโลเมตร – ตอนที่ 52 ตระกูลเบรุต
 “ในแง่ของเชื้อสายและบุคลิกภาพ เคย์ลันเป็นคนดี” วอร์ตันกอดนีน่าไว้ในวงแขนและพูดอย่างอ่อนโยน  “ข้าเกรงว่าพระบิดาของเจ้าจะยกเจ้าให้แต่งงานกับเคย์ลัน”

นีน่าพยักหน้า  “ก็จริงอยู่ที่พระบิดาให้คุณค่ากับเคย์ลันเนื่องจากพรสวรรค์ทางด้านเวทของเขา  ในอนาคต เขามีโอกาสเป็นหัวหน้าจอมเวทระดับเก้าได้และมีกระทั่งโอกาสได้เป็นปรมาจารย์จอมเวทระดับเซียนได้  จักรวรรดิมียอดฝีมือเซียนอยู่หลายคน  แต่ส่วนใหญ่เป็นนักรบระดับเซียน มีปรมาจารย์จอมเวทระดับเซียนอยู่น้อยมาก”
วอร์ตันรู้สึกได้ว่าเคย์ลันเป็นผู้คุกคามคนหนึ่ง
แม้ว่าลามอนต์เป็นศิษย์ของวิทยาลัยเทพสงคราม  แต่เขาเป็นแค่ศิษย์กิตติมศักดิ์  นอกจากนี้ตระกูลของเขาไม่มีอำนาจคุกคามเท่าใดนัก  วอร์ตันคือนักรบเลือดมังกร  ตราบใดที่จักรพรรดิไม่โง่  เขาก็คงเลือกวอร์ตันแน่นอน
แต่ถ้าเคย์ลันแข่งขันกับวอร์ตัน  หลายๆ อย่างก็คงแตกต่างออกไป  ที่สำคัญบิดาของเขาก็คือมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายของจักรวรรดิมีทั้งอำนาจและอิทธิพล
 “นีน่า” วอร์ตันเคร่งขรึม
 “หืม?” นีน่าขดตัวอยู่ในอ้อมแขนวอร์ตันเงยหน้ามองเขา
 “ข้ากำลังจะขอเข้าเฝ้าฝ่าบาทและทูลขอพระองค์เป็นการส่วนตัวให้พระองค์ยกเจ้าให้แต่งงานกับข้า”  วอร์ตันพูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงจริงจัง
นีน่าตกใจจากนั้นมีแววปลาบปลื้มดีใจปรากฏอยู่บนใบหน้านาง
 “จริงหรือ?”  นีน่าตื่นเต้นมาก
 “ถูกแล้ว” วอร์ตันพยักหน้า  “นีน่า, ก่อนที่ข้าจะทำเช่นนั้น, เจ้าสามารถทูลบอกพระชนกของเจ้าเพื่อดูทีท่าก่อน”
นีน่าสายศีรษะอย่างจนใจ  “ข้าคิดว่าข้าบอกเจ้าไปแล้ว  พระชนกของข้าพระองค์ก็ยังต้องทรงทำใจ พระองค์บอกอยู่คำเดียว “อย่าเพิ่งเร่ง” “อย่าเพิ่งเร่ง”...  แต่พระชนกข้าประทับใจเจ้าอย่างมากและเห็นคุณค่าของเจ้าเช่นกัน  ถ้าเจ้าทูลขอพระราชทานกับพระองค์ ข้าคิดว่าเจ้าจะมีโอกาสสูง”  นีน่าพูดอย่างเปี่ยมไปด้วยความหวัง
มีแต่เพียงพี่สาวนางคนหนึ่งเท่านั้นที่ได้แต่งงานกับคนที่นางรัก เพราะบรรดาพี่สาวน้องสาวของนีน่า การแต่งงานของพวกนางเป็นการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ทางการเมืองทำให้ไม่มีความสุขมากนัก
วอร์ตันพยักหน้าเล็กน้อย
 “อย่ากังวลไปเลยนีน่า ข้าจะไม่ยอมให้ใครพรากเจ้าไปจากข้า”  วอร์ตันกระชับอ้อมแขนกอดนีน่าไว้ในแผงอ้อมอกที่ใหญ่ของเขา
ณ มณฑลพายัพ หมู่บ้านยอดเมฆห่างไกลจากเมืองเอกมณฑล ที่ด้านตะวันตกของหมู่บ้านยอดเมฆมีป่าอยู่ผืนหนึ่ง  ลินลี่ย์ในร่างมังกรแปลงกำลังซ้อมมืออยู่กับบีบี
 “บีบี อย่าบังคับข้าเลย”  ลินลี่ย์พูดอย่างจนใจขณะควงดาบหนักอดาแมนเทียม  “ถ้าเจ้ายังโจมตีข้าอย่างนี้ต่อไป อย่างนั้นข้าอาจเผลอใช้สัจจะลึกซึ้งแห่งธาตุดินก็ได้นะ”
 “หึหึ พี่ใหญ่, ข้ารู้ว่าท่านห่วงใยข้าเกินกว่าจะลงมือเช่นนั้นกับข้า”  บีบีโฉบไปมาอยู่ในกลางอากาศและพูดด้วยภาษามนุษย์
เมื่ออสูรเวทเข้าถึงระดับเซียนแล้ว พวกมันสามารถเปลี่ยนขนาดได้อย่างอิสระและสามารถพูดภาษามนุษย์ได้  แต่เฉพาะอสูรเวทระดับเทพเท่านั้นจึงจะสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้
ในทั่วทวีปยูลานมีแต่ราชันย์แห่งป่าทมิฬและราชันย์แห่งเทือกเขาอสูรวิเศษเท่านั้น  สองอสูรยอดฝีมือชั้นเทพทั้งสองนี้สามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้
สำหรับบีบี ใครจะรู้กันว่าต้องใช้เวลานานเท่าใดก่อนที่เขาจะเข้าถึงระดับนั้น?
 “เจ้าเด็กร้ายกาจ”  ลินลี่ย์ถอนหายใจ  “ข้าบรรลุถึงระดับเซียนแล้ว อุตส่าห์ยกระดับเรื่องความเร็วและพลังป้องกันจนทันเจ้า  แต่เจ้ากลับยกระดับเป็นชั้นเซียนด้วยเช่นกัน  ความเร็วในการยกระดับของเจ้าช่างเหลือเชื่อจริงๆ”
แต่ความเร็วในการเคลื่อนที่และความเร็วในการโจมตียังคงเป็นขั้นตอนที่แตกต่างกันสองอย่าง
ความเร็วของการตวัดดาบไวกว่าความเร็วในการเคลื่อนไหวมาก  ดาบหนักอดาแมนเทียมของเขายังสามารถป้องกันการโจมตีของบีบีได้ทัน  ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับบีบี ลินลี่ย์ทำได้แค่ยืนอยู่กับที่และใช้ดาบหนักป้องกันตนเอง
 “หึหึ” บีบีหัวเราะอย่างย่ามใจ
ความจริง สัจจะลึกซึ้งแห่งธาตุดินของลินลี่ย์ยังคงเป็นท่าที่คุกคามบีบีได้อย่างแท้จริง  อย่างไรก็ตามสัจจะลึกซึ้งแห่งธาตุดินทั้งหมดที่ไม่สนใจการป้องกันภายนอก ก็ทำให้พลังป้องกันของบีบีไร้ประโยชน์ได้
แต่ลินลี่ย์จะใช้พลังโจมตีที่โหดอำมหิตต่อบีบีได้ยังไง?
ดังนั้นบีบีจึงสนุกกับการซ้อมมือกับลินลี่ย์อย่างต่อเนื่อง
 “พอเถอะ ร่างข้ามีรอยกรงเล็บเจ้าสองรอยแล้ว  เจ้าพอใจหรือยัง?”  ลินลี่ย์หัวเราะขณะลูบศีรษะบีบี “กลับกันเถอะ, ได้เวลากินแล้ว”
ขณะที่พูด ลินลี่ย์กลับคืนสู่ร่างมนุษย์  จากนั้นแต่งตัวด้วยชุดใหม่
 “พี่ใหญ่ยอดเยี่ยมที่สุดอยู่แล้ว”  บีบีบินมาเกาะไหล่ลินลี่ย์และหัวเราะคิกคัก
ในกลุ่มของลินลี่ย์ปัจจุบันนี้  ถ้าลินลี่ย์หลีกเลี่ยงการใช้สัจจะลึกซึ้งแห่งธาตุดิน ที่นี่ไม่มีใครต่อกรกับบีบีได้เลย  บีบีเป็นอสูรเวทระดับเซียนที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงเหนือใครๆ
 “บีบี, เจ้าเป็นอสูรเวทแบบไหนกันแน่?”  ลินลี่ย์เดินพลางสนทนากับบีบี
 “ข้าก็ไม่รู้จริงๆ เหมือนกัน”  บีบีส่ายหัวรัว
ทันใดนั้นลินลี่ย์จำอะไรบางอย่างได้ จากนั้นเขาหันมามองบีบีอย่างประหลาดใจ  “บีบี, เจ้าจำได้ไหมย้อนไปเมื่อเราทำสัญญาเสมอภาคกัน  ข้าถามว่าเจ้าชื่ออะไร? ตอนนั้นเจ้าบอกว่า เบย เบย เจ้าไม่ต้องการพูดอะไรอื่นที่เจ้าต้องการพูดให้ชัดๆ ใช่ไหม?”
ลินลี่ย์จำฉากภาพนั้นได้ชัดเจน
 “หนูเงาน้อย  เจ้าชื่ออะไร?”  ลินลี่ย์ถามมันในใจ
หนูเงาน้อยพูดอะไรบางอย่างด้วยความตื่นเต้น  “เบย..เบย..”
ลินลี่ย์จ้องมองดูหนูเงาน้อย
 “หนูเงาน้อยพูดอะไรกันแน่?”  ลินลี่ย์ไม่เข้าใจจริงๆ
เดลิน โคเวิร์ทที่ลอยอยู่ข้างตัวเขาลูบเครายาวและพูดบอกเขาทางใจ  “ลินลี่ย์, หนูเงาน้อยตัวนี้ยังเป็นทารก  เขายังไม่สามารถเปล่งเสียงให้เป็นคำได้ แม้ว่าจะพยายามสื่อสารทางใจกับเจ้าก็ตาม ตอนนี้ก็แค่สื่อสารด้วยคำง่ายๆ”
เนื่องจากการเชื่อมต่อทางใจกับลินลี่ย์ เขาจึงรู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นของหนูเงาน้อย  แต่หนูเงาน้อยยังไม่สามารถพูดได้เลย
 “ก็ได้ เมื่อเจ้าบอกว่า เบย.. เบย งั้นข้าจะเรียกเจ้าว่าบีบี เป็นยังไงบ้าง?”  ลินลี่ย์ยิ้มขณะมองดูหนูเงาน้อย
หนูเงาน้อยดูเหมือนจะไตร่ตรองอยู่ชั่วครู่จากนั้นมันพยักหน้าอย่างมีความสุข
และตั้งแต่นั้น ลินลี่ย์จึงตั้งชื่อเขาว่า บีบี
 “ข้าพูดแบบนั้นหรือ?”
บีบีสะดุ้ง
 “โอว, ใช่แล้ว” บีบีจำได้  “ข้าจำได้แล้วตอนนี้  เมื่อยังตัวเล็กมากๆ ยังเด็กมาก  ข้ายังไม่สามารถลืมตาได้เลย  ข้าได้ยินเสียงที่ใกล้ชิดมาก อบอุ่นมากพูดกับข้า”
ลินลี่ย์มองบีบีทันที เขาไม่เคยได้ยินบีบีพูดเรื่องนี้มาก่อน
เป็นเรื่องธรรมดาที่อสูรเวทจะยังไม่สามารถลืมตาได้ทันที่พวกมันเกิด  ในเวลานั้น เป็นไปได้ว่าบีบีเพิ่งจะเกิดมาไม่นาน นั่นคือความทรงจำที่ห่างไกลมาก  ถ้าลินลี่ย์ไม่ขุดขึ้นมา บีบีก็คงนึกไม่ออกเช่นกัน
 “เสียงนั้นบอกว่าข้าเป็นของตระกูลหนึ่ง  เสียงนั้นสั่งให้ข้าซ่อนตัวอยู่ในลานหลังคฤหาสน์ตระกูลของท่านและไม่ให้วิ่งเพ่นพ่าน  และจากนั้นเสียงนั้นก็หายไป”  บีบีงงงวยอยู่มาก
 “ตระกูลเบ..อะไรเหรอ?”  ลินลี่ย์ถามด้วยความสงสัย
 “ข้ายังนึกได้ไม่ชัด ดูเหมือนจะเป็นเบย์...เบย์...โอว!”  ตาน้อยๆ ของบีบีเป็นประกาย “เบรุต, ใช่แล้ว ดูเหมือนจะเป็นเบรุต เสียงนั้นที่บอกข้าว่าข้าเป็นสมาชิกของตระกูลเบรุตที่ทรงอำนาจ  เสียงนั้นบอกข้าไม่ให้วิ่งเพ่นพ่าน  เพราะข้างนอกมีอันตราย  นั่นคือสาเหตุให้ข้าอยู่ในลานหลังคฤหาสน์ของท่านมาตลอดเวลา พี่ใหญ่, เนื่องจากข้าเติบโตที่นั่นอย่างช้าๆ”
ลินลี่ย์เข้าใจในตอนนี้
 “ตระกูลเบรุต?”  ลินลี่ย์งงงวย  “อสูรเวทก็มีตระกูลด้วยหรือ?”
บีบีส่ายหัวอย่างสับสนเช่นกัน  “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้าไม่เคยพบพ่อแม่ หลังจากที่ข้าเกิด ข้าแค่อยู่ที่หลังคฤหาสน์ของท่าน และทั้งหมดที่ทำก็คือกินเศษซากปรักหักพัง”
ลินลี่ย์จดจำชื่อนี้ไว้ในความทรงจำ – ตระกูลเบรุต!
ลินลี่ย์มั่นใจอย่างแน่นอนว่าเขาไม่เคยได้ยินชื่อตระกูลที่ทรงอำนาจใดๆ ในทวีปยูลานว่ามีชื่อ เบรุต  แต่ตระกูลนี้เป็นไปได้ว่าอาจเป็นตระกูลของอสูรเวท
ตระกูลของอสูรเวท?
ลินลี่ย์ไม่รู้เรื่องนี้เพราะเขาไม่ใช่อสูรเวท
แต่บีบีไม่รู้เรื่องอย่างอื่น  เพราะเขาไม่มีพ่อแม่
ผ่านไปสิบกว่าวันลินลี่ย์ยังอยู่ในหมู่บ้านยอดเมฆ   ตามข้อตกลงที่ทำไว้กับแม็คเคนซี พวกเขาทุกคนต้องเดินทางไปเยือนตระกูลชาร์คภายในสามสิบวัน
 “พี่ลินลี่ย์ มีจดหมายถึงท่าน”  เจนน์วิ่งมาจากข้างนอกอย่างตื่นเต้น
 “โอว, น่าจะมาจากหอการค้าดอว์สัน”
หอการค้าดอว์สันส่งจดหมายมาให้ทุกเดือน  ลินลี่ย์เดินออกมาทันที  มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งจูงม้าอยู่ข้างนอก  เมื่อเห็นลินลี่ย์ เด็กหนุ่มคำนับและพูดอย่างสุภาพ  “ท่านลีย์, เชิญรับจดหมายท่าน”
ลินลี่ย์รับจดหมายพลางหัวเราะ  “เดือนหน้า เจ้าไม่จำเป็นต้องมาที่นี่อีกแล้ว”
เด็กหนุ่มมองลินลี่ย์ด้วยความสงสัย
 “ในช่วงเดือนหน้า ข้าจะไม่อยู่ที่นี่อีกแล้ว”  ลินลี่ย์ตัดสินใจนานแล้วว่าอีกไม่กี่วันเขาจะเดินทางไปตระกูลชาร์ค
บาดแผลของเขาหายนานแล้ว และหลังจากแปลงร่างมังกร เขาจะเป็นนักสู้ระดับเซียน นั่นได้เวลาที่เขาจะไปเยี่ยมน้องของเขาเสียที
เป็นเวลานานแล้ว นานแล้วที่เขาไม่ได้พบกับวอร์ตันเลย  ในใจของเขา ลินลี่ย์น้องชายที่เป็นญาติซึ่งเหลืออยู่คนเดียวของเขา
 “ขอรับ, ท่านลีย์”  เด็กหนุ่มพูดด้วยความเคารพ จากนั้นก็ขี่ม้าจากไป
ส่วนลินลี่ย์เขาเปิดจดหมายออกอ่านดู  จดหมายมีข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับกิจการปัจจุบันของศาสนจักรเจิดจรัสและทวีปยูลานทั้งหมด  มีข้อมูลบางส่วนที่เกี่ยวกับเรย์โนลด์ จอร์จและเยล  ในตอนท้ายพูดถึงวอร์ตัน
 “จอร์จช่างน่ากลัวจริงๆ”  ลินลี่ย์ถอนหายใจชมเชย
ด้วยการสนับสนุนจากตระกูลวอลช์ จอร์จยังคงอยู่ในเส้นทางก้าวหน้าภายในจักรวรรดิยูลาน  เขาเองมีพรสวรรค์มากอยู่แล้ว  แต่ที่สำคัญมากกว่า...
องค์ชายสามแห่งจักรวรรดิยูลานประสบความสำเร็จรับสืบทอดราชสมบัติกลายเป็นจักรพรรดิของจักรวรรดิยูลาน
ก่อนที่องค์ชายสามจะเสวยราชสมบัติเป็นจักรพรรดิ  จอร์จก็สนิทกับพระองค์มากอยู่แล้ว  ทั้งสองคนมีแนวคิดทางการเมืองอย่างเดียวกัน  ตอนนี้องค์ชายสามสืบราชสมบัติต่อจากพระชนกกลายเป็นจักรพรรดิพระองค์ใหม่  จอร์จกลายเป็นมุขมนตรีที่อายุน้อยที่สุดในจักรวรรดิยูลาน
ทั่วทั้งทวีปยูลานมีมุขมนตรีอยู่สิบสองคน แต่ละคนมีพลังและอำนาจที่ไม่ธรรมดา นอกจากนี้จอร์จยังเป็นรองมหาเสนาบดีฝ่ายขวาของจักรวรรดิยูลาน
 “เมื่อเทียบกันแล้ว เรย์โนลด์ยังทำไม่ได้ดีเท่าจอร์จ”  ลินลี่ย์หัวเราะเบาๆ  จากนั้นเขาอ่านเรื่องของวอร์ตันอย่างตั้งใจ  ลินลี่ย์คิดโดยทั่วไปว่าวอร์ตันกำลังทำอะไรอยู่
แต่พอได้อ่านจดหมาย...
 “อะไรนะ?”  ลินลี่ย์ตกใจ   “วอร์ตันทูลขออภิเษกสมรสกับองค์หญิงเจ็ดต่อจักรพรรดิ?”
หอการค้าดอว์สันส่งข่าวนี้มาที่เมืองเบซิลไม่นานนี้  ที่สำคัญเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อสองสามวันที่แล้ว
 “จักรพรรดิไม่ทรงเห็นด้วย?”
ลินลี่ย์ขมวดคิ้วและอ่านต่อไป  “โชคดี  แม้ว่าพระองค์ไม่เห็นด้วย  แต่ก็ไม่ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย”
ตามจดหมายนั้น จักรพรรดิยังคงทอดเวลาออกไป
ลามอนต์ก็ทูลขอเรื่องเดียวกันนี้นานแล้ว  และตอนนั้นจักรพรรดิไม่ทรงเห็นด้วย  ตอนนี้วอร์ตันก็ทูลขอไปแล้ว  จักรพรรดิก็ยังทรงไม่เห็นด้วย  สิ่งที่พระองค์พูดก็คือ  “นีน่ายังอายุเยาว์ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน”
นีน่าอายุยี่สิบเอ็ดแล้ว นางไม่ถือว่าอายุน้อย
แต่นีน่าเป็นทั้งจอมเวทและเป็นนักรบ และสายธาตุสัมพันธ์ในฐานะจอมเวทของนางคือเวทน้ำซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายจอมเวท อายุขัยของนีน่าจะยืนยาวมาก เป็นเรื่องง่ายๆ หากนางจะมีอายุยืนยาวถึง 300-400 ปี  เพราะเหตุนี้เองจึงเป็นเรื่องจริงที่ว่านางไม่จำเป็นต้องรีบแต่งงาน
 “อีกคนเป็นบุตรของมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายของจักรวรรดิ  ขณะที่อีกคนหนึ่งเป็นศิษย์กิตติมศักดิ์ของวิทยาลัยเทพสงคราม”  ลินลี่ย์บอกได้ทันทีว่าใครเป็นคู่แข่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของน้องชายเขา  นั่นคือบุตรชายของมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายและเป็นจอมเวทนามว่าเคย์ลัน
 “ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะไม่เป็นใจ”  ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว ประกายเยือกเย็นฉายผ่านในดวงตา  “ไม่ว่ายังไง  ข้าจะปล่อยให้วอร์ตันเดินตามเส้นทางเดียวกับข้าไม่ได้แน่ พรุ่งนี้,  พรุ่งนี้ข้าจะไปเยี่ยมตระกูลชาร์ค  หลังจากบรรลุข้อตกลงแล้วเราจะมุ่งตรงสู่นครหลวง
ลินลี่ย์ตัดสินใจแล้ว
แต่ในช่วงเวลานั้นเอง...
 “ใต้เท้า, ใต้เท้า!” เสียงที่คุ้นเคยของเกทส์ดังขึ้น  เกทส์ดูมีชีวิตชีวามากที่สุดในพี่น้องทั้งห้า
 “ใต้เท้า!”  ไม่ใช่แค่เกทส์เท่านั้น  คนอื่นๆ ก็ตะโกนเช่นกัน
ลินลี่ย์หันหน้าไปทางลานฝึกด้วยท่าทางมึนงง  ขณะนั้นเกทส์และคนอื่นๆ ก็วิ่งเข้ามาหาเขาทันที ใบหน้าของทุกคนมีอาการดีใจ
 “พวกท่านทุกคนดูมีความสุขกันมาก  มีข่าวดีอะไรหรือ?”  ลินลี่ย์หัวเราะ
 “พี่รอง, พี่รองเป็นนักรบระดับเก้าได้แล้ว!  เกทส์พูดเป็นคนแรก
 “อังเก้พี่รองของเราจะเป็นระดับเซียนหลังจากแปลงร่างแล้ว”  เฮเซอร์น้องคนที่สามพูดด้วยความดีใจ
ลินลี่ย์ตกใจ
ในบรรดาห้าพี่น้อง บาร์เกอร์เป็นคนแรกที่เข้าถึงระดับเก้า  หลังจากเขามีพลังระดับเซียน  น้องๆ อีกสี่คนล้วนแต่เป็นนักรบระดับแปดชั้นสูงก็ยังคงฝึกหนักต่อไป  คาดไม่ถึงเลยว่ายังมีอีกคนหนึ่งที่เข้าถึงระดับเก้าในเวลาไม่นาน
 “ตัวข้า บีบี บาร์เกอร์ อังเก้  พวกเราทั้งสี่คนเข้าถึงระดับเซียนกันได้แล้ว” ลินลี่ย์ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าตระกูลหนึ่งจะมีนักสู้ระดับเซียนถึงสี่คน  ส่วนที่น่ากลัวที่สุดก็คือ... น้องๆ อีกสามคนสามารถบรรลุระดับเซียนได้ทุกเมื่อเช่นกัน
ลินลี่ย์ไม่มีความคิดอื่นใด  เขาได้แต่ยิ้มกว้าง
บางทีในวันต่อมา อาจมีบางคนวิ่งมาบอกเขาว่ามีหนึ่งในห้าพี่น้องบรรลุระดับใหม่ก็ได้  อย่างนั้นพวกเขาก็ยังจะมีระดับเซียนอีกคนในระดับของพวกเขา
ตอนนี้ลินลี่ย์รู้สึกมั่นใจมากขึ้นว่าการที่เขาตัดสินใจช่วยบาร์เกอร์และน้องๆ นับเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดอย่างแน่นอน  ตอนนี้นอกจากบาร์เกอร์และอังเก้แล้ว น้องๆ อีกสามคนอาจมองได้ว่าเตรียมจะเป็นระดับเซียน

13 ความคิดเห็น:

BeHappy กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

Pofper Dyps กล่าวว่า...

������

Frankmartinn กล่าวว่า...

เบรุต คุ้นๆแหะ เหมือนเคยได้ยิน (หรือเรื่องอื่นหว่า)

นักอ่านนิรนาม กล่าวว่า...

อยากให้ลินลี่ย์โชว์พาวที่วังแล้วว

Unknown กล่าวว่า...

ลินลี่ย์จิไปหาน้องแว้ววววว

Unknown กล่าวว่า...

เย้ๆๆ

ทิชา กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

ทิชา กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณคร๊าบบบบบ

MAXNY กล่าวว่า...

ไม่ใช้พ่อแม่บีบี บอกว่าบารุต ของพระเอกเหรอ แต่มันฟังเพี่ยนเป็น เบ-รุต ขำๆครับ ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุนคับ

สายลมโชย กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

KiattisakPleng กล่าวว่า...

บีบีนี่ฮา+โหดมากกินๆนอนๆก็เทพได้

แสดงความคิดเห็น